นิทานเด็กดีบทที่ 40 (DDN XL) รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้นกับวงการนิยายเด็กดีสมัยนี้ ชาวเด็กดีคือคนเขียน ไม่ใช่คนอ่าน โม่งต่างหากคือคนอ่าน แต่มีคนเขียนมั้ย อีกเรื่องนึง
นิทานเด็กดีบทที่ 40 (DDN XL) รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้นกับวงการนิยายเด็กดีสมัยนี้ ชาวเด็กดีคือคนเขียน ไม่ใช่คนอ่าน โม่งต่างหากคือคนอ่าน แต่มีคนเขียนมั้ย อีกเรื่องนึง
กระทู้ใหม่ตั้งยัง?
เห็นเงียบมาชวนคุยซะหน่อย คือพูดถึงยุคนี้ไอ้ที่มีคำบอกว่านิยายติด TOP ตกต่ำลง ผมก็เป็นคนนึงที่ออกมาแก้ต่างให้บ้าง บอกว่าไม่ใช่บ้าง ก็จริงที่มันมีส่วนน้อยที่พยายามจะเปลี่ยนแปลง พยายามเขียนที่เป็นนักเขียนจริงๆ เขียนตามแนวทางของตัวเอง ทว่าสุดท้ายแล้วมันก็มาถึง
เมื่อสามห้าหกปีก่อนโน่นผมเริ่มอ่านนิยายจีน หมายถึงจีนกำลังภายในยุคใหม่น่ะ ไม่ใช่พวกมังกรหยกอะไรนั่นนะ พวกนั้นอ่านตั้งแต่ชาติปางก่อนแล้ว
อ่านไปอ่านมาเราจะพบว่านิยายจีนยุคใหม่จะมีพลอตมาตราฐาน แบบเหมือนเป็นโครงเรื่องสำเร็จที่คนหยิบมาใช้จนเกลื่อน
ยกตัวอย่างก็แบบแนวเทพเซียนกลับมาเกิดใหม่ เริ่มเรื่องด้วยการที่ชาติที่แล้วเป็นมหาเทพเซียนขั้นสุด เก่งสุดในสามโลก ตายด้วยเหตุผลบางอย่าง หรือพยายามไปถึงจุดสูงสุดแล้วพลาด สุดท้ายตาย ย้อนกลับไปในร่างของตัวเองตอนยังเป็นไอ้ขี้แพ้ขยะถูกรังแกสมัยเรียน จากนั้นก็ใช้ความรู้วิชาที่ได้มาแสดงความเทพ จุดเริ่มเรื่องมาตราฐาน ถ้าแค่พลอตหลวมๆมันเหมือนกันยังพอทำเนา มันแปลกก็ตรงการดำเนินเรื่องยังเหมือนกัน มังงะที่ผมอ่านผ่านตาจีนมาจนเอียนเนี่ย การดำเนินเรื่องเหมือนกันเลยแบบเป็นสิบเรื่องนะ
แบบเริ่มต้นในร่างตัวเองตอนเป็นเด็กนักเขียนโดนบลูลี่ เริ่มมาด้วยการฝึกวรยุทธ สำเร็จยุทธขั้นแรกในเมืองเล็กๆในเวลาอันสั้น ออกไปแสดงความกร่างโชวความเทพกับแฟนเก่าหรือพวกจิกโก๋ แสดงความเทพในเมือเล็กๆสักพักบังเอิญไปเจอตาแก่ในสวนสาธารณะหรือโรงพยาบาล แสดงความเทพในการบอกโรคลับๆที่ตาแก่เป็น ตาแก่ตาโตรู้ว่าพระเอกไม่ธรรมดา ตาแก่มีหลานสาวโง่ๆคนนึงที่พามาและจ้องจับผิดตัวเอก หลานสาวไม่เชื่อพระเอก จ้องจับผิด ท้าพระเอกแบบโง่ๆ พระเอกพิสูจน์แสดงความเทพรักษาตาแก่ สรุปคือตาแก่กลายเป็นมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลในเมือง ตัวเอกได้คนหนุน เริ่มเรื่องมาแบบนี้และก็วนลูปเพิ่มสเกลพลังย้ายเมืองไปเรื่อยๆ
