Fanboi Channel

นิทานเด็กดีบทที่ 39 (DDN XXXIX) ภาคปิดเทอมแล้วทำไมเงียบจังวะ สงครามหมีขาว-ทานตะวันจะยังไงก็ไม่สำคัญ เพราะโลกเด็กดีก็มีสงครามตัวเองกับนิยาย THIS NOVEL OF MINE (นักเขียนเขาจะย้ายเว็บกันจนร้างแล้วเพ่)

Last posted

Total of 1000 posts

927 Nameless Fanboi Posted ID6:K/D8Aqa5jT

>>926 กูรู้นานแล้ว แต่จะให้กูทำไงได้วะ? คนก็หมั่นกูเยอะ ขืนกูโวยวายกระแสตีกลับกูก็ยิ่งแย่ แม่ง

กูโครตอึดอัดอะ ขืนกูออกมาแล้วกระแสไปเข้าข้างคนผิดกูไม่แย่หรอ มันไม่ใช่นิยายเรื่องสั้นที่กวาดตาอ่านแล้วมึงจะรู้เว้ยว่ามันก็อบ มันเป็นเรื่องยาวที่มึงต้องเสียเวลาอ่านเปรียบเทียบ และคนดูต้องมีสติปัญญาระดับนึง เข้าใจการเขียนระดับนึง ดูเผินๆไม่รู้เลย ไม่เชื่อมึงไปอ่านความเห็นในเรื่องมันดิ นักอ่านยังอวยมันอยู่เลย

ก็รู้ตั้งนานแล้ว กูสงสัยตั้งแต่ AI ชื่อบ็อบมันโผล่มาแล้ว ตอนแรกก็ว่าจะทำเฉยๆ แต่พอนานไป แม่งเอาจากเรื่องกูไปทุกอย่างเลย กูเลยรู้สึกแบบไอ้เชี่ย ไม่ไหวละ ก็ถึงเริ่มบ่นในหน้านิยายกู เรื่องมันถึงเริ่มมาแดงเนี่ย มึงไม่เป็นกูคงเข้าใจยาก

928 Nameless Fanboi Posted ID6:K/D8Aqa5jT

>>926 ยังมีเรื่องหมิ่นประมาทอีก ไอ้เชี่ย มันอยู่อยากสัส ขืนโพล่งมั่วๆกูก็ซวยอีก นี่มันเลยกลายเป็นช่องว่างให้พวกเหี้ยๆแม่งลอยหน้า

929 Nameless Fanboi Posted ID6:K/D8Aqa5jT

>>926 ฟ้องศาลแม่งก็ลำบาก เสียค่าทนายแถมต้องมาพิสูจน์ว่ามันก็อบยังไง พิสูจน์ยากมาก ขนาดเว็บยังบอกหลักฐานไม่พอเลย มันทำอะไรไม่ได้จริงๆ

ที่เจ็บกว่านั้นคืออะไรรู้ไหม ความด้านของนักเขียนคือมันมั่นหน้ามาก พอเรื่องแดงทีมงานคงติดต่อไปสอบถาม มันก็อธิบายให้ทีมงานฟังตามเหตุผลแถๆของมัน และมันคงคิดว่าทีมงานรับฟัง รอดตัวแล้ว เลยออกมาพิมพ์คำชี้แจงแบบกากๆอย่างมั่นหน้า ถึงได้เป็นประเด็นไง คนโกหก ยิ่งโกหกเรื่องมันก็ยิ่งโป๊ะ คิดว่าอธิบายทีมงานได้แล้วจะรอดตัว ดูถูกสติปัญญานักอ่าน คงคิดว่าเขียนอะไรไปคนก็เชื่อ ง่าย ทีมงานมีแอบช่วยด้วย แบนห้ามให้นอนเม็มมาเม้นในหน้านิยายมัน กลัวถูกถล่มมั้ง กูเลยต้องเปิดหน้าชกแม่งไง อย่างนั้นให้มันมีประวัติไว้ จะได้ไม่เสือกไปทำอีก

930 Nameless Fanboi Posted ID6:K/D8Aqa5jT

>>925 กระทู้ใน DEK D ถ้ามันถูกลบคือผมแจ้งลบเองนะครับ ไม่ต้องไปว่าทีมงาน สาเหตุคือผมรู้สึกว่าตัวเองดูแย่ ไปกล่าวหาคนอื่น ถึงตัวเองจะมีเหตุผลที่ทำให้เชื่อได้ว่าถูกก็อบ แต่การไปกล่าวหาเฟรมคนอื่นมันก็ดูไม่ดี ยิ่งดึงมาเป็นประเด็นสาธารณะแบบนีั้ด้วยแล้วยิ่งไม่ควร ประกอบกับที่ตัวผมขี้เกียจไปต่อความยาวสาวความยืดหาหลักฐาน เพราะหลักฐานมันอ่อนจนไม่พอ อีกฝ่ายไม่ได้ก็อบทุกตัวอักษร อย่างมากก็ก็อบไอเดียไปเขียน เปลี่ยน ดำเนินเรื่องในแนวทางของตน ซึ่งมาคิดดูแล้ว บางทีมันอาจจะอยู่ในขอบเขตที่กระทำได้มั้ง?

