ตอนที่เดินกลับห้องเรียนฉันก็ได้ครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อครู่นี้ที่คุยกับพวกอิวามุโระคุง
ระหว่างที่ฉันวุ่นวายหัวปั่นกับเรื่องวุ่นวายที่คาบุรากิและเอ็นโจเอามาถาโถมใส่ให้ไม่หยุด ก็ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของสองคู่นี้ก็พัฒนาเร็วมากจนถึงขั้นมอบช็อคโกแลตตัวจริงได้แล้ว ท่าทางฤดูใบไม้ผลิของอิวามุโระคุงกับหัวหน้าห้องคงจะมาเยือนในไม่ช้านี้ล่ะ
พูดถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว….ฉันก็นึกถึงตัวหลักในเรื่องนี้ขึ้นมา
ทั้งๆที่เป็นคู่พระเอกนางเอกของเรื่องแท้ๆ ไหงก้าวหน้าน้อยกว่าคู่ตัวประกอบที่ไม่มีแม้กระทั่งชื่อโผล่มาในเรื่องได้ล่ะยะ
ในมังงะเนื้อเรื่องช่วงวาเลนไทน์น่ะ มีอีเวนท์หวานๆของวาคาบะจังที่รอมอบช็อคโกแลตให้กับท่านจักรพรรดิ ถึงจะโดนกลั่นแกล้งขัดขวางจากคิโชวอิน เรย์กะมากมายแค่ไหน แต่ช็อคโกแลตทำมือกล่องนั้นก็ถูกส่งถึงมือคาบุรากิจนได้
ฉากมอบช็อคโกแลตน่ะทำเอาฉันเขินม้วนไปหลายตลบเลยนะ ใจนี่เต้นตึกตักไปหมด อีกทั้งรอยยิ้มเท่ๆกระชากใจที่แทบไม่เคยให้ใครเห็น เอ่ยชมเชยเรื่องรสชาติของช็อคโกแลต ตอนพิเศษก็มีฉากจูบอันแสนหวานของสองคนนี้ อุเฮี้ยว~ ท่านจักรพรรดิขา มัน-เขิน-น้า~~
แต่ท่านจักรพรรดิในความเป็นจริงนั้น ...ถึงจะทานมื้อกลางวันอยู่ที่โต๊ะของ Pivoine ก็เหอะ แต่คองี้ยืดยาวชะเง้อมองไปทางวาคาบะจังในโรงอาหารอยู่เรื่อย คาบุรากิปั้นหน้าขรึมวางเฉยเหมือนอย่างทุกครั้ง แต่สายตาดูล่อกแล่กมีพิรุธสุดๆอะ
คงรอให้วาคาบะจังเอาช็อคโกแลตมาให้อยู่ใช่มะ
ไม่รู้ว่าปีนี้วาคาบะจังจะให้ช็อคโกแลตกับคาบุรากิรึเปล่า แต่ได้สนิทกันมากขึ้นขนาดนั้น คาบุรากิก็คงคาดหวังอยู่ล่ะมั้งว่าจะได้รับ
ถ้าได้รับช็อคโกแลตนี่จะสารภาพรักไปเลยรึเปล่านะ แต่เนื้อเรื่องช่วงเวลาสารภาพรักก็เลยมาตั้งนานแล้วด้วยสิ จะพูดตอนไหนกันน้า คงไม่เล่นใหญ่ไปสารภาพรักกลางสี่แยกที่มีคนเดินขวักไขว่แบบในการ์ตูนหรอกใช่มั้ย
ถึงดูมีแนวโน้มว่าคาบุรากิจะทำได้ก็เหอะ แต่เอาพอดีๆดีกว่ามั้งนะ วาคาบะจังจะได้ไม่ลำบากใจด้วย
จะว่าไปแล้ว...ตอนนี้ยูกิโนะคุงกำลังเดินทางไปโรงพยาบาลสินะ ต้องตรวจสุขภาพเยอะแยะมากมาย จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้นะ
ใจฉันนึกห่วงยูกิโนะคุงจนแทบไม่ได้จดจ่ออยู่ที่หนังสือเรียนเลย เวลาเอ๋ย ผ่านไปไวๆหน่อยซี่ ยูกิโนะคุงคงคอยแย่แล้ว
กริ่งเลิกเรียนดังขึ้นจนได้ ฉันเก็บข้าวของใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบเพื่อจะได้ไปที่โรงพยาบาล บอกพวกเซริกะจังไว้ตั้งแต่เช้าแล้วล่ะว่าหลังเลิกเรียนมีธุระคงอยู่เอ้อระเหยด้วยไม่ได้
แต่ยังไม่ทันจะสะพายกระเป๋าขึ้นไหล่ เอ็นโจก็ปรากฎกายขึ้นที่หน้าประตูพร้อมกับรอยยิ้มเจิดจ้า เรียกเสียงวี้ดว้ายเบาๆดังมาจากสาวๆในห้องของฉัน
“คุณคิโชวอิน”
“อื๋อ มีอะไรรึเปล่าคะ”
“ผมมารับน่ะ” เอ็นโจยื่นมือมาข้างหน้า “ไปกันเถอะ”
“เอ๋!”
