เมื่อวานตะลุยอ่านอีกรอบ เพิ่งสังเกตว่าเจ้าแม่บ่นหงุงหงิงเรื่องคาบุไม่เหมือนการ์ตูนเยอะเหมือนกันนะ ไม่ได้ดูตัวเองเล้ย
>>98 มังงะโชโจเขาก็ต้องเขียนพระเอกหล่อเท่เติมเต็มความฝันของสาวน้อยนักอ่าน ก็เลยมีแต่ด้านเท่ๆให้เห็นอะเน้อ แต่พอมาสนิทกันจริงๆดันเป็นคนรั่วหลบใน ไอ้ที่เงียบขรึมดูเก๊กๆนี่น่าจะปิดบังความต๊องอยู่ แบบเจ้าแม่อะ คนไม่สนิทก็เห็นว่าเป็นผู้ใหญ่ ดูน่ากลัวนิดๆ แต่พอสนิทกันจริงๆแบบซาโตมินี่แทบจะเล่นหัวได้
เจ้าแม่เดี๋ยวๆก็บ่นรำคาญคาบุรากิ แต่กับเอ็นโจนะ มีแค่พูดผ่านๆว่าตอนอ่านชอบตัวละครตัวนี้ที่สุด แหมยาวๆ
>>93 การ์ตูนหลังจากเรย์กะกับเอ็นโจคบกัน
ระหว่างทั้งสองคนจูบกัน เรย์กะทำท่าขัดขืนขึ้นมานิดนึง
เอ็นโจ : เป็นอะไรไปเหรอ
เรย์กะ : วันนี้พอ พอแค่นี้เถอะค่ะ
เอ็นโจ : ทำไมล่ะ
เรย์กะ: เพราะ..เพราะวันนี้จุ๊บไป..ไปเยอะแล้ว
เอ็นโจ: ถ้าหากว่าเราจุ๊บกันเยอะแล้ว ก็ห้ามทำต่อเหรอ ผมคิดว่า จูบเนี่ยทำกี่ครั้งก็ได้นะ
เรย์กะ : ไม่ได้นะ
เอ็นโจ: ทำไมล่ะ
เรย์กะ : ก็..ก็มันเยอะมากๆๆ แล้วนี่ (เขิน)
เอ็นโจ: (น่ารัก กอดๆ)
พวกเรารอกันมากี่ปีแล้วเนี่ย
เป็นทาสเจ้าแม่มาตั้งแต่มัธยมจนตอนนี้กูจะจบปริญญาแล้วขอของขวัญจบปริญญาล่วงหน้าเป็นตอนที่300ไม่ได้หรือ//กัดผ้าเช็ดหน้า กระซิกๆ
กูไม่ได้ตามเรื่องนี้หลายปีเลย เพิ่งเห็นว่าคนเขียนยังไม่มาอัพต่อ เลยอ่านใหม่อีกรอบ ตอนนั้นที่อ่านก็รู้สึกว่ามันมิตรภาพดี แต่ตอนนี้ ทำไมมองว่าเอ็นโจมันดูมีพิรุธแปลกๆ ขอให้ชอบนางเอกจริงๆละกัน ไม่อยากให้ท่านเรย์กะเป็นพญานกเลย
มีพิรุธก็เพราะมาจากมุมมองเจ้าแม่ด้วยแหละ มันต้องมีอะไรที่เจ้าแม่บอกไม่หมดแหงๆ
อันนี้กุเดานะ สาเหตุที่ท่านฮิโบยโกะไม่เขียนต่อ...
1.ลืมรหัสนักเขียน เลยกลับมาแต่งไม่ได้ เลยปล่อยเลยตามเลยไปแม่งเลย
2.ท่านฮิโยโกะช่วง200ตอนมานี้มีประเด็นโดขิโดขิ และTagโชโจเรืองอำนาจกลับมายาวๆ ทำให้ท่านฮิโยโกะรู้สึกไม่โอเคเลยหมดแพสชั่น....ว่าอาหารมันหายไป
3.โดนเอนโจ,คาบุรากิในชีวิตจริงจับได้(ดูจากเนื้อหานิยายในเรื่องก็คงเอามาจากคนจริงเรื่องเล็กๆน้อยๆบางอย่าง) ซึ้งถ้านิยายชุดนี้ถูกนำเรื่องจริงมาผสมด้วย อาจจะกลายเป็นว่าเอาเรื่องส่วนตัวกับเรื่องคนรอบข้างมาเขียน แถมนิยายก็ดังติดTop10แม้จะไม่มีLCในยุ่น พอตัวจริงที่เอาต้นแบบมาเจอเข้าเลยเกมไปเลย
4.พยายามเก็บข้อมูลมเขียนนิยายแต่ตันและไม่มีเวลามากพอ เลยล้มเลิกไป (...อันนี้ส่วนตัวกุเองเลย กุเขียนไม่จบก็เพราะงี้เหมือนกัน)
5.ดันไปทำอะไรอย่างอื่นนานๆพอกลับมาแต่งกลับรู้สึกไม่พอใจ หรือรู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิม อาการจากการลืมการแต่งนิยาย (ซึ้งก็ส่วนตัวกุเอง...ใช้เวลาเกือบ2ปี)
5.5. กลับมาเขียนแต่ลืมพล็อตตัวละครไปหมดแล้วจากการที่ไปทำอย่างอื่นนานๆ (ซึ้ง2ปีกุก็ลืมพล็อตนิยายตัวเองหมดแล้ว นี้ท่านฮิโยโกะหายไป4ปี กุว่าลืมชัวร์ๆ) แถมหลายช่วงเรย์กะ ให้อารมณ์นิสัยที่ต่างกัน ซึ้งถ้านี้มาจากการที่เอานิสัย(ไดอารี่)ช่วงนั้นของท่านฮิโยโกะ ก็อาจจะมองได้ว่าที่เขียนมาตอนนี้คงไม่เหมือนเดิมในระหว่างที่เรื่องอยู่ช่วงท้ายๆแล้ว ซึ้งเขียนฉากโดขิโดขิไม่ขึ้น หรือมันหวานเลี่ยนไปไม่เหมือนเนื้อเรื่องก่อนๆ เลยยอมทิ้ง(ก็เป็นบ่อย ถ้าเขียนต่อแล้วห่วย ยอมหายไปตอนที่มันยังดีอยู่ดีกว่า)
สูดดดดดดดดด~~~~
กุว่ามองได้หลายแบบเลยวะ แต่อันนี้กุเสพกาวเอง ไม่ต้องเครียดหรอก
ดีนะพวกมรึงแม่งกาวแถมบ้าพลังกันชิบหาย(ของต่างประเทศโคตรจืดติดอยู่กับความจริง) อย่างฟิคทะลุมิติ หรือฟิคเอ็นโจเรย์กะ ถึงจะไม่ตรงความจริง แต่อย่างน้อยพวกมรึงก็บรรเทาหัวใจอันคอยนานได้
ขอสวดภาวนาหากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเจ้าแม่กาลีเมตตา โปรดบรรดา ให้ท่านฮิโยโกะกลับมาแต่งต่อด้วยเถอะ...
ขอปีนี้ก็ได้ อยากอ่านเรื่องนี้จบจริงๆ
กูรอด้วยความหวังลมๆแล้งๆเหมือนกัน… โควิดที่ติดอยู่กับบ้านมานานขนาดนี้ แต่ท่านฮิยังไม่มีโมเม้นกลับมาอัพให้ชื่นใจ กูก็…ค่อนข้างจะริบหรี่
กุ>>112 (อย่าโยง...นะเว้ย) กุรอมานมนาน จนรากงอกแล้ว แต่กุจะทนต่อไป...เพราะกุบังเอิญกลับมาอ่านแล้วหลงรักอีกครั้ง
แต่อันนี้อาจจะติดลบหน่อยนะ.... การทิ้งนิยายสำหรับกูเลยนะ ปีนี้ถ้าไม่เขียนจะครบได้4-5ปี ซึ้งอาจจะไม่สามารถเขียนนิยายได้อีกเลย(3-4ปีนี้ไม่ใช่แค่ลืมพล็อตแล้ว...จบสิ้นฐานะนักเขียนด้วย ท่านฮิโยโกะขอร้องอย่าถึงขั้นนั้นเลยนะ)
ซึ้งก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะค้นพบตัวเองแล้วกลับมาเขียนใหม่....
ตอนนี้หวังแค่ว่าแกคงไม่โดนIsekaiไปหาเรย์กะ หรือเป็นอะไรไปเลย.... ตอนนี้มองแค่ว่าไม่ เรียนมหาลัยแล้วอยู่ช่วงทำงาน ก็ เลี้ยงลูกยาว เดาได้ไม่กี่อย่างเลยอ่ะ
เรือ ณ ปัจจุบัน(ในสายตากุเอง)
คำเตือน ⚠️ กุอ่านข้ามบางส่วนเพราะ พอกลับมาอ่านกุก็รู้สึกว่าหลายๆช่วงมันแอบน่าเบื่อไปหน่อย...คือก็ตลกแหละ แต่เรื่องไม่เดินเลย....เพราะงั้นหลายๆช่วงกุจะเลือนลางไปบ้าง (คิดว่าLCมาเมื่อไร่คงเอาช่วงม.6ยัดไปแทนม.5บางส่วนแล้วลบช่วงนั้นออก กับเร่งช่วงแรกให้เข้าตอน50-60ไวขึ้น..) ผิดพลาดไรโทษนะเพื่อนโม่ง แต่กุอ่านช่วง180-299แบบไม่ข้ามเลยอันนี้กุสาบานได้
______________________________________________
เรือเอ็นโจ... : เรือหลักของเหล่าโม่ง ฉายามือวางระเบิดเรือตัวเอง หลายต่อหลายครั้งมักโผล่มา แกล้งเรย์กะแล้วหัวเราะสนุกสนาน เรียกได้ว่าหมอนี้สร้างลูกเรือตัวเองตลอดช่วงของเรื่อง ...แม้หลายๆคนจะด่าเรื่องที่ไอนี้มันหักธงตัวเองหรือไม่จีบจริงจังซะที แต่ถ้ามองในแง่หนึ่ง เอ็นโจไม่เคยมีโมเมนต์อะไรมายืนยันว่าเฮียแกชอบเรย์กะเลย แม้จะแกล้งเจ้าแม่หลายครั้งแต่บางครั้งออกไปทางฉีกหน้ามากกว่า แต่ช่วงหลังก็จะสังเกตว่าเฮียแกก็แกล้งทั้งคาบุรากิกับเรย์กะทั้งคู่ด้วย.. หรือช่วงที่เวลายุยโกะโผล่มาแล้วเหล่าโม่งมักคิดว่าเจ้าแม่เอาแต่ว่าตัวเองดูเสียความมั่นใจตลอด.. กุว่าก็พอเป็นไปได้นะ แต่ไปทางไม่เท่าไหร่ เพราะอย่างช่วงตอนไปงานชมซากุระพอพาควงกันไปก็แสดงออกทางใจชัดเจนว่าอิจฉาพวกมีคู่พร้อมสาดสายตาไปยังพวกมีคู่ทั้งหลาย คือเจ้าแม่ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นเอ็นโจ หรือยุยโกะเลย.. นางบอกไม่ชอบดวงตาเวลาโดรแล้วรู้สึกเหมือนโดนจองล้างจองผลาญบอกให้อโหสิตัวเองในใจไม่ แถมยิ้มสวยแท้แต่แล้วนางบอกรู้สึกสยองจนกลัวด้วย... ตอนรู้เรื่องยุยโกะรถไปกันก็มองแค่ว่าอยากผลักภาระ(คาบุ)ให้นาง
.
.
ซึ้งถ้าจะมองเฮียในแง่ดีเฮียแก อาจจะไม่อยากแสดงออกว่าชอบเรย์กะ เพราะฮีเองก็มีคู่หมั่นอยู่แล้ว แต่ ณ ปัจจุบันที่นอกจากคะแนนสอบตกเรื่อยๆ เอนโจยังเลือกบอกหนีมาโรงเรียนเพราะปัญหาทางบ้าน(ครั้งแรกที่เฮียดูจริงใจและรู้สึกเหมือนเฮียเหนื่อยแล้ว) ไหนจะตอนที่ยุยโกะโผล่มาครั้งแรก(เรียกชื่อเอ็นโจ) เอ็นโจสะดุ้งหน่อยๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้ายิ้ม ยูกิโนะกำมือเรย์กะแน่น..ตัวแข็งทื่อ
ถ้าเดากันง่ายๆจบเรือนี้เจ้าแม่ประกาศกับเอ็นโจแทน
- เอ็นโจที่เคยสงบเงียบมาตลอดเริ่มปล่อยโฮความรู้สึกถึงภาระที่ทนไม่ไหว.. กลางสายฝน(ไม่รู้ทำไมแต่ฟังดูเท่ดี)
- ยูกิโนะคุงที่อาจจะมาพูดอะไรบางอย่าง...ที่เศร้ามั๊กๆ
- เรย์กะได้รับรู้ถึงคำสารภาพจากเอ็นโจ ว่าฮีดีใจที่ได้เจอเรย์กะและคาบุแค่ไหน หรือไม่ก็บอกชอบเรย์กะ
- เรย์กะที่รับรู้เลยตัดสินใจแต่งงานกันขัดขายุยโกะ ที่อาจมีอะไรบางอย่าง..
- ตระกูลเอ็นโจที่เห็นว่าตระกูลคิโชอินจะมาดองเลยไม่มีทางเลือกยอมรับการตัดสินใจของเอ็นโจ
- และนางก็ได้รู้จักเอ็นโจตัวจริงโดยได้รับรอยยิ้มนั้นไว้ ว่าเป็นรอยยิ้มที่จริงใจ..
ถ้าจะมีแกรปอะไรให้ดราม่าหน่อยก็คงคาบุรากิที่พึ่งมารู้ใจตัวเองว่าตัวเองชอบเรย์กะไปแล้ว(อยู่ด้วยกันแป็ปเดียวสนิทกว่าเอ็นโจอีก...) และแอบได้ยินประโยคจากใจของเอ็นโจก็ได้แต่นั่งร้องไห้ ยอมให้เพื่อนสนิทได้ไป อกหักรอบที่3 สุดท้ายในงานแต่งงานคาบุนึกถึงตอนเด็กที่เห็น(มโนคิดเอาเอง)ว่าเรย์กะตอนเด็กที่ยิ้มแย้มอวยพรให้คนที่แอบชอบต่อหน้าอย่างมีความสุข ทว่ากลับไปยืนร้องไห้อยู่คนเดียวจนดูไม่ได้ ซึ้งเขาไม่เข้าใจ แล้วนึกขึ้นได้ถึงตอนที่ไปรับของจากรุ่นพี่ที่ชอบกับแฟน ว่าขนมรสพีชชิ้นนั้นได้มอบความกล้าที่จะตัดใจจากยูริเอะและกลายเป็นน้องชายดูเธอมีความสุข ในวันแต่งเขาได้มอบขนมชิ้นนั้นคืนให้แก่เรย์กะพร้อมยิ้มขอบคุณที่สว่างไสวว่า “ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบคุณมากนะที่คอยช่วยเหลือฉัน..” ส่วนวาคาบะแต่งกับนายตัวสำรองและวาคาบะจังมาหาบ่อยๆ คาบุรากิไปแต่งกับคนอื่นแทน...
แต่เรือนี้น่าจะยากเพราะอนึ่งเอ็นโจมีคู่หมั่นแล้ว เรย์กะถ้าอยู่ๆจะไปรับรักแล้วจะไปเป็นมือที่สามก็คงไม่ใช่ แถมถ้ามองในมุมยุยโกะ ถือก็ไม่ผิดเท่าไหร่ ณ ปัจจุบันที่เห็น อย่างการควงแขนหรือตอนไปหาเอ็นโจที่กำลังคุยกับเรย์กะ อย่างที่บอกข่าวเอ็นโจเรย์กะก็มีหนาหูมาตลอด การประกาศการเป็นเจ้าของก็ไม่ได้ผิดอะไร แถมไม่ได้ทำอะไรแบบเรย์กะคิมิ หรือตามแซะแบบไมฮามะ,ซึรุฮานะ ขนาดซากุระเพื่อนสมัยเด็กยังแรกขนาดนั้น นี้ว่าที่คู่หมั้นหนักกว่าคำว่าแฟนไปแล้ว เป็นคู่หมั้นกันแต่อยู่ๆมีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาสนิทสนมแถมมีข่าวกับว่าที่คู่หมั้น ถึงจะร้ายใส่ก็เข้าใจได้ว่านางก็รักของนาง ไม่เคยไปเบียดเบียนเรย์กะ หรือทำร้ายใครเลยด้วยซ้ำ พอมองมุมปกติแล้วก็ยากมากที่เรย์กะจะรับรักเอ็นโจ
เรือคาบุรากิ : เรือนี้ค่อนข้างชัดมากจนแถบไม่ต้องลุ้น เรียกเว่าเรือมาทีหลังแต่แซงทะลุไปขับเคี่ยวกับเรือวาคาบะจังก่อนจะจะแซงหน้าไป ทันใดนั้นเองหน้าของกัปตันที่ดูคุ้นเคยเหมือนมาจากเรือที่แล้ว... กัปตันเรือลำนี้ก็คือ “เอ็นโจ ชูสึเกะ” ทรยศลูกเรือเอ็นโจหน้าด้านๆ..ไอจอมมารเอ๋ย!? ณ ปัจจุบัน เรือนี้ทะลวงแม่น้ำเฟรนด์โซนทั้ง7มาแล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องที่ว่าดันชอบวาคาบะจัง แต่เหตุผลกับการชอบถือว่าตื้นเขินมาก... ถ้ามองแบบแฟร์ๆ ทุกครั้งที่วาคะคาบุเดิน1ก้าว คู่ของเรกะคาบุก็จะเดินไป3ก้าว.. คือความสัมพันธ์ของสองหน่อนี้คือไปไกลกว่าวาคาบะจังแล้ว คือ2คนนี้เข้ากันดีไวมากๆ ถ้าเรย์กะไม่ตีระยะห่างกับคาบุแต่แรกคงสนิทกันมากแหง่ๆ ขนาดเวลาแค่นี้ยังสนิทกันปานร่างแยก คู่นี้มันกาวดี
คือถ้ามองตามปกติความจริง การคบกันเป็นแฟนคือก้าวแรกของความรักเท่านั้น เพราะต้องคอยปรับตัวกันและกันว่าเข้ากันได้ไหม ไม่ใช่อยู่กันทั้งชาติ แต่สำหรับคาบุคงแบบสารภาพรักแบบทุ่มสุดตัวเลย.. อย่างที่เรย์กะบอกนั้นแหละว่าควรลองขอคบกันไปก่อนเลย ให้เขารู้ว่าเรามีใจให้ลองมาคบกันก่อนไหม อย่างน้อยเจ็บก็เจ็บเบาแถมถ้าไม่เข้าก็จบเป็นเพื่อนแท้กันได้
วาคาบะเองก็ไม่มั่นใจ คือพอรู้ว่าน่าจะสนใจตนแต่ไม่รู้ว่าคิดไปเองจริงๆไหม เพราะไอเรื่องคิดไปเองแล้วหน้าแตกก็บ่อยไป(ดูเจ้าแม่เป็นตัวอย่าง) จบแย่กันแบบมองหน้าไม่ติดแน่ แถมข่าวลือที่เรย์กะคาบุรากิก็รู้กันหนาหูทั้งในมุมมองของนักเรียนชาย/หญิงกับเพื่อนริรินะ วาคาบะจังคงกังวลว่าตัวเองจะกลายเป็นมือที่3ของเรย์กะจังที่เป็นเพื่อนรักของเธอที่ติดหนี้มาไม่รู้เท่าไหร่
ที่ว่าเรือวาคะคาบุจมแน่ๆ คือ โมเมนต์ทั้งหมดของคาบุรากิ เจ้าแม่เรย์กะเอาไปทั้งหมดแล้ว..การที่คอยช่วยเหลืออย่างลับๆต่อหน้าและลับหลัง(ขนาดวาคาบะจังยังแสดงอาการเป็นเมียเก็บที่ฟังข้อแก่ตัวของสามีนามเรย์กะจนชิน..) อีกทั้งไม่มีเรย์กะเป็นตัวโกงแล้ว ทำให้ทั้งคู่ไม่มีจังหวะได้พิสูจน์รักแท้แล้วสารภาพรัก โดยอุปสรรคอย่างเรย์กะมาให้ฝ่าฟัน ทำให้ยิ่งยวบยาบเข้าไปใหญ่ เหตุผลความรักก็บ๊องตื้น และจากตอน299..ที่ผมคาบุโทรหาเรย์กะตอนที่มาหานาง วาคาบะจงก็คงเริ่มระแคะระคายเรื่องนี้..(ในแหง่มโนเอง)
ซึ้งเรียกได้ว่าคาบุหันมาเลือกเรย์กะตอนไหนเรือเฮียชนะทันที.. กัปตันมันโหดไม่พอ ครอบครัวนี้ก็เต็มที่ทั้งฝ่ายหญิงและชายรวมทั้งเพื่อน แต่คงต้องรอให้คาบุอกหักจากวาคาบะจังก่อน คือเอ็นโจเหมือนเฮียพยายามจับคู่คู่นี้แล้วสนุกพอใจดี แถมฝ่ายชายครอบครัวนี้มาทีไรชอบ พยายามฝากฝั่งคาบุรากิให้เรย์กะไปแล้ว.. คือถ้ามองในมุมมองมาดามคาบุรากิ เรย์กะชาติตระกูลดี มารยาทงาม รักครอบครัว เป็นที่เคารพและสัมพันธ์กว้างขวางในหมู่คุณหนู ฉลาดเรียนเก่งถึงจะไม่เว่อเท่าพวกตัวละครเอก แต่ติดTop20นี้ก็ไม่ธรรมดา แถมยังสวยและโดดเด่น(จากมุมมองตัวประกอบ) คือขนาดชาติก่อนเรย์กะมังงะนิสัยแย่ขนาดนั้นยังรับได้
หากว่าตามจริงเรย์กะนิยายถือว่ามีสเปคสูงมาก ดีเลิศทุกด้าน คิดว่าวาคาบะต่อให้ชอบก็คงชนะยาก แถมนางสนิทกับคาบุจนมีข่าวลือ พาขึ้นรถแล้วแอบไปไหน2คนตลอด กุว่ามาดามใจแม่งคงอยู่ที่งานแต่งไปแล้ว
คู่นี้ไม่มีไรมากอยู่มาด้วยความกาว..อย่างที่บอก ถ้าคาบุอกหักดังเปรี๊ยะ แล้วมองคนรอบข้าง คิดว่าคงมองเห็นว่าตัวเองสนิทกับเรย์กะไกลคำว่าเพื่อนไปแล้ว
>>117 มึง กูคิดคล้าย ๆ มึง เลย
กูว่าเรือคาบุเรย์กะแม่งติดอยู่จุดเดียว (แต่เป็นจุดที่ใหญ่มาก) คือคาบุชอบวาคาบะ ถึงจะไม่รู้ความรูสึกของวาคาบะจัง แต่ก็ดูมี off scene ที่เราไม่เห็น (อย่างเช่น ซีนไปที่บ้านหลาย ๆ ครั้ง ) เป็นพระเอกนางเอกของเรื่อง ถึงแม้เหตุผลในการชอบจะดู…ตื้นมาก และเรย์กะก็ปักใจกับความคิดนี้พอสมควร (แต่มากพอที่จะหลอกคนอ่านว่าคาบุมันชอบมากกว่าที่คาบุแสดงออกรึเปล่าวะ อันนี้ยังไม่ได้อ่านใหม่55555)
ยังรู้สึกว่าที่วาคาบะจะไม่ชอบคาบุนี่ดูเป็นไปไม่ได้ (ยกเว้นว่านางจะชิปคาบุเรย์กะ ซึ่งดูแบบ unlikely)
กูว่าสามร้อยนี่ถ้าหวยออกไม่พีคคู่เอนโจก็ต้องพีคคู่นี้แหละ กูว่าตอนหน้า(หรือหน้าหน้าหน้า ให้มีซักตอนก่อนเถอะ) จบเทศกาลดอกไม้ไฟ มันจะชี้ชะตาว่าความจริงแล้วเรือคาบุวาคาบะนี่จะล่ม แล้วสร้างโมเม้นคาบุเรย์กะรึเปล่า แต่ว่ากูว่าถ้าอีเว้นไปได้ดี ก็เตรียมปิดอู่ ซ่อมเรือคาบุเรย์กะจากจินตนาการต่อได้เรย แต่กูชอบนะ คาบุเรย์กะนี่กินอร่อย กาวโบ๊ะบ๊ะกันชิบหาย แต่กูขอเผื่อใจ แหะ พระเอกนางเอกของคิมิดอลนี่เนาะ
ส่วนเรือเอนโจเรย์กะ อืม กูอยู่กะกาวที่กวนแล้วกวนอีกจนอิ่มนี่มาสามสิบมู้ กูเริ่มไม่รู้ว่านี่กูอ่านแล้วมันจริงหรือว่าโดนกล่อมจนศรัทธาไปแล้ว แต่ว่ากูว่าบรรยากาศดูหมองหม่นตอนที่พูดถึงคุณยุยโกะจริง ๆ แบบเปรียบเทียบตัวเองแบบเศร้า ๆ หม่น ๆ ลองนึกถึงเวลาเรย์กะชมพวกพี่ ๆ ท่านยูริเอะ อะไรพวกนี้ก็จะเป็นการชมแบบสดใสแบบบริ้ง ๆ แฟนเกิรล์ หรือถ้าเป็นอย่างตอนซากุราโกะ กูก็ว่าก็ยังชมว่าเหมือนผญญี่ปุ่นในอุดมคติออกมาได้แบบอิจฉาพลังงานบวกแต่ไม่ปนเศร้าน่ะ หรือเพราะบรรยากาศรอบตัวของคุณยุยโกะก็ออกมาเป็นสวยลอยจางๆอยู่ในควัน (แหะ เอฟเฟต์ประกอบการอ่านคุณยุยโกะของกูเอง แบบสวยลึกลับซ่อนเร้นใต้เงาม่าน เห็นราง ๆ แต่สวยแน่)ก็เลยชมออกมาแบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน
กูคิดว่าหลายอย่างเอ็นโจชอบจงใจทดสอบเรย์กะยังไงไม่รู้ เหมือนรู้แน่ว่าคุณคนนั้นคนนี้ชง แต่ก็ยังจะทำต่อ แบบไม่แคร์ข่าวลือและกูว่าปฏิกิริยาท่านเรย์กะคงจะน่ารักดี มันก็มีอยู่แหละคนที่เราแกล้งเรื่อย ๆ เพราะเอ็นดูแบบไม่ได้ชอบน่ะ ถ้าพูดว่าสนใจคงจะได้ แต่กูว่า(จากมุมมองท่านเรย์กะ)ก็ไม่ได้ดูชอบมากอะไร กูว่าเรือบ้าบอนี่ก็จะลอยค้างอยู่นี่แหละ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้คือตัวเอ็นโจที่เดาว่าถ้ายังไม่รู้ใจตัวเอง และก็ไม่ทำอะไรเพราะคู่หมั้นกับคลุมถุงชนคงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ต้องแก้จนกว่าจะเข้าใจว่ารัก ท่านเรย์กะกูเจอผู้ชายหล่อคนใหม่ก่อนหน้านั้นเอ็นโจก็หมดสิทธิ์ละ
เรืออื่น ๆ เช่น เรือท่านอิมาริคือติดพี่ชายเพลย์บอยโซน ไม่มีทางคิดเป็นจริงเป็นจัง(และน่าจะโดนท่านพี่หวดไปตั้งแต่เริ่มอ้าปาก) ที่เหลือก็ดูมีคู่ตัวเองหมดเลย
>>120 คือไอ2หน่อนี้มันมีปัญหาคนละด้านด้วย
คือ คนหนึ่งสนิทกันจนเกือนเพื่อนแต่ยังไม่รู้ตัว
กับ อีกคนที่เหมือนจะรักแต่ก็ดูเหมือนจะไม่รักเหมือนกัน
คือคาบุเรือมันชัดเจนติดปัญหาแค่ไอคาบุมันเป็นคนทุ่มสุดตัวแบบเอาแน่ๆ เลยลืมมองข้างๆตัวที่สนิทกันกว่าไปแล้ว แค่โผล่มาแป๊ปเดียว นำยิ่งกว่าสาวที่แอบชอบอีก
ส่วนฝ่ายเอ็นโจมันไม่ชัดเจนว่ารักหรือไม่รัก เพราะหลายๆครั้งมันฉีกหน้า/แถมกลั่นขำแบบไม่มีเสียงจนบางทีก็สงสัยว่ายังไง ถึงจะมีโมเมนต์มาบ้าง แต่ดูเหมือนจะชอบหรือเปล่าก็ไม่รู้ อาจจะชอบหรือไม่ชอบก็เป็นไปได้หมด (.....บางทีเพราะกุไม่มีฟิลเตอร์เอ็นโจก็ได้.)
กุมองว่าเรือคาบุมันอยู่ที่เวลา เพราะอ่านเรื่องวาคาบะจังอาจจะชอบแต่กุว่าเจ้าแม่คาบไปแล้ว เอ็นโจมันต้องแข่งกับเวลารีบทะลวงเฟรนด์โซนระหว่างที่เรือคาบุมันยังติดปัญหาอยู่
แต่โอกาสที่คาบุจะไม่อกหักก็พอจะเป็นไปได้ แต่โอกาสที่เอ็นโจจะชอบไม่ชอบก็พอๆกัน...(เฮียไม่ชัดเจนเอง โทษผมไม่ได้..จนผมว่ายไปเรือคาบุแล้วครับ)
แถมพอกลับมาอ่านใหม่ คาบุสร้างโดขิๆได้เยอะไปล่ะ ส่วนเอ็นโจมาน้อยลงแต่คุณภาพสูงขึ้น
>>122 ประเด็นนี้ยาว เดี๋ยวกูกลับบ้านก่อนแล้วจะมาเม้าด้วย พิมพ์ในมือถือมันไม่สะใจ
>>120 ตอนเรย์กะชมคนสวยๆนี่คือชมแบบใสๆบริ้งๆจากใจจริงเลยนะ เหมือนตอนชมไอระกับยูริเอะที่โผล่มาครั้งแรกๆน่ะ เราแฮปปี้ที่ได้อยู่กับคนสวยๆ กับซากุระก็ชมแบบชื่นชมแบบจริงใจว่าเธอช่างดูสมเป็นกุลสตรีอะไรเช่นนี้ แต่พอเป็นยุยโกะคือนางเหม่อและดูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปเลย ไม่อยู่ในฟีลชื่นชมแบบสามคนข้างบนน่ะ แถมเป็นคนบอกเองว่ารู้สึกเซ็งๆซังกะตายอีกต่างหาก เวลายุยโกะโผล่มาทีไร โทนหม่นหมองเข้าปกคลุมเจ้าแม่ทันทีเลยนะ ปกตินางชอบปิดตอนด้วยการบ่นไร้สาระหรือฮาๆทิ้งท้าย แต่พอยุยโกะมาปุ๊บนางปิดตอนห้วนสั้นและไร้อารมณ์สุดๆ
อีกอย่างเวลาเจอหน้ายุยโกะนางก็ชอบเอาตัวเองไปเทียบแล้วมารู้สึกด้อยกว่า ทั้งที่นางไม่เคยเปรียบเทียบตัวเองกับใครมาก่อนเลย ขนาดงานหิ่งห้อยที่ไมฮามะกับเรย์กะใส่ชุดสีเดียวกัน เรย์กะนางโนสนโนแคร์ แล้วไงอะ ไม่เห็นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ แต่พอเป็นยุยโกะที่ใส่ชุดขาวเหมือนกันนางดันมานอยด์ว่ายุยโกะใส่สีขาวแล้วสวยกว่า ทั้งที่นางแทบไม่ได้เจอยุยโกะ ไม่มีอะไรต้องมาคุยหรือเกี่ยวข้องเลย จะไปกังวลทำไมก็ไม่รู้ ซากุระที่ให้บรรยากาศคล้ายๆกัน นางยังไม่ล่กเท่านี้มาก่อน
ส่วนเรื่องวาคาบะ เรย์กะกับคาบุนี่กูว่าคนเขียนชอบแกล้งกั๊กโมเมนต์ว่ะ เรย์กะเป็นนางเอกที่เดินเรื่อง พอมีตัวละครชายที่เป็นตัวหลักมาเกี่ยวพัน แล้วมีโมเมนต์ที่เดินไปในทางที่ดี เคมีเข้ากัน คนอ่านย่อมเชียร์นางเอกหลักมากกว่าตัวประกอบผลุบๆโผล่ๆแบบวาคาบะอยู่แล้ว แต่ก็ดันแกล้งคนอ่านด้วยการให้คาบุปักใจรักมั่นกับวาคาบะ โมเมนต์กับเรย์กะต่อให้ดีแค่ไหน คนเขียนก็จะเขียนให้คาบุคิดถึงแต่วาคาบะมาก่อนอยู่ดี แบบตอนชมดาวในงานทานาบาตะ ขนาดอยู่กับเรย์กะด้วยบรรยากาศโรแมนติคเป็นใจสุดๆ ยังเพ้อหาวาคาบะได้ ดูดาวไปก็คิดถึงแต่วาคาบะแทบไม่ได้สนใจเรย์กะที่เดินข้างๆกันเลย จะเชียร์คู่เรย์กะก็ตะขิดตะขวงใจเรื่องมันคลั่งรักวาคาบะขนาดนั้น จะให้หันมามองนี่คงต้องอกหักรอบสองแต่ตอนนี้มันยังไม่อกหัก แต่จะเชียร์คู่คาบุวาคาบะก็ไม่เขียนโมเมนต์แบบตรงๆชัดเจน มีแต่คำบอกเล่าจากปากเท่านั้นว่าไปโน่นมานี่หรือทำโน่นนี่ มันไม่ฟินเหมือนพบเจอเหตุการณ์เอง แค่ฟังเขามาเม้ามอยเฉยๆ ไม่ได้รู้ความรู้สึกหรือความในใจของตัวละคร แกล้งยื้อกันไปมาระหว่างคนเขียนกับคนอ่านนี่ล่ะ
>>123 หรือไม่ก็จบที่บ้านพักคนชราวะ(ไม่ก็หนุ่มมหาลัยไปเลยวะ เรื่องแม่งยิ่งเรียลๆอยู่) คือกรณียุยโกะกุว่ามันไม่ได้ขนาดนั้นแบบที่โม่งส่วนใหญ่พูด(หรือฟิลเตอร์กุน้อยไปจนมองไม่เห็นวะ...) หลังจากกลับมาอ่านใหม่
แม่นางยุยโกะเล่นจ้องยังกับร่ายคำสาป... เรย์กะเลยรู้สึกสยองก้าว กุว่าไม่ได้ล่กหรอก แต่อีกฝ่ายจ้องอาฆาตขนาดนั้น กุว่ามันก็เฉยๆอ่ะ(ก็เข้าใจได้อ่ะว่า_ว่าที่คู่หมั่นเจอไปคุยสาวอื่นบ่อยๆจะออกอาการก็ไม่แปลก) กุว่าอย่างน้อยเรย์กะคงไม่มีทางฝ่ายหึงเอ็นโจอ่ะ(แต่เฮียต้องหึงแทนดิ) เท่าที่อ่านมา เป็นใครกเจอก็หนี เรย์กะยังบ่นเลยว่าดูเป็นกขค. สรุปกุว่ายุยโกะคงอารมณ์เอ็นโยเวอร์ชั่นชัดเจนกว่า... ตอนใส่กิโมโนดันใส่ชุดเดียวกัน แล้วตัวเองพุงทานุกิกว่าจะรู้สึกแย่ก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น กุว่ามันผิดที่อีกฝ่ายมากกว่าเจ้าแม่ แถมแม่นางยิ่งทำอะไรดูออกยากแถมทำตัวแปลกๆ(เหมือนคนเสพยา พูดไรก็ไม่ตอบ แถมพอตอบก็ตอบอะไรมาก็ไม่รู้ บอกหนุ่มคอยช่วยตัวเองงั้นงี้.. คืออะไรวะ!?)
