กูอิจฉาเพื่อนโม่งที่มหาลัยมีคณะอื่นนอกจาก วิดวะ สถาปัต วิทยา สาวสวยมากมั้ยเพื่อน
Last posted
Total of 1000 posts
กูอิจฉาเพื่อนโม่งที่มหาลัยมีคณะอื่นนอกจาก วิดวะ สถาปัต วิทยา สาวสวยมากมั้ยเพื่อน
จริงๆแล้วกูมั่นใจในความสวยของตัวเองมากนะ
[ฉาก: ลานรกร้าง ฟ้าร้องและฟ้าแลบ ดีคือเลว ทรามคืองาม อวลไอหมอกและอากาศเลวทราม]
ความสวยงามเป็นอัตวิสัยหรือภววิสัยล่ะ? ถ้าอัตวิสัยมึงก็มั่นใจไปเถิด
(ฉาก: คอยโกโดต์ /ไม่เกี่ยวห่าไรเลย แต่กูคิดถึงสมัยเรียน)
กูเรียนสายวิทย์นะ คณะกูแจ่มๆมันก็มี แต่มันไม่ใช่แบบที่กูชอบไง แบบที่กูชอบดันอยู่อักษร
กูเรียนถาปัด ไม่ค่อยไปเสือกเรื่องคณะอื่นหรอก งานภายในคณะก็ยุ่งจะตายห่า
แต่สาวๆวิทยาแจ่มนะมึง ชุดนักศึกษากระโปรงพลีท ชอบมานั่งกินข้าวโรงอาหารวิศวะ กูก็ชอบเพราะกับข้าวเยอะดี ถูกด้วย
... /เดินร้องไห้ไปซบบังโคว
อันที่จริงตอนนี้ก็ยังสอนคอยโกโดต์กับแมคเบธอยู่นะ แต่ถ้าของคณะแสดงเองนี่มีเปิดให้ดูแค่แมคเบธ รู้สึกคอยโกโดต์จะเปิดของที่อื่นแสดง
เด็กอักษรที่น่ารักๆน่ะจีบง่ายชิบหายเลย
การเดินเข้าไปจีบก็เหมือนมอบโอเอซิสให้กับผู้กระหายนั่นแหละ
ที่กล่าวมาทั้งหมดข้าพเจ้าได้พิสูจน์มาแล้วเป็นเวลา 3 ปี ผลการทดลองไม่เคยเปลี่ยนแปลง
พวกมึงอ่านสี่แผ่นดินกันรึเปล่าวะ งานหนังสือใกล้เข้ามาแล้ว กูควรซื้อเก็บมั้ย
>>569 กูจะหางานครูเหม อ่านได้จากที่ไหนบ้าง เพื่อนโม่งแนะนำที คือกูได้ยินคนแนะนำคนพูดชื่อกันมานานละ แต่กูหาอ่านไม่ได้ รึกูพลาดไป จริงๆแม่งมีวางขายทั่วไปแต่กูไม่เห็นเอง T.T
>>580 แนะนำกูทีว่าภาคินัยเรื่องไหนเด็ด บอกตรงๆกูยังอยากให้โอกาสงานของภาคินัยนะ กูเห็นว่าอย่างน้อยเค้ามีงานออกมาเรื่อยๆ แล้วอย่างน้อยก็ไม่ใช่งานกากวรรณกรรมอะไร แค่ที่กูอ่านๆไปมันรู้สึกว่ายังไม่เด็ดเท่านั้นแหละ
>>608 ถ้านับแค่ในด้านรายละเอียดวิถีชีวิตและเหตุบ้านการเมือง กูว่ามันเป็นหยังสือที่ดีมากๆเรื่องหนึ่ง ภาษาก็อ่านง่าย สอดแทรกแนวคิดหลายๆอย่างของคนในสมัยนั้นได้ลงตัว
ส่วนจะสนุกรึปล่าวขึ้นอยู่กับคนวะ เพื่อนกูอ่านแล้วไม่ชอบแม่พลอยเลยบอกว่าไม่สนุก กูอ่านแล้วชอบแบบอ่านได้เรื่อยๆ ชอบตอนหลังๆพอควร เพราะอ่านแล้วสงสารแม่พลอย
>>611 ขอบคุณมากเพื่อน TwT เสียดายว่ะ ว่าแล้วว่าต้องของแรร์
ส่วนสี่แผ่นดิน กูเห็นด้วยอย่างเพื่อนโม่ง >>610 บอกนะ รายละเอียดเรื่องวิถีชีวิตคนสมัยนั้น ทั้งในวังนอกวัง เหตุบ้านเหตุเมืองเนี่ย ถือว่าเป็นหนังสือที่เล่าได้ดี เล่าสอดแทรกผ่านชีวิตแม่พลอยมานั่นละ กูชอบที่มันบอกออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วกูชอบอีกอย่างคือชีวิตของตัวละครในเรื่องนี้มันคือชีวิตจริงๆว่ะ มันไม่ได้แฮปปี้ไปตลอด แต่มันก็ไม่ได้ชีวิตบัดซบไปตลอดเช่นกัน มันทำให้อ่านแล้วรู้สึกเชื่อรู้สึกอินได้มากขึ้น
แต่ถ้าไม่นับเรื่องเหตุบ้านเหตุเมือง ชีวิตรั้ววัง คือถ้ามองแต่เนื้อหาชีวิตแม่พลอยและคนรอบตัวแม่พลอย มันแล้วแต่คนชอบจริงๆว่ะ กูอ่านแล้วอย่างที่บอกว่าชอบที่ชีวิตมันคือชีวิตจริงๆ แต่เพื่อนกูบอกอ่านแล้วมันจะหลับ มันบอกมันเบื่อ กูก็ เอิ่ม โอเค บายยย
สงสารแม่พลอยเหมือนกัน สงสารช้อยด้วย ท้ายสุดไม่เหลือใครเลย เอ๊ะ นี่กูสปอยรึเปล่า กูขอโทษนะ = w = "
ใครเป็นเหมือนกูบ้างวะที่อ่านหนังสือชีวิตคนสมัยก่อนไม่อินแถมหงุดหงิด เพราะชอบเอาความคิดสมัยนนี้ไปเป็นตัวตัดสิน คือบางเรื่องก้ดีนะเว้ยแต่พออ่านกูจะต้องวางลงเพราะกูหงุดหงิดแล้วคิดนู้นนี้แบบค่านิยมหลายๆอย่างของสมัยนี้
ค่านิยมโบราณบางอัน ถ้าไม่เหี้ยเกินไปกูก็รับได้นะ อย่างมาลัยสามชายที่นางเอกแต่งงานกับผู้ชายตั้งสามครั้ง ก็ยังว่านางเอกดี ไม่มีเสื่อมเสียเลย ทั้งๆที่เมื่อก่อนถ้าผู้หญิงแต่งงานหลายๆรอบ คนจะได้ว่าดอกทองไปนั่น อีกอันก็ราตรีประดับดาวที่นางเอกเป็นผู้หญิงบ้านนอกตามสามีมาอยู่กรุงเทพแล้วผัวไปมีเมียใหม่ นางก็ฟูมฟายตามประสาผู้หญิงที่ต้องให้ผัวเลี้ยง เป็นช้างเท้าหลัง หัวอ่อนเชื่อฟังสามี แต่นางก็คิดได้แล้วหันไปค้าขายเลี้ยงตัวเอง ทำไมกูต้องงอมืองอเท้าเพื่อให้มึงเอาเงินมาให้ด้วย เลิกกับผัวแล้วเลี้ยงลูกจะดีกว่า มีคนจะหาผู้ชายมาแต่งงานกับนางก็โดนปฏิเสธ (ค่านิยมสมัยนั้น ผู้หญิงยังไงก็ต้องมีผู้ชายดูแล) แนะนำให้อ่านละกัน ถ้ามึงทนเรื่องพวกนี้ไหว
>>618 ราตรีประดับดาวสนุกมากมึง กูอ่านรวดเดียวจบเลย วางไม่ลง แต่เอาจริงๆพล๊อตเรื่องก็แบบตัวร้ายละครไทยอ่ะแต่เค้าเขียนสนุกไงกูเลยลืมเรื่องของมารยาสาไถไปได้บ้างแถมมันมีเรื่องเกี่ยวกับสถาณการณ์บ้านเมืองสังคม ค่านิยม ความเป็นอยู่ในสมัยนั้นด้วย ไม่ได้โฟกัสแต่พระนางอย่างเดียว แต่อ่านแล้วกูเกลียดอีพระเอกที่สุดเกลียดกว่านางร้ายอีก นางร้ายมันค่อนข้างมีปมและหลายๆอย่างในชีวิตมันที่ทำให้กูรู้สึกเห็นใจ แต่อีพระเอกแม่งผู้ชายตอแหล ก่อนจะได้แม่เกดแม่งพะเน้าพะนอ สัญญาจะรักคนเดียวควยถอก สุดท้ายแม่งก็ได้คนอื่นอีห่าลาก แถมที่เจ็บใจสุดๆก็ตอนที่มันมาเจอแม่เกดอีกครั้ง เมียอุตสาห์ลำบากลำบนมาตามหามันถึงพระนครแม่งเจอหน้ากันความรู้สึกรัก ความรู้สึกผิดซักนิดไม่มีเอาแต่หลงเนื้อทองไม่ได้เห็นใจเมียเลยปล่อยให้เมียโดนกระทำอยู่ได้ ควย อีผู้ชายจังไร พอสุดท้ายอยู่กะเนื้อทองไม่มีความสุขก็หันมาซบแม่เกด อีดอก แล้วทีตอนมึงทำร้ายเค้าล่ะไม่คิดนะอีเหี้ย จังไรแมน ง่ายดีนะอีสัสตัวเองเป็นคนเริ่มเรื่องเองแท้ๆ
นักวิจารณ์แก่ๆดังๆที่ชอบด่านักเขียนนิยายไทยเค้าชื่ออะไรวะ ใครพอนึกออกบ้าง
>>619 กรี๊ดดดดดดด กูเจอคนอ่านนิยายไทยเหมือนกูแล้ว แพล่มมาตั้งหกร้อยกว่าความเห็น ไม่เอ่ยถึงนิยายไทยจากฝึมือนักเขียนรุ่นเก๋ากันมั่งเลย กูอยากเม้าท์เรื่องนิยายไทยมากๆ แต่กลัวพวกมึงอ่านแต่หนังสือเมืองนอกกัน
เรื่องนี้พระเอกเหี้ยที่สุดว่ะ กูไม่อยากให้มันจบแบบนี้เลย ไอ้สัส คนอย่างพระเอกควรจะเป็นหมาหัวเน่าลูกไม่รัก เมียไม่เหลียวแล ตอนเขาอยู่ด้วยเสือกทิ้งเขา ด่าทอขับไล่เขา แม่งงงงงงงง
มึงอ่านจุดดับในดวงตะวัน,ทางเทวดา-เทววาวาด, เจ้าบ้านเจ้าเรือน รึเปล่า กูคันปากอยากพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก
นิยายไทย พวกสี่แผ่นดิน ข้างหลังภาพ กุอ่านแล้วไม่เคยชอบเลย
มันเหมือนตัวละครไม่ได้แสดงออกมาจากความรู้สึกจริงๆ เหมือนพยายามบรรยายความรู้สึกที่คนเขียนไม่ได้รู้สึกจริง
ไม่หมือนวรรณกรรมยุโรป กุอ่านแล้วโคตรเข้าใจความรู้สึกของตัวละคร ถึงแม้มันจะแสดงพฤติกรรมแปลกๆแต่ก็สามารถเข้าใจสาเหตุของการกระทำนั้นๆได้
นิยายจีนที่กูชอบคือดาวตก ผีเสื้อ กระบี่ สนุกดี
>>621 ตามจริงแล้วกูไม่ค่อยได้อ่านนิยายไทยหรอกกูไม่รู้ว่าจะอ่านเรื่องอะไรดีแต่เรื่องนี้เพื่อนกูแนะนำมากูเลยไปยืมห้องสมุดอ่าน แต่แม่งอิสัส สนุกเหี้ยๆ จนต้องซื้อมาเก็บอ่านรวดเดียวเลยแบบอ่านข้ามวันเลยอ่ะ ง่วงชิบหายแต่นอนไม่ได้ยิ่งช่วงท้ายๆเรื่องยิ่งมันส์เอาซะกูนอนไม่หลับเลยถ้าไม่อ่านให้จบ อ่านจบกูมาพูดภาษาแบบในเรื่องไปช่วงนึงเลย กูคิดอย่างมึง อยากให้อีพระเอกแม่งไม่มีใครเหลียวแล คือตอนนั้นแม่งชั่วจริงๆ ทิ้งเมียทิ้งลูก เมียแม่งนั่งเลี้ยงลูกให้มันที่ต่างจังหวัด ลำบากลำบนรอมันมารับไปอยู่ด้วยนานตั้งหลายปีในขณะที่มันไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น พาผู้หญิงคนอื่นออกงานในฐานะเมีย ยังกับลืมไปแล้วว่าเคยมีแม่เกด เป็นผู้ชายที่ห่วยแตกสิ้นดีถึงหนังสือจะบรรยายว่ามันเป็นคนมีความรับผิดชอบ เป็นคนดีก็เถอะแต่กูไม่คิดงั้นเลยกับสิ่งที่มันทำ แถมปล่อยให้เนื้อทองมารังแกแม่เกดอีก พอตอนหลังนึกอยากจะกลับก็กลับมาเพราะอยู่กะอีกฝ่ายแล้วไม่มีความสุขทิ้งเนื้อทองดื้อๆ เห็นแก่ตัวไปมั้ยวะ แต่กูก็เข้าใจนะที่แม่เกดกลับมาดีกับมัน ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเพราะรักแท้ๆ