เอาจริงๆมันก็แยกยากนะเรื่องการก็อบไอเดีย ทำได้ขนาดไหน เส้นแบ่งขนาดไหน จริงๆเราหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาถกกันก็ดีนะ

ขออภัยทุกท่านที่เอาดราม่า และความร้อนของตัวเองมาให้เสพอย่างไร้สติ เอาเป็นว่าหลังมันเกิดประเด็นขึ้น นักเขียนต้นเรื่องคงได้รับผลกระทบและได้คิดทบทวนระดับนึงแล้ว

ผมเองก็ได้บทเรียนเยอะเหมือนกัน

931 Nameless Fanboi Posted ID6:vp42JVT2wC

เอาน่า มึงไม่ใช่คนแรกที่เจอเรื่องบ้าๆ แรงบันดาลใจกับลอกเลียนแบบยังเป็นปัญหาโลกแตกทุกวงการจนทุกวันนี้ นิยายต่างโลกไม่เห็นจะฟ้องเลย แต่ลอกไอเดียใช่ว่าทุกเรื่องจะสำเร็จ เขียนดีหรือแย่ การตลาดดีหรือแย่ สุดท้ายอยู่ที่ดวง ดีนะที่ไม่มีเรื่องของสิทธิบัตร อันนี้เหี้ยกว่าลิขสิทธิ์ เพราะแม่งผูกขาดทางความคิดสัสๆ ขืนนักเขียนท่านใดจดสิทธิบัตรเรื่อง "กิลด์นักผจญภัย" คนอื่นที่เขียนแนวกิลด์นักผจญภัยไม่ว่าอยู่สัญชาติไหน ไม่อยากขึ้นศาลก็ต้องจ่ายเงินให้ผู้จดสิทธิบัตรคนนั้น อย่าให้มีการผูกขาดทางความคิดเลย

932 Nameless Fanboi Posted ID:HqOuXsBkB0

ปกติกูเฉยๆ กับตุ๋นกบ แต่รอบนี้กูอยู่ข้างไอ้ตุ๋นว่ะ เพราะเรื่องแบบนี้กูเองเคยโดนมาเหมือนกัน จากที่อ่านมาดูเหมือนมึงจะเข้าใจดีอยู่แล้วว่ามันจัดการยาก ตอนกูโดนกูเองก็ไม่อยากเสียเวลาเลยแก้ด้วยการแต่งนิยายแบบหลอกด่าคนลอกผ่านตัวนิยาย เอาชื่อนามปากกามาดัดแปลง เอาชื่อเรื่องมาบิดหน่อยๆ แล้วแต่งแบบกวนตีนในนิยายเรื่องที่กำลังถูกลอก คนลอกที่อ้างว่าไม่เคยมาอ่านเรื่องกูเหมือนกับที่มึงกำลังโดนอยู่แม่งดิ้นเป็นหมาโดนน้ำร้อนเลย พวกนักอ่านก็ถามว่าถ้ามึงไม่เคยแวะมาอ่านจริงๆ ทำไมถึงรู้ได้ว่าตัวเองกำลังถูกหลอกด่า มันอ้างว่ามีแฟนคลับมาเจอแล้วเอาไปบอกมัน กูบอกต่อว่าแล้วมั่นใจได้ไงว่าเนื้อเรื่องกับชื่อเรื่องนั้นเป็นนิยายของมึงเพราะไม่มีอะไรตรงกันซักอย่าง พี่แกใบ้แดกแล้วหายหัวไปซะงั้น

ถึงจะแก้เรื่องที่ว่ามันมาทำตัวเหลือบไรเอาไอเดียเราไปหาผลประโยชน์ใส่ตัวไม่ได้ แต่กูมั่นใจว่าเวลามันมาดูเพื่อเอาไปลอก ก็ต้องมีหัวร้อนไม่มากก็น้อย เหมือนคนแอบขายตัวพอเห็นคำว่ากระหรี่แล้วมีอาการชะงักตอนอ่าน

มึงก็ไม่ต้องไปคิดมาก ของแท้มันย่อมดีกว่าของปลอมอยู่แล้ว อยู่ไปนานๆ เดี๋ยวมันก็แต่งเองไม่ได้ ทำได้แค่ไปหาที่นั่นที่นี่เอามาลอก จนตอนสุดท้ายคนจับได้บ่อยแล้วเลิกอ่านของมันไปเอง งานเขียนเป็นทักษะอย่างหนึ่งถ้าไม่ฝึกฝนเรื่อยๆ ก็จะค่อยๆ แย่ลง คราวนี้ก็ถือว่าทำบุญทำทานไป

933 Nameless Fanboi Posted ID6:Z5Jlcx5tCX

เจอเคสนี้ก็รู้สึกผิดแฮะ สมัยกูยังเป็นเด็กเกรียนในเว็ปประมูลก็เคยทำพฤติกรรมแบบนี้ orz
พอก็อบจนถึงตอนล่าสุดที่เหลือก็เขียนเองมั่วนิ่มจนกลายเป้นอีกเรื่องไปเลย

934 Nameless Fanboi Posted ID6:DdZEJZY1IU

ky กลุ่มอมรินทร์ เข้าซื้อหุ้น 51% ของ Dek-D คิดเป็นมูลค่าดีล 204 ล้านบาท
https://www.blognone.com/node/130902

