ฉันทำตามแบบงงๆ นึกในใจว่าอะไรหว่า ก็รู้สึกถึงบางอย่างถูกวางลงมาบนฝ่ามือ เป็นลูกอมที่ถูกห่อด้วยกระดาษแก้วสีขาวขุ่นประมาณ 3-4 เม็ด
“อันนี้เป็นรางวัลให้นะ สำหรับคุณคิโชวอินที่ตั้งใจเรียน” พอเห็นฉันที่ทำหน้างุนงงไม่เลิก เอ็นโจก็ยิ้มและอธิบายต่อ “ปกติผมให้ยูกิโนะทุกครั้งที่สอนการบ้านเสร็จน่ะ”
“ขอบคุณนะคะ” ให้ลูกอมแบบนี้เห็นฉันเป็นเด็กรึไงยะ แต่ก็ขอบคุณไว้ก่อนละกัน
เอ็นโจตอบรับคำขอบคุณด้วยรอยยิ้ม แล้วก็เอาแต่เท้าคางจ้องฉันอยู่แบบนั้น ...อะไรยะ อยู่ๆมาจ้องแล้วก็ไม่พูดไม่จาเอาแต่ยิ้มนี่มันน่ากลัวนะ
บรรยากาศชักแหม่งๆ ฉันเลยรีบสอดส่ายสายตาหาตัวช่วยไปรอบๆห้อง อะไรก็ได้ที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากสถานการณ์แบบนี้
ทันใดนั้น มือถือของฉันก็ส่งเสียงดังระรัวอย่างกับถูกโจมตีด้วยพายุเมล์ ไม่ต้องไปดูชื่อก็รู้เลยว่าใครที่ทำแบบนี้
เอ็นโจหัวเราะดังพรืด
“จากมาซายะสินะ”
“คงงั้นมั้งคะ” แหงสิยะ คิดว่าคนที่จะทำแบบนี้ได้จะมีซักกี่คนกันเชียว
ฉันขออนุญาตเปิดโทรศัพท์เพื่อเช็ค ...มาจากคาบุรากิจริงๆด้วย
ข้อความก็ประมาณว่าได้รับช็อคโกแลตจากวาคาบะจังแล้ว มีคำบรรยายถึงเหตุการณ์ ทั้งความรู้สึกและรสชาติของช็อคโกแลตที่ได้ชิมไปหนึ่งคำ ช่างเป็นเมล์ที่ไร้ความเกรงอกเกรงใจในด้านการส่งและเนื้อหาจริงๆ รีบๆตอบไปก่อนที่จะถูกโทรมาตามให้ฟังเรื่องรักๆใคร่ๆดีกว่านะ
“เขียนมาว่าอะไรเหรอ”
“เรื่องที่ได้ช็อคโกแลตจากคุณทาคามิจิน่ะค่ะ”
ฉันยังไม่ทันจะกดแป้นพิมพ์ ประตูห้องก็เปิดออกอีกหน คาบุรากิปรากฎกายขึ้นจากหลังบานประตูนั่น
“ชูสุเกะ ยูกิโนะเป็นยังไงบ้าง ...อ้าว คิโชวอิน เธออยู่นี่เองเหรอ”
“ฉันมาให้กำลังใจยูกิโนะคุงน่ะค่ะ”
“งั้นเรอะ”
คาบุรากิเดินอาดๆเข้ามาข้างใน วางกระเป๋าลงบนโต๊ะและนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้าม สีหน้าดูระรื่นสุดๆอะ
ฉันมองไปที่ถุงกระดาษข้างๆกระเป๋าที่เพิ่งถูกวาง ..ในนั้นมีช็อคโกแลตของวาคาบะจังอยู่ใช่มะ
ดูเหมือนคาบุรากิจะจับสายตาของฉันได้ จากที่ระรื่นอยู่แล้วก็หัวเราะหึๆ ทำหน้าแบบว่า..ช่วยไม่ได้นะ ก่อนจะหยิบเอากล่องของขวัญผูกริบบิ้นสีขาวขึ้นมาวางให้ฉันกับเอ็นโจเห็น
