ช่วยด้วยค่ะ มีคนมาต่อฟิคนี้ไหมคะหาไม่เจอ ตอนนี้ใจจะขาดรอน ๆ 😭
กาลครั้งหนึ่งในฝัน ตอนพิเศษ 2.2
ชิบหายแล้วกู มาอะไรตอนตลาดวายอะ มีใครมาช่วยแปะหน่อยได้ไหม คุ้น ๆ ก็ยังดี กาวให้เลยก็ขอบคุณมากค่ะ
ช่วยด้วยค่ะ มีคนมาต่อฟิคนี้ไหมคะหาไม่เจอ ตอนนี้ใจจะขาดรอน ๆ 😭
กาลครั้งหนึ่งในฝัน ตอนพิเศษ 2.2
ชิบหายแล้วกู มาอะไรตอนตลาดวายอะ มีใครมาช่วยแปะหน่อยได้ไหม คุ้น ๆ ก็ยังดี กาวให้เลยก็ขอบคุณมากค่ะ
กูเป็นโม่งใหม่ที่เข้ามาครั้งแรก 6 ปีที่แล้วแล้วเพิ่งจะเข้ามาอีกที ขอบคุณฟิคกาวทั้งหลายมากนะมึง เยียวยากูดีจริง ๆ
พวกมึงกาวกันเก่งมาก ตั้งแต่เรือเล็ก ๆ ไปจักรวาลยานแม่ลำใหญ่โต มีหลายกาแล็กซีมิติโลกคู่ขนานแตกขยายแยกย่อยไปเยอะแยะเลย กูรักพวกมึงนะ
((มันคงจะดีถ้ามีตอนต่อของฟิคที่ชะงักไป หรือกาวใหม่ ๆ ที่งอกเพิ่มมา กูบอกเฉย ๆ นะมึง))
จู่ ๆ ก็คิดถึงท่านเรย์กะขึ้นมา
ฟิคเกมบัดดี้ค่ะ (เอ็นเรย์) ใครว่าง ๆ หลงเข้ามาอ่านก็โชคดีนะ
กูแค่คนรอฟิคคนนึง ระหว่างนั้นก็อยากลองเอากาวมาเสิร์ฟบ้าง.. ตอนแรกก็จะสั้น ๆ แต่งไปมา เห้ย ยาว แล้วมันสูบเวลาชีวิตจริงด้วย กูยิ่งซาบซึ้งโม่งฟิคเข้าไปใหญ่ โฮ ขอบคุณน้า กูไม่ได้ตั้งใจจะกดดันนะTT
มือใหม่ อ่านแล้วติดขัดหลุดคาร์ง่วงนอน กูขอโทษษ
(คิดซะว่าเป็นฟิคในโลกคู่ขนานนะ)
------------
วันนี้เปิดเทอมวันจันทร์ ฉันตื่นและลุกขึ้นจากเตียงนุ่มฟูอุ่นสบายด้วยอารมณ์แจ่มใส แสงแดดอ่อนส่องเข้ามาผ่านหน้าต่าง ฉันเปิดม่านมองออกไป อากาศใช้ได้เลย เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับวันแห่งการเริ่มต้นอย่างวันเปิดเทอมนะ
แหม ถ้าวันแรกมันผ่านไปได้ดีเสียอย่าง ฉันก็เหมือนได้รับพรให้ใช้ชีวิตตลอดเทอมได้ราบรื่นไร้ปัญหาแล้วล่ะนะ
วันนี้ก็ม้วนผมเกลียวได้สมบูรณ์แบบ ทานข้าวเช้าแสนอร่อยแล้วก็โบกมือลาท่านพี่ที่ไปทำงาน ส่วนฉันก็ขึ้นรถไปโรงเรียน ท่านพี่เนี่ยหมู่นี้งานยุ่งประชุมด่วนสุด ๆ เลย กลับไม่ทันอาหารเย็น เช้าก็ไม่เห็นหน้า แต่วันนี้กลับได้อยู่ทานมื้อเช้าด้วยกัน จิตใจฉันยิ่งผ่องใสกว่าเดิม ดีจังเลยน้า~
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านเรย์กะ"
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ทุกคน
อายาเมะจังและคิคุโนะจังทักทายฉัน เราเดินมาด้วยกันพลางวี้ดว้ายแลกเปลี่ยนถึงปิดเทอมที่สนุกสนาน
"ถ้าได้อยู่ห้องเดียวกันอีกก็ดีสิคะ"
"นั่นสิน้า~"
"ปีนี้จะมีโชคได้อยู่ห้องเดียวกับท่านคาบุรากิและท่านเอ็นโจบ้างไหมน้า" อายาเมะจังเอามือกุมแก้ม
ปีนี้จะไร้โชคโดนจับไปอยู่ห้องเดียวกับสองคนนั่นไหมนะคะ
ที่ผ่านมานี่ก็เคยมีดวงตกบ้าง แต่ถึงจะแย่ยังไงคงไม่หวยออกไปอยู่ห้องเดียวกับคู่หูตัวปัญหานั่นหรอกนะ มีหวังแค่อาทิตย์เดียวหัวฉันคงขาวโพลนไปถึงโคนแน่ ๆ อัปมงคล!! ฉันรีบสะบัดหัวไล่ความคิดชั่วร้ายออกไป
พวกเรายืนกันอยู่หน้าบอร์ดประกาศห้อง เป็นอันว่าลัคกี้! ฉันได้อยู่กับแก๊งค์หน้าเดิม ๆ 2-3 คน อ๊ะ นั่นชื่อซาโตมิคุงนี่นา ปีนี้ก็คงรับบทหัวหน้าห้องเหมือนเดิมสินะ ฝากตัวด้วยนะคะ
ส่วนพวกตัวละครหลักและคู่หูนั่นกระจายกันอยู่คนละห้องเลยล่ะ อุฮุฮุ ปีนี้น่าจะสงบสุขดีจริง ๆ
"ดีจังเลยนะคะท่านเรย์กะ ที่พวกเราได้อยู่ห้องเดียวกันอีก" เซริกะจังพูดอย่างร่าเริง
"ฉันก็ดีใจค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะคุณเซริกะ คุณคิคุโนะ คุณรุเนะ" หน้าเดิม ๆ ทั้งนั้นเลย ไม่ต้องโดดเดี่ยวเป็นหมาหัวเน่าแล้ว ฉันยิ้มแย้มรับคำ
พวกเราย้ายเข้ามาเกาะกลุ่มคุยเจื้อยแจ้วในห้องฉัน เพราะว่ายังไม่ถึงเวลาคาบแรก
"เหงาจังเลยค่ะ ฉันโดนดีดออกไปอยู่คนเดียวเลยละ" อายาเมะจังตีหน้าเศร้าสร้อย มุมปากยกยิ้มนิด ๆ
"อ้าว ฉันเห็นนะคะ จนถึงตอนนี้คุณอายาเมะยังไม่หุบยิ้มเลย" เซริกะจังทำสายตาหยอกล้อ
"อิจฉาจังเลยค่ะ ถ้าฉันได้อยู่ห้องเดียวกับท่านเอ็นโจบ้างคงแสนวิเศษ" รุเนะจังทำท่าเคลิบเคลิ้ม
"ฮิฮิฮิ ไว้ฉันจะเอามาเล่าให้ทุกคนฟังบ่อย ๆ นะคะ ฮุฮุฮุฮุฮุ"
นั่นละ อายาเมะจังขาอวยเอ็นโจปีนี้ก็ได้อยู่ห้องเดียวกับเจ้าตัวไป หัวเราะคิกคักท่าทางมีความสุข ยินดีด้วยนะคะ
วันนี้เพิ่งเปิดเทอมวันแรกน่าจะเลิกเร็ว นี่ ๆ เราไปหาคาเฟ่น่ารัก ๆ นั่งจิบโกโก้กินขนมกันเถอะน้า
"ท่านเรย์กะรู้หรือเปล่าคะ ฉันได้ยินมาว่าเทอมนี้อาจารย์จะจัดอีเว้นท์พิเศษ สำหรับระดับชั้นเราโดยเฉพาะด้วยละค่ะ!"