935 Nameless Fanboi Posted ID:n6R1jsL1V0

เหยด ... งั้นก็กลายเป็นเจ้าของเลยดิวะเพราะถือหุ้นใหญ่

936 Nameless Fanboi Posted ID6:jMUyq4.hJI

>>934 ถึงว่าเว็บใหม่มร.กฏคล้ายๆเด็กดอยจังวะ

937 Nameless Fanboi Posted ID6:xRKWpmUOHf

อมริน เป็นเจ้าของเด็กดีแล้ว จะมีผลไรกับพวกเรานักแต่งนิยายบ้างไหม หรือไม่มีไรเลย

938 Nameless Fanboi Posted ID6:LlmdaYaQEQ

>>937 ต้องมีแหละรอดูต่อไป เห็นเริ่มมาจับตลาดนิยายเว็บละนี่มีเปิดเว็บตัวเองละ

939 Nameless Fanboi Posted ID6:ak7TZ5UqrM

แต่ขณะเดียวกัน โพสข่าวเดียวกันดันไม่มีคนเม้น หรือว่าคนสิงเว็บเด็กดีจะหลับหูหลับตาละหว่า
https://www.dek-d.com/board/writer/4069773/

940 Nameless Fanboi Posted ID6:LlmdaYaQEQ

>>939 สาระไม่ยุ่งมุ่งแต่ดราม่าอะ

941 Nameless Fanboi Posted ID6:dx1Gm8OGUg

พวกเอ็งรู้จักแค่ 2-3 แอพเองเหรอวะ
https://www.dek-d.com/board/writer/4069964/

942 Nameless Fanboi Posted ID6:c/jZrlopI0

>>941 ก็มันเสถียรแค่นั้นไง มีอีกหลายแอปแหละกูลองมาหมดละ อต่สิงแอพนี้ดีสุดแบบเนตไม่มีก็เขียนได้ๆม่หาย แอปอื่นต้องเขียนตอนมีเนต หรือไม่มีเนตปต่พอเขียนแล้วมันไม่อัปเดตอะสัส ต้องมาเซฟซ้ำๆแถมเพี้ยนอีกพอไปลงเว็บ

943 Nameless Fanboi Posted ID6:dx1Gm8OGUg

>>942 เน็ตแบบเติมเงินรายวัน?

944 Nameless Fanboi Posted ID6:BhtgEkTFrp

>>941 LIbre Office มั้ย ก็ใช้อยู่ โอเคด้วย

945 Nameless Fanboi Posted ID6:UXiN8Jq8ft

เดี่ยวนี้พวกมึงสิงที่ไหนกันหยอ

946 Nameless Fanboi Posted ID6:1Hj7MMJdq1

visual novel นี่ยังใช้ได้ปะวะ กูว่าจะลองทำเป็นตอนพิเศษให้คนลองเล่นดู กะใช้โฆษณาอ้อมๆ+เขียนแบบเกมไงมีหลายรูท แต่เดี๋ยวนี้มันไม่บูมเหมือนเมื่อก่อนจะมีคนเล่นไหมอะ กลัวแป้ก

947 Nameless Fanboi Posted ID6:0JZw+J5C1Q

>>946 มันเห่อแค่แปปเดียวเลิก สุดท้าย ที่วิชวลโนเวลเด็กดีเกิดขึ้นได้เพราะมีคนเรียกร้อง แต่ไม่มีใครคาดหวังจะมีการพัฒนา ทำไปก็ร้างคนเล่น ระบบก็ไม่เสถียรพอ

948 Nameless Fanboi Posted ID:brKgjPwfJz

>>947 เพิ่งรู้ว่าเกิดขึ้นเพราะคนอยากได้ ทำไมวะนั่น ช่วงนั้นมันฮิตเหรอ

949 Nameless Fanboi Posted ID6:qBfwixVpIw

>>948 ฮิตระเบิด

950 Nameless Fanboi Posted ID:knsTuk9b1t

โม่งคิดอย่างไร กับพวกองุ่นเปรี้ยวในบอร์ด

951 Nameless Fanboi Posted ID:8UOd0ZpwL+

>>950 มีซอสไหม วาร์ปอะไรงี้

952 Nameless Fanboi Posted ID6:8Kw7q8M+g+

อัลไลของมันวะ https://www.dek-d.com/board/writer/4070996/

953 Nameless Fanboi Posted ID:XTGS2/Rwfj

>>952 เหงาป่าวเลยปั่นเล่น คนทำจริงมันไม่มาถามงี้นะ555

954 Nameless Fanboi Posted ID:TXMDhnxX5f

>>952 ว่างจริงจังเลยมาล่อตีนเล่นรึเปล่า 555

955 Nameless Fanboi Posted ID6:GlFS2V+Mb+

นโยบาย 1 วิวต่อ 1 ไอดีคือการซุกใต้พรม?
https://www.dek-d.com/board/writer/4071158/

956 Nameless Fanboi Posted ID:Rod0rhlAt8

>>955 เจอลุงมิกกี้ในมู้ แม่งยังอยู่อีกเหรอวะเนี่ย

957 Nameless Fanboi Posted ID6:bVjddkOMV8

>>955 สรุปคนเขียนเรื่องแฮกยังไม่หายไปไหนชะ แล้วไม่ทาออกงานเก่าให้จบๆเล่มไปสักที เห็นเล่มหลังๆบางลง้รื่อยๆไม่พอคนเขียนก็หายจ้อยอีก โผล่มาอีกทีดันทำเรื่องงามหน้าซะงั้น เพื่อ?งานตัวเองก็มีของอยู่แล้วมะมาปั้นต่อให้จบๆสิวะ จะทุบหม้อข้าวตัวเองทำไมวะ

958 Nameless Fanboi Posted ID:XP5V3MdK6h

>>957 ยังออกไม่จบอีกเหรอเรื่องนี้

959 Nameless Fanboi Posted ID:S8Vt3iuDEk

เออยังไม่จบอีกเหรอวะ กูจำได้ว่าในยุคสมัยนึงเมื่อจะดังมากเลยนิ นึกว่าแต่งจบไปเป็นชาติแล้วซะอีก อีปากกาแดงดำแม่งยังเขี่ยจนจบได้เลย แต่กูก็ไม่เคยอ่านหรอกนะ

