Fanboi Channel

นิทานเด็กดีบทที่ 39 (DDN XXXIX) ภาคปิดเทอมแล้วทำไมเงียบจังวะ สงครามหมีขาว-ทานตะวันจะยังไงก็ไม่สำคัญ เพราะโลกเด็กดีก็มีสงครามตัวเองกับนิยาย THIS NOVEL OF MINE (นักเขียนเขาจะย้ายเว็บกันจนร้างแล้วเพ่)

Last posted

Total of 1000 posts

588 Nameless Fanboi Posted ID:N2VgOw36uy

กูแม่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหลอนละ นั่งหานิยายอ่านกี่เรื่องๆ ทำไม่วิธีเปิดตัวเอกแม่งมาแนวเดียวกันหมดเลยวะ

โดดเดี่ยว > โดนบุลลี่ > รับพลัง

กูอุสส่าโดดไปอ่านแนวที่จะเป็นไซไฟแฟนตาซี​ วิธีเปิดตัวเดียวกันแม่งยังเสือกตามมาอีกอีชิบหาย

589 Nameless Fanboi Posted ID:RaGzhIj0kU

>>588 ที่มามันมีไม่กี่อย่างอะโม่ง ถ้าเป็นเมะญี่ปุ่นแนวโชวเน็งมันก็มาอีหรอบนี้บ่อยๆ เพราะปัญหาเด็กโดนบูลลี่ในโรงเรียนมันมีเยอะ เอาไว้ขายฝันเด็กขี้แพ้ที่อยากหนีความจริงได้ อย่างที่มีโม่งเคยมาบอกว่ามันเป็นการเขียนแบบประโลมโลก ขายฝันให้คนอ่านได้รู้สึกเหมือนตัวเอก ได้เจอเรื่องดีๆ มีคนคอยช่วยเหลือ ได้รับทั้งพลังและความรัก, ความชื่นชมจากคนรอบข้าง (นี่คือพูดแบบไม่อยากใช้คำว่า self-insert ละนะ) อ่านแล้วสบายใจอย่างที่คนชอบแนวสุขนิยมตามหา

ถ้าเป็นนิยายจีนก็คล้ายๆ กัน แต่ต่างตรงต้องมีความ Disable บางอย่างอะไรในตัวก่อน จากนั้นก็โดนเหยียดโดนบูลลี่โดนด่าว่าเป็นขยะเป็นสวะ หรือจุดด่างพร้อยของตระกูล ต้องโดนเล่นงานถึงตายก่อนละค่อยได้พลังเทพซ่า (เป็นแบบแผนที่ซ้ำซากเหี้ยๆ แต่ก็ไม่เลิกใช้กันสักที)

การเดินเรื่องนี่ไม่รู้วะ เพราะขึ้นอยู่กับคนเขียน แต่สิ่งที่เดาออกเพราะเจอมาเป็นหมื่นครั้งคือ ญี่ปุ่นหลังได้พลังแล้วจะเริ่มมีเพื่อน ใช้พลังในทางที่ (เหมือนจะ) ดี ต้องแหกปากก่อนถึงจะเอาชนะได้ เป็นพวกพลังกาย 20 พลังแฝง 2 ล้าน ไม่ก็เทพซ่า OP แบบกู่ไม่กลับดีดมะกอกทีเดียวบอสระเบิดเป็นซาก มีสาวๆ มาเข้าฮาเร็มเยอะแต่มักจะทำตัวเป็น Beta male ยอมให้สาวๆ โขกสับทำร้าย

ถ้าเป็นแนวจีน/เกาหีลคือมีพลังมิตรภาพน้อยกว่า เน้นความเทพของพระเอกมากกว่า OP แบบว่าไม่มีใครสู้ได้ จะมีพลาดพลั้งก็แค่จงใจทำให้คนอ่านได้ลุ้นบ้าง อย่างหนึ่งที่กูไม่เข้าใจคือพอเทพซ่าแล้วทำไมชอบเถื่อนหรือโหดร้ายกันจังเลยวะ นิสัยหรือหน้าตาก็แม่งเปลี่ยนไปหมด จากเด็กดีกลายเป็นผู้ใหญ่เหี้ยแทบทุกเรื่อง จะว่าเป็นเพราะเจอเรื่องเหี้ยๆ มา มันก็ดูปุบปับเกินไป เมียเยอะเป็นสิบแต่เยดแล้วทิ้งบทหายไปหลังจบตอนก็มี

อย่างไรก็ตาม ถึงจะซื้อฝันมาเสพได้ แต่กูยังยืนยันว่าคนที่เป็นขี้แพ้กับคนที่เป็นนักล่าในชีวิตจริงมันไม่ได้เปลี่ยนกันได้ง่ายๆ พวกที่รังแกคนอื่นก็จะรังแกต่อไป ส่วนพวกที่เสพสื่อแล้วลองลุกขึ้นสู้สักตั้ง ถ้าใจไม่แข็งพอก็จะเจ็บตัวหนักกว่าเก่า ทำให้บางทีการอ่านนิยายประโลมจิตใจพวกนี้อาจเป็นทางออกที่ดีกว่าสำหรับคนที่เป็น nobody ในชีวิตจริง เพราะความจริงมันโหดร้ายจนต้องเข้ามาพึ่งพิงโลกนิยายหรือโลกอินเตอร์เน็ตแทน

เอาจริงๆ กูก็ไม่ได้สนับสนุนแนวคิดพวก Escapism อะไรนักเพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่คนอ่านบางส่วนอาจไม่ใช่คนขี้แพ้ แค่ชอบอ่านนิยายแนวสุขนิยมเฉยๆ แล้วดันมีคนพวกนี้อยู่เยอะ พอมันขายดีคนก็ทำมาขายเรื่อยๆ เป็นธรรมดา

ต้องนึกไว้ในใจเสมอก่อนอะว่ามันเป็นโลกแฟนตาซีที่อะไรก็เป็นไปได้ เหมือนแนววายที่ชีวิตจริงมันหาหนุ่มหน้าตาดี 2 คนมาคลอเคลียกันให้ดูบ่อยๆ ไม่ได้ นิยายเลยเป็นทางออกหนึ่งไปนั่นแหล่ะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.