>>622 แก้วเก้ากูแนะเรื่องเจ้าบ้านเจ้าเรือน พระเอกเป็นผี ตอนหนุ่มๆ ยังเป็นคนอยู่ ทำตัวเหี้ยๆหลายเมียเหมือนกัน แต่ตอนเป็นผีนิสัยดีมาก เพราะกรรมมันสนองพระเอกตอนกลางเรื่อง
อีกเรื่องคือเรือนมยุราที่แหม่มคัทลียาเคยเล่น อันนั้นกูว่าหนังสนุกกว่า แหม่มสวยหยาดเยิ้มมากกกก
จุดดับในดวงตะวันของ ว.วินิจฉัยกุล กูชอบที่มันเรียลว่ะ คือ ผู้ชายทำตัวเหี้ยๆแล้วผู้หญิงไม่รู้ หลงไปกับความหล่อ แต่พอแต่งงานกันไปแล้วความเหี้ยก็ปรากฎชัด มันก็ตามมาด้วยการแยกทาง เรื่องนี้กูว่าบรรยายดีนะ มันเป็นการบรรยายจากสองฝั่ง พระเอกมองตัวเองว่าดี ทำถูกแล้ว ทำไมคนถึงไม่เข้าใจฉัน ฉันมีความคิด มีเหตุผลนะ แต่มุมมองคนละฝั่งของพระเอกมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย
ถ้าเป็นนามปากกา ว.วินิจฉัยกุลหรือแก้วเก้า กูหยิบไม่ลังเลเลยว่ะ
ทางไร้ดอกไม้ เกี่ยวกับนักเขียนนิยาย นางเอกอยากเป็นนักเขียนนิยายรักมาก แต่เสือกได้เขียนแต่นิยายสยองขวัญทั้งๆที่เจ้าตัวกลัวผีชิบหาย
เทวาพาคู่ฝัน อันนี้นิยายรักหวานๆ มุ้งมิ้งๆ นางเอกออกทอมๆหน่อย พระเอกก็คุณชายที่สนใจการเกษตร
เงาระบายสี มาจากเรื่อง คุณน้ำอบในพันทิป คุณหญิงวินิตาท่านเล่นพันทิปอยู่ดีๆก็โดนคุณน้ำอบด่า เลยเอาเรื่องคุณเธอมาเขียนซะเลย
แม่พลอยหุง นางเอกเรียนไม่สูง มาจากบ้านนอกคอกนา โดนคนกรุงเทพเอาเปรียบสารพัด แต่นางก็สู้คน และได้สามีดีเป็นหมอจบจากเมืองนอก
ลมพัดผ่านดาว นางเอกมีแฟนเป็นฟรีแลนซ์ หลักลอย ไม่คิดถึงอนาคต ไม่คิดเรื่องเก็บเงินเก็บทอง แล้วรุ่นพี่ที่นางเอกนับถือก็กลับเข้ามาในชีวิต เรื่องนี้มีสองรูทว่านางเอกจะเลือกใคร แต่ให้ข้อคิดเป็นชีวิตคู่ไม่ได้มีแค่ความรัก ต้องมีการปรับตัวเข้าหา มีความเข้าอกเข้าใจ แถมต้องมาคิดอีกว่า กูเลือกไอ้นี่จะดีแล้วเหรอวะ
เพลงสายลม หน้าต่างสายลม ตอนต่อจากลมพัดผ่านดาว เป็นรูทที่นางเอกเลือก ถ้าเลือกรุ่นพี่ก็จบอีกแบบ ถ้าเลือกคุณแฟน ก็จบอีกแบบ
คร่าวๆแค่นี้ก่อน แต่งานเขากูอ่านหมดแล้ว
>>629 เจ้าบ้านเจ้าเรือนกูอ่านแล้ว คือมันก็หนุกอ่ะ แต่สำหรับกูมันหนุกอั้นๆ หนุกไม่สุด คือ (จากนี้ไปเป็นสปอยล์ พวกมึงหลบๆ เอาหน่อย) ไม่เข้าใจว่าทำไมตอนจบต้องให้นางเอกกลับไปคู่กับวิญญาณท่านเจ้าบ้านด้วยวะ ก็ต่างคนต่างอยู่ต่างตายไปไม่ได้เหรอ ตอนเป็นคนก็ใช่จะได้คู่กัน ไม่ค่อยอินว่ะ
คือเทียบกันแล้วถ้าเป็นผลงานที่ใช้นามปากกา ว.วินิจฉัยกุล กูจะอินกว่ามากๆ แบบมาลัยสามชาย มาลัยลายคราม ไรงี้ หยิบมาอ่านหลายรอบก็ไม่เบื่อ ในขณะที่ผลงานแฟนตาซีที่ใช้นามปากกาแก้วเก้ากูจะไม่อินง่ะ แบบว่าก็สนุกดี แต่จบแล้วก็แล้วกัน ไม่ค่อยอินกับเรื่อง ทั้งเจ้านาง ทั้งทางเทวดาที่ใครๆ บอกว่าสนุกนักหนาก็ไม่อิน กูเลยตั้งใจจะเก็บผลงานในนามปากกา ว.วินิจฉัยกุล ให้หมดก่อน แก้วเก้าไว้เช่าอ่านเอา ไรงี้
>>630 เป็นนิยายรักที่ พระเอกนางเอกหย่ากัน พระเอกตายห่ามานานแล้ว พระเอกนอกใจเมีย นางเอกแต่งงานกับเกย์เพื่อรักษาหน้าตาทางสังคม พระเอกเหลวไหล ไม่มีห้วคิดถึงอนาคตที่จะอยู่ร่วมกัน
ถ้ามึงไม่ชอบนิยายรัก กูแนะบ้านของวันพรุ่งนี้ ดราม่าครอบครัว แม่นางเอกยัดให้นางเอกเรียนทุกอย่าง เอาลูกตัวเองไปเปรียบเทียบลูกคนอื่นแล้วก็ด่าว่าทำไมโง่อย่างนี้ พอนางเอกเริ่มโตเป็นสาว มีผู้ชายเข้ามาจีบและเกือบโดนข่มขืน แม่หาว่าดอกทอง ร่าน อ่อยเขาล่ะท่า นางเอกเป็นโรคซึมเศร้าก็ไม่มีใครสังเกต จนกระทั่งฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จ
อีกเรื่องคือข้ามศรีทันดร น้องนางเอกติดยา พระเอกพยายามหาทางช่วย แต่พระเอกก็เคยติดยาเหมือนกัน
จุดสะเทือนใจในเรื่อง ......พ่อนางเอกกราบตีนลูกชายเพื่อขอให้เลิกยา ถ้าลูกไม่เลิกพ่อจะไปซื้อมาให้
เชิญมึงไปทัศนา
กูอ่านนิยายรักหรือนิยายที่มีส่วนประกอยเป็นเรื่องรักๆซะส่วนมากแล้วกูไม่อินเลย คือกูไม่เคยชอบไม่เคยรักใครเลย จนพออ่านไรพวกนี้แล้วกูไม่เข้าใจตัวละครจนพาลให้เรื่องไม่สนุกหมดเลยวะ
>>634 มันส์นะมึง มหากาพย์คุณน้ำอบ กูตามเสือกจนไม่เป็นอันทำอะไรเลย
>>635 นิยายรักของว.วินิจฉัยกุลแกไม่ค่อยมีรักๆใคร่ๆเป็นองค์ประกอบว่ะ อย่างราตรีประดับดาวนางเอกรักพระเอกก็จริง แต่มันเป็นรักปนขมขื่น แถมมีเรื่องปวศ.ยุคปฏิวัติการปกครองแทรกมาด้วย มาลัยลายครามก็เป็นเรื่องผู้หญิงแปดคนเรียนด้วยกันแล้วก็แยกจากกันไปคนละทาง กลับมาเจอกันอีก แต่ละคนก็เปลี่ยนแปลงกันไปหมดแล้ว เอาเป็นว่านางเอกของแกไม่ค่อยเพ้อเจ้อก็ละกัน
เชี่ยกูทันอ่านมหากาพย์คนอ ไม่นึกเลยว่ามันจะได้รับการดัดแปลงเป็นนวนิยาย ถถถถถถ เดี๋ยวกูไปหาอ่านมั่ง
คุณน้ำอบคือไรอ่ะ เล่าที
>>639 เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มโนว่าตัวเองเป็นท่านราชนิกูลเกิดในรั้ววัง แต่งงานกับนายพล ใกล้ชิดกับเชื้อพระวงศ์หลายพระองค์ ใช้คำราชาศัพท์ถูกๆผิดๆจนเขาสงสัย ในพันทิปก็มีเชื้อพระวงศ์หลายคนเล่นอยู่ อย่างท่านมุ้ยเป็นต้น ก็โดนพวกโปรเจ้า พวกทำงานในวังจริงๆขุดคุ้ย ทีนี้มีอยู่วันนึงนางไปกินอะไรผิดมาก็ไม่รู้ ไปด่าคุณหญิงวินิตานึกว่าเขาเขียนด่าตัวเอง คุณหญิงแกเลยไปแจ้งความก็ขึ้นโรงขึ้นศาลข้อหาหมิ่นประมาทกันไป คุณหญิงแกเซ็งเลยเอาเรื่องนี้มาเขียนซะเลย ชื่อเงาระบายสี คุณน้ำอบแกก็หลั่นล้าในโลกของแกต่อไป
อันนี้เป็นย่อหน้าหนึ่งจากเรื่องเงาระบายสี ดัดแปลงมาจากข้อความคุณน้ำอบเขานิดๆหน่อยๆ แต่โดยรวมยังเหมือนเดิม
"ใครต่อใครถึงบอกว่าหน้าตาเรามีส่วนผสมที่แปลกตา จะเป็นยุโรปก็ไม่ใช่ เอเชียก็ไม่เชิง จะไม่ให้คนทึ่งได้อย่างไร ในเมื่อเรามีเลือดผสมตะวันตกอยู่ถึงครึ่งหนึ่ง ลูกน้อยของพี่ฟ้ากับเราจะออกมาหน้าตาอย่างไรนะ ถ้าเป็นลูกสาวก็คงจะได้ผมสีน้ำผึ้งเป็นมันเลื่อมสลวยจากเรา"
นอกจากว.วินิจฉัยกุล พวกมึงตามงานนักเขียนไทยคนไหนอีกมั้ย กูอยากแนะนำกิ่งฉัตรว่ะ สนุกดี
กูโดนด่ามาว่างานกูเป็นขยะว่ะ (ไม่เกี่ยวกะเม้นบนๆ นะ กูโดนครูด่ามา) เพราะงั้นกูเลยคิดว่ากูควรจะศึกษางานของบรมครูคนไหนบ้างดีวะ ขอแนะนำเรื่องหน่อย ;__;)/ #ล่าสุดกูเพิ่งอ่านงานของ ว.วินิจฉัยกุล เรื่องเงาระบายสีมา แค่เริ่มนะ เพราะกูเพิ่งเริ่มตัดสินใจจะหัดอ่านวันนี้ ปกติกูอ่านงานของป่าพนมเทียนว่ะ ส่วนมากอ่านพวกเรื่องรักๆ ของป๋าเขา เรื่องที่ชอบคือศิวาราตรี (ส่วนเพชรพระอุมากูอ่านไปสามรอบแล้ว)
ฟาร์มป่าคืออะไรวะ
ซอร์ดอาร์ทออนไลน์หรือไงมึง
>>643 เขียนแนวอะไรดีวะ.. แนวรักมั้ง แต่ไม่ค่อยเคลื่อนไปไหนมาไหนเท่าไหร่เพราะเป็นแนว BL... กูไม่เก่งเรื่องบรรยายสถานที่ว่ะ ไม่รู้จะทำยังไงให้ดูสมูทกลมกลืนกันดี // แล้วอาจารย์ก็ด่าว่ากูโลกแคบ...อืม... ถ้าเอางานเธอไปให้นักวิจารณ์ดูนะ เขาคงจะสาวไส้เธอมาจนหมดแน่... //ประมาณนี้...