960 Nameless Fanboi Posted ID6:+l+49yjaU6

กูเริ่มเบื่อนิยายจีนย้อนเวลาไปยุค 1980 ที่ติดท็อปหลายเรื่อง กูถามหน่อยเพื่อนโม่ง จีนยุคนั้นมีอะไรดีวะ ทำไมคนไทยถึงอยากย้อนไป ไม่ใช่ว่าช่วงเวลานั้นเป็นยุคมืดของจีนเหรอวะ หรือกูเข้าใจผิด ใครพอมีความรู้เรื่องนี้บ้าง

961 Nameless Fanboi Posted ID6:Z4iCPWucyU

>>960 มีคนอ่านหน้าใหม่ที่ไม่ใช่มึง เลิกบ่นแล้วไปหาอะไรที่มึงอยากอ่านแทนเหอะ ไม่ก็เขียนเองแม่งเลยจบ

962 Nameless Fanboi Posted ID6:em6a8Hy3oI

>>960 1980 นี่มันยุคเติ่ง เสียวผิงไม่ใช่เหรอ ผู้เปิดประเทศแต่บังคับให้พ่อแม่มีลูกไม่เกิน 1 คน

963 Nameless Fanboi Posted ID6:Z4iCPWucyU

https://www.dek-d.com/board/writer/4071467/
เยกันแค่ฉากเดียวไม่นับเป็น NC... เหรอวะ? (เม้น 4)

964 Nameless Fanboi Posted ID:j5ZBwBYnjj

>>963 มีฉากเดียวจะเขียน NC ทำไม ในความหมายของกุคือเมิงก็ไม่ต้องเขียนฉากเย็บกัน เพราะเรื่องเมิงไมได้ขายฉากเย็บ

965 Nameless Fanboi Posted ID6:XaazSpcYql

>>961 เมิงคือนักเขียนนิยายแนว 1980 ที่ว่าอะดิ ร้อนตัวจุง

966 Nameless Fanboi Posted ID:gNcfaPOND1

พูดถึง nc เห็นในรี้ดเค้ามีดราม่าลดเรื่องพวกนี้อยู่ อนาคตจะเหมือนกับในเด็กดีไหมวะ

967 Nameless Fanboi Posted ID:g/wD/dSU7B

>>965 ล่อเป้าได้เก่งมาก โม่งตัวอย่างเอาไปเลย 8 กระโหลก

968 Nameless Fanboi Posted ID6:6OAAGjEI4M

อยากรู้ว่านิยายของหมอนี้มีดียังไง https://www.dek-d.com/board/writer/4071689/

969 Nameless Fanboi Posted ID6:8abOQqhviJ

>>968 มึงตอบตัวเองได้นะโดยการลองเข้าไปอ่าน พิสูจน์เองเลยไม่ต้องคอยถามใคร ส่วนกูอ่านลิงก์ที่แปะ ทัศนคติเขาก็ไม่เลว ตั้งใจมุ่งมั่นขยันดี นิยายเป็นไงกูไม่รู้หรอกแต่เป้าหมายเขาชัดเจน เขาอยากแมสก็พยายามจนแมส

970 Nameless Fanboi Posted ID6:JaT0rAYYFM

มีใครอยากเสนอชื่อมู้ใหม่ไหมฮาฟฟฟ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย (มู้นี้มันไม่ตายห่าได้ยังไงวะ?)

971 Nameless Fanboi Posted ID:kRBCOO39x.

>>970 คิดไม่ออกเลยวะ กระทู้แม่งเกือบๆ จะร้าง แต่มีโม่งมาคุยคอยต่ออายุ ไม่งั้นคงครบ 100 วันเผา (โดนล็อคมู้) ไปแล้ว

972 Nameless Fanboi Posted ID:WGPFSNOzso

นิทานเด็กดีบทที่ 40 (DDN XL) มันจบแล้วอนาคิน เด็กใหม่สักแตเขียนไมคิดจะอ่าน พวกหน้าเกาก็เขียนนิยายเลียงชีพในเซฟโซน ดรามามัน ๆ ก็ไม่มี เจ้าของยังขายทิ้ง

973 Nameless Fanboi Posted ID6:KzObXp1r8M

นิทานเด็กดีบทที่ 40 (DDN XL) รู้มั้ยเกิดอะไรขึ้นกับวงการนิยายเด็กดีสมัยนี้ ชาวเด็กดีคือคนเขียน ไม่ใช่คนอ่าน โม่งต่างหากคือคนอ่าน แต่มีคนเขียนมั้ย อีกเรื่องนึง

974 Nameless Fanboi Posted ID6:cEPz6nrWha

กระทู้ใหม่ตั้งยัง?