นิยายจีนพลอตมาตราฐานวนลูบแบบนี้ถูกนำไปดัดแปลงใช้กับทุกแนว แนวระบบ แนวกำลังภายใน แนวเทพเซียน นี่เป็นแค่แพทเทิลนึงที่ก็อบกันมาของแนวแฟนตาซีนะ แนวปลูกผักคงคล้ายเหมือนกันแค่ผมไม่เคยไปอ่าน
ซึ่งตอนแรกเมื่อ 6 -7 ปีก่อนมันเป็นแค่นิยายจีน ผมยังกลัวเลยว่าเฮ้ยก็อบพลอตกันหน้าด้านๆงี้เลยหรอวะ ไม่เป็นอะไรหรอ?? สุดท้ายมาช่วงปีนี้มันลามมาที่ไทยแล้ว นักเขียนเริ่มมักง่ายขึ้นเยอะ หลายคนแยกไม่ออกแล้วว่าแรงบันดาลใจกับการก็อบมันคืออะไร บางคนก็อบโครงเรื่อง ก็อบการดำเนินเรื่อง ก็อบเหตุการณ์มาทั้งดุ้นไม่ได้คิดเองเลย แค่เอามาเขียนเปลี่ยนชื่อเป้นคนไทย สลับเหตุการณ์ วนลูบตบเกรียนไปซ้ำๆ 300 400 500 ตอน
ช่วงแรกผมก็สงสัยว่าเฮ้ย อะไรแบบนี้ที่ดูถูกนักอ่านมันขายได้หรอวะ พอมาดูสภาพตลาดปัจจุบันที่นักเขียนมักง่ายขึ้นทุกวัน ก็อบพลอตกันเป็นว่าเล่น เรื่องแดงขึ้นมาแล้วนักอ่านก็ยังอวย ถ้าไม่ก็อบทุกตัวอักษรไม่ถือว่าผิด คือมันน่าอึดอัดใจมากๆเลยว่ะ ลองไปไล่ดูนิยายติด top แต่ละเรื่องแล้ว ถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญอ่านนิยายจีนมาอย่างกว้างขวางจะเห็นเลยว่าพลอตและการดำเนินเรื่อง มันแทบจะเลียนแบบลอกกันมาเลย
คือบางที่คำว่าแรงบันดาลใจ กับก็อบปี้มันก็แบบแยกยากเนาะ ต้องขนาดไหนคือก็อบ?
ขออภัยเพราะบางทีผมเป็นนักเขียนที่พยายามจะเขียนงานโดยไม่ลอกพล็อตคนอื่น หรือเอาแรงบันดาลใจมาแบบน่าเกลียดมันท้อนิดก็เลยมาชวนคุย วงการนิยายไทยมันตกต่ำลงจริงๆ แบบหันไปดูแนวแฟนตาซีแล้วระบบ ระบบ ระบบ เต็มไปหมดเลย ผมก็เขียนแนวระบบนะ เรื่องที่เป็นแนวระบบแม่งติดตลาดง่ายมากแค่ใช้ชื่อเรื่องว่าระบบ พอมาแต่งแนวอื่นแนวดาร์คแฟนตาซีเนี่ย ติดตลาดยากกว่ามากเลย ความต่างมันเยอะแบบเยอะจริงๆกับกระแส
บางทีนิยายที่ขึ้นนิยายแนะนำของ DEK D น่ะ ถ้าอ่านดูดีๆจะเห็นเลยว่าไปก็อบพล็อตมาแค่มันจับแบบคาหนังคาเขายาก
ไม่พอใจที่เขาจัดให้การก็อปพล็อตเป็นสิ่งที่ไม่ผิดใช่ไหม? หยิบพล็อตสนุก ๆ จากเรื่องต่าง ๆ เอามายำใส่เรื่องสะดวกไปไหม?