มันไม่ทีไรชัดเจนเลย ถ้าเรือเอ็นโจนี้ยังไงก็คิดว่าเอ็นโจต้องเป็นคนรุกอ่ะ... แต่ปูประเด็นยุยโกะมาขนาดนี้ ยังไงก็คิดว่าอาจจะไม่ดีอะไรบางอย่าง เช่นBlack mailตระกูลเอ็นโจ เช่นว่าถือหุ้นไว้ยังไงก็ต้องตามใจ หรือไม่ท่านฮิโยโกะก็สับขาหลอกให้คนอ่านคิดไปเอง สรุปยุยโกะเป็นคนดีก็ได้.... แค่ว่าเคยทำอาหารจนยูกิโนะคงอาหารเป็นพิษเลยกลัวฝังใจ..(อันนี้กุขำๆนะ ยังไงยุยโกะคงไม่ธรรมดา)
ส่วนวาคาบะมันไปยากอ่ะ ถ้าจะมองอาจจะมีมากกว่าที่เล่าคิดว่าเรย์กะกับคาบุรากิต้องมาเคลียร์ให้ชัดๆว่าข่าวลือไม่จริง ไม่ก็คาบุรากิขอคบเป็นแฟนกันก่อน(แต่ดูจากคาบุมันคิดว่าแฟน=แต่งงาน Absolute Loveรักกันนิรันดร์คงไม่ได้คิดจะลองคบดูนิสัยว่าเข้ากันได้รึเปล่าก่อนเลย..) วาคาบะจังก็ดูไม่ได้อะไรแถมเล่าให้เรย์กะฟังด้วย เช่น ตอนไปไดโนเสาร์ซื้อของคู่กัน คาบุรากิดีใจฟินตัวแตก แต่พอมาเล่ามุมวาคาบะนี้คนละโลกกันเลย ซื้อของมาหวังจะมาให้กับเจ้าแม่อีก..(ไม่ได้เพราะอยากซื้อคู่กับเอ๋งสักนิด)ไม่ได้คิดอะไรเลยจนเจ้าแม่ร้องไห้น้ำตาทิพย์ไหลอย่างอนาถใจกับคาบุ(กุก็ร้องไห้) ความต่างด้านฟิลเตอร์มันต่างกันเกินไป กุว่าเรือเรย์กะวาคาบะดูเป็นไปได้กว่า
เสียดายแม่งReal ไม่งั้นเรือยูริไปแล้ว แต่เอ็นโจมันยังปล่อยของไม่หมดกั๊กมา100กว่าตอน คงอาจจะเก็บไว้ใช้พลิกเกมเรือเอ็นโจตอนนี้
ส่วนตอนนี้นั่งเรือคาบุรู้สึกปลอดภัยกว่า...รอตอน300ยืนยันอีกที(มาเหอะท่าน)
กุว่าช่วงหลังมันเข้าเนื้อเรื่องกันเยอะมาก คิดว่าอีเวนท์ดูดอกไม่ไฟอาจจะช่วยทำให้อะไรมันชัดขึ้นว่า สรุปแล้วเอ็นโจจะเอายังไง(กุต้องว่ายกลับเรือไหม..) แล้วคาบุเมื่อไหร่จะชัดเจนลองขอคบกับวาคาบะจังให้มันชัดเจนซะที
แล้วสรุปแล้วคานคุงแห่งบ้านพักคนชราจะได้ครอบครองเจ้าแม่ไหม
>>124 ประเด็นยุยโกะนี่พูดยากตรงที่ไม่มีข้อมูลไรเกี่ยวกับนางมาก ไม่เคยมาสนิทหรือมาคุยแบบจริงๆจังๆ เลยตอบไม่ได้ว่านางมาดีหรือมาร้าย แต่ดูปฏิกริยาจากคนใกล้ชิดรอบตัวแบบมาซายะกับยูกิโนะก็รู้สึกว่านางไม่น่าจะดีซักเท่าไหร่ ยูกิโนะแสดงออกว่าไม่ชอบ โกรธจริงจัง มาซายะก็ดูเหินห่างไม่สนิทปนๆละเหี่ยใจ
คือกูคิดว่าอย่างน้อยถ้าเป็นว่าที่คู่หมั้นเพื่อน มาซายะที่เข้านอกออกในบ้านเอ็นโจได้สบายก็น่าจะต้องสนิทในระดับหนึ่ง ยุยโกะเป็นคนใกล้ชิดขนาดนี้(ระดับที่โดนวางให้เป็นคู่หมั้นกับเพื่อนสนิท) ความสนิทน่าจะต้องพอๆกับยูริเอะและไอระด้วยซ้ำ แต่พอเจอหน้ากัน มาซายะไม่คุยด้วยเลย ไม่มีแม้แต่บทสนทนาทักทายเป็นพิธีในฐานะเจ้าภาพ(หรือทักแล้วหลังไมค์ก็ไม่รู้นะ) ตอนชูสุเกะโดนโทรตามตัว มาซายะก็บอกเรย์กะว่าหมอนั่นมันมีหลายเรื่องที่หนักใจ ก็คงรู้ฤทธิ์แม่สาวนางพรายดี เวลานางไปงานกับชูด้วย มาซายะก็ต้องแยกมาเดินคนเดียวไม่ไปหาเพื่อน ทั้งที่นางดูมีมนุษยสัมพันธ์ดี ไม่งั้นหนุ่มไม่รายล้อมขนาดนั้นหรอก แล้วกับผู้หญิงนางก็คุยดีนี่ ริรินะยังคุยด้วยตั้งหลายหน แต่กับเรย์กะนางดูปิดกั้นการสนทนาถามคำตอบคำยังไงไม่รู้สิ
แต่พูดถึงเรื่องนี้กูว่ามันก็แปลกๆที่ยุยโกะนางควงชูไปด้วย ยังจะมีหนุ่มมาห้อมล้อมป้อยอคำหวานใส่อยู่ได้ ปกติเห็นสาวเขาควงใครมาด้วยก็ต้องคิดไว้ก่อนป่ะว่านั่นคือแฟน แล้วยังจะกล้าไปพูดจีบชมเขานั้นนี่ต่อหน้าแฟนเขาอีกเหรอ ไอ้หนุ่มพวกนั้นทำเหมือนชูสุเกะเป็นหนุ่มตัวประกอบหน้าบ้านๆไร้อำนาจต่อรองที่จะหยามหน้าแค่ไหนก็ได้ ไม่ใช่หนุ่มหล่อไฮโซตัวท็อปที่ใช้อำนาจที่บ้านขยี้แป๊บเดียวพวกแกก็ปลิวไปแล้ว ชูสุเกะเองก็ดูไม่สนใจอะไรเรื่องนั้น แถมทิ้งนางที่เป็นผู้หญิงไว้กลางกลุ่มผู้ชายฝูงเบ้อเร่ออีกต่างหาก อันนี้กูว่าไม่มีใครที่ไหนเขาทำกันนะ ถึงจะไม่ได้รักชอบแต่อย่างน้อยเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยหน่อยก็ยังดี แต่ชูดันไม่แคร์ซะงั้น ความสัมพันธ์ถือว่าแปลกมาก
เมื่อไหร่กูจะได้กลับบ้านว้า อยากเม้าในคอม
>>125 หรือที่หายไปเพราะเหตุผลนี้ป่ะวะ ว่าช่วงม.5เนื้อเรื่องไร้สาระไม่จำเป็นเยอะเกินไป แถมตอนนี้ก็จะจบม.6แล้ว
คิดว่าปมของทั้งเอ็นโจ ยุยโกะ เรารู้เรื่องพวกนี้น้อยมาก หรือเรื่องของคาบุรากิกับวาคาบะจัง ปมเรื่องราวหลายๆอย่างมันมาช้าเกินไป(จนช่วงหลังแถบจะวันต่อวัน บางตอนยังวันเดียวกันด้วยซ้ำ) ดันมาช่วงจะจบม.6แล้ว
แล้วมหาลัยเรียนหนักแหง่ๆ ยิ่งคณะของเรย์กะเลือกการแข่งขันสูงด้วย.. ไอเรื่องจะมาเที่ยวยุโรป หรือแม่นางยุยโกะคงเป็นไปไม่ได้. คาบุรากิกับเอ็นโจเองก็ด้วย แถมคิมิดอลเนื้อเรื่องคือช่วงม.ปลาย
ส่วนตัวมองว่าอาจจะเพราะเรื่อยเปื่อยเกินไปจนเวลาไม่พอแล้ว
มาค่ะ กูถึงบ้านแล้ว มาซะดึกเลย เกียมตัวเม้า
คำตอบจะยาวๆแล้วค่อนข้างเวิ่นเว้อหน่อยนะเพราะกูอยากเม้ามอย ขอไปทีละประเด็นเน้อ
เอาเรื่องวาคาบะกับคาบุก่อนละกัน เนื่องจากเรื่องคิมิดอลมีเบสเป็นการ์ตูนโชโจที่พระเอกนางเอกจะรักกัน กูเลยคิดว่ายังไงวาคาบะที่เป็นนางเอกก็จะได้คบกับคาบุเข้าในซักตอนในอนาคตข้างหน้าว่ะ เรื่องเดิมที่โดนเปลี่ยนไปด้วยฝีมือเจ้าแม่ ทำให้คาบุกับวาคาบะไม่มีอะไรให้เกี่ยวข้องกันเพราะไม่มีพระเอกมาปกป้องนางเอกจากนางร้าย ไม่มีอะไรให้รู้จักหรือคุยกัน เจอกันแค่ที่ป้ายประกาศคะแนน ดูเสร็จแล้วต่างคนต่างไปจบแค่นี้ วาคาบะนางก็อยู่เรียบๆสงบๆในโรงเรียนไป แต่ฟ้าก็ดันลิขิตให้ไปทำความรู้จักกันจนได้ รู้จักกันแบบเถื่อนชิบหายเลยด้วยคือขับรถทับแม่งเลย
เรื่องความชอบของคาบุที่มีให้วาคาบะกูก็ว่าไม่ใช่อะไรที่บางเบาหรือตื้นขนาดนั้นนะ วาคาบะไปมีตัวตนในสายตาคาบุมานานแล้ว ถามเรื่องคะแนนว่ายัยนี่มันใครถึงมาอยู่อันดับนี้ได้ แต่ไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเฉยๆ อย่างน้อยก็เป็นคนที่ขึ้นมาชิงเอาตำแหน่งที่หนึ่งไปจากฮีได้ละกัน คนอย่างคาบุเกิดมาก็มีแต่ได้ชัยชนะมาตลอดคงจำล่ะว่าคนที่ชนะตัวเองได้คือเด็กผู้หญิงนักเรียนใหม่คนนึง คงเป็นอะไรที่คันยุบยิบอยู่ในใจพอสมควร ครั้งต่อมาเอาชนะได้เลยอารมณ์ดีขนาดนั้น ถึงกับไปตบบ่าบอกให้พยายามเข้านะ อันนี้คือจำได้ สนใจ อยู่ในสายตา แล้วพอเกิดอุบัติเหตุขับรถชน ต้องมารับผิดชอบพาไปโรงพยาบาลหรือจัดการเอกสารนั่นนี่ ได้ใกล้ชิดวาคาบะทุกวัน ได้คุยกัน ค้นพบด้านที่หลากหลายและประทับใจ เก่งวิชาการเหมือนกันเลยจูนกันติดง่าย จะคุยโจทย์ยากๆหรือปัญหาการเรียนก็ผ่านฉลุย วาคาบะก็เป็นเนิร์ดขยันชอบหาความรู้ใส่ตัวอยู่แล้ว คงยิ่งชื่นชมหนัก ทำอาหารก็เก่งและอร่อย มีแต่ความถูกใจไปหมดทุกอย่างแบบนี้ก็ก่อเกิดเป็นความชอบได้ กูว่าคาบุชอบคนขยันและร่าเริงสดใสนะ กับเรย์กะที่ไปแสดงท่าทีขี้เกียจไม่เอาไหนให้เห็น เลยโดนฮีบ่นเอาเพราะนิสัยคือคนเข้มงวดไม่ชอบการผลัดวันประกันพรุ่งอยู่แล้ว
อีกอย่างกูว่าวาคาบะทำให้ฮีหัวเราะได้ เพราะเห็นเอาไปชมให้ยูริเอะฟังว่าเป็นคนตลกดี คงมีตบมุกกันโบ๊ะบ๊ะบ้างล่ะ เจอสาวน่ารักนิสัยดี คุยกันถูกคอ ตัวเองก็หัวใจยังว่างไม่ได้มีใคร คงจะลองอยากจีบดู แต่บังเอิญว่าคาบุมันเป็นคนนิสัยจริงจังหนักแน่นมากกกกกกก ทำอะไรก็ทำจริงจังไม่ลวกๆ ไม่คบเล่นๆเผื่อเลือก รักใครคือแน่วแน่กับคนคนนั้นไม่มองคนอื่นอีก แล้ววาคาบะคือเข้าแก๊ปพล็อตหนังโรแมนติคแนวฟันฝ่าอุปสรรคถึงจะรักกันได้แบบที่ฮีชอบเลย อาจจะคิดเพ้อเจ้อแนวๆว่านี่คือพรหมลิขิตฟ้าส่งเธอให้มาเจอฉันก็เป็นได้ เลยยิ่งปักใจเชื่อหนักเพิ่มพูนความชอบเข้าไปใหญ่
พูดถึงความก้าวหน้าบ้าง กับคู่นี้กูว่าก็ก้าวหน้าแบบพรวดๆอยู่นะ ไปเดทแบบปุบปับไม่ได้นัดอะไรล่วงหน้าก็เคย ถึงโดนปฏิเสธหลายหนเพราะติดธุระ แต่กูคิดว่าวาคาบะให้โอกาสว่ะ ทำไมนางจะไม่รู้ว่าไอ้นี่มันจีบอยู่ นางฉลาดจะตาย และคงตัดสินใจมาดีแล้วกับเรื่องนี้ ถ้าไม่ให้โอกาสผู้ชายคนนี้และปิดกั้นให้เป็นเพื่อนกันก็พอ นางจะไม่สานสัมพันธ์มาถึงขั้นที่ไปยามวิกาลสองต่อสองในที่ปิดแบบบนเรือ ถึงจะไว้ใจว่าคาบุจะเป็นสุภาพบุรุษไม่ทำอะไรก็เหอะ แต่ปกติของผู้หญิงแล้ว กับเพื่อนผู้ชายที่ไม่คิดอะไรคือต้องมีระยะห่างกันบ้างน่ะ หรือนี่คือสกิลนางเอกโชโจทำงานก็ไม่รู้ ความอยากไปเห็นโลกที่ไม่เคยเห็นน่ะ มีโอกาสได้นั่งเรือหรูๆเล่นก็ไปสิคะ 5555555555555
กูว่าเพราะเรื่องนี้ถูกเล่าด้วยมุมมองเจ้าแม่ที่มันจะแฝงความอคติ+การมองโลกในแง่ร้ายนิดๆหน่อยๆ+ความเอ๋ออันเป็นนิสัยพื้นฐาน ทำให้มองตัวละครผิดเพี้ยนไปก็เพราะถูกตีความตามการชี้นำนั่นล่ะ พอเป็นมุมมองคนอื่นที่พูดถึงวาคาบะนี่คือความเป็นนางเอกโชโจมาเต็มเลยนะ สาวน้อยผู้สดใสร่าเริงและเปี่ยมไปด้วยอยากรู้อยากเห็น วิ่งตามผีเสื้อข้ามเมือง อยากเข้าซุยรันเพราะเครื่องแบบน่ารัก คาบุจากมุมมองคันตะก็เป็นหนุ่มหล่อสุดเท่พึ่งพาได้ ไม่ใช่ไอ้บ้าหรือยัยเอ๋อหัวกระเซิงแบบที่มองผ่านฟิลเตอร์เจ้าแม่
เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อประเด็นอื่น พอดีกูต้องนอนแล้ว
ขอโทษที่ซอยหลายเมนท์ พอดีมันขึ้น The message contained a forbidden keyword and therefore rejected. แล้วกูไม่รู้ว่าคำไหนมันคือคำต้องห้าม กูเลยแยกพาร์ทดู
>>126 กูว่าไม่นะ เพราะแก่นเรื่องมันคือการเล่าชีวิตประจำวันเจ้าแม่ที่เอาการ์ตูนโชโจมาเป็นแบ็คกราวน์เฉยๆ เรื่องการเรียนหนักหนาหรือการสอบเข้ามหาลัยไม่ใช่พอยน์ที่ต้องการเล่าเพราะไม่ใช่นิยายแข่งขันเตรียมสอบเข้าของเด็กม.ปลาย พอยน์เรื่องมีแค่ความเรื่อยเปื่อยวันนี้กินไรดี มีใครเอาปัญหามาสุมให้ ทานุกิจะซื้อไรกลับมาฝากที่บ้าน ท่านพี่ขาช่วยน้องด้วย ขนาดช่วงสอบที่ผ่านมามีติวนั่นนี่ก็ดูเหมือนเป็นอีเวนท์ให้เล่าเรื่องมากกว่า ที่คาบุจับเด็กรุ่นน้องติวเพราะไปดูหมิ่นวาคาบะกับเด็กนักเรียนคนอื่นน่ะ เผลอๆสคิปข้ามเรื่องสอบไปแบบหลายๆปีที่ทำด้วย ถ้าจะแทรกเนื้อเรื่องอะไรเข้ามามันก็ทำได้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับคนเขียนจะเลือกวิธีเล่ายังไง
ที่เนื้อเรื่องอะไรดูมาช้าเพราะสามหน่อตัวหลักมันมาสนิทกันแบบไปไหนไปนั่นเอาตอนจะเรียนจบอยู่แล้ว คือก่อนหน้านั้นเรย์กะนางก็อยู่เฉยๆไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้สองหล่อมาก ก็เลยไม่รู้เรื่องราวของอีกฝั่ง ขนาดน้องชายแบบยูกิโนะก็เพิ่งมารู้ว่าเอ็นโจมีน้อง แต่ถึงนางจะไม่ยอมไปยุ่งเกี่ยวแค่ไหน เส้นเรื่องมันก็เดินไปตามโครงเรื่องเดิมของคิมิดอลอยู่ดี คือพระเอก(คาบุ)อกหักจากรักแรก ได้พบนางเอก(วาคาบะ) รายละเอียดปลีกย่อยไม่เหมือนเดิมเพราะเจ้าแม่เป็นคนทำให้มันเปลี่ยนไป แต่เรื่องก็ยังดำเนินไปตามนี้ คงไปจบอีเวนท์ใหญ่หมั้นหมายตามเดิม แต่ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนไปขนาดไหน แล้วก็มีปมเรื่องบ้านเอ็นโจเพิ่มมาเพราะเพิ่งได้สนิทกันนี่ล่ะ กูว่ายังไงนางก็ต้องเข้าไปพัวพันกับปัญหานี้อยู่ดี ไม่งั้นจะเขียนแพลมๆออกมาทำไม แต่ด้วยการที่เรื่องมันค่อนข้างเรื่อยเปื่อยเลยไม่เข้าเนื้อหาซักที ได้อ่านแต่วันนี้กินไรดีน้า 555555555555555555555
ปล.กูรู้ละว่าคำไหนมันคือคำต้องห้าม คำว่าไบแอ.ส น่ะ กูเลยเปลี่ยนเป็นคำว่าอคติแทน
กูอ่านก็คิดว่าเรือคาบุวาคาบะ แล่นฉิวดีอยู่นะ วาคาบะก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร คาบุก็ดูคลั่งรัก อีกอย่างเจ้าแม่ก็เห็นอยู่ว่าคาบุคลั่งวาคาบะขนาดไหน เพราะงั้นถึงคู่นี้ไปไม่รอดโอกาสที่เจ้าอม่กับคาบุจะคบกันเองก็น้อยอยู่ดี ถ้าคาบุปฏิเสธวาคาบะเพราะรู้ใจตัวเองว่าจริงๆชอบเจ้าแม่ เจ้าแม่คงมองว่าไอ้นี่ผู้ชายโลเล จีบเพื่อนชั้นแล้วชิ่ง ถ้าวาคาบะปฏิเสธคาบุ เจ้าแม่คงไม่กินน้ำใต้ศอกเพื่อน คือพอเจ้าแม่เป็นเพื่อนกับวาคาบะแล้ว จะมาคบกับคาบุเป็นแฟนมันก็จะ awkward นิดนึงนะ
>>126 กูไม่รู้มึงเคยอ่านเรื่องเด็กใหม่ห้องคิงที่เป็นการ์ตูนเกาหลีรึเปล่า เรื่องนั้นเจาะจงเลยว่าเป็นนักเรียนเตรียมสอบที่ต้องฟาดฟันกันให้ได้คะแนนดีๆเข้ามหาลัย มันมีฉากให้เห็นว่าเรียนหนักมากและพร้อมเหยียบหัวบุลลี่คนอื่นกันตลอดเวลาก็จริง แต่มันก็ยัดอีเวนท์ต่างๆนานาเพื่อดำเนินเรื่องได้ ไม่ใช่ว่าต้องโฟกัสอยู่ที่การเรียนการสอบอย่างเดียว เช่นยัดปมเรื่องเพื่อนเก่าของนางเอก เหตุผลว่าทำไมนางเอกต้องย้ายโรงเรียน นางเอกไปงานวันเกิดเพื่อน ซึ่งในงานก็มีอีเวนท์ซ้อนอีเวนท์เพื่อให้เรื่องมันเดินไปอีก ไม่งั้นเรื่องมันก็จะอยู่แค่อ่านหนังสือ สอบ อ่านหนังสือ สอบ แบบนี้น่าเบื่อแย่ คือใจคอมึงอยากอ่านนิยายที่มีแต่อะไรแบบนี้เหรอ ไม่ใช่เรื่อง 365 วันตามติดชีวิตเด็กเอนท์นะ
เพราะงั้นต่อให้เตรียมสอบแค่ไหน อ.แกก็คงยัดอีเวนท์เข้ามาให้เป็นสีสันของเรื่องอยู่ดีนั่นล่ะ แต่จะมาตอนไหนคืออีกเรื่อง อย่าลืมว่ายังมีอีกหลายอีเวนท์ที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นแบบงานดอกไม้ไฟ งานซัมเมอร์ งานโรงเรียน งานกีฬา พวกเทศกาลยิบย่อยอะไรทั้งหลายอีก ไหนจะเรื่องเดิมแบบงานหมั้นระหว่างคาบุกับเรย์กะที่เป็นตัวตัดสินชะตากรรมของนาง ดังนั้นอีเวนท์บ้านเอ็นโจก็คงยัดเข้ามาด้วยเหมือนกัน
>>129
>>131
ต้องเข้าใจว่ามันนิยายเว็ปอ่ะ แถมคนเขียนไม่ให้LCด้วย(กุเชื่อว่าไม่ให้เอง...เพราะแม่งเคยติดTop10แต่ทั้ง9เรื่องมีLNหมด ยกเว้นเรื่องนี้ กุเดาว่าเพราะแกคงไม่อยากทิ้งหลักฐานให้ใครตามตัวแกได้)
เพราะงั้นมันเลยไม่มีการวางแผนอะไรขนาดนั้น มีช่วงที่ไม่ต้องเล่าก็ได้เนอะพอควร...(ขนาดเรื่องมีLCอย่างOverlordกุก็รู้สึกว่าไม่ได้วางแผนอะไร บางอย่างเล่ามาไม่มีค่าไรเลย เอาว่ามาตามเสต็ปน้ำร้อนลวก มาเขียนเนื้อเรื่องยัดๆตอนท้ายๆ) มันเลยออกแนวจะเล่าอะไรเล่าตามที่อยากเล่า
คือนิยายมันไม่มีบก.อ่ะ แถมคนเขียนนิยายมันก็คล้ายๆDek dจะเป็นใครก็ได้ ขอแค่มีคนซื้อLCมา ส่วนไอเรื่องจะยัดไหมกุว่ามันก็ยัดได้แหละ แต่ดูจากสภาพเรื่องนี้กับนิสัยเรย์กะกุว่ายาก... ปกติก็แถบไม่ไปไหนอยู่ล่ะ
แถมวาคาบะจังไม่ใช่ลูกคุณหนูเข้ามหาลัยห่างกันยาวแน่นอน...
เดาว่าอาจารย์คงสอบมหาลัยทำงานแล้วมั่ง..ซึ้งน่าจะหนักหนา(เขียนเว็ปนิยายน่าจะไม่นะไม่ได้ตังค์..)
>>132 ที่กูจะสื่อคือ นิยายมันโฟกัสที่วันๆของเรย์กะก็แบบนี้ล่ะ ต่อให้เรย์กะจะจบม.6 มีสอบเข้ามหาลัย อ.แกก็ไม่เขียนให้นางเอาแต่คร่ำเคร่งอ่านหนังสือ สอบ อ่านหนังสือ สอบ โฟกัสแค่การสอบวนไปแบบนี้หรอก กูถึงได้ยกตัวอย่างเรื่องเด็กใหม่ห้องคิงมาไง ถึงอีพวกนี้จะคร่ำเคร่งกับการสอบเข้าขนาดไหน แต่ในเรื่องก็ยังมีอีเวนท์นั่นนี่ ไปเที่ยวเล่น ไปเป็นอาสาสมัคร ไปงานวันเกิด ทำนั่นทำนี่ตั้งเยอะ ดังนั้นจะใส่อีเวนท์อะไรลงมาก็ได้ อีเวนท์นี่กูก็ไม่ได้หมายถึงแค่เหตุการณ์ที่เกิดกับนางด้วยนะ อาจจะเป็นเรื่องย่อยๆของคนนั้นคนนี้รอบตัวนางผ่านเข้ามาให้รับรู้ เช่นตอนซากุระมาขอให้สืบเรื่องผู้หญิงที่เข้ามาจีบแฟนตัวเอง หรือชวนกันไปกินข้าวกลางวันกับพวกซากุระและอาโออิเป็นต้น
แล้วถึงจะบอกนางไม่ไปไหน แต่มีงานเลี้ยงหรือคำเชิญอะไรมานางก็ไปหมดทุกที บางทีก็ไปนั่นมานี่เองตามใจ ไปโรงเรียนสอนพิเศษ ไปบ้านวาคาบะ อ.แกก็โปรยทางไปบ้านเอ็นโจมาให้แล้วด้วยการให้ยูกิโนะชวนมาเล่นที่บ้านตอนปิดเทอม ยังไงกูว่าก็ต้องเข้าอีเวนท์บ้านเอ็นโจอยู่ดีเพราะทิ้ง hint มาแล้ว เหลือแค่เดินทางไปให้ถึงตรงนั้น แล้วอนาคตมันก็ไม่แน่นอนหรอก เผลอๆวาคาบะจะสอบเข้าม.ซุยรันเพราะได้ทุน บางทีอาจจะได้เงินด้วย ถ้าได้เงินกูว่านางสอบเข้าชัวร์ แค่เรียนก็ได้เงินนี่แม่งมีความสุขจะตาย จบไปก็เอาเงินไปตั้งตัวได้ด้วย 555555555
ส่วนเรื่องการเขียนที่จะวางแผนหรือไม่วางแผนกูไม่มีคอมเมนต์ เพราะกูคิดว่านักเขียนแต่ละคนก็มีสไตล์การเล่าเรื่องเป็นของตัวเอง อยากเล่าหรืออยากใส่อะไรก็เป็นเรื่องของเขา จะเขียนแต่วันๆจะกินอะไรอย่างเดียวไม่ขยับเนื้อเรื่องจนตอนนี้เรย์กะยังอยู่ประถมอยู่เลยก็ทำได้ อยู่แค่คนอ่านจะเบื่อแล้วเลิกตามไปก่อนรึเปล่าเพราะเรื่องไม่คืบ หรือจะเล่าฉับๆๆๆๆรวดเร็วทันใจแป๊บเดียวก็ปิด arc ได้ นั่นก็เป็นสไตล์หนึ่งเหมือนกัน
กูใกล้จะสอบแล้วเดี๋ยวมาเม้าด้วยใหม่ ตะ แต่ กูรู้สึกดีใจที่มู้มันครึกครื้นนะเพื่อนโม่ง เงียบเหงามาหลายปีละเกิน อย่าพึ่งตลาดวาย วิเคราะหฺความสัมพันธ์ตัวละครเยอะ ๆ เลยกูชอบ/ส่งหัวใจ
กูเชื่อมั่นในตัวโม่งฟิคที่จะเอาไปกวนกาวนะคะ
กลับไปอ่านอีกทีแอบน่าเบื่อนิดนึงจริงๆด้วย
ตอนนั้นอ่านไปเม้าไปกับเพื่อนโม่งคือสนุกดันมากจริงๆ
ตลาดวายยังวะ กูอยากเม้าประเด็นของ >>119 หน่อย
กูคิดว่าคาบุยังไม่ชอบเรย์กะในตอนนี้หรอก เพราะฮีเครซี่วาคาบะขนาดหนัก ทำอะไรก็มีแต่วาคาบะๆๆๆ ไปไหนมาไหนกับเรย์กะยังนึกถึงวาคาบะเลย โทรเม้ามอยก็ด้วยเรื่องของวาคาบะซะส่วนใหญ่ รายงานผลการเดทกับวาคาบะไปซะ 80% ที่เหลือคือเม้ามอยเรื่องของตัวเองบ้าง เรย์กะนี่เหมือนเพื่อนสาวคนสนิทเอาไว้โทรเม้าเรื่องกุ๊กกิ๊กผู้หญิงถึงผู้หญิงได้
แต่อนาคตก็ไม่แน่หรอกเพราะเรย์กะนี่ก็อยู่ในวงคนสนิท จะมาแนวรู้ตัวอีกทีก็ขาดเธอไม่ได้แล้วรึเปล่า จะหันมาเครซี่เธอแทนมั้ยก็ตอบยากว่ะ เพราะเรื่องนี้แม่งชอบหักหลังทุกคนน่ะ หวังอีเวนท์แสนกุ๊กกิ๊กในการติวสอบเหรอ เอาความรู้สึกปวดกะเพาะตอนเครียดไปหน่อยไป หวังการโอบประคองร่างนางเอกที่ซุ่มซ่ามตกบันไดเหรอ เอาคำด่าว่าอีอ้วนไปซะเถอะ หวังให้นางเอกใจเต้นตอนเห็นหนุ่มรูปงามหลับอยู่ตรงหน้าเหรอ เอา water boarding ไปเถอะนะ ถ้าเป็นโชโจทั่วไปเขาก็ไปหาผ้ามาห่มให้แล้วป่ะ แต่นี่เสือกได้อะไรที่มันแบบ..... เรื่องนี้เหมือนจะเดินตามขนบโชโจ แต่แม่งก็แหกขนบด้วยตรรกะและความคิดเพี้ยนๆของเจ้าแม่ตลอด
แต่พูดก็พูดนะ เรย์กะกับคาบุนี่เหมือนโดนเซ็ตให้อยู่คู่กันจริงๆ ถ้าเป็นเรื่องอื่นนี่คาบุก็เป็นพระเอกไปแล้ว เพราะบทเยอะมาก แทบจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่เจ้าแม่คำนึงถึงอยู่ประจำ ถึงไม่ใช่แนวโรแมนติคแต่ก็จะวกไปคิดถึงคาบุได้ตลอดเวลาอย่างเช่นอีตานั่นเจอแบบนี้จะคิดยังไง หรือจินตนาการประหลาดๆไรงี้
แล้วทุกอย่างของสองคนนี้คือสอดคล้องกันมาก นิสัยตรงไปตรงมาคล้ายกัน ฉายาจักรพรรดิ-จักรพรรดินีคู่กัน รสนิยมความชอบเหมือนกันหมด เรย์กะชอบอะไร คาบุก็ชอบเหมือนกัน เช่นชอบกินของหวาน ชอบครีมทามือ ชอบพวกร้านฟาสต์ฟู้ด ระบบความคิดอะไรก็คล้ายๆกัน เซนส์ความโรแมนติคอะไรก็เว่อร์วังพอๆกัน อยู่ด้วยกันก็ตบมุกโบ๊ะบ๊ะดีมาก ถ้าคาบุหันมาจีบเรย์กะกูว่าสำเร็จเกิน 90% ด้วยซ้ำ ทุกอย่างง่ายดายสุดๆชนิดเรียกได้ว่าปูพรมโรยกลีบกุหลาบไปถึงเรือนหอหาฤกษ์แต่งงานได้เลย นางก็ใจเต้นกับท่านจักรพรรดิขามาตั้งแต่อ่านการ์ตูนในชาติก่อนแล้วด้วย เวลาคาบุมันทำอะไรหล่อๆนางก็โดขิโดขิมีปฏิกริยาอยู่ ไม่ใช่จะตายด้านไปซะหมด ยิ่งทางบ้านนี่แทบจะอุ้มใส่พานถวายอยู่แล้ว เซ็ตติ้งเดิมทางบ้านคาบุรากิก็มาจองไว้ด้วย แต่ถ้ามันง่ายขนาดนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องนี้สิวะ บอกแล้วว่าเรื่องนี้มันหักหลังมึงได้ทุกเมื่อนั่นล่ะอย่าคิดเยอะ 555555555555555555555
อุปสรรคที่ใหญ่หลวงมากของคู่นี้คือคาบุยังชอบวาคาบะอยู่และไม่มีทีท่าจะลดลง ใส่ความหนักแน่นของประเด็นนี้ด้วยการให้คาบุเป็นคนนิสัยจริงจังและมั่นคงเอามากๆ คลั่งรักขนาดไม่เจอหน้าตอนปิดเทอมแค่เดือนเดียวก็ทนไม่ได้ ต้องหาข้ออ้างไปเรียนพิเศษเพื่อจะเจอ ตอนยูริเอะก็ต้องรอให้อกหักและตัดใจได้ก่อนถึงจะมองวาคาบะได้ ตอนนี้คู่คาบุวาคาบะก็ยังเรื่อยๆมาเรียงๆ แถมคืบหน้าด้วยไม่ใช่ไม่คืบ ขนาดเรย์กะยังตกใจเลยที่วาคาบะอาสาทำข้าวกล่องมาให้กิน ถ้าจะบอกว่าวาคาบะทำขนมมาให้พวกสภานักเรียนกินอยู่แล้ว แต่นี่คือข้าวกล่องอะ ใส่กระเป๋ามาแบบถุงขนมหรือคุกกี้ไม่ได้เดี๋ยวหกเลอะเทอะ ข้าวกล่องมันก็หนักอยู่พอตัวแถมตัวเองก็ต้องขึ้นรถไฟมีสัมภาระหลายอย่างนั่นนี่ลำบากไปอีก ถ้าไม่คิดอะไรผู้หญิงที่ไหนจะลงทุนแบกไปให้กินฝีมือตัวเอง แล้วก็พัฒนาไปเดทตอนกลางคืนได้แล้ว กูว่าคู่นี้รอแค่เอ่ยปากเท่านั้นล่ะว่ะ
ยังไงกูก็คิดว่าคาบุยังไม่มาชอบเรย์กะแบบผู้บ่าวมองผู้สาวหรอก ถ้าไม่ถูกวาคาบะปฏิเสธล่ะก็นะ คู่นี้ยังพัฒนาความสัมพันธ์กันได้อีกยาว มีอะไรให้เล่นได้เยอะอยู่ พระเอกนางเอกคิมิดอลยังไม่ได้คบกันเลย อีเวนท์หลายๆอันก็ยังไม่มา กูว่าถ้าวันไหนคบกันแล้วความแตก แม่งปูทางเข้าสู่รูทงานหมั้นแน่นอนเพราะมาดามจะจับลูกชายแยกจากสาวบ้านๆ ซึ่งอ.ฮิโยโกะจะให้คาบุมันสมหวังในปลายทางมั้ยก็ไม่รู้เหมือนกัน มาต่อซักทีเถอะอยากรู้
เดี๋ยวพรุ่งนี้กูค่อยมาต่อประเด็นเอ็นโจ ฮึ่ย นานๆทีจะได้เม้ามอย น่าจะยาวว่ะ 5555555555555555
>>133 มรึงดูถูกพลังความเรียลของท่านฮิโยโกะมากไปวะเพื่อนโม่ง เพราะตลอดที่กุกลับมาอ่าน มันคือเรื่องราวของสาวน้อยทีปัญหาเรื่องความอ้วนกับการเรียนแบบเอาเป็นเอาตายที่พอจะมีเวลาเขียดมาให้บางตอน จะช่วงใกล้จบม.6อ่ะ ถึงเริ่มมีเรื่อง เผลอๆยาวยันจบเรียนมหาลัยแล้ว
แต่ดูจากการขมวดปมเร็วชิบคงหวังจบสมบูรณ์ตอนม.6 ยิ่งงานเลี้ยงนางไปน้อยมาก... ยิ่งเป็นบ้านพวกคาบุเอ็น ยกเว้นกรณียูกิโนะอยากให้มาเยี่ยมเท่านั้น ..ถ้าไม่โดนเจาะจงว่าต้องมาจริงๆแบบมาดามคาบุ นางไม่มา แถมพยายามกินของเน่าเสียให้ตัวเองป่วยอีก..(เอาจริงเกิ้นนน..)
ท่านฮิโยโกะโหดร้ายแบบนี้แหละ..(ในฟิลเตอร์กุนะ..)
อย่าเพิ่งตลาดวายนะ กูเพิ่งเข้ามา อ๊ากก T—T กูลงเรือเอ็นโจเรย์กะ ไม่รู้ว่าตกลงชอบจริงหรืออยากแกล้งเฉยๆกันแน่ เห้อ แต่มีหลายครั้งที่อ่านดีเทลยิบย่อยแล้วคิดว่าเอ็นโจมันมีซัมติงอยู่นะ ขอแชร์โมเม้นบ้าง
-มุมมองหัวหน้าห้อง ที่บอกว่า ‘เขา’ ก็คอยสอดส่องเจ้าแม่อยู่ตลอด ตอนที่เจ้าแม่โดนนกขี้ใส่หัว ‘เขา’ เห็นแล้วยังยิ้มเลย —> กูคิดว่า’เขา’=เอ็นโจ เพราะคาบุมันไม่ค่อยแคร์เจ้าแม่อยู่แล้ว ช่วงนั้นก็มองแค่ยูริเอะคนเดียว กับสาวคนอื่นเป็นแค่ธาตุอากาศ เพราะงั้นเหลือแค่คนเดียวนี่แหละ
-เจ้าแม่ไปงานเลี้ยงอะไรสักอย่างกับคุณอาคิมิ เจอคาบุบ่นเรื่องเกลียดคนที่อ้างไดเอตแล้วไม่ยอมกินอาหารที่เชฟบรรจงทำให้ แล้วเอ็นโจช่วยเถียงแทนว่าเรย์กะไม่เคยกินเหลือนะ ที่ห้องสโมกับโรงอาหารก็กินหมดตลอด—> นี่เอ็งสังเกตขนาดนั้นเลยเรอะ... ไม่ได้นั่งด้วยกันแท้ๆ หรือว่าที่จริงแล้ว ตั้งแต่สมัยไปทริปUSA เอ็นโจเห็นเจ้าแม่กินเค้กสีฟ้าจนหมดเลยสะกิดใจ หลังจากนั้นก็แอบสอดส่องตลอด?
-งานหิ่งห้อย เจ้าแม่เดินไปทางไหนหิ่งห้อยก็บินหนี เอ็นโจก็แอบขำนะ แซวด้วยว่าเดี๋ยวจับให้ดูเอาไหม เจ้าแม่ก็บอกไม่เป็นไร แต่วันถัดมากลับจับหิ่งห้อยใส่กรง ส่งตรงถึงตระกูลคิโชวอิน—> เดี๋ยวเซ่ ตอนนั้นเจ้าแม่ก็บอกอยู่แท้ๆว่าขอแค่ความรู้สึกก็พอแล้ว นี่เอ็งลงทุนเกินเบอร์ปะเอ็นโจ...
-งานโรงเรียน ยุยโกะมาหา แค่เรียก’ชู’คำเดียว เอ็นโจยังสะดุ้งก่อนกลับมาเป็นปกติ ตอนที่เจอกันในงานเลี้ยงทานาบาตะ สังเกตว่าเจ้าแม่คุยกับจอมมารติดลมมาก แต่พอยุยโกะโผล่มาแล้วบรรยากาศชะงักเลย วงแตก เจ้าแม่ขอตัวลา เอ็นโจยังขมวดคิ้ว แล้วทำไมตอนยุยโกะถูกผู้ชายรุมถึงไม่เข้าไปดูแลใกล้ๆอะ ทางนั้นเป็นว่าที่คู่หมั้นเชียวนะ(หลังงานรร.ก็ปฏิเสธเรย์กะตั้งหลายรอบนี่นะ ว่าตัวเองไม่ได้เป็นแฟนกับยุยโกะ เป็นแค่ว่าที่คู่หมั้น)
-ตอนที่สามหน่อจะไปหาของกินกัน เอ็นโจโดนตาไก่โง่ตามตื๊อให้ไปกับคุณยุยโกะ ครั้งแรกเอ็นโจก็ขอตัวแยกแล้วไปตามนัด แต่ครั้งถัดมา(กิชหรือโอโคโนมิยากิ ลืมอะ)เอ็นโจก็บอกตาไก่โง่ตรงๆว่าจะไปกับเพื่อน เลิกตื๊อสักที—>กูว่าตาไก่โง่ต้องเอาไปฟ้องยุยโกะแน่ๆ นางเลยสนใจเจ้าแม่เป็นพิเศษ สังเกตว่าเวลาเจอกันทีไร จ้องเรย์กะตาเยิ้มตลอด 555555
-เรย์กะแอบชมยูกิโนะตอนเสิร์ฟชาให้ว่า ขนาดตัวพี่ชายยูกิโนะเองยังไม่เคยเห็นรินชาให้ใครเลย —>แต่ตอนที่เจอเอ็นโจนั่งหงอยในห้องสโมสรคนเดียว เฮียแกก็ลุกมาชงชาให้เรย์กะนะ เสิร์ฟเพิ่มให้อีกแก้วด้วย(แต่ถ้าตัดฟิลเตอร์ออก อาจจะทำให้ในฐานะสุภาพบุรุษที่อยู่ในห้องสโมสรคนเดียวเฉยๆ...)
-เอ็นโจชอบพูดลอยๆเรื่องสปายให้เจ้าแม่ฟัง ถ้าไม่นับเรื่องที่เคยเป็นสปายให้คาบุสมัยปีมะโว้ กูว่าพี่แกรู้เรื่องระหว่างเจ้าแม่กับวาคาบะว่ะ เผลอๆอาจเป็นคนบอกคาบุเอง เรื่องที่โคโระจังอาจจะเป็นคนเดียวกับเรย์กะ(ก็คาบุรากิมันทึ่มจะตาย) ตอนที่เจ้าแม่แวะเวียนไปห้องสภานักเรียนก็รู้ด้วย—> อันตรายมากกก กูอ่านแล้วยังงง รู้ได้ไง!?
-กูว่าอีกสาเหตุที่ยูกิโนะติดเรย์กะแจ เพราะน้องมันอาจรู้ว่าพี่ชายตัวเองมีความรู้สึกดีๆกับเรย์กะน่ะ เห็นชอบเล่านู่นนี่ให้ฟัง ตอนที่เจอกันครั้งแรก พอเจ้าแม่บอกว่าเคยได้ของฝากจากเอ็นโจ ก็เป็นมิตรด้วยทันที เออ ท่าทีของคาบุกับเอ็นโจ ตอนที่เจ้าแม่ชมว่ายูกิโนะเป็นเด็กดีอ่อนโยน มันดูแปลกๆทั้งคู่ กูแอบคิดว่าเด็กนี่ต้องร้ายเงียบแน่ๆ ต่อหน้าเรย์กะเป็นเด็กดี แต่ลับหลังดื้อมาก5555
(ต่อ)
-หลังเหตุการณ์จอมมารนั่งหงอยในห้องสโม เจ้าแม่เจอตาไก่โง่ แล้วตาไก่โง่บอกว่าวันนี้เอ็นโจกับยุยโกะออกไปเที่ยวกันสองต่อสอง—> ทำไมกูคิดว่าอาจจะออกไปเคลียร์ปัญหากันมากกว่า ทางด้านเอ็นโจดูไม่ได้ชอบอะไรยุยโกะเป็นพิเศษอยู่แล้ว เหมือนทำตามหน้าที่ คาบุเองก็ยังไม่เคยพูดถึงยุยโกะเลย ทั้งๆที่แวะไปเที่ยวบ้านเอ็นโจตั้งบ่อย ไม่แน่พอยุยโกะขึ้นมหาลัยแล้ว อาจทำให้เวลาไม่ตรงกัน เลยโดนตระกูลอุริวเร่งให้จัดงานหมั้น โดนกดดันทุกทางจนเครียดจัด ถึงขนาดการเรียนตก ต้องหนีจากบ้านมานั่งซมซานที่โรงเรียน
-บังเอิญเจอกันที่คาเฟ่ เอ็นโจทักว่าพรหมลิขิตรึเปล่า เจ้าแม่ปฏิเสธทันควัน(อย่าหักเรือตัวเองสิ!) พอนินทาเรื่องอาการคลั่งรักของคาบุ เอ็นโจกลับมาบอกว่าตัวเองไม่อยู่ในฐานะให้คำปรึกษา —> มีปัญหาอะไรกับยุยโกะจริงๆใช่มั้ยเนี่ย หรือจงใจปัดปัญหา ตอนเค้กมาเสิร์ฟก็ยิ้มแย้มนั่งจ้องเรย์กะกินตลอดจนเจ้าตัวอึดอัด ไอ้หมอนี่ ตกลงคิดอะไรกับเขารึเปล่าฟะ
-ไดเอตกับเทรนเนอร์คาบุรากิ เจ้าแม่วิ่งบนลู่จนล้มตึง คาบุยื่นมือมาช่วย ชมว่ายอดเยี่ยมหลังจากด่ามานาน เรย์กะซึ้งใจ แต่เอ็นโจดันเข้ามาขัดเงียบๆด้วยท่าทางเย็นชา(?) จบด้วยคาบุเดินหนี เอ็นโจเลยอาสาให้ยืมมือ พาเดินประคองไปถึงห้องเปลี่ยนชุดแทน—> ท่านจอมมาร... นี่ฉวยโอกาสจับมือเจ้าแม่แทนคาบุรากิรึเปล่าวะ
-ตอนล่าสุดที่ยูกิโนะชวนเจ้าแม่ไปดูดอกไม้ไฟ กูคิดว่าไหนๆเจ้าแม่ก็เคยพายูกิโนะมาเที่ยวบ้านแล้ว(ตอนนั้นอยู่บ้านคนเดียว) แค่ไปดูดอกไม้ไฟบนภัตตาคารหรู ไม่ได้เป็นสถานที่อันตรายหรือแปลกๆเช่น แผงลอย เอ็นโจจะตามมาด้วยทำไม อีกอย่าง อีเว้นท์ดอกไม้ไฟปกติมันต้องไปดูกับสาวซี่ แต่เอ็นโจกลับจะไปกับน้องชายและเรย์กะเนี่ยนะ แล้วคุณยุยโกะล่ะ? (ถ้าโผล่มาเซอร์ไพรส์บนภัตตาคารกูจะโกรธท่านฮิโยโกะมาก5555)
-มีหลายครั้งที่จอมมารชอบชมเจ้าแม่ว่าเหมือนกระต่าย คิดว่าน่าจะเริ่มมาจากทัศนศึกษาสมัยประถม ที่เจ้าแม่ไปอุ้มกระต่ายเล่น ตอนนั้นมีผู้หญิงกรี๊ดๆว่าเอ็นโจมองมาทางนี้ด้วย พี่แกอาจจะเห็นเจ้าแม่กับกระต่ายแล้วคิดว่าน่ารักดีก็ได้นะ
.
ยกมาเท่านี้ก่อน แค่นี้ก็ยาวมากแล้ว555 ถึงเอ็นโจมันจะชอบโยนปัญหาของเพื่อนสนิทให้เจ้าแม่เป็นคนจัดการจนน่ารำคาญ แต่กูว่ามันก็ดูซัมติงอะ กับคาบุเรย์กะกูมองฟีลมิตรภาพมากกว่า คาบุมันปากเสียด้วย ชอบด่าเรย์กะ ถ้าได้คู่กันกูคงรู้สึกแปลกๆ... แต่ถ้าได้คู่กับประธานนักเรียนกูก็ดีใจนะ ไหนๆก็คุยกับเรื่องทีวีไดเร็คถูกคอ รู้ธาตุแท้เจ้าแม่แล้วด้วย ถึงเปอร์เซ็นต์จะริบหรี่มากก็เถอะ จะว่าไปพ่อเอ็นโจแทบไม่มีบทเลยนี่หว่า ตัวละครลับรึเปล่า หรือทำเรื่องทุจริตไว้เยอะเลยต้องวิ่งเต้นตลอด บากหน้าให้ตระกูลอุริวเข้ามาช่วย โดยส่งลูกชายคนโตไปเป็นว่าที่คู่หมั้นกับสาวฝั่งนั้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสองตระกูลเอาไว้ ยูกิโนะรับรู้ถึงความกดดันของพี่ชายเลยพลอยไม่ชอบหน้ายุยโกะไปด้วย!? เริ่มไปไกลล่ะ
Btw ยังคงหวังให้ท่านฮิโยโกะกลับมาเขียนต่อ กูคิดว่าเรื่องนี้อ่านเพลินมากเลย โคตรเสียใจที่หยุดอัพ เพื่อนกูถึงขนาดร้องไห้...
>>139 กูเสริมให้เรื่องนึงคือหนังทุกเรื่องที่เอ็นโจเอามาพูดในตอนที่ 238 จะมีพล็อตประมาณว่าที่คนที่ยุ่งกับเมียพระเอกหรือคนที่พระเอกชอบ ล้วนแต่ไม่ตายดี โดยพระเอกคือคนลงมือฆ่า หรือไม่ไอ้หมอนั่นก็มีอันเป็นไปน่ะ
ไม่รู้ชอบดูจริงหรือแค่ขู่ ถ้าเอามาขู่มาซายะนี่คือแบบ...ถ้ามึงยังยุ่งกับผู้หญิงของกู กูจะฆ่ามึงกันเลยทีเดียว แถมเนื้อหาของหนังแม่งสุดตีน แถมมีฉากเซ็กส์โป๊เปลือยแบบโจ๋งครึ่มไปแล้ว 2 ใน 3 นายยังอายุไม่ถึง 18 เลยนะ 55555
>>140 กูว่าคงเป็นจุดเริ่มต้นให้ฮีเรียกเรย์กะเป็นกระต่ายมั้ง แถมเรย์กะนางมีนิสัยขี้กลัวแบบกระต่ายด้วย เวลามีภัยอะไรก็โดดหนีไปก่อน ถ้าไม่สนใจในด้านบวกไม่น่าจะตั้งฉายาน่ารักๆให้ แถมเอะอะก็เรียกนุ้งต่ายตลอด ชมน่ารักเหมือนนุ้งต่ายแบบนั้นแบบนี้
อันนี้กูกาวเองว่าที่จอมมารฝึกทำลาเต้อาร์ท เพราะมีตอนนึงที่ไอระไปเที่ยวกับเรย์กะ แล้วเรย์กะนางสั่งลาเต้อาร์ท ไม่รู้ไอระไปเล่าเรื่องนี้ให้ฟังรึเปล่า พองานโรงเรียนปีถัดไปห้องเอ็นโจทำคาเฟ่เลย ทั้งที่ปีก่อนหน้านั้นสาวๆไม่อยากทำคาเฟ่เพราะกลัว"ท่านเอ็นโจของห้องเรา"จะโดนสาวๆรุมล้อม กูว่าพี่แกอาจจะอยู่เบื้องหลังการทำคาเฟ่ก็ได้ แล้วก็เสนอตัวว่าจะเป็นบาริสต้าเพื่อจะได้เทลาเต้อาร์ทให้เจ้าแม่ แบบว่าอยากให้กินฝีมือตัวเองน่ะ ยังไงแกก็ชอบกาแฟและชอบนุ้งต่ายอยู่แล้ว ได้เทลาเต้อาร์ทให้เจ้าแม่กินนี่ก็ได้ผลประโยชน์สองเด้ง แม้ผลลัพธ์มันจะ......ก็เหอะ
รู้หรือไม่ กระต่ายนอกจาก เป็นสัญลักษณ์ของความน่ารักขี้กลัว
ยังสื่อถึงในแหง่ เรื่องฤดูเพศสัมพันธ์ุอีกด้วย....(ภาษาบ้านๆ บ้าXXXนั้นเอง...) เอ็นโจเอ๋ย ในสายตาเอ๋งท่านเรย์กะเป็นคนยังไงเนี่ย...
>>143 เรื่องนี้มันใสๆ(มั้ง) เรื่องกระต่ายคงเอามาแค่ความน่ารัก ขี้กลัว ขนฟู ตากลมแป๋วเฉยๆคงไม่ได้ตีความลึกลงไปถึงขั้นขี้เงี่ยนหรอก ต้องให้เป็นแฟนกันก่อนมั้งถึงจะรู้ว่าบ้าเซ็กส์มั้ย ถถถถถถถถถถถ
แต่กระต่ายมันเสร็จไวนะเว้ย กระต่ายที่กูเลี้ยงไว้สองตัว ทำหมันตัวเมียแล้ว ตัวผู้ขึ้นคร่อมแล้วกระดกตูดอยู่ประมาณยี่สิบวิ...เสร็จแล้วลงมานอนแผ่ ตัวเมียยังเคี้ยวหญ้าหยับๆอยู่เลย เหมือนไม่รู้เรื่องว่าโดนทำอะไร
>>139 เรื่องรู้เป็นสบาย ก็น่าจะตามที่เจาตัวบอกนั้นแหละว่าเรย์กะออกมาจากห้องไหนกันน้า~ คงเห็นแล้วพอทราบมั่ง (เอาจริงมันอาจจะโดขิโดขิกว่าที่คิดก็ได้ แต่บางทีเอ็นโจมันฉีกหน้าเจ้าแม่เรื่องพวกนี้แล้วไปยืนกลั่นขำ โอโฮ๋...เจาะเรือตัวเองเองน่ะ..เอ็นโจเอ๋ย แล้วฝ่ายสาวจะกล้าเข้าใกล้เองไหม..!?
คิดสิคิด..เอ็นโจ!? ว่าอีก500ตอนจากนี้จะเหลืออะไร!?)
เห็นด้วยหลายข้อเลยครับ เอาซะศรัทธาเรือเอ็นโจที่กระโดดทิ้งไปนั่งเรือคาบุตั้งแต่ตอนเกือบ200 คืนมา ไอหลายข้อต้องรอเอียพิสูจสถานเดียว
แต่ถ้ามองแบบตัดฟิลเตอร์ทิ้งเลยก็ยังมองยากอยู่ดี ทั้งประเด็นยูกิโนะอาจจะเป็นพ่อสื่อ..แต่หลายครั้งก็ไปแค่กับเรย์กะ ไอเรื่องพรมลิขิตตอนร้านคาเฟ่มันดูกวนตีนมากกว่า..
แต่ตอนไดเอท ผมว่า มันน่าคิดตรงที่ตอนคาบุด่าว่าเรย์กะขาใหญ่โน้นนี่ยังกับสัตว์สองกีบ แต่เอ็นโจออกตัวแย้งสุดฤทธิ์ว่าไม่จริง..น่ารักจะตาย! (ถ้ามองในโลกเมะและโลกจริงขาอิ่มๆนุ่มๆนิดหน่อย..ผมว่าถ้ามองภาพจริงๆเรย์กะขาสวยนะ มันค่อนข้างน่ารักจริงๆนั้นแหละขานิ้มๆสั่นๆที่อวบอิ่มนิดหน่อย เช่น sss.grid,Assault lily คาบุแม่งเด็กน้อย ...เถียงแทนให้เจ้าแม่ล่ะนะ)
แถมพอฝึกจบคาบุชม ประหนึ่งตบหัวแล้วลูบหลัง เอ็นโจก็ทำหน้านิ่ง..แล้วบอกคาบุมันไมล์ครอนโทล อย่าไปเชื่อมัน บางที่เฮียอาจจะไม่พอใจก็ได้
ว่ามันก็ดีอยู่แล้ว...คาดว่าน่าจะรสนิยมเฮีย พยายามดันเรย์กะว่าไม่ต้องหรอก ทั้งที่ถ้าอยากฉีกหน้าอยากล้อปกติก็คงช่วยยัวยุจนเจ้าแม่มากับคาบุไปแล้ว ไม่ก็ล้อว่านั้นนี้เจ้าแม่แล้วเหยียดยิ้ม หัวเราะหึๆเอา หรือถ้าอยากช่วยจริงๆหรือปล่อยไปเฉยๆ ทำเงียบให้เรย์ยอมคลานกลับไปหาคาบุก็ได้แท้ๆ
แต่เฮียคร่าวนี้ต้านแหะ..แบบว่าไม่รู้ว่าทำไม ถ้ามองในแหง่ตัดฟิตเตอร์คงเพราะสงสารเจ้าแม่ แต่ดูจากที่ดูไม่พอใจหน่อยๆ กุว่าเป็นไปได้ว่าอาจจะคิดงั้นจริงๆ
>>139 ทีแรกกูจะพิมพ์คล้ายๆมึงนี่ล่ะ แต่เห็นมึงพิมพ์แล้วกูจะเสริมๆให้ละกัน
จากที่หัวหน้าห้องบอกว่า "เขา" คอยสอดส่องอยู่เสมอ คีย์เวิร์ดมันอยู่ที่ "คอยสอดส่องอยู่เสมอ" นี่ล่ะ ใครจะรู้เรื่องเจ้าแม่ดีขนาดนั้น ทั้งเรื่องกินข้าวจนหมดก็รู้ ทั้งที่ไม่ได้นั่งกินด้วยกัน ที่สำคัญคือเจ้าแม่ไปทำอะไรก็รู้หมด เอามาพูดให้ร้อนๆหนาวๆเล่นว่ากูรู้นะมึงไปทำอะไรมา เผลอๆพี่แกเป็นเพื่อนกับวาคาบะก่อนเจ้าแม่อีกมั้ง เพราะตอนอยู่ห้องเดียวกันกับวาคาบะก็เห็นคุยกันดี เอ็นโจเป็นฝ่ายเดินไปหาก่อน มีพยักเพยิดหน้าให้กัน แนะนำของฝากนู่นนี่ให้อีก เซ็ตติ้งเดิมในคิมิดอล เอ็นโจก็คงสนิทกับวาคาบะมากนั่นล่ะ
เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันสามคน เอ็นโจจะเป็นคนที่อยู่ตรงกลาง เพราะมีฉากบรรยายประมาณว่าเรย์กะกับคาบุเถียงกันไปตลอดทางโดยมีเอ็นโจคั่นกลาง ไม่ให้เรย์กะไปเดินข้างๆคาบุ ซึ่งหลายๆทีคาบุจะเดินนำหน้าไปก่อน พี่แกกับเรย์กะเดินตามตลอด เวลานั่งเรียงกัน เอ็นโจก็นั่งคั่นกลางอีกเหมือนกัน ส่วนนึงก็คงเพราะคาบุมันไปนั่งหัวโต๊ะตลอดด้วย ตอนห้องสโมสรนี่ดูจงใจที่จะนั่งลงข้างๆเลย ที่เจ้าแม่ขอให้ตบหลังให้หน่อยน่ะ
ตอนเรย์กะกับคาบุไปนั่งข้างๆกันอ่านหนังสือ ตอนนั้นคือรู้สึกได้เลยว่าเอ็นโจดูอารมณ์เสียมาก เพราะพูดจาหาเรื่องและตีรวนตลอดการสนทนา คือปกติจะไม่เป็นแบบนี้ จะดูใจเย็นและอารมณ์ดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ดูจงใจพูดกวนตีนกันแบบนี้ ขู่คาบุ(?)ด้วยหนังแต่ละเรื่องที่มันมีพล็อตว่าพระเอกฆ่าคนที่มายุ่งกับเมียตัวเองตายแทบทั้งนั้น
ช่วงที่เรย์กะไปขลุกอยู่ตอนเช้ากับอาริมะ พี่แกก็พูดเป็นนัยๆว่ารู้ ช่วงนั้นพี่แกดูยันแตกมากเป็นพิเศษ แต่ก่อนหน้านั้นเรย์กะก็มีไปขัดโต๊ะให้วาคาบะคนเดียวก็ไม่เห็นมีปฏิกริยาอะไร พออาริมะมาร่วมวงนี่ดูอารมณ์ไม่ดีถึงกับมาพูดกดดันเลย อยากให้เลิกทำ??