975 Nameless Fanboi Posted ID6:cEPz6nrWha

เห็นเงียบมาชวนคุยซะหน่อย คือพูดถึงยุคนี้ไอ้ที่มีคำบอกว่านิยายติด TOP ตกต่ำลง ผมก็เป็นคนนึงที่ออกมาแก้ต่างให้บ้าง บอกว่าไม่ใช่บ้าง ก็จริงที่มันมีส่วนน้อยที่พยายามจะเปลี่ยนแปลง พยายามเขียนที่เป็นนักเขียนจริงๆ เขียนตามแนวทางของตัวเอง ทว่าสุดท้ายแล้วมันก็มาถึง

เมื่อสามห้าหกปีก่อนโน่นผมเริ่มอ่านนิยายจีน หมายถึงจีนกำลังภายในยุคใหม่น่ะ ไม่ใช่พวกมังกรหยกอะไรนั่นนะ พวกนั้นอ่านตั้งแต่ชาติปางก่อนแล้ว

อ่านไปอ่านมาเราจะพบว่านิยายจีนยุคใหม่จะมีพลอตมาตราฐาน แบบเหมือนเป็นโครงเรื่องสำเร็จที่คนหยิบมาใช้จนเกลื่อน

ยกตัวอย่างก็แบบแนวเทพเซียนกลับมาเกิดใหม่ เริ่มเรื่องด้วยการที่ชาติที่แล้วเป็นมหาเทพเซียนขั้นสุด เก่งสุดในสามโลก ตายด้วยเหตุผลบางอย่าง หรือพยายามไปถึงจุดสูงสุดแล้วพลาด สุดท้ายตาย ย้อนกลับไปในร่างของตัวเองตอนยังเป็นไอ้ขี้แพ้ขยะถูกรังแกสมัยเรียน จากนั้นก็ใช้ความรู้วิชาที่ได้มาแสดงความเทพ จุดเริ่มเรื่องมาตราฐาน ถ้าแค่พลอตหลวมๆมันเหมือนกันยังพอทำเนา มันแปลกก็ตรงการดำเนินเรื่องยังเหมือนกัน มังงะที่ผมอ่านผ่านตาจีนมาจนเอียนเนี่ย การดำเนินเรื่องเหมือนกันเลยแบบเป็นสิบเรื่องนะ

แบบเริ่มต้นในร่างตัวเองตอนเป็นเด็กนักเขียนโดนบลูลี่ เริ่มมาด้วยการฝึกวรยุทธ สำเร็จยุทธขั้นแรกในเมืองเล็กๆในเวลาอันสั้น ออกไปแสดงความกร่างโชวความเทพกับแฟนเก่าหรือพวกจิกโก๋ แสดงความเทพในเมือเล็กๆสักพักบังเอิญไปเจอตาแก่ในสวนสาธารณะหรือโรงพยาบาล แสดงความเทพในการบอกโรคลับๆที่ตาแก่เป็น ตาแก่ตาโตรู้ว่าพระเอกไม่ธรรมดา ตาแก่มีหลานสาวโง่ๆคนนึงที่พามาและจ้องจับผิดตัวเอก หลานสาวไม่เชื่อพระเอก จ้องจับผิด ท้าพระเอกแบบโง่ๆ พระเอกพิสูจน์แสดงความเทพรักษาตาแก่ สรุปคือตาแก่กลายเป็นมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลในเมือง ตัวเอกได้คนหนุน เริ่มเรื่องมาแบบนี้และก็วนลูปเพิ่มสเกลพลังย้ายเมืองไปเรื่อยๆ

นิยายจีนพลอตมาตราฐานวนลูบแบบนี้ถูกนำไปดัดแปลงใช้กับทุกแนว แนวระบบ แนวกำลังภายใน แนวเทพเซียน นี่เป็นแค่แพทเทิลนึงที่ก็อบกันมาของแนวแฟนตาซีนะ แนวปลูกผักคงคล้ายเหมือนกันแค่ผมไม่เคยไปอ่าน

ซึ่งตอนแรกเมื่อ 6 -7 ปีก่อนมันเป็นแค่นิยายจีน ผมยังกลัวเลยว่าเฮ้ยก็อบพลอตกันหน้าด้านๆงี้เลยหรอวะ ไม่เป็นอะไรหรอ?? สุดท้ายมาช่วงปีนี้มันลามมาที่ไทยแล้ว นักเขียนเริ่มมักง่ายขึ้นเยอะ หลายคนแยกไม่ออกแล้วว่าแรงบันดาลใจกับการก็อบมันคืออะไร บางคนก็อบโครงเรื่อง ก็อบการดำเนินเรื่อง ก็อบเหตุการณ์มาทั้งดุ้นไม่ได้คิดเองเลย แค่เอามาเขียนเปลี่ยนชื่อเป้นคนไทย สลับเหตุการณ์ วนลูบตบเกรียนไปซ้ำๆ 300 400 500 ตอน

ช่วงแรกผมก็สงสัยว่าเฮ้ย อะไรแบบนี้ที่ดูถูกนักอ่านมันขายได้หรอวะ พอมาดูสภาพตลาดปัจจุบันที่นักเขียนมักง่ายขึ้นทุกวัน ก็อบพลอตกันเป็นว่าเล่น เรื่องแดงขึ้นมาแล้วนักอ่านก็ยังอวย ถ้าไม่ก็อบทุกตัวอักษรไม่ถือว่าผิด คือมันน่าอึดอัดใจมากๆเลยว่ะ ลองไปไล่ดูนิยายติด top แต่ละเรื่องแล้ว ถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญอ่านนิยายจีนมาอย่างกว้างขวางจะเห็นเลยว่าพลอตและการดำเนินเรื่อง มันแทบจะเลียนแบบลอกกันมาเลย

คือบางที่คำว่าแรงบันดาลใจ กับก็อบปี้มันก็แบบแยกยากเนาะ ต้องขนาดไหนคือก็อบ?

