บทที่ 2 ภารกิจจากลุง
วิญญาณไอ้เมฆไปโผล่ในพื้นที่ประหลาดที่นักเขียนไม่ได้บอกว่าประหลาดยังไง รู้แค่มีประตูสลักลวดลายงดงามไว้ เปิดประตูไม่ออกเลยยืนรออยู่ชั่วโมงหนึ่ง ก่อนที่ตาลุงผมทองจะเปิดประตูออกมาคุยด้วย ลุงบอกว่าที่นี่เป็นช่องว่าระหว่างมิติ เอาไว้ตัดสินว่าใครจะต้องไปนรกหรือสวรรค์ แต่มึงไม่ต้องไปทั้งคู่เพราะกำลังจะโดนกูส่งไปเกิดต่างโลกที่มีทั้งเวทย์มนต์ ลมปราณ และพลังจิต คนในโลกนั้นรู้จักแค่เวทย์มนต์ (ขัดใจเหี้ยๆ แต่ก็ต้องเขียนตามมัน) มึงมีหน้าที่ไปเผยแพร่ข้อมูลว่ายังมีปราณกับพลังจิตอยู่อีกด้วย แล้วไอ้ 2 อย่างนี้มึงก็มีอยู่ในตัวอยู่แล้วจากการเรียนวิชาดาบกับเรียนต่อยมวย (ห๊ะ มึงว่าอะไรนะ) ยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อ ลุงก็ต่อยหน้าไอ้เมฆจนวูบ ได้สติอีกทีก็คือตอนกำลังไหลออกมาจากกีคุณแม่ คือจำอะไรได้หมดแต่พูดไม่ได้เพราะอยู่ในร่างเด็กทารก พ่อใหม่ตั้งชื่อไอ้เมฆว่า "คลาวด์" เออ... แปลว่าก้อนเมฆพอดี ละชื่อนี้ก็โหลสัสๆ เลยนะ สำหรับ Genre นี้ ไอ้ประเภทอิเซไคมาเกิดใหม่ในตระกูลขุนนางแต่มีลมปราณระดับพลังแบบจีนเนี่ย พวกมึงอ่านเดวาวิซาร์ดกับนิยายของไอ้ตุ๋นกบแล้วเอามาเขียนบ้างกันทุกคนเลยหรือไง ทำไมพระเอกแม่งชอบชื่อคลาวด์วะ
บทที่ 3 ฝึกอ่านหนังสือกับท่านแม่
ไอ้คลาวด์อวดว่าชาตินี้พี่โคตรเทพ ฉลาดเกินวัยทั้งเรื่องการอ่านเขียนและการเดินที่เร็วกว่าเด็กคนอื่นตั้ง 2 ปี แต่ยังไม่รู้ภาษาของโลกนี้เท่าไหร่นัก เลยไปขออ่านหนังสือกับแม่ แม่ก็จัดให้ลูกชายด้วยการอ่านนิยาย BL ต่างโลกให้ฟัง พี่คล้าวบอกกูแม่งพลาดแล้ว สุดท้ายเลยต้องนั่งฟังบทรักดูดปากเด้าตูดของเหล่ายอดชายไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม พอได้จังหวะเลยหนีด้วยการอ้างว่าจะไปเจอพ่อ พ่อก็งานยุ่งต้องทำบัญชีส่งเมืองหลวง ดูจากตัวเลขคร่าวๆ ก็เห็นว่าเมืองที่พ่อดูแลอยู่ประชาชนรายได้ไม่ค่อยดีนัก แล้วจบตอนไปดื้อๆ
บทที่ 4 วันวานของนาเดียร์&เอริก
เปลี่ยนมาเล่าเกี่ยวกับพ่อและแม่ของพี่คล้าวด้วย POV 1 ของแต่ละคนในรูปแบบ
ข้าชื่อ...(ชื่อแม่)
(ความหลังก่อนมีพี่คล้าว)
ข้าชื่อ...(ชื่อพ่อ)
(ความหลังก่อนมีพี่คล้าว)
จบตอนที่น่าจะยาวแค่ 1,500 ตัวอักษร
บทที่ 5 เริ่มวางแผนพัฒนา
เนื้อหา 2 ใน 3 ส่วนแรกของตอนเป็นพี่คล้าวขอไปเที่ยวชายทะเลกับพ่อ พบว่าการประมงแม่งล้าหลังมากๆ อาหารก็มีแต่ขนมปังและกับข้าวรสชาติจืดชืด พี่คล้าวเกิดความคิดดีๆ ว่าอยากทำเครื่องปรุงรสขึ้นมา เลยขอให้เด็กรับใช้ปืนขึ้นไปตัดช่อดอกมะพร้าวละเอากระบอกเหล็กไปรองไว้ พอได้น้ำหวานมาเต็มกระบอก ก็ขอให้พี่ชายคนเดิมไปกรอกน้ำทะเลใส่กระบอกมาให้ด้วยอีกสัก 2-3 กระบอก พร้อมกับอธิบายในความคิดว่าจำวิธีทำน้ำตาลมะพร้าวมาจากการไปเที่ยวสมุทรสงครามกับหลวงพี่ในวัด ส่วนเกลือก็ใช้น้ำทะเลทำเอาแต่อาจต้องรอถึง 2 สัปดาห์กว่าจะกลายเป็นเกลือ (โลกนี้มันมีวิธีการต้มอยู่นะพี่คล้าว) อีกอย่างที่ต้องพูดคือปริมาณน้ำหวานที่ใช้ก่อนจะเคี่ยวจนกลายเป็นน้ำตาลปี๊บ ขนาดน้ำหวานเต็มกระทะโรงทานยังเคี่ยวแล้วได้น้ำตาลแค่ 5 ถ้วยตวง น้ำหวานกระบอกเดียวของพี่คล้าวจะได้น้ำตาลสักเท่าไหร่กันเชียว แต่ก็ช่างแม่ง บางทีน้ำหวานต่างโลกอาจเข้มข้นกว่า หรือมีความหนาแน่นมากกว่าจนได้น้ำตาลออกมาเยอะก็ได้
เนื้อหาอีก 1 ส่วนที่เหลือเป็นการเล่าของพ่อพี่คล้าวผ่านการตัดฉากด้วยคำว่า "มุมมองเอริก"(ตัวหนา) เกี่ยวกับการเดินทางมาเมืองชายทะเลครั้งนี้ แล้วก็ไม่มี cliff hanger เหมือนเคยแถมตอนยังสั้นอีกด้วย