ไปเที่ยวอควอเรี่ยม ไม่ชวนเพื่อนชายคนสนิทไป ต้องให้คาบุไปเจอเองถึงจะได้ไปด้วย และอีตานี่ก็ให้คาบุดูแลพวกเด็กๆ ส่วนตัวเองไปเดินปิดท้ายขบวนกับเจ้าแม่ ดูปลาในตู้กันสองคน
เอ็นโจมักจะชมเรย์กะเป็นประจำ ชมว่าน่ารักเหมือนกระต่ายตลอด แต่ที่ชัดมากคือชมต้นคอเรียวสวย แถมบอกว่าคิดเรื่องนี้มานานแล้ว แกไปดูต้นคอเขาแล้วคิดเรื่องนี้มานานแล้วนี่หมายความว่ายังไง แล้วไอ้ที่คิดนี่คือคิดอะไร.....
พอไปงานเลี้ยง ต่อให้คนในงานจะเยอะขนาดไหน พี่แกก็จะหาเรย์กะเจอเสมอ เดินมาหา มาคุยนิดๆหน่อยๆก็เอา ทิ้งเพื่อนแบบมาซายะ ทิ้งยุยโกะไว้ด้วย
โทรศัพท์มาคุย ให้น้องนำร่องมาก่อนแล้วตัวเองยึดมือถือคุยยิงยาว ไล่น้องหนี อะไรทั้งหลายทั้งแหล่ก็อ้างน้อง แล้วน้องก็รับลูกได้ดีมาก
เรื่องจับหิ่งห้อยนี่ กูว่าเอ็นโจจับให้ด้วยตัวเอง เพราะคนที่พี่แกแคร์ พี่แกก็จะลงแรงไปทุ่มเทให้เหมือนกัน แบบตอนที่ตามหามาซายะที่ผาโทจิมโบ หรือปั้นตุ๊กตาหิมะให้น้อง ตอนนั้นกูว่าฮีน่าจะเริ่มรู้ใจตัวเองว่าชอบเขาแล้ว เลยลงทุนไปจับให้เองแน่นอน
กูนึกออกเท่านี้ เดี๋ยวกลับบ้านค่อยต่อละกัน
>>146 อุเหย กูคิดเหมือนมึงเกือบทุกข้อเลย พูดถึงอาริมะ จะว่าไปมันมีตอนนึงที่อาริมะกับเรย์กะจับคนร้ายคดีล็อคเกอร์สำเร็จแล้วเคลียร์กันด้วยดี หลังเรย์กะออกจากห้องสภาฯก็โดนคาบุรากิลากไปร้านฟาสฟู้ด พอดีกับเอ็นโจที่เดินมาด้วย พอเจ้าแม่บ่ายเบี่ยงไม่อยากไป เอ็นโจที่คราวก่อนอดไปกินราเม็งด้วยกลับใช้ท่าไม้ตาย พูดเป็นนัยว่าตัวเองรู้เรื่องที่เรย์กะแอบคบค้าสมาคมกับสภานักเรียน สุดท้ายเรย์กะกลัวความแตกเลยยอมตามไป หลังจบมื้อเย็นที่ฟาสต์ฟู้ด เอ็นโจก็ชวนคาบุรากิไปต่อที่ร้านกาแฟ โดยการทิ้งเจ้าแม่ไว้ที่ร้านฟาสฟู้ดคนเดียวอย่างน่าสงสาร …หรือนี่จะเป็นการแก้แค้นของพี่แก ข้อหาแอบคบค้ากับประธานนักเรียนแบบลับๆ? ก็แหม แบบว่าหงุดหงิดอะนะ คราวก่อนจะไปกินราเม็งด้วยกันก็โดนขัดจนอดไป ครั้งนี้จะไปกินฟาสต์ฟู้ดด้วยกันก็โดนปฏิเสธอีก ครั้งหน้าตอนชวนไปร้านคีชเลยยกน้องชายตัวเองขึ้นมาอ้างซะเลย ทีนี้เรย์กะจะได้ปฏิเสธไม่ได้ เหอๆ
>>147 กูว่าช่วงนั้นพี่แกอารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดเพราะน่าจะเจอหลายๆเรื่อง ยุยโกะกับไก่โง่ก็มาตื๊อๆจนรำคาญหน้าบึ้งแบบไม่คิดจะเก็บอารมณ์ แถมมาเจอเรย์กะอิดออดไม่ยอมไป แนะนำร้านกาแฟก็โดนบ่ายเบี่ยงแถมโยนเรื่องไปให้มาซายะด้วยคงปรี๊ดแตก ตอนท้ายถึงได้ดูไม่แคร์อะไรเพราะกำลังโกรธอยู่ กูรู้สึกว่าเวลาฮีคุยกับเจ้าแม่มันดูมีเยื่อใยกว่านี้ ดูมีลูกล่อลูกชนให้คุยแบบติดลมยาวๆได้น่ะ
ถ้าจะให้วิเคราะห์เนื้อเรื่องกับพวกการคิดนัยยะที่มันแฝงอยู่ระหว่างบรรทัด รวมไปถึงวิเคราะห์ตัวละครก็สนุกดี
คาบุกับเอ็นโจนี่ถึงดูภายนอกจะนิสัยต่างกัน แต่จริงๆแล้วเหมือนกันยิ่งกว่าที่เห็นนะ กูว่าสองคนนี้แม่งศีลเสมอกันทุกด้าน ไม่งั้นคบกันเป็นเพื่อนมายาวนานขนาดนี้ไม่ได้ ฟีลคล้ายๆท่านพี่กับอิมาริ (หรือคู่นี้เขาไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นเฟื่อน เป็นเพื่อนชุบแป้งทอด 55555555555)
เจ้าแม่มองว่าเอ็นโจเป็นจอมเจ้าเล่ห์ชอบวางแผน คาบุซื่อบื้อตรงไปตรงมา แต่จริงๆแล้วคาบุก็เป็นจอมวางแผนเหมือนกัน แบบตอนเอาเด็กรุ่นน้องมาลงโทษ นั่นคาบุก็วางแผนเองล้วนๆ เอ็นโจจะออกแนวจะเป็นคนซัพพอร์ต อุดรูรั่วในแผนคาบุซะมากกว่าวางแผนให้คาบุทำตาม อันนี้ก็ตามบทบาทเดิมตามประสาผู้ช่วยพระเอกในมังงะ แบบตอนเขียนจดหมายหายูริเอะที่เรย์กะประเมินไว้ว่าข้อความในจดหมาย เอ็นโจน่าจะช่วยเกลาหรือเสริมแต่งความน่าสงสารลงไป ดังนั้นเรื่องแผนที่ทำให้บ้านคิโชวอินล่มตามต้นฉบับ กูก็คิดว่าคาบุคงเป็นคนวางแผนทั้งหมด ขนาดรุ่นน้องดูหมิ่นวาคาบะแค่ไม่กี่ประโยคยังโดนจับติวรากเลือดจนไม่มีเวลาไปซ่าส์ แล้วเรย์กะนางร้ายที่ตามกลั่นแกล้งแฟนสาวมานานนี่จะเหลือเรอะ
แล้วสองคนนี้ชอบทำอะไรคล้ายๆกันด้วยนะ อย่างการทรีตสาวที่ชอบ มันจะมีความ Related กันอยู่ กูไม่รู้ว่าเขาจงใจเขียนให้เป็นงี้ป่ะนะ อย่างตอนคาบุพาวาคาบะไปกินของหวาน คาบุสั่งทีรามิสุให้วาคาบะ เอ็นโจก็สั่งทีรามิสุให้เรย์กะ คาบุพาวาคาบะไปอควอเรียม เอ็นโจก็พาเรย์กะไปอควอเรียมเหมือนกัน งานดอกไม้ไฟต่างคนก็พาสาวแยกกันไป คิดว่าในอนาคตถ้าเขามาเขียนต่อคงได้เห็นฉากที่มันคล้ายคลึงกันอีกเยอะ
แต่พูดถึงความ Related คิดว่าคนเขียนแกก็กลั่นแกล้งสองคู่นี้อยู่นะ ทั้งเรื่องจะเห็นคาบุวิ่งตามวาคาบะ ดูคลั่งรักจนไม่มองใคร แต่ก็สร้างโมเมนต์และเคมีที่เข้ากันมากๆให้เรย์กะ อยู่ด้วยกันแล้วตบมุกโบ๊ะบ๊ะ ดูมีความเข้าอกเข้าใจและห่วงใยกันพอประมาณ แต่ก็เขียนให้คาบุไม่มองเรย์กะเป็นผู้หญิงเลย เห็นเป็นเบ๊ คนสนิท ลูกน้อง เพื่อนสาวไรงี้มากกว่า ย้ำความหนักแน่นในเรื่องนี้ว่าคาบุคือคนนิสัยใจคอหนักแน่นไม่โลเล รักใครพุ่งตรงเข้าหาคนนั้นไปเลยไม่มีอะไรแอบแฝง ความรักมีไว้พุ่งชน
ส่วนเอ็นโจนี่มาแนวคลุมเครือตลอด หลายครั้งที่พี่แกเหมือนจะคลั่งรักกับเขา แต่ก็ผลักไสเขาไปให้เพื่อนสนิทตลอดจนกูไม่รู้จุดประสงค์ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ฝากฝังมาซายะไว้ด้วยนะ เอ็นโจนี่เข้าใจยาก ดูเศร้าๆหม่นๆเหมือนเพลงประจำตัวเลย
ปัญหาและปมของคาบุนี่ทุกคนจะรู้กันหมดละ แต่ของเอ็นโจนี่แง้มมาทีละหน่อยๆ เอาให้เห็นภาพว่าทางบ้านมีปัญหาหนักมากและใหญ่มาก แบบที่แก้คนเดียวไม่ได้ เพื่อนแบบมาซายะก็ช่วยไรไม่ได้ แต่ปัญหาคืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ ต้องให้เจ้าแม่ไปทัวร์บ้านเอ็นโจดู แต่กูก็ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่านางจะไปแก้ปัญหาให้เอ็นโจได้ยังไง ถ้าเป็นเรื่องคู่หมั้นนางไม่ยอมไปเป็นมือที่สามใครแน่ๆ แต่ถ้าปมมันใหญ่กว่านั้นมันก็เรื่องภายในตระกูลอีก นางจะยื่นมือไปสอดได้เรอะ
แต่เนื่องจากเป็นเรื่องนี้ กูว่าชะตากรรมของเอ็นโจในตอนจบคงไม่หม่นขนาดนั้น ถึงหม่นก็คงแก้ปัญหาผ่านไปได้ด้วยดี ขนาดคาบุที่เพิ่งไปฆ่าตัวตายนั่งโทรมๆหมดอาลัยตายอยากในห้องพัก นางยังลากกลับมาเป็นคอมเมดี้ จะพาไปบวชอยู่เลย ดังนั้นคงไม่มีที่ว่างสำหรับความระทมให้เรื่องนี้นานหนักหรอก
ส่วนอิมาริท่านพี่นี่กูว่ามีความศีลเสมอกันสุดๆอะ อิมาริยังเคยพูดเลยว่าท่านพี่ก็ไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องแบบที่สร้างภาพให้น้องเห็น ไม่แน่อาจจะเคยเที่ยวผู้หญิงด้วยกัน แต่กูก็นึกภาพท่านพี่เที่ยวผู้หญิงหรือจีบสาวไม่ออกเลย ลักษณะท่านพี่แม่งเหมือนเคะเมียหลวงราชินีผู้ยิ่งใหญ่ที่ผัวทูนหัวทูนเกล้าในมังงะวายสุดๆอะ
>>149 น่าคิดตริงๆด้วยวะ ว่าจะไปอีเวนท์บ้านเอ็นโจยังไง ปัญหาทางบ้านมันหนักขนาดไหนกันแน่ ถ้าขนาดคาบุรากิยังช่วยไม่ได้แล้วเจ้าแม่จะทำอะไรได้... อันนี้ความคิดชั่ววูบนะ..
หรือจะเล่นประเด็นยูกิโนะคุงว่ากำลังจะตายอยู่ได้อีกไม่นานอะไรแบบนี้ปะวะ ถึงจะให้เจ้าแม่เข้าอีเวนท์เอ็นโจได้ แต่อันนี้หนักไป กุว่าไม่ได้แหง่
หรือบางทีอาจจะกาวกว่าที่คิดแบบเดิมๆ คือสรุปไม่มีอะไร คนดูคิดไปเอง สรุปไม่มีอะไรเกิดขึ้น..แบบตอนอีเวนท์อื่นๆดัดหลังคนอ่าน
เพราะ บ้านเอ็นโจก็ไม่ได้ยุ่งอะไรกับนางเท่าไหร่ยกเว้นกรณียูกิโนะคุง.. แถมพ่อแม่ครอบครัวเอ็นโจไม่รู้อะไรเลย ถ้าเทียบกับบ้านคาบุ
>>149 ตรงประเด็นที่ว่าทั้งที่คาบุก็วางแผนได้เหมือนกัน แต่เจ้าแม่มองว่าคาบุซื่อบื้อตรงไปตรงมา เอ็นโจเจ้าแผนการ นี่ก็น่าคิด เป็นไปได้ว่าเกิดจากฟิลเตอร์ของเจ้าแม่ป่าววะ เหมือนว่าเราชอบใครก็อยากให้คนนั้นมีความสดใสตรงไปตรงมา อะไรที่ดาร์คก็โทษว่าเกิดจากคนรอบข้างเขา
>>150 คงไม่หรอก แค่หอบหืดเฉยๆไม่ตายง่ายขนาดนั้นหรอก ตอนเด็กๆกูก็เป็นหอบหืดแต่ก็อยู่มาได้ยันปัจจุบันนะ แถมหายแล้วด้วย 55555555555
>>151 กูว่าเพราะเจ้าแม่เห็นคาบุมาตั้งแต่เด็กป่ะ อุปนิสัยตรงไปตรงมาแบบสุดๆ อ่านทางง่าย คิดอะไรอยู่ก็พอเดาออก แบบตอนเด็กที่ไปคลั่งรักแบบเด็กๆใส่ยูริเอะ ดูออกง่ายมาก โกรธก็โกรธให้รู้เลย เวลามีความสุขก็แสดงความแฮปปี้ออกนอกหน้า แต่เอ็นโจจะออกแนวคลุมเครือไม่เผยใจจริงเอาแต่ยิ้ม คิดอะไรอยู่คือเดาไม่ออกเลยว่าจะดีหรือจะร้าย เพราะเวลาร้ายพี่แกก็ร้ายทั้งที่ยังยิ้มอยู่นี่ล่ะ อย่างตอนไปทวงบุญคุณก็พูดแบบยิ้มๆ ทำร้ายจิตใจใครก็ทำตอนที่ยังยิ้ม เศร้าก็ยังยิ้ม พอเป็นงี้ก็เดาไม่ออกหรอกว่าไอ้ที่ยิ้มๆน่ะอยู่ในฟีลไหน ทำให้เจ้าแม่ต้องระวังตัวกับเอ็นโจมากเป็นพิเศษ
แต่กับคาบุเจ้าแม่จะรับมือได้ค่อนข้างดีเพราะเดาทางมาล่วงหน้าได้แล้วว่าต้องทำยังไง แบบตอนที่คาบุหลบหน้าแล้วเจ้าแม่สงสัยว่ามีไรปิดบังอยู่ป่ะ ปกติแกไม่เป็นงี้น่ะ แล้วลากไปสอบสวนจนได้ความว่าไปสตอล์กเมียเก็บนางอยู่นี่เอง
ช่วงนี้กุจะมาบ่อยนะ เพราะกุว่าปีนี้คือปีสุดท้ายที่จะตัดสินว่าคนเขียนมาต่อรึเปล่า
เพราะถ้าหลังจากนี้คงยากแล้ววะ.... จริงๆเขียนเรือคาบุ-เอ็นโจเมื่อกี้แต่เว็บล้มเขียนมาอย่างยาวหายเรียบ ;w;)
กูอยากลงวายอิมาริท่านพี่มาก ที่นี่ลงพอร์นได้แค่ไหน ได้มากสุดแบบจูบกันนิดหน่อยแล้วตัดเข้าโคมไฟแบบนี้ป่ะ
เรือคาบุ-เอ็นโจก็คงเลิกเขียนล่ะ เขียนอย่างยาวหายเรียบ... เอาซะเงิบแดกเลย
กุรักพวกมรึงทุกคนน่ะ ถึงจะอ่านฟิคเอ็นโจจนกุเอียนแล้วก็เถอะ...(ความลำเอียงนี่มันคืออะไรกัน!? ฟิคอาริมะยังมีเรื่องเยอะกว่าเลย!?{ติดอยู่ในมิติโม่ง20อยู่กว่าจะตามมาถึงพวกมรึงยังอีกยาวไกล})
คือถ้าคนเขียนแม่งอยู่ในโม่ง...ไม่ก็ยุ่น กุว่าคนเขียนฟิคเอ็นโจโคตรเยอะ ออกมาได้กี่ล้านแบบแล้ววะ กุว่าคนเขียนอาจจะเครียดที่ไม่ได้ดัดหลังพวกมรึงไรงี้
กุบอกตามตรงถ้าออกตอนจบคู่เอ็นโจแบบไหน กุว่าส่วนใหญ่ก็เฉยๆ เพราะมาหมดทุกแนวแล้ว..
รอกับกุอย่านี้ไปไหนเด็ดขาด....กุขอร้องล่ะ
รีเควสฟิกเรกะอาริมะ
>>160 อย่างพูดเป็นลาง! ตบปากเดี๋ยวนี้!?
อุตส่าห์แหง่มประเด็น2หนุ่มขนาดนี้ล่ะ อย่างคาบุก็ดึงเจ้าแม่ให้เข้ามาที่ตัวเองแล้วแซกกลางระหว่างพวกอาริมะ แล้วก้มถาม พอเห็นเจ้าแม่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมบอก(จินตนาการซากุระไปนานนม)ก็เอ๋ยกับการเจ้าแม่ด้วยเสียงทุ้มกว่าปกติว่า “ขอถามอีกครั้ง คิโชวอิน มีอะไรกันแน่” (เอ๊ะ อะไรล่ะนั้น เพราะเรย์กะไม่ได้มองหน้าเลยไม่รู้ แต่พอเรย์กะไม่ยอมบอกคาบุกับทำเสียงทุ้มลงก่อนจะหันไปทางอาริมะแทน...เฮ้ เดาได้ว่า คงทำหน้า ‘ทำไมล่ะ บอกฉันไม่ได้เหรอ..’ แหง่ๆ อาคิสาวะเลยทำตัวไม่สะทกสะท้านแถมตอนทั้งคู่ไปยังโบกมือลาด้วย..) แถมไปจ้องเขม็งใส่คนอื่น... พอเรย์กะบอกๆเหตุผลไปกับนายตัวสำรองก็ตอบประชดเขาอีก... ตอนก่อนจะไปพอเรย์กะส่งสายตาเป็นห่วงตอนคาบุรากิมองภาพวาคาบะจังกับนายตัวสำรองพูดอย่างสนิทชิดเชื้อ(จากสิ่งที่เอ๊งทำเมื่อกี้ไม่ควรไปมองเขาอย่างโกรธหรืออิจฉาได้หรอกน่ะ..) ที่สำคัญคือเจ้าแม่เอ๋ยขอบคุณคาบุรากิ เจ้าคาบุที่เรียกเจ้าแม่ให้เดินตามมาเอง อยู่ๆก็รีบเดินหนีไป.. ถ้าทองแบบไม่คิดไรก็มองว่ามันเขินเจ้าแม่นั้นแหละ (ตั้งแต่ชะงักรอยยิ้มเจ้าแม่ตอนซุปเปอร์ล่ะ เทพไอเทพแปะยิ้มมิริคุ เอ๊งพูดว่านึกถึงคำนี้ เพราะคือ เทพแห่งความสุขใช่ม่ะ..)
ส่วนเอ็นโจกุว่าตั้งแต่ตอนเปิดใจเรย์กะตอนนั่งอยู่ในโรงเรียน พร้อมกับท่าทางราวกับเหนื่อยล้า หนีปัญหาทางบ้านมาที่โรงเรียน.. กุว่าก็พอเห็นทางเข้ารูทเอ็นโจล่ะว่า ฮีเหนื่อยจริงๆ มีภาระ มีเรื่องราวที่ต้องแบกรับมากมายจริงๆ ที่ค่อยแกล้งเรย์กะเข้าหานางเพราะรู้สึกมีความสุขใช่ม่ะ..(ถึงมันจะแกล้งทั้งเรย์กะคาบุก็เถอะ)
กุว่ายังไงก็1ใน2คนนี้วะ แต่กุเชียร์คู่คาบุเรย์กะแหะ(แต่ก็ทิ้งชิ้นส่วนร่างกายไว้ทุกเรือ..เพราะโอกาสล่มก็สูง) คือกุพอเข้าใจแล้วว่าทำไมเอ็นโจมันสนุกนักสนุกหนา กับการแกล้งหรือผลัก2คนนี้เข้าหากัน ตลกแต่ก็ชวนอมยิ้มดูน่ารักและก็โป๊กฮาในบางครั้ง แม้คาบุจะแซว(ด่าแบบไม่คิดอะไร)แรงมากเกินไปบางเรื่องก็เถอะ
แต่กุจะอยู่เรือคาบุนะ ในเมื่อยังไม่เห็นวี่แววว่าจะเข้ารูปเอ็นโจหรือปัญหาทางบ้านของฮีได้เลย... (แถมคาบุมันตลกดี...ถึงจะติดวาคาบะจังก็เหอะ แต่ทั้งคู่ต่อให้เริ่มคบกันแล้วกุว่านางก็คงถอดใจตอนต้องเจออีเวนท์งานหมั่นกับเรย์กะ..กับปะทะแม่คาบุรากิ
กุว่ายากล่ะ เพราะคาบุรากิจะไปทำลายชีวิตเรย์กะทีช่วยตัวเองขนาดนี้ก็ไม่ใช่ แล้ววาคาบะจังก็ไม่ได้ผูกพันกับคาบุขนาดที่จะไปฟันฝ่าและชนะใจแม่คาบุด้วยกัน..(คือถึงพวกมรึงจะบอกคาบุรากิมันรัก ต่อให้ไม่มีเรย์กะเป็นอุปสรรค และมีความรักช่วยเหลือต่อกันจนผูกพันกัน) ก็คงจะSay Noแหละกุว่า.. โทษนะ กุซื่อสัตย์ต่อเมนหลักของตัวเองอ่ะ)
ไม่ได้เข้ามู้มาสองปีกว่าๆ แต่ทำไมมันมะมีอะไรคืบหน้าเลยย ;----;
>>162 พอไม่มีนางร้ายเรย์กะมาคอยรังควาน กูว่าคู่คาบุกับวาคาบะนี่ก็แนวคู่รักม.ปลายทั่วไปน่ะ คงได้คบกันแต่ผูกพันกันแนบแน่นเท่าเดิมมั้ยก็คงไม่เท่า เพราะไม่มีพระเอกมาคอยปกป้อง(แถมเป็นตัวต้นเหตุของปัญหา) แต่อะไรก็ไม่แน่นอน เพราะยังไม่รู้ความรู้สึกของวาคาบะเลย ใจนางอาจจะเป็นของคุณคิโชวอินไปนานแล้วก็ได้ ถถถถถถถถถถ
แต่แง้มเรื่องเอ็นโจมาขนาดนั้น ยังไงก็ต้องเข้าปัญหาของบ้านเอ็นโจอยู่ดีนั่นล่ะว่ะ มันเลี่ยงไม่ได้หรอก ยังไงก็ตัวละครหลัก เจ้าแม่ก็คงต้องไปมีบทบาทช่วยเหลือในสไตล์นางอยู่ดี อาจจะไม่ได้ช่วยทางตรงเปิดหน้าลุยแบบช่วยวาคาบะ เพราะมันเรื่องในบ้าน คนนอกคงยุ่งไม่ได้ คาบุยังช่วยอะไรไม่ได้เลย แต่กูว่าท้ายที่สุดเอ็นโจก็จะได้รับความช่วยเหลือนะ อยากรู้ปมตรงนี้มาก อยากให้มาต่อ เจ้าแม่จะขึ้นคานก็ไม่เป็นไร
>>163 ก็เรื่องหลักค้างเติ่งอยู่จุดเดิม จะเอาไรมาคืบล่ะ ;w;
ส่วนอีเวนท์เอ็นโจจะเข้ายังไงมากกว่าบางทีอาจจะเป็นอีเวนท์เอ็นโจชุดใหญ่ไฟกระพริบก็ได้ แล้วให้คาบุน้อยลงเพราะหมดอีเวนท์เอ๊งแล้ว
แต่อาจจะเพราะฟิคเอ็นโจแม่งเยอะเกิน ตั้งแต่คานยันรักปานโคอาร่ากับต้นไม้ เลยกำลังนวยอยู่ บางทีอาจจะมีลูกหรือไม่ก็โดน คาบุ&เอ็นโจหรือคนรอบตัวในชีวิตจริงมาต่อว่าก็ได้มั่ง..(อิงมาจากเรื่องจริงแหง่ๆอ่ะ หลายๆเรื่องเลยแหละ)
มู้ยังมีคนอีกหรอวะ กูนึกว่าร้างไปแล้ว... เจ้าแม่หายไปกี่ปีแล้วนะ
>>167 ก็ราวๆ3ปีแล้ววะ(เอาจริงๆอีก3เดือนกับ24วันก็จะครอบปีที่4ล่ะ)
กุก็ไม่ใช่ว่านึกออกจำได้หรอก กุพึ่งโดนเรียกสติไม่นานมานี้ ตอนไปหานิยายดีๆ(สมัยก่อนตอนปี2016-2017อ่านในDek dอ่านแล้วไปเจอเรื่องที่ได้แรงบันดาลใจเซตติ้งแบบเจ้าแม่อ่านพอดี เลยนึกขึ้นได้..)
พอกลับไปอ่านเจอตอน200กว่าขึ้นมาเลยกดอ่านดูเรื่อยๆ แล้วสนุกรู้ตัวอีกที299 ติดวังวนนรกรอเจ้าแม่อีกแล้ว
(แต่ถ้าเอาDek dไทยมาเทียบ กุว่าเจ้าแม่มีสิทธิ์โดนเท เพราะนิยายDek dที่กุอ่านคนเขียนเทบ่อยชิบหาย...ไม่จบสักเรื่อง น้อยเรื่องจะจบ)
>>170 คิดว่ายากนะ เพราะกุพูดตรงๆแม่งไม่เหมาะตีเล่มเลย ถ้าจะตีรูปเล่มก็ต้องเอามาเขียนใหม่ทั้งหมดให้รวบรัดกว่าเดิม อย่างน้อยอาริมะต้องโผล่ตอน15-20แล้ว ใส่ฉากโดขิโดขิมากขึ้น รวบรัดเอาบางเหตุการณ์ออก(เช่น ช่วงภาคไมฮามะ โคตรน่ารำคาญไม่มีแก่นสารของเรื่อง..ต้องตอนเจอวาคาบะจังที่ กุรู้สึกความกระแนะกระแหนของเจ้าแม่หายไปกลายเป็นเจ้าแม่คนดีคนตลกคนเดิม) อย่างน้อยช่วง200ตอนอัพนี้โชโจซะที
ให้มันรู้สึกแค่ว่ามันยังมีเอกลักษณ์และความชอบของคนอ่านเหลืออยู่
คิดว่าถ้ามีLCจะเป็นคนละเวอร์ชั่นเลยวะ เอ็นโจจะข้องแวะเจ้าแม่มากขึ้น(และดูรุกหนักกว่าเดิมโคตรๆ..แต่คลุมเครือเช่นเดิม) กับอีตาคาบุจะปากหมาน้อยลง(แต่ช่วงเอานิ้วโป้งวัดเจ้าแม่ กับเผาเจ้าแม่คงอยู่ โคตรฮา..)และช่วงคาบุเรย์กะคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่เหตุการณ์ยูริเอะหักอกเลย..(แล้วคาบุเข้าใจว่าเจ้าแม่อกหักกับประธานนักเรียน) ซึ้งตอนนั้นคาบุเปิดใจกับเจ้าแม่แล้วถ้าเจ้าแม่ไม่หนี..(แต่คิดว่าถ้างั้นเรือคาบุจะติดยิ่งกว่าไนตัสอีกวะ เพราะแค่เวลาตอนกำลังจบม.6คาบุยังขนาดนี้ เวลาตั้งแต่อกหักแล้วไปไหนกับเจ้าแม่คงสุดๆไปเลย)
ซึ้งกุว่าจะดีมาก เพราะเรื่องนี้ขนาดกักชิบหายกุยังโดขิโดขิขนาดนี้แต่โชโจล้วนกุเฉยๆ(เพราะแม่งธรรมชาติมาก แถมคาแล็คเตอร์คาบุรากิกับเอ็นโจเขียนมาลึกมาก คาบุไม่เท่าไหร่ ขนาดที่ว่าตอนนี้มีคนหยิบคาแล็คเตอร์เอ็นโจแบบสำเร็จรูปมาใช้เกลื่อนกลาดไปแล้ว)
.
.
.
.
.
ส่วนคาตารินะ นิยายแม่งก็เร็วชิบหายล่ะนะ มังงะเร็วกว่านั้นอีก ไม่พอ อนิเมะแม่งสคิปเลย แถมแต่งเนื้อเรื่องใหม่เองด้วย..(น่าต่อยชิบหาย) อันนี้โคตรแค้น
>>169 นั้นดิ.. แต่เรื่องโคลนเจ้าแม่มันน้อยด้วยวะ..(แต่กาวไม่ต่างกัน)
กลับกันคาตารินะกับเกมรักดยุค นี้โดนหนักสุดๆ หลังๆนี้สงสัยว่านางเอก2เรื่องนี้มันจับกดกันจนออกลูกด้วยกันรึเปล่าวะ!? ถ้าจับกดกันคาตารินะเป็นรับสินะ...
โคลนMix2เรื่องนี้โคตรเยอะ โดยเฉพาะในไทย มาเรียจังนางเอกผมสั้นธาตุแสงนี้โดนหนักสุดๆ สงสัยรับJobหลายงาน โผล่แม่งทุกเรื่องในไทย
>>171 สมมติว่าถ้ามีรวมเล่มกูว่าไม่แก้เนื้อหาหรอก ดูจากความอินดี้ในการพิมพ์แล้ว ลงเว็บเป็นไง หนังสือก็คงเป็นงั้น เพราะจุดที่ต้องแก้มันแทบไม่มี มันคือเรื่องแนวๆวันๆของเรย์กะก็แบบนี้ล่ะ เจ้าแม่นางพบเจออะไร กินอะไร คิดอะไรเพ้อเจ้อเรื่อยเปื่อยก็ยังอยู่ในคอนเซปต์เรื่อง จะให้มาตัดตอนเพิ่มฉากโดขิให้ตัวละครนั่นนี่กูว่าอ.ไม่ทำ นางไม่เอาใจใครหรอก เผลอๆดัดหลังแม่งทุกคนด้วย จากการเขียนที่ผ่านมาก็เป็นสไตล์นั้นมาตลอด แกชอบมาลูปนี้ล่ะ หลอกให้คาดหวังแต่ไม่มีอะไรในกอไผ่น่ะ
>>171 อาริมะจะมาโผล่ตอน 15-20 ได้ไง ฮีเข้ามาตอนม.ต้น แต่ตอน15 นี่คือยังอยู่ประถมกันอยู่เลย
อีกอย่างอาริมะโผล่มาตอนที่ 15 ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเรื่องว่ะ ช่วงประถมก็ยังเรื่อยๆเปื่อยๆกินขนมกันไปวันๆไม่มีเนื้อหาสาระอะไรอยู่เลย มีเรื่องใหญ่แค่นิดหน่อยคือคาบุทะเลาะกับยูริเอะ เพราะงั้นถึงอาริมะจะโผล่มาตอนประถมก็ไม่มีบทให้หรอก
เรื่องนี้ใส่ตัวละครมาไม่ค่อยเสียเปล่านะ ตัวที่โผล่ก็มีจังหวะที่เหมาะที่ควรโผล่มาพร้อมกับสตอรี่ กูคิดว่าเป็นเรื่องที่ใช้ตัวละครค่อนข้างคุ้ม อย่างอิโคมะนี่ก็เอามาหย่อนไว้เป็นชาติแล้วค่อยเขียนถึง ไมฮามะถึงบทบาทในเรื่องจะน่ารำคาญแต่มันก็ต้องมีไว้แสดงออกถึงคุณหนูโลกนอกรั้วโรงเรียนซุยรันบ้างว่าเขาเป็นยังไง มีตัวละครหลายๆแบบไม่ใช่เดินเรื่องไปด้วยตัวละครโทนเดียวกันหมด แบบเซริกะกับคิคุโนะที่กรี๊ดๆคาบุ แต่ก็กรี๊ดกันอยู่ห่างๆ แต่ไมฮามะคือไม่ได้เป็นเด็กซุยรัน นางเป็นคนนอกก็เข้ามาเกาะแกะคาบุแบบถึงเนื้อถึงตัวได้อยู่ละเพราะถือว่าใครดีใครได้ ไม่ต้องมีความเกรงใจว่าจะโดนรุ่นพี่นัดไปตบหลังโรงเรียนมั้ย ถึงคนอ่านจะรำคาญก็ช่วยไม่ได้อะเพราะเขาเขียนมาให้เป็นแบบนี้
ถ้าจะเอาให้มันเป็นไปตามใจมึงคิดขนาดนั้นคือต้องพึ่งแฟนฟิคชั่นแล้วล่ะ
>>175 ก็ไม่ได้แบบนั้น.. คือผู้กล้าโล่ตอนตีพิมพ์ก็เอามาเขียนใหม่นะเว้ย
คือกุหมายถึงว่า นิยายอ่ะ เล่มหนึ่งอ่ะมันแพง ถ้าจะขายนิยายเป็น10ๆเล่มโดยที่เนื้อหาไม่เดิน ใครจะตามซื้อไหวล่ะ แถมไม่มีจุดพีคอะไรด้วย
มันก็ต้องใส่มากขึ้นให้มันขายได้แหละ คืออาจจะเปลี่ยนนิดหน่อยแต่มีกลิ่นอายเดิมๆ มันตีพิมพ์เกือบ300ตอนเป็นเล่มไม่ไหวหรอก... ยังไงก็ต้องย่อวะ
ส่วนไมฮามะ กุว่าบทไม่ต้องเยอะก็ได้ไม่ใช่มาท้าแข่งโฮะๆ กับเรย์กะไปช่วงหนึ่งเลยแถมนิสัยเรย์กะเปลี่ยนไป แถมพอกลับเรื่องหลัก มุมมองชาวบ้านไมฮามะถูกลืมไปเลยเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้ส่งผลอะไรเลย แถมเรย์กะช่วงนั้นนิสัยเปลี่ยนไปด้วย
กุไม่ได้จะให้เขาแก้อะไรตามใจกุ แต่กุหมายถึงถ้ามีLCมันก็ต้องรวบรัดขึ้นเฉยๆ
กูว่าเพราะอาจจะต้องรีไรท์หรือมีบก.เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการแก้เนื้อหาที่วางไว้มั้ง เขาเลยไม่ขาย lc ให้เจ้าไหนซักที ก็จะแต่งตามใจฉันเรื่อยๆเปื่อยๆแบบนี้ล่ะใครจะทำไม อ่านได้ก็อ่าน อ่านไม่ได้ก็ไม่ต้องอ่าน
บอกตามตรงชักจะสิ้นหวังล่ะนะ แต่อีกไม่นานจะครบปีที่4ล่ะเพื่อนโม่ง
(ของฝรั่งก็ยังมีคนแวะเวียนมาบ่อยๆในเว็ปใจโคตรแข็งแกร่ง... นับถือความเหนี่ยวแน่นเลย //กระซิกๆ)
ถ้าหากวันที่20/เดือน10 ปีนี้(วันที่เจ้าแม่หายไป) ยังไม่กลับมา กุคงต้องอำลาแบบโม่งคนอื่นๆแล้ว...
เพราะงั้นกุจะเวียนมาบ่อยๆนะ... คิดถึงเจ้าแม่จริงๆ
มึง กูพึ่งกลับมาในรอบ 3 ปี เขาไม่มาต่อแล้วหรอวะ กูช้ำ
ปรากฏว่าตอนกุเริ่มแก่กลายเป็นป้า ลูกอาจารย์ได้อ่านเจ้าแม่เรย์กะ เลยกลับมาสานต่อ (?)
ฝรั่งว่าเหนี่ยวล่ะนะญี่ปุ่นโหดกว่าอีก บอกจะรอกันตลอดไป.. แต่ชอบที่เขาเปรียบเทียบดีว่า คนเขียนฮันเตอร์หายราวๆ3ปีทั้งที่นั้นคืออาชีพหลักๆของเขาน่ะ แต่ท่านฮิโยโกะไม่ได้ตังค์สักบาทด้วยซ้ำแค่เขียนเป็นงานอดิเรก...
ถ้าเขาจะไม่ได้กลับมาเขียนอีกเลยหรือหลายปีข้างหน้าเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่กุว่าถึงตอนนั้นท่านฮิคงลืมทั้งชื่อตัวละคร,มุมมองต่อเรื่องไปแล้ววะ
พึ่งวนกลับเข้ามาดูหลังจากหลายปี ตอนใหม่ยังไม่มาสินะ นี่เริ่มจะลืมตอนเก่าละสิ รู้สึกดีใจที่กาวที่นี่ยังไม่แห้ง
แต่เดี๋ยวนะ ใครรู้บ้างว่าตอนหายไปไหนอะ
แต่เอาจริงๆเนื้อเรื่องมันสั้นอยู่นะ แต่กุเสียดายตรงที่อยากให้เขียนจบทั้ง2รูทเลยวะ
ทั้งคาบุ ทั้งเอ็นโจ กุชอบแม่งทั้งคู่เลยอ่ะเพื่อนโม่ง
เอ๋นโจก็กร๊าวใจ แต่คาบุรากิก็สนุกน่ารัก คือใจหนึ่งอยากให้จบกับเอ็นโจ แต่อีกใจก็อยากให้จบกับคาบุรากิ
ดูเจ้าชายแกล้งเจ้าแม่ ที่ตอนแรกๆดูเหมือนจะสนใจแต่ดูค่อยเปิดใจมากขึ้น..(กุว่าคงไม่ยันขนาดนั้นวะ มันระเบิดเรือตัวเองเป็นว่าเล่น กุว่าคงสนใจแล้วจีบตอนหิ่งห้อย แต่พอเห็นอีกฝ่ายไม่เล่นด้วย เลยแกล้งเอาสนุก คือมันก็เด็กวัยรุ่น ที่ยังหาความรักการคบ ถ้าคบกันสนิทก็ดี ถ้าอีกฝ่ายไม่ก็ไม่ก้าวต่อ..ไม่ให้ความสัมพันธ์ร้าวฉานต่อกัน พยายามดันเพื่อนสนิท กุว่าเอ็นโจไม่ได้ไก่อ่อนวะมันก็แสดงให้เห็นโต้งๆว่ามันสนใจแหละแต่คงไม่ยันเว่อขนาดนั้น ....(มโน)แต่หลังแกล้งเขาไปเขามาเริ่มเกิดอาการแปลกๆ เช่นตอนฮีหนีออกจากบ้าน ถ้ามาแนวคุณชายที่ไม่เคยจริงใจกับใครเริ่มเปิดใจเริ่มหวั่นไหวให้กับเธอเป็นคนแรกกร๊าวใจวะ..สุดท้ายก็เริ่มเผยใจจริงไรงี้)
ดูจักรพรรดิสนิทชิดเชื้อกับเจ้าแม่แล้วเริ่มเข้าใกล้จนขาดไม่ได้โดยไม่รู้ตัว (ไม่เคยเห็นเธอเป็นผู้หญิง ไม่เคยรู้สึกไรเป็นพิเศษแต่อยู่แล้วอุ่นใจ เรือนี้คนในโม่งบรรยายน้อยกุจะช่วยหน่อย... รักเธออีกคนแต่ติดกับอีกคนโดยไม่รู้ตัว ขนาดเพื่อนสนิทอย่างเอ็นโจยังถามว่า ไปกินนู้นไปเที่ยวนี้กันสองคนกับเจ้าแม่..หลังๆไอพวกนี้ไม่เห็นเกี่ยวไรกับการเดทกับวาคาบะแล้วเจ้าตัวก็เงิบ... ไม่เคยสนใจเธอ แถมก็แถบไม่ได้คุยกัน มองเธอในแง่ร้ายใช้อำนาจ แต่พอเห็นอีกฝ่ายอีกฝ่ายชัดๆก็เริ่มเปลี่ยนไป ยอมหลีกทางให้คนที่รักมีความสุขเก็บความเจ็บปวดไว้คนเดียว(คาบุมโนเองทั้งนั้น) คอยเชื่อเหลือใครต่อใคร จนใครต่อใครก็รัก (มโน)ต่อจากตอน299 มีด้านที่ตนไม่ชอบทั้งโง่เบอะบะต้องคอยควบคุมชัดๆไม่งั้นเละ แต่ตัวเองก็ทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ถ้าไม่พึ่งเธอ ก็คงรู้สึกดีที่กลายเป็นที่พึ่งพา ระบายอะไรให้ฟังก็ได้
เพราะอีกฝ่ายรู้ตัวตนกันและกันดี แค่ตอนกระชากแขนเจ้าเข้าหาตัวเอง แล้วก้มถามแล้วไปข่มขู่นายตัวสำรองก็เรือนี้ล่ะ.. แถมตอบประชดเขาอีก คิดจริงเหรอว่าเจ้าแม่จะโดนประธานนักเรียนคนนั้นทำร้าย??? มันไม่รู้ตัวแหละ...)
กุว่าคนเขียนวางเอ็นโจเป็นพระเอก แต่เขียนไปเขียนมาตัวละครนำเรื่องแทนพล็อต
ดันกลายเป็นว่ายิ่งเขียนไอคาบุก็ยิ่งเขียนเรือมาดี เลยเริ่มสันสน คือมันก็ระเบิดเรือพอๆกัน(เอ็นโจระเบิดมากกว่าแต่เข้าหาเจ้าแม่มากกว่า) นี้สินะรักพี่เสียดายน้อง
มึงพูดแล้วกูนึกถึงเรื่องอิิจิโกะ100%เลย เห็นเขาว่าตอนแรกวางให้นางเอกเป็นผมดำ แต่บทผมทองมันเขียนแล้วส่งดีกว่าเลยได้คู่พระเอกแทน
>>191 ผมดำเป็น first girl ที่โผล่มาตอนแรก แต่ระหว่างทางไม่ค่อยมีอีเวนท์ให้ขยับความสัมพันธ์ พอมีโอกาสก็มัวแต่เหนียมไม่ยอมคว้าไว้ แถมมีเรื่องเข้าใจผิดนั่นนี่โน่นที่กว่าจะแก้ความเข้าใจผิดนั่นได้ก็สายไปละ ความรู้สึกมันเปลี่ยน สุดท้ายแพ้คนที่คว้าโอกาสได้พอเหมาะมากกว่า คือนิชิโนะตอนแรกโดนขอคบเพราะเข้าใจผิดเฉยๆ แต่พอคบกันแล้วนิสัยมันคลิกไปด้วยกันได้ ขนาดบอกเลิกไปรอบแรก ก็ยังรีเทิร์นกลับมาได้อีก
แต่จริงๆไม่ค่อยแปลกใจว่าทำไมพระเอกถึงรัก เพราะนิชิโนะอยู่ข้างๆตลอดเวลาที่มีปัญหา มีอะไรคุยกันตรงๆแบบเปิดอก พึ่งพากันและกันและเดินไปพร้อมๆกัน ส่วนโทโจนี่ออกแนวเขินไปเขินมา ไม่กล้าลุยไม่กล้าทำอะไรมากกว่า กูชอบบทของโทโจนะ ถึงรักไม่สมหวังแต่ก็เติบโตอย่างเข้มแข็งและก้าวเดินต่อไป และกูคิดว่าเรื่องนี้ใครสารภาพรักพระเอกก่อนก็มีสิทธิ์ได้หมดเพราะทุกคนน่ารักและจบกับพระเอกได้หมดเลย
บทของโทโจยังดีกว่าบทของโอโนเดระในนิเสะโค่ยมากกกกกกกกกกกก อันนั้นคนเขียนตั้งธงนางเอกไว้แล้ว สาวๆคนอื่นแค่ตัวหลอกให้กองอวยตีกันเล่นๆ เพราะการดำเนินเรื่องนี่คือ...ถึงหัวดำจะพยายามทำอะไรเพื่อขยับความสัมพันธ์ก็จะกลายเป็นผิดที่ผิดเวลาไปซะหมด หรือไม่ก็โดนกลั่นแกล้งให้ต้องมีเหตุที่พระเอกจะลืมเรื่องของหัวดำไปแล้วไปใส่ใจหัวทองมากกว่า ฟีลแบบคนที่ใช่ไม่ต้องพยายามทำอะไรเลยก็ใช่
>>192 นิเซโค่ย มันล็อกเรืออ่ะ เดาผลได้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้แข็งกันเลย แต่อันนี้กุส่วนตัวนะ มีแค่หัวดำหัวเหลืองพอล่ะ พอมันเยอะกลายเป็นกระจายบทไม่สุด หัวดำคือกุว่าชนะวะถ้าว่าตามจริง รักเขาเขารักตอบ แทนตอนอยู่กับหัวเหลืองมันก็น่ารักแหละแต่ความธรรมชาติมันไม่ได้ (ส่วนเรือที่เหลือมีไปงั้นแหละแถมไม่สำคัญไรกับเรื่อง)
กุชอบเรื่องนี้ตรงที่ขนาดไอคาบุมาตอนท้ายๆยังทำกุเคว้งได้ ทั้งๆที่คาแรคเตอร์ เป็นคาแรคเตอร์ที่กุไม่ชอบแท้ๆ แถมจะฟันธงเรือก็ทำไม่ได้ คนเขียนเขียนความสัมพันธ์มาทำให้คิดไปเองได้วะ คือจบกับใครกุก็โอเค
ขนาดจบกับคานSpinsterกุยังโอเคเลยอ่ะ..คิดดู
>>193 คือนิเสะโค่ยมันล็อคเรือไว้เลยทำให้ดูน่าเกลียดไปเลยในความพยายามที่จะให้จบกับคนที่ล็อคไว้ให้ได้ มันไม่ได้แข่งกันทำแต้มแบบแฟร์ๆ ทีมหัวดำจะเคืองๆเพราะเวลาหัวดำจะมีบทหรือสารภาพรักก็ไม่แปลก เพราะแม่งโดนขัดจังหวะทุกอย่าง ผิดที่ผิดเวลาไปหมดจนน่าสงสาร ถ้ามันแข่งกันจีบ แข่งกันทำอีเวนท์โดยที่ไม่มีอะไรมาแทรก ถึงแพ้แต่ทุกคนก็ยอมรับได้แบบอิจิโกะน่ะ
กูทีมซัตสึกินะเอาตรงๆ แต่กูก็ยอมรับได้ที่จะจบกับนิชิโนะ เพราะนิชิโนะคือความลงตัวที่พอดีจริงๆ ซัตสึกินี่เป็นสีสันมาทำให้พระเอกและคนอื่นๆรู้สึกถึงความรู้สึกจริงๆในใจมากกว่า ส่วนโทโจกูว่าแม่งปิ๋วเพราะทำตัวเองด้วยล่ะ มัวแต่ไปเหนียมอายไม่กล้าทำอะไรซักอย่าง โอกาสก็เลยหลุดลอยไป ไม่ใช่เพราะโดนคนเขียนกลั่นแกล้งขัดขวางไม่ให้มีอีเวนท์แบบหัวดำในนิเสะโค่ย อันนั้นพยายามรุกแล้วแต่โดนขัดทุกที แต่กูเกลียดพระเอกเรื่องนี้ กูว่าพระเอกมันไม่คู่ควรกับใครเลยซักคน กูไม่ชอบคนใจโลเลใกล้ใครก็ชอบคนนั้นเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเท่าไหร่น่ะ
ทำไมคิดว่านิเสะโค่ยล็อคเรืองะ ขนาดกุทีมหัวเหลืองนะกุยังคิดว่ามันจะจบกับหัวดำเลย
>>196 ข้อแรกนะ นางเอกใน one shot คือหัวเหลือง
ข้อสองคือเวลาหัวดำจะทำอะไรเพื่อขยับความสัมพันธ์จะมีเหตุการณ์มาขัดขวางทุกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ที่ว่านั่นก็เป็นเรื่องของหัวเหลืองแทบทั้งนั้น หรือถ้าไม่ใช่เรื่องของหัวเหลืองก็จะเป็นอะไรโง่ๆงี่เง่าขัดจังหวะจนหมดมู้ดที่จะพูดต่อ จังหวะไม่เคยดีเลย ไม่มีอีเวนท์ที่เป็นใจเลยซักอย่าง แถมโดนขัดตลอดเวลา เล่นมุกนี้หลายรอบจนเฝือ ในขณะที่เวลาอยู่กับหัวเหลืองทุกอย่างผ่านฉลุย ไม่มีใครขวางหรือขัดจังหวะ หัวเหลืองได้ซีนเด่นๆดีๆในการขยับความสัมพันธ์ทั้งนั้น ทั้งเป็นแฟนปลอมๆเอย โรมิโอและจูเลียตเอย
ข้อสาม พระเอกดึงเช็งเรื่องสารภาพรักนานมาก ชอบเขามาตั้งนานก็จริง แต่เสือกไปวอแวกับหัวเหลือง เจอความน่ารักของหัวเหลืองก็หวั่นไหว แล้วมาย้ำคิดย้ำทำว่าชอบหัวดำนะ แต่เวลาหัวเหลืองมีเรื่องอะไรก็แจ้นไปหาทุกครั้ง ทิ้งหัวดำไว้ ถ้าหัวดำมันสำคัญกับพระเอก มันจะไม่ปล่อยเขาไว้แบบนี้ว่ะ
รวมๆแล้วกูเกลียดพระเอกเรื่องนี้ กูไม่ได้หวังว่ารักตั้งแต่เด็กๆ ปั๊บปี้เลิฟจะสมหวังอะไรหรอก แต่กูไม่ชอบพวกที่อยู่ใกล้ใครก็รักคนนั้น ไหลเลื้อยไปเรื่อย แม่งดูเป็นคนโลเลไม่หนักแน่น ถ้ามีคนใหม่ที่น่ารักกว่าเข้ามามันไม่มีอะไรรับประกันว่าไอ้นี่มันจะไม่เปลี่ยนใจ แต่นี่ก็นิสัยพื้นฐานของพวกพระเอกนางเอกฮาเร็มน่ะ กูเลยเลี่ยงจะอ่าน ขอแบบมีพระเอกนางเอกชัดเจนเลยดีกว่า
หลังจากกุกลับมาอ่านตอนประถมใหม่อีกรอบ....ปรากฏว่ามีเรื่องน่าตกใจหลายอย่างเลยวะ
- สรุปเรื่องน้องต่ายกับเอ็นโจสรุปสับสนกับฟิคPOV ตอนนั้นคาบุกับเอ็นโจแข่งม้ากันอยู่ ไม่ได้หันไปมองสบตาเจอกันกับเรย์กะแต่อย่างใด เอาจริงๆคือไร้บทเลย ความเชื่อกุพังไปล่ะ....