“ทาคามิจิให้มาน่ะ” ขี้อวดชะมัด จมูกงี้ยาวยื่นเลยอะ
“ไปได้มาตอนไหนเหรอ” เอ็นโจคงถามตามมารยาท แต่คาบุรากิงี้กระตือรือร้นที่จะพูดสุดๆ
“ก่อนจะกลับบ้าน ทาคามิจิมาเรียกฉันไว้ที่ทางเดินปลอดผู้คน บอกว่าหาจังหวะให้ไม่ค่อยได้เลย…”
จากนั้นพวกเราก็ถูกดึงให้เข้าฟังเรื่องรักหวานแหววเหมือนอีเวนท์ในการ์ตูนโชโจ วาคาบะจังเป็นฝ่ายเดินมามอบช็อคโกแลตให้ คาบุรากิเลยได้โอกาสขอไปส่งที่บ้าน แล้วก็นั่งเขินกันไปตลอดทาง แถมก่อนลงจากรถก็ยังบอกฝันดีแก่กันและกันด้วย
แต่ Kimi Dolce มันก็การ์ตูนรักๆนี่นะ นั่นล่ะคือบรรยากาศที่สมควรจะเป็น ยังถือว่าช้าไปด้วยซ้ำสำหรับคู่พระเอกนางเอกน่ะ~
“รสชาติเป็นยังไงบ้างคะ”
“อร่อยมาก ทั้งหวานอมขมอย่างลงตัวอย่างสมดุล ไม่มากไปและไม่น้อยไป เป็นช็อคโกลาที่อร่อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยกินมาเลยล่ะ”
คาบุรากิน่าจะได้ลิ้มลองช็อคโกแลตชั้นยอดจากฝีมือปาติซิเย่มากมายบนโลกนี้แล้ว แต่คงไม่มีอันไหนเทียบได้กับอันที่ได้จากวาคาบะจังล่ะมั้งน้า
ฟังคาบุรากิพร่ำเพ้อเรื่องช็อคโกแลตวาเลนไทน์และเหตุการณ์อันแสนหวานวนลูปไปอีกหนจนกระทั่งยูกิโนะคุงกลับมา คาบุรากิเลยหันไปสนใจยูกิโนะคุงแทน ซักถามเรื่องการตรวจแบบละเอียดยิบๆ
รู้สึกผลการตรวจจะออกมาดีพอสมควรจนไม่ต้องแอดมิดโรงพยาบาลแบบที่กังวลไว้ เท่านี้ก็เป็นอันว่าเสร็จธุระในวันนี้
ยูกิโนะคุงต้องอยู่ต่ออีกนิดหน่อยเพื่อรอคุยกับคุณหมอเรื่องแนวทางในการดูแลตัวเอง ฉันเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วก็เลยขอตัวกลับก่อน เอ็นโจเดินออกมาส่งฉันขึ้นรถ ให้คาบุรากิอยู่เป็นเพื่อนยูกิโนะคุงเล่นเกมไป
ก่อนออกจากห้องมา ฉันอดเหลียวหลังไปมองไม่ได้ก็เห็นคาบุรากิกำลังขยี้หัวยูกิโนะคุงอย่างเมามัน โดยมีมือของยูกิโนะคุงที่พยายามปัดๆออกท่าทางรำคาญแต่สู้แรงอีตาบ้าพลังนี่ไม่ได้ซักนิด
เดี๋ยวเถอะ!! ยูกิโนะคุงเพิ่งจะตรวจเสร็จนะยะ ทำแบบนั้นเดี๋ยวคอเล็กๆของยูกิโนะคุงก็หักเอาหรอก
“มาซายะอย่าไปแกล้งยูกิโนะสิ” เอ็นโจปรามการกระทำนั้นได้อย่างทันท่วงที คาบุรากิเลยหัวเราะก่อนจะหันกลับไปจับจอยสติ๊กเล่นเกมต่อ
“เริ่มตาถัดไปได้แล้วล่ะฮะ ท่านพี่มาซายะ”
“ถ้าแพ้แล้วอย่ามางอแงขออีกตาล่ะ~”
เด็กเอ้ย….