หลังจากที่ผมแห้ง และจัดแต่งผมใหม่เรียบร้อยวาคาบะจึงบอกลาเรย์กะเตรียมจะลงไปยังชั้นล่างเพื่อออกไปข้างนอกกับมาซายะต่อ แต่เมื่อวาคาบะกำลังจะเดินลงบันไดไปได้พบกับมาซายะที่กำลังเดินขึ้นมาพอดี
"ขอโทษที่ขึ้นมาโดยพลการนะ แต่ฉันเป็นห่วงเรื่องแมวจริง ๆ และก็มีกิ๊บติดผมที่จะให้เป็นของขวัญด้วย ถ้าเธอติดมันตอนออกไปทานอาหารด้วยกันก็คงจะดี"
วาคาบะจึงรับกิ๊บมาติดและพยายามจะเดินนำให้เขากลับลงไปข้างล่าง โดยอ้างว่าจะไปดูกระจกที่อยู่ในห้องน้ำชั้นล่าง แต่อีกฝ่ายดันไม่ทำตามที่คิดเสียได้
"แมวไปไหนแล้วล่ะ?"
มาซายะก้าวขึ้นบันไดไปดูบนชั้นสอง แต่ไม่พบกับแมวที่ทางเดินจึงถามขึ้น
"เมื่อกี้ต้อนให้ออกไปแล้วค่ะ ดูท่าฉันจะลืมปิดประตูระเบียงก่อนออกจากบ้านไปแมวก็เลยเข้ามาทางนั้นค่ะ"
วาคาบะหัวเราะกลับเกลื่อนและเรียกมาซายะให้รีบลงไปข้างล่างด้วยกัน ก่อนจะพบคันตะส่งสายตาขอโทษขอโพยอยู่ในครัว
"ถ้างั้นพี่ไปก่อนนะ คันตะอย่าดุเพื่อนมากนักนะ~"
เธอบอกลาน้องชายพลางคว้ากระเป๋าสะพายเพื่อที่จะออกไปข้างนอกต่อ แต่ทว่าดันมีเสียงแม่ของเธอดังขึ้นมาจากหน้าประตูบ้านป็นการขัดจังหวะเข้าเสียก่อน
"อ้าว สวัสดีค่ะคุณคาบุรากิ วันนี้ไม่ได้ออกไปเที่ยวด้วยกันกับวาคาบะหรอคะ?"
"แล้วก็คันตะ โคโระจังไปไหนแล้วหรอ?"
ทางด้านสองพี่น้องทาคามิจิในขณะนี้กำลังหน้าซีดกันสุดขีด ถึงแม้พวกเขาจะมองว่าไม่จำเป็นต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับก็ได้แต่ในเมื่อเจ้าตัวอยากให้เป็นความลับต่อมาซายะ พวกเขาก็ไม่ควรทำให้ความลับนี้รั่วไหล
"โคโระจัง..?"
มาซายะพึมพำออกมาทันทีที่ได้ยินชื่อศัตรูหัวใจในจินตนาการ ดูเหมือนว่าโคโระจังที่ว่าจะต้องสนิทกับบ้านทาคามิจิมากกว่าที่คิดไว้แน่เลย ชักสงสัยมากขึ้นแล้วเชียวว่าเป็นคนยังไงกัน
"อ๋อ พอดีมีอะไรนิดหน่อยเลยกลับมาเปลี่ยนชุดค่ะ กำลังจะออกไปแล้ว ถ้างั้นขอตัวก่อนนะคะ"
วาคาบะที่เห็นท่าไม่ดีรีบตอบพร้อมดึงชายเสื้อมาซายะเบา ๆ เป็นการกระตุ้นให้อีกฝ่ายเดินออกไปด้วย ซึ่งมาซายะก็ตามไปอย่างว่าง่ายหลังจากบอกลาแม่ของอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
หลังจากก้าวขึ้นรถของบ้านคาบุรากิที่จอดรออยู่มาซายะจึงถามคำถามที่เขาสงสัยมานาน ที่เมื่อกี้ตามออกมาอย่างว่าง่ายไม่ซักถามต่อก็เพราะเขากำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ และในตอนนี้เขาได้ข้อสรุปสำหรับตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่ถามย้ำให้แน่ใจเท่านั้น
"โคโระจังนี่.. เป็นเพื่อนผู้หญิงของคันตะหรอ?"