- คาบุรากิโดนด่าเป็นสโตกเกอร์แต่เด็ก และเรย์กะยังเคยบอกตั้งแต่สมัยวันเยาว์ว่าไอคนจำพวกนี้มันต้องส่งเมล์มารัวๆแล้วไร้ความเกรงใจ สรุปนิสัยสโตกเกอร์เกิดจากการที่ระแวงเรื่องยูริเอะ ตั้งแต่เด็กแล้วเพราะความกลัวเรื่องความห่างของอายุ
- แม่คาบุรากิเป็นฝ่ายไปหว่านล้อมพ่อแม่ของฝ่ายเรย์กะเองเรื่องการหมั่น ทั้งต่อว่าคาบุรากิอยู่หลายครั้งเรื่องการคบวาคาบะจัง เรย์กะไม่ได้ใช้อำนาจขอหมั่น แล้วพอคาบุรากิพิสูจน์ถึงความทุ่มเทของรักแท้แม่คาบุเลยยินดีแล้วยอมรับ โดยไม่ได้สนใจตระกูลคิโชอินที่ต้องมาซวยเพราะเจ้เลยแม้แต่น้อย
- แม่คาบุชงเรย์กะแต่เด็ก(เด็กเลยอ่ะ)แล้ว..แถมมีการแอบพูดเปรยๆให้มาที่บ้านด้วย คือถ้าไม่รู้มาก่อนว่าต้องล้มสลาย เด็กทั่วไปคงติดกับไปแล้ว
- แม่คาบุรากิคอยสนับสนุนสามีและมากความสามารถ สรุปไม่ใช่อีเจ้จัดปาตี้ธรรมดา... คิดว่าน่าจะประมาณเรย์กะคือแวดวงสังคมดีคุยกับใครก็ได้แต่ความสามารถหรือด้านการเรียนน่าจะเหนือ และเลี้ยงคาบุแบบโหดพอควร ไม่มีการปราณีแต่อย่างใดจากปากเรย์กะในมังงะ
- ท่านพี่เก่งแต่ไม่น่าจะเท่าพวกคาบุรากิและยังเคยเปรยๆว่าคงมีปัญหากับพ่อสักวันเรื่องการบริหาร แต่นิสัยผสมๆระหว่างเอ็นโจและคาบุรากิ
- ทานุกิไม่ได้อ้อนลูกสาวแต่เด็ก มากลายเป็นSimpลูกสาวตอนเข้าร่าง แถมพยายามยัดเยียดไถ่ถามเรื่องคาบุรากิเอาให้ได้ ไม่ใช่ปะป๊าอ้อนลูก(เพราะลูกไม่รัก)
- อาคิซาวะเคยเกือบเป็นพระเอก...เคมีดีชิบหาย กุเสียดายมีซากุราโกะ คนเขียนจงใจชัวร์ๆเรื่องนี้ คือกลัวคนอ่านลงเรือหมอนี้แล้วเป็นพระเอก เข้าใจว่าถ้าไอนี่เป็นพระเอกจะห่างไกลพล็อตหลักเกินไป
อื่นๆ
- เอ็นโจเหมือนจะสนใจเจ้าแม่แต่ดูสภาพน่าจะแค่ชอบหรือสนใจไม่ได้เป็นสโตกเกอร์แต่อย่างใด หลายๆครั้งพูดกว้านแห้กับสังเกตเอา เช่นตอนทำความสะอาด เอ็นโจก็ดูไม่รู้เรื่องเรื่องนี้แค่ว่าน่าจะรู้เรื่องเรย์กะเข้าสภานักเรียนบ่อยๆเลยคิดว่าน่าจะร่วมมือกันสืบตัดหน้าคาบุมากกว่า เพราะทำความสะอาดนี่ดูไงก็ไม่เกี่ยวสปายสองหน้า แถมที่เจ้าแม่ทำก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่ก็ยังมั่นใจเอามาขู่ สรุปได้ว่า "เหมือนจะรู้แต่ก็ไม่รู้" แค่แหย่ๆแล้วเจ้าแม่คิดเอง
- คาบุรากิมีนิสัยคงเส้นคงวาเอามากๆ มีแค่ลักษณะภายนอกและคาริสม่าที่โตตามขึ้น แต่อายุทางจิตไม่ได้โตขึ้นเลยจากตอนที่เจอเจ้าแม่ครั้งแรก เหมือนเดิมทุกอย่างจริงๆ.... แล้วสิ่งที่เจ้าแม่เคยเปรยกับไอบ้านี้ตอนประถมคือทุกสิ่งทุกอย่างงที่เกิดขึ้นในอนาคต!? ปร๊ะเจ้าแม่งๆไม่โตขึ้นเลย
สรุปมาดามคาบุรากิเป็นลาสบอสตัวจริงนะเนี่ย
>>198 เรื่องขี่ม้าสมัยประถม พวกเซริกะกรี๊ดบอกว่าเอ็นโจมองมาทางนี้ ซึ่งตอนนั้นคือตอนที่เรย์กะอุ้มกระต่ายเล่นอยู่พอดี ประเด็นนี้ก็เหมือนจะไม่มีอะไรแล้วหายไปยาวๆ แต่มันมาโผล่ช่วงม.ปลายที่เอ็นโจเริ่มชมเรย์กะว่าน่ารักเหมือนนุ้งต่ายขาว ทำโน่นทำนี่ให้แบบลาเต้อาร์ตลายกระต่าย แค่นี้มันก็อนุมานเอาได้ว่ามองมาเห็นเรย์กะอุ้มกระต่ายเล่นอยู่จริงๆ แต่จะเกี่ยวพันกับการชมว่าเขาน่ารักเหมือนกระต่ายด้วยมั้ยก็ต้องรอเฉลยมุมมองจริงๆของเอ็นโจ ฮีอาจจะมองว่าเจ้าแม่ขี้กลัวแบบกระต่าย เวลามีภัยก็ชอบโดดหนีไปไม่ได้เกี่ยวไรกับเรื่องนี้ก็ได้
ส่วนเรื่องงานหมั้น ของแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง เรย์กะนางร้ายก็ชอบคาบุอยู่แล้ว ตอนแรกเลยก็มีบอกไว้ว่าใช้อิทธิพลทางบ้านในการบังคับให้คาบุมาหมั้นด้วยเหมือนกัน ตัวมาดามเองก็ไม่ได้ปลื้มแฟนลูกอยู่แล้ว มีตัวเลือกที่ดีกว่าในสายตาก็ไปบังคับลูกชายอีกต่อ แล้วพอบ้านคิโชวอินโดนแฉก็ไม่อยากซวยไปด้วยเลยปล่อยลอยแพ
แต่เท่าที่ดูคาบุเองก็ไม่ได้เครียดอะไรเท่าไหร่กับทางบ้าน ดูเป็นแม่จอมเจ้ากี้เจ้าการให้ลูกออกงานโชว์ตัวนั่นนี่แค่นั้นล่ะ แต่ลึกๆภายในเป็นไงก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไงถ้าวาคาบะได้คบกับคาบุแล้วเรื่องรู้ไปถึงหูมาดามคงได้เข้ารูทงานหมั้นแน่นอน
>>199 เอ็นโจกับขี่ม้าตอนนั้นเจ้าแม่ให้อาหารแพะและแกะอยู่นะ กระต่ายเล่นไปก่อนหน้านั้น...แต่ก็น่าจะมองว่าหันมามองได้แหละ ส่วนคาเฟ่มองแบบปกติก็คงเพราะล้อเรื่องนักษัตรด้วยเพราะหลังจากนั้นคาบุก็ถามว่าสักรอยสักมังกรไหมแล้วเอ็นโจมันก็นั่งขำ (สงสัยมุมมองความโรแมนติกของเราจะตายไปกับการเวลา... อ่านซ้ำแล้วยอมรับว่าแอบนอยๆบางช่วงแตเพลินกว่าอ่านครั้งแรก พอบากะรากิมาแล้วฮาเลยย้ายเรือไปแล้ว ใครแจกกาวฟิคหน่อย)
ส่วนเรื่องมาดามอันนี้น่าจะเพราะถ้าพ่อแม่เรย์กะเองก็หวังสูงด้วย(นิสัยช่วงแรกๆพอสังเขป..นับว่ามาไกล) แต่ ณ จุดนี้คือมาดามเป็นฝ่ายไปหว่านล้อมเองก่อนตามคำบอกเล่าของเจ้าแม่ แต่พอยอมรับก็ผลักไสทันที ไม่เหลียวแล แต่ก็น่าสงสัยอยู่ว่าถ้าไม่ล้มละลายจะเอาต่อไหม เพราะงั้นปัญหาน่าจะอยู่ฝ่ายมาดามด้วยว่าปลงใจบ่ อีเวนท์หมั่นนี้มาแน่ๆ แต่น่าจะหลังจากจบม.6บรรลุนิติภาวะ...(คิดถึงท่านฮิเหลือเกิน)
>>200 มาดามนี่อยากได้เรย์กะเป็นสะใภ้จะตาย ตอนเด็กๆก็มาทาบทามให้ไปเล่นที่บ้านบ่อยๆ โตมาก็ชวนไปงานเลี้ยงเป็นประจำ เรย์กะในคิมิดอลก็คงเจออะไรคล้ายๆกันนั่นล่ะ พ่อแม่สองฝั่งเต็มใจให้คบหา แถมโลกนี้เรย์กะนิสัยดี ความสัมพันธ์กับคาบุก็ดี เผลอๆไปตะลอนกินข้าวที่นั่นที่นี่นี่มีคนรายงานให้มาดามรู้อีกมั้งนั่น ต่อให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแค่ไหนแต่สายตาผู้ใหญ่คงมองว่าไปเดทกันนั่นล่ะ คู่นี้ถ้าจะลงเอยกัน สามารถปูพรมให้เดินไปถึงเรือนหอเลยก็ยังได้ เป็นคู่ที่ลงเอยกันง่ายๆอยู่แล้วถ้าคิดจะหันมารักกันอะนะ ไร้อุปสรรค พ่อแม่เปิดทางให้เดินสะดวก ฐานะหรือไลฟ์สไตล์พอๆกัน ไม่ต้องมาปรับจูนอะไรให้มากมาย นิสัยก็เหมือนกันด้วย แต่คงต้องปรับนิสัยปากหมาของอีคาบุมันให้ได้ก่อน
แต่เนื่องจากเป็นเรื่องนี้ กูว่าทุกอย่างไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก เผลอๆคาบุกับเอ็นโจแต่งงานไปแล้ว เจ้าแม่ยังขึ้นคานอยู่เลยมั้งนั่น
>>201 เอาจริงให้เจ้าแม่ขึ้นคานยังเป็นไปได้กว่า2คนนี้เลย..(เล่นมีคู่หมั้นกับจีบอยู่ทั้งคู่)
แต่คิดว่ายังไงก็คงไม่พ้น2คนนี้หรอก ไม่งั้นก็หลุดพล็อตเรื่องไปล่ะ... ส่วนRouteคาบุก็คือกรณีที่สุดท้ายจนจบม.6ไม่มีใครจีบเจ้าแม่เลย... ก็น่าจะโดนจับหมั่นตามความเหมาะสมกับความใกล้ชิดที่สุด(เพราะถ้าวัดตามจำนวนผู้หญิงทุกคนในลิสท์จากแม่คาบุ ...2คนนี้ใกล้ชิดและไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญแบบปกติสไตล์ของคาบุ อย่างน้อยสุดก็อาสาตามฝ่ายหญิงไปตามไอหนุ่มคาสิโนว่าในที่มืดๆลับตาคนแบบ2ต่อ2โดยไม่ติดปัญหาอะไรเลย อย่างน้อยแต่งไปก็ไม่บาดหมาง..ไม่เละล่มจ่ม
อันนี้มองว่าเอ็นโจไม่ได้ดันเพื่อนอะไรหรอก อันนี้มองว่าที่ชอบจับ2คู่นี้เพราะ ให้ดูนิสัยใจคอกันก่อน เพราะถ้าหากวันดีคืนดี2คนนี้ไปไม่รอดถึงฝั่งต้องเลิกลากันหรือกรณีที่เลิกการหมั่นต่อกันก็จะไม่มีเรื่องบาดหมางกัน
หรือถ้าหนีการหมั้นกันไปไม่รอดจริงๆก็จะพอสามารถปรับตัวเข้าหากันได้
คงกลัวว่าถ้าจีบวาคาบะจังไม่ติดหรือติดแต่ไม่ไปพิสูจน์รักด้วยกัน..เพราะคำนึงถึงอนาคตครอบครัวก่อน คาบุที่ปฏิเสธเรย์กะต้องไปแต่งกับพวกผู้หญิงไมฮามะสักคน นี้หนักกว่า
ถ้ามองมุมนี้เอ็นโจจะดูเป็นBest Manของเรื่องเลย... อาจจะอยากจีบเรย์กะแหละแต่มองว่าเพื่อกรณีไม่ทัน{เพราะสาวเจ้าหนีตลอดแถมเวลาเหลือไม่นานก่อนอายุ18ที่เกินนิติภาวะ}
แต่คิดแม้แต่เอ็นโจก็คงคิดไม่ถึงว่าอยู่กันไม่นานด้วยเวลาที่น้อยนิด ความสัมพันธ์ของสองหน่อจะสนิทกันไวขนาดนี้ ถ้าสนิทตั้งแต่ซื้อกระดาษจดหมายคงไปไกล ดันรสนิยมหรือแม้แต่อะไรหลายๆอย่างเข้ากัน คู่โดยธรรมชาติมันน่ากลัวจริงๆ)
แต่Routeนี้จะไม่เกิด ..ถ้าอนึ่งเรย์กะไปมีใจหรือแต่งกับใครก่อน ซึ้งกรณีนี้แหม่มาดามคาบุรากิจะเสียดายยังไงแต่ก็คงจะหว่านล้อมอะไรไม่ได้.. แต่ไอคนที่ว่านี้นอกจากจะโดนเปรียบกับคาบุสถานะก็ต้องดีด้วย ต่อให้ไม่ใช่พ่อแม่เหยียด(ถึง2ผัวเมียจะดูไม่อะไรแล้ว..ไปโฟกัสลูกสาวแทน)ก็คงถูกท่านพี่ขวางแน่นอน(ก็เสี่ยงเป็นแมงดาสูง ต่อให้เป็นคนดีแต่ถ้าไม่เก่งสุดท้ายตามบริษัทไม่ได้ เงินได้มาเอามาเลี้ยงถ้าไม่ดีพอก็เหมือนแมงดากลายๆ) เช่นว่า ถ้าเอ็นโจRouteก่อน เอ็นโยสามารถเคลียร์ประเด็นยุยโกะหรือชอบกันได้แล้วแล้วแต่งก่อนมีใจกันก่อนก็ตัดได้เลย
//เขียนยาวไม่มีไรมาก เหงา อยากคุยถกเถียง อ่านฟิคกันยาวๆ ไม่อยากให้มู้ตาย.....
กูไม่ชอบคาบุ มันปากหมามาก พูดจาไม่เห็นหัวเรย์กะเลย ขอให้ท่านเรย์กะคู่กับใครก็ได้ยกเว้นคาบุกับคานซัง แอบเชียร์มิซึซากิคุงด้วย ท่านประธ๊านน อยากให้มีอีเวนท์ที่ต้องป้วนเปี้ยนด้วยกันอีก เอาจริงสองคนนี้คุยกันสนุกดี ไม่ต้องเล่นแง่หรือด่ากันไปมา แซะนิดหน่อยยังพอได้55555
>>203 ประธานนางบทน้อยมาก แต่นิสัยดีสุดๆในพวกตัวเอกแหละ เหมือนคนเขียนจงใจอ่ะ เรืออื่นโดนคำสาปคู่รักกันหมด จะว่าไปนายตัวสำรองชอบวาคาบะจังแบบต้นฉบับไหมวะ เพราะตามสูตรก็อยู่ใกล้ชิดกันแถมยังเคยปิดทองหลังพระช่วยป้องกันการแกล้งแบบลับๆกับเจ้าแม่ด้วย แต่ดันไม่ได้ออกอาการอะไรกับวาคาบะเลย..(หรืออาจจะหลังไมค์เพราะเจอกันน้อย..)
>>205 อาริมะนี่เหมือนคาบุตรงที่เป็นคนตรงไปตรงมา รักความยุติธรรม แต่นิสัยดีกว่าเยอะ อย่างน้อยก็ไม่ ky เท่า แล้วก็พยายามแก้ไขปัญหาแบบประณีประนอมกับทุกฝ่ายอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่เอะอะบุกตะลุยไปข้างหน้าอย่างเดียวเหมือนคาบุ แต่อันนั้นก็ว่ากันไม่ได้เพราะนิสัยคาบุมันก็ควรเป็นงั้นจริง เกิดมาในจุดสูงสุด ทำอะไรก็เก่งไปซะหมด ความมั่นใจต้องสูงอยู่แล้วเลยกล้าทำ แต่อาริมะนี่สถานะต่ำกว่า แถมโดนบีบนั่นนี่เยอะ เลยออกไปทางซอฟท์กว่านิดๆ
>>206 ตอนแรกๆก็ตัวตั้งตัวตี พอรู้ว่าทำไรตรงๆกับพวกอภิสิทธิ์ไม่ได้เลยค่อยๆประนีประนอมด้วยแหละ แต่ไม่แบ่งแยกไม่ถือตัวคาบุรากินเวอร์ชั่นมนุษย์ปกติสินะ แต่คาบุนิสัยมันเอกลักษณ์,เอาจริงๆไอความปากหมานี้ก็มองได้ว่าเป็นคนที่ไม่มีลับลมคมในใดๆเลย(หรือไร้หัวคิด) หรือไม่ก็เพราะเห็นว่าตัวเองสนิทกับเจ้าแม่เลยไร้ความเกรงใจมั่งสงสัยเพราะไม่เคยมีเพื่อนคนอื่นมาก่อนเลยไม่รู้ว่าต้องทำยังไงมั่ง...
รอเจ้าแม่กับกูเนี่ยแหละห้ามไปไหน
>>207 คาบุมันก็มีเพื่อนนะ แต่ส่วนใหญ่คือเพื่อนผู้ชาย เพื่อนผู้หญิงนี่มีแค่เรย์กะคนเดียวเลยมั้ง แต่ก็นับว่าสนิทใจก็เลยเปิดเผยตัวตนไปจนหมด จะคิดอะไรหรือพูดอะไรก็ไม่จำเป็นต้องระวัง กลายเป็นมารยาททรามไปเลย เพื่อนผู้หญิงนอกนั้นก็คงเป็นไอระกับยูริเอะสองคน ส่วนวาคาบะนี่หลุดเข้ามาในวงแบบงงๆ ไม่ได้เข้ามาแบบเพื่อนด้วย แต่เข้ามาในลักษณะของผู้หญิงแปลกๆที่น่าสนใจเลยจีบ ต้องมีการวางมาดรักษาหน้ากันบ้าง แต่ถ้าเป็นแฟนกันเดี๋ยวก็คงเห็นนิสัยนี้เองมั้ง ถ้ามันคิดจะเอานิสัยแบบนี้ไปทำกับวาคาบะล่ะก็นะ...
แต่กูว่าน่าจะโดนวาคาบะตบก่อน ขนาดน้องชายปากเสียใส่เจ้าแม่ วาคาบะยังตบกบาลผัวะทันควัน ถ้าคาบุมันมาปากเสียใส่คิดว่านางคงไม่น่าจะยอมให้โดนด่าฝ่ายเดียว 5555555
>>209 นั้นสินะ ตอนอยู่กับคุณอาคิมิก็ไม่ได้แซะเรื่องอ้วนที่เป็นปมฝังใจของนาง แถมพูดแบบอ่อนโยนแถมหัวเราะจนดีเกินขาด... แปลว่าไอที่หลอกคนทั้งโรงเรียนได้ไม่ใช่โชคช่วยสินะ
อยากรู้เหมือนกันถ้ารู้ว่าคาบุรากิมันเป็นสโตเกอร์ จักรพรรดิเซลล์เดียว ไซซายะสุดปากหมาไร้สามัญสำนึก อายุทางจิตน้อยกว่าคันตะ จะเป็นยังไง... เอาจริงๆรอมิสึซากิตบมุขเลยแหะว่าถ้าสนิทกันขึ้นมาคงปรับตัวกันไม่ยาก หมอนี้น่าจะต่อมุขดีเกินคาด..
ส่วนองค์ชายที่กุยอมรับว่าสกัดดาวรุ่งบ่อย ยอมรับว่าอ่านกระทู้ก่อนหน้าแล้วเห็นกาวเกินจริงแต่ห้ามเรืออื่นกาวเลยสกัดดาวรุ่งนิดๆเพื่อความเท่าเทียม...(ส่วนตัวล้วน =_=)
แต่เข้าใจได้ว่ากั๊กปมไว้เยอะ ทุกวันนี้ยังเป็นปริศนา แถมคนเขียนหายไปเป็นปริศนากว่า
บางทีเอ็นโจในชีวิต(ที่มีส่วนเป็นต้นแบบมาพบเข้า)อาจจะมาเจอแล้วโดนขู่ไปก็ได้ จะว่าไปญี่ปุ่นสโตกเกอร์กับยันเดเระ ก็เกิดขึ้นง่ายเพราะสภาพสังคมในโรงเรียนที่ค่อนข้างบิดเบี้ยว บางทีถ้าคิดแนวกาวๆกับจิตๆอาจจะจับท่านฮิไปแล้ว....
การเวลาทำให้คนเราเพ้อได้ โทษที
>>197 ต้องพระเอกแฝดห้าว่ะ มีรักแรกปั๊บปี้เลิฟก็จริงแต่ไม่สนใจเพราะคืออดีต ไม่ยึดติดและมูฟออนไปข้างหน้า แต่มันก็อยู่ด้วยกันแค่แป๊บๆน่ะ จะให้มารักใคร่อะไรนักหนา ส่วนที่สัญญากันไว้ในเรื่องเรียนพระเอกมันก็ทำเพื่ออนาคตตัวเองล้วนๆ ไม่ใช่เพราะสาวในคำสัญญาที่มันก็เกือบจะลืมไปแล้ว แต่ที่กูคิดว่ามันโรแมนติคมากคือคนที่เป็นรักแรกกับคนที่ตกหลุมรักในปัจจุบันคือคนคนเดียวกัน เหมือนนี่คือคู่ที่ฟ้าส่งมาให้ ห่างกันไปไกลแค่ไหนก็กลับมาเจอกันอยู่ดี
ส่วนนิเสะโค่ยกูว่ามันห่วยตรงที่มันเอาเรื่องในอดีตมาเล่นและย้ำอยู่ตลอด แต่พอถึงเวลาต้องเลือกกลับเตะของพวกนี้ทิ้งแบบที่ผ่านมาคือไร้ค่าหมด ถ้ามันไม่ได้ยึดติดเรื่องสาวในความทรงจำหรือคำสัญญาขนาดนั้น กูอาจจะไม่สาปส่งหนักขนาดนี้ก็ได้
หายไปพักหนึ่งยังมีครอยู่อีกเหรอวะ....ยอมใจพวกนายจริงๆ
ย้อนกลับไปอ่านใหม่อีกรอบมา รอบนี้กูเรือคาบุวะ คาบุกับเจ้าแม่โครตโบ๊ะบ๊ะ
กูเลิกชิปเรื่องเรือไปละ ใครจะเข้าก็เข้าไป หรือไม่มีคนเข้าวินก็ได้แค่มาเขียนต่อกูก็พอใจแล้ว
เรือคาบุเหมือนกัน เอ็นโจออร่าพระรองกินแห้วมากๆ กับคาบุคือเจ้าแม่ดูเฮฮาดี
อยากอ่านฟิคเรือคาบุเรย์กะเลยว่ะ ฟิคเอนโจเยอะละ แต่เอาจีงฟิคคู่ใครก็ได้ กุคิดถึงเจ้าแม่ชห. อยากอ่านนนนนนนนน
กุหวังตลอดว่าท่านฮิจะกลับมาต่อ 555
ตอนแรกก็อวยเอ็นโจแต่พออ่านอีกรอบ เออ...คาบุมันแล่นแรงมากวะ ส่วนเอ็นโจน้อยนี่กว่าวาคาบะจังอีก
ตอนนี้กุก็อะไรก็ได้ล่ะ แต่ฟิคอ่ะเอ็นโจโคตรเยอะใครจะเขียนเอาอย่างอื่นบ้าง... รอคนเขียนForever
กุเรือคาบุมาตลอด ขอฟิกคาบุอีก ไม่ก็ฟิกท่านประธาน
มีใครพอจะแนะนำมังงะหรือนิยายที่พระนางนิสัยเหมือนคาบุเรย์กะบ้างไหม กุคิดถึงเรื่องนี้มาก แต่ท่านฮิก็ไม่มาต่อสักที อยากหาเรื่องอื่นมาเยียวยา ฮรุกๆ
ไม่ได้เข้ามานานนนนน ฉันถึงกับมึนเลยแหะ ที่อ่านมาทั้งหมดเนี่ย... เป็นคนละคนใช่ไหม ทำไมมันชื่อเหมือนกันหมดเลยล่ะ(@-@)? คงจะมึนแหละ ฉันแค่ไม่ได้เข้ามานานมากๆเอง
คิดถึงมู้นี้
คิดถึงเว้ย หายไปนาน แต่กลับมาก็ยังเรือไซซายะเหมือนเดิมนะ 5555
กุมองว่าที่ไซซายะมันปากหมาขนาดนั้นเพราะคิดว่าสนิทกับเจ้าแม่แล้วและก็วางใจเจ้าแม่มาก //แปลกใจที่ตอนนี้โม่งเริ่มสนใจเรือไซซายะ เมื่อก่อนเห็นแต่โม่งลงเรือจอมมาร
สงสัยต้องกลับไปอ่านอีกรอบ ลืมหมดละ (¬ .¬)
ยกมือ กูนี่ กูนี่ โม่งเรือไซซายะ
อีกไม่นานจะครบรอบปีที่4หลังการอัปเดต299แล้ว คือถ้าเลยกว่านี้กุก็ยอมแพ้ล่ะ
ตอนอ่านถึง 299 เมื่อปีก่อนๆ กูลงแดงจนเลิกลงแดงไปละ ทำใจ
อารมณ์กูเหมือน hxh เลยอะ TT เรื่องที่จบอื่นๆ กูก็ไม่ตาม แต่ดันมาชอบแต่เรื่องไม่จบแถมโดนดองอีก //สรุปเจ้าแม่อยู่กับคานจริงๆสินะ ไม่มีคู่...
กูตามจนขี้เกียจตามละ ก็ยังรออยู่เรื่อยๆนะไม่ได้ทิ้ง แต่ไม่ได้รู้สึกพีคเท่าเดิม ถ้าออกตอนใหม่มาก็อ่านแต่ก็ไม่ได้กระตือรือร้นจะมาอ่าน แบบ hxh หรือ d-grey man ว่ะ เมื่อก่อนกูติดมากกกกก แต่พอคนเขียนหายไปนาน อารมณ์ที่อ่านตอนนั้นมันต่อไม่ติดละ กลายเป็นว่าจะอ่านตอนไหนก็ได้ถ้าว่างแล้วไม่ลืมเดี๋ยวกูมาอ่านนะ
อีกอย่างเมื่อก่อนกูเชียร์จอมมาร ตอนนี้ก็ยังเชียร์อยู่นะ แต่มันเป็นฟีลว่าเออ จบกับใครก็ช่างแม่งเหอะ ช่วยมาต่อซักที อยากรู้ปมอื่นๆในเรื่องด้วย
ตอนนี้อีเวนท์หลักๆมีอยู่ประมาณนี้ป่ะวะ
-งานดอกไม้ไฟ (ไม่รู้มีอะไรในกอไผ่ป่าวนะ แต่ทุกครั้งที่ใกล้จบตอนที่ 100 มักมีเรื่องพีคตามมา 100 ตอนแรกก็มาซายะอกหักจนหนีไปฆ่าตัวตาย ตอน 200 เรย์กะโดนคดีล็อกเกอร์ เพราะงั้นตอนที่ 300 กูคิดว่าเป็นคิวของชูสุเกะว่ะ)
-งานซัมเมอร์ ตามบทเดิมวาคาบะจะได้ไปงานนี้กับเขาด้วย ปีสุดท้ายแล้ว แถมความสัมพันธ์คืบหน้าจัดๆ มาซายะน่าจะแอบพามา ส่วนเจ้าแม่กูว่าน่าจะได้เต้นกับพี่น้องเอ็นโจ
-งานแข่งกีฬา ไม่รู้จะมีไร แต่คิดว่าคงไม่น่าพีค เพราะจากการบรรยายก็ค่อนข้างตัดฉับไม่มีอะไรสำคัญมาก
-งานโรงเรียน ชุดเวดดิ้งดอลและตุ๊กตาแฮนด์เมดของเจ้าแม่ ต้องมีคนได้ไปชัวร์
-งานหมั้น ถ้ามาซายะคบวาคาบะ มาดามสั่งเลิกแล้วจับหมั้นกับเรย์กะตามบทเดิมแน่นอน เป็นปมใหญ่สุดในชีวิตเจ้าแม่ ถึงบ้านจะไม่ล้มละลายตามต้นฉบับ แต่เจ้าแม่จะยอมโดนจับหมั้นมั้ย
ส่วนบ้านเอ็นโจนี่น่าจะปมใหญ่ในเรื่องเลย แพลมๆมาว่ามีปัญหาแต่ยังไม่เห็นซักที ยังไงนี่ก็ตัวละครหลัก มันต้องมีฉากคลี่คลายปมล่ะวะ
กูรอดูเวดดิ้งดอลมากว่ะ กูอยากให้เจ้าแม่ได้ใส่ชุดแต่งงานเดินโชว์ด้วย กูว่าแม่งทำได้ถ้าให้เด็กในชมรมกดดัน+ยอเจ้าแม่มาก ๆ ยังไงทำมาไซซ์เจ้าแม่อยู่แล้วนิ
>>236 เชื่อว่าก็ทำให้เจ้าแม่หน้าแตก แล้วแถๆรอดมาได้อย่างอเน็ดอนาถน่าสงสาร หรือไม่ก็ส่งไอคาบุลูกรักคนเขียนมาแกงเจ้าแม่แทน ว่าอ้วนจนฟิตหรือไม่ก็เผลอหลุดปากเจ้าสัตว์สองกีบออกมา
ยังไงคนเขียนก็คงแกงแหละ ไม่ต้องคาดหวังเจ้าบาวเจ้าสาวหรอก แล้วก็ตามสเต็ปท์เลยนะ เจ้าบากะรากิหรือผู้ท้าความตาย มาบอกว่า “รู้เปล่าใส่ชุดเจ้าบ่าวก่อนแต่งจะขึ้นคานหรือแต่งช้ากว่าคนอื่นนะ” ให้เจ้าแม่เครียดเล่น
ไม่คาบุโดนแซะกลับ ก็ผู้ท้าความตายโดนแก๊งผู้หญิงจับไปรุมซ้อมแหง่ๆ
โม่งฟิกมาแต่งต่อเหอะ อยากอ่านว่ะ
ปักกระทู้รอเสมอนะ
แฟนเรื่องนี้เดนตายกันจังวะ อัพเดทมั่งยังไม่ได้ดูทู้นี้มา4-5ปีละ555
แวะเข้ามาดูไปรอบปีสองปี พวกมึงยังอยู่กันอีกหรอวะ แม่งโคครพลังใจล้วนๆเลย555555555 กูเองก็แวะเข้ามาเพราะมีความหวังกับตอนใหม่เหมือนกัน แต่กูคงหวังมากไปสินะ เห้อ
กูรออยู่นะ แง ท่านฮิคะ
มึง กูกลับไปย้อนอ่านตั้งแต่ต้น แล้วเมื่อคืนกูฝันเป็นพล็อตฟิกเป็นฉากๆเลยว่ะ เอามาแปะแป๊บ
.
เตือน Yท่านพี่กะท่านอิมารินะมึง
.
“เรย์กะ พี่ขอโทษ”
ฉันกำลังนั่งอยู่บนโซฟาในห้องของท่านพี่ ตรงหน้ามีท่านพี่ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น ศีรษะก้มต่ำจนฉันมองไม่เห็นสีหน้า แต่แค่จากน้ำเสียงก็เกินพอที่จะรู้ว่าท่านพี่รู้สึกเสียใจแค่ไหน ใกล้ๆกัน มีท่านอิมาริที่เปลือยท่อนบนกำลังค้อมตัวลงจนหน้าผากจรดลงพื้นพรมนุ่ม จะว่าไป เสื้อผ้าของท่านพี่เองก็หลุดลุ่ย ไม่เนี้ยบเหมือนทุกที ทั้งชายเสื้อที่หลุดลุย กระดุมเสื้อก็ติดไม่ครบถึงคอ เน็คไทปมหลุดพาดอยู่ใต้ปกเสื้อที่ยับผิดรูป กระดุมกางเกงถูกปลด… ไม่นะ ทำไมฉันมองตรงนั้นล่ะ นี่มันท่านพี่นะคะ ท่านพี่ที่แสนสมบูรณ์แบบของน้อง น้องไม่ได้คิดอกุศลใดๆเลยนะคะ ที่หน้าแดงๆนี่มาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ฉันดื่มจากอาฟเตอร์ปาร์ตี้งานแต่งงานวันนีเท่านั้นล่ะค่ะ
พอเลื่อนสายตาหนีจากจุดชวนอกุศลมโนกรรมไป ก็เห็นท่านอิมาริค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉันพอดี สายตาของท่านอิมาริดูเสียใจไม่แพ้กับท่านพี่ ท่านอิมาริยังคงรูปร่างดีไม่เปลี่ยน กล้ามเนื้อยังคงดูดีเหมือนสมัยที่ยังทำกิจกรรมชมรมอยู่เลยนะคะเนี่ย ถึงจะผ่านมาสิบกว่าปีแล้วก็เถอะ ที่ตรงหัวไหล่ข้างซ้ายมีรอยฟัน? สังเกตดีๆ รอบๆคอก็มีทั้งรอยจุดแดงๆเต็มไปหมด ที่หลังมีรอยเส้นสีขาวจางๆด้วย รอยมีดรึเปล่านะ เสื้อเชิร์ตคาร์ลวิน ไคลน์ที่กองอยู่ใกล้ๆเตียงนั่นใช่ของท่านอิมาริรึเปล่านะ คงจะใช่แล้วล่ะ เพราะท่านพี่เองไม่ค่อยใช้เชิร์ตจากที่นี่ อีกอย่างขอบชั้นในสีขาวที่โผล่พ้นกางเกงแสล็คของท่านอิมาริของมีสัญลักษณ์ CKอยู่ด้วย คงจะเป็นของท่านอิมารินั่นแหละ พูดถึงCKแล้ว คอลเล็คชั่นฤดูร้อนที่กำลังจะวางจำนายของวาเลนติโนนี่ดีจังนะ วันหยุดหลังจากนี้ไปช็อปปิ้งดีกว่า อยากได้รองเท้าคู่ใหม่ด้วยสิ D&Gที่ท่านยูริเอะสวมในงานวันนี้สวยหรูมากๆเลย คอลเล็คชั่นล่าสุดของจิมมี่ ชูก็น่าสนดีนะคะ…
“เรย์กะจัง เป็นอะไรรึเปล่า ผมขอโทษนะ เรย์กะจังช่วยตอบอะไรได้มั้ย ได้โปรด”
เสียงท่านอิมาริขัดสติที่กำลังหลุดลอยของฉันให้กลับมาเหตุการณ์ตรงหน้า อ่า.. ขออภัยที่สติหลุดไปนะคะ ท่านพี่คะกรุณาเงยหน้าขึ้นมาเถอะค่ะ ส่วนท่านอิมาริช่วยสวมเสื้อด้วยค่ะ ผู้ใหญ่บ้านคานทองวัยกลางหลักสองอย่างฉันจะไม่ไหวแล้วค่ะ
“เอ่อ… ท่านพี่คะ ท่านอิมาริ รบกวนขึ้นมานั่งคุยกันดีๆเถอะค่ะ เดี๋ยวน้องจะไปชงชามาให้นะคะ” ว่าแล้วฉันก็ลุกจากโซฟาไปยังห้องครัว ปล่อยให้ท่านพี่กับท่านอิมาริจัดการตัวเองไปก่อน ระหว่างที่กำลังชงชา ฉันก็รวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงไปจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ฉันเพิ่งกลับมาจากอาฟเตอร์ปาร์ตี้งานแต่งงาน กำลังกรึ่มๆได้ที่ เห็นว่าไฟห้องของท่านพี่ติดอยู่ เลยกะว่าจะเข้าไปอ้อนให้ท่านพี่ปลอบใจสักหน่อย แต่พอไปถึงหน้าห้องท่านพี่ ฉันเห็นว่าประตูห้องท่านพี่แง้มอยู่นิดนึงเลยผลักเปิดเข้าไปเลย ถึงจะฟังดูเสียมารยาทก็เถอะ ก็แหม…การที่ประตูปิดไม่สนิทแสดงว่าไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดเป็นส่วนตัวนี่นา แล้วปกติท่านพี่เองก็ไม่เคยเผลอปิดประตูไม่สนิทด้วย ฉันก็เลยส่งเสียงเรียกท่านพี่พร้อมๆกับผลักประตูเปิดเข้าไปเลย…
...การที่ประตูปิดไม่สนิท ไม่ได้แปลว่าไม่มีเรื่องส่วนตัวต้องการปกปิดสินะคะ สำนึกผิดแล้วค่ะ…
ท่านพี่กับท่านอิมาริหันมามองฉันทั้งคู่ ท่านพี่ถูกมือของท่านอิมาริกดบ่าทั้งสองข้างลงจนอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง เสื้อผ้าที่ปกติจะเนี๊ยบทุกระเบียดกลับรุ่งริ่งหลุดลุ่ยไปหมด ท่านอิมาริเองก็อยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน แขนข้างหนึ่งถูกท่านที่จับยึดไว้ ดูจากสภาพกาเกงที่หลุดเอวลงมาเกือบครึ่งสะโพกจนโชว์บิกินีบรีฟสีดำขอบขาว ทั้งกระดุมและซิปคงถูกปลดออกไปแล้ว ทั้งคู่ที่ใบหน้าแดงก่ำ พอเห็นฉันเท่านั้นก็พลันซีดลงอย่างกับถูกน้ำเย็นสาดใส่ ตัวฉันเองที่เห็นภาพที่ดูยังไงเป็นภาพที่ท่านผู้ปกครองทั้งหลายต้องป้องกันมิให้เด็กวัยต่ำกว่า17เห็นเข้า ก็ถึงขั้นความร้อนในตัวพุ่งปรี๊ดขึ้นใบหน้าจนเผาฤทธิ์แอลกอฮอล์ไปหมด สร่างเมาในทันที… แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นต่อนะ
อ้อ… ดูเหมือนว่าเพราะเลือดจะสูบฉีดขึ้นหน้ามาเร็วไปหน่อย ฉันเลยรู้สึกวิงเสียนจนแข้งขาอ่อนทรุดลงไปกองกับพื้น พอท่านพี่เห็นเข้าก็เลยถีบท่านอิมาริออกจากตัวแล้วพุ่งเข้ามาพยุงฉันไปนั่งพักที่โซฟาในห้อง แล้วก็เป็นอย่างที่ว่ามาสินะ
เอาล่ะ… ชาเรียบร้อยแล้ว จะพูดกับท่านพี่กับท่านอิมาริว่ายังไงดีนะ
…
ที่เหลือมันมาเป็นช็อตสั้นๆ กูไม่รู้จะเอามาเล่ายังไง แต่มีฉากท่านอิมาริขอเรย์กะจังแต่งงานบังหน้าด้วย ใครต่อได้มาเอาไปต่อหน่อยเร้วววว
รอมานานเหลือเกิน คนเขียนตอนนี้เขียนเรื่องใหม่ไปยังวะ
อยากเริ่มอ่าน ต้องอ่านตั้งแต่ตรงไหน
กูกลับไปอ่านอีกรอบอีกแล้ว ความหวังช่างริบหรี่เกินทน ตอนนี้จะจบยังไงก็ได้ คานก็ได้ ขอแค่มาต่อเถอะ
ฟิค A-Z นี้ โครตดีเลยวะ น้ำตาซึม
>>254 คู่คาบุกับเรย์กะกูว่ามันไม่ค่อยดราม่าว่ะ มันพร้อมจะหักหลังและหันมาต่อยกันเองได้ตลอด ถ้าเป็นเรื่องอื่นได้ใบเบิกทางมาขนาดนี้แม่งเข้าซีนโดขิโดขิใจเต้นหน้าแดงเขินกันไปนานละ เรื่องนี้นางเอกท้าต่อยพระเอก(?)อยู่ในใจ ไล่ไปโกนหัวบวช ลงมือฆาตกรรมกันซึ่งๆหน้า แถมยังหักธงผู้ชายทุกคนยกเว้นนางเอกแบบวาคาบะที่ไปปักธงรัวๆ จะจบแบบยูริกูว่าก็ไม่น่าจะมีคนติดขัดนะ 555555555555555
>>254 กูก็ว่ามันหื่นไปหน่อย แถมเจ้าแม่แม่งเป็นนางเอกละครโศกไปเลย กูว่าคู่นี้ถึงสถานการณ์มันจะชวนดราม่าขนาดไหนแต่มันต้องขายขำกันมากกว่านี้ กูติดภาพจากในตัวนิยายที่แม่งชอบหักธงขัดขากันเอง มันเลยเกิดเป็นความฮาไง ตบมุกกันโบ๊ะบ๊ะรัวๆไม่พัก กูยังขำซีนที่คาบุมันคิดว่าเจ้าแม่ส่งตัวแทนไปเก็บแต้มนักษัตรไม่หาย แม่งกาวทั้งคู่ ระบบความคิดในสมองนี่ประมวลผลยังไงให้ออกมาในทางนั้นได้วะ 555555555555555555555
เดี๋ยวนะสหายโม่ง....สารบัญดูไม่ได้วะ
>>255 เอาจริงๆนะ 2ตัวนี้มันควรฮากว่าเนี่ย ขนาดซีนไอคาบุรากิดึงเจ้าแม่จาก2หน่อประธานนักเรียนเข้าหาตัวแล้วส่งสายตาอาฆาตใส่อีกฝ่าย(มันก็พอเข้าใจนะว่าเรื่องนี้มันวนที่คาบุ ทุกการะกระทำของหมอนี้ส่งผลต่อชะตากรรมเจ้าแม่ เลยเล่นประเด็น2คนนี้ให้คนดูไขว้เขวมั่ง) ดันกลายเป็นฉากลุ้นระทึกท้าความตายซะงั้น..(จินตนาการเจ้าแม่ล้ำจริง)
เอาจริงๆจะว่าเจ้าแม่หักธงผู้ชายไปทั่วไม่ได้นะ ต้องบอกฮิโยโกะซามะแกงมากกว่า คนไหนเอนเอียงมาไสร้เจ้าแม่ให้แม่งมีคู่ก่อนเลย... (ก็ถ้ามีแฟนแล้วพล็อตกลัวจับแต่งกับพระเอกจนไปสู่ชะตากรรมหายนะก็ลงเหว)
แถมเทียบกันแล้วเจ้าแม่นี้ดึงดูดผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอ่ะ เอาจริงๆตอนนี้จะคานก็ไม่ว่าแล้ว อยากรู้ตอนจบซะที(ก็เขียน200กว่าตั้งแต่2013แล้วดันรากยาวมาถึง299ตั้ง5ปี) แปลว่ามีงานมีการทำหรือไม่ว่างแล้วจริงๆ
>>259 ขนาดตอนล็อคเกอร์ที่แม่งโยนดราม่าใส่นางเต็มๆเกือบจะบรรลัย แม่งยังเลี้ยวไปตบมุกกับคาบุจับทำสัญญาเลือดได้เฉย กูคิดว่าความดราม่าเศร้าๆไม่น่าจะอยู่กับเจ้าแม่ได้นานว่ะ ให้เต็มที่ก็ตอนนึงแล้วมูฟออนไปเรื่องอื่น แถมคาบุนี่กาวพอๆกับเจ้าแม่เลย คู่นี้ไม่น่าห่วงดราม่าหรอก
เออวะ กุกดผิดไม่ได้กดDoc.ไปกดDrive
คิดถึงท่านเรย์กะอ่ะ มีข่าวคราวอะไรจากนักเขียนบ้างมั้ย 🥲🥲🥲
ทำไมล่าสุดต่อให้เปลี่ยนurlก็อ่านไม่ได้แล้วล่ะ
ถ้าอ่านตอนเก่าๆไม่ได้อีกกูคงเศร้าน่าดู คิดถึงเจ้าแม่
พวกมึงนี่สุดยอดเลย กูตามอ่านเงียบๆ ไม่รู้จักเจ้าแม่นะ แต่ชอบเอนเนอจี้ความแฟนคลับมาก ขอถามได้ไหมนขเค้าไปไหน ไม่แต่งต่อแล้วเหรอ
กู 271 เดวนะเรื่องนี้มันไม่ได้พิมที่ ญป เหรอ หายไปงี้ บกไม่ตามเหรอเนี่ย
กุอุ่นใจจังวะ ไม่เข้าโม่งมาปีกว่า มู้เจ้าแม่ก็ยังอยู่
ขอตัวไปซู้ดกาวเติมพลังใจก่อนนะ 😭
เออ แต่ยังไงกุก็ยังลงเรือคันตะเหมียนเดิม กินเด็กแล้วไง ไอ้น้องมันทำให้เจ้าแม่เป็นผู้เป็นคนที่สุดในเรื่องแล้ว! เอ็นโจสตอล์คเกอร์เกิน คาบุปากหมาเกิน อาริมะก็ดีอยู่ ดูอยู่กับเจ้าแม่ได้ อิมาริก็ดี แต่ให้รักกับท่านพี่เถอะ
ยังไงก็คันตะแหละสำหรับกุ แม้จะเรือผีก็ตาม
เพื่อนโม่งช่วยกุด้วยยย กุเข้าไปอ่านเจ้าแม่ในแมวดุ้นไม่ได้แล้วอ่ะ ลองเปลี่ยนตอนไป119มันจะเด้งกลับมาที่19 ;-; ฮือ ใครก็ได้ช่วยที กุกราบ
ไม่ได้เข้าตั้งนาน คิดถึงงงง แต่นิยายไม่อัพมา 4 ปีแล้ว เศร้าาาาาา
คนแปลมีเพจมั้ยวะ
ถ้าเข้าไม่ได้อีกก็เสียดายนะที่สิ่งเยียวยาใจกูหายไปอีกอย่าง คิดถึงเจ้าแม่จัง ;w;
ฝันว่าเจ้าแม่อัพครบรอบสี่ปี โม่งครึกครื้นมาก สรุปสะดุ้งตื่น กูรีบเปิดโม่งดู…. แม่งเอ๊ย เป็นแค่ฝันจริงๆด้วย เศร้าว่ะอยากร้องไห้
อย่าไปบอกใครเขาว่าตัวเองเป็นปลิงอ่านนิยายแปลในเว็บโม่งในห้องใต้ดินแม่
กุไม่ยอมให้กระทู้นี้หายไปหรอก
อีก4วันเพื่อนโม่ง พวกมรึงอยาาทิ้งศรัทธาสิวะ
กุยังอยู่!
