>>634 >>635 อ่านแล้วเหมือนการเลียนพยัญชนะที่อยู่ในจุดเดียวกันของประโยคก่อนหน้า มากกว่าเป็นการเล่นคล้องจอง พ้องเสียง พ้องรูป คือกูเข้าใจนะตอนมึงมาอธิบาย แต่ถ้ามึงไม่อธิบายแบบนี้ ตอนกูอ่านแล้วอาจไม่เห็นว่ามันพิเศษยังไง เพราะมันเป็นการเล่นคำแบบที่ไม่ได้เด่นจนสังเกตได้ง่าย ถ้ามึงแต่งแบบนี้แล้วไม่ติดขัดอะไร หรือเคยชินการมีลูกเล่นแบบนี้โดยไม่ทำให้มึงตันก็เขียนได้ตามสบาย ที่เป็นห่วง เพราะมันมีพวกที่ยังไงก็อยากเล่นคำให้ได้ เลยเขียนต่อไม่ออกถ้าไม่ได้สร้างกิมมิคแบบนี้ในระหว่างแต่ง สุดท้ายแม่งตันตามด้วยเลิก (ถ้าอยากแต่งคล้องจองนัก มึงก็ไปแต่งกลอนดิห่า) ขนาดคนที่ถนัดใช้คำคล้องจองจริงๆ เขายังรู้เลยว่ามันทำแบบนั้นตลอดเวลาไม่ได้ เพราะถ้าฝืนใส่ บางทีสารที่อยากจะสื่อให้คนอ่านเข้าใจมันจะเพี้ยนไป ก็เลยเล่นคำพวกนี้เมื่อจังหวะมันลงตัวเท่านั้น (ไม่อย่างนั้นก็แต่งกลอนไปเลยแม่งทั้งเรื่องเหอะ)