ไหน เอามาให้กูอ่านหน่อย อยากรู้โลกแคบของมึงนี่มันยังไง
สนพ สามัญชน มีอะไรให้นินทาไหมวะ
กูอยากรู้จักสนพ ให้มากขึ้นว่ะ
กูอยากนินทาป้าทมยันตีว่ะ
ยายแกหน้าตาดูไม่น่าจะเคยมีแฟนเลยนะ
ในนิยายนี่มโนเอาล้วนๆป่าววะ
>>654 มีผัว แต่หย่าไปแล้วเพราะเล่นชู้กับนายทหาร มึงลองเซิร์ซหาข่าว "ทมยันตีมีชู้" คดีนั้นแกแพ้ด้วยเพราะมีหลักฐานมัดตัวเป็นรูปถ่าย จากนั้นแกก็มาเขียนหนังสือด่าผู้ชายซะ
นอกจากเรื่องนี้ ป้าแกเกี่ยวข้องกับคดี 6 ตุลาด้วย หลังจากเหตุการณ์นี้ก็ได้ตำแหน่งผอ. ขสมก. ทั้งๆที่เป็นนักเขียนนิยาย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการบริหารองค์กรเลยสักนิด
ประวัติป้าทมแกแซ่บกว่านิยายบางเล่มของแกอีกนะ
แต่แม้นิยายป้าแกจะฝันเพ้อแค่ไหนกูก็ชอบหลายเรื่องว่ะ ติดใจสไตล์การใช้ภาษา
กูชอบคู่กรรมว่ะ แม้มันจะเพ้อฝันไปหน่อยก็เหอะ แต่กูอ่านตอนม.1 ร้องไห้น้ำตาไหลแหมะๆ เลือดขัตติยาก็เศร้า อันนี้กูชอบตรงที่พระเอกแม่งรักนางเอกมากขนาดตายแทนได้ ทำทุกๆอย่างเพื่อนางเอกได้ อีกเรื่องที่กูชอบนี่คือทางรัก สายสัมพันธ์ อ่านสบายๆแนวท่องเที่ยวเยอรมัน
หลังๆแกไปออกนิยายแนวเทพ เขาไกรลาส กูอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องว่ะ นิยายแกหลายเรื่องแม่งเหมือนลอยๆในอากาศ นึกอยากมีก็มี ต้องเรื่องเก่าๆนี่ถึงจะสนุกหน่อย อย่างมาลาเค ดั่งดวงหฤทัย ดาวเรือง ธุวตารา ไอ้นี่แม่ง...ส่อกลิ่นวายชิบหาย นางเอกปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชายไปสืบเรื่องกองทัพอียิปต์ ได้ไปอยู่ข้างกายฟาโรห์แล้วก็ต้องหนีออกมา ฟาโรห์แม่งสั่งให้หานางเอกทั่วภูเขา คร่ำครวญเสียใจขนาดที่นางเอกจากไป แต่ตอนนั้น ฟาโรห์ยังเข้าใจว่านางเอกเป็นเด็กผู้ชายอยู่ว่ะ
ร่มฉัตร......นิยายโปรเจ้าอย่างจริงแท้ ได้ฟีลคล้ายๆสี่แผ่นดิน
ถ้านินทาป้าทมยันตี เอาที่กุเคยได้ยินมานะ
ป้าแกอวยเจ้า ค่อนข้างสุดโต่ง พอเป็นช่วง6ตุลาแกเลยอยู่ฝั่งมองนักศึกษาเป็นศัตรู เชียร์ให้ฆ่านักศึกษาอะไรทำนองนั้น
แต่กุก็แค่ฟังเค้าเม้ามานะ เชื่อได้รึเปล่าก็ไม่รู้
>>658 ในคู่กรรม 2 นางเอกเป็นนักศึกษาแกนนำต่อต้านรัฐบาลในสมัยนั้น เจ๊แกจะเขียนทำนองว่านักศึกษาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ตอนจบนางเอกเป็นบ้าเพราะเห็นเพื่อนนักศึกษาธรรมศาสตร์ตายต่อหน้าต่อตา คนอื่นๆก็หนีเข้าป่ากันไปหมด อ่านแล้วไม่ค่อยได้สาระอะไรนอกจากว่าอย่าต่อต้านอำนาจ ก็ทำนองนี้
กูไม่ค่อยชอบคู่กรรม2 เหมือนกินบุญคู่กรรม1เลยว่ะ
ข้ามศรีทันดรนี่กูอ่านไม่จบ อยากให้เอามาทำละครอีกนะ มันดีมากอะ
ปล.กูอ่านไม่จบ เพราะคนในครอบครัวกูก็ติดยา กูสะเทือนใจเกินไป แต่ดูละครจบนะเบื่อละครรักๆแล้ว
ละครดีมากเลยมึง คนเขียนบทกระจายบทดีเป็นบ้า ไม่เน้นรักๆใคร่ๆเท่าไหร่ เน้นความสัมพันธ์ครอบครัวมากกว่า
แต่ตอนอ่านหนังสือกูเครียดชิบหาย แต่ก็สนุก พอๆกับตอนอ่านเถ้ากุหลาบของทมยันตี แต่อันนั้นนางเอกเหมือนคนวิกลจริตเลย นางเครียดตลอดเวลา สั่งให้ตัวเองต้องแก้แค้นๆ ห้ามไว้ใจใคร ห้ามสนิทสนมกับใครทั้งนั้น อ่านแล้วอึดอัดแทนว่ะ มึงจะเครียดเหี้ยอะไรขนาดนั้น
อีกเรื่องก็น้ำพุ อ่านตอนเรียนมัธยม ดูแล้วสะเทือนใจว่าทำไมตอนจบเลิกยาได้แล้วดันมาพี้ยาอีกรอบ
มันเลิกกันยากนะมึง คนในครอบครัวกูพยายามแล้วแต่ก็กลับไปอีก
เค้าใจอ่อนด้วยว่ะ
น้ำพุก็อ่านได้เพลินๆ ดี แต่พอคิดว่าเหมือนเอาครอบครัวตัวเองมาอวดแล้วทะแม่งๆ หรือเพราะกูไม่ค่อยชอบหนังสือคุณสุวรรณีเท่าไหร่ก็ไม่รู้ นางเอกเปรี้ยวเกิน ไม่ค่อยต้องรสนิยม
กูได้อ่านแค่เรื่องเดียวคือน้ำพุ แต่พอรู้ว่าแกตายเพราะอะไร กูเศร้าชิบหายเลย
แกตายเพราะรับเด็กวัยรุ่นสองคนจากข้างถนนไปส่ง เลยโดนแทงตายเพราะไอ้ระยำสองตัวนี่จะชิงทรัพย์ไปซื้อยา
เออ อันนี้ระยำจริง ชีวิตคนเมืองไทยแม่มถูกเนอะ
ชอบอยู่กับก๋งกับโบตั๋นกลีบสุดท้ายหวะ
วันนี้กูหยิบทไวไลท์มาอ่าน มันแปลเหี้ยหรือเนื้อเรื่องมันเหี้ยวะ กูอ่านแล้วรำคาญอีนางเอกชิบหายเลย พระเอกเป็นแวมไพร์ไปส่องนางเอกตอนนอน มีกลิตเตอร์ปิ๊งๆกลางแดดด้วย แต่กูหลวมตัวซื้อมาแล้วเพราะหน้าปกสวย กูควรอ่านต่อไปดีมั้ยวะ เสียดายเงิน
ไม่ควร ขนาดกูยืมอ่าน อ่านจบด้วยนะ ยังรู้สึกเสียดายเวลาเลยว่ะ
(แล้วตอนกูอ่านเล่ม1 จบ ยังไม่รำคาญเท่ามึงเลยนะ ออกแนวเฉยๆ)
อ่านต่อไปสิ มึงจะได้เข้าถึงประโยคว่า Still better than Twilight.
ถามมาได้ไงวะเนี่ยคำถามนี้
ที่พระเอกไปส่องนางเอกตอนนอน มีกลิตเตอร์ปิ๊งๆกลางแดดเป็นเพราะคนแปลเหี้ยน่ะมึง ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องหรอก
พอใจรึยัง?
นักเขียนคนไหนจะล้ำลึกไปกว่าท่าน ว.วชิระเมถี วะ
แฮรี่พอตเตอ ลอดออฟเดอะริง ทไวไลท ไวท์โร้ด กุอ่านมาหมดยังไม่ได้ขี้ตีนของ ว
ไม่โกรธกันนะ นักอ่านเป็นเผ่าพันธ์ที่กำลังจะสูญพัน์ เราต้องรักกัน
เออ งานหนังสือคนโคตรเยอะ แต่ทำไมคนไทยอ่านปีละไม่เกิน7บรรทัดวะ หรือมันเป็นปรากฏการณ์เหมือนของลดราคา
งานหนังสือคนเยอะมาก แต่ทำไมในชีวิตจริงกูหาคนคุยเรื่องหนังสือด้วยไม่ค่อยได้วะ...
คือมึงต้องเข้าใจอย่างนึงว่าพวที่ไปงานหนังสือเนี่ย เห็นมันซื้อไปเยอะๆแบบนั้น งานรอบหน้ามาอีกที ของเก่ายังไม่ได้แตะสักเล่มก็มี
นักอ่านไวท์โร้ดหรือนิยายเด็กดีนี่สูญพันธุ์ไปได้ก็ดีนะ
คนไทยอ่านหนังสือเยอะขึ้น แต่คิด วิเคราะห์ แยกแยะไม่ได้ก็เยอะ เขียนอะไรมาแห่กันเชื่อตามซะหมด
มึงคิดว่ามี่เห็นมาเยอะๆนั่นกี่เปอร์ของประเทศล่ะ ไม่นับว่าต้องอ่านแนวเดียวกันถึงจะคุยรู้เรื่องอีกนะ55
นิ้วกลมชอบอ่านหนังสืออะไร ใครรู้บ้าง
มีใครชี้เป้า จุดดับแห่งนิรันดร์ (End of Eternity) ของไอแซคอาซิมอฟ ฉบับที่ provision พิมพ์ได้มั่งวะ กูหาอยู่นานแล้ว ไม่ได้สักที
หรือใครมีอยากปล่อยต่อก็ได้นะ อยากอ่านแปลไทย
>>692 ตอนกูไปงานหนังสือ เข้าไปบูธโปรวิชั่นไปหาสถาบันสถาปนาของอาซิมอฟ ปรากฎว่าหนังสือนิยายไซไฟหมดเกลี้ยงเลย
และเมื่อมาเช็คในเว็บอีกที เลิกพิมพ์ทั้งเซ็ตละ กูโคตรเสียดายเลยสัส
จุดดับนิรันดร์สนุกนะ อ่านคำโปรยหลังปกอาจจะนึกว่านิยายรักเลี่ยนๆ แต่อ่านจริงสนุกมาก มีการปล่อยข้อมูลสำคัญในเรื่องเป็นจังหวะจะโคน พระเอกเป็นตัวเล่าเรื่อง เนื้อหาออกการเมืองนิดๆ ตามสไตล์อาซิมอฟ แต่ฉบับไทยแอบเคืองนิดนึง ตรงหน้าแรกดันแปล space ว่าอวกาศ ทั้งๆที่มันน่าจะแปลว่าช่องว่าง กับการใช้ศัพท์แบบวัยรุ่นยุคนึง เช่น นิสัยชาเย็น นอกนั้นไม่มีจุดให้ติ กูให้ผ่าน
Foundation กูมีครบนะ พูดแล้วอยากย้อนเวลากลับไปเหมานิยายไซไฟ สมัยเด็ก ขนาดร้านบ้านๆยังมีขาย
ฉบับอังกฤษนี่ซื้อมาดองเหมือนกันว่ะ มี The Legend of Sigurd and Gudrún ของปู่โทลคีนดองอยู่ เค็มได้ที่ละ555
กูอยากให้มีคนเอามาพิมพ์ใหม่ว่ะ กูหาเก็บไม่ได้แล้ว สถาบันสถาปนา พี่น้องครามาซอฟ มาดามโบวารี่ Sense and Sensibility เสือกมีแต่ทไวไลท์ 50 shade of grey กูผิดหวัง
มีใครเคยอ่านกิม หงวน อะไรซักอย่างมั้ย ที่ตลกๆ อ่ะ ชื่อเรื่องอะไรนะ ยังมีอยู่มั้ยสมัยนี้
พวกมึงอ่านเอ็ดการ์ โป กันรึเปล่า กูอ่านแมวดำแล้ว อยากอ่านอีกาแต่โง่อิ๊ง เล่าย่อๆให้ฟังได้มั้ย
>>702 อีกาแม่งก็ย่ออยู่แล้วนะมึง ย่อจนกูไม่รู้จะย่อยังไงดี5555 หลักๆก็คือผู้ชายคนนึงเมียตาย แล้วมีอีกาบินเข้าห้องมากลางดึก แล้วแม่งก็เพ้อเจ้อถามอีกาว่าเมียเป็นยังไงบ้าง แต่อีกาก็ตอบแค่ nevermore ราวๆนั้น ซิมป์สันก็มีเอามาทำล้อในเอพนึง ในยูทูปก็มี แต่ควอลิตี้จะเหี้ยๆหน่อย http://www.youtube.com/watch?v=WK-Iq-nsh90
โปกูชอบเรดเดธว่ะ แต่ที่หลอนพอๆกับแมวดำก็น่าจะเป็นBerenice หรือ the fall of the house of usher นี่ก็ใช้ได้เหมือนกัน
อันที่จริง Pit and pendulum นี่ก็อ่านง่ายนะถ้าเป็นเรื่องของโป
งานโปนี่แปลดีไหมวะ กุเคยอ่านบางเรื่องคิดว่าคงแปลยาก
ก็ดีนะมึง กูไม่เคยอ่านอิ๊ง แต่อ่านไม่สะดุดละกัน
นักเขียนแบบโปมีแนะนำอีกมั้ย
>>707 แบบเฮอเร่อนิดๆหรือเปล่า ลองอ่านฟอล์คเนอร์ดูรึยัง http://xroads.virginia.edu/~DRBR/wf_rose.html
กูดู Village of the Damned มันเหมือนเรื่องกาเหว่าที่บางเพลงที่กูเคยอ่านเลยว่ะ คือ...กูประทับใจกาเหว่าที่บางเพลงมากๆ มาดูหนังแล้วกูเสียความรู้สึกจุงเบย
งานคึกฤทธิ์หยิบงานนอกมาเยอะจะตาย
กูอยากถามหน่อยมีนักเขียนไทยเก่าๆคนไหนบ้าง ที่ตอนนี้มึงพึ่งมารู้ว่ามันลอก(หรือแรงบันดาลใจ?)มาจากต่างประเทศบ้าง
ต๊อกเด้อร์ป๊อด รับพลังบันดาลใจมาจาก harry potter , final fantasy and street fighter
งานป้าวลัยไง(นามปากกาอื่นเยอะจนขี้เกียจพิมพ์) หยิบโรแม้งฝรั่งมาเพียบ บางอันเอามาทั้งดุ้น เปลี่ยนแค่ชื่อคนกับสถานที่
แต่ก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไรแกนะ ชุดเทพกานต์ นี่ลอกมายกชุด =__=
>>717 จับได้กันเยอะแยะไปอย่างชุดเทพกานต์เนี่ยก็ เอามาจากงานของ Georgette Heyer ผัวเชลยก็เรื่องShanna โดยเฉพาะหม่อมเจ้าสุริยกานต์
เปลี่ยนแค่ชื่อคนกับชื่อสถานที่จริงๆ (ตูอ่านเรื่องนี้ด้วย)OTL ถ้าไม่เชื่อลองเอาชื่อแกไปลองหาดูก็ได้ ห้อยท้ายคำว่าลอก เลียนแบบ หรือก็อป รับรองมีขึ้นให้ได้มุงกันอย่างแน่นอนครัช
สี่แผ่นดิน เอา element หลายอย่างมาจากวิมารลอยนะ อ่านแล้วมันรู้สึกแบบนั้นว่ะ
ลอกสิ ไม่บันดาลใจด้วย
ลอกมานานแล้ว สมัยนั้นคนยังจับไม่ได้ อินเตอร์เน็ตยังไม่เข้ามาในประเทศไทยเลย คนไทยที่ได้เสพสื่อต่างชาติมีน้อย
คนที่รู้ก็มีน้อย แล้วก็ไม่มีที่ให้เอาไปแฉ
ปัจจุบันคนรู้เยอะ มีที่ให้แฉเยอะ แต่พวกนี้เขากลายเป็นคนดังไปแล้ว ถึงออกมาด่าก็มีแฟนคลับที่ชื่นชมในผลงานที่ลอกมาออกมาปกป้อง
ก็เหมือนวงดนตรีที่ดังมาตั้งแต่สมัยก่อนนั่นล่ะว่ะ ถ้าตอนนี้มีคนออกมาด่าก้อง สหรัฐเรื่องลอกเพลง โดนแฟนคลับล่าแม่มดแน่
กูนึกถึง x-japan กับวง two มีคนคิดว่า x แม่งก็อปวงไทยด้วยนะมึง ถถถถถถถถ
กูนึกถึง x-japan กับวง two มีคนคิดว่า x แม่งก็อปวงไทยด้วยนะมึง ถถถถถถถถ
เล่นเอากูนึกถึงเรื่องการเดินทางของคิโนะตอนหนึ่งเลย ที่คิโนะไปเจอนักเขียนที่เอานิยายของเมืองอื่นมาเขียนให้เมืองที่ไม่รู้จักนิยายเรื่องนั้นแล้วโมเมว่าตัวเองเป็นคนเขียนเลยวะ
แล้วเรื่องลอกงานของ วิภาส ศรีทอง นี่ใครรู้มั่ง
เห็นว่าก่อนได้ซีไรท์จากคนแคระโดนกล่าวหาว่าก๊อปงานไรซักเรื่องเนี่ยแหละ ใครรู้เล่าให้กูฟังหน่อย
กูอ่านคนแคระ แม่งเป็นหนังสือที่อ่านแล้วอัดอั้นอึดอัดชิบหาย นี่กูชมนะเนี่ย
แต่พอรู้ว่าเค้าเคยมีคดีก๊อปงานคนอื่นมาก่อนก็เสียความรู้สึกเล็กๆว่ะ แต่กูไม่รู้เท็จจริงแค่ไหน ใครรู้เล่าให้ฟังที
ขุดเจอดราม่าเก่าเรื่องงานก็อป ฆ่าตัวตายออกอากาศจริงๆว่ะ
กูยังไม่เคยอ่านสี่แผ่นดินเลย แต่มายุคนี้กูไม่อยากอ่านละ เพลียจิต
อ่านไว้เป็นความรุ้ก็ได้ว่าคนสมัยก่อนเขามี habit ยังไง
อย่างเข้าส้วมไปนั่งขี้ไปคุยกันไปพี่ไทยเราก็ทำแบบโรมัน
นั่งเรือแดกขนมจีนสมัยนี้หาทำไม่ได้แล้วด้วยมั้ง
ถ้าให้ชอบสุดชอบพลนิกรกิมหงวน
อวกาศมีสีชมพูเพราะแสงดวงอาทิตย์นะครัช 5555
กูเจอบล็อคนึงอวยกาเหว่าที่บางเพลงแบบออกนอกหน้ามากเลยมึง มันรู้ว่าเรื่องนี้ก็อปนะ แต่บอกว่าของเราไม่เหมือนเขาตรงที่เรามีศาสนาพุทธช่วยกล่อมเกลาจิตใจของเราให้เป็นคนดีและตอนจบก็แตกต่างด้วย..........กูฟังแล้วสะอิดสะเอียนจัง
เออ ไม่ใช่แค่นิยายนะ แต่เวลาเกิดคดีเสื่อมทรามอะไรที่ตปท.แล้วมีคนชอบมาบอกว่า เพราะเขาไม่มีศาสนาพุทธเป็นที่พึ่งทางจิตใจเหมือนเรานี่กูอยากโดดเหยียบหน้านิดหน่อย ไอ้ความเสื่อมโทรมในประเทศนี่มึงไม่ดูเลยนะห่า
คนไทยเราเป็นคนดี ถึงไม่เจริญทางด้านวัตถุ แต่เจริญทางด้านจิตใจนะเว้ย ในประเทศเราก็อุดมสมบูรณ์ด้วย ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ไม่เหมือนพวกฝรั่ง บลา บลา บลา
เรียนสิบปี... ค้างเหรอวะ เป็นกูคงรู้ตัวตั้งแต่ปี4ละ
สิบปี.....
