โลกของการพัฒนาแอพกำลังจะเปลี่ยนเพราะ Huawei
ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่าไม่ได้เป็นติ่งหัวเหว่ย เขียนถึงเพราะมันเป็น paradigm shift ที่มันต้องเกิดขึ้นซักวัน แต่มันเกิดเร็วกว่าที่คาดเพราะหัวเหว่ยจนตรอกนี่แหละ และมันก็ไม่เกี่ยวกับดราม่าโลกจะแตกหากไม่มี Google App ใช้
Android App ใช้ JVM มาตั้งแต่แรก เพราะ business model ต้องการความหลากหลายของเครื่อง ทั้ง cpu, memory, features สารพัดจะแตกต่าง android รับได้หมด
ข้อเสียคือมันช้า โคดช้า จนถึงช้าที่สุด เมื่อเทียบกับ iOS ที่คอมไพล์ native ตรงๆ ไม่มี VM ซึ่ง Google ก็ปรับปรุงเรื่อยมา เช่น มี JIT (Just in time) compiler เร็วขึ้นแต่ยังต้องรันหลายๆรอบถึงจะเร็วขึ้น และต่อมาก็มี ART ซึ่งคอมไพล์ตอนติดตั้ง แลกเอาติดตั้งช้าหน่อย แต่วิ่งเร็วขึ้น เครื่อง Android มีปัญหาอีกอย่างคือ Java มี Garbage Collector ที่คอยทำงานไม่เป็นเวล่ำเวลา ทำให้เครื่อกระตุกตลอด
Apple ได้เปรียบ เพราะเป็น OS สำหรับ เครื่องจากบริษัทเดียว คุมได้ตลอด เปลี่ยน OS ที คนเปลี่ยนเหยียบ 80-90% ในเวลาไม่กี่เดือน ในขณะที่ Android คนเปลี่ยนช้ากว่ามาก เครื่องร้อยพ่อพันแม่ ทำให้ต้องใช้หลักการบนพื้นฐาน JVM ที่ compile ตามเครื่องที่รัน (Dynamic Compiler) ตามที่บอกข้างต้น
ทีนี้เมื่อโลกบีบหัวเหว่ย ทำให้หัวเหว่ยต้องออก OS ออกมา และจะขายออก ก็ต้องมีอะไรๆที่ดีกว่าแอนดรอยด์ หนึ่งในนั้นก็คือ ความเร็วของแอพ พี่แกก็เลยออก ARK Compiler ออกมา ประกาศว่าเป็น Open source ด้วย เป็น static compiler คอมไพล์ code ส่วนใหญ่เป็น native ไปเลย ไหนๆก็ไหนๆ ไม่มีอะไรต้องแคร์ เพราะรันบนเครื่องกรูเครื่องเดียว กับ CPU Kirin ซึ่งยังถือใบอนุญาตจาก ARM แบบตลอดชีวิตอยู่
ไม่ต้องมานั่งกังวลแบบ Google ที่ต้องทำ compiler ให้ซัพพอร์ตเครื่องหลากหลายรุ่นแบบมหาศาล
ตอนนี้รอดูว่ารูปแบบ apk จะออกมายังไง การ launch โปรแกรมต้องเปลี่ยนแน่ เพราะน่าจะไม่มี ART แล้ว (Android Run-Time) หรือจะมียังไง รูปแบบไหน
Developer ได้แต่ทำตาปริบๆ แค่ต้อง คอมไพล์ iOS, Android บวก Windows, Mac, Linux ก็แย่แล้ว ท่าทางจะมีเพิ่มอีก...