วิธีในการทำงานของผม
1. หลีกเลี่ยงเครื่องมือ และ ไลบรารี่ภายนอก อันนี้เป็นจุดใหญ่ใจความเลย ถ้าอันไหนผมเขียนได้ ผมจะเขียนเองทั้งหมด ข้อดีของมันคือเราคุมได้ ว่าเราต้องการผลลัพท์แบบไหน การดัดแปลงก็ง่าย เพราะเรารู้ทุกบรรทัดที่เราเขียน ข้อเสียคือ เสียเวลา แต่การเสียเวลาผมว่าคุ้ม เพราะเราเสียเวลาแค่ครั้งแรกเท่านั้น เพราะเราจะได้ทั้งความรู้ และการต่อยอดในภายหลัง ซึ่งอาจใช้เวลาน้อยกว่า การศึกษาคู่มือของคนอื่น และ ความพยายามในการดัดแปลงซะอีก
2. ใช้เทคโนโลยีพื้นฐานให้มากที่สุด จริงๆ เทคโนโลยีมันถูกพัฒนาตลอดเวลาแหละ และของใหม่มักจะดีกว่าของเก่า ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ข้อเสียของ ของใหม่ที่สำคัญคือ มันมักจะถูกจำกัดให้ใช้กับคนที่มีความสามารถพอ เช่น docker ซึ่งหลายๆอย่าง มันเป็นของใหม่ และคนส่วนใหญ่ ยังไม่ได้ใช้มัน การทำงานกับคนส่วนใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ แต่ถ้าคุณทำงานในกลุ่มแคบๆ เช่นในองค์กร คุณจะใช้เครืองมืออะไร ก็สามารถเลือกได้ตามสบาย เพราะคุณสามารถควบคุมเทคโนโลยีที่จำเป็นของตัวเองได้
3. ทำมาเพื่อใช้ โค้ดทุกบรรทัด ต้องใช้ได้จริง งานทุกชิ้นต้องใช้ได้ จริงๆ ถ้าเราทำงานมาแล้วไม่มีคนใช้ มันเจ็บใจกว่าไม่ได้ทำมันขึ้นมาซะอีก จริงๆ ข้อนี้เป็นความลำบากอย่างหนึ่งในวิธีการทำงานของผม เพราะการออกแบบให้คนจำนวนมากสามารถใช้งานได้ มันยากกว่าทำให้ตัวเองใช้ หรือ ใช้ในกลุ่มแคบๆ การมีเจ้าภาพในการทำงาน มันมีข้อดีที่ requirement มันจะเป็นของเจ้าภาพ เราจะมีสโคป ชัดเจน งานจะง่าย ในขณะที่การทำงานกับคนในวงกว้าง requirement จะต้องสามารถทำงานได้กับคนที่มีความแตกต่างกันสูงๆด้วย (แต่ละคนอาจมี requirement ที่ไม่ตรงกัน)
4. เริ่มใหม่ได้เสมอ เปลี่ยนวิธีคิดได้ตลอดเวลา ้ถ้าเจออะไรใหม่ๆ หรือถึงทางตัน ผมไม่ซีเรียสนะ ถ้าผมต้องกลับไปเริ่มต้นจาก 0 ใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนวิธีคิด อันนี้ผมว่าเป็นข้อดีของผมเลยทีเดียว หลายๆครั้งเวลาเราเจอปัญหา เรามักจะแก้ไขมันไม่ได้ เพราะ สมองเรามันมักจะคิดว่า เรามาถูกทางแล้ว แต่คงทำอะไรผิดซักอย่าง เป็นลูปซ้ำๆเดิม ซึ่งจริงๆ ถ้ามันผิดตั้งแตวิธีคิด แต่เรายังคงวนในลูปเดิมๆ แน่นอนว่า เราไม่มีทางประสบความสำเร็จภายใต้ลูปนั้นๆ ทางออกคือ เราต้องออกจากลูป แล้วเริ่มต้นใหม่ ซึ่งผมมักจะทำได้ง่ายมาก
จริงๆ คนอายุขนาดผม มันต้องมีวิธีคิดเป็นของตัวเองได้แล้วแหละ ไม่จำเป็นต้องคิดตามคนอื่น หรือ คิดแบบองค์กร เพราะ ประสบการณ์ที่ผ่านมา มันน่าจะสอนอะไรเรามาได้พอสมควร ทำให้ผมสามารถเลือกทางที่เหมาะสมกับตัวเองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมแนะนำให้ต่อต้านเทคโนโลยี หรืออะไรนะครับ มันยังคงจำเป็น สำหรับการเรียนรู้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ยังจำเป็นต้องเรียนรู้และแสวงหาอยู่ เพราะเทคโนโลยีใหม่ในวันนี้ จะเป็นเทคโนโลยีเก่าในวันข้างหน้า เทคโนโลยีใหม่กว่าจะถูกนำมาแทนที่ และ เทคโนโลยีใหม่ในวันนี้ อาจเป็นมาตรฐานในอนาคตก็ได้ ใครจะไปรู้