เท่าที่คิดดูคนที่คันตะคุยด้วยก่อนพวกเขามาคือโคโระจังไม่ผิดแน่ แล้วอีกฝ่ายน่าจะเป็นผู้หญิง เพราะจากคำลงท้ายชื่อว่าจัง ไหนจะการที่คันตะเรียกอีกฝ่ายว่ายัยนั่นอีก
"อะ อ๋อ ใช่ค่ะ เป็นเพื่อนของคันตะที่ชอบมาเล่นด้วยกันบ่อย ๆ"
วาคาบะที่ไม่ทันตั้งตัวกับคำถามตรง ๆ ของมาซายะตอบออกไปโดยเผลอให้ข้อมูลเกินความจำเป็นไปนิดหน่อย
"ดูท่าจะสนิทกับครอบครัวของเธอมากเลยนะ แต่แปลกใจจังทำไมฉันมาแล้วไม่เคยเจอเลย"
เขาถาม ดูท่าแล้วอีกฝ่ายจะสนิทกับครอบครัวทาคามิจิมากแต่ทำไมเขาที่มาบ้านทาคามิจิถึงหกวันต่อสัปดาห์กลับไม่เคยเจอกันเลยสักครั้งเลย ถ้ามาเล่นด้วยกันบ่อยจนสนิทกับครอบครัวขนาดนี้ก็น่าจะต้องมีสักครั้งที่บังเอิญเจออยู่แล้วสิ
"..โคโระจังเป็นคนขี้อายค่ะ บางครั้งเวลาเห็นคาบุรากิคุงอยู่ในบ้านก็เลยไม่กล้าเข้ามาล่ะมั้ง"
เธอตอบไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่โชคดีที่มาซายะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องถามต่อแล้วในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเพื่อนผู้หญิงของคันตะก็คงไม่ใช่ศัตรูหัวใจของตนอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนไปชวนวาคาบะคุยเรื่องอื่นแทน
วันรุ่งขึ้นมาซายะผู้ซึ่งขณะนี้กำลังมีท่าทีที่มีความสุขสุด ๆ เรียกเรย์กะและชูสุเกะไปที่ห้องประชุมเล็กห้องเดิมกับที่พวกเขาใช้ประชุมวางแผนปัญหาหัวใจของมาซายะ
"โคโระจังเป็นผู้หญิงล่ะ"
เมื่อทุกคนมาครบแล้วมาซายะจึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าภูมิใจว่าในที่สุดตนก็คลี่คลายข้อสงสัยนี้ลงได้ ส่วนเรย์กะที่ได้ยินดังนั้นกลับนั่งตัวแข็งทื่อ
โดนจับได้แล้ว..? บทลงโทษของสปายที่ทรยศ...
"เท่าที่ได้ยินมาดูเหมือนว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงขี้อายด้วยนะ"
มาซายะเกริ่นขึ้นก่อนที่จะเล่าเรื่องราวตามที่คุยกับวาคาบะให้ทุกคนฟัง ทางด้านเรย์กะเองก็คลายความกังวลลงเพราะดูเหมือนว่าเรื่องนี้ยังคงเป็นความลับต่อไป
แต่ทว่า..
"ดูท่าว่าโคโระจังจะเป็นเด็กผู้หญิงที่เหมือนกระต่ายน้อยสินะ"
อยู่ ๆ ชูสุเกะก็เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับหันมายิ้มอย่างมีเลศนัยให้เรย์กะ
"เนอะ? คุณคิโชวอิน"
_______