กูมาพูดในฐานะนักเขียนรายได้หลักแสน พวกมึงจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ เพราะทุกครั้งที่กูมาตีแผ่ความจริง จะต้องมีคนคิดว่ากูตอแหล ก่นด่าขับไล่จับผิดกูเสมอ จนกูเลิกเล่นโม่ง
ใครที่สงสัยว่านักอ่านเว็บนี้คุณภาพต่ำหรือเปล่า กูไม่รู้ และไม่สนด้วย กูไม่เคยวิเคราะห์ด้วยซ้ำว่านักอ่านเว็บนี้มีคุณภาพหรือเปล่า กูสนแค่จะทำยังไงให้พวกมันยอมเปย์นิยายกู
กูไม่ค่อยเก็ตมุมมองพวกมึงสักเท่าไหร่ อ่านไม่เข้าใจ แต่ถ้าให้พูดในมุมมองกู กูคิดว่านักอ่านเว็บนี้แม่งช่างเลือกมากๆ การจะยอมให้มันสละเวลามาอ่านนิยายมึงได้นี่โคตรยาก มึงต้องมีดีสักด้านจริงๆ ถึงจะมีคนอ่าน
ยากมากที่จะให้นักอ่านยอมจ่ายเงินสักบาท เนื้อหาแต่ละตอนมึงต้องเยอะ ไม่งั้นจะมีคนบ่นว่าไม่คุ้ม เทนิยายทันที พยายามหาข้องอ้างสารพัดที่จะไม่เปย์ และเนื้อหานิยายมึงต้องห้ามวนไปวนมาเด็ดขาด ต้องรักษาคุณภาพไว้ให้ได้
นิยายกูตอนพีคๆ คนอ่านเฉลี่ย20000คนต่อบท แต่คนซื้อเฉลี่ยแค่ตอนละ3000ครั้ง มากสุด6000 คิดดูแล้วกันว่าต่างกันแค่ไหน มันยากมากๆที่จะทำให้นักอ่านยอมจ่ายเงินแค่ 2 หรือ 3 เหรียญ
และมึงต้องเขียนให้พีคตลอด ห้ามแผ่ว ต้องอัพทุกวัน ถ้าเนื้อหาไม่พีค เนื้อเรื่องดรอปนิดเดียว คนอ่านดองทันที และพร้อมใจกันดองครั้งเดียวหลักพันคน ถ้ามึงหมดมุกนานๆ เขียนน่าเบื่อไปนานๆ หรือดองนาน นิยายมึงจะเสียความนิยมแบบกู่ไม่กลับ พลาดแล้วพลาดเลย ไม่มีทางกลับไปจุดเดิมได้อีก กูท้อและเหนื่อยมากที่ต้องรักษาคุณภาพนิยายในแต่ละวัน ไม่รู้ว่านิยายจะเสียความนิยมวันไหน วันไหนเขียนห่วย ยอดขายลดฮวบทันที ไม่แปลกใจที่นักเขียนติดท็อปหลายคนพากันเทง่ายๆ เพราะมันเหนื่อยจริง จิตตกมาก
มีนิยายใหม่ๆ ผุดขึ้นมาทุกเดือน เข้ามาแย่งอันดับ และนิยายใหม่ๆพวกนี้ นักอ่านจะเห่อมาก กูต้องยอมให้มันแย่งอันดับไปแบบที่ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะแพ้กระแส แต่ความสม่ำเสมอจะทำให้กูอยู่รอด รอให้นิยายใหม่ๆพวกนั้นทำพลาดไปเอง
กูเสียสุขภาพจิตว่ะ อายุนิยายแต่ละเรื่องมันสั้นมาก มาไวไปไว นิยายท็อปส่วนใหญ่อายุเฉลี่ย3เดือน จะพีคแค่ช่วงนี้ หลังจากนั้นจะดร็อปแน่นอนทั้งความนิยมทั้งรายได้ เว้นแต่เมิงเปิดเป็นนิยายอ่านฟรีตลอดๆ