http://www.happyreading.in.th/article/detail.php?id=1638
ไอ้นี่ไงที่โดนหาว่าก๊อป แต่กูไม่เคยอ่านนะ สรุปมันอะไรยังไงกูก็ไม่รู้
กูอ่านงานซีไรต์เรื่องนึงทำเอากูสงสัยว่ามันควรได้รางวัลได้ยังไงวะ
เรื่องความสุขของกะทิอะ ไม่เห็นเด็กเชี่ยนี่ลำบากอะไร บ้านก็รวย ตากับยายก็เอาใจใส่ เพื่อนบ้านดี ถึงจะไม่มีพ่อแม่ก็เหอะ
อยากรู้ว่าซีไรท์นี่เฉลี่ยขายกันได้ประมาณกี่เล่มวะ
แล้วเล่มนึงคนเขียนได้ประมาณเท่าไหร่
อย่างหมอป๊อปอยากส่งประกวดก็ส่งได้เลยปะ
กุสงสัยว่าถ้าคนส่งเยอะๆ กรรมการมันจะมานั่งอ่านทุกเล่มหรอวะ
กูเห็นพันทิปแม่งอวยจนเลี่ยน เจอกระทู้นึงที่บอกว่าเป็นหนังสือชนชั้นกลางที่มองสังคมชนบทแบบดัดจริต แบบเศรษฐีปลูกบ้านใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ หยาบๆ ก่อดิบๆ สัมผัสธรรมชาติ แล้วก็มาบอกกูพอเพียงแล้วนะ แต่บ้านมึงเนื้อที่ร้อยไร่ ค่าก่อสร้างร้อยล้านบาท เป็นความพอเพียงอย่างเศรษฐีจริงๆ ไอ้จขกท.นั่นโดนด่ายับเลย แถมมีคนบอกมึงเป็นเสื้อแดงใช่มั้ย ที่บอกเป็นชนชั้นสูงชั้นกลางอะไรนั่น กูล่ะขำชิบหาย ไม่ชอบความดัดจริตในวรรณกรรมนี่กลายเป็นเสื้อนั่นเสื้อนี่เชียวเหรอวะ
ยังไงซะ กูก็ว่าความสุขของกะทิเป็นหนังสือดัดจริตจริงๆ เจ้าชายน้อยกูก็ว่าเนือยๆ แต่แฝงสัญลักษณ์เยอะแยะให้คิด เนื้อหาก็ดี แต่อีกะทินี่ก็แค่เด็กโดนสปอยแล้วมันโตมาแบบไม่วีนไม่เหวี่ยงก็เท่านั้นล่ะว้า
ความสุขของกะทินี้เท่าทึ่กูจำได้ก็นึกว่าเล่นประเด็นตามหาพ่อบราๆ แต่คือกูเหมือนตามอ่านชีวิตเด็กโดนสปอยอะ คือมึงแม่งมีทุกอย่างในชีวิตแล้ว แล้วยังจะอะไรอีกวะ ตาห็รักยายก็รัก บ้านรวย อยากทำอะไรก็ให้ทำ แล้วมึงจะอะไรมากมายวะ
ก็เป็นนิยายดัดจริตที่เขียนโดยคนกรุงเทพที่มองว่าตัวเองเข้าใจคนชนบทนักหนา ให้คนไม่ค่อยอ่านหนังสืออ่านแล้วฟินได้สาระและปรัชญา กูมองเหมือนหนังสือนิ้วกลางนั่นล่ะ ที่มีคำคมกลวงๆโง่ๆมาใส่
ความสุขของกะทิ มาในช่วงคนกำลังเห่อกระแสพอเพียง กำลังดัดจริตได้โล่เลย
ไม่ชอบเลยความสุขของกะทิ ตกลงคุณภาพชีวิตมึงไม่ดี บอกว่าพอเพียงหรือไง
กูอยากรู้ว่าซีไรต์เขาเอาอะไรตัดสินวะ แต่คำพิพากษาของชาติ กอบจิต สมควรได้จริงๆ
วิจารณญาณของกรรมการล้วนๆ มั้ง เห็นมีดราม่าตามมาทุกปี แต่ก็เป็นดราม่าเล็กๆ ในหมู่คนเขียนหนังสืออ่ะนะ
แต่ปีที่อีกะทิได้ กูรู้สึกว่าเส้นล้วนๆว่ะ
ความสุขของกะปิกูอ่านแล้วก็ซึ้งดีนะ ในมุมมองของเด็กที่อยากรู้จักและต้องการความรักของพ่อแม่
และเห็นด้วยที่ว่าเรื่องนี้มีอารมณ์ดัดจริตแบบชนชั้นกลาง
วงการมันเล็ก ไม่ค่อยเป็นที่สนใจ ดราม่าก็เลยแคบๆ หนังสือได้ซีไรท์ก็ไม่ได้ขายดีขึ้นสักเท่าไหร่
แต่กูชอบเจ้าหงิญ คำพิพากษา ลับแลแก่งคอยนะเว้ย พูดแล้วเศร้าที่งานซีไรต์ก็เข้าไม่ถึงคนส่วนใหญ่จริงๆนั่นล่ะ มันอ่านยากเกินไปหรือไงวะ
เคยได้ยินว่าเจขาไม่รับนะ ไวท์โร้ด แต่ไมรอนเหมือนจะเคยติดชื่อรอบคัดเลือก อันนี้กูไม่แน่ใจอาจจะจำผิดจำสลับ รอโม่งท่านอื่นมาคอนเฟิม
เราหลงลืมอะไรบางอย่าง เป็นซีไรท์ที่อ่านง่ายและดีพมาก
กูชอบ story teller มาก ตอนนั้นกูม.4 แต่มัน EPIC มากสำหรับกูที่ได้อ่านนิยายแฟนตาซีมา โทลคีนกูยังไม่ได้แตะ แต่กูอ่านหัวขโมยแห่งป่าละเมาะมาแล้ว Stroy Teller แม่งเจ๋งสัสๆ แนะนำให้มึงซื้อ
>>764 เก่าสุดที่กุพอจะนึกออกอยู่ก็ฯพณฯแห่งการเวลา ตอนนี้มีพิมพ์ใหม่ละ(ปกการ์ตูน ปกเก่ายังกะคนละเรื่อง) ที่กุได้อ่านเพราะเป็นไซไฟ
งานเค้าก็เน้นตลค. การตัดสินใจ ความดีความชั่วของตัวละคร ตัวละครมีเหตุผลของตัวเองสูง แน่นอนว่าเค้าเขียนจนจากกูเกลียดตัวร้ายมาเป็นเห็นใจได้อะ
อย่างฯพณฯ เป็นเรื่องของ เมือง เมืองหนึ่งที่มีคนคุมเหมือนเทพเจ้า คอยควบคุมทุกอย่าง ใครไม่ทำก็ตัดฟิวตาย แล้วก็จะมีอีกพวกที่มันต่อต้าน หาวิธีไม่ให้โดนตัดฟิว ส่วนตัวเอกจะเป็นพวกก้ำกิ่ง ตอนแรกก็ปกติดีแต่มีเหตุให้กลายเป็นอีกพวก จะว่าไปเรื่องนี้คล้าย blood redemption นะลองหามาอ่านดู
มีใครเคยอ่านเรื่องนาคราชาบ้าง เทียบกับบารามอสแล้วเรื่องไหนสนุกกว่ากันวะ
คนละแนวอ่ะมึง นาคราชาจะเป็นผู้ใหญ่ๆหน่อย บารามอสจะเด็กๆแฟนตาซีจูนิเบียว (ป.ล. กูติ่งบารามอส)
นาคราชากูว่าก็จูนิเบียวเหมือนกันนะ แต่โทนเรื่องมันเกิดกับผู้ใหญ่ มันเลยดูหนักแน่นกว่าบารามอสหน่อย
เรื่องนี้กูขัดใจว่ามึงควรขยายความเรื่องนาคราชา แต่ก็เสือกไม่ขยาย ตอนจบก็จบงงๆรวบรัด เอาเป็นว่ากูไม่ชอบเรื่องนี้ละกัน
เคยอ่านนาคราชาตอนเด็กๆแล้วงงๆไม่ค่อยเข้าใจ เลยคิดว่านิยายผู้ใหญ่แม่งอ่านยากจังวะ
พอโตขึ้นแล้วถึงรู้ว่าแรบบิทแม่งสำนวนเขียนมึนๆเองนี้หว่า
งานของพัณณิดาที่กูชอบที่สุดคือไมรอน กูว่าแม่งอีปิคมาก ทำการบ้านมาดีด้วย อ่านจบแล้วอิ่มไปเป็นเดือน
นิยายแรบบิทนี่คือนิยายเขียนเล่นหมดเลยใช่ไหมมึง เลยมีจบบ้างไม่จบบ้าง แถมไม่มีต่องานหม่งงานใหม่อะไรดัวย
เรื่องหลังๆอย่างนาคราชาหรือเพชรประดับใจไม่ค่อยดังเท่าป่าละเมาะด้วยมั้ง เลยหายไปเลย ทั้งที่ป่าละเมาะติดอันดับหนังสือแฟนตาซีแท้ๆ
ป่าละเมาะทุกวันนี้ก็ยังขายได้นะ เรียกว่าเขียนเรื่องเดียวขายได้ทั้งชาติ
ป่าละเมาะมันอ่านง่ายกว่าเยอะอะ ได้ทุกเพศทุกวัยทุกสถานการณ์ คลายเครียดดีด้วยถ้าไม่ต้องไปมองเรื่องบรรยายโวหารกับ plothole อะนะ แต่อย่างนาคราชานี่แค่ปูเรื่องมาก็เฉพาะกลุ่มมากแล้วว่ะ ถ้าไม่พยายามอ่านสักหน่อยจนพ้นช่วงแรกๆให้เราเริ่มจำตัวละครจำอะไรได้ ก็จะเหนื่อยเกินอ่านต่อจริงๆ กูซื้อมาแล้วอ่านให้จบไม่ไหว สมาธิหมดก่อน สำนวนแกยิ่งอ่านยากๆอยู่
พวกที่มึงว่ามาก็ไม่ต่างอะไรกับป๊อปหรอก
เพื่อนโม่งคิดไงกับนิยายแฟนตาซีไทยเรื่องนี้บ้าง
http://writer.dek-d.com/twinntwinn/story/view.php?id=1127910
แนว:Fate+SAO+Minecraft+สามก๊ก
อ่อๆ โทดๆ ลืมไปว่าเด็กๆคุยกัน
>>782 นับแค่พล็อตเฉยๆก็ไม่เลวนะ จับจุดเด่นแต่ละเรื่องมาเขียนได้ดี คล้ายๆหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งที่จัดฉากชีวิตคนๆหนึ่งทุกอย่าง ซึ่งตัวเอกก็พบว่าชีวิตเป็นแค่รายการโชว์รายการหนึ่ง
แต่กูอ่านแล้วไม่ชอบเลยวะ พระเอกแม่งแกรี่อีกละ คนอื่นจำไม่ได้แต่พระเอกเสือกจำได้เพราะ"ดวงดี" แถมได้ของพิเศษกว่าคนทั่วไปตลอด กูเบื่อพล็อตนี้วะ แถมเดินเรื่องแปลกๆ กูว่าถ้ามันเดินเรื่องแบบgame of throneที่เสนอมุมมองของแต่ละคนจะดีกว่านี้มาก ไม่ต้องให้มีพระเอก มีแต่ตัวดำเนินเรื่องที่ผลัดกันไป และไม่ให้พระเอกดวงดีตั้งแต่ต้น กูว่ามันจะน่าสนใจกว่านี้
นิยายเด็กหมอยเพิ่งขึ้นแล้วหัดแต่ง กูเกลียดการเว้นวรรคของมันจัง
>>782
ถ้ามีรูปเล่มให้ซื้ออ่านก็คงไม่ซื้อ
แต่เพราะอ่านฟรีก็อ่านเพลินๆได้
เอาจริงๆเรื่องนี้กรูว่าสำนวนรวมถึงการบรรยายก็ดาษดื่นนะ
แต่มันคงแปลกใหม่สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านแนวสร้างโลก เริ่มบุกเบิกอารยธรรมไรงี้มากกว่า
กรูเป็นคนโคตรชอบนิยายที่มี"ตัวละครเยอะ"
แต่มันต้องตัวละครเยอะแบบมีค่านะ
อย่างไอ้เรื่องห่านี่มันเน้นตัวละครเยอะแบบไร้ค่าอะ
