>>110 เอาเลยเพื่อนโม่ง ตอนนี้โม่งกูก็ปลิวหมดแล้วแหละ โชคดีวันนี้กูไม่ได้นินทาใคร..
อันที่จริงมันก็มีเทรนด์หลายอย่างนะที่มาพร้อมราคา คือถ้ามีเงินก็ซื้อได้ จักรยาน กล้อง แต่คนที่ชอบมันจริงๆไม่ใช่แค่เพราะว่ามันแนวก็มีแค่ครึ่งครึ่งน่ะกูว่า พูดแล้วก็นึกถึงตอนที่กระแสอูคูเลเล่มา ตอนนี้เป็นไง เหลือเปิดอยู่ไม่กี่ร้านเนี่ย
สิ่งหนึ่งที่อะเดย์หรืออะบุ๊คไม่ได้สอนให้วัยรุ่นก็คือความทุ่มเท มีแต่ความคิดที่ว่า อ๊ะหกสิบบาทซื้ออะเดย์กูแนวแล้ว(มันยังหกสิบบาทอยู่ใช่ไหมวะ หรือโฆษณาหนาขึ้นด้วยราคาแพงขึ้นด้วย) หรือ อ๊ะซื้อนิ้วกลมหน้านึงสามบรรทัดอ่านป้าบๆจบอ่านหนังสือจบแล้วได้คติการใช้ชีวิตด้วยคูลด้วย ใครมันจะมานั่งทุ่มเทอ่านนิ้วกลมไปวิเคราะห์ไป เพราะวิเคราะห์ไปก็คงไม่ได้ไรนอกจากตาสว่างปาทิ้ง /กูไม่ได้รังเกียจนิ้วกลมขนาดนั้นจริงๆนะ
อีกสิ่งหนึ่งก็คือการลดทอนคุณค่า การอ่านหนังสือมันไม่ควรเป็นการพยายามทำให้ตัวเองคูล แต่มันควรเป็นการอ่านเอาคุณค่าที่อยู่ในเล่มมากกว่า เช่นถ้าถามว่าทำไมกูถึงอ่านโธมัสมันน์ อ่านยากเหี้ยๆแถมอ่านไปไม่ได้ตังค์ กูไม่ได้อ่านเพราะคนอ่านน้อยอ่านแล้วมันคูล แต่กูอ่านเพราะต้องการรู้ว่าในเล่มนี้มีคุณค่าอะไรบ้าง ถ้าวันนึงกระแสที่อะบุ๊คขีดเส้นลากให้วัยรุ่นคือ "ซื้อเล่มนี้สิ อ่านแล้วคูล ถือเดินเฉยๆก็เฟี้ยวแล้ว" และมันลามมาถึงวรรณกรรมพวกนี้ กูก็คงเศร้าว่ะ..
เออ จริงๆต้นไม้กินแมลงของกูก็แนว แนวกรมป่าไม้.. /กอดต้นไม้เดินเข้าป่า