รายได้6หลักต่อเดือน แต่ให้ทำยาวๆ ไม่หยุดพัก คงไม่ไหว ถ้าจะหากินเลี้ยงชีพแบบสบายๆ ต้องเอาเงินไปลงทุนอย่างอื่น ส่วนนิยายเอาไว้หาเงินก้อนไปลงทุน จะได้ไม่ต้องไปหากู้ที่ธนาคาร
ส่วนนักอ่านแม่งเทนิยายได้ง่ายๆ กูขอย้ำอีกที แฟนพันแท้ก็ส่วนแฟนพันแท้ กลุ่มนี้ไม่หนีกูไปไหน แต่ขาจรมันเทมึงแบบไม่แคร์เชี้ยไรทั้งนั้น ทำไม่ถูกใจนิดเดียว มันหนีไปเรื่องอื่น พร้อมจะเกาะกระแสนิยายเรื่องใหม่เสมอ และมันเลือกเปย์แค่เรื่องเดียวเพราะงบจำกัด เหี้ยมากอะ โคตรยากและท้าทาย ขนาดกูว่ากูโปรสุดๆระดับท็อปประเทศไทย ประสบการณ์มีมากมายยังเครียดเลย
อีกอย่างวงการนิยายไทยแผ่วลงทุกวันๆ สื่อบันเทิงเยอะจัด ตอนนี้อยู่ได้เพราะกระแสนิยายจีนแปล ถ้านักเขียนไทยคนไหนอยากรวยก็เกาะกระแสนี้ไว้ รอกระแสใหม่มา ค่อยเกาะกระแสใหม่
กูทำแบบนี้มาเรื่อยๆ เดินตามกระแสนิยายตลาด จนมีเงินเลี้ยงปากท้อง ซื้อรถซื้อบ้าน แต่นักเขียนส่วนใหญ่ทำไม่ได้ เพราะจมอยู่กับอดีต เขียนอยู่แนวเดียว ปรับตัวไม่เป็น ไร้พรสววรค์ โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว มัวแต่เขียนเหี้ยไรกันก็ไม่รู้ นักเขียนที่เก่งจริงต้องเขียนได้ทุกแนว ไม่ใช่ยึดอุดมการณ์โง่ๆ หาข้ออ้างหลอกตัวเองไปวันๆ
กูอยู่รอดมาทุกยุคทุกสมัย ส่วนพวกนักเขียนแก่ๆหัวโบราณก็ปล่อยให้มันจมปลักต่อไป อย่าคิดว่าวิธีการเขียนแบบ10ปีที่แล้วจะใช้ได้กับทุกวันนี้ มึงอยู่ปี 2022 มึงก็ต้องเขียนแบบ 2022 ถ้ายังดันทุรังเขียนนิยายเหมือนอยู่ในปี2009 มึงไปตายให้หนอนแดกซร้าาาา
เมื่อก่อนกูเขียนนิยายบทละ12000คำ เดี๋ยวนี้ตอนละ1000คำ มึงคิดว่ากูต้องฝืนตัวเองแค่ไหนวะ ทรมานเชี้ยๆ แต่กูต้องปรับตัว ต้องศึกษาพฤติกรรมคนอ่าน ดูว่ามันอ่านนิยายกันด้วยเครื่องมือแบบไหน คำตอบคือ มือถือจอเล็กๆ เขียนยาวๆแบบสมัยPcไม่เวิร์คแน่นอน
จากนั้นศึกษาว่ามันอ่านนิยายกันตอนไหน คำตอบคือ อ่านตอนเช้าก่อนไปเรียน ก่อนไปทำงาน ตอนพักเที่ยง ยิ่งต้องเขียนให้กระชับ เพราะนักอ่านแม่งมีเวลาอ่านจำกัด นิยายกูต้องสั้น ไม่มีน้ำ พวกมันจะได้พอเจียดเวลาจากการดูเน็ตฟลิกมาได้ ตามนี้นะคับ ต้องมองกระแสให้ออก
ลงชื่อ โม่งเห็บหมา