ประมาณว่าถ้าไม่ใช่ตัวละคร Main จริงๆมีบทมาอีกทีก็ลืมแล้วว่าไอ้หอกนี่เป็นใคร
ความผูกพันธ์ ความโหยหา แรงอวยที่จะทำให้เกิดแรง Spark ระหว่างคนดูกับตัวละครไม่มี
ตัวละครบางตัวบางสถานการณ์ไม่ต้องมีชื่อให้มันยังได้
มันก็ยังจะเสือกตั้งชื่อให้มาส่งๆ พอพยายามผูกเรื่องแม่งคนอ่านลืม
กูเห็นฟุถกกันเรื่องความสมจริง มึงว่าแบบไหนถึงจะดูสมจริงในนิยายวะ
>>789 สำหรับกูคือเรื่องมันมีเหตุผลนะ ไม่ใช้แบบตบ ข่มขืนแล้วหญิงยังเสือกรัก พึ่งทำสงครามมาหมาดๆแล้วจับมือคืนดีแบบไม่มีไรเกิดขึ้น แต่ถ้ามันลากเหตุผลนู้นนี้ที่พอทำให้กูรู้สึกว่าโอเคถ้าเหตุผลมันเป็นแบบนี้ละก็กูก็จะรักนะให้อภัยนะ แต่ก็แล้วแต่เหตุผลที่เขียนมาอะนะว่ามันพอจะให้ถึงขั้นไหนถ้าขั้นมันเยอะไปกูก็ว่ามันไม่สมจริง
นิยายมันต้องมีความสมเหตสมผลที่ตั้งอยู่บนความไม่สมเหตุสมผลของมัน
เหมือนขยะวรรณกรรมของ Dr. ท่านหนึ่งที่อธิบายไม่ได้ว่าทั้งๆที่ในเรื่องมีพลังจิตในเรื่องวอร์ปไปวอร์ปมาได้
แล้วมึงจะบินหรือเหาะด้วยเวทมนตร์ทำไมในเมื่อไปถึงช้ากว่า ประมาณว่ามันแค่นึกอยากจะใส่พลังจิต+พลังเวทเข้ามาในเรื่องเดียวกันแค่นั้นเอง
หลายๆสถานการณ์ในเรื่องแม่งน่าขัดใจมากว่าทำไมบางทีใช้พลังจิต ทำไมไม่ใช้เวทมนตร์ก็มี...หลังๆมีไสยศาสตร์อีกไอ้หอก
พูดให้กระชับคือความสมเหตุสมผลของนิยายขึ้นอยู่กับ "ที่มาที่ไป" ที่ผู้แต่งจะกล่าวอ้างให้ความไม่สมเหตุสมผลดูสมเหตุสมผลขึ้นมานั่นแหละ
เพราะจินตนาการก็คือจินตนาการ...แต่จะทำยังไงให้จินตนาการของคนแต่งถ่ายทอดไปให้คนอ่านได้เหมือนกับที่คิดไว้
มวลมหาติ่งสำคัญที่สุด
มึงจะเขียนเหี้ยอะไรก็ได้ ความสมเหตุสมผลเหี้ยไรไม่ต้องมี ขอแค่เขียนให้โดนใจติ่งหมู่มาก ติ่งจะกางเขนปกป้องมึงเอง
ก้อมันเรื่องแต่งอ่ะจะเอาอัลไลนักหนา พี่เขาแต่งสนุกจะตาย แต่งมาให้อ่านก็บุญแล้ว ทำได้อย่างเขารึเปล่า ฯลฯ คนเขียนรักป่วยมิได้กล่าวไว้ กูนี่แหละกล่าวเอง
x กางเขน
o กางแขน
X อ่ะ
O อะ
มา กูช่วย
X ก้อ
O ก็
O มัน
X นมัน
กูว่าเท่ดีนะ "ติ่งกางเขนคอยปกป้อง" เย็ดเข้อย่างกับพาลาดิน
X อัลไล
O อะไร
X dr.pop
O เท่ง เถิดเทิง
กูอยากทำคอมโบเบรกเกอร์จัง
เปลี่ยนเรื่องเถอะมึง
>>804 เค กูช่วยมึงเอง
ช่วงนี้กูเริ่มแตกไลน์การอ่านวะ หันไปอ่านนิยายต่างประเทศอย่างจีนเกาหลีญี่ปุ่นมากขึ้น กูรู้สึกว่าแต่ละชาติแม่งมีเอกลักษณ์โคตรๆเลยวะ
อย่างจีนนี่ชอบเล่นความหมายของคำหรือตัวอักษร เล่นมุกซีเรียสหน้าตายเยอะ ไต้หวันเน้นแฟนตาซี ฮ่องกงเน้นกำลังภายใน แผ่นดินใหญ่เน้นประวัติศาสตร์ หลังๆนี่มีพวกผีสางขุดสุสานมาเยอะเลย จะว่าสนุกก็สนุกนะ แต่หลังจากกูอ่านรหัสลับหลังคาโลกที่มีความสมจริงและใช้การอธิบายแบบsci-fiมาอธิบายเรื่องราวต่างๆ กูกลับไปอ่านแนวแฟนตาซีผีสางอย่างบันทึกจอมโจรไม่สนุกเลยวะ เพราะมันทำให้กูรู้สึกไม่สมจริงสุดๆเลย
ญี่ปุ่นก็พวกLNที่กูคงไม่ต้องอธิบายมาก แต่กูรู้สึกว่านิยายญี่ปุ่นมันออกแนว"เพ้อฝัน"ยังไงไม่รู้วะ หมายถึงคำบรรยายนะ บางทีกูก็ไม่เข้าใจความหมายแฝง รู้สึกว่ารสนิยมที่คนญี่ปุ่นเห็นว่าดีคือเขียนให้"เหนือโลก"วะ เหมือนกับคนฝรั่งเศสถือว่าความเข้าใจยากและวรรณศิลป์คือความสูงส่ง
ส่วนเกาหลีนี่กูอ่านพวกกำลังภายในมา กูว่าพระเอกแม่งแกรี่ชิบหายเลย นิยายเด็กดีบางเรื่องยังดูดีกว่าเลย แถมกูเกลียดคนแต่งจอมโจรจอมราชันย์มาก แม่งจบปาหมอนสัสๆอะ คือมึงคิดตอนจบไม่ออกหรือดมกาวมากไปป่าววะ แม่งแถหน้าด้านๆให้พระเอกชนะได้เฉยเลยวะ โดยเฉพาะจอมกระบี่เทพสังหารที่ยกย่องว่าเป็น"หนังสือที่ควรอ่านก่อนตาย" ถ้านับแค่ตอนจบนี่แม่งระดับเดียวกับdr.popเลยวะ ซึ่งกูไม่คิดว่าจะมีเรื่องใดที่กูเกลียดระดับนี้มาก่อน แต่อย่างหนึ่งที่กูยอมรับคือบทบู๊แม่งมันส์จริงๆ แต่ที่กูขำคือแม่งเกินคำว่ากำลังภายในไปเยอะมาก เจไดมาสู้แม่งก็แพ้ แถมยังมีแต่มุขคุณธรรมโลกสวยจนกูแทบอ้วก
พวกมึงอ่าน Exodus กันป่าววะ แบบ...ไบเบิ้ลที่ต้องตีความ หรือวิวรณ์อะ กูชอบอ่านนะเพราะเหมือนอ่านประวัติศาสตร์แล้วมาอ่านที่เขาวิเคราะห์กัน สนุกดีมึง
หลังๆ มากูติดนิยายจีนแบบที่ออกแนวชิคลิทกำลังภายในเยอะแบบสามเล่มห้าเล่มจบขึ้นเยอะเหมือนกันนะ กูว่านิยายจีนนี่สุดยอดแห่ง plot-twist สัดๆ เป็นเพราะชาติมันถูกกล่อมเกลาด้วยมหากาพย์โคตรยาวอย่างไซอิ๋วหรือสามก๊กมาตลอดหรือเปล่าหว่า กูไม่เคยอ่านนิยายไทยที่เล่นพล็อตหักมุมเยอะจัดๆ แบบนี้มาก่อนนะ ส่วนมากเล่นอารมณ์ความซาบซึ้งตัวละครอ่ะ ก็ว่ากันไปคนละอย่าง
มึงลองคิดถึงวงการนิยายไทย มึงคิดไงกับตรรกะของ คห.15 http://www.dek-d.com/board/view/3375778/ มู้นี้วะ
เหมือนแม่งเถียงเหี้ยไรวกๆวนๆ น้ำท่วมทุ่งแถมยังดูถูกคนอื่นไปทั่ว ยกตัวว่าเป็นบก.ย้ำชิบหาย กูว่าวงการหนังสือควรกรองคนมาเป็นบก.ว่ะ ไม่งั้นคงผลิตสื่อรูปแบบเดิมๆ สื่อขยะๆ เปลี่ยนได้แล้วเหี้ย วงการหนังสือไทย
ทำไมใช้คำว่า กู-มึง ในหนังสือไม่ได้ครับ ขนาดพระยังใช้คำนี้ได้เลย ตำรวจก็ยังยอมรับ
https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-xfp1/v/t1.0-9/1390751_852948038051889_7362309076979711280_n.jpg?oh=2198ca3c6e440b2e461cd281cb808011&oe=54A089E6&__gda__=1419724413_a210b06f815e04553e1c749601790006
เอาเหี้ยไรกับบอร์ดที่ยกย่องคนอย่างไอ้เหี้ยซ่องน้ำ
>>815 กูชอบเมนต์ 20 สรุปได้ครอบคลุมที่สุด
--------
ผมมองในประเด็นที่ว่า เขียนให้ใครอ่าน
เขียนให้วัยรุ่นอ่าน ประมาณนิยายแจ่มใส ก็ไม่ควรใช้ เพราะขืนใช้กูมิงไป ทางสนพ.ก็จะสั่งเปลี่ยนอยู่ดี
เขียนให้วัยรุ่นอ่านเช่นกัน แต่ใต้ดินหน่อย ประมาณว่าพิมพ์เอง จะใช้กูมิงก็ใช้ไป
เขียนให้ผู้ใหญ่อ่าน อันนี้ใช้ได้เลย ไม่มีปัญหา แต่ต้องเลือกสนพ.ที่ยอมตีพิมพ์คำพวกนี้ได้ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักปล่อยให้ได้นะ)
พูดง่ายๆ คือมองไปให้ไกล ว่าถ้างานเราไม่ได้หยุดอยู่นี้ แต่สมมติไปได้ไกลกว่านี้ เราจะใช้คำว่าอะไรให้เหมาะสมกับที่ๆ เราจะอยู่ในอนาคต
------
แต่โดยส่วนตัวกูมองว่า ใช้ไปเถอะ พวกที่เลี่ยงไม่ใช้นี่อีเดียตชิบหาย
ใครคือซ่องน้ำวะ มีนิยายเขาให้ลองอ่านมะ
>>822 http://my.dek-d.com/zoname/writer/ เนี่ยมึงเลือกเลย
ซ่องน้ำ 5555555555555
มีใครตามดราม่าอดีตนักเขียนหน้าใสบ้างวะ
อะไรวะ กูอยากรู้
เท่าที่กูรู้คือ อดีตนักเขียนหน้าใสรางวัลที่สามของปีห้าไปทวีตว่า ปีนี้คนผู้เข้าแข่งขันที่ได้รหัสหมายเลข05 จะได้คะแนนโหวตสูงสุดเหมือนปีก่อน ๆ มั้ย
(เป็นที่รู้กันดีสำหรับคนที่ติดตามโครงการว่าอาถรรพ์นักเขียนรหัส05 จะมีคะแนนโหวตรวมสูงสุด) แล้วมันไปกระทบกับนักเขียนรหัส05 ปีที่แล้ว(ซึ่งไม่ได้มีคะแนนโหวตสูงสุดในการแข่งขัน) ไปๆมาๆเริ่มแซะกัน แฟนคลับนักเขียนแต่ละคนก็เข้ามาร่วมปรุงใส่สีใส่ไข่ แล้วเรื่องก็ลาม ที่พอรู้ล่าสุดคือทั้งสองฝ่ายไปแจ้งความกันเรียบร้อย ถ่ายรูปใบลงบันทึกประจำวันมาแปะที่ทวิต
มึงมีเรื่องถึงขั้นแจ้งความกันด้วยสาเหตุกะโหลกกะลาแค่นี้เองเหรอ...