"ตายแล้ว อันนั้นใช่ไหมคะ ฉันตื่นเต้นจริง ๆ เลย!"
"ฉันน่ะ ถ้าเป็นเขาจะทำยังไงดีคะ แค่คิดก็จะวูบแล้ว ไม่ไหวแน่ ๆ ค่ะ!"
อันนั้นน่ะมันอะไรเรอะ ที่แน่ ๆ ทำไมถึงฟังดูอันตรายจังเลยล่ะ... เอ๋ แต่ถ้าโรงเรียนเป็นคนจัดละก็ไม่เป็นไรมั้ง
"อีเว้นท์อะไรหรือคะ ฟังดูน่าสนใจจังเลย"
"ไขปริศนา หาคู่ หรือเมทที่แท้จริงของตัวเองค่ะ! ฉันได้ยินว่าเพื่อสานสัมพันธ์อันดี หน้าที่เราต้องคอยดูแลเทคแคร์คนในคำใบ้ แล้วก็สืบหาเมทของเราไปด้วย สุดท้ายก็เฉลยตัวออกมา! แล้วทั้งคู่ก็จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน... อา ถ้าท่านคาบุรากิเป็นเมทของฉันจะทำยังไงดีคะ แค่คิดก็..."
ทุกคนวี้ดว้ายฝันหวานว่าตัวเองจะเป็นเมทของคาบุรากิ หรือเอ็นโจ ส่วนฉันนั่งอึ้ง
นั่นมันเล่นจับคู่บัดดี้นี่นา ที่ซุยรันนี่มีกับเค้าด้วยเหรอ!? ถึงจะว่าเพื่อสานสัมพันธ์อันดีก็เถอะ ถ้าคนธรรมดาจับได้ pivoine ขึ้นมา จะไม่ถูกว่าทำตัวไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอางั้นเหรอ ว่าไป สมมุติฉันเกิดจับได้วาคาบะจังขึ้นมา แล้วเรื่องทุกอย่างเกิดแดงขึ้นละก็ สถานะทางสังคมฉันจะเป็นยังไงล่ะ...
ฉันเครียดเกินไปหรือเปล่า โอกาสตั้ง 1 ในหลายร้อยที่จะไปโดนวาคาบะจังนะ อ๊ะ แก๊งค์คุณซึรุฮาระก็ไม่เอาเหมือนกัน... กรี้ด ถ้าไปโดนพวกคาบุรากิเข้าล่ะ ถ้าต้องเที่ยวแอบเอาขนมของขวัญไปให้ละก็ได้เกิดข่าวลือแปลก ๆ กันพอดี! แถมน่ากลัวด้วย พวกนี้ก็ไม่เอานะ!
"ท่านเรย์กะคะ ตาเบิกค้างอยู่นะคะ..."
"ช่วงนี้ตาแห้งน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ" ฉันยิ้มอ่อน คุ้ยยาหยอดตามาหยอด
ไม่ได้การ มันคงไม่มีแต่เรื่องเลวร้ายอย่างนั้นหรอก คิดไปคิดมานี่มันออกจะโรแมนติกอยู่นะ ตัวฉันที่เป็นเมทกับคุณสุภาพบุรุษที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน...
"สายัณห์สวัสดิ์ครับ คุณคิโชวอิน" เขาคนนั้นยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
"เอ๋ ไม่จริงน่า..." ตัวฉันอุทานให้กับโชคชะตาซึ่งเล่นตลก
"ครับ เหมือนกับพรหมลิขิตเลยนะ ผมกับคุณ...เราต่างก็เป็นคู่กันมาโดยตลอด เพียงแต่ไม่รู้สึกตัว..." เขาหัวเราะอย่างอ่อนหวาน แววตาที่จับจ้องนั้นทำให้รู้สึกจั๊กจี้บอกไม่ถูก
"คุณเป็น... เมทของฉันงั้นหรือคะ"
"เสมอมาเลยครับ คุณเรย์กะ"
สุ้มเสียงอบอุ่น คุกเข่าพร้อมยื่นช่อดอกไม้น่ารัก ประดับตุ๊กตาสัตว์มีขนตัวเล็กไว้ด้านบน ตัวที่ฉันเคยถักให้เป็นของขวัญคนที่ฉันเป็นเมท...
"ตอนที่ผมรู้ว่าเป็นคุณ ผมไม่อาจห้ามความรู้สึกเป็นสุขที่แสนอ่อนหวานนี้ ไม่ให้เอ่อล้นขึ้นมาได้เลยละครับ"
"กรุณาได้ไหมครับเรย์กะ ให้ผมได้เป็นเมทของคุณต่อไป ที่ไม่ใช่ในความหมายเพื่อน แต่เป็นคู่ชีวิตของคุณ"
ฉันรับช่อดอกไม้นั้นขึ้นมา ดวงตาชุ่มไปด้วยน้ำตา แล้วเราก็สวมกอดกัน ให้สิ่งนั้นเป็นคำตอบแทนที่เสียงที่ตอนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์จนไม่อาจเปล่ง
"ท่านเรย์กะคะ ตาแห้งอีกแล้วนะคะ..."