ขออภัยเพราะบางทีผมเป็นนักเขียนที่พยายามจะเขียนงานโดยไม่ลอกพล็อตคนอื่น หรือเอาแรงบันดาลใจมาแบบน่าเกลียดมันท้อนิดก็เลยมาชวนคุย วงการนิยายไทยมันตกต่ำลงจริงๆ แบบหันไปดูแนวแฟนตาซีแล้วระบบ ระบบ ระบบ เต็มไปหมดเลย ผมก็เขียนแนวระบบนะ เรื่องที่เป็นแนวระบบแม่งติดตลาดง่ายมากแค่ใช้ชื่อเรื่องว่าระบบ พอมาแต่งแนวอื่นแนวดาร์คแฟนตาซีเนี่ย ติดตลาดยากกว่ามากเลย ความต่างมันเยอะแบบเยอะจริงๆกับกระแส

บางทีนิยายที่ขึ้นนิยายแนะนำของ DEK D น่ะ ถ้าอ่านดูดีๆจะเห็นเลยว่าไปก็อบพล็อตมาแค่มันจับแบบคาหนังคาเขายาก

976 Nameless Fanboi Posted ID6:cEPz6nrWha

>>975 สุดท้ายแล้วตลาดกำหนดทุกอย่างแฮะ ..ก็นั่นแหละแค่แวะมาบ่นให้ฟัง

977 Nameless Fanboi Posted ID:/7JcqBsUHT

ไม่พอใจที่เขาจัดให้การก็อปพล็อตเป็นสิ่งที่ไม่ผิดใช่ไหม? หยิบพล็อตสนุก ๆ จากเรื่องต่าง ๆ เอามายำใส่เรื่องสะดวกไปไหม?
อยากให้ลองหลับตานึกถึงโลกที่ก๊อปพล็อตมีความผิดเหมือนหยิบเอามิกกี้เมาส์มาเป็นตัวละครของตัวเอง
นักเขียนใหม่จะไม่มีเวทีให้เล่นเลย เรื่องไหนดังก็เตรียมโดนฟ้องแบ่งรายได้เพราะพล็อตนั้นเคยถูกใช้มาก่อน นักเขียนใหม่เกิดยาก ความคิดสร้างสรรค์ถูกจำกัด ข้อหลังนี่ล่ะทำให้การก็อปพล็อตไม่ได้ถูกปกป้อง

978 Nameless Fanboi Posted ID6:m0wk5a+kRp

ความคิดสร้างสรรค์ = ไม่ใช่
การตลาด = ไม่ใช่
ลอกการบ้าน = ใช่

979 Nameless Fanboi Posted ID6:cEPz6nrWha

>>977 การก็อบพล็อตมันควรจะมีขอบเขตครับ ไม่ใช่ลอกมาเหมือนเป๊ะเหมือนกระทั่งการดำเนินเรื่อง อย่างนั้นถ้าก็อบเกือบทุกอย่างได้กระทั่งเหตุการณ์การดำเนินเรื่อง แบบนั้นต้องขนาดไหนถึงจะเข้าข่ายการก็อบที่ผิด??

แบบลอกทุกตัวอักษรแบบนั้นเลย?

พลอตมันคล้ายและเหมือนกันได้ แต่ผมคิดว่ามันไม่ควรจะคล้ายจนแบบเหมือนได้เกือบทุกอย่างกระทั่งเหตุการ การดำเนินเรื่อง เปิดเรื่อง อะไรทำนองนั้น มันเกินไป และมันทำให้วงการนิยายต่ำลง เกิดความักง่าย อย่างนี้นักเขียนไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อะไรเลยสิ ก็อบลูกเดียวเลย ไม่ต้องคิดเลย ถ้าเป็นแบบนั้นมันน่าเศร้านะ ที่ต้องทนเห็นอาชีพนักเขียนต่ำลงเรื่อยๆ โดยที่ทำอะไรไม่ได้เนี่ย

980 Nameless Fanboi Posted ID6:cEPz6nrWha

>>977 ผมมาขยายความอีกนิด เท่าที่ผมอ่านมังงะเกาหลีมา มันแทบไม่มีเรื่องไหนเลยที่ก็อบพล็อตแบบเป็นแพทเทิลเดียวกันอย่างน่าเกลียด แบบเหมือนกระทั่งการดำเนินเรื่อง

ทว่ากับจีน มังงะจีน นิยายจีน เราจะเห็นการก็อบพล็อคแบบหน้าด้าน แบบลอกกันมาเลยนั้นเยอะ แบบต้องเอ๊ะเลย

แล้วปัญหาคือที่ไทยกำลังได้รับอิทธิพลจากจีนและเดินตามแนวทางจีน ผมออกจะแบบ... คุณภาพมังงะจีนช่วงหลังๆเนี่ยผมไม่อ่านเลย แพทเทิลเดียวกัน กลับกันมังงะเกาหลีมันกับสนุกเกือบทุกเรื่อง แม้กระทั่งแนวมังงะกำลังภายในก็ทำได้เหนือกว่าจีน เหมือนงานคนละคุณภาพ

พูดไปก็คงพูดลำบาก แต่มันก็น่าเศร้าที่วงการนิยายแฟนตาซีเราเดินตามแบบจีนซะงั้น

981 Nameless Fanboi Posted ID:/7JcqBsUHT

>>979 ถามจิ้ง ยกตัวอย่างก๊อปมาเหมือนกันตั้งแต่ต้นจนจบ คนฉลาดที่ไหนเขาทำกัน มันสุ่มเสี่ยงโดยฟ้องแบ่งรายได้ สมัยนี้เขาก๊อปแบบเอามายำกันเอามาต่อยอด ไอเดียนี้ดีก็หยิบมา จับมายำ ๆ เวลาคิดอะไรไม่ออก นี่ไงขอบเขตที่อยากได้ใช่ไหม
กูว่าเมิงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่แล้วก้มหน้าก้มตาเขียนไปเถอะ ถ้ามันก๊อปเรื่องเมิงจริงก็รวบรวมหลักฐานเอาไปฟ้องแบ่งรายได้ แต่ใครมันจะโง่เขียนให้มึงฟ้องได้

