/เข้าแถวรอฟิคด้วยคน คิดถึงเหมือนกันค้าบ
ต่อบัดดื้อ คืออ กูทำไรลงไป จากตอนแรกแค่อยากแต่งแบบเรย์กะไปล่าท้าผีเฉย ๆ 55555555
------------
"เฮ้ ฉันยังพูดไม่จบเลยนะชูสุเกะ ช่างเถอะ เธอมาก็ดีคิโชวอิน" คาบุรากิเดินมาจุ่มโซฟาตัวตรงข้าม
เอ๋ ไม่ดีหรอก มีอะไรอีกล่ะ เค้าไม่อยากฟังนะ "สวัสดีค่ะ ท่านคาบุรากิ"
"อา ฉันเพิ่งพูดถึงเรื่องวันนี้ไป ทายซิ ฉันได้ใคร" คาบุรากิทำจมูกฮึดฮัดอย่างตื่นเต้น แขนยันโต๊ะ มุมปากกระหยิ่มยิ้มย่องจ้องมา
เหมือนหมาเลย
ท่าทางน่าหมั่นไส้ชะมัด จะมีใครอีกล่ะทำให้เจ้าเด็กนี่เป็นเอามากขนาดนี้ เออ ก็ไม่เกินความคาดหมายเท่าไหร่หรอก พวกนายน่ะคู่แท้กันอยู่แล้วนี่
"ท่านเอ็นโจหรือคะ"
"ทาคามิจิ วาคาบะต่างหาก!"
"นั่นจงใจใช่ไหมน่ะ คุณคิโชวอิน"
"เอ๋ งั้นหรือคะ คุณทาคามิจิสินะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ โฮะโฮะโฮะ"
โฮะโฮะโฮะโฮะ ขอโทษน้า ตายจริง เป็นวาคาบะจังไปได้ยังไงกันเนี่ย ฉันนี่แย่จริงเชียว ดังนั้นนะ เลิกจ้องฉันแบบนั้นได้แล้วเอ็นโจ มันน่ากลัวนะ
"ท่านคาบุรากิจะใช้โอกาสอันน่ายินดีนี้ทำอย่างไรต่อไปงั้นหรือคะ" มากกว่านี้ชักจะอันตรายเอา ฉันผู้มีหัวใจนกกระจิบจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
คาบุรากิถอนหายใจ แล้วกลับมาพูดอย่างกระฉับกระเฉง
"ฉันวางแผนเอาไว้แล้ว ด้วยดอกไม้และจดหมายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกของฉัน ในนั้นจะบรรยายการกระทำของเธอรายวันว่าทำไมเธอถึงมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร นี่ ฉันได้ไอเดียมาจากตอนประถมนั่นละ ถ้าส่งให้ทาคามิจิได้อ่านทุกวัน ความรู้สึกของฉันมันต้องส่งผ่านไปถึงเจ้าตัวได้ในที่สุดแน่นอน!"
คาบุรากิทำหน้าแบบ ไงล่า นี่มันสุดยอดไปเลยไหมล่ะ เหมือนเห็นประกายวิ้ง ๆ สดใสออกมาเลยละ
"อย่าทำตัวเป็นหูดบนร่างกายเขาอย่างนั้นสิคะ..." เกือบจะโพล่งคำว่าสตอล์กเกอร์ออกมาแล้วไหมล่ะ เจ้าบ้าสตอล์กเกอร์
เอ็นโจที่ก่อนหน้านี้ทำหน้ายิ้ม ๆ เสมองนู่นนี่ คล้ายจะแสดงออกว่า "ผมไม่เกี่ยวนะ" ก็พ่นหัวเราะพรืด
"ผมก็บอกแล้วไงไม่ไหวหรอก มาซายะนี่คิดอะไรด้านเดียวจริง ๆ เลยน้า"
"อะไรเล่า พวกนายเห็นว่ามีอะไรที่ดีกว่าก็พูดมาสักทีสิ" คาบุรากิหน้ามุ่ย
ทำเป็นพูด "อืม~ นั่นสิน้า" แล้วก็หันมาทางนี้
"คุณคิโชวอินมีความคิดดี ๆ บ้างหรือเปล่าครับ" รอยยิ้มนั่นปลอมเปลือกสิ้นดี หมอนี่จงใจแบ่งเหาใส่หัวฉันอีกแล้วค่า! ฉันหาใช่กุนซือของพวกนายนะยะ
นาทีนี้ในห้องสโมสรเหลือแค่เราสามคน สองคนนี้เดินมาแจมโต๊ะฉันจากที่นั่งหลบมุมหลังต้นไม้ มุมอับสายตาพอดี ฉันถึงได้ไม่เห็นในทีแรก
อดคิดไม่ได้ว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนซะแล้ว อา กลิ่นของความวุ่นวาย...