"แหม ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วสินะคะ น่าอายจังเลย ฉันค่อนข้างอ่อนไหวกับอากาศหนาวน่ะค่ะ โฮะโฮะโฮะ" ฉันคุ้ยหายาหยอดตาอีกรอบ
.
.
.
นี่ได้จริง ๆ ด้วยล่ะ เช้านี้ก็มีเลือกหัวหน้าห้องและกรรมการ แน่นอนฉันไม่เสนอตัว ซาโตมิคุงกลับคืนสู่ตำแหน่ง อาจารย์มาพูดเข้าเกมบัดดี้ และฉันก็ได้รับคำใบ้มาใบนึง สวัสดีจ้ะฤดูใบไม้ผลิของฉัน!
ว่าแต่ไอนี่มันยังไงกันน่ะ ฉันลองเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามเพื่อนถึงคนในคำใบ้ ส่วนใหญ่ก็พอจะชี้ตัวกันได้ในทันที แสดงว่ามันง่ายปานนั้นเลยสินะ แล้วทำไมของฉันถึงคลุมเครืออย่างนี้อยู่คนเดียวล่ะ!
" ไม่อาจมองหานอกรั้วท่านศึกษา
ไม่ลวงตาพาพลัดพรากห่างหนีหาย
ไม่ปิดกั้นทำใจให้สบาย
สิ่งถวิลหาส่องสว่างท้ายปลายอุโมงค์ "
จะบ้าเรอะ นี่มันปริศนาปัญหาเชาว์แล้วไม่ใช่เหรอ!? จะใช้ไอ้นี่ตามหาคนที่ฉันเป็นเมทได้ยังไงไม่ทราบยะ
มีปัญหา! ของมีตำหนิไม่ผ่านคิวซี! ฉันต้องไปฟ้องอาจารย์ คนคนนั้นที่น่าสงสารน่ะ หากฉันจะปล่อยเลยตามเลยก็คงได้ เพราะเขาก็ไม่รู้จักฉัน หรือยังไงฐานะฉันก็คือ pivoine
แต่ แต่แค่ลองจินตนาการถึงจิตใจของเขา... รอแล้ว รอเล่า ใครกันนะที่เป็นเมท อ๊ะ จะมีอะไรแอบวางไว้ในตู้รองเท้าหรือเปล่านะ ฮะฮะ อ้าว วันนี้ก็ไม่มี... สงสัยคงเป็นคนขี้อายนะ
รอฉันเก้อไปวัน ๆ พอถึงตอนเฉลยตัวตนกลับไม่มีใครเลย... ขอโทษนะ ฉันก็หาเธอไม่เจอเหมือนกัน! ใครกันน่ะ!?
ฉันตัดสินใจอยู่คอยไปปรึกษาอาจารย์หลังเลิกเรียน ส่วนพวกเซริกะจังไปสนุกสนานกันต่อที่คาเฟ่เปิดใหม่ใกล้สถานี...
อาจารย์ช่วยฉันตรวจสอบคำใบ้ เขาก็งงเหมือนกัน เหมือนว่าของคนอื่นจะระบุลักษณะเด่นชัดรายตัวบุคคลไปเลย หากใครดูจะชี้ตัวยากหน่อยก็มีใบ้ห้อง ใบ้ที่นั่ง ความชอบ สุดจะยกมาเพื่อให้ชี้ตัวให้ได้น่ะ
พวกคำใบ้ทั้งหมดนี่ก็ทำโดยซินแสมีชื่อเสียงที่เชิญมาจากประเทศจีน เห็นว่าหาตัวจับยากกว่าจะตกลงทุกอย่างลงตัวนี่นัดหมายกันเป็นปี ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุดแก่นักเรียน เห็นว่าหลักฮวงจุ้ย ชะตา อะไรยุ่งยากก็ไม่รู้ทำให้ต้องไล่ดูข้อมูลนักเรียนทีละคนแล้วหาคนที่เหมาะสมต่อกันด้วยล่ะ จะว่าไปตอนฉันได้คำใบ้นี้มามันก็ไม่ใช่การสุ่มจับอย่างที่ฉันคาดไว้นี่นา
ประเด็นสำคัญอยู่ที่โรงเรียนไม่มีข้อมูลเก็บไว้ เพราะหลังจากซินแสทำพิธีและส่งมอบเสร็จ ก็ลอยละล่องหนีหายไปเลย พอตรวจสอบก็พบว่าไม่มีเอกสารยืนยันใครคือใครแต่ก็ทำอะไรไม่ได้...
ทางสุดท้ายคงต้องรอทุกคนเฉลยตัวกันหมด เฉลยก่อนเฉลยหลังมันก็ทำลายจุดประสงค์การเล่นเกมนี้ไม่มากก็น้อย แต่ให้กระทบน้อยสุดฉันคงต้องปล่อยเลยตามเลย ขอโทษนะ เจ้าคนปริศนา.. ฉันพนมมืออยู่ในใจ
ห้องสโมสรเวลานี้คนเบาบาง ฉันเสียเวลาในห้องพักอาจารย์เสียนานสองนาน ทุกคนคงไปเที่ยวไปสนุกสนานกันหมดแล้วล่ะ จิบชานั่งกินมาการองคนเดียวบรรยากาศซึมเซาชะมัด
ซอสราสเบอร์รี่อร่อยตัดเลี่ยนดีจังน้า กินเพลิน ๆ เติมไขมันให้พุง เฮ้อ ขออีกสักชิ้นก็แล้วกัน
"สวัสดี คุณคิโชวอิน ขอนั่งด้วยได้ไหม"
"สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ" อยู่ด้วยเรอะ
ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ย้ายก้นมานั่งข้างกันหน้าตาเฉย ฉันยังไม่อนุญาตเลยเฟ้ย
-----------------------------
ตัดฉึบฉับ มีต่อนะ ไม่เร็วก็ช้า
ขอบคุณสำหรับฟิคอร่อยๆนะ คิดถึงท่านเรย์กะมากเลย
รออ่านอยู่น้าา
คิดถึงท่านเรย์กะ
/เข้าแถวรอฟิคด้วยคน คิดถึงเหมือนกันค้าบ
ต่อบัดดื้อ คืออ กูทำไรลงไป จากตอนแรกแค่อยากแต่งแบบเรย์กะไปล่าท้าผีเฉย ๆ 55555555
------------
"เฮ้ ฉันยังพูดไม่จบเลยนะชูสุเกะ ช่างเถอะ เธอมาก็ดีคิโชวอิน" คาบุรากิเดินมาจุ่มโซฟาตัวตรงข้าม
เอ๋ ไม่ดีหรอก มีอะไรอีกล่ะ เค้าไม่อยากฟังนะ "สวัสดีค่ะ ท่านคาบุรากิ"
"อา ฉันเพิ่งพูดถึงเรื่องวันนี้ไป ทายซิ ฉันได้ใคร" คาบุรากิทำจมูกฮึดฮัดอย่างตื่นเต้น แขนยันโต๊ะ มุมปากกระหยิ่มยิ้มย่องจ้องมา
เหมือนหมาเลย
ท่าทางน่าหมั่นไส้ชะมัด จะมีใครอีกล่ะทำให้เจ้าเด็กนี่เป็นเอามากขนาดนี้ เออ ก็ไม่เกินความคาดหมายเท่าไหร่หรอก พวกนายน่ะคู่แท้กันอยู่แล้วนี่
"ท่านเอ็นโจหรือคะ"
"ทาคามิจิ วาคาบะต่างหาก!"