982 Nameless Fanboi Posted ID:2k+L62sc9R

เห็นพวกมึงคุยกันแล้วกูก็อยากคุยด้วยนะ แต่ประเด็นนี้คุยกันไปเยอะแล้วตั้งแต่สมัยยังเล่นมู้นินทาอยู่ กูเลยไม่อยากพิมพ์อีกเป็นรอบที่ล้านแต่ก็ช่างแม่ง จริงอยู่ว่าเรื่องพล็อตคล้ายหรือโดนยืมมาแต่งมันมีเยอะจนน่าเบื่อ แล้วยังไงต่อ ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีเพราะมันยังคงมีคนที่ชอบและอ่านเรื่องพวกนี้อยู่เรื่อยๆ ไง มันคือความฮิตเมื่อแนวนั้นกำลังมาแรงหรืออยู่ในกระแส ไม่ต่างอะไรกับยุค รรวม. หรือ อล. เลย

ความแตกต่างของตอนนี้กับยุคก่อนคือความสามารถในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของทุกคน ทีนี้พวกอยากอ่านมีเยอะ อยากเขียนก็มีเยอะเหมือนกัน พอเจออะไรที่มีอยู่เยอะๆ ในเน็ตก็คิดกันไปเองว่านี่แหล่ะดี ทำตามนี้เลยดีกว่า ต่างจากสมัยก่อนที่ต่อให้เป็นออนไลน์หรือโรงเรียนเวทมนตร์ก็จะมีการเดินเรื่องที่หลากหลายกว่า บางเรื่องเริ่มที่มหาสงคราม บางเรื่องเริ่มที่ตัวเอกโนเนมไปเจอของเทพ บางเรื่องตกกระไดพลอยโจนไปยุ่งกับเรื่องที่ไม่ควรยุ่งจนกลายเป็นจุดสนใจ

สรุปได้ว่าสิ่งที่เป็นตัวแปรคือความมักง่าย เพราะนักเขียนรุ่นกูมันจะมีอีโก้บางอย่างที่อยากสร้างผลงานที่จะไม่ถูกครหาว่าไปลอกพล็อตคนอื่นมา ทีนี้พอตัวเองแต่งแนวไหนก็จะไปหาอ่านแนวนั้นเยอะๆ ที่ว่าเยอะนี่คือเยอะจริงๆ อ่านจนรู้ว่าใครแต่งแบบไหนชอบเดินเรื่องยังไงตัวละครที่ใช้มีอะไรบ้าง อ่านกันหลักร้อยเรื่อย มันจะได้ไอเดียมาต่อยอดจากฉากเจ๋งๆ ของคนอื่น ในเวลาเดียวกันก็ต้องตอบให้ได้ว่ายืมมาใช้ยังไงจะไม่ให้ถูกจับได้หรือเหมือนจนน่าเกลียด

แต่ยุคนี้มันหาอ่านผิวเผิน เน้นไปที่ Top หมวด อ่านอันที่อยู่ในกระแสหรือเรื่องที่ถูกนำเสนอขึ้นหน้าเพจเฟซบุ๊กว่าแต่งแบบนี้สิแล้วจะมีคนอ่านเยอะ ขายดีได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ไม่ได้อ่านหาไอเดียแต่อ่านเพื่อหาของมาลอก ดัดนิดเปลี่ยนหน่อยเอาแค่ไม่ให้เหมือนเป๊ะ คุณภาพไม่ต้องเน้นอัพได้บ่อย มีตอนลงรายวัน คิดไม่ออกแต่งไม่ทันทำไงดี ก็ต้อง ลอก! ลอก! ลอก! สิ พล็อตคล้ายแล้วไงใครๆ ก็ทำแบบนี้เหมือนกัน ถ้าจะจับกูก็ต้องไปไล่จับแม่งทั้งวงการนะ ด้วยชุดความคิดแบบนี้แหล่ะเลยทำให้นิยายเว็บปัจจุบันมันออกมาอย่างที่เห็น บางคนทำมานานแล้วพอมีฝีมืออยู่บ้างก็ได้ดีไป แต่พวกมือใหม่มีแต่จะทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง

แต่กูคงต้องเห็นด้วยกับข้างบนว่า เออก็มันมีคนอ่านอะก็เลยมีคนแต่งแนวนี้ออกมาเรื่อยๆ เหมือนนิยายจีนแปลที่มาโผล่โฆษณา เปิดเรื่องว่าตัวเอกโดนดูถูกสารพัดทว่าพี่แกเป็นขั้นเทพปลอมตัวมา หรือจริงๆ แล้วผมเป็นประธานบริษัท ไม่ก็ได้รับมรดกชนิดใช้ไป 100 ชาติก็ยังไม่หมด ตอนที่ 2 ก็หลุดพ้นจากการถูกกดขี่แล้วไล่ทำตัวเทพซ่าส์ เอาเงินฟาดหัว ต่อด้วยไปรักษาคนแก่จนได้แบ็คมาหนุนหลังเพิ่มอำนาจใดๆ กี่สิบเรื่องก็มาทำนองนี้หมดเลย เพราะอะไร? ก็เพราะมันยังมีคนยอมจ่ายเงินตอนละบาทเพื่ออ่านอยู่ดี ถึงจะซ้ำซากก็ยังอ่าน

