เสียงมือถือที่ดังขึ้นทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ฉันเลิกคิ้วขึ้น นึกแปลกใจกับคนที่โทรมาในเวลานี้ ส่วนท่านอิมาริขมวดคิ้ว ท่าทางจะหัวเสียนิดหน่อยแต่ก็หันมายิ้มให้ฉัน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนจะตัดสายทิ้ง แต่ดูชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นชื่อหน้าจอ เขากดรับในทันทีแสดงว่าเป็นสายที่สำคัญ
ท่านอิมาริเดินออกไปนอกห้องเพื่อคุยโทรศัพท์ สักพักก็กลับมา
“เดี๋ยวฉันมานะเรย์กะจัง” เขาคว้าเสื้อที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาสวม กลัดกระดุมแบบลวกๆแล้วออกไปจากห้องอีกหน
ฉันนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียงอยู่แบบนั้น นึกทบทวนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ท่านอิมาริเชี่ยวชาญจริงๆนั่นล่ะ ขนาดฉันที่ไม่ได้มีใจรักใคร่เขาเท่าไหร่นัก ก็ยังรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนจะหลอมละลายไปกับจูบนั่น เขาชำนาญซะขนาดนี้ เซ็กส์ครั้งแรกของฉันคงจะไม่เลวร้ายนักหรอก
แต่ผ่านไปนานพอสมควรก็ยังไม่เห็นเขากลับมาซักที ฉันนึกเป็นห่วงนิดหน่อยก็เลยสวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเสียงพูดคุยไม่ได้ศัพท์ดังมาจากห้องรับแขก ก็คิดว่าคงจะมีแขกมาหา อาจจะเป็นเจ้าของสายโทรศัพท์เมื่อครู่นี้
คนที่มาคือท่านพี่
สองคนนั้นอยู่ในห้องรับแขก รายล้อมไปด้วยเอกสารเกลื่อนโต๊ะ บนพื้นก็มีกระเป๋าเอกสาร คงเป็นเรื่องงานหรือเรื่องธุรกิจยากๆที่ฉันไม่เข้าใจ
“ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ” ท่านอิมาริก้มลงเซ็นเอกสารแล้วส่งคืนให้ท่านพี่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไม่หรอก พอดีเป็นงานด่วนที่ต้องใช้ลายเซ็นท่านรองประธานด้วยน่ะ”
“อย่าบอกนะว่าจะเอากลับไปทำต่อที่ห้องอีก” ท่านอิมาริเลิกคิ้ว “มันดึกแล้ว เอาไว้ทำพรุ่งนี้ก็ได้น่า”
“ไม่เป็นไร เหลือแค่นิดเดียว เดี๋ยวทำต่ออีกหน่อยก็เสร็จ”
ท่านพี่เก็บของลงแฟ้มเหมือนกำลังจะกลับแล้ว ฉันจึงคิดจะกลับไปรอในห้องเหมือนเดิม แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคหนึ่งที่ทำให้ต้องหันขวับ
“ตอนนี้นายกับเรย์กะไปถึงไหนกันแล้ว”
“เอ่อ...ก็….”
“ทำไมถึงอ้ำอึ้งล่ะ” ท่านพี่เลิกคิ้วขึ้น “หรือว่า….”
“ยังหรอก” ท่านอิมาริกระแอมไอ
ท่านพี่เงียบไปพักหนึ่ง แล้วหันไปจัดเอกสารลงแฟ้มต่อ
“จะทำอะไรก็ทำ แต่ระวังตัวไว้ให้ดีๆ เพราะนายคงสลัดยัยนั่นหลุดได้ยากแน่”
“นั่นสินะ” ท่านอิมาริยิ้มขื่นๆ
ฟังจากบทสนทนา เหมือนท่านพี่จะรู้ความเคลื่อนไหวของฉันจากท่านอิมาริตลอด ไม่อย่างนั้นคงไม่ถามแบบนี้
ฉันก็เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าท่านอิมาริคงจะบอกเพื่อนเขา แต่พอมาได้ยินเองจากปากของสองคนนั้นกลับรู้สึกเหมือนถูกหักหลังอย่างไรชอบกล
“ยังไงก็อย่าพลาดให้ท้องมาล่ะ ฉันไม่คิดว่าคนแบบนั้นจะยอมจบที่เซ็กส์แค่ไม่กี่ครั้ง เธออาจจะใช้เด็กมาเป็นข้ออ้างเพื่อผูกมัดนายก็ได้ นายก็รู้นิสัยยัยนั่นดีนี่”
“เรื่องนั้นฉันรู้น่า”
ฉันแหงนเงยหน้าพิงกับผนัง รู้สึกหัวใจเจ็บหนึบไปหมด
ถึงฉันกับท่านพี่จะไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนัก แต่การที่ต้องมาฟังพี่ชายแท้ๆพูดจาดูถูกดูแคลนให้ได้ยินซึ่งๆหน้าก็ออกจะทำให้รู้สึกเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย
ท่านพี่พูดถึงฉันเหมือนเป็นคนอื่นคนไกล ไม่ใช่น้องสาวของเขา พูดว่าฉันเป็นผู้หญิงหน้าไม่อายเที่ยวเร่จับผู้ชาย และผู้ชายคนนั้นก็กำลังจะหาทางเขี่ยฉันทิ้งตอนเบื่อแล้ว โดยมีพี่ชายของฉันมองแบบสมเพช
และเพราะมันเป็นความจริง ฉันถึงได้เจ็บปวดขนาดนั้น
หลายๆครั้งที่คิโชวอิน เรย์กะเจ็บปวด เธอผ่านมันมาได้ยังไงนะ….
...ก็ออกไปอาละวาดจนกว่าจะสาแก่ใจ จนกว่าศัตรูของเธอจะย่อยยับน่ะสิ
“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะ ท่านพี่”
ฉันเดินออกจากมุมที่ซ่อนไปปรากฎตัวต่อหน้า สองคนนั้นดูตกใจเอามากๆ
“เรย์กะจัง”
“อิมาริ” ท่านพี่หันไปขมวดคิ้วใส่ “นี่มันอะไร”
“คือว่า…”
“ก็อย่างที่เห็นนั่นล่ะค่ะ” ฉันเชิดหน้าขึ้น “ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องหับมิดชิดยามวิกาลกำลังจะทำอะไร ท่านพี่ไม่รู้เหรอคะ”
ท่านพี่จ้องฉันอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันไปมองท่านอิมาริ พูดเสียงราบเรียบ
“ออกไปก่อนอิมาริ ฉันมีเรื่องจะคุยกับน้อง”
น้อง...งั้นเหรอ