"นั่นจงใจใช่ไหมน่ะ คุณคิโชวอิน"
"เอ๋ งั้นหรือคะ คุณทาคามิจิสินะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ โฮะโฮะโฮะ"
โฮะโฮะโฮะโฮะ ขอโทษน้า ตายจริง เป็นวาคาบะจังไปได้ยังไงกันเนี่ย ฉันนี่แย่จริงเชียว ดังนั้นนะ เลิกจ้องฉันแบบนั้นได้แล้วเอ็นโจ มันน่ากลัวนะ
"ท่านคาบุรากิจะใช้โอกาสอันน่ายินดีนี้ทำอย่างไรต่อไปงั้นหรือคะ" มากกว่านี้ชักจะอันตรายเอา ฉันผู้มีหัวใจนกกระจิบจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
คาบุรากิถอนหายใจ แล้วกลับมาพูดอย่างกระฉับกระเฉง
"ฉันวางแผนเอาไว้แล้ว ด้วยดอกไม้และจดหมายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกของฉัน ในนั้นจะบรรยายการกระทำของเธอรายวันว่าทำไมเธอถึงมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร นี่ ฉันได้ไอเดียมาจากตอนประถมนั่นละ ถ้าส่งให้ทาคามิจิได้อ่านทุกวัน ความรู้สึกของฉันมันต้องส่งผ่านไปถึงเจ้าตัวได้ในที่สุดแน่นอน!"
คาบุรากิทำหน้าแบบ ไงล่า นี่มันสุดยอดไปเลยไหมล่ะ เหมือนเห็นประกายวิ้ง ๆ สดใสออกมาเลยละ
"อย่าทำตัวเป็นหูดบนร่างกายเขาอย่างนั้นสิคะ..." เกือบจะโพล่งคำว่าสตอล์กเกอร์ออกมาแล้วไหมล่ะ เจ้าบ้าสตอล์กเกอร์
เอ็นโจที่ก่อนหน้านี้ทำหน้ายิ้ม ๆ เสมองนู่นนี่ คล้ายจะแสดงออกว่า "ผมไม่เกี่ยวนะ" ก็พ่นหัวเราะพรืด
"ผมก็บอกแล้วไงไม่ไหวหรอก มาซายะนี่คิดอะไรด้านเดียวจริง ๆ เลยน้า"
"อะไรเล่า พวกนายเห็นว่ามีอะไรที่ดีกว่าก็พูดมาสักทีสิ" คาบุรากิหน้ามุ่ย
ทำเป็นพูด "อืม~ นั่นสิน้า" แล้วก็หันมาทางนี้
"คุณคิโชวอินมีความคิดดี ๆ บ้างหรือเปล่าครับ" รอยยิ้มนั่นปลอมเปลือกสิ้นดี หมอนี่จงใจแบ่งเหาใส่หัวฉันอีกแล้วค่า! ฉันหาใช่กุนซือของพวกนายนะยะ
นาทีนี้ในห้องสโมสรเหลือแค่เราสามคน สองคนนี้เดินมาแจมโต๊ะฉันจากที่นั่งหลบมุมหลังต้นไม้ มุมอับสายตาพอดี ฉันถึงได้ไม่เห็นในทีแรก
อดคิดไม่ได้ว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนซะแล้ว อา กลิ่นของความวุ่นวาย...
"ฉันมีคำแนะนำแค่อย่างเดียวค่ะ อย่าทำให้อีกฝ่ายลำบากใจ ที่จริงท่านเอ็นโจน่าจะถนัดเรื่องพวกนี้มากกว่าฉันนะคะ แทนที่จะปรึกษาฉันผู้อ่อนประสบการณ์ ท่านเอ็นโจที่มนุษย์สัมพันธ์ดี ทำทุกอย่างได้ราบรื่นด้วยรอยยิ้มละไมเป็นที่หลงใหลของทุกคนน่ะ จะต้องเป็นที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าฉันแน่นอนค่ะ"
"เอ๋ ไม่จริงสักหน่อย คุณคิโชวอินยังคุยกับคุณลุงขายยากิโทริได้คล่องปร๋ออย่างยอดเยี่ยมเลยนี่นา จนเขาแถมให้ตั้ง 2 ไม้แน่ะ ผมทึ่งมากเลยนะ"
เฮื่อ!! ระ รู้ได้ยังไง!?
"มาซายะเล่าให้ฟังน่ะ ท่าทางน่าสนุกดีนะ" ปากไม่มีหูรูดจริง ๆ คาบุรากิ!!! นี่นายไปเหลาอะไรไว้แค่ไหนกัน
"เทคนิคการสำรวจตลาดว่าด้วยการผันแปรตามสถานการณ์ในการติดต่อกับผู้คนในร้านรวงสินะ ทำเอาฉันคิดว่าเธอเป็นคนประหลาดไปเลยล่ะ แต่มันก็ยอดเยี่ยมจริง ๆ" ท่องทำไม หุบปากแล้วก็ลืมมันไปซะ! นายนั่นแหละคนประหลาด จะหาเรื่องกันใช่ไหม
"ก็คุณคิโชวอินน่ะเป็นคนขยันขันแข็งนี่นา" อุกรี้ด ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มานี่น่าโมโหชะมัด ประชดกันใช่มะ ล้อเลียนเห็น ๆ คิดล่ะสิว่าฉันมันยัยผู้หญิงเห็นแก่กินน่ะ! หนอย นี่ยัวะแล้วนะ
ฉันยืนขึ้นกะจะไปตักขนมอบเพิ่ม เดินหนีมาจากเจ้าพวกนั้นเพื่อสงบสติอารมณ์ คาบุรากินี่บ้าแท้ ๆ เอ็นโจก็ดีแต่ผลักความบ้ามาสุมหัวฉัน ใต้รอยยิ้มจอมปลอมนั่นเจตนาร้ายดำมืดแฝงไว้เต็มไปหมดไว้ใจไม่ได้
มันมีอะไรผิดพลาดกันนะ บ้าอย่างนั้นกลับเป็นพระเอกมีนางเอกอย่างวาคาบะจัง จอมมารนั่นก็มีคนรักเป็นตัวเป็นตนอย่างคุณยุยโกะ
ที่สำคัญทั้งคู่ยังป๊อปปูลาร์! ฉันนี่แห้งแล้งไม่มีใคร! เอาแค่ ผู้ชายที่กล้าสบตาด้วยยังแทบไม่มีเลย
นะ น้ำตามายามัน...