ยังอยู่ โม่งฟิกกลับมาที
รอคอยเธอมาแสนนาน
พรุ่งนี้แล้วสินะ......
วันครบรอบ กุล่ะอยากรู้ล่ะว่าเอ็นโจจะยังไง ไอคาบุมันระแคะระคายเรื่องเจ้าแม่(อยากให้รู้อ่ะน่าจะฮาดีถึงเจ้าแม่แทบจะลืมเหตุผลไปแล้วก็เถอะว่าปิดทำไม...น่าจะเพราะกลัวคาบุมาใช้งานเรื่องนี้ต่ออุตส่าห์ได้ทำคะแนนวาคาบะมั่ง)
สุขสันตวันครบรอบ 4 ปีที่ไม่ได้อัพจ้า ฮือออออออ ท่านฮิโยโกะ ทำไมกัน😭😭😭😭
ไม่ได้แวะมานานมาก หิวฟิคว่ะ มีใครมีฟิคเสิร์ฟหน่อยมั้ย
>>297 นางแค่มโนไปใหญ่โตเองว่าถ้าทุกคนรู้ว่าแอบคบวาคาบะจะโดนมองเป็นคนทรยศ เป็น pivoine แท้ๆแต่ดันไปสนิทสนมกับคนฝั่งศัตรู แล้วทุกเรื่องที่ทำมาก็จะโป๊ะแตกหมด คาบุก็จะโกรธๆๆๆๆเรื่องที่โดนหลอก มาแก้แค้นทำให้บ้านนางล่มจมแบบในต้นฉบับ เลยจะให้รู้ไม่ได้
แต่เอาจริงๆถึงคาบุรู้ก็ไม่เห็นจะเป็นไร คงจะแค่งอนๆว่าทำไมต้องปิดบังกันแต่เดี๋ยวก็หายไปเอง อาจจะโดนใช้งานหนักขึ้น ส่วนเอ็นโจกูว่าเดาความสัมพันธ์สองสาวนี่ได้ตั้งนานแล้วแค่เงียบไว้เฉยๆ แต่มาขู่ๆตอนมีคนนอกที่เป็นผู้ชายแบบอาริมะเข้ามาเกี่ยวนี่ล่ะ ว่าให้เลิกทำสิ่งที่กำลังทำอยู่ บางเรื่องที่เจ้าแม่มโนไปใหญ่โตพอปัญหามันคลี่คลายมันก็จะเป็นฟีลแบบ แค่นี้เอง จะไปทำให้มันยุ่งยากเพื่อ...
>>301 จริง กูว่าเจ้าแม่นึกถึงจุดจบในมังงะชาติก่อนจนคิดมากเยอะเกินไป แพนิคไปหมดทุกอย่างเลย ทั้งๆที่ตอนนี้กับไอ้คาบุมันก็เแทบจะเป็นเพื่อน(สนิท)ไปแล้ว คงไม่คิดจะแก้แค้นทำบ้านนางล้มละลายหรอก เอ็นโจก็ไม่ได้เหม็นขี้หน้าเหมือนเวอร์ชั่นมังงะ เผลอๆชอบหาเรื่องแกล้งตลอดด้วย เฮ้อ เรียนก็จะจบแล้ว อยากให้เจ้าแม่ได้ใช้ชีวิตในโรงเรียนแบบสาวน้อยทั่วไป มีฟามรัก หายเป็นโรคผมร่วง เครียดลงกระเพาะด้วย ถ้าฮิโยโกะไม่มาอัพต่อกูจะมโนว่าเอ็นโจเป็นพระเอกละ55555
4ปีแล้วเหรอ กูอ่านจนลืมเนื้อเรื่องไปหมดแล้ว นานจริงๆ จำได้อย่างเดียวว่าลูกน้องเรย์กะแม่มมีคนคุยกันหมดแล้วเหลือแต่เจ๊แก 5555
>>303 สาวๆลูกสมุนนางทีแรกกูนึกว่าเป็นแก๊งค์สาวใจโฉดที่คนเขาขยาดกันทั้งโรงเรียนแล้วขึ้นคานเป็นเพื่อนเจ้าแม่กันหมด แต่พอเจ้าแม่แยกตัวออกไปก็มีผช.มาคุยตามปกติ เลี้ยงไอติมคุยหยอกเล่นกันนั่นนี่โน่น มีไปนัดบอดกับหนุ่มๆโรงเรียนอื่น ตอนไปเที่ยวก็มีผช.มาเดินรวมกลุ่มด้วย แสดงว่าตัวไล่ผู้ชายไปคือเจ้าแม่ 555555555555
ต่อหน้าเจ้าแม่พวกนางก็ยังบอกว่านัดบอกไม่สง่างามบลาๆๆอยู่เลย เจ้าแม่ได้แต่กล้ำกลืนทั้งที่ใจอยากอะ 555555
พวกนางอาจกลัวเจ้าแม่ไปเปิ่นกลางงานก็ได้นะ เดี๋ยวเสียภาพพจน์ท่านเรย์กะ
>>306 กูว่าพวกนางเห็นว่าเจ้าแม่คบกับหนุ่มๆตัวท็อปอยู่แล้ว จะมาเกลือกกลั้วกับตัวรองๆก็ดูไม่สมศักดิ์ศรี อีกอย่างกูคิดว่าทุกคนรู้ว่าเจ้าแม่นี่เด๋อๆบ๊องๆ กลัวคนมาหลอกไปเลยไม่พาไปด้วย หนุ่มนอกโรงเรียนมันไม่กลัวเจ้าแม่อะ สร้างภาพลักษณ์น่าเกรงขามเป็นเกราะกำบังไม่ได้เลยตัดไฟแต่ต้นลมไม่พาไปเลยดีกว่า
ไม่อัพต่อแล้วสินะ......
หรือว่าจะลืมรหัสจริงๆ ไม่ก็ใช้รหัสเพื่อนแต่งแล้วไม่ได้เขียนต่อ แต่ถ้านานขนาดนี้ลืมวิธีแต่งนิยายแล้วมั่ง
มาแปะฟิคฉลองครบรอบสี่ปีที่นิยายไม่อัพนะเพื่อนโม่ง อาจจะ ooc ไปบ้างเพราะกูจำเนื้อเรื่องไม่ค่อยได้แล้ว TT
_______
โคโระจัง?
_______
ช่วงสายของวันอาทิตย์ที่อากาศแจ่มใส เรย์กะในชุดกระโปรงยาวสีขาวก้าวลงจากรถรับส่งของตระกูลคิโชวอินพร้อมกับถุงกระดาษที่ข้างในบรรจุของฝากจากร้านช็อกโกแลตที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังจนต้องรอคิวข้ามเดือนในเวลานี้ แน่นอนว่าจุดหมายปลายทางของเธอไม่ใช่ที่อื่นใดนอกเสียจากร้านขนมบ้านทาคามิจิ ซึ่งวันนี้เธอก็เดินทางมาเรียนทำอาหารจากคันตะเหมือนเช่นเคย
ถึงแม้การนำขนมมาฝากลูกเจ้าของร้านขนมจะเป็นอะไรที่แปลกไปสักหน่อย แต่ว่าเธอก็อยากให้คันตะได้ลองชิมช็อกโกแลตบองบองจากร้านที่ได้รับการรับรองจากคุณชายขนมหวานจอมเรื่องมากอย่างคาบุรากิเสียบ้าง
ขนาดร้านช็อกโกแลตที่มีชื่อเสียงยังผสมแตงกวาดองกับพริกเจลาปิโนเข้าไปได้เลย! คันตะคุงต้องลองเปิดใจกับสูตรแกงกะหรี่ใส่แยมราสพ์เบอร์รี่ของฉันบ้างสิ!
..ถึงแม้เหตุผลที่แท้จริงจะเป็นอย่างนี้ก็ตาม
"สวัสดีค่ะ ขอโทษที่วันนี้มารบกวนอีกแล้วนะคะ"
เรย์กะเอ่ยทักทายคันตะที่ขณะนี้ยืนเปิดประตูรอเธออยู่ เท่าที่ฟังมาจากคันตะ วันนี้วาคาบะไม่อยู่ด้วยเพราะออกไปเดทที่อควาเรียมกับมาซายะ ดูเหมือนว่าช่วงนี้สองคนนั้นกำลังไปด้วยกันได้ดีเลยนะ
นอกจากนี้เธอยังคลายกังวลเพราะตัวเกะกะที่ทำให้พักหลังเธอไม่ค่อยได้มาที่บ้านทาคามิจิก็ไม่อยู่ด้วย ตั้งแต่ที่มาซายะได้ยินชื่อโคโระจังก็มาที่บ้านทาคามิจิบ่อยเสียจนไม่ค่อยมีโอกาสให้เรย์กะแวะไปนั่งเล่นเลย
พ่อหนุ่มคลั่งรักนี่น่ากลัวจริง ๆ .. หวงเขาแบบนี้ทำไมไม่ขอคบสักทีค้าาาา!?
"อยากจะให้คันตะคุงลองชิมช็อกโกแลตร้านนี้วันนี้เลยนำมาเป็นของฝากค่ะ"
เธอบอกพร้อมรอยยิ้มหวาน ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อนั่งคุยเรื่องเมนูที่จะทำกันวันนี้
"ช็อกโกแลตอันนี้ส่วนผสมลงตัวแบบแปลก ๆ ดีนะ"
คันตะพูดขึ้นระหว่างที่ทั้งสองกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ซึ่งเรย์กะไม่ปล่อยโอกาสดี ๆ แบบนี้ให้พลาดไปเด็ดขาด
อันนี้คันตะคุงยังบอกว่าอร่อยเลย แล้วทำไมแกงกะหรี่กับแยมถึงไม่ได้ล่ะคะะ!!? ของรสเผ็ดกับรสหวานเหมือนกันแท้ ๆ อ่ะะ!
"ถ้างั้นวันนี้เราลองแกงกะหรี่เนื้อใส่แยมราสพ์เบอร์รี่และไวน์แดงดีมั้ยคะ นอกจากนี้ก็ใส่บีทรูทแทนแครอท ถ้าเป็นแกงกะหรี่ที่ออกสีแดงก็ดูน่าจะสวยดี เอาเป็นสีแดงที่แสดงความรู้สึกเผ็ดร้อน แต่ถ้ารสชาติจริง ๆ นุ่มนวลก็ฟังดูไม่เลวเลยทีเดียว ถ้างั้นเราใส่แก้วมังกรเข้าไปด้วยดีมั้ยคะ อืมม แล้วถ้าอยากให้รสละมุนขึ้นใส่มายองเนสไปตอนเคี่ยวน้ำแกงด้วยก็คงจะดี อ๋อ ใบชิโสะด้วย! จะได้กลิ่นหอม ๆ แล้วก็ใช้เมอแรงก์เป็นท็อปปิ้ง ก่อนทานก็นำไปเบิร์นไฟก่อนแล้วปิดท้ายด้วยมาราสชิโน่เชอร์รี่ ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเมนูฟิวชั่นที่ไม่เลวเลยนะคะ"
เธอรีบพูดน้ำไหลไฟดับก่อนที่คันตะจะตัดบททัน แต่ทว่าแม้เธอจะร่ายจบแล้วแต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบไร้การตอบกลับ
หรือว่ามันจะโอเคกันนะ? ท่านเรย์กะคนนี้มีเซนส์ด้านอาหารดีเลิศไปเลยเนอะ โอะโฮะโฮ๊ะ
"โคโรเน่.."
หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งคันตะจึงเริ่มตอบกลับมาด้วยเสียงอันเบา ทางด้านเรย์กะตอนนี้กำลังดีใจที่คิดว่าคันตะจะต้องเอ่ยปากชมว่าเธอเก่ง เธออัจฉริยะ และมีความคิดสร้างสรรค์แน่นอน
"ก็บอกว่าอย่าเล่นกับอาหารไง!"
คันตะตะโกนออกมาพร้อมกับเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วยกมือก่ายหน้าผาก ดูท่าที่เขาสอนเธอทำอาหารมาหลายครั้งจะไม่ช่วยให้เธอเปลี่ยนจินตนาการในการสร้างสรรค์เมนูแปลกใหม่ไปบ้างเลยสักนิด
"คันตะ? เกิดอะไรขึ้นหรอ"
เสียงวาคาบะดังขึ้นมาจากทางประตูหน้าบ้าน แถมยังมีเสียงคนคุ้นเคยของเรย์กะอย่าง คาบุรากิ มาซายะ แว่วมาเบา ๆ อีกด้วย เรย์กะจึงรีบโน้มข้ามโต๊ะทานข้าวไปกระซิบถามคันตะด้วยท่าทีลุกลน
"ไหนบอกว่าวันนี้วาคาบะจังจะไปอควาเรียมกับคาบุรากิยังไงล่ะค้า!?"
คันตะที่สับสนไม่ต่างกันจึงกระซิบตอบกลับมาว่าตนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทั้งคู่ถึงเปลี่ยนแผนเช่นนี้ ขณะเดียวกันนั้นวาคาบะและมาซายะก็กำลังเดินเข้ามาใกล้ห้องครัวที่ทั้งสองอยู่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับเสียงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงน้องชายจากวาคาบะ
"โคโรเน่รีบวิ่งขึ้นไปแอบที่ห้องของฉันที่ชั้นสองก่อนนะ เดี๋ยวจะหาโอกาสแอบบอกพี่ให้ว่าเธออยู่ในบ้าน"
เขารีบกระซิบตอบอีกฝ่าย หลังจากนั้นจึงเดินไปหาพี่สาวทางหน้าประตูบ้านเพี่อเป็นการถ่วงเวลาให้เรย์กะหนีขึ้นไปบนชั้นสอง
"อ๋อ เมื่อกี้ผมคุยกับเพื่อนอยู่ ยัยนั่นดันพูดอะไรแปลก ๆ ออกมาน่ะสิ"
คันตะบอกวาคาบะ และหันไปทักทายมาซายะที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"..เอ่อ แล้วทำไมพวกพี่กลับมาเร็วจัง ไม่ใช่ว่าจะกลับมาตอนหัวค่ำหรอ?"
เขาถามขึ้นเพื่อถ่วงเวลา นอกจากนี้ยังสงสัยอีกด้วยเพราะที่บ่าของพี่สาวเขามีเสื้อแจ็คเก็ตของคู่เดทคลุมอยู่ แถมเส้นผมเองก็ดูเหมือนกำลังหมาด ๆ อยู่ด้วย
"ตอนที่กำลังดูโชว์กันอยู่โลมามันปาบอลมาทางนี้วาคาบะก็เลยเปียกไปทั้งตัวน่ะ ที่รีบกลับมาเพราะพอบอกว่าจะพาไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่โรงแรมในเครือคาบุรากิใกล้ ๆ เธอก็ปฏิเสธลูกเดียว"
คาบุรากิตอบ พร้อมบอกให้วาคาบะรีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะไม่สบายได้แล้ว
ระหว่างที่วาคาบะไปทำธุระ คันตะจึงเตรียมเครื่องดื่มเพื่อออกมาต้อนรับแขก แต่ทว่าหลังจากเขากลับมาในครัวพลันเห็นมาซายะกำลังจ้องกล่องช็อกโกแลตบนโต๊ะอยู่ เมื่ออีกฝ่ายรู้สึกได้ถึงสายตาของคันตะจึงหันมาแล้วชี้ไปที่กล่องนั่น
"ช็อกโกแลตนี่.."
"อะ อันนั้นเพื่อนให้มาเมื่อสองวันก่อนครับ คุณคาบุรากิทานได้นะครับ"
คันตะพยายามคลุมเสียงตัวเองให้ไม่แสดงพิรุธอะไรออกไป หวังว่าอีกฝ่ายจะแค่อยากลองชิมเฉย ๆ ไม่ได้สงสัยอะไรมากหรอกนะ
"แต่ถ้าจำไม่ผิดอันนี้เมนูใหม่พึ่งวางขายเมื่อวานวันแรกนะ"
ซวยแล้ว โคโรเน่! คันตะคิด ในขณะที่กำลังหาคำแก้ตัวก็มีเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจของวาคาบะดังมาจากชั้นสอง เธอคงไปเจอเรย์กะบนชั้นสองเข้าเลยเผลอหลุดอุทานออกมาออกมาแน่เลย
"หืม เสียงวาคาบะนี่ มีอะไรที่ชั้นสองหรือเปล่า?"
"นี่ วาคาบะ ฉันขึ้นไปนะ"
คาบุรากิเรียกถามหาอีกฝ่ายและลุกจากโต๊ะเพื่อจะขึ้นไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่ชั้นบนหรือเปล่า
"ไม่มีอะไรค่ะ! แมวน่ะ มีแมวเข้ามาอยู่บนนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ คาบุรากิคุงไม่ต้องขึ้นมาหรอก"
วาคาบะเอ่ยเสียงตอบกลับมา ส่วนทางด้าน'แมว'ที่ว่านั่น ขณะนี้ก็กำลังลุกลี้ลุกลนอยู่
"แต่ว่า..."
มาซายะยังไม่ลดความะยายามที่จะขึ้นไปดูที่ชั้นสอง แมวจรจัดมีเชื้อโรคตั้งเยอะนะ แล้วถ้ามันกัดวาคาบะขึ้นจะทำยังไงล่ะ ถึงแม้ว่าจะรู้จักหมอเก่ง ๆ ก็ตามแต่วาคาบะก็จะต้องเจ็บตัวด้วยนี่นา เขาไม่ยอมให้ผู้หญิงที่ชอบต้องมาเจ็บตัวหรอก
"ไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ!"
เธอตอบกลับมาอีกครั้ง คันตะเองก็ช่วยบอกอีกครั้งมาไม่ต้องห่วงพี่สาวเขาหรอก 'แมว'ไม่ทำอันตรายพี่เขาอยู่แล้ว
"ถ้าเธอว่างั้นก็ได้"
มาซายะตอบและกลับไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวต่อ ดูท่าเขาจะลืมเรื่องช็อกโกแลตปริศนาไปแล้วด้วย
ทางด้านของวาคาบะและ'แมว'เองก็กำลังนั่งถอนหายใจอยู่ภายในห้องของวาคาบะ
"ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะคะวาคาบะจัง"
เรย์กะบอก ขณะนี้เธอคิดว่าอาจจะรอดจากมาซายะแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้อีกฝ่ายกลับออกไปเท่านั้นแหละ
"ถ้ารู้ว่าวันนี้เรย์กะจังมาที่บ้านฉันก็คงไม่พาคาบุรากิคุงเข้ามาด้วยหรอกค่ะ วันนี้ก็มาเรียนทำอาหารกับคันตะหรอคะ?"
วาคาบะตอบ ขณะนี้เธออาบน้ำใส่ชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่ไดร์ผมให้แห้งเท่านั้นเอง
"ใช่ค่ะ กำลังคุยกับคันตะเรื่องเมนูที่จะทำวันนี้"
"อ๋อ~ ที่คันตะตะโกนเสียงดังนี่เอง"
ระหว่างนั้นเรย์กะจึงถามวาคาบะเกี่ยวกับการเดทเล็ก ๆ น้อย ๆ และได้ความมาว่าพวกเขาแค่จะเข้ามาเพื่อให้วาคาบะเปลี่ยนชุดแล้วกลับออกไปเดินเล่นรวมทั้งทานอาหารเย็นด้วยกันต่อ ดังนั้นหลังจากนี้เธอน่าจะกลับลงไปทำอาหารกับคันตะได้อย่างไม่ต้องกังวล
หลังจากที่ผมแห้ง และจัดแต่งผมใหม่เรียบร้อยวาคาบะจึงบอกลาเรย์กะเตรียมจะลงไปยังชั้นล่างเพื่อออกไปข้างนอกกับมาซายะต่อ แต่เมื่อวาคาบะกำลังจะเดินลงบันไดไปได้พบกับมาซายะที่กำลังเดินขึ้นมาพอดี
"ขอโทษที่ขึ้นมาโดยพลการนะ แต่ฉันเป็นห่วงเรื่องแมวจริง ๆ และก็มีกิ๊บติดผมที่จะให้เป็นของขวัญด้วย ถ้าเธอติดมันตอนออกไปทานอาหารด้วยกันก็คงจะดี"
วาคาบะจึงรับกิ๊บมาติดและพยายามจะเดินนำให้เขากลับลงไปข้างล่าง โดยอ้างว่าจะไปดูกระจกที่อยู่ในห้องน้ำชั้นล่าง แต่อีกฝ่ายดันไม่ทำตามที่คิดเสียได้
"แมวไปไหนแล้วล่ะ?"
มาซายะก้าวขึ้นบันไดไปดูบนชั้นสอง แต่ไม่พบกับแมวที่ทางเดินจึงถามขึ้น
"เมื่อกี้ต้อนให้ออกไปแล้วค่ะ ดูท่าฉันจะลืมปิดประตูระเบียงก่อนออกจากบ้านไปแมวก็เลยเข้ามาทางนั้นค่ะ"
วาคาบะหัวเราะกลับเกลื่อนและเรียกมาซายะให้รีบลงไปข้างล่างด้วยกัน ก่อนจะพบคันตะส่งสายตาขอโทษขอโพยอยู่ในครัว
"ถ้างั้นพี่ไปก่อนนะ คันตะอย่าดุเพื่อนมากนักนะ~"
เธอบอกลาน้องชายพลางคว้ากระเป๋าสะพายเพื่อที่จะออกไปข้างนอกต่อ แต่ทว่าดันมีเสียงแม่ของเธอดังขึ้นมาจากหน้าประตูบ้านป็นการขัดจังหวะเข้าเสียก่อน
"อ้าว สวัสดีค่ะคุณคาบุรากิ วันนี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวด้วยกันกับวาคาบะหรอคะ?"
"แล้วก็คันตะ โคโระจังไปไหนแล้วหรอ?"
ทางด้านสองพี่น้องทาคามิจิในขณะนี้กำลังหน้าซีดกันสุดขีด ถึงแม้พวกเขาจะมองว่าไม่จำเป็นต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับก็ได้แต่ในเมื่อเจ้าตัวอยากให้เป็นความลับต่อมาซายะ พวกเขาก็ไม่ควรทำให้ความลับนี้รั่วไหล
"โคโระจัง..?"
มาซายะพึมพำออกมาทันทีที่ได้ยินชื่อศัตรูหัวใจในจินตนาการ ดูเหมือนว่าโคโระจังที่ว่าจะต้องสนิทกับบ้านทาคามิจิมากกว่าที่คิดไว้แน่เลย ชักสงสัยมากขึ้นแล้วเชียวว่าเป็นคนยังไงกัน
"อ๋อ พอดีมีอะไรนิดหน่อยเลยกลับมาเปลี่ยนชุดค่ะ กำลังจะออกไปแล้ว ถ้างั้นขอตัวก่อนนะคะ"
วาคาบะที่เห็นท่าไม่ดีรีบตอบพร้อมดึงชายเสื้อมาซายะเบา ๆ เป็นการกระตุ้นให้อีกฝ่ายเดินออกไปด้วย ซึ่งมาซายะก็ตามไปอย่างว่าง่ายหลังจากบอกลาแม่ของอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
หลังจากก้าวขึ้นรถของบ้านคาบุรากิที่จอดรออยู่มาซายะจึงถามคำถามที่เขาสงสัยมานาน ที่เมื่อกี้ตามออกมาอย่างว่าง่ายไม่ซักถามต่อก็เพราะเขากำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ และในตอนนี้เขาได้ข้อสรุปสำหรับตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่ถามย้ำให้แน่ใจเท่านั้น
"โคโระจังนี่.. เป็นเพื่อนผู้หญิงของคันตะหรอ?"
เท่าที่คิดดูคนที่คันตะคุยด้วยก่อนพวกเขามาคือโคโระจังไม่ผิดแน่ แล้วอีกฝ่ายน่าจะเป็นผู้หญิง เพราะจากคำลงท้ายชื่อว่าจัง ไหนจะการที่คันตะเรียกอีกฝ่ายว่ายัยนั่นอีก
"อะ อ๋อ ใช่ค่ะ เป็นเพื่อนของคันตะที่ชอบมาเล่นด้วยกันบ่อย ๆ"
วาคาบะที่ไม่ทันตั้งตัวกับคำถามตรง ๆ ของมาซายะตอบออกไปโดยเผลอให้ข้อมูลเกินความจำเป็นไปนิดหน่อย
"ดูท่าจะสนิทกับครอบครัวของเธอมากเลยนะ แต่แปลกใจจังทำไมฉันมาแล้วไม่เคยเจอเลย"
เขาถาม ดูท่าแล้วอีกฝ่ายจะสนิทกับครอบครัวทาคามิจิมากแต่ทำไมเขาที่มาบ้านทาคามิจิถึงหกวันต่อสัปดาห์กลับไม่เคยเจอกันเลยสักครั้งเลย ถ้ามาเล่นด้วยกันบ่อยจนสนิทกับครอบครัวขนาดนี้ก็น่าจะต้องมีสักครั้งที่บังเอิญเจออยู่แล้วสิ
"..โคโระจังเป็นคนขี้อายค่ะ บางครั้งเวลาเห็นคาบุรากิคุงอยู่ในบ้านก็เลยไม่กล้าเข้ามาล่ะมั้ง"
เธอตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่โชคดีที่มาซายะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องถามต่อแล้วในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเพื่อนผู้หญิงของคันตะก็คงไม่ใช่ศัตรูหัวใจของตนอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนไปชวนวาคาบะคุยเรื่องอื่นแทน
วันรุ่งขึ้นมาซายะผู้ซึ่งขณะนี้กำลังมีท่าทีที่มีความสุขสุด ๆ เรียกเรย์กะและชูสุเกะไปที่ห้องประชุมเล็กห้องเดิมกับที่พวกเขาใช้ประชุมวางแผนปัญหาหัวใจของมาซายะ
"โคโระจังเป็นผู้หญิงล่ะ"
เมื่อทุกคนมาครบแล้วมาซายะจึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าภูมิใจว่าในที่สุดตนก็คลี่คลายข้อสงสัยนี้ลงได้ ส่วนเรย์กะที่ได้ยินดังนั้นกลับนั่งตัวแข็งทื่อ
โดนจับได้แล้ว..? บทลงโทษของสปายที่ทรยศ...
"เท่าที่ได้ยินมาดูเหมือนว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงขี้อายด้วยนะ"
มาซายะเกริ่นขึ้นก่อนที่จะเล่าเรื่องราวตามที่คุยกับวาคาบะให้ทุกคนฟัง ทางด้านเรย์กะเองก็คลายความกังวลลงเพราะดูเหมือนว่าเรื่องนี้ยังคงเป็นความลับต่อไป
แต่ทว่า..
"ดูท่าว่าโคโระจังจะเป็นเด็กผู้หญิงที่เหมือนกระต่ายน้อยสินะ"
อยู่ ๆ ชูสุเกะก็เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับหันมายิ้มอย่างมีเลศนัยให้เรย์กะ
"เนอะ? คุณคิโชวอิน"
_______
แท้งกิ้วโมงฟิก
ท่ายเรย์กะอ่านตอนหลังๆไม่ได้แล้วอ่อ เปลี่ยนตัวเลขในลิ้งก็ไม่ไป อะไรฟะะะ
งั้นใครสนใจแปลต่อไหมวะ ลงเว็ปอื่นก็ได้ แมวดุ้นตอนแรกเม้นหายอันนี้กุโกรธมาก วิเคราะห์วิแคระกันนานหลายเม้น ไม่เท่าไหร่ เจอตอนหายถาวรกุโกรธหนักมาก
มีคนแปะลิงค์gg drive ที่แคปเอาไว้ให้อยู่นะ ไม่ค่อยสนับสนุนเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยก็เหลือให้อ่านล่ะวะ TT
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
😜
ไม่ได้เข้ามานาน ทำไมมีโทรลหลุดเข้ามาในห้องนี้วะ
ไม่ได้เข้ามานานโคตร แปลกใจมากที่มู้ยังอยู่555
ใครอยากลองมาแปลเล่นค่าเวลาไหมวะ แต่คงต้องจากยุ่นอ่ะ
*เม้นดันโทรล*
จะว่าไปแล้วเพื่อนโม่ง คิดไงกับตอนจบคู่พวกนี้นะถึงจะจบแบบเอ็นโจมีฟิคเป็นหลากแบบจนกุไม่รู้จะแต่งไรแล้ว แต่แบบอื่นกุนึกไม่ออกเลยวะ
หลายครั้งที่อยู่ๆนึกถึงท่านเรย์กะขึ้นมาเลยไปส่องดิบว่าตอนใหม่ออกรึยัง?
จนตอนนี้ก็ยังไม่แตก300สักทีสินะ ;-;
หลายๆครั้งกูก้ยังนึกถึงเจ้าแม่เซม คิดถึงเว้ยยยยย
เจ้าแม่ยังไม่กลับมาสินะ รว้อง
คิดถึงเจ้าแม่ โฮ
กุยังรอตอนที่300เสมอ
มาก๊อกๆ เจ้าแม่ ท่านฮิค๊า ถึงในเรื่องจะเป็นดอกไม้ไฟหน้าร้อน แต่ถ้าออกตอนที่สามร้อย นักอ่านยังหวีดยังชงโมเม้นยาวๆไปช่วงคริสต์มาสปีใหม่ได้นะเจ้าคะ ไหนจะมีฟิคมิสเซิลโท ฟิคไปเยี่ยมวัดวันปีใหม่ ออกตอนสามร้อยมาทำลาย?ความหวังชาวเรือคานทันนะคะ
มึงว่ามันจะมีตอนที่300โผล่มาสักวันมั้ยวะ กูยังมีความหวังว่าวังนึงเจ้าแม่จะคัมแบ็ค กูรอจนกูอายุจะมากกว่าท่านเรย์กะละเนี่ยTTTT
ย้อนกลับไปอ่านซ้ำอีกรอบตอนยูกิโนะคุงพาท่านเรย์กะเต้นรำแล้วก็อยากจะลงเรือเทวดาน้อยมาก พอคิดว่าอายุห่างกันเป็น 10 ปี นึกภาพยูกิโนะคุงวัย ม.ปลายนั่งปรึกษายูริคุงกับมาโอะจังว่าจะจีบคุณพี่เรย์กะยังไงดีก็คงน่ารักดีแฮะ แถมแอบอยากเห็นพี่น้องบ้านเอ็นโจตีกันแย่งท่านเรย์กะด้วย 👉👈555555555555555555555555555555555555555
พวกมึง อดทนไว้นะเว้ย ไม่ได้เข้ามานานมู้ดูเหี่ยวๆ แต่ต้นปีนี้แม่งนิยายที่กูตามมานานมากๆ กลับมาอัพจนจบ สิบปีอะมึง สิบปี กูเลยจะบอกทุกคนโรยเกลือจุดเทียนเฝ้ารออย่างมีความหวังต่อไป
กูจำได้ว่าอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกน่าจะม.4 ละตอนนี้กูใกล้จบปี 4 ละอะ เวงเง้ย
กูเจอแท็กนี้ในทวิต #うらら円麗祭2021 โอ้ยยย คิดถึงงงงงง
แอบแปะที่เจอ คนนี้เสมอต้นเสมอปลายจิง เหนเขาวาดมานาน
https://twitter.com/marudori_kenkyo/status/1471127025947910145?t=rQ_HTRlBXjbMWARLRM74UA&s=19
https://www.pixiv.net/en/artworks/94798500
มีไปเดทกันด้วยว่ะ
กุยังคงนั่งเรือคันตะเสมอต้นเสมอปลาย
ปีนี้ขอของขวัญคริสต์มาสเป็นตอนที่ 300 ได้มั้ยคะซานต้าซัง 🥺🙏
อย่าเงียบเชียวพวกมรึงอยู่กับกู
คิดถึงเจ้าแม่ กูย้อนกลับไปอ่านนิยายเรื่องนี้กี่รอบแล้วไม่รู้ อ่านฟิครอวนๆ ไป พูดแล้วยิ่งเสียดายที่ไม่มีช่องทางติดตามงานเขียนของโม่งฟิคทั้งหลาย พล็อตเจ๋งแบบอ่านไปร้องว้าวอะ สำนวนก็โคตรดี ในกระทู้เก่าๆ ก็คุยกันน่ารักมาก ทำไมเราต้องมาเจอกันในโม่งด้วยนะ 😭
เห็นคนเข้าไปอ่านไม่ได้แล้วกัน อันนี้ที่มีรวมตอนไว้ในopenchatเจ้าแม่นะ https://drive.google.com/file/d/1SHGk7xONfgsq2ex4YdYIQctk2Hxwmpw1/view?usp=drivesdk
ปีใหม่แล้วเมื่อไหร่ตอนใหม่จะมา ;__;
คิดถึงเจ้าแม่
//แปะนว.คนนี้อีกแล้ว ฮือๆ ไม่ได้ทีแค่เราที่ยังรอคอย ;-;
https://twitter.com/marudori_kenkyo/status/1477247880675348485?t=azTOKq9E4Bytxmi0YaSCJQ&s=19
ท่านเรย์กะจะกลายเป็นอารยธรรม
ตอนที่300อัปเดตแล้วพวกมรึงงงง!!!
กุล้อเล่น ฮ่าๆฮ่าๆ!!!! ฮ่ะ เฮ้อ.....
ว่าแต่เมื่อไหร่จะได้ดูตอน300วะ
หวยเรื่องนี้มันก็ชัดๆได้ว่า เรย์กะโดนแม่คาบุหว่านล้อมครอบครัวจับหมั่นกับบากะรากิ ซึ้งชีวิตนายซวยจากการที่แต่งกับบากะ แล้วบากะมันแฉว่าตระกูลเอ๊งมันทุจริต
เนื่องจากกุคือไอโม่งๆบนๆโน้นที่ดันมาตอนหลังที่พึ่งกลับไปอ่านกระทู้โม่งมาเลยงงๆว่าทำไมพวกมรึงกาวเอ็นโจซะ..แถมตัดขาทุกเรือด้วย(เข้าใจได้แหละความชอบส่วนตัว)
เรื่องนี้คือก่อนม.6 ถ้าเรย์กะหรือคาบุรากิยังไม่มีคนที่ใช้ก็จะถูกจับหมั่นกันใช่ม่ะ?
- จบกับคาบุ เนื่องจากทุกคนที่เข้าใกล้เจ้าแม่มักมีแฟนอย่างไม่ทราบสาเหตุ(อาคิสาวะที่ดันมีเพื่อนสมัยเด็ก หนุ่มใหญ่ใจดีที่มีเมียเป็นนางแบบ เอ็นโจที่อยู่ก็มีคู่หมั่นเฉย หัวหน้าชมรมฟุตบอลที่ก็มีแฟนอีก ขนาดตัวประกอบชายเบ้เจ้าแม่ยังมี) จบแบบปกติถือว่าจบพล็อตของมัน เพราะคาบุมันถูกเอ๋ยถึงทุกตอน
- จบกับเอ็นโจ ฟิคล้านแปด เลือกมาสักอัน เป็นไปได้น้อยสุดอ่ะพูดตรงๆ
- จบแบบคาน เป็นไปได้มากสุด
>>361 มึงมีปัญหากับการผันวรรณยุกต์ป่ะ ไม่ได้อะไรกับเนื้อหาข้อความมึงนะ แต่มึงเขียนหมั้นเป็นหมั่น ซึ่งเป็นซึ้ง กูว่าจะทักหลายรอบแล้วแต่กลัวโดนด่าเป็นแกรมม่านาซี แต่อ่านยังไงก็ขยุกขยิกในใจว่ะ มันไม่ใช่เขียนผิดแต่ความหมายคงเดิมแบบ ใจ-จัย ไม่-มั่ย อะไรแบบนั้น แต่มันกลายเป็นคำที่คนละความหมายกันเลย หมั้น-มุ่งหมายว่าจะแต่งงานกันเลยแปะป้ายจองไว้ก่อน หมั่น-ความขยัน เขียนในบอร์ดนี่ไม่อะไรหรอก แต่ระวังติดตัวไปใช้งานผิดๆ
>>361 กูเป็นโม่งลูกเรือเอ็นโจเพราะคิดว่าคาบุรากิดูหลงวาคาบะจังจริง ๆ และสาวเจ้าก็ดูแอบมีใจให้ด้วยเลยไม่คิดว่าตามเนื้อเรื่องปัจจุบันคาบุจะหันมาคบกับเจ้าแม่ ส่วนฝั่งเอ็นโจเจ้าตัวบอกว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นกูก็เลยปันใจมาเชียร์ทางนี้มากกว่า
เรื่องฟิคกาวกูก็จำไม่ได้ว่าที่แล้ว ๆ มากูเคยเผลอเขียนตัดขาคู่ไหนไปบ้างหรือเปล่า เพราะกูกวนไปเยอะมากก 5555555555555 บางครั้งฟิคที่เขียนอาจจะสวมฟีลเตอร์เรือจอมมารหนักไป แต่ว่าก็อิงตามพล็อตที่วางไว้ของฟิคว่ากูต้องการจะให้จบคู่นี้ รายละเอียดยิบย่อยในฟิคมันก็เป็นเพียงจินตนาการจากการตีความนิยายต้นฉบับซึ่งมันต่างกันไปในแต่ละคนเพราะมุมมองส่วนตัวอยู่แล้ว ถ้ามันมีบางอันที่กูกวนกาวคู่เอ็นโจเรย์กะไปตัดขาคู่อื่นก็ขอโทษด้วย TT
เพื่อนโม่ง กูมาของทางไป openchat เจ้าแม่หน่อยได้ปะ
ขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพขอให้อัพ
กี่ปีแล้ววะเนี่ย กูพึ่งงมทางกลับมาหาเจ้าแม่เจอ
มีใครมีฟิคฮีลใจแก้คิดถึงเจ้าแม่ให้กูได้บ้าง
>>366 ไม่เป็นไร เคยติดแม่น้ำกาวเอ็นโจเหมือนกันตอนช่วงย้อนไปอ่านกระทู้.. แต่อาจจะเพราะว่าพึ่งอ่านไปสดๆมั่งเลยจับผิดข้อมูลได้หลายอย่างอ่ะ...
หลักๆคือน่าจะช่วงแปลฟิคฝรั่งมั่ง ที่เริ่มไปไกลกัน.. แบบว่าเปลี่ยนเอ็นโจจากยิ้มหน้าใสแต่หัวใจชี้รำคาญ(แล้วเลยระบายความสนุกกับเจ้าแม่แล้วคาบุ) ยิ่งช่วงแรกแม่งโครตน่าฆ่าทิ้งก่อนจะเพลย์เซฟลงเรื่อยๆ ส่วนคาบุโดนหนักจนเริ่มสงสัยจากที่ว่าเอ็นโจทนคบคาบุได้ยังไง เป็นคาบุทนโดนเอ็นโจกวนตีนมานานขนาดนี้ได้ยังไงแทน...(นิสัยจอมมารคงราวๆคนที่รำคาญคุยกับคนอื่นแต่ก็ไม่อยากโดนหมายหัวโดนหมั่นไส้มั่ง)
เอาจริงๆอ่านครั้งแรกชอบเอ็นโจ ต่อๆมาชอบคาบุรากิเพราะเวลาโผล่มาแล้วมันสนุกดีเฉยๆ
อ๋าวลืมพิมพ์ให้จบ
เปลี่ยนซะเอ็นโจเป็นพ่อหนุ่มขี้อาย ขี้กลัวใจป็อด แต่ดันเป็นยันเดเระ...(เอาจริงเท่าที่อ่านมาเอ็นโจมันก็แนวๆเด็กม.ปลายทั่วไป แอบจีบคนที่แกล้งเล้น แต่ถ้าไปไม่ได้ก็ไม่เอา เพลย์เซฟไว้กลัวเสียเพื่อน ราวๆได้ก็เอาไม่ได้ก็ไม่เป็นไรมากกว่าคาบุรากิที่พร่ำเพ้อเพราะเสพบทกวีรักจนสมองเพ้อเจ้อแต่เด็ก)
>>370 ยากอ่ะ นิยายแปลก็ล่มล่ะ อย่าว่าแต่กลับมาเขียนเลย ขนาดเว็ปแปลยังล่มจนนิยายหายไปเกือบทั้งหมดแล้ว..(สั้นๆคนที่อ่านนิยายมาก่อนปีที่แล้วเท่านั้นที่คุยเรื่องนี้กัน..)
ตอนแรกเคยก๊ะจะแต่งหลายรอบแต่นั้นแหละ เว็ปล่มบ่อยชิบเลยช่างแม่มจนลืมหมดล่ะ แต่ถ้าจะแต่งขอใครก็ได้ที่ไม่ใช่เอ็นโจ เพราะหลังๆพล็อตแม่งซ้ำแถมแต่งจบกันน้อยก็ไปแต่งฟิคเอ็นโจเรื่องใหม่อีก....