อยากให้ลองหลับตานึกถึงโลกที่ก๊อปพล็อตมีความผิดเหมือนหยิบเอามิกกี้เมาส์มาเป็นตัวละครของตัวเอง
นักเขียนใหม่จะไม่มีเวทีให้เล่นเลย เรื่องไหนดังก็เตรียมโดนฟ้องแบ่งรายได้เพราะพล็อตนั้นเคยถูกใช้มาก่อน นักเขียนใหม่เกิดยาก ความคิดสร้างสรรค์ถูกจำกัด ข้อหลังนี่ล่ะทำให้การก็อปพล็อตไม่ได้ถูกปกป้อง
ความคิดสร้างสรรค์ = ไม่ใช่
การตลาด = ไม่ใช่
ลอกการบ้าน = ใช่
>>977 การก็อบพล็อตมันควรจะมีขอบเขตครับ ไม่ใช่ลอกมาเหมือนเป๊ะเหมือนกระทั่งการดำเนินเรื่อง อย่างนั้นถ้าก็อบเกือบทุกอย่างได้กระทั่งเหตุการณ์การดำเนินเรื่อง แบบนั้นต้องขนาดไหนถึงจะเข้าข่ายการก็อบที่ผิด??
แบบลอกทุกตัวอักษรแบบนั้นเลย?
พลอตมันคล้ายและเหมือนกันได้ แต่ผมคิดว่ามันไม่ควรจะคล้ายจนแบบเหมือนได้เกือบทุกอย่างกระทั่งเหตุการ การดำเนินเรื่อง เปิดเรื่อง อะไรทำนองนั้น มันเกินไป และมันทำให้วงการนิยายต่ำลง เกิดความักง่าย อย่างนี้นักเขียนไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อะไรเลยสิ ก็อบลูกเดียวเลย ไม่ต้องคิดเลย ถ้าเป็นแบบนั้นมันน่าเศร้านะ ที่ต้องทนเห็นอาชีพนักเขียนต่ำลงเรื่อยๆ โดยที่ทำอะไรไม่ได้เนี่ย
>>977 ผมมาขยายความอีกนิด เท่าที่ผมอ่านมังงะเกาหลีมา มันแทบไม่มีเรื่องไหนเลยที่ก็อบพล็อตแบบเป็นแพทเทิลเดียวกันอย่างน่าเกลียด แบบเหมือนกระทั่งการดำเนินเรื่อง
ทว่ากับจีน มังงะจีน นิยายจีน เราจะเห็นการก็อบพล็อคแบบหน้าด้าน แบบลอกกันมาเลยนั้นเยอะ แบบต้องเอ๊ะเลย
แล้วปัญหาคือที่ไทยกำลังได้รับอิทธิพลจากจีนและเดินตามแนวทางจีน ผมออกจะแบบ... คุณภาพมังงะจีนช่วงหลังๆเนี่ยผมไม่อ่านเลย แพทเทิลเดียวกัน กลับกันมังงะเกาหลีมันกับสนุกเกือบทุกเรื่อง แม้กระทั่งแนวมังงะกำลังภายในก็ทำได้เหนือกว่าจีน เหมือนงานคนละคุณภาพ
พูดไปก็คงพูดลำบาก แต่มันก็น่าเศร้าที่วงการนิยายแฟนตาซีเราเดินตามแบบจีนซะงั้น
>>979 ถามจิ้ง ยกตัวอย่างก๊อปมาเหมือนกันตั้งแต่ต้นจนจบ คนฉลาดที่ไหนเขาทำกัน มันสุ่มเสี่ยงโดยฟ้องแบ่งรายได้ สมัยนี้เขาก๊อปแบบเอามายำกันเอามาต่อยอด ไอเดียนี้ดีก็หยิบมา จับมายำ ๆ เวลาคิดอะไรไม่ออก นี่ไงขอบเขตที่อยากได้ใช่ไหม
กูว่าเมิงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แล้วก้มหน้าก้มตาเขียนไปเถอะ ถ้ามันก๊อปเรื่องเมิงจริงก็รวบรวมหลักฐานเอาไปฟ้องแบ่งรายได้ แต่ใครมันจะโง่เขียนให้มึงฟ้องได้