ความหวังอันน้อยนิดกับฤดูใบไม้ผลิแสนริบหรี่ที่จะมาในฐานะคนในคำใบ้ก็เพิ่งถูกดับไป เพราะหากันไม่เจอ!
อ๊ากกกกก ยิ่งคิดยิ่งโมโห อยู่ ๆ ความผิดหวัง เสียใจ แค้นเคืองทั้งปวงก็ถาโถมเข้าใส่ อย่างฉันนี่มันสมควรแล้วสินะกับตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านคานทองอันทรงเกียรติ
ระหว่างสาปแช่งพร้อมบ่นอุบโลกอันไม่ยุติธรรม ก็พลันรู้สึกถึงสัมผัสที่สะกิดเบา ๆ บนไหล่
"นี่ คุณคิโช-"
พอจะหันกลับไปแว้ดใส่อีตาเจ้าเล่ห์ด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ต้องให้รู้กันบ้าง ฉันน่ะไม่ใช่ยัยผู้หญิงง่าย ๆ โง่เง่า ที่จะให้พวกนายจิกหัวใช้หรือปั่นหัวเล่นเหมือนเป็นตัวตลก อะไรก็ได้ยังไงก็ได้หรอกนะ! ฉันว่ามันผิดพลาดที่พวกนายน่ะแหละ ขอพาลหน่อยเหอะ
ทันเห็นใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนยิ้มเหมือนทุกทีได้แปปเดียว อื๋อ? หรือออกจะดูเปราะบางกว่าปกตินะ
ยังไม่ทันได้แน่ใจ พริบตาภาพตรงหน้าก็วูบหายไป ห้องอันสว่างไสวดับลงในฉับพลันราวกับใครกดชัตดาวน์
ทุกอย่างดำมืดไปหมด
-----------
เมื่อสายตาเริ่มปรับตัวกับความมืดที่ไม่ทันตั้งตัวนี้ได้ ก็พบว่า
ฉันยืนอยู่คนเดียวในห้องสโมสร
กะ...เกิดอะไรขึ้น?! ไฟดับงั้นเหรอ แต่นี่เพิ่งบ่ายแก่ ๆ ทำไมถึงมืดขนาดนี้ หรือว่าฉันจะสลบไป...?
"...ท่านเอ็นโจ...ท่านคาบุรากิ" เมื่อกี้นายยังอยู่ตรงนี้นี่ ไม่เอา อย่าเล่นกันแบบนี้นะ ไม่ตลกเลยนะ
พอตั้งสติพิจารณาดูอีกที ถึงจะคล้ายกันก็เหอะ ที่นี่มันห้องสโมสรของชั้นเปอติต์นี่นา...
ฉันขนลุกเกรียว นอกจากสถานการณ์ที่ดูไม่ชอบมาพากลแล้ว ความมืดที่เงียบงันและน่าอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกนี่รบกวนฉันมากที่สุดเลยล่ะ
หรือว่าฉันเจอของดีเข้าให้แล้ว... นี่น้ำตาไหลของจริงล่ะนะ
มือถือ มือถือ!! มะ ไม่มี... ฉันวางเอาไว้ในกระเป๋าในห้องสโมสร บ้าเอ๊ย จากนี้จะพกติดตัวตลอดเวลาค่ะ
ไม่ ฉันคงจะฝันไปมากกว่า ไปกระแทกหัวใส่โต๊ะดีกว่าจะได้ตื่นจากฝันร้ายนี่
แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นแสงค่อย ๆ สว่างขึ้นจากหางตา
ไฟฉาย?! คน?! ฉันรอดแล้ว!!!
เอ๋?
ฉันชะงักกึก ช็อคค้าง นั่นมัน....
ต้นแหล่งของแสงนั้นค่อย ๆ ย่างกรายเข้ามาผ่านประตู เป็นเด็กผู้หญิงผมม้วนหรูเริ่ดหน้าตาจิ้มลิ้ม ราวกับถูกปั้นขึ้นมาอย่างปราณีต อายุไม่เกิน 7-8 ขวบ สวมชุดนักเรียนประถมซุยรัน เหมือนฉันสมัยป.1 ไม่มีผิดเพี้ยน
ที่จริงฉันควรจะหวาดกลัวสถานการณ์ที่สุดแสนจะแปลกพิสดารนี่ แต่ไม่รู้ทำไม ราวกับไม่ใช่ความรู้สึกของฉันเอง
กลับรู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน
พอกะพริบตาอีกที ตัวฉันก็เปลี่ยนอิริยาบถ กลายเป็นว่ามานั่งบนเก้าอี้ซะงั้น ส่วนมินิเรย์กะก็นั่งอยู่กับโต๊ะที่ไกลออกไปหน่อยทางซ้ายมือ
ฉันไม่ได้นั่งคนเดียวด้วย ตอนนี้ในห้องสโมสรเหมือนมีร่าง เลือนรางดูพร่ามัวอยู่กันตรงนั้นตรงนี้ ส่วนเก้าอี้ตรงหน้าฉันนี่มัน... คาบุรากิ??
ทุกร่างดูเหมือนขยับไปตามจังหวะของตัวเอง เอ่อ พูดคุย จับกลุ่มนั่งจิบชา บอกไม่ได้ว่าใครเป็นใคร มันพร่าเลือนจนมองไม่ออกเหมือนกับกล้องที่ไม่โฟกัส
หน้าคาบุรากินี่ค่อยชัดขึ้นมาหน่อย หมอนี่ก็ตัวเล็กเป็นเด็กประถมเหมือนกัน.. แถมกำลังเคี้ยวช็อกโกแล- ล่าอย่างเมามัน
ฉันหันไปหาแสงสว่างนั้นอีกที 'เธอ'กำลังมองมาทางนี้
ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นคาบุรากิ
ฉากเปลี่ยนไป
แม้จะยังคงมืดอยู่บ้างแต่ก็พอมองออก ที่นี่เป็นฟาร์มปศุสัตว์ และฉันกำลังขี่ม้า ควบคู่กันกับคาบุรากิ
ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่มันก็เพลิดเพลินดี สายลมที่พัดผ่านพลอยทำให้รู้สึกสดชื่น อิสระ โลกดูจะมีสีสันขึ้น ถึงทุกคนจะยังพร่าเลือนอยู่ก็เถอะ
สายตาฉันจับไปที่'เธอ'อีกครั้ง เธอผู้สว่างไสว และก็อีกครั้งที่เธอไม่ได้มองฉัน แต่เป็นมาซายะ
.
