>>132 ที่กูจะสื่อคือ นิยายมันโฟกัสที่วันๆของเรย์กะก็แบบนี้ล่ะ ต่อให้เรย์กะจะจบม.6 มีสอบเข้ามหาลัย อ.แกก็ไม่เขียนให้นางเอาแต่คร่ำเคร่งอ่านหนังสือ สอบ อ่านหนังสือ สอบ โฟกัสแค่การสอบวนไปแบบนี้หรอก กูถึงได้ยกตัวอย่างเรื่องเด็กใหม่ห้องคิงมาไง ถึงอีพวกนี้จะคร่ำเคร่งกับการสอบเข้าขนาดไหน แต่ในเรื่องก็ยังมีอีเวนท์นั่นนี่ ไปเที่ยวเล่น ไปเป็นอาสาสมัคร ไปงานวันเกิด ทำนั่นทำนี่ตั้งเยอะ ดังนั้นจะใส่อีเวนท์อะไรลงมาก็ได้ อีเวนท์นี่กูก็ไม่ได้หมายถึงแค่เหตุการณ์ที่เกิดกับนางด้วยนะ อาจจะเป็นเรื่องย่อยๆของคนนั้นคนนี้รอบตัวนางผ่านเข้ามาให้รับรู้ เช่นตอนซากุระมาขอให้สืบเรื่องผู้หญิงที่เข้ามาจีบแฟนตัวเอง หรือชวนกันไปกินข้าวกลางวันกับพวกซากุระและอาโออิเป็นต้น
แล้วถึงจะบอกนางไม่ไปไหน แต่มีงานเลี้ยงหรือคำเชิญอะไรมานางก็ไปหมดทุกที บางทีก็ไปนั่นมานี่เองตามใจ ไปโรงเรียนสอนพิเศษ ไปบ้านวาคาบะ อ.แกก็โปรยทางไปบ้านเอ็นโจมาให้แล้วด้วยการให้ยูกิโนะชวนมาเล่นที่บ้านตอนปิดเทอม ยังไงกูว่าก็ต้องเข้าอีเวนท์บ้านเอ็นโจอยู่ดีเพราะทิ้ง hint มาแล้ว เหลือแค่เดินทางไปให้ถึงตรงนั้น แล้วอนาคตมันก็ไม่แน่นอนหรอก เผลอๆวาคาบะจะสอบเข้าม.ซุยรันเพราะได้ทุน บางทีอาจจะได้เงินด้วย ถ้าได้เงินกูว่านางสอบเข้าชัวร์ แค่เรียนก็ได้เงินนี่แม่งมีความสุขจะตาย จบไปก็เอาเงินไปตั้งตัวได้ด้วย 555555555
ส่วนเรื่องการเขียนที่จะวางแผนหรือไม่วางแผนกูไม่มีคอมเมนต์ เพราะกูคิดว่านักเขียนแต่ละคนก็มีสไตล์การเล่าเรื่องเป็นของตัวเอง อยากเล่าหรืออยากใส่อะไรก็เป็นเรื่องของเขา จะเขียนแต่วันๆจะกินอะไรอย่างเดียวไม่ขยับเนื้อเรื่องจนตอนนี้เรย์กะยังอยู่ประถมอยู่เลยก็ทำได้ อยู่แค่คนอ่านจะเบื่อแล้วเลิกตามไปก่อนรึเปล่าเพราะเรื่องไม่คืบ หรือจะเล่าฉับๆๆๆๆรวดเร็วทันใจแป๊บเดียวก็ปิด arc ได้ นั่นก็เป็นสไตล์หนึ่งเหมือนกัน