อนไม่หลับทำไงดีคะ สับนิยายเล่นจนกว่าจะง่วงก็แล้วกัน
พระเจ้าส่งผมไปรบ (INTO THE BATTLEFIELD)
https://writer.dek-d.com/totsos2009/writer/view.php?id=2025099
เรื่องนี้จำได้ว่าเจอในกระทู้รับสับนิยายแต่คิวมันเต็มไปแล้วกูเลยจดไว้เพราะสงสารนักเขียน อีกอย่างคือชื่อเรื่องกับพล็อตมันฟังดูเข้าท่า มาดูกันเลยว่าจะออกหัวหรือก้อย
หน้าปกไม่ค่อยดึงดูดเท่าไหร่ในสายตากู คือเข้าใจแหล่ะว่ามันเป็นหมวกทหารซึ่งเกี่ยวข้องกับชื่อเรื่องแน่ๆ แต่การใช้สีแม่งแย่ บางทีนักเขียนอาจชอบงานศิลป์สไตล์วินเทจๆ หน่อย ก็แล้วแต่รสนิยมไป คำโปรยใบ้ว่าเป็นแนวอิเซไคที่ไม่ได้ไปโผล่โลกแฟนตาซีทว่ากลับกลายเป็นสนามรบแทน ขายของกับคนชอบอ่านแนวสงครามที่ผสานความเป็นแฟนตาซีเข้าไป ปกรองเป็นข้อความแนวแจ้งธีมเรื่องก็ง่ายๆ ดี แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ไม่ค่อยดึงดูดเหมือนกับภาพปก ในส่วนแรกกูเลยให้ผ่านแค่ชื่อเรื่อง เพราะมันขายของได้ถูกจุดดี
ตอนที่ 1 : INTO THE BATTLEFIELD
เล่าด้วย POV 3 เปิดฉากมาบนสมรภูมิต่างโลกแห่งหนึ่งในปี 1872 นายอิทธ พรางกูล อิเซไคมาสวมร่างเด็กหนุ่มอายุ 16 ชื่อชาร์ลหลังทดลองขับรถยนต์ที่ซื้อมาใหม่แล้วคันเร่งค้างจนรถชนตายห่า (วันแรกก็แหกเลยมึงซื้อรถ MG รึไง) เด็กชาร์ลนี่จริงๆ ตายไปแล้วเพราะถูกยิงแต่พอพี่อิทมาเสียบก็ฟื้นเฉย บริเวณนั้นมีแต่ศพทหารที่โดนเกณฑ์มาอย่างลวกๆ คนแก่บ้าง เด็กวัยรุ่นบ้าง เป็นแค่ชาวบ้านจำนวนหยิบมือโดนทางการบังคับให้รบทั้งๆ ที่ใช้ปืนไม่เป็นจนตายเรียบ ระหว่างทางหนีตัวเอกเจอทหารอีกฝ่าย ตอนแรกฟังภาษาไม่เข้าใจ แต่พอความจำของชาร์ลแล่นเข้ามาก็ปวดหัวแล้วฟังรู้เรื่องตามสไตล์นิยายทะลุมิติแบบเปลี่ยนคนสิง มีการยิงกันขึ้นเล็กน้อยก่อนจบตอน
ตรงนี้กูขอคุยเรื่องชื่อตัวเอกก่อน เพราะคิดว่านักเขียนคงเอาชื่อพี่อิท (อิทธิ พลางกูล) มาตั้งชื่อล้อตัวละคร โดยส่วนตัวแล้วกูโคตรจะหลีกเลี่ยงเลยตามหลักการพื้นฐานว่าด้วยการตั้งชื่อ การเอาชื่อคนจริงๆ มาตั้ง แถมตายไปแล้วอีกเป็นเรื่องไม่โอเค คนอื่นอาจเห็นต่างแต่กูคือโนๆ
ตอนที่ 2 : หลบหนีออกจากสงคราม
พี่อิทหรือนายชาร์ลของเราวิ่งหนีไปจนเจอข้าศึกอีก 2 คน คราวนี้ไม่รู้จะหนียังไงเลยยอมมอบตัวบอกพาไปเป็นเชลยก็ได้ (ดีกว่าตาย) ฝั่งศัตรูได้ยินก็ขำก๊าก บอกว่าพลทหารอย่างมึงเนี่ยนะ ไม่มีค่าพอให้จับตัวไปหรอกโว้ยเพราะยศมึงไม่ใหญ่พอ ว่าจบก็ตอกดินปืนเข้าปากกระบอกปืนคาบศิลา ทำเอากูเห็นภาพการรบในทุ่งหญ้ายุคนโปเลียนที่การรบยังพึ่งปืนแบบนี้และมีดปลายปืนกันเป็นส่วนใหญ่ ตัวเอกของเราที่รู้กลไกของปินเป็นอย่างดีว่าต้องใช้เวลาพอสมควรก่อนจะพร้อมยิง ก็แย่งปืนมาแล้วฟาดพานท้ายปืนเข้ากลางเบ้าหน้าคนตอก เพื่อนที่มาด้วยกันตั้งตัวไม่ทันเลยโดนด้ามปืนไปอีกราย พี่อิทเลยรอดมาได้อย่างหวุดหวิด หนีไปซักพักก็เจอคนอีกลุ่มแต่พวกนี้ไม่ใช่ทหาร เป็นชวาบ้านตาดำๆ ที่หมู่บ้านอยู่ใกล้เลยโดนลูกหลงไปด้วย ตัวเอกพูดคุยเก็บข้อมูลทั่วไปมาได้เพียบ ฝากการเทข้อมูลอย่างแนบเนียนผ่านบทสนทนาที่ไม่ได้ยัดเยียดมากนัก ก่อนจะจบตอนด้วยการที่พวกชาวบ้านเห็นว่าชาร์ลอยู่ในเครื่องแบบ เลยขอให้ชาร์ลรับตำแหน่งผู้นำทางการทหารในเขตนั้น
ตอนที่ 3 : สุนทรพจน์ขับไล่
นายอิทตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่หวังว่าจะได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกแล้วลุกไปทำงานตามปกติ แต่เรื่องเมื่อวานแม่งไม่ใช่ความฝันเพราะคนที่มาปลุกคือลุงอาเธอร์ผู้ใหญ่บ้านที่ตัวเอกหนีมาหลบอยู่ ไอ้หนุ่มไม่รู้จะทำยังไงเลยคิดว่าวันนี้จะเรียกรวมตัวคนในหมู่บ้านเพื่อมาพูดคุยแล้วหาทางล้มเลิกแผนรวบรวมคนเพื่อตั้งกองกำลังป้องกันตนเอง แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆ แทนที่ชาวบ้านจะเริ่มหอบข้าวของหนีภัยสงคราม คำพูดของไอ้อิทดันไปปลุกใจประชาชนจนคึกขึ้นมาแทน สุดท้ายเลยต้องเรียกพวกหน่วยสอดแนมมาคุย ถามไปถามมาคนในหมู่บ้านมีแค่ 400 แต่พวกที่ยกมามี 5,000 ประสบการณ์ด้านการรบก็ต่างกันมาก เลยต้องหาทางใช้แผนซุ่มโจมตีบริเวณซอกเขาแคบๆ