"ฉันมีคำแนะนำแค่อย่างเดียวค่ะ อย่าทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ ที่จริงท่านเอ็นโจน่าจะถนัดเรื่องพวกนี้มากกว่าฉันนะคะ แทนที่จะปรึกษาฉันผู้อ่อนประสบการณ์ ท่านเอ็นโจที่มนุษย์สัมพันธ์ดี ทำทุกอย่างได้ราบรื่นด้วยรอยยิ้มละไมเป็นที่หลงใหลของทุกคนน่ะ จะต้องเป็นที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าฉันแน่นอนค่ะ"
"เอ๋ ไม่จริงสักหน่อย คุณคิโชวอินยังคุยกับคุณลุงขายยากิโทริได้คล่องปร๋ออย่างยอดเยี่ยมเลยนี่นา จนเขาแถมให้ตั้ง 2 ไม้แน่ะ ผมทึ่งมากเลยนะ"
เฮื่อ!! ระ รู้ได้ยังไง!?
"มาซายะเล่าให้ฟังน่ะ ท่าทางน่าสนุกดีนะ" ปากไม่มีหูรูดจริง ๆ คาบุรากิ!!! นี่นายไปเหลาอะไรไว้แค่ไหนกัน
"เทคนิคการสำรวจตลาดว่าด้วยการผันแปรตามสถานการณ์ในการติดต่อกับผู้คนในร้านรวงสินะ ทำเอาฉันคิดว่าเธอเป็นคนประหลาดไปเลยล่ะ แต่มันก็ยอดเยี่ยมจริง ๆ" ท่องทำไม หุบปากแล้วก็ลืมมันไปซะ! นายนั่นแหละคนประหลาด จะหาเรื่องกันใช่ไหม
"ก็คุณคิโชวอินน่ะเป็นคนขยันขันแข็งนี่นา" อุกรี้ด ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มานี่น่าโมโหชะมัด ประชดกันใช่มะ ล้อเลียนเห็น ๆ คิดล่ะสิว่าฉันมันยัยผู้หญิงเห็นแก่กินน่ะ! หนอย นี่ยัวะแล้วนะ
ฉันยืนขึ้นกะจะไปตักขนมอบเพิ่ม เดินหนีมาจากเจ้าพวกนั้นเพื่อสงบสติอารมณ์ คาบุรากินี่บ้าแท้ ๆ เอ็นโจก็ดีแต่ผลักความบ้ามาสุมหัวฉัน ใต้รอยยิ้มจอมปลอมนั่นเจตนาร้ายดำมืดแฝงไว้เต็มไปหมดไว้ใจไม่ได้
มันมีอะไรผิดพลาดกันนะ บ้าอย่างนั้นกลับเป็นพระเอกมีนางเอกอย่างวาคาบะจัง จอมมารนั่นก็มีคนรักเป็นตัวเป็นตนอย่างคุณยุยโกะ
ที่สำคัญทั้งคู่ยังป๊อปปูลาร์! ฉันนี่แห้งแล้งไม่มีใคร! เอาแค่ ผู้ชายที่กล้าสบตาด้วยยังแทบไม่มีเลย
นะ น้ำตามายามัน...
ความหวังอันน้อยนิดกับฤดูใบไม้ผลิแสนริบหรี่ที่จะมาในฐานะคนในคำใบ้ก็เพิ่งถูกดับไป เพราะหากันไม่เจอ!
อ๊ากกกกก ยิ่งคิดยิ่งโมโห อยู่ ๆ ความผิดหวัง เสียใจ แค้นเคืองทั้งปวงก็ถาโถมเข้าใส่ อย่างฉันนี่มันสมควรแล้วสินะกับตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านคานทองอันทรงเกียรติ
ระหว่างสาปแช่งพร้อมบ่นอุบโลกอันไม่ยุติธรรม ก็พลันรู้สึกถึงสัมผัสที่สะกิดเบา ๆ บนไหล่
"นี่ คุณคิโช-"