.
.
ฉันปล่อยให้มันเป็นไป เหมือนกับกำลังเล่นเครื่อง VR อยู่ยังไงยังงั้น แต่ละฉากหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปเรื่อย ๆ และแม้จะไม่ได้ออกแรงเลยสักนิด แต่ฉันก็เดินไป
นี่งานกีฬาสินะ ฉันยืนอยู่ในเต็นท์กำลังจัดการอะไรสักอย่างกับเครื่องปริ้นท์ ผู้คนเดินกันขวักไขว่ครื้นเครง แต่บรรยากาศกลับดูทะมึนทึมทื่อเสียยิ่งกว่าก่อนหน้านี้
รอบข้างฉันมีร่างคนหลายร่างชุมนุมกันเต็มแน่นไปหมด แถมยังส่งเสียงหึ่ง ๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ออกจะน่ารำคาญ แต่ก็มีคนนึงที่ดูไม่ได้นำพา เธอคนนั้นจัดการงานเอกสารต่อไปอย่างขมักเขม้น
มินิเรย์กะไม่ได้สนใจทางนี้เลยแม้แต่น้อย นี่ตัวฉันเอาการเอางานขนาดนั้นเลยงั้นเหรอเนี่ย
อือ น่าน้อยใจนิด ๆ แฮะ..
...เอ๋?
หลังจากนั้นก็มีฉากตัวฉันถูกกวางที่นาระรุมเตะละ ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพน่าขันนั่นเก็บไว้ มาดคุณหนูที่ปกติสวมไว้หลุดลอกไม่เห็นชิ้นดีเลยนะ... ก่อนจะเพิ่งรู้สึกตัวว่านี่ทำอะไรลงไปน่ะห๊า?!?!
ได้ยินเสียงขำก๊ากอยู่ข้าง ๆ คาบุรากิกำลังหัวเราะราวกับจะขาดใจตาย
"นั่นมันอะไรกันน่ะ ยัยนั่นดูงี่เง่าชะมัด-" หัวเราะจนสำลัก
"อย่าพูดอย่างนั้นสิมาซายะ น่าสงสารออกนะ"
"ปากว่างั้นแต่นายถ่ายรูปเธอเก็บไว้เนี่ยอะนะ" คาบุรากิขมวดคิ้วจ้องมาทั้งยิ้ม "ส่งให้ฉันด้วย ยูริเอะจะต้องได้เห็น"
.
.
.
เครื่องเล่นเล่นไปเรื่อย ๆ โดยมี'เธอ'เป็นตัวเอก...
ครั้งหรือสองครั้ง ไม่สิ มากกว่านั้น ฉันรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังอมยิ้ม หรือหัวเราะออกมาขณะสังเกตเธอที่กำลังใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ กินขนม คุยเล่น กินข้าว เหม่อลอย หรือทะเลาะกับบรรดาสรรพสัตว์ ส่วนใหญ่จะเป็นนก
แล้วหัวใจที่ซึมกะทือก็เหมือนมีชีวิตชีวาขึ้นมา
โดยไม่รู้ตัว รอบข้างที่เคยมืดทึมอึดอัด ก็กลับมีสีสัน
แต่แล้วก็เย็นเยียบอยู่ช่วงหนึ่ง
--------------
มีต่อน้า พยายามลงทีละ2โพสต์(´;ω;` ) แต่กะผิดแม้งเง้ยยยย
ปล.จะงงกันมั้ยวะ ไม่ต้องห่วงกูก็งง
ช่างน่าเศร้า
ขอบคุณกาวนะเมิง คิดถึงท่านเรย์กะ
โห กูไม่ได้เข้าโม่งมานานมากๆๆๆ ยังมีฟิคกาวอยู่อีกเหรอวะ 555555
https://x.com/wwxwashere/status/1817933629319716869?t=-q_UffaW-hluG8nDLh1K1g&s=19
ไถเจอทวีตนี้แล้วนึกถึงท่านเรย์กะกับโม่งซุยรันขึ้นมาเลย เราจะได้อ่านตอนที่ 300 กันใช่ไหม 😭😭
เราเข้า 6 ปี 9 เดือนจากลาสต์อัปเดตล่ะ
เลขสวยดีนะ
คิดถึงท่านเรย์กะ
https://www.facebook.คอม/share/p/3h89eHQy6LQb2fUX/?mibextid=oFDknk
เห็นละนึกถึงท่านเรย์กะเลย
กู วาด แฟนอาร์ตจากฟิค
https://fanboi.ch/webnovel/7425/981-984/
ขอมอบเป็นเครื่องบรรณาการ เพราะมันก๊าวใจ แบบว่าคนเรามันก็ต้องมีความหวังบ้างใช่ไหมวะ ถ้ามึงว่างๆ หายเหนื่อยก็ลองแวะกลับมาจิบชาที่นี่ได้นะเว้ย กูจะขุดตัวเองจากกองงานวิ่งมาจูบมึง....
