ครบปีแล้ว ผมขอเอาของขวัญปีใหม่จากปีที่แล้วมารีโพสต์อีกรอบครับ
ผมเองก็อ่านโพสต์นี้ซ้ำบ่อย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี คำถามสามข้อนี้ช่วยให้ผมจัดลำดับความสำคัญในชีวิตได้ดีขึ้น
----
.
ผมสังเกตเห็นว่าโปรแกรมเมอร์มักจะมี New year resolution กัน เนื่องจากผมไม่ค่อยชอบทำอะไรที่คนส่วนใหญ่ทำ ผมขอเสนอ New year questions สักสามข้อ ให้ลองถามตัวเองกัน
.
---
.
1. ถ้าวันนี้บริษัทไล่เราออกจากงาน (หรือบริษัทของเราเจ๊ง) คิดว่าจะใช้เวลาหางานใหม่ได้เร็วแค่ไหน จะได้เงินเดือนเท่าไร
.
ผมเคยสัมภาษณ์โปรแกรมเมอร์คนหนึ่ง (ที่ตปท. ไม่ใช่ที่ไทยนะครับ) ซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ แต่ถูกให้ออก เนื่องจากตอนนั้นราคาน้ำมันตกเยอะมาก จนบริษัทต้องลดขนาดองค์กร
.
จากการสัมภาษณ์ ผมชอบทัศนคติ และความฉลาดของเขามาก
.
แต่ตัดสินใจไม่รับ
สาเหตุเพราะเค้ามีอายุงานเกิน 10 ปี แต่ทำงานที่เดียว แผนกเดียวกัน มาตลอดตั้งแต่ฝึกงาน ความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมของเขาอยู่กับระบบเก่า ภาษาเก่า เทคนิคเก่า และอยู่เฉพาะธุรกิจของ Oil and Gas ถึงผมมั่นใจว่าเค้าเรียนรู้อะไรใหม่ๆได้ แต่การจะจ้างเค้าในฐานะ Senior ด้วยเงินเดือนที่เหมาะสมกับที่เก่า แต่ความรู้น้อยกว่า Medior ที่ทำงานมาไม่ถึง 5 ปี ผมคงต้องขอเก็บตำแหน่งนี้ให้กับผู้สมัครคนอื่น
.
สัมภาษณ์งานเสร็จ ผมก็ต้องเตือนตัวเองด้วยว่า
.
โปรแกรมเมอร์เป็นสาขาที่แตกต่างจากวิชาชีพอื่นมาก ความรู้(ส่วนใหญ่)ของเราหมดอายุเร็ว ส่วนประสบการณ์ก็ไม่ได้ Stack โดยตรงเหมือนอาชีพฝั่งวิศวกรบางสาขา อายุงานมาก ไม่ได้แปลว่าคุณได้เปรียบ
.
ลองถามคำถามนี้กับตัวเองดูครับ ถ้าหางานไม่ได้เร็วพอ หรือเงินเดือนไม่ได้ตามต้องการ ลองถามต่อด้วยว่าเพราะอะไร เราจะทำอะไรเพื่อทำให้หางานได้เร็วขึ้นแค่ไหน
.
----
2. ในงานปัจจุบันเรา เราสร้างมูลค่า(ตีเป็นตัวเงิน)ให้กับบริษัทได้เท่ากับ 3 เท่าของเงินเดือนที่เราได้รับรึเปล่า?
.
บริษัทคือธุรกิจครับ สุดท้ายวัดกันที่ผลประกอบการณ์ ถึงทุกวันนี้ตลาดโปรแกรมเมอร์จะแดงเดือด เงินเดือนพุ่งขึ้นสูงมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
เมื่อไรก็ตามที่ธุรกิจอยู่ในขาลง สำหรับบริษัทไอที การลดรายจ่ายหลัก ยังไงก็ต้องเป็นการเอาคนออก สำหรับบริษัทที่ไม่ใช่ไอที แผนกที่ไม่ได้เป็นแผนกหลักของธุรกิจ ก็จะโดนหนักหน่อย
.
บางคนคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นหรอก ก็เป็นไปได้นะครับ แต่เราเดาอนาคตกันไม่แม่นอย่างที่เราคิดหรอก ผมอยากจะชี้ให้เห็นว่าตอน Dot Com Bubble คนก็คิดกันแบบนี้
.
ถ้าคำตอบของคำถามนี้คือไม่ ลองถามตัวเองดูว่าจะทำอย่างไรให้สร้างมูลค่าได้มากกว่านั้น ตั้ง Career (และรายได้) ของเราบนความไม่ประมาทนะครับ
.
----
.
3. สุขภาพของปีนี้ เทียบกับเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร ทำอย่างไรได้บ้างให้ปีนี้ดีขึ้น
.
ผมมีเพื่อนเป็นหมอฟัน รายได้ดี แต่แค่ 30 ต้นๆก็เริ่มมีปัญหาเรื่องข้อมือกันแล้ว โปรแกรมเมอร์นี่ไม่ต้องพูด นอกจากข้อมือแล้ว คอ หลัง และหมอนรองกระดูกเริ่มไปพร้อมๆกัน
.
มองอีกมุม เราเป็น"กรรมกรห้องแอร์" ใช้แรงงานไม่หนัก แต่ใช้ซ้ำๆตรงบางบริเวณ ทำให้มีโอกาสบาดเจ็บจากพวก RSI (Repetitive Stress Injury)สูง ส่วนใหญ่จะรู้ตัวกันเมื่อเจ็บมากแล้ว
.
แต่ก่อนผมไม่ค่อยสนใจสุขภาพ อาจเป็นเพราะว่าอายุยังน้อย แต่พอเลย 30 มา มันชัดขึ้นเลยว่าร่างกายเราไม่เหมือนแต่ก่อน ใครที่ยังไม่เป็นไร ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ลองถามรุ่นพี่ที่เป็นดู ว่ามันทรมานแค่ไหน
..
คำถามนี้สำคัญกว่าสองข้อข้างบนอีก ถ้าสุขภาพพัง ไม่ต้องคิดถึงเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องแฟน เรื่องครอบครัวหรอกครับ ทุกอย่างพังกันหมดเป็นโดมิโนเลย
ส่วนใครที่ New year resolution เป็นเรื่องออกกำลังกายมาหลายปีแล้ว แต่ไม่ได้ทำสักที ไม่ต้องรอปีใหม่ครับ ถ้าวันนี้คุณไม่ไปออกกำลัง วันถัดๆไป คุณก็ใช้ข้ออ้างเดิมมาไม่ออกน่ะแหละ
.
------
.
สวัสดีปีใหม่ครับ ไม่ว่าโลกจะหมุนครบรอบหนึ่งปีวันนี้หรือเปล่า ผมแนะนำให้ทุกคนอยู่กับตัวเอง อยู่กับปัจจุบัน
.
เพราะเราใช้ชีวิตอยู่ใน"วันนี้"ทุกวัน เราไม่สามารถใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้หรือเมื่อวานซืน
-----