ทีแรกกูว่าจะมาลงฟิค แต่เห็น >>373 บอกว่างั้น กูก็ไม่รู้ว่าหมายถึงคนอื่นจะแต่งก็ขอให้ไม่ใช่เอ็นโจ หรือตัว >>373 แต่งเอง กูก็ใจแป้วว่ะ
อันนี้เป็นเรื่องที่กูคิดมาตั้งนานละว่ากูจะย้ายที่ลงฟิค แต่ยังไม่มีเวลาซักที คราวนี้ก็คงจะขนงานเก่าๆที่เคยลงไว้ในนี้ไปลงด้วย เพราะกูก็อยากเก็บอะไรให้มันเป็นระเบียบ แล้วกูก็ไม่รู้ว่าโม่งจะปิดตัวไปวันไหน อีกอย่างกูจะได้เขียนเรทแบบสบายใจหน่อย ไม่ต้องมากั๊กๆซูมโคมไฟแล้วตัดภาพ นี่มันก็ฟิคสนองนี้ดกูอะ กูแต่งฟิคเพราะอยากเห็นเขาทำแบบนี้ กูชอบคู่นี้และคงไปเขียนคู่อื่นไม่ได้ เพราะงั้นก็เสียใจด้วยนะ แต่กูจะเอางานไปเก็บในที่ที่เป็นสัดส่วนและที่ที่มันควรจะอยู่ละกัน จะได้ไม่มารกหูรกตาคนไม่ชิปคู่นี้
ลงฟิกมาเหอะ ใครก็ได้
กุว่าจริงๆฟิก มาซายะ เรย์กะ ก็ไม่ใช่น้อยนิ
แต่กุขออาริมะ เรย์กะ เหอะ
ขอฟิก พรีสสสส🙏
หาอ่านตอนเก่าๆได้จากไหนบ้างวะ อ่านที่แมวดุ้นทำไมมีแค่ถึงตอนที่ 39
เจอละ
อีกกี่ปีก็จะรอ
จะเข้าปีเสือแล้วท่านฮิจะมาสานต่อคอลเลคชั่นนักษัตรของเจ้าแม่มั้ยค้าา
โม่งตะปิดก่อนท่านฮิกลับมาไหม
วันนี้เลขสวยเลยอัพฟิค 22/02/2022
Dirty Talk เป็นเรื่องคู่ขนานกับ Dirty Mind
https://namelessfiction.food.blog/dirty-talk-1/
Password Hint : ชูุสุเกะคิดว่าเรย์กะเหมือนสัตว์อะไร
ขอบคุณโม่งฟิกจ้า
เหมือนคุ้นๆว่ามีลิ้งสรุปสั้นๆว่าตอนไหนเกิดเหตุการณ์ไรขึ้น แต่ลองหาๆดูละไม่เจอ ใครมีบอกหน่อยจิ
หรือขอเลขตอนที่เรย์กะหยิบพัดขึ้นมาขู่พวกชมรมกีฬาให้หงอก็ได้จ้า แงแง
>>393 อะ กูแปะให้ เอามาจากสารบัญข้างบน
https://docs.google.com/document/d/1UguFV_kxXTf8eTV9Cwp1x-70rqdZbYf0NHYfDw6Df7g/edit
คิดถึงฟิคนี้เลยไปเขียนมาลง
KimiDolce ~after story (เกอิชา) >>>/webnovel/7425/664-670
--------------------------
ทันทีที่ลงจากรถได้ ฉันก็ออกแรงวิ่งโดยไม่หันกลับไปมองด้านหลัง จุดประสงค์คือต้องการไปให้ไกลจากเอ็นโจให้ได้มากที่สุด ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นสัตว์ตัวเล็กๆที่พยายามหนีจากการไล่ล่าของนายพรานที่พยายามทำร้าย
…..ฉันกลัว
ฉันวิ่งเข้าไปในสถานีรถไฟ ข้างในนั้นมีคนแน่นหนา น่าจะเป็นเกราะกำบังสายตาให้ฉันได้ ถ้าเผื่อหมอนั่นจะวิ่งตามมา
วิ่งไปได้ซักพัก ซี่โครงก็รู้สึกเจ็บร้าวและส่งเสียงประท้วงถึงความเหนื่อยล้า ลมหายใจเองก็หอบรวนไปหมดจากความเหนื่อยที่ต้องออกแรงวิ่ง ฉันหลบเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจะหยุดพักและสงบสติอารมณ์จากเรื่องที่เกิดเมื่อครู่นี้ ความกลัวเอ่อล้นในจิตใจจนต้องยกสองแขนขึ้นมากอดตัวเองที่กำลังสั่นเทาเอาไว้
ทีแรกฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นด้วยซ้ำ แต่พอเห็นความเซ้าซี้น่ารำคาญก็เลยอดที่จะแหย่เล่นไม่ได้ การทำให้เอ็นโจให้หัวเสียก็ถือเป็นกิจกรรมโปรดของฉันอย่างหนึ่งเหมือนกัน
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเอ็นโจก็แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่ารังเกียจหรือขยะแขยงฉัน ฉันคิดว่าถ้าทำแบบนั้นไปก็คงจะถูกผลักออกหรือแสดงอาการต่อต้านรุนแรงให้เห็น แล้วฉันก็จะคอยหัวเราะหรือถากถางให้หมอนั่นรู้สึกขุ่นเคืองหนักขึ้นไปอีก
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าเอ็นโจจะจูบฉันกันล่ะ
จูบแรกของฉันต้องมาเสียไปให้ศัตรูคู่อาฆาต ฉันไม่มีวันให้อภัยตัวเองในเรื่องนี้เลย แต่จะโทษใครก็ไม่ได้นอกจากความโง่ของตัวเองที่เอาตัวไปเสี่ยงกับการประชดประชันแบบนั้น
และฉันก็คงประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไป ฉันสู้แรงไม่ได้เลยสักนิด ไม่ว่าฉันจะทุบหรือดิ้นรนขัดขืนยังไงก็สลัดไม่หลุด ถ้าหมอนั่นคิดจะข่มขืนฉันก็คงทำได้ง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย
ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก เปิดประตูห้องน้ำออกไป ส่องดูความเรียบร้อยของตัวเองในกระจก ลิปสติกที่ทามาเลือนไปหมดแล้วจากเรื่องเมื่อครู่ และมีรอยเลอะที่มุมปากเป็นทางยาว คงมาจากการที่ฉันใช้หลังมือถูปากตัวเองไปมาเพื่อจะลบเลือนสัมผัสที่ได้จากการจูบ
มือฉันสั่นไม่หายตอนที่เอื้อมลงไปหยิบกระดาษทิชชู่และลิปสติกจากกระเป๋าถือ ฉันต้องบังคับไม่ให้มันสั่นในขณะที่ทาลิปสติกลงบนปาก แต่ก็ทำได้ยากเย็นเต็มทน
ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร
ฉันบอกตัวเองซ้ำๆให้ลืมเรื่องนั้น จิกเล็บเข้ากับต้นแขนเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา จัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องน้ำ ขายังคงสั่นอยู่ในขณะที่ต้องก้าวเดินออกไป ความคิดแย่ๆผุดขึ้นมาในหัวอยู่ตลอดว่าถ้าเกิดหมอนั่นดักรออยู่ข้างนอกจะทำยังไงดี
แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น เอ็นโจไม่ได้ตามมาในสถานี มันทำให้ฉันรู้สึกหายใจได้โล่งขึ้นมาก ฉันแตะบัตรเข้าสู่ชานชาลาและก้าวขึ้นไปบนรถไฟเมื่อมาถึง
ตอนนี้คนบนรถค่อนข้างบางตาเพราะไม่ใช่เวลาเลิกงานหรือเลิกเรียน ฉันให้ทิวทัศน์และผู้คนรอบข้างไหลผ่านไป พยายามจะไม่นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และโยนทุกสิ่งทิ้งไว้ด้านนอกชั่วคราวเมื่อฉันต้องผ่านรั้วและกำแพงสูงหนาของเรือนจำกลางโตเกียวเข้าไปในนั้น
การพบท่านพ่อในคราวนี้ก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าไปมากเท่าไหร่ ท่านพ่อดูเคร่งเครียดจนไม่ถามไถ่ฉันด้วยเรื่องทั่วๆไปเล็กน้อยแบบที่เคยทำเหมือนอย่างทุกครั้ง เข้าสู่ใจความสำคัญเลย ซึ่งนั่นคือเรื่องของท่านอิมาริ
เมื่อท่านพ่อรู้ว่าฉันยังไม่สามารถมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับท่านอิมาริได้ก็ถูกตำหนิ ฉันไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ได้แต่ยอมรับคำตำหนินั้นเอาไว้ มันเป็นความผิดของฉันเองที่ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาจนถึงป่านนี้
หมดเวลาเยี่ยม ฉันออกมาจากที่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกหดหู่ ส่วนหนึ่งก็เพราะคำตำหนิที่เรื่องง่ายๆแค่นี้ฉันก็ไม่สามารถจัดการได้ มันทำให้ฉันรู้สึกแย่ที่เป็นคนไม่ได้เรื่องเหมือนอย่างตอนนั้น
ความทรงจำเก่าๆไหลย้อนเข้ามาในหัว ความรู้สึกในตอนนี้มันเหมือนตอนที่ฉันถูกเคี่ยวกรำอย่างหนักในการฝึกซ้อมเพื่อลงแข่งเปียโนตอนประถม ท่านแม่คอยควบคุมกำกับอย่างใกล้ชิด และสั่งให้คุณครูที่มาสอนสามารถลงโทษฉันได้ตลอดถ้าเกิดว่าทำผิดพลาด
“คุณเรย์กะ ตรงนี้เล่นผิดอีกแล้วนะคะ”
“ขอโทษค่ะ ท่านแม่”
“แค่โน้ตง่ายๆไม่กี่ตัวยังจำผิด ขืนปล่อยให้ไปแสดงทั้งๆแบบนี้บนเวทีจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันล่ะคะ คุณเรย์กะไม่นึกถึงตระกูลคิโชวอินว่าจะต้องอับอายต่อหน้าคนหมู่มากเลยหรือคะ”
“ขอโทษค่ะ”
ฉันสลัดเรื่องเก่าๆออกไปจากหัว ดึงตัวเองให้กลับมาสู่ปัจจุบัน คิดทบทวนข้อผิดพลาดกับเรื่องที่เกิด
อันที่จริง ถ้าคืนนั้นไม่มียัยทาคามิจิหรือเอ็นโจโผล่มา ป่านนี้ทุกอย่างคงเรียบร้อยไปแล้ว
สองคนนั้นเป็นตัวมารขัดขวางฉันในทุกเรื่องจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอ็นโจ ไม่รู้จะตามจองล้างจองผลาญฉันไปถึงไหน
แถมตอนนี้ท่านอิมาริก็ค่อนข้างงานยุ่งมาพบฉันไม่ค่อยจะได้เหมือนเมื่อก่อน ฉันไม่รู้ว่านี่คือสัญญาณว่าเขาจะเบื่อฉันแล้วหรือไม่ ฉันรู้จักเขามาเกือบปีแต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าในความสัมพันธ์และจะปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ไม่ได้แล้ว
ฉันบีบมือตัวเองไว้แน่น สูดลมหายใจเข้าลึกอย่างเตรียมตัวเตรียมใจในแผนการขั้นต่อไปที่จะมาถึง
.
.
.
.
การทำงานของฉันเริ่มต้นในช่วงเย็นเหมือนอย่างทุกที ฉันแต่งตัวออกจากที่พักเดินทางมายังร้าน และได้รับการแจกกระดาษที่บอกรายชื่อลูกค้าเอาให้แต่ละคนก่อนเวลาเริ่มงาน จะได้รู้ว่าจะต้องพบกับใครและรับมือได้ถูก
จากการทำงานมาเกือบสองปี และมีลูกค้าประจำมาจองตัวสม่ำเสมอ ฉันก็ไม่ต้องไปเป็นตัวแถมพ่วงไปกับเหล่ารุ่นพี่และได้รับการปฎิบัติอย่างเท่าเทียมเหมือนเป็นเกโกะอีกคนหนึ่ง ไม่ใช่เด็กฝึกหัดอีกต่อไป
ในคืนนี้ฉันมีผู้จองตัวแค่รายเดียวและกินเวลาไปจนถึงเลิกงาน แต่ชื่อของผู้จองที่ปรากฎอยู่บนนั้นทำให้ฉันเบิกตาค้าง
คนที่มาจองชั่วโมงของฉันในคืนนี้ก็คือเอ็นโจ
ฉันเหลือบมองผู้ชายคนนั้น รู้สึกหวาดระแวงอยู่ไม่น้อยว่าจะมาไม้ไหน แต่ก็ต้องทำเป็นยิ้มแย้มต้อนรับแขก ถ้าไม่มีใครนั่งอยู่ในห้องนี้ด้วยฉันคงวิ่งหนีออกไปจากตรงนี้แล้ว
เอ็นโจไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับฉันเป็นพิเศษ ไม่ได้พูดคุยหรือแสดงท่าทีเหมือนว่ารู้จักฉัน อันที่จริงหมอนั่นคุยแต่กับโอก้าซังเสียเป็นส่วนมากด้วยซ้ำ และตอนนี้ยัยนั่นก็กำลังบรรยายสรรพคุณของฉันให้ฟังเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า
“อีกเดี๋ยวก็จะถึงเวลาทำพิธีเอริคาเอะของฮิเมะแล้วนะคะ”
“อื๋อ เอริคาเอะนี่คืออะไรหรือครับ”
“พูดง่ายๆก็คือพิธีเปลี่ยนปกเสื้อของไมโกะน่ะค่ะ ฮิเมะของเราจะกลายเป็นเกโกะเต็มตัวแล้ว” โอก้าซังหัวเราะป้องปาก แล้วทำท่ากระซิบกระซาบ แต่ได้ยินกันทั้งห้อง “ถึงเวลานั้นก็สามารถมีดันนะซังเป็นของตัวเองได้แล้วนะคะ”
ฉันแกล้งทำเป็นยกชายกิโมโนปิดบังใบหน้าด้วยความเขินอาย แต่จุดประสงค์จริงๆแล้วก็เพื่อไม่อยากสบตากับเอ็นโจที่มองมาทางนี้ ส่วนยัยนั่นก็ยังพล่ามเกี่ยวกับพิธีต่อไปเรื่อยๆ พร้อมทั้งเชิญเอ็นโจมาร่วมงานเฉลิมฉลองของฉัน
หมอนั่นยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ตอบรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
เวลาที่เอ็นโจจองตัวฉันไว้ก็ได้หมดลง แต่งานในคืนนี้ฉันก็สิ้นสุดไปด้วยเหมือนกันเพราะไม่มีใครมาจองต่อ ก็ถือว่าดีที่ได้เลิกงานเร็ว
ฉันเหนื่อยและอยากพักผ่อนจะแย่อยู่แล้ว ขนาดไม่ได้คุยอะไรมากมายเท่าไหร่ แต่การเผชิญหน้ากับเอ็นโจแล้วต้องระแวดระวังตัวตลอดเวลานี่มันกินพลังงานชะมัด
“รบกวนให้เธอไปส่งผมที่รถหน่อยได้มั้ยครับ”
“ได้สิคะ ไม่มีปัญหาเลย” โอก้าซังยิ้มแย้ม รุนหลังฉันให้ไปกับเอ็นโจแบบไม่ถามความคิดเห็นฉันเลยสักคำ “ไปสิจ๊ะ ฮิเมะ”
ฉันได้แต่เกร็งไปหมด ตอนที่พวกเราเดินไปด้วยกันตามทางเดินที่สว่างด้วยแสงจากโคมไฟ เหลือบมองเอ็นโจที่เดินอยู่ข้างๆกันด้วยสายตาหวาดระแวง รู้สึกอึดอัดจนอยากจะวิ่งหนีไปให้พ้นๆ
ภาพในวันนั้นปรากฎขึ้นมาในหัว ถ้าเกิดว่าหมอนั่นจะทำแบบนั้นอีก ฉันจะทำยังไงดีนะ
ระยะทางจากร้านไปที่ลานจอดรถนั้นสั้นมาก นิดเดียวก็เดินถึง แถมยังเป็นที่โล่งที่ใครต่อใครก็เดินผ่านมาได้ ถ้าเกิดว่าเอ็นโจจะทำมิดีมิร้ายฉัน ก็สามารถตะโกนขอความช่วยเหลือได้
แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น และฉันที่กำลังจะโล่งใจ เอ็นโจก็เปิดประตูรถแล้วหยิบถุงใบหนึ่งออกมา
“ผมมีของจะให้”
เอ็นโจยื่นถุงกระดาษสีขาวใบใหญ่มาตรงหน้าฉัน ในถุงมีกล่องหลายใบซ้อนกันอยู่
“นี่คืออะไรคะ” ฉันลองกะน้ำหนักดู มันไม่ได้มีน้ำหนักมากมายเท่าไหร่นัก แต่ก็หนักเกินกว่าจะเป็นพวกเครื่องประดับแบบที่ท่านอิมาริชอบเอามาฝากฉันอยู่ดี
“อุปกรณ์ป้องกันตัวแล้วก็พวก smart watch” เอ็นโจอธิบายหน้าตาเฉย แต่ฉันกระพริบตากับคำตอบที่ไม่คาดคิด “หยิบกล่องบนสุดขึ้นมาสิคุณคิโชวอิน”
ฉันหยิบเอากล่องที่ว่านี่ขึ้นมาเปิดดู บนกล่องสกรีนโลโก้ของแบรนด์อุปกรณ์ไอทีและแบรนด์เครื่องหนังเก่าแก่ที่ฉันรู้จักดี ข้างในเป็นนาฬิกาสายหนังสีน้ำตาลอ่อน แต่ฉันก็รู้ราคาของมันว่าแพงแค่ไหน
เอ็นโจสอนวิธีการใช้แบบคร่าวๆให้ว่าต้องใช้งานอย่างไร และตั้งค่าให้มันเชื่อมต่อกับมือถือของฉันเอาไว้ด้วยกันเป็นพื้นฐานเบื้องต้น และให้ฉันไปจัดการต่อด้วยตัวเองตามคู่มือ
กล่องที่เหลือก็เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวของผู้หญิงแบบพกพาใส่กระเป๋าได้ง่าย อย่างสเปรย์พริกไทยหรือพวกกริ่งขอความช่วยเหลือ
“คุณเอาของพวกนี้มาให้ฉันทำไมคะ”
“ไว้ป้องกันตัวไง...ถ้าเกิดว่ามีใครมาทำรุ่มร่ามกับคุณก็ใช้มันได้เลย” เอ็นโจมองฉัน ทำหน้าตาดูเคร่งเครียดนิดๆ “ขอโทษด้วยนะ แต่ช่วยยื่นแขนมานี่หน่อยสิ”
ฉันทำตามแบบงุนงง เอ็นโจจับข้อมือฉันไว้ ไม่ได้รุนแรงแต่ก็แน่นหนาแบบฉันสลัดแล้วไม่น่าจะออก
“ดูนะ ถ้ามีคนมาจับข้อมือคุณแบบนี้ คุณก็ต้องบิดแขนเข้าหาตัวแบบนี้…” หมอนั่นพลิกข้อมือฉันแบบช้าๆ “แล้วมันก็จะหลุด เห็นมั้ย”
“..….”
“ลองทำดูสิ”
เอ็นโจสาธิตให้ดูอีกหนึ่งรอบแล้วให้ฉันทำตาม ทำอยู่หลายรอบจนได้ประสิทธิภาพที่น่าจะพอใจ หมอนั่นก็ปล่อยมือฉันออก
“พอคุณสะบัดข้อมือหลุดแล้ว จะใช้จังหวะนี้ฉีดสเปรย์พริกไทยใส่หน้า หรือจะเล่นงานจุดอ่อนตามที่ต่างๆก็ได้” ว่าแล้วเอ็นโจก็ชี้ไปตามตำแหน่งต่างๆบนใบหน้าและลำตัวของตัวเอง “จุดพวกนี้คือจุดอ่อนหมด แต่ที่เล่นงานง่ายสุดก็แถวๆตา…”
“เดี๋ยวๆๆ นี่มันอะไรกันคะ”
“ท่าป้องกันตัวแบบพื้นฐาน...อันนี้คือท่าไอคิโด้” เอ็นโจจับมือฉันขึ้นมาอีกหน แล้วขยับไปในทิศตรงกันข้าม “ที่จริงมันมีอีกหลายท่า แต่เอาแบบรวบรัด ท่านี้ก็ง่ายที่สุดเหมือนกัน”
ยืนบิดข้อมือกันอยู่แบบนั้นจนฉันสามารถบิดแขนเอ็นโจไพล่ไปด้านหลังได้ก็เป็นอันจบหลักสูตรแบบเร่งรัด หมอนั่นนวดข้อมือตัวเองไปมา แต่ท่าทางเหมือนจะพอใจ
“จำไว้นะว่าคุณต้องมีสติ อย่าลนลาน”
“ทำแบบนี้เพื่ออะไรคะ”
ฉันจ้องหน้าเอ็นโจพร้อมกับขมวดคิ้ววิเคราะห์สาเหตุไปด้วย
อย่าบอกนะว่าอีตานี่มาสอนฉันเพราะรู้สึกผิดขึ้นมาน่ะ
“เรื่องวันนั้นน่ะ….” อยู่ๆเอ็นโจก็พูดขึ้นมาเหมือนกับอ่านใจฉันออกและก้มหัวลง “....ต้องขอโทษด้วยนะ ผมไม่ควรทำแบบนั้นเลย”
ฉันเลิกคิ้วขึ้น รู้สึกผิดคาดที่คนแบบหมอนี่ยอมขอโทษออกมาได้ง่ายๆ
“ช่างเถอะค่ะ...มันไม่สำคัญหรอก” สายตาของฉันเลี่ยงมองไปทางอื่น “ฉันก็มีส่วนผิดเหมือนกัน ถือว่าเราหายกันไปก็ได้”
“ถึงคุณคิโชวอินจะบอกว่าอย่างนั้น แต่ผมก็ยังรู้สึกไม่เคลียร์น่ะ ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างคงอึดอัดแย่” เอ็นโจเงยหน้าขึ้น สีหน้าดูสำนึกผิด “เพราะงั้น...คุณคิโชวอินจะต่อยผมก็ได้นะ”
“เอ๋ ไม่ต้องถึงขนาดนั้น…”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเกรงใจหรอก ทำเถอะ”
“...จะไม่เก็บเอามาคิดบัญชีย้อนหลังแน่นะคะ”
“ผมเชื่อใจไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ”
เอ็นโจช้อนสายตามองฉัน ท่าทางหงอยๆแววตาโศกเศร้าแบบนั้น ถ้าผู้หญิงที่เป็นแฟนคลับหมอนี่มาเห็นเข้าคงยอมสยบแทบเท้า
“ต้องให้พูดออกมาจริงๆเหรอคะ”
“.....”
“เอาเถอะ ถ้าท่านเอ็นโจเสนอเรื่องนี้มาด้วยตัวเอง ฉันก็ไม่ขัดค่ะ”
เอ็นโจหลับตาลง ยื่นหน้ามาเพื่อให้ฉันต่อยได้ถนัดๆ
ถึงฉันจะต่อยหน้า แต่ก็คงไม่มีแรงพอที่จะทำให้เจ็บหนักได้ ฉันจึงรวบรวมแรงทั้งหมดใส่ลงไปในหมัดขวา พุ่งตรงไปที่ท้องน้อยเอ็นโจสุดแรงเกิด
พอได้ต่อยก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาในทันที ถึงจะไม่ทั้งหมดแต่ก็รู้สึกดีขึ้นจากเมื่อครู่นี้โข
“เท่านี้ก็ถือว่าหายกันแล้วใช่มั้ยคะ ท่านเอ็นโจ”
ฉันก็ไม่รู้ว่าที่ฉันต่อยไปจะทำให้เอ็นโจเจ็บมากน้อยแค่ไหน หมอนั่นเอาแต่กุมท้อง พยักหน้าหงึกๆแบบไม่ส่งเสียง ก็คิดว่าคงแรงพอดูที่จะทำให้พูดไม่ออกได้
..ก็นายเป็นคนสอนฉันเองนี่นะ เรื่องจุดอ่อนผู้ชายน่ะ
“งั้นฉันต้องขอตัวก่อนล่ะค่ะ” ฉันเข้าไปใกล้ๆเอ็นโจ พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “ฉันไม่อยากเห็นหน้าท่านเอ็นโจอีก หวังว่าเราคงไม่ต้องเจอกันอีกนะคะ”
เอ็นโจไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ได้แต่ก้มหน้าเอามือกุมท้องอยู่แบบนั้น
ฉันเดินกลับเข้าไปข้างใน รู้สึกสบายอารมณ์กว่าตอนเมื่อครู่ ถึงหมัดนั่นจะชดเชยความแค้นไม่ได้ แต่ก็ทำให้ความขุ่นมัวที่สะสมมาหลายวันจางหายไปได้บ้าง
เทียบกับเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด หมอนั่นโดนแค่นั้นยังน้อยไปด้วยซ้ำ
.
.
.
.
การนัดหมายของฉันกับท่านอิมาริมีขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ท่านอิมาริมารับฉันจากหน้าที่พักเช่นเคย มาพร้อมดอกกุหลาบและลิลลี่ช่อใหญ่ ฉันแกล้งทำกระเง้ากระงอดเล็กน้อยที่เขาไม่มาหาในหลายๆเดือน ท่านอิมาริก็หัวเราะแล้วหยิบกล่องเครื่องประดับขึ้นมา
“นี่พอจะแทนคำขอโทษให้เรย์กะจังได้รึเปล่าเอ่ย”
ครั้งนี้ก็เป็นสร้อยสีเงินเส้นบาง ตรงกลางมีจี้ไพลินเม็ดเล็กๆน่ารักล้อมกรอบด้วยตัวเรือนแพลตตินั่มเป็นรูปหัวใจ มูลค่ามันน่าจะสูงพอตัว ทำเอาฉันใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย
ถ้าหากเขาไม่มีเยื่อใยกับฉันแล้ว คงไม่ลงทุนซื้อของแพงขนาดนี้ให้
“ท่านอิมาริคะ ฉันเคยบอกแล้วนี่นาว่าไม่ต้องซื้ออะไรแบบนี้ให้ เปลืองเงินเปล่าๆนะคะ”
“ไม่ได้หรอกจ๊ะ ก็ไม่ได้มาหาเรย์กะจังตั้งหลายเดือนนี่นา” ท่านอิมาริยิ้ม มองสร้อยที่ย้ายไปอยู่บนคอของฉัน ท่าทางจะพึงพอใจ
เราคุยกันมาจนถึงร้านอาหารที่ท่านอิมาริได้จองไว้ในวันนี้ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นสูงและเก่าแก่แบบที่มีไว้บริการคนระดับ VIP เท่านั้น ฉันรู้สึกว่าคนใน Pivoine ก็มาที่นี่กันบ่อยๆอยู่นะ
พนักงานต้อนรับสูงวัยในชุดกิโมโนดูจะคุ้นเคยกับท่านอิมาริเป็นอย่างดี เพราะเห็นเขาพูดคุยด้วยท่าทีสนิทสนมในระหว่างที่เดินนำทางไปยังห้องที่จองไว้ เป็นห้องส่วนตัวที่มองเห็นสวนญี่ปุ่นที่ตกแต่งอย่างงดงามในยามราตรี ประดับตกแต่งด้วยไฟที่ส่องสว่างให้บรรยากาศหรูหรา อาหารก็เลิศรสสมเป็นร้านชั้นหนึ่ง
ทุกอย่างทำให้ฉันเหมือนย้อนกลับไปในวันที่ยังเป็นคุณหนูของตระกูลคิโชวอิน แต่แค่ชั่วคราวเท่านั้น
ฉันรู้ดีว่าหลังจากที่ท่านอิมาริไปส่งถึงที่พัก สิ่งเหล่านี้ก็จะเสื่อมสลายไป เหมือนเวทมนต์ของซินเดอเรล่าที่หายไปตอนเที่ยงคืน ต้องกลับไปเป็นสาวใช้ก้นครัวอย่างที่เป็นมา
ดังนั้นฉันก็ควรจะรีบจับเจ้าชายให้ได้ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตหรูหราสุขสบายในปราสาทตามเดิม เอาสถานะของคุณหนูคิโชวอินกลับคืนมาอีกหน
หลังทานอาหารเสร็จ ท่านอิมาริก็พาขับรถชมเมืองอีกเล็กน้อย เขาไม่ได้แตะตัวฉันมากไปกว่าการจับมือนิดๆหน่อยๆตอนที่พาฉันลงจากรถไปชมวิวเมืองโตเกียวจากที่สูง แต่ฉันแทบไม่ได้สนใจจะดูวิวเลยเพราะมัวแต่คิดแผนการณ์ในหัวว่าจะทำอย่างไรต่อจากนี้
“หนาวเหรอจ๊ะ เรย์กะจัง” ท่านอิมาริถามฉันเมื่อเห็นฉันกระชับผ้าคลุมไหล่ผืนบางเอาไว้แน่น “เอาเสื้อฉันไปใส่ก่อนได้นะ”
“ท่านอิมาริจะไม่หนาวเหรอคะ”
“ที่จริงก็หนาวนะจ๊ะ แต่ฉันเป็นผู้ชายแค่นี้ทนได้อยู่แล้วล่ะ” เสื้อสูทถูกถอดออกมาแล้ววางบนไหล่ฉัน ได้กลิ่นหอมของน้ำหอมผู้ชายลอยขึ้นมาเตะจมูก เป็นกลิ่นที่หรูหราราคาแพงเหมาะสมกับบุคลิกของเขา
การเอาใจใส่ที่อ่อนโยนแบบนี้ ถ้าฉันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเขาคงตกหลุมรักไปแล้ว
แต่ก็ดี…ยื่นโอกาสให้กันได้ง่ายๆแบบนี้ก็ต้องคว้าไว้ล่ะ
ฉันสวมกอดท่านอิมาริไว้แนบแน่น ให้เนื้อตัวเบียดแนบชิดไปในทุกสัดส่วน นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาเขินอายอีกแล้ว ฉันจะต้องจับผู้ชายคนนี้ไว้ให้ได้
“ถ้าทำแบบนี้ จะอุ่นมั้ยคะ”
“เรย์กะจัง” ท่านอิมาริดูจะตกใจเล็กน้อย แต่ฉันทำเป็นเมินไม่สนใจอาการนั้น ยังคงยืนกอดเขาต่อไป
“ไม่อุ่นเหรอคะ”
“....”
ในความเงียบที่ไหลผ่านไป ท่านอิมาริยกมือขึ้นมาแตะหลังฉันเบาๆเป็นการกอดตอบ พูดกับฉันด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า
“เรย์กะจังขี้อ้อนจังเลยนะจ๊ะวันนี้”
“เพราะฉันคิดถึงท่านอิมาริน่ะสิคะ” คำตอบโกหกแบบเห็นๆ ฉันไม่รู้ว่าเขาจะจับได้หรือไม่ แต่ฉันก็คิดว่าตัวเองค่อนข้างเล่นละครได้แนบเนียนอยู่ “คิดแต่เรื่องท่านอิมาริอยู่ตลอดเวลา ท่านอิมาริไม่มาหาฉันเหงามากเลยล่ะค่ะ”
“ฉันก็อยู่ตรงนี้แล้ว เรย์กะจังไม่ต้องเหงาไปหรอกนะ” มือเขาลูบหลังฉันไปด้วยในขณะพูด ทำเหมือนปลอบโยนเด็กที่กำลังงอแง
ฉันรู้ว่าเขากำลังจะปฏิเสธ ฉันต้องชิงรวบรัดพูดต่อไม่ให้เขาพูดคำนั้นออกมาได้
“ท่านอิมาริคะ เราก็รู้จักกันมาแบบนี้เกือบปีแล้วนะคะ” ใบหน้าฉันแนบลงกับอกของเขา กระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นกว่าเดิม “สำหรับท่านอิมาริแล้ว ฉันเป็นอะไรเหรอคะ”
“เรย์กะจังก็คือเรย์กะจังยังไงล่ะจ๊ะ เป็นเจ้าหญิงน้อยที่น่ารักของฉัน”
“ถ้าฉันจะบอกว่า ฉันไม่อยากจะอยู่ในสถานะของน้องสาวเพื่อนอีกต่อไปแล้ว ท่านอิมาริจะใจร้ายกับฉันมั้ยคะ”
“....”
“ฉันชอบท่านอิมาริค่ะ” ฉันช้อนสายตามอง จับชายเสื้อเขาไว้ “ให้ฉันเป็นของท่านอิมาริจะได้รึเปล่าคะ”
ท่านอิมาริแย้มรอยยิ้มที่ดูลำบากใจ จับมือฉันไว้แล้วบีบเบาๆไม่ได้รุกล้ำมากไปกว่านั้น
“เรย์กะจังเมาแล้วล่ะ ฉันจะพาไปส่งที่พักนะ”
“ฉันมีสติดีค่ะ” ฉันจ้องหน้าเขาด้วยสายตาแน่วแน่ “ทำไมคะ หรือว่าฉันไม่คู่ควรที่จะเป็นผู้หญิงของท่านอิมาริ”
“.....”
“เราคบกันแบบไม่ผูกมัดก็ได้นี่คะ ท่านอิมาริแค่มาหาฉันบ้างฉันก็ดีใจแล้ว แล้วฉันก็จะไม่ไปเรียกร้องหรือวุ่นวายอะไรในชีวิตด้วย”
“เรย์กะจัง…”
“หรือเพราะฉันเป็นน้องสาวเพื่อนเหรอคะ ท่านอิมาริถึงมองฉันแบบผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้”
“....”
“ถ้าเป็นเพราะท่านพี่ล่ะก็ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ฉันจะอธิบายกับท่านพี่เอง แล้วฉันก็โตแล้วนะคะ จะคบหากับใครมันก็เรื่องของฉัน ท่านพี่ไม่เกี่ยว”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” ท่านอิมาริมองฉันยิ้มๆ “ฉันเป็นผู้ชายไม่ดีต่างหาก เรย์กะจังไม่ควรข้องแวะกับฉันมากไปกว่านี้หรอกนะ”
“ฉันก็ไม่ใช่เด็กดีหรอกนะคะ”
ฉันเขย่งเท้าขึ้น กดปากลงบนริมฝีปากของท่านอิมาริ ทำตัวเป็นสาวน้อยใจกล้าขโมยจูบเพื่อนของพี่ชายที่ตัวเองเพิ่งสารภาพรัก
ท่านอิมาริไม่ได้จูบตอบกลับมา เขานิ่งสนิท มือที่ลูบหลังฉันอยู่ก็ค้างไว้อยู่แบบนั้น ทำเอาฉันรู้สึกเสียความมั่นใจไปเล็กน้อย
...หรือต้องทำมากกว่านี้นะ จะเอาไงต่อดี ให้จับหน้าอกเลยจะดีมั้ยนะ มันจะดูไม่งามรึเปล่าสำหรับคุณหนูกุลสตรีอย่างฉัน
ฉันคำนึงถึงขั้นตอนต่อไปในหัวและถอนริมฝีปากออก เมื่อเงยหน้ามองก็ท่านอิมาริยังคงยิ้มอยู่เช่นเคย แต่แววตาที่มองมาแบบอบอุ่นได้เปลี่ยนไปแล้ว
“เรย์กะจังเล่นซนแบบนี้ เป็นเด็กไม่ดีจริงๆนะ”
มือท่านอิมาริลูบไล้ไปตามใบหน้าของฉัน หลังมือแตะที่ข้างแก้มฉันอย่างแผ่วเบา ในขณะที่อีกมือโอบกระชับรั้งให้เข้าหาตัว
“ไม่ได้เล่นซนซักหน่อย ฉันจริงจังนะคะ”
ใจฉันเต้นระรัวอย่างลิงโลด ในที่สุดฉันก็สามารถทำให้แผนการบรรลุไปได้อีกขั้น ที่เหลือก็ต้องพยายามสุดความสามารถในการรั้งเขาไว้ อาจจะด้วยเรื่องเซ็กส์หรืออะไรก็ช่าง ฉันต้องเก็บเกี่ยวจากเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“จูบแบบนั้นน่ะ มีแต่เด็กๆเท่านั้นล่ะจ๊ะที่ทำ”
“ก็ฉันไม่เคยจูบใครนี่คะ”
ไม่ได้โกหกซักหน่อย ฉันไม่เคยไปจูบใครก่อนจริงๆนี่ เว้นแต่ที่เอ็นโจมาจูบฉันเองนั่นไม่นับ
ท่านอิมาริหัวเราะเบาๆ ก้มหน้าลงมาหาฉัน กระซิบเสียงนุ่มทุ้มข้างหู
“งั้นฉันก็เป็นคนแรกของเรย์กะจังสินะ ดีใจมากเลยล่ะ”
ปลายจมูกเขาค่อยๆไล่จากข้างใบหูมาที่แก้ม พรมจูบเบาๆลงบนผิวเนื้อทุกที่ที่ริมฝีปากลากผ่าน ทุกอากัปกริยาล้วนแต่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ริมฝีปากที่ทาบทับลงมานั้นร้อนผ่าว เมื่อฉันเผยอปากออก ปลายลิ้นเขาก็สอดเข้ามาแตะกับลิ้นของฉัน ขบเม้มแล้วงับริมฝีปากล่างของฉันเบาๆ บดเบียดคลึงเคล้าอย่างไม่เร่งร้อน
จูบของท่านอิมาริเชี่ยวชาญและชำนาญ ต่างจากจูบเก้ๆกังๆของเอ็นโจลิบลับ
ฉันอ่อนระทวยไปกับรสจูบที่วาบหวามจนแทบจะยืนไม่อยู่ มือท่านอิมาริแตะเข้าที่หัวไหล่ ค่อยๆไล่ไปตามแผ่นหลังของฉัน ความร้อนวูบวาบพุ่งขึ้นมาในอกก่อนจะไปรวมอยู่ตามที่ต่างๆที่ถูกสัมผัส
“คืนนี้อยู่กับฉันนะ เรย์กะจัง” ท่านอิมาริมองฉันด้วยสายตาหวานเชื่อม
เมื่อฉันพยักหน้า เขาก็พากลับมาที่รถและขับไปในทิศทางที่ไม่ใช่ทางกลับที่พักของฉัน
ที่ที่เขาพามาคืออพาร์ทเมนท์สุดหรูย่านรปปงหงิ ในห้องตกแต่งอย่างหรูหรามีรสนิยม แต่ฉันไม่มีเวลาชื่นชมความสวยงามของมันมากนักเพราะทันทีที่เข้ามาด้านใน ท่านอิมาริก็ก้มลงมาจูบฉันอย่างดูดดื่ม
ฉันโอบรอบคอของเขาในขณะที่ถูกอุ้มขึ้นในท่าอุ้มเจ้าสาวและพาไปที่เตียง ท่านอิมาริคุกเข่าลงตรงหน้าแล้วบรรจงถอดรองเท้าส้นสูงออกให้อย่างนุ่มนวล ทำเหมือนฉันคือเจ้าหญิงที่เขาจะทนุถนอม
นี่คงคล้ายกับซินเดอเรล่าที่สวมรองเท้าแก้วก็สามารถไปงานเลี้ยงเต้นรำกับเจ้าชายเพื่อขยับฐานะ แต่ฉันถอดรองเท้าออกเพื่อจะขึ้นเตียงกับผู้ชายเป็นการหนีจากความลำบาก
ท่านอิมาริจูบฉันอีกหน สอดลิ้นเข้ามาแตะสัมผัสกับลิ้นของฉันแล้วค่อยๆเกี่ยวกระหวัดอย่างไม่เร่งร้อน ค่อยๆละเลียดชิมรสจูบจากริมฝีปากของฉัน เมื่อหนำใจก็ค่อยๆไล่ระริมฝีปากลงมาตามต้นคอ จูบเหนือเนินอกและทิ้งร่องรอยไว้ ล้วงมือเข้ามาใต้กระโปรงและลูบไล้แถวๆต้นขา เขาคลายอ้อมกอดออกเพื่อจะถอดเสื้อเชิ้ตที่สวมอยู่
ร่างกายท่อนบนของท่านอิมาริสมบูรณ์แบบด้วยกล้ามเนื้อดูคล้ายกับพวกนายแบบตามหน้านิตยสาร มันก็คงแน่นอนอยู่แล้วที่ผู้ชายอย่างเขาจะดูแลตัวเองให้มีรูปร่างที่ดูดีอยู่เสมอ ท่านอิมาริยิ้มบางเบาก่อนจะทาบทับตัวเองลงมา ให้ร่างกายเปล่าเปลือยสัมผัสกับผิวเนื้อของฉัน อุณหภูมิจากผิวหนังมนุษย์ที่สัมผัสแนบชิดให้ความรู้สึกร้อนผ่าว
ตอนนี้ฉันมีเพียงแค่ชุดชั้นในปกปิดร่างกายอยู่ มือเขาขยับยุกยิกอยู่ด้านหลัง ปลดตะขอบราฉันออกได้ง่ายๆบ่งบอกว่าทำมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ริมฝีปากร้อนผ่าวประทับจูบลงมาบนเนินอกฉันอีกหน เตรียมสลัดบราที่แสนจะเกะกะนี่ออกไปจากตัวของฉัน
เสียงมือถือที่ดังขึ้นทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ฉันเลิกคิ้วขึ้น นึกแปลกใจกับคนที่โทรมาในเวลานี้ ส่วนท่านอิมาริขมวดคิ้ว ท่าทางจะหัวเสียนิดหน่อยแต่ก็หันมายิ้มให้ฉัน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนจะตัดสายทิ้ง แต่ดูชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อหน้าจอ เขากดรับในทันทีแสดงว่าเป็นสายที่สำคัญ
ท่านอิมาริเดินออกไปนอกห้องเพื่อคุยโทรศัพท์ สักพักก็กลับมา
“เดี๋ยวฉันมานะเรย์กะจัง” เขาคว้าเสื้อที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาสวม กลัดกระดุมแบบลวกๆแล้วออกไปจากห้องอีกหน
ฉันนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงอยู่แบบนั้น นึกทบทวนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ท่านอิมาริเชี่ยวชาญจริงๆนั่นล่ะ ขนาดฉันที่ไม่ได้มีใจรักใคร่เขาเท่าไหร่นัก ก็ยังรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนจะหลอมละลายไปกับจูบนั่น เขาชำนาญซะขนาดนี้ เซ็กส์ครั้งแรกของฉันคงจะไม่เลวร้ายนักหรอก
แต่ผ่านไปนานพอสมควรก็ยังไม่เห็นเขากลับมาซักที ฉันนึกเป็นห่วงนิดหน่อยก็เลยสวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเสียงพูดคุยไม่ได้ศัพท์ดังมาจากห้องรับแขก ก็คิดว่าคงจะมีแขกมาหา อาจจะเป็นเจ้าของสายโทรศัพท์เมื่อครู่นี้
คนที่มาคือท่านพี่
สองคนนั้นอยู่ในห้องรับแขก รายล้อมไปด้วยเอกสารเกลื่อนโต๊ะ บนพื้นก็มีกระเป๋าเอกสาร คงเป็นเรื่องงานหรือเรื่องธุรกิจยากๆที่ฉันไม่เข้าใจ
“ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ” ท่านอิมาริก้มลงเซ็นเอกสารแล้วส่งคืนให้ท่านพี่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไม่หรอก พอดีเป็นงานด่วนที่ต้องใช้ลายเซ็นท่านรองประธานด้วยน่ะ”
“อย่าบอกนะว่าจะเอากลับไปทำต่อที่ห้องอีก” ท่านอิมาริเลิกคิ้ว “มันดึกแล้ว เอาไว้ทำพรุ่งนี้ก็ได้น่า”
“ไม่เป็นไร เหลือแค่นิดเดียว เดี๋ยวทำต่ออีกหน่อยก็เสร็จ”
ท่านพี่เก็บของลงแฟ้มเหมือนกำลังจะกลับแล้ว ฉันจึงคิดจะกลับไปรอในห้องเหมือนเดิม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคหนึ่งที่ทำให้ต้องหันขวับ
“ตอนนี้นายกับเรย์กะไปถึงไหนกันแล้ว”
“เอ่อ...ก็….”
“ทำไมถึงอ้ำอึ้งล่ะ” ท่านพี่เลิกคิ้วขึ้น “หรือว่า….”
“ยังหรอก” ท่านอิมาริกระแอมไอ
ท่านพี่เงียบไปพักหนึ่ง แล้วหันไปจัดเอกสารลงแฟ้มต่อ
“จะทำอะไรก็ทำ แต่ระวังตัวไว้ให้ดีๆ เพราะนายคงสลัดยัยนั่นหลุดได้ยากแน่”
“นั่นสินะ” ท่านอิมาริยิ้มขื่นๆ
ฟังจากบทสนทนา เหมือนท่านพี่จะรู้ความเคลื่อนไหวของฉันจากท่านอิมาริตลอด ไม่อย่างนั้นคงไม่ถามแบบนี้
ฉันก็เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าท่านอิมาริคงจะบอกเพื่อนเขา แต่พอมาได้ยินเองจากปากของสองคนนั้นกลับรู้สึกเหมือนถูกหักหลังอย่างไรชอบกล
“ยังไงก็อย่าพลาดให้ท้องมาล่ะ ฉันไม่คิดว่าคนแบบนั้นจะยอมจบที่เซ็กส์แค่ไม่กี่ครั้ง เธออาจจะใช้เด็กมาเป็นข้ออ้างเพื่อผูกมัดนายก็ได้ นายก็รู้นิสัยยัยนั่นดีนี่”
“เรื่องนั้นฉันรู้น่า”
ฉันแหงนเงยหน้าพิงกับผนัง รู้สึกหัวใจเจ็บหนึบไปหมด
ถึงฉันกับท่านพี่จะไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนัก แต่การที่ต้องมาฟังพี่ชายแท้ๆพูดจาดูถูกดูแคลนให้ได้ยินซึ่งๆหน้าก็ออกจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย
ท่านพี่พูดถึงฉันเหมือนเป็นคนอื่นคนไกล ไม่ใช่น้องสาวของเขา พูดว่าฉันเป็นผู้หญิงหน้าไม่อายเที่ยวเร่จับผู้ชาย และผู้ชายคนนั้นก็กำลังจะหาทางเขี่ยฉันทิ้งตอนเบื่อแล้ว โดยมีพี่ชายของฉันมองแบบสมเพช
และเพราะมันเป็นความจริง ฉันถึงได้เจ็บปวดขนาดนั้น
หลายๆครั้งที่คิโชวอิน เรย์กะเจ็บปวด เธอผ่านมันมาได้ยังไงนะ….
...ก็ออกไปอาละวาดจนกว่าจะสาแก่ใจ จนกว่าศัตรูของเธอจะย่อยยับน่ะสิ
“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ ท่านพี่”
ฉันเดินออกจากมุมที่ซ่อนไปปรากฎตัวต่อหน้า สองคนนั้นดูตกใจเอามากๆ
“เรย์กะจัง”
“อิมาริ” ท่านพี่หันไปขมวดคิ้วใส่ “นี่มันอะไร”
“คือว่า…”
“ก็อย่างที่เห็นนั่นล่ะค่ะ” ฉันเชิดหน้าขึ้น “ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องหับมิดชิดยามวิกาลกำลังจะทำอะไร ท่านพี่ไม่รู้เหรอคะ”
ท่านพี่จ้องฉันอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปมองท่านอิมาริ พูดเสียงราบเรียบ
“ออกไปก่อนอิมาริ ฉันมีเรื่องจะคุยกับน้อง”
น้อง...งั้นเหรอ
ฉันแค่นหัวเราะเมื่อได้ยินคำนั้น ส่วนท่านอิมาริหันมองพวกเรา แววตาดูเป็นกังวล แต่ก็เดินออกไปจากที่ตรงนั้น
“เธอกับพ่อคิดจะทำอะไร”
ไม่ต้องมีการอารัมภบททักทายอะไรกันให้เยิ่นเย้อ ดูท่าทางเขาก็ไม่อยากจะเสียเวลาคุยกับฉันมากนักหรอก
“จำเป็นต้องรายงานท่านพี่ด้วยเหรอคะ” ฉันกระแทกเสียงใส่ เน้นย้ำคำว่าท่านพี่อย่างจงใจ “ปกติก็ไม่เคยจะใส่ใจที่บ้านอยู่แล้ว จะอยากรู้ไปทำไม”
“ฉันจำเป็นต้องรู้ เพราะเธอกำลังจะพยายามก่อเรื่องที่จะทำให้ฉันต้องมาเดือดร้อนในภายหลังน่ะสิ”
“ฉันก็ตั้งใจทำมาหากินสุจริตเลี้ยงตัวเองอยู่นะคะ ไม่ได้ก่อเรื่องเดือดร้อนอะไรให้ใครซักนิด” ฉันส่งยิ้มหวานให้ท่านพี่ “อีกอย่าง การที่ฉันจะคบหาดูใจกับเพื่อนของท่านพี่จนมาถึงขั้นนี้ ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรนี่คะ”
“พูดจาตลกดีจังเลยนะ คิดว่าการที่อิมาริพูดจาหวานๆหรือซื้อของแพงๆให้ทุกครั้งที่ไปหาคือการคบหาแล้วเหรอ” ท่านพี่หัวเราะ น้ำเสียงแฝงแววขบขัน “อิมาริไม่เคยจริงจังกับใคร หมอนั่นก็จะนอนกับเธอแค่ไม่กี่ครั้งแล้วทิ้ง เธอจะไม่ได้อะไรจากมันหรอก”
ฉันสะดุ้งเมื่อสบตาเข้ากับท่านพี่ ก่อนจะก้มลงมองหัวเข่าตัวเองเพราะไม่อยากทนเห็นว่าถูกมองแบบสมเพชขนาดนั้นได้
เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านพี่ ก็เหมือนฉันตัวหดเล็กลง แบบเดียวกับตอนเป็นเด็กที่ไม่สามารถทำอะไรได้เมื่อถูกขัดใจ สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่แผดเสียงร้องไห้ใส่ก่อนจะวิ่งไปฟ้องให้ผู้ใหญ่มาจัดการ อ่อนแอจนไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ด้วยซ้ำ
“แค่นั้นเหรอคะ ที่ท่านพี่พยายามจะบอก” ฉันกำชายกระโปรงตัวเองไว้แน่น พยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่น “แล้วยังไงคะ ฉันจะนอนกับใครหรือโดนใครทิ้งมันก็เรื่องของฉันรึเปล่า ท่านพี่เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ”
“ฉันคงไม่คิดจะยุ่ง ถ้าเธอไม่คิดจะใช้อิมาริในการช่วยวิ่งเต้นคดีของพ่อ”
ฉันสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดนั้น ทำไมท่านพี่ถึงได้…
“ดูทำหน้าเข้าสิ คิดว่าทำไมฉันถึงรู้น่ะเหรอ คนอย่างเธอน่ะเดาไม่ยากหรอก”
“....”
“เธอคงคิดสินะว่าจะใช้อิทธิพลของอิมาริช่วยเหลือพ่อ แต่เรื่องนี้อิมาริไม่ช่วยเธอหรอก ฉันถึงได้เตือนว่ามันเสียแรงเปล่า แถมทำให้เธอดูเป็นผู้หญิงไร้ยางอายเที่ยวอ้าขาให้ผู้ชายไปทั่วอีกต่างหากล่ะ”
ขอบตาฉันร้อนผ่าวเหมือนน้ำตากำลังจะไหลจนต้องจิกเล็บเข้ากับฝ่ามือเป็นการห้ามตัวเอง ฉันจะร้องไห้ตรงนี้ไม่ได้เด็ดขาด ถึงจะพ่ายแพ้แต่ก็จะแสดงความอ่อนแอต่อหน้าศัตรูไม่ได้
“อย่างนั้นเหรอคะ”
ฉันเงยหน้าขึ้น แย้มรอยยิ้มให้ท่านพี่เหมือนว่าไม่ยี่หระต่อคำดูถูกนั้น
“ถ้าท่านอิมาริช่วยอะไรไม่ได้ในเรื่องนี้ ฉันก็ไม่มีธุระจะคุยด้วยอีกแล้วล่ะค่ะ” ฉันลุกขึ้นจากโซฟา แกล้งทำเป็นค้อมหัวให้ “ยังไงซะ ผู้ชายรวยๆก็ไม่ได้มีแค่ท่านอิมาริคนเดียวนี่คะ ถ้านอนกับคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็คงเจอคนที่ทำให้ความต้องการของฉันเป็นจริงได้เอง”
“พูดจาได้ไร้ยางอายดีนะ” รอยยิ้มของท่านพี่ยิ่งบาดลึก “ถ้าท่านแม่มาได้ยินคงเป็นลม ลูกสาวที่เลี้ยงมาเป็นเจ้าหญิงผู้สูงส่ง พูดออกมาว่าจะเที่ยวเร่ไปนอนกับคนนั้นคนนี้ ...หรือว่าท่านแม่สั่งสอนให้เธอทำแบบนี้ล่ะ”
“....”