เห็นพวกมึงคุยกันแล้วกูก็อยากคุยด้วยนะ แต่ประเด็นนี้คุยกันไปเยอะแล้วตั้งแต่สมัยยังเล่นมู้นินทาอยู่ กูเลยไม่อยากพิมพ์อีกเป็นรอบที่ล้านแต่ก็ช่างแม่ง จริงอยู่ว่าเรื่องพล็อตคล้ายหรือโดนยืมมาแต่งมันมีเยอะจนน่าเบื่อ แล้วยังไงต่อ ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเพราะมันยังคงมีคนที่ชอบและอ่านเรื่องพวกนี้อยู่เรื่อยๆ ไง มันคือความฮิตเมื่อแนวนั้นกำลังมาแรงหรืออยู่ในกระแส ไม่ต่างอะไรกับยุค รรวม. หรือ อล. เลย
ความแตกต่างของตอนนี้กับยุคก่อนคือความสามารถในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของทุกคน ทีนี้พวกอยากอ่านมีเยอะ อยากเขียนก็มีเยอะเหมือนกัน พอเจออะไรที่มีอยู่เยอะๆ ในเน็ตก็คิดกันไปเองว่านี่แหล่ะดี ทำตามนี้เลยดีกว่า ต่างจากสมัยก่อนที่ต่อให้เป็นออนไลน์หรือโรงเรียนเวทมนตร์ก็จะมีการเดินเรื่องที่หลากหลายกว่า บางเรื่องเริ่มที่มหาสงคราม บางเรื่องเริ่มที่ตัวเอกโนเนมไปเจอของเทพ บางเรื่องตกกระไดพลอยโจนไปยุ่งกับเรื่องที่ไม่ควรยุ่งจนกลายเป็นจุดสนใจ
สรุปได้ว่าสิ่งที่เป็นตัวแปรคือความมักง่าย เพราะนักเขียนรุ่นกูมันจะมีอีโก้บางอย่างที่อยากสร้างผลงานที่จะไม่ถูกครหาว่าไปลอกพล็อตคนอื่นมา ทีนี้พอตัวเองแต่งแนวไหนก็จะไปหาอ่านแนวนั้นเยอะๆ ที่ว่าเยอะนี่คือเยอะจริงๆ อ่านจนรู้ว่าใครแต่งแบบไหนชอบเดินเรื่องยังไงตัวละครที่ใช้มีอะไรบ้าง อ่านกันหลักร้อยเรื่อย มันจะได้ไอเดียมาต่อยอดจากฉากเจ๋งๆ ของคนอื่น ในเวลาเดียวกันก็ต้องตอบให้ได้ว่ายืมมาใช้ยังไงจะไม่ให้ถูกจับได้หรือเหมือนจนน่าเกลียด
แต่ยุคนี้มันหาอ่านผิวเผิน เน้นไปที่ Top หมวด อ่านอันที่อยู่ในกระแสหรือเรื่องที่ถูกนำเสนอขึ้นหน้าเพจเฟซบุ๊กว่าแต่งแบบนี้สิแล้วจะมีคนอ่านเยอะ ขายดีได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ไม่ได้อ่านหาไอเดียแต่อ่านเพื่อหาของมาลอก ดัดนิดเปลี่ยนหน่อยเอาแค่ไม่ให้เหมือนเป๊ะ คุณภาพไม่ต้องเน้นอัพได้บ่อย มีตอนลงรายวัน คิดไม่ออกแต่งไม่ทันทำไงดี ก็ต้อง ลอก! ลอก! ลอก! สิ พล็อตคล้ายแล้วไงใครๆ ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ถ้าจะจับกูก็ต้องไปไล่จับแม่งทั้งวงการนะ ด้วยชุดความคิดแบบนี้แหล่ะเลยทำให้นิยายเว็บปัจจุบันมันออกมาอย่างที่เห็น บางคนทำมานานแล้วพอมีฝีมืออยู่บ้างก็ได้ดีไป แต่พวกมือใหม่มีแต่จะทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง
แต่กูคงต้องเห็นด้วยกับข้างบนว่า เออก็มันมีคนอ่านอะก็เลยมีคนแต่งแนวนี้ออกมาเรื่อยๆ เหมือนนิยายจีนแปลที่มาโผล่โฆษณา เปิดเรื่องว่าตัวเอกโดนดูถูกสารพัดทว่าพี่แกเป็นขั้นเทพปลอมตัวมา หรือจริงๆ แล้วผมเป็นประธานบริษัท ไม่ก็ได้รับมรดกชนิดใช้ไป 100 ชาติก็ยังไม่หมด ตอนที่ 2 ก็หลุดพ้นจากการถูกกดขี่แล้วไล่ทำตัวเทพซ่าส์ เอาเงินฟาดหัว ต่อด้วยไปรักษาคนแก่จนได้แบ็คมาหนุนหลังเพิ่มอำนาจใดๆ กี่สิบเรื่องก็มาทำนองนี้หมดเลย เพราะอะไร? ก็เพราะมันยังมีคนยอมจ่ายเงินตอนละบาทเพื่ออ่านอยู่ดี ถึงจะซ้ำซากก็ยังอ่าน
อะไรวะอยู่ดีๆ มู้ก็ Active คุยกันเยอะซะงั้น คุยกันต่ออีกหน่อยก็ดีนะ กูจะได้ตั้งมู้ใหม่ ช่วยกันถมหน่อยอีก 17 rep
>>975 ไอ้แนวนี้มันขายได้ เข้าใจง่าย เร้าใจ สนุกเร็ว คนที่ไม่เคยอ่านถ้าได้มาอ่านก็จะติด พออ่านถึงตอนล่าสุดหาแนวเดียวกัน เริ่มเห็นมันซ้ำไปมาก็เริ่มเบื่อ อีกอย่างนึงมันมาจากนิยายเว็บเหมือนกันด้วย สักวันจะมีคนเรียนพวกนิเทศเอาไปทำวิทยานิพนธ์หรือบทความไหมว่ะเนี่ย ดูมันน่าสนใจอยู๋
>>960 ไม่ได้อ่านของไทยนะ แต่ถ้าไปอีกโลก ย้อนอดีต ฯลฯ แนวนี้ของพวกจีนแท้ก็มีอย่างที่ดังๆก็ i really am a superstar. แต่อันนั้นใช้ไปโลกคู่ขนาน หรืออย่างim in hollywood อย่าว่าแต่จีนเลยฝรั่งก็มี ญี่ปุ่นก็มี เอาจริงกูอ่ะอยากเห็นคนไทยเขียนมากกว่าขอแนวการเมืองนะ เอาแบบย้อนเวลากลับไป2475 หรือ 2489 (แต่คนเขียนอาจจะได้พิซซ่าเดลิเวอรี่) ใช้วรรณกรรมไทยอย่างเรื่องขุนแผนในเว็บตูนนี่ก็ดีอยู๋ อยากได้แบบนี้อีกเหมือนกัน อาจซ้ำแต่มันก็ยังน่าสนใจ
พูดเรื่องนี้มาทุกกระทู้ ไม่เบื่อกันบ้างหรือครับ
ทุกวันนี้บอร์ดเด็กดีก็ไม่น่าสนใจอยู่แล้ว ยกเว้นดราม่า
ขนาดดราม่ามันส์ๆ แบบสมัยก่อนยังไม่มีเลย กลายเป็นพื้นที่บ่นของคนไม่แมสกับพื้นที่อวดของสายแมส
ถมโหน่ย
มีนิยายปลูกผักแนะนำกันไหมค้าบบบบ
โม่งขอความเห็นหน่อย ทุกคนคิดว่าเรื่องนี้โกงยอดวิว เหมือนไอ้เรื่อง H.A.CK ปะ
อยู่ๆเด้งมาติด top ยอดคอมเมนท์ไม่มีสักคน
ตอนเยอะน่ะใช่นะ แต่อยากจะบอกว่าถ้านักอ่าน 1 คน อ่าน 68 ตอนพร้อมกันใน 1 วันก็ได้ยอดวิวแค่ 1 นะ มีกลิ่นนิดๆ เพื่อนโม่งว่าไง
https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/viewlongc.php?id=2352403&chapter=19
กูไม่รู้ กูแค่มาถม
มู้ยังไม่เต็มอีกเหรอ โม่งนักเขียนไปไหนกันหมดละ
กูไม่อยากช่วยเจิมเดี๋ยวมันครบ 1,000 เร็ว
จะขึ้นบทใหม่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยย
เดี๋ยวเลิกงานละจะมาเปิดมู้ใหม่ให้
มาๆวิ่งๆ
ปิดละน้า
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.