>>830 เห็นว่าแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท (เอาเข้าจริงเรื่องมันจะไม่ลาม ถ้าแฟนคลับนักเขียนกับนักเขียนคู่กรณีไม่พากันออกตัวแรง)
>>832 ไปหาๆ ดูในทวิตประมาณช่วงก่อนวันที่10 Sep
ทวิตนักเขียน https://twitter.com/Praewaa127
อันนี้ของอีกคนที่เป็นคู่กรณี https://twitter.com/DemZaa
เป็นแค่เครื่องผลิตขยะเผาได้แท้ๆ
กูตามไปอ่าน รู้สึกถึงความเหี้ยของตัวละครในนิยายเด็มซ่าอะไรนี่มาก ขยะชิบหาย
ซ่องน้ำ...นี่ใช่เซเลปเล็บขบที่เล่นพันธิปเป็นชีวิตจิตใจปะ
สำนวนซ่องน้ำนี่อย่างกาก
กูขำกับอีซ่องน้ำ มีกระทู้นึงมันบอกแนะวิธีให้เป็นเซเลป ใส่รูปอวาตาให้เด่นๆเขียนให้มีสำนวนเอกลักษณ์ห่าเหวไรมัน เม้นบ่อยๆให้คนติดตา
แต่เสือกบอกตัวมันไม่อยากเด่น แต่ทนเห็นคนใช้ตรรกะเพี้ยนๆไม่ได้ มันเลยจะเล่นงานแต่คนประเภทนั้น
ควยเถอะ อีสัด ตัวมึงแม่งโคตรอยากเด่นเต้นกลางฟลอย์ชิบหาย
ในพันทิปกูเฉยๆกับซ่องน้ำนะ ยกเว้นแม่งจะสแปมโพสรัวๆทั้งๆที่เอาไว้ในโพสเดียวก็ได้ เป็นประเภทที่ถ้าเล่นไลน์ถามคำตอบ10พารากราฟ โคตรน่ารำคาญเลย
ถึงว่าช่วงหลังๆเนื้อหามู้นี้แม่งกากลง
พวกมู้แม่บ้านเมะเริ่มอพยพกันมานี่เอง
นินทา >>>/netwatch/
งั้นกูเปิดประเด็นใหม่
เรื่องRiva Estellaเพื่อนโม่งว่ามันจะเป็นไงมั่งวะ จะล่มเหมือเรื่องรวมนักเขียนอื่นๆของสถาพรปะ พอดีกูแค่อยากตามของลวิตร์ แต่ไม่รู้เรื่องอื่นเป็นไงมั่ง กูยังไม่มีเวลาอ่านเท่าไรเลย
เพื่อนโม่งทั้งหลายล้วนเป็นน้ำส้มแก้วเดียวกัน
กูเป็นน้ำมะนาว
>>812 กูขอขุดประเด็นอีแว๊นี่หน่อยเหอะ แม่งอยากดังฉิบหายชอบโพสรูปตัวเองในกระทู้ มีแต่รูปคอสกากๆ ให้เด็กติ่งเลียขา หน้าตาดีได้ไม่เท่าหรี่เด็กคอสในบอร์ดKarmaด้วยซ้ำ อาศัยว่าเป็นบก.พูดเหี้ยไรน้ำท่วมทุ่งก็ได้ มีติ่งนักอยากเขียนพร้อมเลียแข้งให้ตลอด พอๆ กับอีซ่องน้ำไปอยู่ที่อื่นเหมือนเป็นตัวโจ๊กแม่งไม่มีคนมาตามไหลตามอวยเหมือนเด็กดวย ต้องกลับมาตายรัง เวลากูหาข่าวแทนที่จะได้อ่านกระทู้มีสาระ แม่งมีแต่ตรรกะควายๆ ป่วยๆ
>>846 เหมือนกัน ที่อ่านมาเฉยมาก
>>852 มึงช่วยเอาที่นี้เป็นที่คุยเกี่ยวกับหนังสือจริงๆเหอะ หรือไม่ก็ประเด็นคนเขียนแบบยังเกี่ยวกับหนังสือที่เขาเขียนอยู่ ถ้านินทารายบุคคลเอาไปที่>>>/netwatch/ เถอะวะ
>>853 ได้ เผื่อมีโม่งอื่นอยากคุยให้ไปเปิดมู้ใหม่ ถ้าไม่มีก็ปล่อยให้ตกไป กูโพสเพราะเห็นว่าเนื้อหามันยังอยู่ใน แม่บ้านโม่งสายหนังสือ วงการนิยายไทยมีเหี้ยไรให้นินทามั้ย น่าจะมีเหี้ยไรที่พอเป็นประเด็นในนี้ได้อยู่ เน็ตวอชตอนนี้แม่งยังไม่มีโม่งหนังสือที่เล่นบอร์ดแน่ๆ มีแต่โม่งเมะ
กลับมาเรื่อง Riva Estella กูไปลองอ่านเรื่องแรกดูแล้ว อ่านไปได้ค่อนเรื่องยังเฉยๆ แกมไม่หนุก เลยกะจะซื้อแต่เล่มสุดท้าย เก็บเรื่องของลวิตร์เรื่องเดียวพอ
>>854 ซัมม่อนมึงไปนินทาอิแว๊ต่อ ไหนมึงเล่ามาให้หมดดิ มีเหี้ยไรอีก https://fanboi.ch/netwatch/877/l5/
นี่มู้วรรณกรรมยุโรป ใครคุยเรื่องวรรณกรรมไทยไปที่อื่นซะ
ชัดเจนนะ
งานหนังสือจะมาถึงแล้ว ชี้ลายแทงสถาบันสถาปนาให้กูหน่อยได้มัย้ หาซื้อมานานละ
มันจะพิมพ์ใหม่ตั้งนานแล้วนิหว่า ยังไม่ออกอีกหรอ
มีโม่งๆไหนรู้มั้ยว่าพวกนิยายหรือวรรณกรรมเก่าๆมันหาซื้อได้จากบูธไหนในงานหนังสืออะ อย่างพวกเกอเธ่ เฮสเส ไรงี้
>>862 น่าจะต้องไปหาที่อื่นที่ไม่ใช่บูธสนพ.โปรวิชัน เพราะประกาศเลิกพิมพ์แล้ว
http://www.provision.co.th/index.php?page=shop.browse&limitstart=0&category_id=15&option=com_virtuemart&Itemid=31
>>864 เอาเก่าระดับไหนล่ะเพื่อนโม่ง เก่าแบบมือสองหรือเก่าที่เอามาพิมพ์ใหม่ ถ้าเกอเธ่อจะมีบูธของภาษาเยอรมันมาบูธนึง อยู่ในฮอลใหญ่ๆ เข้าไปเจอเลย บางปีก็มีพวกเฟาส์มาขาย บางปีก็ไม่มีเลย แต่เป็นภาษาเยอรมันนะ
แต่ถ้าเน้นมือสอง ก็ตรงโซนที่มันมีสองชั้น ชั้นบน จะมีร้านหนังสือมือสองอยู่เยอะ เลือกๆร้านที่มันมีหนังสือภาษาอังกฤษแล้วไปค้นดู ถ้าโชคดีก็เจอ ต้องพึ่งดวงว่ะ แต่จนถึงตอนนี้กูยังไม่เคยค้นเจอเกอเธ่อกับเฮสเซ่อที่เป็นมือสองภาษาอังกฤษในร้านพวกนี้นะ ที่ดาสะก็ไม่มี แต่ถ้ามีคนรู้จักเรียนภาษาพวกนี้อยู่ก็คงพอจะขอซีร็อกซ์ฉบับเยอรมันมาอ่านได้
>>864 กูเจอบนเน็ตละ แต่เป็นแบบแปลไทยนะ http://justpaste.it/h2zd ในนี้กูรวมๆเกอเธ่อกับเฮสเซ่อไว้ แต่ในเว็บก็มีอีกหลายอย่างอะแหละ พวกตอลสตอยอะไรงี้ ลองค้นๆดูนะมึง
เวลางานหนังสือมาถึงที พวกมึงใช้เงินกันไปเท่าไหร่วะ กูเฉลี่ยแล้วรอบละ 8000 ว่ะ ตกใจตัวเองชิบหายเลย
2-4000 ขึ้นกับว่าช่วงนั้นแกลบมั้ย ยังเรียนอยู่ ได้เท่านี้แหละวะ
ทำงานเมื่อไหร่คงได้เสียหลักหมื่น
400-2000 ราวๆนี้ว่ะ ปกติซื้อหนังสือเก่าแถมพักหลังๆเรื่องมากเรื่องซื้อหนังสือ แต่บางทีก็ซื้อหนังสือที่ไม่รู้ว่าซื้อมาทำไมเหมือนกัน
ขอบคุณที่ตอบนะกูเจอรื่องที่กูอยากได้ละ เอ้อ จะมือหนึ่งมือสองกูก็ได้หมด แค่อยากอ่าน่น่ะ
ทุกปีกุตั้งไว้ที่2000+- ตามแต่ความแกลบแดก รอบนี้ชนกะงานอเวนิวเงินเทไปซื้อโดจนหมดงบแล้วเนี้ย;v;
กู 5000 ปีนี้ท่าทางจะแค่พันเดียว
กุเริ่มซื้อน้อยลงเรื่อยๆว่ะ ราคามันแพงแบบไม่สมเหตุสมผลมากขึ้นทุกที
สำนักพิมพเดี๋ยวนี้มันก็ออกหนังสือตอนมีงานเป็นส่วนใหญ่ ค่าขนส่ง ค่าฝากขายก็ไม่เสีย
แต่ราคาเสือกขึ้นเอาขึ้นเอา ลดราคาจากปกก็เหลือ 10-15% คุณภาพการแปลก็ห่วยวันห่วยคืน
ฝึกอ่านภาษาต้นฉบับแต่เนิ่นๆดีกว่า
>>876 เห็นด้วยเรื่องราคา แล้วกุเริ่มซื้อน้อยเพราะไม่มีที่เก็บ แล้วก็ปกติกุสายพวกไลท์โนเวลแต่พอบลีสปิดหลังจากนั้นกุไม่ค่อยซื้อแบบถล่มทลายอะ (แถมเดี๋ยวนี้แปล กากแล้วก็เอามาแต่เรื่องอัลไลไม่รู้)
ช่วงนี้ภาษาจีนกุอยู่ในขั้นโอเค แต่ลองอ่านนิยายไต้หวันแล้วรู้สึกแปลได้นะแต่การเกลาสำนวนตัวกุยังไม่ค่อยเก่ง คือรู้ความหมายแต่ฟินไม่สุดอะ
กุว่าเอนเทอร์ยังแปลได้โอเคนะ
อิงกุแทบจะเลิกอ่านของแปลไทยละ
เวลาโม่งไปซื้อหนังสือที่งานหนังสือนี่เลือกซื้อกันยังไง
จดรายการที่อยากซื้อแล้วซื้อทีเดียวหรือว่าดูๆไปถูกใจเล่มไหนก็ซื้อ
แล้วตอนดูหนังสือที่ซื้อดูจากอะไรถึงจะตัดสินใจซื้อกัน
ปกติเราจะจดเล่มที่อยากซื้อแล้วซื้อเลย ดูจากรีวิวกับเรื่องย่อนิดหน่อย
ผิดหวังบ้างเป็นบางทีหลังอ่านจบ
เรื่องที่จดรายการไปซื้อมีแค่เรื่องที่มีแล้วไปเพื่อซื้อเล่มต่อกับเรื่องที่เพื่อนที่มีรสนิยมในการอ่านแบบเดียวกันแนะนำมา
นอกจากนั้นเดินดูในงาน ถูกใจอะไรก็ซื้อ
จดรายการไว้ก่อน ส่วนมากพวกเล่มต่อ + ที่เพื่อนแนะนำ นอกจากนั้นไปในงานอะไรน่าซื้อก็สอย แต่ส่วนมากจะได้พวกหนังสือเก่า+ขายยกเซทถูกๆ
ซื้อเรื่องที่เคยอ่านแล้วชอบแต่ไม่มีปัญญาซื้อเก็บก่อน แล้วค่อยเลือกเรื่องที่สนใจอยากอ่าน แล้วก็หารีวิว หากระทู้แนะนำไปเรื่อย
>>881 ทำไหมมึงไม่ส่งไปรษณีย์ในงาน ค่าส่งมันเหมารวมไปแล้ว ถูกนะมึง กูเลือกแค่เล่มที่อยากอ่านออกมาอ่านฆ่าเวลาบนรถเมล์ นอกนั้นส่งกลับบ้านหมด
ลิสต์ฝังอยู่ในสมองตลอดเวลาอยู่แล้ว
พอถึงงานก็เดินไปหยิบดะไว้โร้ด จ่ายตัง กลับบ้าน ฟินน
http://image.ohozaa.com/view2/xQogNl5JWHDz8ZiR
ฉีกอ่านเฉพาะส่วนได้ไหมวะ...กรูจองของคนสุดท้าย
กูขออ่านแสกน แล้วเดี๋ยวกูซื้่องานเก่าซ้ำอีกเล่มเป็นการชดเชยได้ไหม
วนมาเรื่อง Riva Estella อีกแล้วเหรอ ทำไมโม่งจ้องแต่จะอ่านเรื่องสุดท้ายกันวะ (กูก็ด้วย) แต่ต้องยอมรับนะว่าปกสวยบรรเจิดมาก
กูอยากรู้จังว่าถ้ายอดขายมันดีแต่เล่มสุดท้าย สนพ.จะตั้งข้อสันนิษฐานหรือรู้สึกอะไรมั่งหรือเปล่าหว่า....