“เวลาที่เจอคนรวยๆ สองคนนั้นคงจะบอกเธอรีบเอาตัวไปประเคนให้เหมือนที่ทำกับเจ้าเด็กคาบุรากินั่นสินะ”
“อย่าพูดถึงท่านพ่อกับท่านแม่แบบนั้นนะคะ!!”
“แล้วฉันพูดผิดตรงไหน” ท่านพี่ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงรื่นเริงกับว่าพูดเรื่องสนุกสนาน “เธอเข้าไปทำงานนี้หลังจากติดต่อกับพ่อ ให้ฉันเดานะว่าพ่อคงบอกให้เธอไปทำงานที่มันเปลืองตัวกว่านี้ แต่ติดอยู่ที่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะก็เลยเป็นเด็กนั่งดริงค์หรือสาวโฮสเตสไม่ได้ เธอก็เลยต้องทำอาชีพนี้แบบเลี่ยงไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ ก็สาวแคชเชียร์หรือพนักงานร้านอาหารทั่วไปคงแทบไม่มีโอกาสเจอกับคนรวยๆนี่นะ”
เมื่อถูกขุดคุ้ยสิ่งที่ปิดบังไว้ออกมาเปิดเผย ความรู้สึกอับอายก็ปรากฏขึ้นและแผ่ขยายไปทั่วร่างจนรู้สึกชาวาบเหมือนถูกตบหน้า
“นี่ก็ถูกอีกใช่มั้ย”
ท่านพี่เท้าคางมองฉันยิ้มๆ แต่สายตาเขาเต็มไปด้วยเย็นชา ทำเหมือนฉันคือศัตรูที่ต้องบดขยี้ให้ย่อยยับ ไม่ใช่น้องสาวของเขา
ความรู้สึกหลากหลายตีกันประดังประเดอยู่ในอก ต่อให้ฉันอยากเสแสร้งว่าไม่เป็นอะไรต่อคำพูดเหล่านั้น แต่คราวนี้ฉันคงเก็บมันไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“ใช่ ถูกหมดทุกอย่างเลยล่ะ”
ฉันสบตาเข้ากับท่านพี่ ความขมขื่นแล่นปราดไปทั่วทั้งตัวจนรู้สึกจุกแน่นไปหมด
“ถึงจะถูก ก็แล้วไงล่ะ”
เมื่อได้พูดแล้ว คำพูดก็ไหลพรั่งพรูออกมาไม่หยุดเหมือนเขื่อนที่ถูกทำลาย ฉันตะโกนใส่ท่านพี่อย่างไม่คิดจะกลัวเกรงอีกต่อไปแล้ว
“ฉันหน้าไม่อายแล้วยังไงล่ะ!! ฉันไม่ได้มีสมองหรือเก่งกาจที่จะทำธุรกิจพันล้านเหมือนท่านพี่ซักหน่อย คนโง่อย่างฉันก็คิดได้แค่จับผู้ชายรวยๆเพื่อหนีจากชีวิตแบบนี้เท่านั้นล่ะ”
ท่านพี่ยังคงจ้องฉันพร้อมกับรอยยิ้มบางเบา ยิ่งกระพือความโกรธให้สุม
“ทำเป็นเหยียดหยามฉันอย่างงั้นอย่างงี้ แต่ท่านพี่ก็ไม่เคยทำอะไรให้ท่านพ่อกับท่านแม่ภาคภูมิใจเลยไม่ใช่เหรอ เสียแรงที่เกิดมาในตระกูลคิโชวอินจริงๆ”
“เธอคิดว่าฉันอยากจะเกิดมาในครอบครัวแบบนี้อย่างนั้นเหรอ”
รอยยิ้มที่ท่านพี่มักมีประดับใบหน้าอยู่เสมอหายไปแล้ว
“ถึงจะเป็นครอบครัวแบบนี้แต่ก็เลี้ยงคุณให้เติบโตมาอย่างสุขสบายตั้งหลายสิบปีไม่ใช่เหรอ” ฉันเหยียดยิ้มดูถูก “ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลคิโชวอิน คุณจะยังเชิดหน้าชูคอใช้ชีวิตหรูหราสูงส่งขนาดนั้นได้ยังไง ตอนนี้คุณก็ต้องอยู่ในสถานะคุกเข่าขอความเมตตาจากคนอื่นเหมือนกันนี่ เราก็ไม่ต่างกันนักหรอก”
ฉันถอดสร้อยที่ท่านอิมาริสวมให้เมื่อตอนเย็น ขว้างมันใส่หน้าท่านพี่เต็มแรง จี้ไพลินกระแทกบริเวณคิ้วคงเจ็บน่าดู แต่ฉันไม่สนใจ
“เอาคืนไปเลยนะ!! แล้วก็ไปบอกเพื่อนของท่านพี่ด้วย อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!!!”
ฉันวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอน หยิบกระเป๋าและรองเท้าของตัวเองออกมา ท่านอิมารินั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ไกลจากแถวๆนั้น พอเห็นฉันก็รีบลุกขึ้นมาหา ยื่นมือมาเหมือนจะโอบประคอง
“เรย์กะจัง”
“ฉันจะกลับแล้วค่ะ รบกวนท่านอิมาริกดลิฟท์ให้ทีนะคะ”
ถึงจะไม่อยากพูดกับผู้ชายคนนี้แค่ไหน แต่การที่ฉันจะออกไปจากอาคารนี้ได้ก็ต้องมีคีย์การ์ดในการเข้าออกและกดลิฟท์ ท่านอิมาริดูจะเข้าใจและไม่ซักถามอะไรมาก เดินนำหน้าฉันออกมาจากห้อง
ในลิฟท์มีแต่ความเงียบที่น่าอึดอัด ฉันยืนคนละมุมกับท่านอิมาริ แตกต่างจากตอนขามา เขาเหลือบมองฉันเป็นระยะๆ สีหน้าดูเป็นกังวล
เมื่อไปถึงทางออก ฉันก็หันมาโค้งหัวให้
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมาค่ะ ต่อจากนี้เราก็อย่าเจอกันอีกเลยนะคะ”
“เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ นี่ก็ดึกแล้วมันอันตราย ถ้ายังไงให้ฉันไปส่งนะ” เขาชูกุญแจรถให้ดู
“ช่างฉันเถอะค่ะ”
“แต่ว่า…”
สายตาของท่านอิมาริดูจะเป็นห่วง แต่ฉันไม่มีอารมณ์มาพิจารณาอะไรอีกแล้ว แค่คิดว่าผู้ชายคนนี้ข้องเกี่ยวกับท่านพี่ ฉันก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมา
“หนวกหู!!”
“เอ๋!!”
“บอกว่าหนวกหูไง ไอ้คนไร้ประโยชน์เอ้ย!!!” ฉันสะบัดมือที่พยายามยื่นออกมาหา และตะโกนใส่หน้าเขา “ฉันไม่น่ามาเสียเวลากับคุณเลย รู้งี้เลือกคนอื่นซะยังจะดีกว่า อย่างน้อยเขาก็คงพอทำอะไรให้ฉันได้บ้าง”
“...เรย์กะจัง”
“นี่ล่ะค่ะตัวตนจริงๆของฉัน” ท่านอิมาริยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น มือที่ยื่นออกมาชะงักค้างอยู่ในอากาศ “ในเมื่อรู้แล้วก็อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีกเลยค่ะ”
ฉันเปิดประตูออกไปจากตรงนั้น ก้าวเท้าเร็วๆเกือบจะเป็นวิ่งไปที่ถนน ใช้หลังมือปาดน้ำตาที่ไหลออกมา
รองเท้าส้นสูงราคาถูกที่ใส่วิ่งแค่เล็กน้อยแค่นี้ส้นก็หักพาฉันเกือบจะล้มลงไปที่พื้น ฉันเดินโซเซไปที่ม้านั่งแถวนั้นเพื่อพักขา แค่นยิ้มให้ตัวเองเมื่อมองรองเท้าพังๆข้างนั้น
ยังไม่ทันเที่ยงคืน แต่เวทมนต์ของซินเดอเรล่าก็เสื่อมสลาย
ฉันมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกร้านค้าที่ปิดให้บริการ ภาพในกระจกแสดงให้เห็น สารรูปของคิโชวอิน เรย์กะในตอนนี้ช่างดูไม่ได้เอาซะเลย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ที่หางตาและแก้มยังมีคราบน้ำตาติด ดีที่ใช้เครื่องสำอางแบบกันน้ำ มันก็เลยยังไม่ละลายเพิ่มความเละเทะมากไปกว่านี้
ทำทุกอย่างพังอีกแล้ว
ความรู้สึกเสียใจผุดขึ้นมา ฉันไม่น่าทำอะไรลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบนี่เลย ฉันควรจะอดทนนั่งสงบเสงี่ยมอยู่ในห้องรอท่านอิมาริกลับไปหา ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรเป็น ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ฉันก็เป็นนังโง่ที่ใช้แต่อารมณ์ไม่ใช้สมองอยู่เรื่อย
เป้าหมายที่ควรจับไว้ให้ได้ก็หายไปแล้ว จากนี้คงต้องเริ่มต้นหาคนใหม่ จะเป็นใครก็ได้ เจ้ารุ่นน้องที่ซุยรัน นักธุรกิจ นักการเมือง ผู้ชายคนไหนก็ได้ที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลที่ผ่านเข้ามาในชีวิต คราวนี้ต้องห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด ต่อให้ฝืนใจแค่ไหนก็ต้องทำ
ฉันถอดรองเท้าอีกข้าง หักส้นข้างที่ยังดีอยู่ออกแล้วสวมกลับเข้าไปใหม่ ท่าเดินยามเมื่อใส่รองเท้าพังๆแบบนี้คงจะแปลกไปบ้าง แต่ในเมืองที่เร่งรีบและทุกคนสนใจแต่เรื่องของตัวเองเช่นนี้ คงไม่มีใครจะมาสนใจฉันนักหรอก
เหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่เอ็นโจให้ฉันมา มันบ่งบอกเวลาห้าทุ่มสี่สิบสองนาที ก็ยังดีที่รถไฟยังไม่หมดเที่ยว จะได้ไม่ต้องเตร็ดเตร่ข้างถนนหรือไปฆ่าเวลาที่ร้านเน็ตเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าแท็กซี่
ฉันลุกขึ้นยืน กระชับผ้าคลุมไหล่ผืนบางไว้ให้แน่น ก้มหน้าลงเล็กน้อยเมื่อลมเย็นๆปะทะร่างกาย ก้าวขาลงบันไดของรถไฟใต้ดินที่ตอนนี้เกือบจะร้างผู้คน เมื่อรถไฟมาถึงก็ก้าวขึ้นไป ทิ้งความหรูหราและแสงไฟจากรปปงหงิเอาไว้ไม่หันกลับไปมองเหลียวหลังเหมือนอย่างที่วิ่งจากท่านอิมาริมา
--------------
ไม่ได้เขียนฟิคนี้นานมาก แต่รู้สึกอยากอ่านเลยเขียนต่อ
กรี๊ดดด จุ๊บนะโม่งฟิค โคตรเยียวยาเลยถึงอ่านจบแล้วกูจะอยากร้องไห้กับเจ้าแม่ก็เถอะ จะเป็นไงต่อวะ
แต่เขียนดีมากกก อ่านเพลินสุดๆ
โม่งฟิคมาแล้ววว ดีใจ
คำพูดท่านพี่นี่ฟังแล้วจี๊ดแทนเลย ส่วนท่านอิมารินี่ก็ไม่ทิ้งลายจริงๆ ดีที่โดนขัดซะก่อน
ในนี้มีใครเก็บกระทู้แกทแพทเชื่อมโยงมุมมองของเอ็นโจ ที่เขียนโดยคนญี่ปุ่นไว้ไหมอ่ะ ในกระทู้มันจะเขียนบอกไว้ทำนองว่า ตอนที่ 27 เรย์กะไปทัศนศึกษา เล่นกับกระต่าย แล้วเอ็นโจก็มองมาที่เรย์กะ (จากบทพูดของสาวๆที่กรี๊ดว่า ท่านเอนโจมองมาทางนี้) นับว่าเป็นครั้งแรกที่ "กระต่าย" โผล่ออกมา กระต่าย(และเอ็นโจ)โผล่มาอีกตอนที่เท่าไหร่บ้าง วิเคราะห์คำพูดท่านไอระเกี่ยวกับเอ็นโจ
หลักๆ คือเป็นกระทู้รวบรวมหลักฐานว่า เอ็นโจ สนใจเรย์กะขนาดไหน อะไรเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่บ้าง มีรายละเอียดปีกย่อยเล็กๆ ที่แทบไม่เป็นที่สังเกตอะไรบ้าง หรือตอนที่เท่าไหร่ เชื่อมไปหาตอนที่เท่าไหร่อะไรงี้
ที่หาไม่ใช่อะไร อยากแต่งฟิคเอ็นโจ ติดที่ว่าไม่ได้อ่านเรื่องนี้นานมากแล้วและอ่านทวนเองคงมีตกหล่น เพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เขียนเล่าเรื่องที่ "นักเขียน" อยากเล่า แต่เป็นเรื่องที่ "เรย์กะ" อยากเล่าหรือบ่น แล้วท่านเรย์กะนี่เหมือนเหม็นขี้หน้าเอ็นโจแรงมาก เวลามีบทถึงเอ็นโจทีไรมันจะชอบตัดไปอย่างรวดเร็ว(และแทบไม่ให้รายละเอียดอะไรเลย) เหมือนเรย์กะไม่อยากให้เรารู้ว่าจริงๆ เกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ก็ตัวเรย์กะพยายามปฏิเสธและทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อ่ะ (ผิดกับตอนที่บรรยายถึงคาบุรากิมาก อันนั้นคือพอเลิกกลัวแล้วเริ่มสนิท(...น่าจะเรียกว่าชินและรับมือเป็นแล้วมากกว่า) ท่านเรย์กะก็คือไม่เกรงใจละ ตั้งใจเผาเต็มที่มาก555+)
>>406 เอาแบบสนใจมองจริงๆหลังจากมีชื่อออกมาในตอนที่ 6 ก็คือตอนที่ 10 ขึ้นไป ฮีเริ่มพูดคุยด้วยการทักเรย์กะละว่าเป็นเด็กที่เต้นวอลซ์กับท่านพี่ในงานเลี้ยง เห็นเรย์กะกินมาการองก็มากินด้วย(ซึ่งตอนหลังก็เฉลยออกมาแล้วว่าเอ็นโจไม่ชอบของหวาน แต่กินเพราะอะไรก็ยังไม่บอกสาเหตุ) แล้วก็นั่งจ้องเรย์กะที่จ้องมาซายะอยู่ เพราะเรย์กะบอกหันไปก็สบตากับเอ็นโจเข้าให้พอดี แถมเอ็นโจรู้ว่าเรย์กะมองมาซายะอยู่บ่อยๆ แปลว่ามองอยู่ตลอด (ทุกครั้งที่เรย์กะหันไปมองสองหนุ่มก็จะสบตากับเอ็นโจตลอดนะ) แล้วก็ผลุบๆโผล่ๆมาช่วยนิดหน่อยตอนสาวๆรุมซักไซร้ในตอน 21 เพราะรู้ว่าเจ้าแม่ต้องลำบากแน่นอน ตอนเจ้าแม่เป็นกรรมการนักเรียนไปห้องคาสึรางิคนเดียวก็รู้ว่าเจ้าแม่หายไปและตามมาแทบจะทันที ถ้าไม่สนใจคือปล่อยให้นางมาคนเดียวก็ได้ คิดว่านางน่าจะจัดการเองได้สบายๆ
อันนี้ฝากไว้ให้กวนกาวนิดหน่อย อาจจะไม่เกี่ยวหรือไม่เชื่อมโยงอะไรกันก็ได้ แต่ตอนม.2 งานโรงเรียน ห้องเรย์กะเสนอให้ทำคาเฟ่ เอาเอ็นโจเป็นจุดขาย แต่โดนล้มโครงการเพราะสาวๆไม่อยากให้"ท่านเอ็นโจของห้องเรา"โดนรุมล้อม พอม.4 เรย์กะไปกินลาเต้อาร์ทที่คาเฟ่กับไอระ ม.5 ห้องเอ็นโจทำคาเฟ่เลย แถมทำลาเต้อาร์ทด้วย ไม่รู้ว่าพี่แกเสนอตัวเองด้วยรึเปล่า เพราะไม่น่าจะมีใครไปบอกให้เอ็นโจมาเทกาแฟเอนเตอร์เทนลูกค้าได้นะ ถ้าไม่เต็มใจจะทำเอง
แต่ถ้ามองแบบไม่จิ้น คาเฟ่มันก็เรื่องพื้นๆในงานโรงเรียนอะ เอ็นโจก็สมาชิกของห้องคนนึง ต้องช่วยงานห้องอยู่แล้ว พอมีความสามารถด้านบาริสต้าก็ช่วยๆกันไป เรย์กะเป็นเพื่อนก็เทกาแฟให้หน่อยเป็นการเซอร์วิสเพื่อนเหมือนที่ทำให้มาซายะน่ะ
>>407 แต๊งมากมึง ความจำดีจังวะ เดี๋ยวสอบเสร็จกูต้องไปทวนพร้อมจดบันทึกบ้างละจะได้ไม่ลืมบ่อยๆ เผื่อจะค้นพบอะไรเพิ่มด้วย
เอาจริง ประเด็นกับเอ็นโจมันมีหลายเรื่องอ่ะ แต่แต่ละเรื่องคือถูกตัดไม่ก็ถูกเบลอโดยท่านเรย์กะหมด มีน้อยที่ท่านเรย์กะจะเล่าถึงเอ็นโจแบบเด่นๆ ขนาดเรื่องหิ่งห้อยที่เด่นมาก ท่านเรย์กะยังทำเป็นไม่มีอะไรแล้วรีบเอาหิ่งห้อยไปปล่อยแบบรีบๆได้เลย
ฟีลแบบ เออ คนที่เจ้าบทเจ้ากลอน ความรู้ทั่วไปกว้างขวางแบบท่านเรย์กะจะไม่รู้ความหมายแฝงของการให้หิงห้อยจริงๆหรอ... กูมั่นว่ารู้แน่ แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ละติดฟิตเตอร์ต้องโดนกวนอยู่แน่ๆ ใส่เอ็นโจแบบที่ทำมาตลอด
>>408 ประเด็นเกี่ยวกับเอ็นโจนี่นางชอบพูดตามหลังอะ อย่างเรื่องยูกิโนะยกชามาให้ นางก็มีเสริมๆไปว่าน้องเขาเป็นเด็กดีจัง ยังไม่เคยเห็นเอ็นโจยกชาหรือรินชาให้ใครทั้งนั้น หรือรู้ว่าเอ็นโจไม่กินขนม อยู่ในห้องสโมสรก็กินแต่ชา ถ้าไม่มองหรือสังเกตบ้างก็ไม่รู้หรอก เพราะความสนใจซัก 80% ในเรื่องที่บรรยายออกมาพุ่งไปที่คาบุซะหมด แต่การที่บอกแบบนั้นก็แสดงว่า นางก็รู้เรื่องของเอ็นโจเยอะนะ อยู่ที่จะพูดหรือไม่พูดออกมาแค่นั้น
แต่ส่วนมากเวลานึกถึงเอ็นโจก็นึกแค่แป๊บเดียวจะรีบตัดฉับไม่พูดถึงอีก ผิดกับคาบุที่นางบ่นเรื่อยเจื้อยในใจตลอด แถมรู้รสนิยมคาบุดีทุกอย่างกระทั่งยี่ห้อชอคโกแลตที่ชอบแล้วเอาไปเป็นของฝากตอนไปเยี่ยมบ้าน แต่กับเอ็นโจนางไม่เคยให้อะไรตรงๆแบบระบุเจาะจงว่าให้เจ้าตัวเลย ต้องไปให้คนอื่นก่อนแล้วค่อยไปถึงมือเอ็นโจอีกที ส่วนคาบุกับยูกิโนะได้ของจากนางเยอะแยะ ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆคาบุก็เป็นพระเอกไปแล้วป่ะ สนใจกันซะขนาดนี้ 55555
>>409 อย่างที่กูว่าแหละมึง เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่นักเขียนอยากเล่า แต่มันคือเรื่องที่ท่านเรย์กะอยากเล่า ถ้าอันไหนนางไม่เล่าก็แทบไม่รู้เลย ต้องตั้งใจสังเกตรายละเอียดยิบย่อยเอาเอง 5555+
ช่วงแรกๆ นางก็ตัดเหมือนเอนโจนี่แหละ แต่เหมือนหลังๆ คือท่านเรย์กะก็คือไม่กลัวคาบุละอ่ะ นินทาในใจได้แบบสบายใจ คงรู้ว่านินทาไปคาบุก็อ่านใจไม่ได้หรอกว่ากำลังแซะอะไรอยู่ แต่ถ้าไปนินทาเอ็นโจนี่ ต่อให้ไม่พูดออกไปอีกฝ่ายก็รู้เหมือนอ่านใจได้ กับคนที่รับมือไม่ได้ท่านเรย์กะผู้ที่คิดว่าจิตใจตัวเองเปร๊าะบ๊างเปราะบางก็คงอยากเลี่ยง 55555+
คงไม่ได้อ่านต่อแล้วใช่มั้ย
อยากอ่านเรื่องนี้ต่ออ่ะ
ยังรองานดอกไม้ไฟ นี่มันอีเวนท์หวานแหววในการ์ตูนโชโจเลยนะเว้ย ดูดอกไม้ไฟด้วยกัน อาจจะมีสารภาพรักแต่โดนเสียงดอกไม้ไฟกลบไรงี้
กลับไปย้อนอ่าน ช่วงวาคาบะอวดชุดเครื่องแบบที่เจ้าแม่ให้นี่แม่งอย่างดาร์ก มีความเยาะเย้ยเต็มที่ว่าไอดอลที่เธอใฝ่ฝัน ทำยังไงก็ไม่ได้เข้าใกล้ แต่ฉันได้เขามาครองย่ะ มีความขิงสุดอะไรสุด จะประกาศว่าฉันนี่ล่ะเมียเขา คนอื่นอย่าเจ๋อก็โคตรเหมาะ ถ้าเป็นแนวยูริสองคนนี้ก็เป็นแฟนกันเรียบร้อยกันไปนานแล้วป่ะ 555555
นี่กำลังแอบคิดว่าคุณหนูที่ไหนมาแอบแต่งนิยาย เป็นไดอารี่ชีวิตตัวเอง ส่วนตอนที่300 ผู้แต่งไปงานดอกไม้ไฟ โดนสารภาพรักแล้วกระซิบข้างหูว่า ผมรู้นะว่าแอบเอาชีวิตจริงไปเขียนใช่ไหมล่ะ ฮิโยโกะ และแล้วชีวิตของคนเขียนก็มีความสุขกับความรักจนไม่มีเวลามาแต่ง5555// มโนศาสตร์
เพื่อนๆ นิยายในเว็บแมวดุ้นหาย ใครมีให้โหลดบ้างอ่ะฮืออ ว่าจะกลับมาอ่านเพราะคิดถึงแต่หายไปแล้ววว
เข้าสารบัญตลคไม่ได้ง่ะ ;^; มีใครรู้บ้าง
อยากได้ฟิก กะนายตัวสำรอง กุว่าโมเม้นดีๆมีได้อีก
อยากอ่านฟิคที่ความจำเสื่อมอีกอ่ะ ชอบๆๆ
คิดถึงเจ้าแม่เรย์กะ
อ่านๆไปเจ้าแม่นี่คิดยังไงกับสองหนุ่มวะ กับคาบุนี่ให้ฟีลเพื่อนไม่คิดอะไรมาก แต่นางก็ทำตัวคล้ายๆกับเป็นกิ๊ก(?)นิดๆ แบบตอนที่รู้ว่าวาคาบะไปเที่ยวที่ดีๆเก๋ๆกับคาบุแต่นางดันต้องมาร้านราเม็งทั้งที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน คือนางหวังให้คาบุทรีตนางแบบวาคาบะเรอะ แถมยังไปสมมติว่าตัวเองจะทำกับข้าวมาให้กินอีก ถ้าคาบุมันบอกว่าอยากกินนางจะทำมาให้ว่างั้น??
ส่วนเอ็นโจ เหมือนจะไม่อยากยุ่ง พูดถึงก็น้อย แต่เวลาได้ยินข่าวเอ็นโจกับผู้หญิงทีไรนางนอยด์หรือไม่ก็โมโหทุกที กับคาบุที่มีข่าวไปซื้อของให้ผู้หญิงนางยังกล้าไปถาม แต่กับเอ็นโจนางไม่ถาม ตัดบททุกอย่าง อันนี้คือรำคาญ ไม่อยากข้องเกี่ยวหรืออะไร แต่ตอนเขามาชวนไปดูดอกไม้ไฟก็วิ่งไปเลือกชุดทันทีเลยนี่นา หรือกระตือรือร้นเพราะยูกิโนะ 55555555555555555
Vtuberคนใหม่นิจิซันจินี่ดูแล้วนึกถึงท่านเรย์กะเลย
แต่โรคกระเพาะนี่เป็นจริงนะ ถึงขนาดเอาภาพส่องกล้องมาเปิดให้ดู....
55555555555555555555555555555555555555ใครเค้าเอาของแบบนี้มาอวดกันวะ55555555555555555555555555555
>>440 เป็นสตรีมเมอร์ที่ใช้ตัวการ์ตูนแทนตัวเองอ่ะ ลองดูไหม กำลังจะไลฟ์เลย
https://www.youtube.com/watch?v=gIdJ0Gn9O24&ab_channel=壱百満天原サロメ/HyakumantenbaraSalome
อยากได้คนที่รวมแปลงานแฟนอาร์ตทั้งหมดของคุณ @marudori_kenkyo มาก หยาดน้ำชะโลมใจของผม
เฝ้ามองเเละเป็นกำลังใจให้ อยากช่วยเหลือเมื่อเธอต้องการ เหมือนเอ็นโจนิดๆอะ อยากให้คนเขียนกลับมาตอนนี้เริ่มเห็นภาพซ้อนทับเเล้ว
https://twitter.com/rakugaki_toka/status/1534134418126012416?t=-Tp_yEzxXXkb8M2eDCo0gg&s=19
จิงมึง ยิ่งดูท่านซาโลเมะแล้วยิ่งคิดถึงท่านเรย์กะ
อย่างน้อยเขียนอีกตอนฉากขึ้นเรือแล้วตัดจบเลยก็ได้ท่านฮิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิิ
จำได้ว่าอ่านเรื่องนี้ครั้งแรกตอนม.4 จนตอนนี้กุเรียนจบปี 4 เรียบร้อย ตอน 300 ก็ยังไม่มา
ป่านนี้ลูกท่านฮิกี่ขวบแล้ววะ
กูอ่านตั้งแต่มอต้นตอนนี้เข้ามหาลัย ถึงจะรู้ว่าไม่มีหวังแล้วแต่ก็อยากมามู้นี้อยู่ ฮึก เรือคาบุเรย์กะของกูยังอยู่ดีนะ
จะว่าไปถามจริงๆนะมีใครตามฟิค คู่หูทะลุมิติมั้น 51ตอนในสารบัญนี่จบรึยัง ผมรู้สึกมันยังคาคาใจ
จบแล้วแต่ไปต่อได้อีก
ท่านซาโลเม่คือฮิโยโกะเซนเซย์มาเดบิวต์ปะ มีใครถามไปยัง 😭😭😭😭😭
กูพึ่งมาเห็นพวกมึงคุยเรื่องซาโลเมะเหมือนท่านเรย์กะ ตอนกูเห็นโมเดลกับฟังเสียงครั้งแรกกูนึกถึงท่านเรย์กะจนตามซาโลเมะเลยมึง ช่วยคลายความคิดถึงไปหน่อย ฮือ
แต่ถ้าท่านฮิจะเป็นวี ก็ต้องเลือกคาร์ท่านเรย์กะป่ะวะ
สรุปท่านซาโลเมะเนี่ยแหละคือท่านฮิ ซู๊ดดดดดดดดดดด
แต่นิสัยคล้ายเยอะนะ พวกของจุกจิก หรือ พวกน้ำขนม มีพูดถึงเป็นไดอารี่เลย
ว่าจะมาลงฟิคแต่พอจะโพสต์โม่งแม่งติดคำต้องห้ามซึ่งกูก็ไม่รู้ว่าคำไหน แต่ก็ขี้เกียจแก้ เพราะกูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคำไหนมันคำต้องห้ามที่โดนระบบกรองคำไป
เอาเป็นว่ากูจะย้ายไปลงใน readawrite แทนแล้วกันนะ คงเอาฟิคที่กูเคยเขียนในนี้ไปลงด้วยแล้วก็อัพที่นั่นไปเลย
ในรี้ดกูจะลงเรทอะไรดีวะ จะว่า 18+ มันก็ไม่ใช่ฟิคที่จะซั่มกันทุกตอน แต่มีเรทมั้ยคือมีชัวร์ๆ 5555555555
ถ้าเสินมันไม่กรองคำในเว็บกูก็คงลงในนี้ต่อไปว่ะ มันสะดวกสำหรับกูไม่ต้องยุ่งยาก ขึ้นบนดินแบบลงรี้ดแล้วลำบากชิบหาย กูต้องคีพคาร์น่ารักสุภาพ กูไม่ได้อยากเปิดโม่งเลยแต๊ๆ ต้องหารูปประกอบปก ซึ่งกูก็ไม่อยากไปเอาแฟนอาร์ตใครมาใส่อะ เดี๋ยวมันผิด LC ที่ยังไม่ได้ลงนี่ไม่ใช่อะไรนะ หารูปอยู่
อีกอย่างถ้ากูใส่เรท 18+ แต่เขียนมาสิบกว่าตอนยังไม่มีเรทซักแอะ กูกลัวพวกมึงจะผิดหวังกัน 5555555555555
หรือจริงๆท่านฮิจะจำพาสเวิสไม่ได้จริงๆ
(ยังรออ่านฟิคใหม่ๆเสมอนะเว้ย)
ไม่ได้แวะมานาน พอเข้ามาเห็นวงน้ำชาอยู่มาจนถึงครั้งที่32แล้วจะร้องไห้ //สาวกเจ้าแม่ยังอยู่กันเหนียวแน่นมาก
คิดถึงมากเลย ตอนนี้ไปเจอมังงะบางเรื่องก็เริ่มเห็นภาพหลอนเป็นเจ้าแม่เรย์กะเข้าไปทุกที
กูหานางเอกที่ถูกจริตแบบเจ้าแม่ยังไม่ค่อยเจอเลย ประเภทคุณหนูเริ่ดหรูแต่ข้างในรั่ว ชอบคาแรคเตอร์แบบไอ้บากะรากิกับจอมมารเอ็นโจด้วย พวกหล่อเสียของทั้งหลาย อยากเห็นพวกฮีไปเดทแล้วสมหวังในรักจะแย่อยู่ละ
การรอคอยที่แสนยาวนานของจริง
คิดถึงเรื่องนี้ชะมัด
เหงาแท้ คิดถึงเจ้าแม่ว่ะ
https://twitter.com/K00S_/status/1562369874814459904?t=_hSBPtzEeaMciUGLvCwPRA&s=19
อันนี้แม่งโคตรเหมือนเจ้าแม่เลย 5555555
เผื่อใครอยากฟังเพลง นางร้องเพลงดักแก่เยอะมาก https://youtu.be/-mHkg7tA83Q
กินส้มตำเลยอะ🤣
มุงแงท่านเรย์กะ คิดถึงเสมอนะะะะ
มาเกาะบอกคิดถึงท่านเรย์กะด้วยยย เดือนนี้จะครบรอบปีที่เท่าไหร่แล้ววะ TT
ยังคิดถึงท่านเรย์กะ
อีก 5 วันจะถึงวันครบรอบของพวกเราแล้วใช่เป่านะ...
มันคือกี่ปีแล้ววะ
จะ 4ปีแล้ว
5ปีผ่านไป...ไม่เคยรออะไรนานขนาดนี้มาก่อน
มึงว่าลูกท่านฮิเข้าร.ร.ยังวะ เผื่อจะเจียดเวลามาเขียนต่อ
กุอ่านตอนกุเรียนมหาลัย ตอนนี่กุเตะฝุ่นมาสองปี ก็ยังไม่มีตอนใหม่ เหี้ย เอ๊ย ชาติหน้าเกิดใหม่ขอให้มีตอนใหม่นะครับ
คิดถึงนะเรย์กะจัง
คิดถึงจัง ท่านฮิมาแวะบอกข่าวสักนิดก็ยังดี หายไปเลยแบบนี้มันคาใจ ฮือๆ
คถมู้ คถโม่งแปล คถท่านฮิ
ไปดูในแมวดุ้นตอนหายหมดเลยแหะเกิดไรขึ้นนิ
กูลงฟิคเรย์กะเกอิชาในรี้ดไปละ จากนี้คงไปลงในนั้นถาวรเลย มันจะได้สะดวกขึ้น เวลาเขียนเรทก็จะได้ไม่ตะขิดตะขวงใจด้วย
https://www.readawrite.com/a/acd95459947bc21b2996b320c058bf26?preview=1
https://ทวิต.com/marudori_kenkyo/status/1609783874808315906?t=axIBKrJDBlxRuFt_sx0shQ&s=19 สวัสดีปีใหม่เพื่อนโม่ง นวยังลงรูปอยู่ เราก็ยังมีหวังได้!
คิดถึงเจ้าแม่จัง อ่านคั้งแต่มอต้นจนปี1แล้ว🥲 ว่าแต่มีใครบอกบุญได้ไหม มันเคยมีเรื่องที่คล้ายๆกับเรื่องนี้ แต่ทั้งนางเอกแล้วก็นางร้ายทะลุมิติมาเหมือนกัน แล้วพ่อก็เอาเมียน้อยซึ่งก็คือแม่นางเอกเข้าบ้าน แล้วตัวเอกกับแม่ก็โดนขังไว้หลังบ้าน มีวันนึงตัวเอกก็พยายามหนีมาบอกตา ว่าตัวเองกับแม่โดนขังไว้ จำได้ว่ามีฉากตัวเอกของเราข้ามไฟแดงทั้งที่เด็กมากด้วยๆๆ ช่วยด้วยยยย จำไม่ได้้้อยากกลับไปอ่านอีกครั้งจัง
https://www.facebook.com/100044561703999/posts/705464600948924/?sfnsn=mo&mibextid=Np5ng4
เห็นแล้วนึกถึงท่านเรย์กะ
อ่านตั้งแต่ตอนเรียนจบใหม่ๆ จนตอนนี้ได้เป็นผจก.ละ ท่านเรย์กะไม่กลับมาแล้วเหรอออ
คิดถึงท่านเรย์กะโคตรๆ TT
กุอ่านท่านเรย์กะตั้งกะม.1ม.2 ตอนนี้ปี1ละ กุคิดถึงเรื่องนี้มาก แวะๆมาดูมู้นี้เสมอ เผื่อจะมีอัพเดตว่าตอนใหม่มางี้ โฮร
เพื่อนห้องนี้มีใครอ่าน By a slight mistake ไหม
เหลือจะเชื่อว่ามู้นี้ยังแอคทีพ5555
ใกล้วาเลนไทน์แล้ว กูก็หวังให้แกมาลงต่อพร้อมตอนเจ้าแม่ไปเดทกับเอ็นโจนะ ฮึก หวังมากเกินไปมั้ย
คิดถึงเรื่องนี้เลยเขียนต่อ
https://namelessfiction.food.blog/dirty-talk-2/
Password Hint : เรย์กะให้ของกินอะไรกับเอ็นโจให้เอาไปแบ่งกับยูกิโนะ
จริงๆแอบอยากเขียนมุมมองเจ้าแม่ด้วย แต่ยังนึกชื่อเรื่องไม่ออก จะชื่อไรดีวะ 555555555
ช้อคที่ยังมีคนแอคทีฟอยู่ จากใจโม่งม.ต้นเมื่อตอนนั้นจนตอนนี้ปี 1 แล้ว กูยังรออย่างมีความหวังแบบลมๆแล้งๆอยู่นะ55555555555
เข้าไปดูไฟล์สารบันไม่ได้ เลยหาพาสไม่เจอ โม่งช่วยที
https://twitter.com/L6gAsLgg6eNQ6Ko/status/1641065997758271495?t=xkQMTOpStW2nai1NGmwjMw&s=19
เห็นละนึกถึงชูสุมอยกับเรย์ตัน 555555
หาอ่านจากไหนกันอ่ะ อยากไประลึกความหลัง แมวดุ้นมีแค่30กว่าตอนเอง
หาพาสไม่เจอ ช่วยที
รักเจ้าแม่ตลอดไป
คำใบ้พาสคือของกินที่เจ้าแม่ชอบเอามาปัดเป่ามารอะ ฟิคโครตดีโครตเด็ดล้ำค่าดีเลิศอันดับหนึ่ง มาแต่งต่อนะมึงกุรออ่านอยู่ ฟิคมึงคือน้ำหล่อเลี้ยงโม่งทุกคนในนี้
ยังระลึกถึงท่านเรย์กะเสมอมา
กลับมาอ่านฟิคคาบุรากิ x เรย์กะทะลุมิติ คืองานดีไม่เสื่อมคลาย คิดถึงเจ้าแม่มาก
จำได้รางๆ ว่าโม่งแต่งฟิคเรื่องนี้เหมือนเคยมาตอบในมู้ไหนสักมู้ว่าไม่มีแรงเขียน เพราะเจ้าแม่ไม่ออกตอนต่อใช่ป่าววะ
กูขอแว็บไปดูสารบัญฟิคอย่างมีความหวังแปบ เผื่อมาต่อแล้ว
ไม่ได้เข้ามานาน พวกมึงยังเหนียวแน่นกันดีจัง 555555555555555555
เข้ามาเช็คอิน 06/07/66
มีตัวละครนึงในลูกโอชิที่ออกมาทีไรกูแอบขำทุกที เสือกชื่อเดียวกับคาบุซะด้วย ทั้งคาบุรากิ มาซายะ มาทั้งชื่อทั้งนามสกุลจนกูแอบคิดว่าคนเขียนลูกโอชิมันจงใจป่ะวะ 5555555555
เข้ามาตกใจที่พวกมึงยังแอคทีฟ นึกว่าเจ้าแม่ออกตอนใหม่แล้ว
เมื่อไหร่เจ้าแม่จะอัพ กูรอตอนสามร้อยเหมือนจะขาดใจ
ชอบการเอากิโยตินมาเป็นบทลงโทษ งานดูดอกไม้ไฟจะมาถึงไหมนะ
https://youtu.be/zQQsn0-6gNE
กูคิดถึงโหม่งมู้นี้ว่ะ โหม่งเจ้าแม่มีแต่คนน่ารัก กูไม่ได้เข้าโหม่งนานมาก ลองไปไถๆ ฟอรั่มอื่น เจอแต่เรื่องปวดสมอง
ต้องหาของหวานตามเจ้าแม่มากินเยียวยาละ
คิดถึงเจ้าแม่เหลือเกินนนนน กุคิดถึงเรือของเจ้าแม่กับหลายสิ่งอย่าง คิดถึงการชิปแบบไม่ต้องกลัวโดนคนอื่นถล่ม โลกภายนอกโหดร้ายชิบหาย บางเรื่องกุชิปสลับโพยังโดนด่า ก็กุอยากชิปอ่าาาา ฮือออออ
สู้เจ้าแม่ไม่ได้ ชิปเจ้าแม่กับอาหารยังไม่ผิด TT
ชิปกับคานก็ไม่ผิดมึงง
รอเจ้าแม่ตั้งแต่ยังไม่เข้ามหาลัย ยันตอนนี้ที่กุทำงานละ ตอนที่ 300 ก็ยังมาไม่ถึง
เหยยยย จะกลับมาอ่านใหม่ทำไมตอนในแมวหายล่ะ เขาปิดทำไมมมมม
เข้าใจว่าลิ้งก์ไฟล์ตอนมันหายจากไฟล์รวมสารบัญมั้ย (หรือมีเหตุผลที่เขาตั้งใจเอาออกรึเปล่าวะ)
ขอเอาลิ้งก์เดิมที่มันหายไปมาแปะให้นะ เผื่อใครยังอยากย้อนอ่าน
https://drive.google.com/drive/folders/1i5duDkGG5JidA4nLmCRGMTcOipUzIj36
เขาจะมาต่อไหม หมายถึงอ.ที่เขียน
วันฮาโลวีน กูมีฟิคคู่เอ็นโจ×เรย์กะมาเสิร์ฟค่ะ แน่นอนว่า r18 //ปิดตาขวยเขิน
https://www.readawrite.com/a/eac2f7631db303466e8c976bc232f0dc
เข้ามาส่องเพราะกูคิดถึงเจ้าแม่กับเพื่อนโม่งมู้นี้ รอวันที่ปาร์ตี้น้ำชาจะกลับมาคึกคักอีกนะ
ต่อให้ผ่านมาแปดปีกูก็จะรอคอยตลอดปัยยยย ตอนนี้เริ่มอ่านใหม่อีกรอบละ ตั้งใจว่าจะลองจดฉากที่เอ็นโจมองเรย์กะดู ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเริ่มมองตั้งแต่ประถมเลยมั้ง
คนแต่งเรื่อง หายไปเหรอ
ตราบใดที่ยังไม่สิ้น ชั้นก็จะรอต่อ
นี่กูรอตอนใหม่มาหกปีแล้วหรอเนี่ย…
กูต้องรอลูกท่านฮิบวชใช่มั้ย ท่านฮิถึงจะหมดห่วงแล้วมาอัพอีเวนต์งานดอกไม้ไฟให้กูอ่านซักที
คิดถึงเจ้าแม่ชิบหายเลย
แปะสำหรับเป็นไอเดียของAUมะหมา https://x.com/saturday28april/status/1749090562110828757?s=46
กุอ่าน บันทึกสังเกตการณ์คุณคู่หมั้นผู้ประกาศตัวเป็นนางร้าย แล้วไวป์มันนึกถึงท่านเรย์กะกับเอ็นโจวเลยว่ะ55555 แบบสังเกตอีกฝ่ายแล้วบอกว่ารีแอคชั่นน่าสนุกไรงี้ นางเอกผมหลอด ชอบทำตัวเด๋อๆเหมือนกันด้วย ทำตัวเป็นกามเทพสื่อรักอีก โอ้ย อ่านไปอ่านมาแล้วก็คิดถึงท่านเรย์กะ🥲
ใครมีนิยายเรื่องไหนแนะนำบ้าง กูขอฟีลแบบท่านเรย์กะเลย สวยเสียของ วันๆของฉันกับของกินงี้ รักไม่ยุ่งมุ่งแต่เมคเฟรนด์ท่าเดียวงี้ กองอวยแบบกูใช้ชีวิตลำบากดี ชอบ
OGwNRD2y
mJZts4KU
เห้ยยยยยยย!!!!!? เจ้าแม่ออกตอนที่300แล้วพวกมรึงงงง!!!!!!!!! 😭😭😭😭🥳🤯😍😍🥰🥰🥰🥰🥰
กุล้อเล่น5555555555555555555555555555555+XD ORZ
กูก็ แวบมาดูซักหน่อย เห้อ คิดถึงสมัยคึกคัก กูรอเจ้าแม่อยุ่บนคานจนท้อแล้วเนี่ย
นิยายที่เริ่มเขียนเมื่อ11ปีที่แล้ว และไร้การสานต่อมาจะ7ปีแล้ว
ใครเขียนภาษาญี่ปุ่นเป็นช่วยไปเม้นให้แจ้งเตือนท่านฮิเด้งเล่นๆ จะได้ไหมนะ เผื่อจะนึกได้ว่ามีเรื่องนี้อยู่ 7 ปีแล้ว ลูกเข้าประถมแล้วมั้ง 😂
มีคนเอาเจ้าแม่ลงรอรด้วย เห็นเขาค่อยๆอัพเดตแล้วคิดถีง https://www.readawrite.com/a/3b0b39c57bbaeb28128439350b2b1ff7
ตอนใหม่มายัง กูหลับไป1ปี
ช่วยด้วยค่ะ มีคนมาต่อฟิคนี้ไหมคะหาไม่เจอ ตอนนี้ใจจะขาดรอน ๆ 😭
กาลครั้งหนึ่งในฝัน ตอนพิเศษ 2.2
ชิบหายแล้วกู มาอะไรตอนตลาดวายอะ มีใครมาช่วยแปะหน่อยได้ไหม คุ้น ๆ ก็ยังดี กาวให้เลยก็ขอบคุณมากค่ะ
กูเป็นโม่งใหม่ที่เข้ามาครั้งแรก 6 ปีที่แล้วแล้วเพิ่งจะเข้ามาอีกที ขอบคุณฟิคกาวทั้งหลายมากนะมึง เยียวยากูดีจริง ๆ
พวกมึงกาวกันเก่งมาก ตั้งแต่เรือเล็ก ๆ ไปจักรวาลยานแม่ลำใหญ่โต มีหลายกาแล็กซีมิติโลกคู่ขนานแตกขยายแยกย่อยไปเยอะแยะเลย กูรักพวกมึงนะ
((มันคงจะดีถ้ามีตอนต่อของฟิคที่ชะงักไป หรือกาวใหม่ ๆ ที่งอกเพิ่มมา กูบอกเฉย ๆ นะมึง))
จู่ ๆ ก็คิดถึงท่านเรย์กะขึ้นมา
ฟิคเกมบัดดี้ค่ะ (เอ็นเรย์) ใครว่าง ๆ หลงเข้ามาอ่านก็โชคดีนะ
กูแค่คนรอฟิคคนนึง ระหว่างนั้นก็อยากลองเอากาวมาเสิร์ฟบ้าง.. ตอนแรกก็จะสั้น ๆ แต่งไปมา เห้ย ยาว แล้วมันสูบเวลาชีวิตจริงด้วย กูยิ่งซาบซึ้งโม่งฟิคเข้าไปใหญ่ โฮ ขอบคุณน้า กูไม่ได้ตั้งใจจะกดดันนะTT
มือใหม่ อ่านแล้วติดขัดหลุดคาร์ง่วงนอน กูขอโทษษ
(คิดซะว่าเป็นฟิคในโลกคู่ขนานนะ)
------------
วันนี้เปิดเทอมวันจันทร์ ฉันตื่นและลุกขึ้นจากเตียงนุ่มฟูอุ่นสบายด้วยอารมณ์แจ่มใส แสงแดดอ่อนส่องเข้ามาผ่านหน้าต่าง ฉันเปิดม่านมองออกไป อากาศใช้ได้เลย เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับวันแห่งการเริ่มต้นอย่างวันเปิดเทอมนะ
แหม ถ้าวันแรกมันผ่านไปได้ดีเสียอย่าง ฉันก็เหมือนได้รับพรให้ใช้ชีวิตตลอดเทอมได้ราบรื่นไร้ปัญหาแล้วล่ะนะ
วันนี้ก็ม้วนผมเกลียวได้สมบูรณ์แบบ ทานข้าวเช้าแสนอร่อยแล้วก็โบกมือลาท่านพี่ที่ไปทำงาน ส่วนฉันก็ขึ้นรถไปโรงเรียน ท่านพี่เนี่ยหมู่นี้งานยุ่งประชุมด่วนสุด ๆ เลย กลับไม่ทันอาหารเย็น เช้าก็ไม่เห็นหน้า แต่วันนี้กลับได้อยู่ทานมื้อเช้าด้วยกัน จิตใจฉันยิ่งผ่องใสกว่าเดิม ดีจังเลยน้า~
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านเรย์กะ"
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ทุกคน
อายาเมะจังและคิคุโนะจังทักทายฉัน เราเดินมาด้วยกันพลางวี้ดว้ายแลกเปลี่ยนถึงปิดเทอมที่สนุกสนาน
"ถ้าได้อยู่ห้องเดียวกันอีกก็ดีสิคะ"
"นั่นสิน้า~"
"ปีนี้จะมีโชคได้อยู่ห้องเดียวกับท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจบ้างไหมน้า" อายาเมะจังเอามือกุมแก้ม
ปีนี้จะไร้โชคโดนจับไปอยู่ห้องเดียวกับสองคนนั่นไหมนะคะ
ที่ผ่านมานี่ก็เคยมีดวงตกบ้าง แต่ถึงจะแย่ยังไงคงไม่หวยออกไปอยู่ห้องเดียวกับคู่หูตัวปัญหานั่นหรอกนะ มีหวังแค่อาทิตย์เดียวหัวฉันคงขาวโพลนไปถึงโคนแน่ ๆ อัปมงคล!! ฉันรีบสะบัดหัวไล่ความคิดชั่วร้ายออกไป
พวกเรายืนกันอยู่หน้าบอร์ดประกาศห้อง เป็นอันว่าลัคกี้! ฉันได้อยู่กับแก๊งค์หน้าเดิม ๆ 2-3 คน อ๊ะ นั่นชื่อซาโตมิคุงนี่นา ปีนี้ก็คงรับบทหัวหน้าห้องเหมือนเดิมสินะ ฝากตัวด้วยนะคะ
ส่วนพวกตัวละครหลักและคู่หูนั่นกระจายกันอยู่คนละห้องเลยล่ะ อุฮุฮุ ปีนี้น่าจะสงบสุขดีจริง ๆ
"ดีจังเลยนะคะท่านเรย์กะ ที่พวกเราได้อยู่ห้องเดียวกันอีก" เซริกะจังพูดอย่างร่าเริง
"ฉันก็ดีใจค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะคุณเซริกะ คุณคิคุโนะ คุณรุเนะ" หน้าเดิม ๆ ทั้งนั้นเลย ไม่ต้องโดดเดี่ยวเป็นหมาหัวเน่าแล้ว ฉันยิ้มแย้มรับคำ
พวกเราย้ายเข้ามาเกาะกลุ่มคุยเจื้อยแจ้วในห้องฉัน เพราะว่ายังไม่ถึงเวลาคาบแรก
"เหงาจังเลยค่ะ ฉันโดนดีดออกไปอยู่คนเดียวเลยละ" อายาเมะจังตีหน้าเศร้าสร้อย มุมปากยกยิ้มนิด ๆ
"อ้าว ฉันเห็นนะคะ จนถึงตอนนี้คุณอายาเมะยังไม่หุบยิ้มเลย" เซริกะจังทำสายตาหยอกล้อ
"อิจฉาจังเลยค่ะ ถ้าฉันได้อยู่ห้องเดียวกับท่านเอ็นโจบ้างคงแสนวิเศษ" รุเนะจังทำท่าเคลิบเคลิ้ม
"ฮิฮิฮิ ไว้ฉันจะเอามาเล่าให้ทุกคนฟังบ่อย ๆ นะคะ ฮุฮุฮุฮุฮุ"
นั่นละ อายาเมะจังขาอวยเอ็นโจปีนี้ก็ได้อยู่ห้องเดียวกับเจ้าตัวไป หัวเราะคิกคักท่าทางมีความสุข ยินดีด้วยนะคะ
วันนี้เพิ่งเปิดเทอมวันแรกน่าจะเลิกเร็ว นี่ ๆ เราไปหาคาเฟ่น่ารัก ๆ นั่งจิบโกโก้กินขนมกันเถอะน้า
"ท่านเรย์กะรู้หรือเปล่าคะ ฉันได้ยินมาว่าเทอมนี้อาจารย์จะจัดอีเว้นท์พิเศษ สำหรับระดับชั้นเราโดยเฉพาะด้วยละค่ะ!"
