คุณคิโชวอินพยักหน้าหงึกหงัก หยิบมือถือออกมาพิมพ์ตอบกลับ
“พอดีลืมเอาไว้ในล็อคเกอร์เลยว่าจะเดินกลับไปเอา แต่ฝนตกมาซะก่อนก็เลย...”
จากข้อความนี้ทำเอาเขาเกือบจะหลุดขำออกมาแล้ว แต่ถ้าหัวเราะตอนนี้เขาน่าจะโดนโกรธอีกแหงๆ ทางที่ดีไม่ควรไปทำให้เธอต้องขัดใจดีกว่า
ชูสุเกะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
“งั้น...ให้ไปส่งมั้ย”
คุณคิโชวอินมีสีหน้าที่ดูเคลือบแคลง เขาก็ได้แต่ส่งยิ้มอ่อนบางที่คิดว่าน่าจะดูจริงใจที่สุดไปให้ มันคงไม่ได้ผลเท่าไหร่เพราะเธอพิมพ์ข้อความตอบกลับมาแล้วยื่นให้เขาอ่าน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวฝนก็คงหยุด”
นั่นไม่น่าจะใกล้เคียงความจริง เพราะฝนตกหนักลงมาเหมือนฟ้ารั่วขนาดนี้ คงไม่น่าจะหยุดในสิบหรือยี่สิบนาทีนี้หรอก นี่คงเป็นคำปฏิเสธเพื่อที่จะไม่อยากอยู่ใกล้ๆเขามากกว่า
ก็น่าน้อยใจเหมือนกันนะ
เขาจิ้มนิ้วไปตามแป้นพิมพ์ทัชสกรีน คุณคิโชวอินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยกับข้อความนั้น
“คุณคิโชวอินเคยได้ยินเรื่องระเบียงที่ว่างเปล่ามั้ย”
สีหน้าเธอดูสงสัย เขาเลยพิมพ์ต่อ
“เป็นเรื่องเจ็ดสิ่งลี้ลับของซุยรันน่ะ ว่ากันว่าในซุยรันจะมีสถานที่หนึ่งที่จะนำไปสู่ต่างมิติได้ ในอดีตเคยมีนักเรียนสามคนเดินผ่านระเบียงที่ว่างเปล่าไร้ผู้คนในวันฝนตก สองคนออกเดินนำหน้าคุยกัน แต่พอหันกลับมาเพื่อนอีกคนก็หายไปแล้ว หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ”
คุณคิโชวอินตาเบิกโพลง เหลียวซ้ายแลขวาไปรอบๆตัวดูระแวดระวัง
“หลังจากนั้น คนที่เดินผ่านระเบียงตรงนั้นคนเดียวก็จะได้ยินเสียงฝีเท้าของคนมาเดินด้วยข้างๆ แต่พอหันไปก็จะไม่เห็นใคร แล้วบางทีก็จะได้ยินเสียงร้อง ช่วยด้วย ช่วยด้วย…”
ใบหน้าเธอซีดขาว สายตาดูล่อกแล่กกระสับกระส่าย ชูสุเกะอยากจะหัวเราะแต่ก็ต้องอดกลั้นไว้ ตอนนี้ไหล่เขาสั่นอยู่รึเปล่านะ
“ไปจากที่นี่กันเถอะค่ะ”
คุณคิโชวอินที่ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความอยู่พักใหญ่ๆตอบกลับมา มือดูสั่นๆเล็กน้อย
ชูสุเกะพยักหน้ายิ้มๆ กางร่มออกอีกหน เมื่อเธอเดินเข้ามาใต้ร่มก็เอียงร่มให้เอนไปทางเธอมากกว่าปกติเพื่อบังฝนไม่ให้เธอเปียก มองหน้าตาตอนนี้ของคุณคิโชวอินที่อย่างกับจะรีบบอกว่าให้รีบๆไปจากตรงนี้ได้แล้ว เขาก็ออกเดิน
เรื่องที่เล่าไปเมื่อครู่นี้โกหกล้วนๆ เขาเอามาจากอินเตอร์เน็ตต่างหาก
ถ้าพิจารณาให้ดีก็จะรู้ว่านี่เรื่องแต่ง ใครจะไปได้ยินเสียงตอนฝนตกกันล่ะ แต่คุณคิโชวอินที่ขี้กลัวเหมือนกระต่ายก็คงไม่มีเวลาไปคิดถึงเรื่องนั้นล่ะมั้ง
ชูสุเกะรู้ว่าการใช้วิธีแบบนี้มันออกจะหน้าไม่อายอยู่หน่อยๆ แต่เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ดีอะไรนักหนา เห็นเธอตั้งท่าพองขนป้องกันตัวเองขนาดนั้น มันก็ทำให้เขารู้สึกอยากแกล้งเธอขึ้นมา
หลังจากเดินออกมาไกลจากระเบียงตรงนั้น คุณคิโชวอินก็มีสีหน้าที่โล่งใจแบบเห็นได้ชัด
การได้มองเธอเปลี่ยนสีหน้าได้อย่างรวดเร็วและหลากหลายก็ถือเป็นความสนุกและเพลิดเพลินอีกอย่างในรั้วโรงเรียนของเขา ช่างเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วทำให้ชีวิตไม่น่าเบื่อเลยจริงๆ แค่เดินอยู่ข้างๆและเงียบๆแบบนี้ก็รู้สึกสนุกแล้ว
เขาเหลือบมองสายฝนที่โปรยปรายลงมา ถึงจะไม่มีการพูดคุยหรือไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยก็ช่าง แต่เขาก็รู้สึกสนุกจนอยากให้ทางเดินนี้ทอดยาวออกไปไกลกว่านี้อีกสักหน่อย
เพราะฉะนั้น อย่าเพิ่งหยุดตกเลยนะ