“ก็ไปหายูกิโนะด้วยกันไง” พอเห็นสีหน้างุนงงของฉัน เอ็นโจก็เลยขยายความต่อ “ไหนๆผมก็ต้องไปโรงพยาบาลอยู่แล้ว ก็เลยมารับคุณคิโชวอินไปด้วยกันดีกว่า”
“....”
ไม่เอาอะ ขืนไปกับนายเดี๋ยวก็มีข่าวแปลกๆอีก ทั้งที่คิดแบบนั้น แต่เอ็นโจก็พูดขึ้นมาว่า
“ไปกันเถอะ ยูกิโนะคงรอแย่แล้ว”
“....นั่นสินะคะ”
เพราะเห็นแก่ยูกิโนะคุงหรอกนะ ให้เทวดาน้อยรอนานๆก็ไม่ดีซะด้วย ...ช่วยไม่ได้นะ
พอเอ็นโจเอ่ยปากทักเรื่องถุงที่หิ้วอยู่ ฉันก็เลยส่งให้ถือซะเลย ฮ้า~ ค่อยเบาขึ้นหน่อย
เราสองคนเดินไปที่ลานจอดรถด้วยกัน เอ็นโจเดินอยู่ข้างๆก็มีสีหน้าระรื่นจนดูน่าหมั่นไส้ ไม่เหมือนคนที่กำลังจะไปหาน้องชายที่ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลเลยสักนิด
เมื่อขึ้นรถมากันเรียบร้อย คนขับก็พาเรามุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ยูกิโนะคุงอยู่ ...จริงๆก็นั่งรถบ้านเอ็นโจหลายหนแล้ว แต่ตอนนั้นมียูกิโนะคุงอยู่ด้วยก็ยังไม่รู้สึกเกร็งเท่านี้เลยอะ
“ป่านนี้ยูกิโนะคุงจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้นะคะ”
“คงนั่งทานช็อคโกแลตร้อนกับคุณหมออยู่มั้ง ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก”
ไหงคำตอบดูไร้เยื่อใยกับน้องชายจังเลยล่ะยะ เป็นห่วงให้มากกว่านี้หน่อยซี่ ยูกิโนะคุงอาจจะต้องแอดมิดโรงพยาบาลจากการตรวจสุขภาพครั้งนี้เลยนะ
ดูท่าเอ็นโจจะจับความรู้สึกฉันได้ก็หันมายิ้มให้ฉัน
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ถึงจะบอกว่าเป็นการตรวจสุขภาพ แต่จริงๆก็แค่เช็คนั่นเช็คนี่นิดหน่อยเอง”
“...อย่างนั้นเหรอคะ”
“อื้อ พักนี้ยูกิโนะก็แข็งแรงดีขึ้นมาก ไม่ถึงขั้นต้องแอดมิดหรอกนะ คุณคิโชวอินทำใจให้สบายๆไม่ต้องกังวลไปหรอก”
ถึงจะว่าอย่างงั้นแต่ก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดีนั่นแหล่ะ