>>918 เสริมให้อีกนิด ชื่อเรื่องมันระบบเงินคืน ถ้าไปอ่านจะรู้เลยว่ามันไปก็อบเขามา เพราะระบบเงินคืนที่เขาคิดขึ้นมันมีพลอตโฮลเยอะ เยอะจนกลบไม่มิด นิยายมี 500 ตอน ระบบเงินคืนชื่อเรื่องมันหายไปตั้งแต่ 100 ตอนแรก ไม่กล่าวถึงเงินคืนอีกเลย สุดท้ายเขียนวันละ 3 ตอนโดยการไปบิดเอาไอเดียจากนิยายจีน เรื่องนั้นที เรื่องนี้ทีมันแปะ เขียนไถๆตบเกรียนไป พอเริ่มถูกเรื่องผมแซงขึ้นมา พี่แกก็เลยก็อบไอเดียสตอรี่ไลน์ผมไปเขียนไถต่อแตกตังจากตอนที่ 200 ซึ่งแกเริ่มตัน ไถต่อจนมา 500 ตอนอะ
แจ้งทีมงานไปก็เท่านั้นขอหลักฐาน จะไปเอาหลักฐานมาจากไหน? ก็มันไม่ได้ก็อบทุกตัวอักษร แต่คนที่อ่านทั้งสองเรื่องตั้งแต่แรกดูออกทุกคน บอกได้แค่นี้
ที่หนักคือออกมาแก้ตัวหน้าด้านๆ ทุกอย่างที่เหมือนผมเขียนหลังผมตลอด อ้างว่าคิดเอง แล้วทำไมไอเดียที่เหมือนกันไม่เคยผุดมาก่อนเลย เข้าโหมดเครื่องบิน ไม่ตอบนักอ่าน ไม่มีปฎิสัมพันธ์ใดๆ มันเป็นอาการของนักเขียนที่ไม่รักนิยายตัวเอง เพราะนิยายไม่ได้สร้างขึ้นจากไอเดียตัวเอง แต่ไปก็อบเขามา เขียนได้เงินไปครึ่งล้าน ค่าจ้างวาดปก 2000 3000 ยังไม่เจียดมาวาด ดูก็รู้ว่าแม้แต่ตัวนักเขียนยังไม่อินกับเรื่อง ไม่รักนิยาย ไม่รักตัวละ เห็นแก่ได้
ทีมงานถามหาหลักฐานที่ชัดเจน ผมจะไปหาหลักฐานมาจากไหน? ก็อีกฝ่ายมันไม่ได้ก็อบทุกตัวอักษร ผมอาจจะหาหลักฐานได้แหละ แต่มันต้องเสียเวลาเอาเรื่องของอีกฝ่ายมาตีแผ่ วิเคราะห์ ทำรายงาน มันเสียเวลาหนักมาๆ แถมไม่รู้ว่าทีมงานจะตัดสินยังไง มันน่าอึดอัดตรงรู้ว่าถูกก็อบแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันไม่ได้ผิดกฎชัดเจน
นักเขียนเรื่องระบบเงินคืนเนี่ย เงียบเป็นใบ้มาตั้งนาน ไม่ตอบ ไม่หือ ไม่เคลียร์ ไม่ชี้แจง เพราะคนโกหกถ้าออกมาชี้แจงก็จะอย่างที่เห็น ยิ่งแก้ตัวยิ่งเผยพิรุธ ปล่อยไก่ บอกว่าไม่เคยมาส่อง ไม่เคยอ่านเรื่องผม แต่สำนวนเปลี่ยนกลางคัน แม้แต่สำนวนการเขียนยังเปลี่ยนมาคล้ายผมนิดๆ วิสัยนักเขียนที่ติด top ร้อยทั้งร้อยจะส่องลิสต์ TOP หมวดในหมวดเดียวกันทุกวัน วันละหลายรอบ ส่องคู่แข่ง ยิ่งมีเรื่องไหนมาแรงแซงตัวเองขึ้นมาหรือกำลังจี้ตัวเอง เขายิ่งต้องส่อง ส่องเก็บข้อมูล ส่องว่าทำไมอีกเรื่องมีคนอ่านเยอะ เผื่อจะเอาแนวทางมาปรับใช้ นักเขียนมันต้องส่อง ยิ่งเขียนทุกวัน ยิ่งเขียนรายตอนต้องส่องคู่แข่ง ส่อง top หมวดนั้นหมวดนี้ ผมฟันธงให้เลยในฐานะที่เขียนนิยายมาหลายเรื่อง หลายปี ดังนั้นคำอธิบายแรกของเราที่บอกว่าไม่เคยมาส่องเรื่องผม ไม่เคยอ่าน แค่บังเอิญคล้าย มันไม่จริงหรอก ก็ถ้าแค่เรื่องแรกที่ออกมาอธิบายยังโกหก เรื่องอื่นๆจะเชื่อได้ไหมล่ะ?
ก็อบด้านขนาดไหน ขนาด AI ที่ก็อบมามันยังเอาชื่อบ็อบเหมือนกันเลยคิดเอา ชื่อลูกสาวตัวเองเชื่อจันทร์เจ้า ก็ไปก็อบชื่อมาจากนางเอกแนวระบบอีกเรื่องที่ติด top นิสัยนักเขียนเรื่องเงินคืนเนี่ยเขามักง่ายแต่แรก เห็นได้ยากคำผิดไม่ยอมแก้ นักอ่านเตือนแล้วเตือนอีกก็ไม่แก้ ชื่อตัวละครสลับกับอีกเรื่องก็ไม่แก้ พฤติกรรมหลายอย่างมันชวนให้คิดวิเคราะห์ได้อยู่แล้วว่าเป็นยอดนักก็อบ พล็อตเรื่องมันก็ก็อบมาจากนิยายจีนนั่นแหละ ถามดีกว่าว่าระบบเงินคืนเนี่ย มีตรงไหนคิดเองบ้าง ไอเดียน่ะ ไปบิดเอามาทั้งนั้น แค่จะรู้หรือไม่รู้ เขาทำจนติดเป็นนิสัยแต่แรก พอขายได้มีนักอ่านอวยมันยิ่งได้ใจ ได้ใจมากคิดว่าทำแล้วไม่ป็นอะไร จิตสำนึกมันก็ยิ่งลด ยิ่งล้ำเส้น สุดท้ายก็อบแม่งคนข้างบ้าน คนไทยด้วยกันนี่แหละ ง่ายดี เขียนไถขายได้เงินหลักแสน
ไม่รู้จะพูดยังไง เอาเป็นว่าคนโดนแล้วทำอะไรไม่ได้พูดเยอะก็ไม่ได้ กลายเป็นผู้ร้าย โดนหาว่าไปใส่ร้าย เชี่ยขนาดสตอรี่ไลน์ยังเปลี่ยนกลางเรื่องมาเหมือนผม สำนวนก็เปลี่ยนมาคล้ายผม เรื่องนี้ถ้าเคยเขียนนิยายจะรู้เลย ว่าสำนวนมันจะไม่นิ่ง สำนวนมันจะเปลี่ยนถ้าระหว่างเขียนเราไปอ่านผลงานของนักเขียนคนอื่นเยอะไป แล้วแบบนี้มันจะมาอ้างได้หรอวะว่าไม่เคยอ่านเรื่องผม ... สุดท้ายก็อย่างว่า ด้านไม่ยอมรับซะอย่าง จะทำไม? แถโง่ๆยังมีคนเชื่อเฉย