เวลาหลายคนพูดว่า "A.I." นี่ จริงๆ แล้วเบื้องหลังมีแค่นี้แหละ .... แต่มันเป็น buzz word ที่ขายได้
หลักการพื้นฐานคือ "คอมพิวเตอร์ตัดสินใจตาม predefined rules" (เรียกว่า rule-based system)
ส่วน rules พวกนี้มันจะมาจากไหนก็อีกเรื่อง .....
rules พวกนี้อาจจะเอามาจากคนที่ทำงานใน field นั้นๆ และมีประสบการณ์เยอะก็ได้ (ถ้างั้นก็เรียก expert systems) ซึ่ง rules พวกนี้อาจจะซับซ้อนเป็นโครงสร้าง if-else ซ้อนๆ กันเยอะๆ ก็ได้ (เป็น decision tree ... ถ้าตัดสินใจแบบนี้แล้วต้องไปตัดสินใจอะไรต่อ ฯลฯ) .... ในชีวิตทั่วไปเราก็เห็นบ่อยตามคู่มือ troubleshooting ของ call-center หรือการวินิจฉัยอาการป่วยเบื้องต้นด้วยตัวเองก่อนไปหาหมอ นั่นแหละ ... กฏพวกนั้นก็มาจากผู้เชี่ยวชาญทั้งนั้น
แต่ถ้ามันเอามาจากการเรียนรู้/ฝึกจากข้อมูลเยอะๆ ที่มาจากการตัดสินใจเยอะๆ และไปสอนมัน ฝึกมัน ก็เป็น Machine Learning .... ซึ่งก็อยู่ที่มันเรียนรู้ยังไงอีกน่ะแหละ มันก็มี model ของตัว "สมอง" มี model/methodology ในการฝึก การเรียนรู้ การสอน การวัดผล หลายแบบนะ ...... อันนี้เราก็ต้องไปดูคุณภาพของ "สมองมัน" และ "หลักสูตรที่สอนมัน" ..... ก็ไม่ต่างจากการสอนคน ..... การที่เราส่งคนไปเรียนก็ไม่ได้แปลว่ามันจะออกมาดีเสมอไป .... การสอน A.I. โดย Machine Learning ก็เช่นกัน
สรุปคือ โดยทางเทคนิคแล้ว .... A.I. ไม่ได้แปลว่า Machine Learning หรือต้องเรียนรู้จากอะไรเสมอไป ..... และ Machine Learning ไม่ได้แปลว่าดีกว่าคน
Expert Systems อาจจะดีกว่า Machine Learning based ก็ได้ สบายๆ (ให้ทำงานตามกฏที่ Consult บอก อาจจะดีกว่าให้คนไม่รู้เรื่อง เรียนรู้จากข้อมูลและกรณีศึกษาที่น้อย เป็นต้น)
===============================
กลับมาเรื่องเดิมก่อน ชักจะออกทะเล
ดังนั้น ถ้าพูดกันในทางเทคนิคจริงๆ แล้ว ถ้ามี "กฏในการตัดสินใจเพียงข้อเดียว" (single if, else ... ซึ่ง else อาจจะเป็น do-nothing) ที่ "กฏนั้นเอามาจากคนที่ออกกฏ หรือคนที่เคยตัดสินใจเรื่องนั้นแล้วออกมาดี" .... ก็ถือว่าเป็น A.I. ได้
ซึ่งเอาจริงๆ แล้วทุกโปรแกรมในโลกก็แทบจะเข้าข่ายแทบทั้งนั้นแหละ
ให้เห็นภาพชัดๆ คือ โดยทางเทคนิคแล้ว ผมสามารถบอกได้ว่าผมใช้ A.I. ตัดเกรด .....
นี่ไง ผมทำ expert system เลยนะ rules-base ผม extract มาจาก expert จริงๆ เลยว่าเขาทำยังไง (> 80 ได้ A, 71-80 ได้ B, ....) มี decision tree ด้วย (ถ้า "เข้าเรียนน้อยกว่า 50% หรือไม่เคยส่งการบ้าน" ให้ตกเลย) ฯลฯ ....
นี่มันโจทย์การบ้านโปรแกรมมิ่งพื้นฐาน โปรแกรมมิ่ง 101 ชัดๆ
===============================
คนทำ A.I. แบบจริงจังก็มีอยู่จริงครับ ไม่ได้บอกว่าไม่มี ..... ที่ทำระดับ deep learning ที่ทำ adaptive learning/adaptive neural networks สารพัด คิดวิธีการสอน/เรียนรู้ต่างๆ มากมาย ก็มี .....
ประเด็นของโพสท์นี้คือ เราอย่าไปบ้าเห่อมาก เวลามีคนบอกว่า "เราทำ A.I." .... และอย่าคิดว่ามันคืออะไรล้ำๆ นี่นั่นโน่น ..... ต้องถามเนื้อในดีๆ ว่าเป็นยังไง ...... และควรถามคนที่รู้จริงๆ (นักวิชาการ อาจารย์มหาลัย นักวิจัย ฯลฯ พวกนี้ให้ความเห็นได้ดี)
ของที่ขายได้ มันก็มีคนเอามาขายเยอะ ของดีก็เยอะ ของห่วยก็เยอะ แล้วก็มีคนปลอมเยอะ .... ในตลาดก็มีทั้งของจริงของปลอม ของดีของห่วย ปนๆ กันไป .....
ไม่ต่างจากกระเป๋าแบรนด์เนม ไม่ต่างจากรองเท้าแบรนด์ดัง (มีของปลอมขายเยอะ) ไม่ต่างของเครื่องกรองอากาศ ผ้าปิดจมูก (มีทั้งของดีของห่วย บางทีมีปลอม) ฯลฯ นั่นแหละครับ
ซึ่งพวก Buzzword พวกนี้มันก็ไม่ต่างกัน .... มันขายได้ คนก็ขายเยอะ .... ของจริงก็มี ของปลอมก็เยอะ ของดีก็มี ของห่วยก็เยอะ ไม่ต่างกัน