"ตายแล้ว อันนั้นใช่ไหมคะ ฉันตื่นเต้นจริง ๆ เลย!"
"ฉันน่ะ ถ้าเป็นเขาจะทำยังไงดีคะ แค่คิดก็จะวูบแล้ว ไม่ไหวแน่ ๆ ค่ะ!"
อันนั้นน่ะมันอะไรเรอะ ที่แน่ ๆ ทำไมถึงฟังดูอันตรายจังเลยล่ะ... เอ๋ แต่ถ้าโรงเรียนเป็นคนจัดละก็ไม่เป็นไรมั้ง
"อีเว้นท์อะไรหรือคะ ฟังดูน่าสนใจจังเลย"
"ไขปริศนา หาคู่ หรือเมทที่แท้จริงของตัวเองค่ะ! ฉันได้ยินว่าเพื่อสานสัมพันธ์อันดี หน้าที่เราต้องคอยดูแลเทคแคร์คนในคำใบ้ แล้วก็สืบหาเมทของเราไปด้วย สุดท้ายก็เฉลยตัวออกมา! แล้วทั้งคู่ก็จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน... อา ถ้าท่านคาบุรากิเป็นเมทของฉันจะทำยังไงดีคะ แค่คิดก็..."
ทุกคนวี้ดว้ายฝันหวานว่าตัวเองจะเป็นเมทของคาบุรากิ หรือเอ็นโจ ส่วนฉันนั่งอึ้ง
นั่นมันเล่นจับคู่บัดดี้นี่นา ที่ซุยรันนี่มีกับเค้าด้วยเหรอ!? ถึงจะว่าเพื่อสานสัมพันธ์อันดีก็เถอะ ถ้าคนธรรมดาจับได้ pivoine ขึ้นมา จะไม่ถูกว่าทำตัวไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอางั้นเหรอ ว่าไป สมมุติฉันเกิดจับได้วาคาบะจังขึ้นมา แล้วเรื่องทุกอย่างเกิดแดงขึ้นละก็ สถานะทางสังคมฉันจะเป็นยังไงล่ะ...
ฉันเครียดเกินไปหรือเปล่า โอกาสตั้ง 1 ในหลายร้อยที่จะไปโดนวาคาบะจังนะ อ๊ะ แก๊งค์คุณซึรุฮาระก็ไม่เอาเหมือนกัน... กรี้ด ถ้าไปโดนพวกคาบุรากิเข้าล่ะ ถ้าต้องเที่ยวแอบเอาขนมของขวัญไปให้ละก็ได้เกิดข่าวลือแปลก ๆ กันพอดี! แถมน่ากลัวด้วย พวกนี้ก็ไม่เอานะ!
"ท่านเรย์กะคะ ตาเบิกค้างอยู่นะคะ..."
"ช่วงนี้ตาแห้งน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ" ฉันยิ้มอ่อน คุ้ยยาหยอดตามาหยอด
ไม่ได้การ มันคงไม่มีแต่เรื่องเลวร้ายอย่างนั้นหรอก คิดไปคิดมานี่มันออกจะโรแมนติกอยู่นะ ตัวฉันที่เป็นเมทกับคุณสุภาพบุรุษที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน...
"สายัณห์สวัสดิ์ครับ คุณคิโชวอิน" เขาคนนั้นยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
"เอ๋ ไม่จริงน่า..." ตัวฉันอุทานให้กับโชคชะตาซึ่งเล่นตลก
"ครับ เหมือนกับพรหมลิขิตเลยนะ ผมกับคุณ...เราต่างก็เป็นคู่กันมาโดยตลอด เพียงแต่ไม่รู้สึกตัว..." เขาหัวเราะอย่างอ่อนหวาน แววตาที่จับจ้องนั้นทำให้รู้สึกจั๊กจี้บอกไม่ถูก
"คุณเป็น... เมทของฉันงั้นหรือคะ"
"เสมอมาเลยครับ คุณเรย์กะ"
สุ้มเสียงอบอุ่น คุกเข่าพร้อมยื่นช่อดอกไม้น่ารัก ประดับตุ๊กตาสัตว์มีขนตัวเล็กไว้ด้านบน ตัวที่ฉันเคยถักให้เป็นของขวัญคนที่ฉันเป็นเมท...
"ตอนที่ผมรู้ว่าเป็นคุณ ผมไม่อาจห้ามความรู้สึกเป็นสุขที่แสนอ่อนหวานนี้ ไม่ให้เอ่อล้นขึ้นมาได้เลยละครับ"
"กรุณาได้ไหมครับเรย์กะ ให้ผมได้เป็นเมทของคุณต่อไป ที่ไม่ใช่ในความหมายเพื่อน แต่เป็นคู่ชีวิตของคุณ"
ฉันรับช่อดอกไม้นั้นขึ้นมา ดวงตาชุ่มไปด้วยน้ำตา แล้วเราก็สวมกอดกัน ให้สิ่งนั้นเป็นคำตอบแทนที่เสียงที่ตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์จนไม่อาจเปล่ง
"ท่านเรย์กะคะ ตาแห้งอีกแล้วนะคะ..."
"แหม ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วสินะคะ น่าอายจังเลย ฉันค่อนข้างอ่อนไหวกับอากาศหนาวน่ะค่ะ โฮะโฮะโฮะ" ฉันคุ้ยหายาหยอดตาอีกรอบ
.
.
.
นี่ได้จริง ๆ ด้วยล่ะ เช้านี้ก็มีเลือกหัวหน้าห้องและกรรมการ แน่นอนฉันไม่เสนอตัว ซาโตมิคุงกลับคืนสู่ตำแหน่ง อาจารย์มาพูดเข้าเกมบัดดี้ และฉันก็ได้รับคำใบ้มาใบนึง สวัสดีจ้ะฤดูใบไม้ผลิของฉัน!
ว่าแต่ไอนี่มันยังไงกันน่ะ ฉันลองเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามเพื่อนถึงคนในคำใบ้ ส่วนใหญ่ก็พอจะชี้ตัวกันได้ในทันที แสดงว่ามันง่ายปานนั้นเลยสินะ แล้วทำไมของฉันถึงคลุมเครืออย่างนี้อยู่คนเดียวล่ะ!
" ไม่อาจมองหานอกรั้วท่านศึกษา
ไม่ลวงตาพาพลัดพรากห่างหนีหาย
ไม่ปิดกั้นทำใจให้สบาย
สิ่งถวิลหาส่องสว่างท้ายปลายอุโมงค์ "
จะบ้าเรอะ นี่มันปริศนาปัญหาเชาว์แล้วไม่ใช่เหรอ!? จะใช้ไอ้นี่ตามหาคนที่ฉันเป็นเมทได้ยังไงไม่ทราบยะ
มีปัญหา! ของมีตำหนิไม่ผ่านคิวซี! ฉันต้องไปฟ้องอาจารย์ คนคนนั้นที่น่าสงสารน่ะ หากฉันจะปล่อยเลยตามเลยก็คงได้ เพราะเขาก็ไม่รู้จักฉัน หรือยังไงฐานะฉันก็คือ pivoine
แต่ แต่แค่ลองจินตนาการถึงจิตใจของเขา... รอแล้ว รอเล่า ใครกันนะที่เป็นเมท อ๊ะ จะมีอะไรแอบวางไว้ในตู้รองเท้าหรือเปล่านะ ฮะฮะ อ้าว วันนี้ก็ไม่มี... สงสัยคงเป็นคนขี้อายนะ
รอฉันเก้อไปวัน ๆ พอถึงตอนเฉลยตัวตนกลับไม่มีใครเลย... ขอโทษนะ ฉันก็หาเธอไม่เจอเหมือนกัน! ใครกันน่ะ!?
ฉันตัดสินใจอยู่คอยไปปรึกษาอาจารย์หลังเลิกเรียน ส่วนพวกเซริกะจังไปสนุกสนานกันต่อที่คาเฟ่เปิดใหม่ใกล้สถานี...
อาจารย์ช่วยฉันตรวจสอบคำใบ้ เขาก็งงเหมือนกัน เหมือนว่าของคนอื่นจะระบุลักษณะเด่นชัดรายตัวบุคคลไปเลย หากใครดูจะชี้ตัวยากหน่อยก็มีใบ้ห้อง ใบ้ที่นั่ง ความชอบ สุดจะยกมาเพื่อให้ชี้ตัวให้ได้น่ะ
พวกคำใบ้ทั้งหมดนี่ก็ทำโดยซินแสมีชื่อเสียงที่เชิญมาจากประเทศจีน เห็นว่าหาตัวจับยากกว่าจะตกลงทุกอย่างลงตัวนี่นัดหมายกันเป็นปี ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุดแก่นักเรียน เห็นว่าหลักฮวงจุ้ย ชะตา อะไรยุ่งยากก็ไม่รู้ทำให้ต้องไล่ดูข้อมูลนักเรียนทีละคนแล้วหาคนที่เหมาะสมต่อกันด้วยล่ะ จะว่าไปตอนฉันได้คำใบ้นี้มามันก็ไม่ใช่การสุ่มจับอย่างที่ฉันคาดไว้นี่นา
ประเด็นสำคัญอยู่ที่โรงเรียนไม่มีข้อมูลเก็บไว้ เพราะหลังจากซินแสทำพิธีและส่งมอบเสร็จ ก็ลอยละล่องหนีหายไปเลย พอตรวจสอบก็พบว่าไม่มีเอกสารยืนยันใครคือใครแต่ก็ทำอะไรไม่ได้...
ทางสุดท้ายคงต้องรอทุกคนเฉลยตัวกันหมด เฉลยก่อนเฉลยหลังมันก็ทำลายจุดประสงค์การเล่นเกมนี้ไม่มากก็น้อย แต่ให้กระทบน้อยสุดฉันคงต้องปล่อยเลยตามเลย ขอโทษนะ เจ้าคนปริศนา.. ฉันพนมมืออยู่ในใจ
ห้องสโมสรเวลานี้คนเบาบาง ฉันเสียเวลาในห้องพักอาจารย์เสียนานสองนาน ทุกคนคงไปเที่ยวไปสนุกสนานกันหมดแล้วล่ะ จิบชานั่งกินมาการองคนเดียวบรรยากาศซึมเซาชะมัด
ซอสราสเบอร์รี่อร่อยตัดเลี่ยนดีจังน้า กินเพลิน ๆ เติมไขมันให้พุง เฮ้อ ขออีกสักชิ้นก็แล้วกัน
"สวัสดี คุณคิโชวอิน ขอนั่งด้วยได้ไหม"
"สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ" อยู่ด้วยเรอะ
ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ย้ายก้นมานั่งข้างกันหน้าตาเฉย ฉันยังไม่อนุญาตเลยเฟ้ย
-----------------------------
ตัดฉึบฉับ มีต่อนะ ไม่เร็วก็ช้า
ขอบคุณสำหรับฟิคอร่อยๆนะ คิดถึงท่านเรย์กะมากเลย
รออ่านอยู่น้าา
คิดถึงท่านเรย์กะ
/เข้าแถวรอฟิคด้วยคน คิดถึงเหมือนกันค้าบ
ต่อบัดดื้อ คืออ กูทำไรลงไป จากตอนแรกแค่อยากแต่งแบบเรย์กะไปล่าท้าผีเฉย ๆ 55555555
------------
"เฮ้ ฉันยังพูดไม่จบเลยนะชูสุเกะ ช่างเถอะ เธอมาก็ดีคิโชวอิน" คาบุรากิเดินมาจุ่มโซฟาตัวตรงข้าม
เอ๋ ไม่ดีหรอก มีอะไรอีกล่ะ เค้าไม่อยากฟังนะ "สวัสดีค่ะ ท่านคาบุรากิ"
"อา ฉันเพิ่งพูดถึงเรื่องวันนี้ไป ทายซิ ฉันได้ใคร" คาบุรากิทำจมูกฮึดฮัดอย่างตื่นเต้น แขนยันโต๊ะ มุมปากกระหยิ่มยิ้มย่องจ้องมา
เหมือนหมาเลย
ท่าทางน่าหมั่นไส้ชะมัด จะมีใครอีกล่ะทำให้เจ้าเด็กนี่เป็นเอามากขนาดนี้ เออ ก็ไม่เกินความคาดหมายเท่าไหร่หรอก พวกนายน่ะคู่แท้กันอยู่แล้วนี่
"ท่านเอ็นโจหรือคะ"
"ทาคามิจิ วาคาบะต่างหาก!"
"นั่นจงใจใช่ไหมน่ะ คุณคิโชวอิน"
"เอ๋ งั้นหรือคะ คุณทาคามิจิสินะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ โฮะโฮะโฮะ"
โฮะโฮะโฮะโฮะ ขอโทษน้า ตายจริง เป็นวาคาบะจังไปได้ยังไงกันเนี่ย ฉันนี่แย่จริงเชียว ดังนั้นนะ เลิกจ้องฉันแบบนั้นได้แล้วเอ็นโจ มันน่ากลัวนะ
"ท่านคาบุรากิจะใช้โอกาสอันน่ายินดีนี้ทำอย่างไรต่อไปงั้นหรือคะ" มากกว่านี้ชักจะอันตรายเอา ฉันผู้มีหัวใจนกกระจิบจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
คาบุรากิถอนหายใจ แล้วกลับมาพูดอย่างกระฉับกระเฉง
"ฉันวางแผนเอาไว้แล้ว ด้วยดอกไม้และจดหมายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกของฉัน ในนั้นจะบรรยายการกระทำของเธอรายวันว่าทำไมเธอถึงมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร นี่ ฉันได้ไอเดียมาจากตอนประถมนั่นละ ถ้าส่งให้ทาคามิจิได้อ่านทุกวัน ความรู้สึกของฉันมันต้องส่งผ่านไปถึงเจ้าตัวได้ในที่สุดแน่นอน!"
คาบุรากิทำหน้าแบบ ไงล่า นี่มันสุดยอดไปเลยไหมล่ะ เหมือนเห็นประกายวิ้ง ๆ สดใสออกมาเลยละ
"อย่าทำตัวเป็นหูดบนร่างกายเขาอย่างนั้นสิคะ..." เกือบจะโพล่งคำว่าสตอล์กเกอร์ออกมาแล้วไหมล่ะ เจ้าบ้าสตอล์กเกอร์
เอ็นโจที่ก่อนหน้านี้ทำหน้ายิ้ม ๆ เสมองนู่นนี่ คล้ายจะแสดงออกว่า "ผมไม่เกี่ยวนะ" ก็พ่นหัวเราะพรืด
"ผมก็บอกแล้วไงไม่ไหวหรอก มาซายะนี่คิดอะไรด้านเดียวจริง ๆ เลยน้า"
"อะไรเล่า พวกนายเห็นว่ามีอะไรที่ดีกว่าก็พูดมาสักทีสิ" คาบุรากิหน้ามุ่ย
ทำเป็นพูด "อืม~ นั่นสิน้า" แล้วก็หันมาทางนี้
"คุณคิโชวอินมีความคิดดี ๆ บ้างหรือเปล่าครับ" รอยยิ้มนั่นปลอมเปลือกสิ้นดี หมอนี่จงใจแบ่งเหาใส่หัวฉันอีกแล้วค่า! ฉันหาใช่กุนซือของพวกนายนะยะ
นาทีนี้ในห้องสโมสรเหลือแค่เราสามคน สองคนนี้เดินมาแจมโต๊ะฉันจากที่นั่งหลบมุมหลังต้นไม้ มุมอับสายตาพอดี ฉันถึงได้ไม่เห็นในทีแรก
อดคิดไม่ได้ว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนซะแล้ว อา กลิ่นของความวุ่นวาย...
"ฉันมีคำแนะนำแค่อย่างเดียวค่ะ อย่าทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ ที่จริงท่านเอ็นโจน่าจะถนัดเรื่องพวกนี้มากกว่าฉันนะคะ แทนที่จะปรึกษาฉันผู้อ่อนประสบการณ์ ท่านเอ็นโจที่มนุษย์สัมพันธ์ดี ทำทุกอย่างได้ราบรื่นด้วยรอยยิ้มละไมเป็นที่หลงใหลของทุกคนน่ะ จะต้องเป็นที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าฉันแน่นอนค่ะ"
"เอ๋ ไม่จริงสักหน่อย คุณคิโชวอินยังคุยกับคุณลุงขายยากิโทริได้คล่องปร๋ออย่างยอดเยี่ยมเลยนี่นา จนเขาแถมให้ตั้ง 2 ไม้แน่ะ ผมทึ่งมากเลยนะ"
เฮื่อ!! ระ รู้ได้ยังไง!?
"มาซายะเล่าให้ฟังน่ะ ท่าทางน่าสนุกดีนะ" ปากไม่มีหูรูดจริง ๆ คาบุรากิ!!! นี่นายไปเหลาอะไรไว้แค่ไหนกัน
"เทคนิคการสำรวจตลาดว่าด้วยการผันแปรตามสถานการณ์ในการติดต่อกับผู้คนในร้านรวงสินะ ทำเอาฉันคิดว่าเธอเป็นคนประหลาดไปเลยล่ะ แต่มันก็ยอดเยี่ยมจริง ๆ" ท่องทำไม หุบปากแล้วก็ลืมมันไปซะ! นายนั่นแหละคนประหลาด จะหาเรื่องกันใช่ไหม
"ก็คุณคิโชวอินน่ะเป็นคนขยันขันแข็งนี่นา" อุกรี้ด ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มานี่น่าโมโหชะมัด ประชดกันใช่มะ ล้อเลียนเห็น ๆ คิดล่ะสิว่าฉันมันยัยผู้หญิงเห็นแก่กินน่ะ! หนอย นี่ยัวะแล้วนะ
ฉันยืนขึ้นกะจะไปตักขนมอบเพิ่ม เดินหนีมาจากเจ้าพวกนั้นเพื่อสงบสติอารมณ์ คาบุรากินี่บ้าแท้ ๆ เอ็นโจก็ดีแต่ผลักความบ้ามาสุมหัวฉัน ใต้รอยยิ้มจอมปลอมนั่นเจตนาร้ายดำมืดแฝงไว้เต็มไปหมดไว้ใจไม่ได้
มันมีอะไรผิดพลาดกันนะ บ้าอย่างนั้นกลับเป็นพระเอกมีนางเอกอย่างวาคาบะจัง จอมมารนั่นก็มีคนรักเป็นตัวเป็นตนอย่างคุณยุยโกะ
ที่สำคัญทั้งคู่ยังป๊อปปูลาร์! ฉันนี่แห้งแล้งไม่มีใคร! เอาแค่ ผู้ชายที่กล้าสบตาด้วยยังแทบไม่มีเลย
นะ น้ำตามายามัน...
ความหวังอันน้อยนิดกับฤดูใบไม้ผลิแสนริบหรี่ที่จะมาในฐานะคนในคำใบ้ก็เพิ่งถูกดับไป เพราะหากันไม่เจอ!
อ๊ากกกกก ยิ่งคิดยิ่งโมโห อยู่ ๆ ความผิดหวัง เสียใจ แค้นเคืองทั้งปวงก็ถาโถมเข้าใส่ อย่างฉันนี่มันสมควรแล้วสินะกับตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านคานทองอันทรงเกียรติ
ระหว่างสาปแช่งพร้อมบ่นอุบโลกอันไม่ยุติธรรม ก็พลันรู้สึกถึงสัมผัสที่สะกิดเบา ๆ บนไหล่
"นี่ คุณคิโช-"
พอจะหันกลับไปแว้ดใส่อีตาเจ้าเล่ห์ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ต้องให้รู้กันบ้าง ฉันน่ะไม่ใช่ยัยผู้หญิงง่าย ๆ โง่เง่า ที่จะให้พวกนายจิกหัวใช้หรือปั่นหัวเล่นเหมือนเป็นตัวตลก อะไรก็ได้ยังไงก็ได้หรอกนะ! ฉันว่ามันผิดพลาดที่พวกนายน่ะแหละ ขอพาลหน่อยเหอะ
ทันเห็นใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนยิ้มเหมือนทุกทีได้แปปเดียว อื๋อ? หรือออกจะดูเปราะบางกว่าปกตินะ
ยังไม่ทันได้แน่ใจ พริบตาภาพตรงหน้าก็วูบหายไป ห้องอันสว่างไสวดับลงในฉับพลันราวกับใครกดชัตดาวน์
ทุกอย่างดำมืดไปหมด
-----------
เมื่อสายตาเริ่มปรับตัวกับความมืดที่ไม่ทันตั้งตัวนี้ได้ ก็พบว่า
ฉันยืนอยู่คนเดียวในห้องสโมสร
กะ...เกิดอะไรขึ้น?! ไฟดับงั้นเหรอ แต่นี่เพิ่งบ่ายแก่ ๆ ทำไมถึงมืดขนาดนี้ หรือว่าฉันจะสลบไป...?
"...ท่านเอ็นโจ...ท่านคาบุรากิ" เมื่อกี้นายยังอยู่ตรงนี้นี่ ไม่เอา อย่าเล่นกันแบบนี้นะ ไม่ตลกเลยนะ
พอตั้งสติพิจารณาดูอีกที ถึงจะคล้ายกันก็เหอะ ที่นี่มันห้องสโมสรของชั้นเปอติต์นี่นา...
ฉันขนลุกเกรียว นอกจากสถานการณ์ที่ดูไม่ชอบมาพากลแล้ว ความมืดที่เงียบงันและน่าอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกนี่รบกวนฉันมากที่สุดเลยล่ะ
หรือว่าฉันเจอของดีเข้าให้แล้ว... นี่น้ำตาไหลของจริงล่ะนะ
มือถือ มือถือ!! มะ ไม่มี... ฉันวางเอาไว้ในกระเป๋าในห้องสโมสร บ้าเอ๊ย จากนี้จะพกติดตัวตลอดเวลาค่ะ
ไม่ ฉันคงจะฝันไปมากกว่า ไปกระแทกหัวใส่โต๊ะดีกว่าจะได้ตื่นจากฝันร้ายนี่
แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นแสงค่อย ๆ สว่างขึ้นจากหางตา
ไฟฉาย?! คน?! ฉันรอดแล้ว!!!
เอ๋?
ฉันชะงักกึก ช็อคค้าง นั่นมัน....
ต้นแหล่งของแสงนั้นค่อย ๆ ย่างกรายเข้ามาผ่านประตู เป็นเด็กผู้หญิงผมม้วนหรูเริ่ดหน้าตาจิ้มลิ้ม ราวกับถูกปั้นขึ้นมาอย่างปราณีต อายุไม่เกิน 7-8 ขวบ สวมชุดนักเรียนประถมซุยรัน เหมือนฉันสมัยป.1 ไม่มีผิดเพี้ยน
ที่จริงฉันควรจะหวาดกลัวสถานการณ์ที่สุดแสนจะแปลกพิสดารนี่ แต่ไม่รู้ทำไม ราวกับไม่ใช่ความรู้สึกของฉันเอง
กลับรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน
พอกะพริบตาอีกที ตัวฉันก็เปลี่ยนอิริยาบถ กลายเป็นว่ามานั่งบนเก้าอี้ซะงั้น ส่วนมินิเรย์กะก็นั่งอยู่กับโต๊ะที่ไกลออกไปหน่อยทางซ้ายมือ
ฉันไม่ได้นั่งคนเดียวด้วย ตอนนี้ในห้องสโมสรเหมือนมีร่าง เลือนรางดูพร่ามัวอยู่กันตรงนั้นตรงนี้ ส่วนเก้าอี้ตรงหน้าฉันนี่มัน... คาบุรากิ??
ทุกร่างดูเหมือนขยับไปตามจังหวะของตัวเอง เอ่อ พูดคุย จับกลุ่มนั่งจิบชา บอกไม่ได้ว่าใครเป็นใคร มันพร่าเลือนจนมองไม่ออกเหมือนกับกล้องที่ไม่โฟกัส
หน้าคาบุรากินี่ค่อยชัดขึ้นมาหน่อย หมอนี่ก็ตัวเล็กเป็นเด็กประถมเหมือนกัน.. แถมกำลังเคี้ยวช็อกโกแล- ล่าอย่างเมามัน
ฉันหันไปหาแสงสว่างนั้นอีกที 'เธอ'กำลังมองมาทางนี้
ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคาบุรากิ
ฉากเปลี่ยนไป
แม้จะยังคงมืดอยู่บ้างแต่ก็พอมองออก ที่นี่เป็นฟาร์มปศุสัตว์ และฉันกำลังขี่ม้า ควบคู่กันกับคาบุรากิ
ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่มันก็เพลิดเพลินดี สายลมที่พัดผ่านพลอยทำให้รู้สึกสดชื่น อิสระ โลกดูจะมีสีสันขึ้น ถึงทุกคนจะยังพร่าเลือนอยู่ก็เถอะ
สายตาฉันจับไปที่'เธอ'อีกครั้ง เธอผู้สว่างไสว และก็อีกครั้งที่เธอไม่ได้มองฉัน แต่เป็นมาซายะ
.
.
.
ฉันปล่อยให้มันเป็นไป เหมือนกับกำลังเล่นเครื่อง VR อยู่ยังไงยังงั้น แต่ละฉากหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปเรื่อย ๆ และแม้จะไม่ได้ออกแรงเลยสักนิด แต่ฉันก็เดินไป
นี่งานกีฬาสินะ ฉันยืนอยู่ในเต็นท์กำลังจัดการอะไรสักอย่างกับเครื่องปริ้นท์ ผู้คนเดินกันขวักไขว่ครื้นเครง แต่บรรยากาศกลับดูทะมึนทึมทื่อเสียยิ่งกว่าก่อนหน้านี้
รอบข้างฉันมีร่างคนหลายร่างชุมนุมกันเต็มแน่นไปหมด แถมยังส่งเสียงหึ่ง ๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ออกจะน่ารำคาญ แต่ก็มีคนนึงที่ดูไม่ได้นำพา เธอคนนั้นจัดการงานเอกสารต่อไปอย่างขมักเขม้น
มินิเรย์กะไม่ได้สนใจทางนี้เลยแม้แต่น้อย นี่ตัวฉันเอาการเอางานขนาดนั้นเลยงั้นเหรอเนี่ย
อือ น่าน้อยใจนิด ๆ แฮะ..
...เอ๋?
หลังจากนั้นก็มีฉากตัวฉันถูกกวางที่นาระรุมเตะละ ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพน่าขันนั่นเก็บไว้ มาดคุณหนูที่ปกติสวมไว้หลุดลอกไม่เห็นชิ้นดีเลยนะ... ก่อนจะเพิ่งรู้สึกตัวว่านี่ทำอะไรลงไปน่ะห๊า?!?!
ได้ยินเสียงขำก๊ากอยู่ข้าง ๆ คาบุรากิกำลังหัวเราะราวกับจะขาดใจตาย
"นั่นมันอะไรกันน่ะ ยัยนั่นดูงี่เง่าชะมัด-" หัวเราะจนสำลัก
"อย่าพูดอย่างนั้นสิมาซายะ น่าสงสารออกนะ"
"ปากว่างั้นแต่นายถ่ายรูปเธอเก็บไว้เนี่ยอะนะ" คาบุรากิขมวดคิ้วจ้องมาทั้งยิ้ม "ส่งให้ฉันด้วย ยูริเอะจะต้องได้เห็น"
.
.
.
เครื่องเล่นเล่นไปเรื่อย ๆ โดยมี'เธอ'เป็นตัวเอก...
ครั้งหรือสองครั้ง ไม่สิ มากกว่านั้น ฉันรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังอมยิ้ม หรือหัวเราะออกมาขณะสังเกตเธอที่กำลังใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ กินขนม คุยเล่น กินข้าว เหม่อลอย หรือทะเลาะกับบรรดาสรรพสัตว์ ส่วนใหญ่จะเป็นนก
แล้วหัวใจที่ซึมกะทือก็เหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมา
โดยไม่รู้ตัว รอบข้างที่เคยมืดทึมอึดอัด ก็กลับมีสีสัน
แต่แล้วก็เย็นเยียบอยู่ช่วงหนึ่ง
--------------
มีต่อน้า พยายามลงทีละ2โพสต์(´;ω;` ) แต่กะผิดแม้งเง้ยยยย
ปล.จะงงกันมั้ยวะ ไม่ต้องห่วงกูก็งง
ช่างน่าเศร้า
ขอบคุณกาวนะเมิง คิดถึงท่านเรย์กะ
โห กูไม่ได้เข้าโม่งมานานมากๆๆๆ ยังมีฟิคกาวอยู่อีกเหรอวะ 555555
https://x.com/wwxwashere/status/1817933629319716869?t=-q_UffaW-hluG8nDLh1K1g&s=19
ไถเจอทวีตนี้แล้วนึกถึงท่านเรย์กะกับโม่งซุยรันขึ้นมาเลย เราจะได้อ่านตอนที่ 300 กันใช่ไหม 😭😭
เราเข้า 6 ปี 9 เดือนจากลาสต์อัปเดตล่ะ
เลขสวยดีนะ
คิดถึงท่านเรย์กะ
https://www.facebook.คอม/share/p/3h89eHQy6LQb2fUX/?mibextid=oFDknk
เห็นละนึกถึงท่านเรย์กะเลย
กู วาด แฟนอาร์ตจากฟิค
https://fanboi.ch/webnovel/7425/981-984/
ขอมอบเป็นเครื่องบรรณาการ เพราะมันก๊าวใจ แบบว่าคนเรามันก็ต้องมีความหวังบ้างใช่ไหมวะ ถ้ามึงว่างๆ หายเหนื่อยก็ลองแวะกลับมาจิบชาที่นี่ได้นะเว้ย กูจะขุดตัวเองจากกองงานวิ่งมาจูบมึง....
https://imgur.com/a/M6VY4NW
ปล. มึงยังจะอัพตอนจบอยู่มั้ยวะ55555 คือพอได้รู้ว่ามีตอนที่ไม่ถูกอัพ กูงี้จั๊กจี้ใจอย่างกับเวลาจำทำนองได้แต่ลืมเนื้อเพลงเลยว่ะ ในนี้มันแปะ word หรือ pdf ได้มั้ย ไม่ไหวไม่ต้องจบสวยก็ได้กูอยากรู้จะเกิดอะไรขึ้นกับฉากต่อไปถถถถถ
ไถอ่านแนวๆนางร้ายเกิดใหม่กาวๆแล้วนึกถึงท่านเรย์กะเลยย้อนกลับมาดู
ตกใจมากที่นี่ยังไม่ร้างแถมมาไกลมาก คนรักเจ้าแม่เยอะจริงๆ
มู้นี้ยังไม่ตาย ดีใจ
ขอบคุณโม่งสายผลิตนะ
ในฐานะ 1 ในโม่งฟิค กุโอเคนะที่จะเอาไปลงรี้ด เพราะอยากอ่านอีกรอบเหมือนกัน แต่ขก.ไล่อ่านตามมู้แล้วอะ
กุว่าคงไม่มีใครว่าหรอกถ้าจะเอาฟิคโม่งไปลง(ขอแค่ไม่เอารายได้อ่ะนะ)
กุชอบฟิคคู่หู่ทะลุมิติสุด แต่เนื้อเรื่องแม่งไม่เดินเลย(บางทีกุอาจจะชอบความฮามากกว่าความหวานมั่ง นึกภาพคนนิสัยแบบเจ้าแม่ไปหวานแววไม่ออกจริงๆ เจอคาบุรากิเตะสะกัดขาตบกกันทั้งชาติน่าจะฮากว่า)
เท่าที่สังเกตุช่วงปี2013นี้แถบจะลงรายวันเลยมั่ง แล้วตั้งแต่ตอนที่200ขึ้นไปก็เริ่มถี่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งช่วง2017นี้แถบจะเดือนล่ะตอนแล้ว
อย่างว่า เขียนฟรีทำกุศลไม่ได้ก่อรายได้ ขนาดคนเขียนHXHนั้นอาชีพหลักแกด้วยซ้ำยังแถบจะลูกผีลูกคน อันนี้เขียนฟรีไม่ใช่อาชีพหลักด้วยซ้ำแค่นี้ก็เหลือแหล่แล้ว
(แต่เสียดายที่ไม่เคยทำหนังสือ นิยายจะ11ปีแล้วปีเล่าถ้าทำหนังสือแบบเฮียวกะ ปกแนวไม่ใช่อนิเมะแล้ววางขาย ปานี้คงมีเทะให้เราดูไปแล้ว
เห็นงี้แต่เรื่องนี้Top10ของเว็ปเลยน่ะ)
คิดถึงท่านเรย์กะฟ่ะ นักอ่านป่านนี้ไปมีลูกกันออกจากหมู่บ้านคานทองกันหมดแล้ว แต่เจ้าแม่กูยังอยู่เฝ้าบ้านเป็นสาวสวยโสดไฮโซที่ไม่มีใครอยู่เลยนะ ชีวิตท่านเรย์กะของกูมีบริวารดีแต่ต้องอาภัพรักจริงๆหรอ
!!! ตอน 300 จงมา !!!
ฟิคคู่หูทะลุมิติกูก็ชอบ ถ่ายทอดความเป็นคาบุรากิได้ไหลลื่นดี แม่งฮา จำได้ชอบฉากต่อเส้นพาสต้ากัน แบบมันไร้สาระสมเป็นคู่หูบ้าบอจริงๆ
ส่วนฟิค a-z ทำกูเคลิ้มรู้ตัวอีกทีกำลังพายเรือคาบุรากิไปซะแล้ว ว่าแล้วก็คิดถึงจัง ถ้าไม่มีวัตถุดิบใหม่ๆ โม่งผลิตก็อยู่ยากอะเน้อ ทุกคนเก่งมากที่ยังอยู่มาขนาดนี้ กูก็จะมีความหวังต่อไปเหมือนกัน...
>>603 ก็ยังอยู่ในหมู่บ้านคานทองเป็นเพื่อนท่านเรย์กะเนี่ย... ว่าแต่ไหนท่านเรย์กะวะ---
เอาเวลาที่เล่นโม่ง พอให้เก็บเงินได้หลาย ๆ แสน
แล้วเอาไปเทรด Forex ได้แล้ว
ผมเทรดไม่กี่วันได้มาแล้ว 450,000
ก็ไปอ่านเจอบนเฟสมาว่าคนแต่งสอบติดราชการญี่ปุ่น เลยแต่งต่อไม่ได้เพราะผิดกฎหมายหารายได้นอกเหนือจากงานราชการ จริงป่ะพวกมึง กูจะได้หายคาใจสักทีว่าคนแต่งหายไปไหน
ว่าแต่แต่งลงเว็บมันได้ตังค์เรอะ
>>606 ส่วนตัวกูว่าไม่น่าใช่ กูไม่แน่ใจเรื่องรายได้จากเว็บเหมือนกัน แต่ทางอื่นคือท่านฮิไม่ได้ขายลิขสิทธิ์อะไรให้ที่ไหนเลยแม้แต่ที่ญี่ปุ่นเอง ถ้าขายนะรายได้มันเยอะชหแน่นอนเรื่องนี้
จากมโน(กาว)ของกูคือมีลูก แล้วต้องทุ่มเทเวลาเลี้ยงลูกเพื่อให้เป็นดาวในวงสังคมไฮโซตามประสาแม่บ้านญี่ปุ่น(?) 555555555555555555
>>606 บ้ามึง แค่เขียนลงเว็บให้อ่านฟรีเฉยๆ ไม่ได้ขาย lc ไม่ได้ติดเหรียญหรือรับโดเนทมันจะมีรายได้ยังไง ตัวจริงนางไม่เคยพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ ในเว็บก็มีแต่เนื้อหานิยายไม่มี talk คนเขียน ไอ้เรื่องเป็นข้าราชการ เป็นคุณหนูไฮโซนี่มโนกันเฉยๆ แต่คนดันเชื่อเป็นจริงเป็นจังไม่รู้ไปเอามาจากไหน
>>608 กูว่าเรื่องท่านฮิเป็นคุณหนูไฮโซนี่ เพราะท่านเรย์กะในเรื่องไลฟ์สไตล์อะไรมันดูรวยมาก ไม่เหมือนเรื่องอื่นที่ตะโกนว่า กูรวย!!! แต่อาหารการกิน ของที่ซื้อคือดูรวยอะมึง คหสต. กูนะ
เลยไม่แปลกที่คนจะมโนกันว่าท่านฮิเป็นคุณหนูที่โดนครอบครัวจับได้ว่าแอบมาแต่งนิยายลงเว็บอะ 5555555555556 แต่ก็แนวขำๆกาวๆอะมึง เพราะที่พ่นๆกันนี่ก็ไม่ใช่แฟคกันทั้งนั้นแหละ
จริงๆเค้กของคุณฮิโยโกะคือคุณเรย์กะเอง แล้วตอนนี้โดนเอนจอยคุงจับได้ว่าแอบเอาเรื่องตัวเองมาเขียนนิยายเลยโดนเอาไปแบล๊คเมลไม่กล้าเขียนต่อ
"ท่านเรย์กะคะ ถ้าไม่รีบตื่นตอนนี้จะไปโรงเรียนสายแล้วนะคะ"
ฉันสะดุ้งตื่นรีบคว้านาฬิกาที่มีมูฟวิ่งไดมอนด์กลิ้งอยู่บนแผงหน้าปัดมาดูเวลา สายแล้วจริง ๆ ด้วย!!
ไม่รอช้าฉันรีบเรียกคุณเมดเข้ามาช่วยแต่งตัว ปกติก็ไม่ทำหรอกนะ ก็โตแล้วน่าอายนี่นา แต่ฉันยอมใช้ความกล้าตรงนี้มากกว่าจะต้องแบกหน้าในฐานะคนมาสายเดินเฉิดฉายเข้าไปในห้องเรียนอะนะ!
โชคดีที่คนขับรถมีความสามารถ ถึงโรงเรียนได้ไวกว่าที่คาด ฉันก้าวขายาว ๆ พลางเอามือดุนหัว
...โอย ปวดชะมัด ไม่น่ามัวเลือกเสื้อจนดึกเลย ทั้งที่จริงก็มีแค่ฉัน ยูกิโนะคุง แล้วก็เอ็นโจที่จะไปดูดอกไม้ไฟ ไม่จำเป็นต้องพิถีพิถันราวกับแต่งตัวไปออกปาร์ตี้ แต่ก็ไม่อยากจะโดนหมอนั่นจับได้เอาอะนะว่าอินี่มันไร้เซนส์ด้านแฟชั่น
พอเรียนเสร็จยังต้องไปรับการเทรนนิ่งสไตล์คาบุรากิที่หลวมตัวตกลงไปอีก เก็บตัวเงียบหลายวันขนาดนี้ก็หมดสิทธิเอาเรื่องปวดกล้ามเนื้อมาใช้เป็นข้ออ้างอีกต่อไป
แต่ฉันไม่อยากฝึกหนักนรกแตกแบบนั้นอีกแล้ว พอบ่นออดๆ ว่า "ยังปวดกล้ามเนื้ออยู่อีกนิดหน่อยค่ะ..." คาบุรากิก็ยอมย่อหย่อนให้ว่า "ช่วยไม่ได้ วันนี้เอาเป็นเมนูเบาๆ
หน่อยก็แล้วกัน"! พูดไปก็ไม่มีอะไรจะเสียนี่เนอะ
ระหว่างนั่งรถกลับบ้านพลางพึงใจว่าโชคดีจังที่วันนี้เอ็นโจไม่อยู่ ไม่งั้นคงโดนจับได้ว่าเป็นโคโระจังไปแล้ว
ก็มีเมลจากเอ็นโจส่งมา
ฉันตกใจจนหลุดเสียงแปลก ๆ อันเป็นกิริยาที่ไม่เหมาะสมออกไป
"สวัสดีตอนเย็นครับคุณคิโชวอิน คอร์สลดน้ำหนักกับมาซายะสนุกดีหรือเปล่า? วันนี้เสียดายจังนะที่ไม่ได้ไปช่วย แต่ผมไปเจอนิยายสนุก ๆ เรื่องหนึ่งมา เรื่องนี้ไง พอจะรู้จักมั้ย? อย่างตอนนี้ก็กำลังนั่งอ่านอยู่เลย อยู่ที่ Storia del Caffè สาขา 42. Warm Rum Chocolate Brownie ของที่นี่อร่อยมากเลยนะ"
เมื่อเปิดประตูเข้าไปในร้านคาเฟ่สไตล์ยุโรปตกแต่งสีเขียวที่ดูสบายตา ก็พบเอ็นโจนั่งอยู่ก่อนแล้ว ภายในร้านมีคนไม่มากแม้เป็นเวลาเลิกงานก็ตาม เอ็นโจที่นั่งจิบเครื่องดื่มโดยมีพนักงานและสาว ๆ ภายในร้านมองตาพร้อยเมื่อเห็นฉันก็ส่งยิ้มให้
"คุณคิโชวอิน นั่งก่อนสิ" จากนั้นก็มีบริกรหญิงเดินมารับออเดอร์ หลังจากโดนคะยั้นคะยอก็จำใจสั่งเจ้า Warm Rum Chocolate Brownie มาคู่กับกาแฟทั้งที่น่าจะกระเดือกไม่ลง
"ที่นี่บรรยากาศดีจังเลยนะคะ" ฉันโปรยยิ้มเป็นมิตรเป็นการขัดตาทัพ อย่าน่า มืออย่าสั่นสิ
"นั่นสิเนอะ ผมนั่งอ่านหนังสือที่นี่จนลืมเวลาเลยล่ะ"
มาแล้ว
" 'นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ' ว่าไง ตกลงคุณคิโชวอินรู้จักหรือเปล่านะ"
ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวฉันทำหน้าอย่างไรอยู่ ที่แน่ ๆ ในหัวนั้นประมวลผลอย่างหนักจนจะมีควันออกหูอยู่แล้ว
ความเครียดนี้ถ้าโชคดีผมคงหงอกไปแค่กระจุกเดียว แต่ถ้าโชคร้ายคงต้องเริ่มหาซื้อยาย้อมผมชั้นดีตั้งแต่คืนนี้
ยิ่งคิดยิ่งห้ามมือตัวเองขึ้นมาขยี้ ๆ หัวให้ยุ่งเหยิงไปซะยากขึ้นทุกที ฉันนี่โง่จอมโง่! เอ็นโจจับได้แล้ว!! นิยายที่ฉันแอบลงในเว็บออนไลน์
ตอนแรกก็เป็นแค่ไดอารี่ขำ ๆ เท่านั้นแหละ แต่พอเขียนไปเรื่อย ๆ ก็นึกสนุก เปลี่ยนเป็นนิยายไปซะงั้น แต่ก็ยังคงความเป็นไดอารี่คืออิงจากเรื่องจริงของฉันเอง
แล้วฉันก็คิดว่าไหน ๆ ก็แต่งมาสนุกขนาดนี้ ถ้าลงให้คนอื่นร่วมอ่านด้วยจะเป็นยังไงนะ และเพราะไม่คิดว่าคุณหนูซุยรันจะมีรสนิยมการอ่านนิยายเว็บออนไลน์อย่างแน่นอน ลงท้ายก็เลยแค่เปลี่ยนชื่อตัวละครทั้งหมดแล้วก็ลงเว็บให้อ่านฟรีอย่างบ้าบิ่น ที่ผ่านมาก็มีความสุขกับการอ่านคอมเม้นท์ที่สนุกสนานต่าง ๆ ตลอดมาถึงได้ลงอยู่เรื่อย ๆ
แต่เอ็นโจดันมาจับได้อย่างนี้ อา วันนี้คงเป็นวันพิพากษาความตายของคิโชวอิน เรย์กะสินะคะ ท่านพี่คะ วันนี้น้องบอกรักท่านพี่หรือยัง ลาก่อนนะคะ ท่านแม่ ท่านพ่อ
เอ็นโจยังคงมองฉันยิ้ม ๆ ฉันก็ได้แต่สั่งเสียในใจอย่างกล้าหาญ
ยังไม่ได้กินบราวนี่เลย...
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.