หลายๆ ท่านที่ผมเคารพนิยามคำว่าปัญหาไว้ตรงกัน
ปัญหาคือช่องว่างระหว่างสภาวะที่เป็นอยู่กับสภาวะที่อยากให้เป็น
ปัญหาจึงประกอบไปด้วย will หรือความปรารถนาอยู่เสมอ
หากไม่มีความปรารถนาอะไรเลย ก็ไม่มีปัญหา
ถ้าไม่มีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ เป็นมะเร็ง ติดโควิด ก็ไม่ใช่ปัญหา
ถ้าไม่มีความปรารถนาจะเห็นโลกดีงาม ไวรัสซอมบี้กระจายทั้งโลกก็ไม่เป็นปัญหา
การแก้ปัญหาโดยไม่เข้าใจถึง will ที่อยู่ภายใต้ แปลว่าคุณไม่เข้าใจส่วนที่สำคัญที่สุดครึ่งนึงของปัญหาด้วยซ้ำ
เวลาที่เราเห็นว่าคนมันแก้ปัญหาแบบขอไปที มักจะเกิดจากการแก้ปัญหาอย่างไม่สนใจแรงขับแรงปรารถนาที่ตั้งตนให้เกิดปัญหามาแต่แรก
เช่น ปัญหาคือไม่มีเทสก็เขียนเทสอะไรซักอย่างมามั่วๆ อ่ะ มีแล้ว จบ
มันไม่ได้ตอบ will ที่ต้องการให้ซอฟต์แวร์เสถียร ต้องการจะเห็นผู้ใช้งานมีความสุข
การเข้าใจพลังของ will เป็นสิ่งสำคัญมาก
ในฐานะผู้นำ หากคุณเอาแต่ปัญหาไปให้คนอื่นแต่ไม่สามารถสื่อสาร will ออกไปได้ คุณก็จะเจอแต่คนที่แก้ปัญหาแบบขอไปที มันถึงได้มีคำพูดว่า ผู้นำบางคนมีพลัง มีวิชั่น คนทำงานด้วยง่าย
ในฐานะคนทำงาน คุณไม่เข้าใจ will เบื้องหลังของคนอื่น คุณทำงานแค่ไหน ก็อาจจะโดนมองว่านี่มันขอไปที ตรงข้าม ถ้าคุณมี will ที่มากพอและส่งให้คนอื่นได้ ทีมอาจจะฟังคุณโดยที่ไม่ต้องมี official authority ด้วยซ้ำ
ความปรารถนา ความหวัง เป็นสิ่งสำคัญมากในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า
แต่กลับกัน หากไม่มีเลย ก็ไม่มีปัญหา ไม่ต้องขับเคลื่อนอะไรสบาย
อยากใช้ชีวิตแบบก้าวไปข้างหน้าหรืออยู่กับที่สบายๆ ล่ะฮะ
และสุดท้าย การมี will มี hope เป็นเรื่องที่ต้องฝึกนะ คนเราถูกฝึกให้หมดหวังได้ ก็ถูกฝึกให้มีความหวังได้เช่นกัน ผมเชื่อแบบนั้น เริ่มจากสำรวจตัวเองบ่อยๆ ครับว่าเราหวังอะไร แล้วอยู่กับมัน อย่าตีตัวเองเร็วไปว่าฝันเฟื่องไร้สาระ