>>887 เป็นเรื่องสั้นที่อยู่ในธีมเดียวกัน (หมายถึงที่เกิดเหตุเดียวกัน) เชื่อมบางๆ กับเรื่องก่อนหน้า แต่ไม่อ่านก็รู้เรื่อง
นักเขียนแฟนตาซีไทย ที่กูเชื่อใจได้มีแต่ลวิตร์
ดรากอนเดริเวอรี่นี้กูจะหาจากไหนดีวะ
เว็บสถาพรยังซืัอได้อยู่นะ กูเพิ่งยกชุดมาเดือนก่อน
สหายโม่ง เนื่องจากกูว่างและฟุ้งซ่าย กูจึงไปนั่งอ่าน Riva Estella มาแล้วด้วยความรวดเร็ว และเนื่องจากรีวิวกูคงไปเขียนลงที่ไหนไม่ได้เพราะมันจะบั่นทอนน้ำใจคนเขียน (ความจริงคือไม่อยากตัวจริงกูโดนรุมด่า) กูเลยจะมาขอรีวิวคร่าวๆ ดังนี้
1. A Lady in Blue
จริตส่วนตัว กูไม่ชอบชื่อคนไทยๆ มาอยู่ในนิยายแฟนตาซีจ๋า เลยขัดสายตานิดหน่อย แต่นอกนั้นก็อ่านได้เรื่อยๆ ธีมคืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โลกสวย
2. A shade of wishes
สนุกที่สุดแล้วที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ให้บรรยากาศแนวทริลเล่อร์มิสเตอรี่ ตอนแรกนึกว่าอ่านเรื่องสืบสวนของอกาธาเรื่อง "ใครฆ่า" รู้สึกขัดๆ ตอนมันมาจอยกับแฟนตาซีจ๋าๆ แต่โดยรวมสนุกดี คลี่คลายดีด้วย กูชอบ
3. A Milky Way Love Story
ฝืนใจอ่านไม่จบว่ะ สัด ใครชอบนิยายรักแนวแจ่มใส ง้องแง้ง เกาหลี อีโม ไปอ่านได้เลย ไม่ใช่แนวกู ส่วนตัวว่าสำนวนมันโดดมาจากเรื่องอื่นๆ ด้วย
4. An Underworld Dance
ค่อนข้างเฟ้อและเพ้อ น้ำเยอะ เหมือนเรื่องสั้นนำเที่ยวตลาดนัดดวงดาวมากกว่า ไปโน่นมานี่และก็เจอนั่น ตัวประกอบ NPC ออกมาเยอะมาก เหมือนพยายามเก็บเซ็ทติ้งเยอะๆ เลยไม่ไปถึงไหนเลย
ราวๆ นี้ว่ะ
ส่วนที่ว่ามันโยงกันไหม คือมันก็แบ่งๆ ยืมๆ ตัวละครกันใช้อ่ะ ถ้าอ่านหมดเจอเรื่องโยงกันก็คงอินมากกว่าเดิม แต่ไม่อ่านก็ได้ เฉยๆ ประเด็นคือมันไม่สนุกขนาดต้องทนฝืนใจอ่านทุกเรื่องว่ะ ดังนั้นกูจะยึดติดกับนโยบายเดิม ฉีกส่วนสุดท้ายมาอ่านพอ
ปกสวย แต่ชื่อคนแต่งทำเอากูขยาด โดยเฉพาะคนเขียนเซวีน่า ขายให้แต่ของลวิตร์ได้ป่าววะ คนอื่นๆกูไม่อ่าน
เซวีน่าไม่หนุกเหรอวะ เล่าหน่อยๆ กูไม่เคยอ่าน
>>896 น้ำเยอะ ตัวละครแมรี่ซู แกรี่สตู เนื้อหามีแต่รักๆใคร่ๆเคลือบด้วยคำว่าแฟนตาซีนางเอกทำอะไรก็สำเร็จ เป็นคนสำคัญ สวย เก่ง ดีเลิศ แม่พระผู้อารี พระเอกรูปงามบ้านรวยบลา บลา บรรยายยืดยาวเยิ่นเย้อทั้งๆที่มันควรจะจบในสามเล่ม แต่คนเขียนยืดเป็นห้าเล่ม กูอ่านเล่มสี่ก็โบกมือบาย
เพื่อนๆนางเอก พระเอก ล้วนแต่เป็นคนสำคัญ เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เป็นทายาทตระกูลเศรษฐีที่รวยไม่รู้จะรวยยังไงแล้ว เป็นหญิงสาวงดงามนั่นนี่ มาเรียนเพื่อจับคู่กันไม่ได้มาหาความรู้อะไรหรอก เพราะมันเป็นแฟนกันเองทั้งนั้นล่ะ
เอาจริงๆ นอกจากลวิตร์ มีVermouth คนนี้แหละที่เขียนได้ดี แม้ประสบการณ์ยังน้อย แต่เขียนต่อไปเรื่อยๆคงพัฒนาขึ้น
ลวิตร์ มันมาอวยตัวเองในนี้ป่าววะกุเริ่มสงสัย
เคยอ่านพณฯท่านแห่งกาลเวลาของลวิตร์นะ เดินเรื่องดี เขียนไม่บรรยายน้ำท่วมทุ่ง
ขอนอกเรื่องแปบนึง
ตอนนี้กูลองอ่านCrime and Punishment ของดอสโตเยฟสกีอยู่ แต่อ่านไปอ่านมารู้สึกว่าทุกตัวอักษรมันแฝงไว้ด้วยอารมณ์ที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ ตอนนี้กูแอบรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะเริ่มประสาทนิดๆ กำลังทำใจอ่านต่ออยู่
กูแนะไมรอนกับ Story Teller สองเล่มนี้ไม่หนา แป๊บเดียวก็อ่านจบ มัน Epic สำหรับกูมาก เป็นนักเขียนไทยไม่กี่คนที่กูพร้อมจะอวยเสมอ
ไปๆมาๆกูก็นึกได้ว่ากูเกลียดไรนิยายแฟนตาซีไทย
คือแม่งชอบบรรยายน้ำท่วมท้งหาสาระไม่เจอ แถมแม่งยืดยาวอบบไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องหรือคาปรกเตอร์ตัวละคร ภาษาแม่งก็เหมือนเอาคำหรูๆมาปนให้เหมือนจะดูดี แต่แม่งทำให้ห่วยวะ ไม่นับค่านิยมพระเอกเก่งเทพคนเดียวด้วยนะ
เออ 9ร้อยกว่าละชื่อมู้ใหม่เอาไรดี
>>894 เหมือนกันวะเพื่อนโม่ง กูเคยคิดว่ากูตาแหลมที่ไม่เหลือบแลไวท์โรด แต่กูกลับพลาดสุดๆทค่เชื่อคนในตุรกีที่บอกว่าpride onlineสนุกมาก สมควรเอาไปทำเป็นอนิเมะที่ญี่ปุ่น แม้แต่คนญี่ปุ่นยังชมเลยว่าสนุกมาก(ตอนนั้นกูก็ไม่ได้คิดนะว่ามันอ่านไทยได้รึปล่าว) แม่งเป็นความอัปยศของกูเลยวะ แถมกูซื้อแบบเป็นbox setด้วย พลาดแบบสุดๆเลย
หลังจากนั้นกูคิดว่ามันอาจพัฒนาตังเองได้เลจลองอ่านelements onlineดู ปรากฏว่าแม่งเหี้ยกว่าเรื่องprideเยอะเลยวะ พระเอกแม่งแกรี่ได้ระดับเดียวกับเทพทัตเลย จนถึงทุกวันนี้กูยังรู้สึกเสียใจทค่ไปเพิ่มยอดวิวให้มันเลย
สมาคมคุณหญิงคุณนายโม่งแห่งวงการหนังสือ
>>902 กุอวยเอง แล้วก็ไม่มีเหตุผลที่เค้าจะมาอวยด้วยขนาดในเพจนี่โคตรกันเองไม่มีบลัฟแบบบางคน
พูดถึงนิยายไทยกุนึกถึงตอนเพื่อนกุวาดปกให้นักเขียนคนหนึ่งในสถาแล้วนักเขียนโคตรเรื่องมาก จากนั้นเพื่อนกุก็ไม่ได้วาดต่อ
พอเปลี่ยนคนวาดปกมาเป็นคนที่ดังกว่านี่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลย อวยๆคนใหม่ ขนาดวาดผิดคอนเซ็ปจุดเดียวกะเพื่อนกุก็ไม่ติผ่านตัลหลอดดดด ทีเพื่อนกุสั่งแก้หลายรอบมาก นิยายก็กาก แนวแฟนตาซีตลาดๆ ทำมาด่าว่าเพราะเพื่อนกุวาดปกเลยไม่ดัง....แหม่ทำอย่างกะว่าเปลี่ยนปกแล้วคนอ่านเยอะขึ้น พอละเดี๋ยวโม่งหลุด
อาวุธ ออนไลน์ ของ สถา กุใบ้ให้แค่นี้ เดี๋ยวกระทบเพื่อนกุ เรื่องมันก็นานแล้ว
ปล.เพื่อนกุไม่ได้วาดอลังอะไรมากนะเพิ่งทำครั้งแรกด้วย แต่ก็แม่งไม่น่าทำกันขนาดนี้อะ กุแค้นแทน
ใบ้ขนาดนั้นมึงไม่ต้องใบ้ดีกว่าม้าง มีอยู่เรื่องเดียวแหละ
ไม่เคย(และไม่คิดจะ)อ่านก็จริง แต่ก็สังเกตอยู่ว่าหน้าปกเล่มต่อๆมามันเปลี่ยนไปเยอะอยู่เหมือนกัน
กระทู้ game of throne อยู่ไหนหว่า
>>914 เปลี่ยนคนวาดราวๆเล่ม3สินะ ภาพสวยขึ้นเยอะจริงๆนั่นละ แต่เรื่องนี้กูอ่านเรื่องย่อในเด็ดดีก็ไม่อยากอ่านละ รู้สึกได้ถึงความบุฮี้โอตะเหม็นคลุ้งสุดๆ
แต่กูพูดตรงๆนะว่าถ้าภาพปกสวยมันช่วยได้จริงๆนะ อย่างน้อยมันก็เตะตาพวกเด็กๆที่ชอบตัดสินเรื่องจากปก คล้ายๆLNนั่ละที่ใช้รูปสร้างจินตนาการแทนการบรรยาย กูพูดเลยว่าเรื่องพวกนี้จะขายดีกว่านี้มากถ้ามีการวาดภาพประกอบระดับเดียวกับหน้าปกเล่มหลัง
อันนี้กูไม่ด่าว่าเพื่อนมึงวาดไม่สวยหรือว่าไร แต่มึงต้องยอมรับว่าระดับการเข้าถึง=จินตาการของคนอ่าน ซึ่งภาพสวยๆมีส่วนอย่างมาก อย่างน้อยก็สำหรับ"กลุ่มลูกค้า"ของหนังสือพวกนี้ หรือก็คือกลุ่มคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ทางการอ่านหนังสือมากพอที่จะเข้าถึงเรื่องที่มีความดีพสูงๆได้
>>924 nostalgia+reality denialมั้ง ยิ่งโตยิ่งมองอดีต(สมัยเด็กๆ)ว่างดงาม มองว่าโลกต้องสวยสดงดงามด้วยมือเรา และละเมอว่าชีวิตกูไม่ควรเป็นแบบนี้ มันถึงได้มีself insertเยอะแยะบานตะไทแบบนี้ไง
อันนี้กูพูดถึงพวกที่self insertเยอะๆนะ เพราะกูรู้สึกแบบนี้จริงๆว่าพวกนี้ชีวิตมันล้มเหลวหรือไม่เป็นดั่งใจ เลยเขียนนิยาให้ตัวเองฟินไปวันๆแทน คนอ่านก็น่าจะไกล้เคียงกันด้วยมั้ง
กุเคยสงสัยนะว่าทำไมแนวออนไลน์มันดัง ไม่น่าใช่saoเพราะกระแสมันมาก่อน หรือ เพราะกุเลยวัยหรือไม่ใช่รสนิยมทั้งๆที่กุออกจฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ด้วยซ้ำ
>>933 สงสัยกุจะเกมเมอร์จริงจังมากเกิน คือนิยายออนไลน์บางอันมึงไม่ต้องใส่ออนไลน์ก็ได้ระบบแม่งพูดถึงตอนเดียวแล้วไม่พูดถึงอีกเลย กะอีแค่ใช้เรียกเวลาเก่งขึ้นว่าเลเวลอัพหรือเรียนอะไรใหม่ๆได้สกิลใหม่ ตีมอนดรอปของ เล่นกะเพื่อนเป็นตี้ แค่นี้ก็เป็นนิยายออนไลน์ได้แล้วหรอ ถ้าอย่างนี้มันเรียกเกมก๊อปจีนแล้วเหอะ ระบบฟีเจอร์แม่ง หรือที่มันเป็นออนไลน์จะได้เขียนเว่อร์ๆเซล์ฟอินเสิร์จตัวเองเข้าไปเล่นวะไม่ต้องหาเหตุผลรองรับเพราะมันคือเกม?