983 Nameless Fanboi Posted ID:2k+L62sc9R

อะไรวะอยู่ดีๆ มู้ก็ Active คุยกันเยอะซะงั้น คุยกันต่ออีกหน่อยก็ดีนะ กูจะได้ตั้งมู้ใหม่ ช่วยกันถมหน่อยอีก 17 rep

984 Nameless Fanboi Posted ID6:x4xAJVUvfQ

>>975 ไอ้แนวนี้มันขายได้ เข้าใจง่าย เร้าใจ สนุกเร็ว คนที่ไม่เคยอ่านถ้าได้มาอ่านก็จะติด พออ่านถึงตอนล่าสุดหาแนวเดียวกัน เริ่มเห็นมันซ้ำไปมาก็เริ่มเบื่อ อีกอย่างนึงมันมาจากนิยายเว็บเหมือนกันด้วย สักวันจะมีคนเรียนพวกนิเทศเอาไปทำวิทยานิพนธ์หรือบทความไหมว่ะเนี่ย ดูมันน่าสนใจอยู๋
>>960 ไม่ได้อ่านของไทยนะ แต่ถ้าไปอีกโลก ย้อนอดีต ฯลฯ แนวนี้ของพวกจีนแท้ก็มีอย่างที่ดังๆก็ i really am a superstar. แต่อันนั้นใช้ไปโลกคู่ขนาน หรืออย่างim in hollywood อย่าว่าแต่จีนเลยฝรั่งก็มี ญี่ปุ่นก็มี เอาจริงกูอ่ะอยากเห็นคนไทยเขียนมากกว่าขอแนวการเมืองนะ เอาแบบย้อนเวลากลับไป2475 หรือ 2489 (แต่คนเขียนอาจจะได้พิซซ่าเดลิเวอรี่) ใช้วรรณกรรมไทยอย่างเรื่องขุนแผนในเว็บตูนนี่ก็ดีอยู๋ อยากได้แบบนี้อีกเหมือนกัน อาจซ้ำแต่มันก็ยังน่าสนใจ

985 Nameless Fanboi Posted ID6:mE3JB9LALG

พูดเรื่องนี้มาทุกกระทู้ ไม่เบื่อกันบ้างหรือครับ

986 Nameless Fanboi Posted ID6:9jGZ5W74A8

ทุกวันนี้บอร์ดเด็กดีก็ไม่น่าสนใจอยู่แล้ว ยกเว้นดราม่า

987 Nameless Fanboi Posted ID:U4HfIkodBq

ขนาดดราม่ามันส์ๆ แบบสมัยก่อนยังไม่มีเลย กลายเป็นพื้นที่บ่นของคนไม่แมสกับพื้นที่อวดของสายแมส

988 Nameless Fanboi Posted ID:vAn9jGGzt/

ถมโหน่ย

989 Nameless Fanboi Posted ID:g4hB7K1gRL

>>984 ถ้าเอาการเมืองเป็นฉากหลังก็ประชาธิปไตยบนเว้นขนานอะ แต่คนเขียนหริ่มจัด

990 Nameless Fanboi Posted ID:cxVq11TyNk

มีนิยายปลูกผักแนะนำกันไหมค้าบบบบ

991 Nameless Fanboi Posted ID6:9jGZ5W74A8

>>990 ไปรอบทหน้าเถอะ

992 Nameless Fanboi Posted ID6:86GMgu+Nqs

โม่งขอความเห็นหน่อย ทุกคนคิดว่าเรื่องนี้โกงยอดวิว เหมือนไอ้เรื่อง H.A.CK ปะ

อยู่ๆเด้งมาติด top ยอดคอมเมนท์ไม่มีสักคน

ตอนเยอะน่ะใช่นะ แต่อยากจะบอกว่าถ้านักอ่าน 1 คน อ่าน 68 ตอนพร้อมกันใน 1 วันก็ได้ยอดวิวแค่ 1 นะ มีกลิ่นนิดๆ เพื่อนโม่งว่าไง

https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/viewlongc.php?id=2352403&chapter=19

993 Nameless Fanboi Posted ID6:itS9eFzPij

>>989 ก็ดีแล้วหนิ เห็นว่าขายดีด้วย

หรือจะเอาเป็นสามกีบนักเย้ ทำไมกีบชอบเย้วะโม่ง

994 Nameless Fanboi Posted ID:PTX5IhVuL3

กูไม่รู้ กูแค่มาถม

995 Nameless Fanboi Posted ID6:pyGQhocUt2

มู้ยังไม่เต็มอีกเหรอ โม่งนักเขียนไปไหนกันหมดละ

996 Nameless Fanboi Posted ID:6egRKsqwsY

กูไม่อยากช่วยเจิมเดี๋ยวมันครบ 1,000 เร็ว

997 Nameless Fanboi Posted ID6:wkps0kfKgB

จะขึ้นบทใหม่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยย

998 Nameless Fanboi Posted ID:RZzJcjYF0u

เดี๋ยวเลิกงานละจะมาเปิดมู้ใหม่ให้

999 Nameless Fanboi Posted ID6:HttEWr11jF

มาๆวิ่งๆ

1000 Nameless Fanboi Posted ID6:HttEWr11jF

ปิดละน้า

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.