Fanboi Channel

มิตรสหายนักพัฒนาซอฟต์แวร์ท่านหนึ่ง

Last posted

Total of 356 posts

196 Nameless Fanboi Posted ID:RjknmBsvAI

เวลาพูดเรื่องการศึกษา หรือพูดเรื่องความรู้ความสามารถของคนที่เป็นผลผลิตจากกระบวนการศึกษาโดยเฉลี่ย .... หรือแม้แต่ผู้ใหญ่/คนแก่ มองความคิดความอ่านของเยาวชนคนรุ่นใหม่หรือเด็ก .... คำถามหนึ่งหรือคำบ่นหนึ่งที่มักจะมีเสมอก็คือ

"เดี๋ยวนี้สงสัยไม่สอนเรื่องนั้นเรื่องนี้"
"ทำไมไม่สอนเรื่องนั้นเรื่องนี้"
"ต้องให้ความสำคัญกับเนื้อหานั้นนี้มากกว่านี้"

ฯลฯ

ผมว่าผิดทางครับ ..... ปัญหาไม่ใช่เนื้อหา หรือการมองเห็นความสำคัญว่าจะต้องสอนหรอกครับ ......

ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือ "วิธีการสอน" และ "วิธีการเรียนรู้" ครับ

ถ้าเราคิดว่าปัญหาคือ "เนื้อหาการสอน" เราก็จะไปแก้ที่เนื้อหา ต้องยัดเรื่องนั้น ต้องมีเรื่องนี้ ฯลฯ

ผลก็คือ เด็กต้องถูกยัดเยียดเรื่องนั้นเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นการยัดเยียดที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ใดๆ ทั้งสิ้น .... เล่นไม่ได้ ตั้งคำถามไม่ได้ ต้องท่องจำสารพัด ท่องจำเนื้อหา ท่องจำวิธีการ ฯลฯ ..... การใช้งานอยู่แค่ในข้อสอบ ไม่อยู่รอบตัวที่เรามองเห็นได้ สัมผัสได้ เล่นได้ตลอดเวลา ......

ส่วนหนึ่งก็เพราะคนสอนก็จะถูกบังคับให้ต้องสอนเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้มีเนื้อหาเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ปีนี้ยัดเนื้อหา ปีหน้าต้องสอน อะไรแบบนี้เป็นต้น ....

คนสอนก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากสอนตามตัวอักษรและวิธีการในเนื้อหาแบบเป๊ะๆ เพราะตัวเองก็ไม่ได้เล่น ไม่ได้ตั้งคำถามอะไรเหมือนกัน ....

เข้าทำนอง ..... คนสอนก็ต้องจำไปสอน ท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง พูดได้เป๊ะแต่ไม่รู้เรื่องรู้ราวรู้บริบทอะไร .... ในขณะที่คนเรียนก็เหมือนเครื่องถ่ายเอกสาร .... ที่อ่านเอกสารไปเขียนลงข้อสอบ แล้วก็ลืมไป (เครื่องถ่ายเอกสารไม่มี Hard disk ที่เก็บข้อมูลถาวร มันก็จะจำไว้แค่ช่วงเวลาที่มันต้องถ่ายเอกสารเท่านั้นแหละ หลังจากนั้น "มันก็คืนคนที่เอามาถ่ายไปหมด" -- คุ้นๆ ไหม ... "เรื่องนี้ผมคืนอาจารย์ไปหมดแล้ว")

ยิ่งเราบอกว่าต้องสอนเรื่องนั้นเรื่องนี้เพิ่มเข้าไปไม่มีที่สิ้นสุด ปัญหานี้ก็ยิ่งหนักขึ้นทุกวัน

ถ้าดูจากเนื้อหาและปริมาณ ผมว่าเราก็ให้ความสำคัญกับทุกเรื่องนะ ... คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ .... อีกหน่อยก็จะโค้ดดิ้ง และวิทยาการคำนวน ......

ปัญหาคือ "วิธีการสอน" และ "วิธีการเรียน" แหละครับ

มีแค่นี้จริงๆ

============

[Slide Story] น้องๆ และสหายหลายต่อหลายคน ที่มาเรียนเรื่อง Maths for Working Programmers และ Functional Programming กับผม หลายคนที่ยังใกล้ชิดมหาลัยอยู่ก็พยายามจะไปบอกให้มหาลัยสอนเรื่องพวกนี้บ้าง ...

ผมก็ต้องเตือนน้องๆ และมิตรสหายเหล่านี้เสมอว่า "สอนเรื่องนี้แบบผม เรียนเรื่องนี้แบบที่น้องเรียนกับผม น้อง/คุณก็อินแล้วก็สนุกแหละครับ" ....​ "เนื้อหาพวกนี้ มีในหลักสูตรนะ เรื่องนี้อยู่ตรงนี้ เรื่องนั้นอยู่ตรงโน้น ฯลฯ" .... เห็นไหม มีนะ ไม่ใช่ไม่มี ฯลฯ

"เวลาที่เราบอกว่าอยากให้สอนเรื่องนั้นเรื่องนี้อ่ะครับ .... ลองนึกไหมครับ ว่าจะให้ใครเป็นคนสอน ถ้าเรานึกไม่ออกว่าจะให้ใครเป็นคนสอน ... มันอาจจะแย่ลงนะครับ เพราะเราจะมีคนที่ไม่อินเรื่องที่ตัวเองต้องสอนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน มีวิชาที่เรียนแบบเดิมๆ เพิ่มอีกหนึ่งวิชา มีคนอีกเป็นร้อยเป็นพันที่จะเข้าใจเรื่องนี้ผิดหรือเกลียดมันไป"

============

รูป: นกแก้วบนเครื่องถ่ายเอกสาร ..... รูปที่อยู่ใน presentation slide ที่ผมเคยใช้บ่อยมาก เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้พูดเรื่องนี้แล้ว

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.