ณ ตอนนี้นิยายออนไลน์ที่กุยอมรับได้คือ ล็อกโฮ อะ ส่วนไทยใครมีเรื่องดีๆพอจะแนะนำไหมกุอยากล้างอคติ
>>932 มันดังเพราะราชาแห่งราชัน มึงดูพวกออนไลน์อันแรกๆดิลอกพล็อตมาเกือบหมด กูมองว่าไอ้ออนไลน์นี้มันแต่งแบบไม่ต้องสนอะไรมากง่าย เน้นพระเอกแกรี่ก็ง่าย คงามรับผิดชอบต่อตัวละครแม่งก็ต่ำ ยังไงก็แค่เกมไม่ต้องไปคิดว่าพรุ่งนี้ตังละครจะทำมาหาแดกยังไง จะหาเงินก็ง่ายๆตีมอนเงินหล่นไอเทมหล่น ไม่ต่องคิดว่าตัวละครแม่งจะต้องทำไงให้ไม่ตายหรือตายแล้วมีผลกับเรื่องมั้ย ก็แค่เกมเดี๋ยวก็ฟื้น แล้วเหตุอีกมากมายที่ทำให้จูนิเบียว แกรี่ง่าย เรื่องก็ไหลไปเรื่อยหาจุดจบไม่เจอ
ไม่ต้องคิดมาก กูอ่านจนบรรลุสัจธรรมแล้วว่าแนวออนไลน์=นิยายแฟนตาซี
ก็เหมือนแฟนตาซีโรงเรียนที่ฮิตเมื่อก่อนแหละแล้วดีกว่าที่คิดอะไรออกก็แต่งไป เหตุผลเซ็ตติ้งไม่ต้องเยอะแบบแฟนตาซีพื้นๆ
ที่นิยมเพราะจริงๆ คนอ่านวัยรุ่นตามตัวละครว่ะ ไม่ได้ตามพล็อต ถ้าตัวละครถูกใจก็ติดแล้ว
>>934 เรื่องที่กูอ่านแล้วชอบจริงๆ ก็อาหมวยออนไลน์ ไม่ค่อยฟลุ๊ค คนเขียนเป็นผู้ใหญ่หน่อย กึ่งๆ ล้อนิยายออนไลน์ในตัว
อีกเรื่องก็รีอาลีสออนไลน์ ที่เหมือนโดนหลอก ช่วงแรกแอคชั่นมันส์ดี หลังๆ ทั้งการเมืองทั้งวิทยาศาสตร์ ก็มันส์ดี
>>936 เออ รีอาลีสออนไลน์ สำหรับกูมันก็ดีนะ ดีแน่ๆละถ้าเทียบกับนิยายออนไลน์ปกติกูให้มันอยู่เหนือกว่าสิบขั้น แต่แม่งเหมือนขาดอะไรบางอย่างไปมันเลยทำให้กูรู้สึกไม่ค่อยสุดเท่าไร อีกเรื่องของคนเขียนคนนี้กูก็รู้สึกแบบนี้วะ เหมือนขาดอะไรไปแต่ตัวเรื่องก็ยังอยู่ในขั้นดียู่
แล้วเรื่องชื่อเอาไงดีเพื่อนโม่ง ตอนตั้งขอแบบมีบอกลำดับด้วยก็ดี
กุก็ได้ยินว่าอาหมวยโอเคอยู่แต่กุยังติดอคตินิดหน่อย จำนวนเล่มนี่เยอะมาก
รีอาลีส กุเพิ่งเคยได้ยินแหะ
ส่วนตัวกูชอบมอนส์เตอร์โซลนะ พระเอกมันแกรี่นะแกรี่อยู่ แต่กูชอบพัฒนาการตัวละครวะ พอกลางๆเรื่องนี่แม่งเปลี่ยนจากพระเอกโชเน็นมาเป็นบอสใหญ่ได้ด้วย(หมายถึงนิสียนะ) แต่กูชอบนิสัยแบบนี้สุดๆเลย คือไม่ใช่ว่าขาวสะอาดหรือเลวไปเลย แต่คล้ายกับนักปกครองทีรู้จักเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาใช้เพื่อบรรลุเป้าหมาย ไม่ว่าจะถูกหรือไม่
แต่จุดที่กูชอบมากกว้าคือเรื่องคู่แข่งพระเอก บอกได้เลยว่าคนอ่านภาคแรกครึ่งต่อครึ่งตอนหลังหันมาชอบคู่แข่งพระเอก เพราะมันมีจุดยืนแน่ชัดและแทบจะตรงข้ามกับพระเอกเลย แต่ก็แกรี่ระดับหนึ่ง ถึงจะไม่เท่ากับพระเอกที่ตอนหลังๆก็มีล้อความแกรี่(โชคดี)ของมันด้วยนะ
แต่รีอาลิสนี่กูอ่านตอนแรกๆแล้วนึกว่านิยายดาษทั่วไปนะ มันมีดีขนาดนั้นเลยเหรอวะ อาหมายก็ด้วย เดี๋ยวงานหนังสือรอบนี้ลองอาหมาวยซักเล่มดีกว่า
รีอาลิสนี้กูว่าเป็นนิยายที่ดี มีวางปมและเฉลยอยู่ไม่ใช้ทิ้งดื้อๆ พวกตัวเอกใช้วิธีเล่นนานจนเก่งแทนไม่ใช้เข้าเกมเก่งเลย มีการวางระบบพอสมควรถือว่าอยู่ในเกณท์ดี(กูอ่านถึงแค่ภาคสามกลางๆจากในเว็บเท่านั้นนะ ช่วงหลังๆกูยุ่งๆไม่ได้ตาม) แต่กูว่ามันเสียตอนแรกๆที่แม่งไม่บอกห่าไรเลยให้คนอ่านงงเล่นอยู่นานโขแล้วมีส่วนงงมาเต็มไปหมด แล้วมีแบบมีช่วงย้อยอดีตหรือบางช่วงที่กูงงว่ามันโลกนี้หรือโลกจริง(บางทีอาจเพราะกูโง่เอง) เอาว่าท่าเทียบกับเรื่องอื่นกูให้อยู่ในระดับดีพอจะหามาพิจรณานะ
>>940 โอเคเพื่อนโม่ง เดี๋ยวกูไล่อ่านดู ถ้าสนุกจริงเดี๋ยวงานหนังสือจัดเต็มแน่
พูดถึงเรื่องนี้ กูชอบนโยบายของสยามที่ไม่มีการลบวะ คือสนุกก็ซื้อ บางเรื่องอ่านนิดๆแบบไม่รู้อะไรก็ต้องซื้อแล้ว กูไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่วะ
และกูมองว่ามันจะขายได้เฉพาะเล่มแรก เพราะคนซื้อมาอ่านเพราะหาอ่านไม่ได้เลยอยากอ่านมากกว่ามันสนุกจริงๆถึงซื้อ
อาหมวยกูตามอ่านแรกๆในเว็บ ก็โอเคนะ แต่ซักตอนที่ 30 กูก็ไม่ได้อ่านต่อแล้ว เขาขยันอัพดี
ลีอาลีสสนุกเหรอ กูหยุดอ่านไปตั้งแต่ต้นเพราะกูชอบงานแฟนตาซีเรื่องก่อนเขา เห็นมาแต่งออนไลน์ตามกระแสแล้วเลยรู้สึกเหมือนถูกหักหลังว่ะ
>>943 ก็ตามที่กูบอกไปละ อยู่ในขั้นดีพอพิจรณาได้ มีวางปมมีอะไรชัดเจนอยู่ แต่ส่วนแรกๆแม่งจะงง ตัวนี้คือใคร ยังไง ระบบแบบไหนวะ ตัวละครแม่งก็เทเข้ามาเต็ม เพราะเริ่มเรื่องด้วยส่วนตรงกลาง
มีตีวละครหลักหบายตัว
เอาว่าถ้ามึงชอบเรื่องก่อนมึงก็น่าจะพอชอบเรื่องนี้หละ แต่สำหรับกูคือมันขาดไรสักอย่างจนทำให้กูสนุกไม่สุดวะ
ถ้ามึงไม่อ่านเพราะคิดว่าเป็นออนไลน์ตามกระแสนี้มึงพลาดละ กูว่าคนเขียนมันตั้งใจดักคนว่าเป็นออนไลน์ว่ะ จริงๆแล้วเป็นไซไฟ
รีอาริส ติดตามอยู่ เราไม่ได้อ่านบนเวบ แต่อ่านจากในเล่มนิยายเลย ออกมา5เล่มละ เล่มแรกแรกๆ อ่านมาก็เหมือนนิยายออนไลน์ที่เขียนค่อนข้างแปลก กว่าชาวบ้านเขาหน่อยๆ มันเดินเรื่องแบบตัวละครหลายตัว กับไปเริ่มเรื่องเอากลางๆเรื่อง แต่พออ่านมาถึงเล่มห้า พบว่าสนุกสาดดด เราว่ามันไม่ใช่นิยายออนไลน์นี่หว่า มันเป็นแฟนตาซีไซไฟ ที่แต่งให้ออกมาเหมือนจะเป็นออนไลน์ชัดๆ ลองไปหาอ่านกันดูละกัน จัดเป็นนิยายอ่านสนุกที่ออกจะแปลกๆดีนะเราว่า
ชื่อกระทู้ต่อไปลอง
"แม่บ้านโม่งสายหนังสือ ครั้งที่ 2" ไหม
ล้องานหนังสือไปเลย
ที่มึงว่าเรื่องก่อนของคนเขียนรีอาลีสนี้เรื่องอะไรวะกูเห็นมันออกกับสยามเรื่องแรก
แฟนตาซีไทย...ตามแค่ของลวิตร์กับ Monster Soul
พูดถึงแฟนตาซีแต่ข้ามหัวผู้บุกเบิกไปอย่างงี้ก็แย่สิครับ
ดะไว้โร้ดน่ะ หายไปไหน
>>957 มึงนี้ก็สงสัยเรื่องหน้าม้าจังวะ คนเดียวกะตอนที่ถามว่าคุณลวิตร์มีหน้าม้าปะวะมึง
ถ้ามึงอยากรู้ว่าเป็นหน้าม้ามั้ย มึงก็ต้องลองอ่านดูถ้าเรื่องแม่งเหี้ยก็แปลว่าเป็นหน้าม้าชัวร์ แต่ถ้าไม่เหี้ยก็แปลว่าอาจเป็นหน้าม้าครึ่งต่อครึ่ง แต่ถึงเป็นงั้นก็แสดงว่ามึงเจอเรื่องทีาดีพอจะอ่านวะ
นิยายแฟนตาซีของไทยเรื่องไหนดีกูก็อยากชมบ้าง หรือมึงอยากให้มีแต่นินทา
>>959 มึงเช่าร้านเช่าไม่เกิน 10 บาท ถ้าไม่อยากเสียเงินซื้อ อ่านแล้วก็ตัดสินเอาเองว่าพวกที่อวยน่ะม้ารึเปล่า หรือมึงลองเข้าเพจเขาเด็กดวกส์หรืออะไรก็ได้ เขามีงานเขียนแปะไว้อยู่ ให้มึงตัดสินใจเอา
แต่กูไม่ใช่ม้าว่ะ เรื่องไหนดีกูอวย เรื่องไหนเหี้ยกูด่า อีนิยายวาย love sick ที่เขาฮิตๆกัน กูก็ด่าเพราะมันเหี้ยจริงๆในสายตากู มุราคามิที่คนชอบเยอะๆ กูก็ด่า โอเคนะ
มึงอย่าด่ามุราคามิกูนะ ; ; ถ้าจะด่าไปด่านพดลนู่น
มุราคามิกูก็อ่านไม่เข้าใจนะ กูพยายามแล้ว....
ถ้าหมายถึงมุราคามิแปลไทยกฟุเห็นด้วยนะเรื่องด่า
กรูคงอยู่ไม่ทันเจิมกระทู้ใหม่
ฝากเพื่อนแม่บ้านทั้งหลายคิดชื่อกระทู้ใหม่แจ่มๆด้วยนะ
มูราคามิแปลไทยของสนพ.ผีเสื้อ นี่กูพยายามอ่านให้เข้าใจแล้วนะ.. แต่กูคงไร้ความสามารถ
ไว้กูโตว่านี้ค่อยมาอ่าน..
คือเรื่องชื่อทู้ใหม่ ขอชื่อแบบที่มันดูเหมือนคนอ่านหนังสือมาเยอะหน่อยเถอะว่ะ สำบัดสำนวนเล่นคำไรงี้ ไม่ใช่ชื่อเหี้ยๆไรแบบนี้
มุราคามิเมื่อก่อนกูตามอ่านทุกเรื่องเลยนะมึง
จน 1q84 นี่ล่ะกูถึงบรรลุว่า แมร่งเหมือนกันทุกเรื่อง เหมือนเอาคนคนเดียวกัน ย้ายห้องอยู่ แล้วก็โม้เรื่องเดิมไปเรื่อยๆ 4-5ร้อยหน้า
ที่กูเซงที่สุดคือ เดนซ์ เดนซ์ เดนซ์ มึงจบที่แกะรอยแกะดาวก็ดีแล้ว เป็น 5ร้อยกว่าหน้าที่กากสัสๆ
งานชุมนุมแม่บ้านโม่งสายหนังสือ ครั้งที่ 2
โม่ง read @ book club ครั้งที่ II นะจ๊ะ แบบซาวาโนะโค้ดในห้องอนิเม
เมื่อกระดาษบอกเล่าตัวอักษร โม่งทั้งผองก็พร้อมจะนั่งฝอย
กูว่ามุราคามิคนแปลทำเสียนะเนี่ย
ไอ้ดอกปอบนี่มันเป็นที่รักของโม่งจริงๆ โผล่ไปทุกกระทู้ที่พูดเรื่องหนังสือ
ถึงทุกโม่งที่คอยดิสเครดิต ดร.ป๊อป
ถ้าพวกคุณคอยทำลายชื่อเสียง ผมก็จะคอยกู้มันกลับมา
สำหรับผม ดะไว้โร้ดคือหลักบัญญัติ 10 ประการในการดำเนินชีวิตสมดั่งชื่อของมัน
และดร.ป๊อป สำหรับผม ผมยกให้เป็นศ.ดร.ป๊อบ ได้เลย โดยไม่ต้องจบโทมาก่อน
เรื่องชื่อเอาไรจะครบแล้วนะมึง แต่กูขอไมเอาดอปอปขึ้นหัวมู้ มันช่างรำคาญสายตากู
ดอกปอบนิยายห่วย แต่งตัวแย่ ทรงผมจูนิเบียว(ย้อมปอยผมฟ้าเข้ม) เตี้ยในหมู่ชายอีก(เตี้ยกว่า 165)
ใครเอาอีป็อบขึ้นหัวกระทู้ กูจะแช่งให้มันขี้ไม่ออกจนกว่ากระทู้นั้นจะครบ 1000
ถ้านิ้วกลมออกหนังสือกับดร.ป๊อบคงลุ้นระทึกดีนะกูว่า
จะตั้งใหม่ยังมึงกูจะได้สแปมละ
คลุมโม่งบุ๊คคลับ vol.2 Nonsense and Nonsensibility
มากูแสปมให้ ไอ้ดอกปอบไปตายซะมึง
เชี่ย อย่าเอากากปอปมาส่งท้ายได้ไหมวะ
ขอให้กูถูกหวย กูจะไปถล่มงานหนังสือ ยู้ฮู
เอ้าเชี่ย กูลืมเอาขุดออก กูขอโทษ
ไหนๆก็ไหนๆแล้วกูแสปมให้ครบเลยละกัน
>999
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.