https://imgur.com/a/M6VY4NW
ปล. มึงยังจะอัพตอนจบอยู่มั้ยวะ55555 คือพอได้รู้ว่ามีตอนที่ไม่ถูกอัพ กูงี้จั๊กจี้ใจอย่างกับเวลาจำทำนองได้แต่ลืมเนื้อเพลงเลยว่ะ ในนี้มันแปะ word หรือ pdf ได้มั้ย ไม่ไหวไม่ต้องจบสวยก็ได้กูอยากรู้จะเกิดอะไรขึ้นกับฉากต่อไปถถถถถ
ไถอ่านแนวๆนางร้ายเกิดใหม่กาวๆแล้วนึกถึงท่านเรย์กะเลยย้อนกลับมาดู
ตกใจมากที่นี่ยังไม่ร้างแถมมาไกลมาก คนรักเจ้าแม่เยอะจริงๆ
มู้นี้ยังไม่ตาย ดีใจ
ขอบคุณโม่งสายผลิตนะ
ในฐานะ 1 ในโม่งฟิค กุโอเคนะที่จะเอาไปลงรี้ด เพราะอยากอ่านอีกรอบเหมือนกัน แต่ขก.ไล่อ่านตามมู้แล้วอะ
กุว่าคงไม่มีใครว่าหรอกถ้าจะเอาฟิคโม่งไปลง(ขอแค่ไม่เอารายได้อ่ะนะ)
กุชอบฟิคคู่หู่ทะลุมิติสุด แต่เนื้อเรื่องแม่งไม่เดินเลย(บางทีกุอาจจะชอบความฮามากกว่าความหวานมั่ง นึกภาพคนนิสัยแบบเจ้าแม่ไปหวานแววไม่ออกจริงๆ เจอคาบุรากิเตะสะกัดขาตบกกันทั้งชาติน่าจะฮากว่า)
เท่าที่สังเกตุช่วงปี2013นี้แถบจะลงรายวันเลยมั่ง แล้วตั้งแต่ตอนที่200ขึ้นไปก็เริ่มถี่น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งช่วง2017นี้แถบจะเดือนล่ะตอนแล้ว
อย่างว่า เขียนฟรีทำกุศลไม่ได้ก่อรายได้ ขนาดคนเขียนHXHนั้นอาชีพหลักแกด้วยซ้ำยังแถบจะลูกผีลูกคน อันนี้เขียนฟรีไม่ใช่อาชีพหลักด้วยซ้ำแค่นี้ก็เหลือแหล่แล้ว
(แต่เสียดายที่ไม่เคยทำหนังสือ นิยายจะ11ปีแล้วปีเล่าถ้าทำหนังสือแบบเฮียวกะ ปกแนวไม่ใช่อนิเมะแล้ววางขาย ปานี้คงมีเทะให้เราดูไปแล้ว
เห็นงี้แต่เรื่องนี้Top10ของเว็ปเลยน่ะ)
คิดถึงท่านเรย์กะฟ่ะ นักอ่านป่านนี้ไปมีลูกกันออกจากหมู่บ้านคานทองกันหมดแล้ว แต่เจ้าแม่กูยังอยู่เฝ้าบ้านเป็นสาวสวยโสดไฮโซที่ไม่มีใครอยู่เลยนะ ชีวิตท่านเรย์กะของกูมีบริวารดีแต่ต้องอาภัพรักจริงๆหรอ
!!! ตอน 300 จงมา !!!
ฟิคคู่หูทะลุมิติกูก็ชอบ ถ่ายทอดความเป็นคาบุรากิได้ไหลลื่นดี แม่งฮา จำได้ชอบฉากต่อเส้นพาสต้ากัน แบบมันไร้สาระสมเป็นคู่หูบ้าบอจริงๆ
ส่วนฟิค a-z ทำกูเคลิ้มรู้ตัวอีกทีกำลังพายเรือคาบุรากิไปซะแล้ว ว่าแล้วก็คิดถึงจัง ถ้าไม่มีวัตถุดิบใหม่ๆ โม่งผลิตก็อยู่ยากอะเน้อ ทุกคนเก่งมากที่ยังอยู่มาขนาดนี้ กูก็จะมีความหวังต่อไปเหมือนกัน...
>>603 ก็ยังอยู่ในหมู่บ้านคานทองเป็นเพื่อนท่านเรย์กะเนี่ย... ว่าแต่ไหนท่านเรย์กะวะ---
เอาเวลาที่เล่นโม่ง พอให้เก็บเงินได้หลาย ๆ แสน
แล้วเอาไปเทรด Forex ได้แล้ว
ผมเทรดไม่กี่วันได้มาแล้ว 450,000
ก็ไปอ่านเจอบนเฟสมาว่าคนแต่งสอบติดราชการญี่ปุ่น เลยแต่งต่อไม่ได้เพราะผิดกฎหมายหารายได้นอกเหนือจากงานราชการ จริงป่ะพวกมึง กูจะได้หายคาใจสักทีว่าคนแต่งหายไปไหน
ว่าแต่แต่งลงเว็บมันได้ตังค์เรอะ
>>606 ส่วนตัวกูว่าไม่น่าใช่ กูไม่แน่ใจเรื่องรายได้จากเว็บเหมือนกัน แต่ทางอื่นคือท่านฮิไม่ได้ขายลิขสิทธิ์อะไรให้ที่ไหนเลยแม้แต่ที่ญี่ปุ่นเอง ถ้าขายนะรายได้มันเยอะชหแน่นอนเรื่องนี้
จากมโน(กาว)ของกูคือมีลูก แล้วต้องทุ่มเทเวลาเลี้ยงลูกเพื่อให้เป็นดาวในวงสังคมไฮโซตามประสาแม่บ้านญี่ปุ่น(?) 555555555555555555
>>606 บ้ามึง แค่เขียนลงเว็บให้อ่านฟรีเฉยๆ ไม่ได้ขาย lc ไม่ได้ติดเหรียญหรือรับโดเนทมันจะมีรายได้ยังไง ตัวจริงนางไม่เคยพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ ในเว็บก็มีแต่เนื้อหานิยายไม่มี talk คนเขียน ไอ้เรื่องเป็นข้าราชการ เป็นคุณหนูไฮโซนี่มโนกันเฉยๆ แต่คนดันเชื่อเป็นจริงเป็นจังไม่รู้ไปเอามาจากไหน
>>608 กูว่าเรื่องท่านฮิเป็นคุณหนูไฮโซนี่ เพราะท่านเรย์กะในเรื่องไลฟ์สไตล์อะไรมันดูรวยมาก ไม่เหมือนเรื่องอื่นที่ตะโกนว่า กูรวย!!! แต่อาหารการกิน ของที่ซื้อคือดูรวยอะมึง คหสต. กูนะ
เลยไม่แปลกที่คนจะมโนกันว่าท่านฮิเป็นคุณหนูที่โดนครอบครัวจับได้ว่าแอบมาแต่งนิยายลงเว็บอะ 5555555555556 แต่ก็แนวขำๆกาวๆอะมึง เพราะที่พ่นๆกันนี่ก็ไม่ใช่แฟคกันทั้งนั้นแหละ
จริงๆเค้กของคุณฮิโยโกะคือคุณเรย์กะเอง แล้วตอนนี้โดนเอนจอยคุงจับได้ว่าแอบเอาเรื่องตัวเองมาเขียนนิยายเลยโดนเอาไปแบล๊คเมลไม่กล้าเขียนต่อ
"ท่านเรย์กะคะ ถ้าไม่รีบตื่นตอนนี้จะไปโรงเรียนสายแล้วนะคะ"
ฉันสะดุ้งตื่นรีบคว้านาฬิกาที่มีมูฟวิ่งไดมอนด์กลิ้งอยู่บนแผงหน้าปัดมาดูเวลา สายแล้วจริง ๆ ด้วย!!
ไม่รอช้าฉันรีบเรียกคุณเมดเข้ามาช่วยแต่งตัว ปกติก็ไม่ทำหรอกนะ ก็โตแล้วน่าอายนี่นา แต่ฉันยอมใช้ความกล้าตรงนี้มากกว่าจะต้องแบกหน้าในฐานะคนมาสายเดินเฉิดฉายเข้าไปในห้องเรียนอะนะ!
โชคดีที่คนขับรถมีความสามารถ ถึงโรงเรียนได้ไวกว่าที่คาด ฉันก้าวขายาว ๆ พลางเอามือดุนหัว
...โอย ปวดชะมัด ไม่น่ามัวเลือกเสื้อจนดึกเลย ทั้งที่จริงก็มีแค่ฉัน ยูกิโนะคุง แล้วก็เอ็นโจที่จะไปดูดอกไม้ไฟ ไม่จำเป็นต้องพิถีพิถันราวกับแต่งตัวไปออกปาร์ตี้ แต่ก็ไม่อยากจะโดนหมอนั่นจับได้เอาอะนะว่าอินี่มันไร้เซนส์ด้านแฟชั่น
พอเรียนเสร็จยังต้องไปรับการเทรนนิ่งสไตล์คาบุรากิที่หลวมตัวตกลงไปอีก เก็บตัวเงียบหลายวันขนาดนี้ก็หมดสิทธิเอาเรื่องปวดกล้ามเนื้อมาใช้เป็นข้ออ้างอีกต่อไป
แต่ฉันไม่อยากฝึกหนักนรกแตกแบบนั้นอีกแล้ว พอบ่นออดๆ ว่า "ยังปวดกล้ามเนื้ออยู่อีกนิดหน่อยค่ะ..." คาบุรากิก็ยอมย่อหย่อนให้ว่า "ช่วยไม่ได้ วันนี้เอาเป็นเมนูเบาๆ
หน่อยก็แล้วกัน"! พูดไปก็ไม่มีอะไรจะเสียนี่เนอะ
ระหว่างนั่งรถกลับบ้านพลางพึงใจว่าโชคดีจังที่วันนี้เอ็นโจไม่อยู่ ไม่งั้นคงโดนจับได้ว่าเป็นโคโระจังไปแล้ว
ก็มีเมลจากเอ็นโจส่งมา
ฉันตกใจจนหลุดเสียงแปลก ๆ อันเป็นกิริยาที่ไม่เหมาะสมออกไป
"สวัสดีตอนเย็นครับคุณคิโชวอิน คอร์สลดน้ำหนักกับมาซายะสนุกดีหรือเปล่า? วันนี้เสียดายจังนะที่ไม่ได้ไปช่วย แต่ผมไปเจอนิยายสนุก ๆ เรื่องหนึ่งมา เรื่องนี้ไง พอจะรู้จักมั้ย? อย่างตอนนี้ก็กำลังนั่งอ่านอยู่เลย อยู่ที่ Storia del Caffè สาขา 42. Warm Rum Chocolate Brownie ของที่นี่อร่อยมากเลยนะ"
เมื่อเปิดประตูเข้าไปในร้านคาเฟ่สไตล์ยุโรปตกแต่งสีเขียวที่ดูสบายตา ก็พบเอ็นโจนั่งอยู่ก่อนแล้ว ภายในร้านมีคนไม่มากแม้เป็นเวลาเลิกงานก็ตาม เอ็นโจที่นั่งจิบเครื่องดื่มโดยมีพนักงานและสาว ๆ ภายในร้านมองตาพร้อยเมื่อเห็นฉันก็ส่งยิ้มให้
"คุณคิโชวอิน นั่งก่อนสิ" จากนั้นก็มีบริกรหญิงเดินมารับออเดอร์ หลังจากโดนคะยั้นคะยอก็จำใจสั่งเจ้า Warm Rum Chocolate Brownie มาคู่กับกาแฟทั้งที่น่าจะกระเดือกไม่ลง
"ที่นี่บรรยากาศดีจังเลยนะคะ" ฉันโปรยยิ้มเป็นมิตรเป็นการขัดตาทัพ อย่าน่า มืออย่าสั่นสิ
"นั่นสิเนอะ ผมนั่งอ่านหนังสือที่นี่จนลืมเวลาเลยล่ะ"
มาแล้ว
" 'นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ' ว่าไง ตกลงคุณคิโชวอินรู้จักหรือเปล่านะ"
ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวฉันทำหน้าอย่างไรอยู่ ที่แน่ ๆ ในหัวนั้นประมวลผลอย่างหนักจนจะมีควันออกหูอยู่แล้ว
ความเครียดนี้ถ้าโชคดีผมคงหงอกไปแค่กระจุกเดียว แต่ถ้าโชคร้ายคงต้องเริ่มหาซื้อยาย้อมผมชั้นดีตั้งแต่คืนนี้
ยิ่งคิดยิ่งห้ามมือตัวเองขึ้นมาขยี้ ๆ หัวให้ยุ่งเหยิงไปซะยากขึ้นทุกที ฉันนี่โง่จอมโง่! เอ็นโจจับได้แล้ว!! นิยายที่ฉันแอบลงในเว็บออนไลน์
ตอนแรกก็เป็นแค่ไดอารี่ขำ ๆ เท่านั้นแหละ แต่พอเขียนไปเรื่อย ๆ ก็นึกสนุก เปลี่ยนเป็นนิยายไปซะงั้น แต่ก็ยังคงความเป็นไดอารี่คืออิงจากเรื่องจริงของฉันเอง
แล้วฉันก็คิดว่าไหน ๆ ก็แต่งมาสนุกขนาดนี้ ถ้าลงให้คนอื่นร่วมอ่านด้วยจะเป็นยังไงนะ และเพราะไม่คิดว่าคุณหนูซุยรันจะมีรสนิยมการอ่านนิยายเว็บออนไลน์อย่างแน่นอน ลงท้ายก็เลยแค่เปลี่ยนชื่อตัวละครทั้งหมดแล้วก็ลงเว็บให้อ่านฟรีอย่างบ้าบิ่น ที่ผ่านมาก็มีความสุขกับการอ่านคอมเม้นท์ที่สนุกสนานต่าง ๆ ตลอดมาถึงได้ลงอยู่เรื่อย ๆ
แต่เอ็นโจดันมาจับได้อย่างนี้ อา วันนี้คงเป็นวันพิพากษาความตายของคิโชวอิน เรย์กะสินะคะ ท่านพี่คะ วันนี้น้องบอกรักท่านพี่หรือยัง ลาก่อนนะคะ ท่านแม่ ท่านพ่อ
เอ็นโจยังคงมองฉันยิ้ม ๆ ฉันก็ได้แต่สั่งเสียในใจอย่างกล้าหาญ
ยังไม่ได้กินบราวนี่เลย...
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.