>>443 ก็แล้วมันยังไงล่ะ?? งานแต่งเขาแต่งชุดไรมันก็เรื่องของเขา มันความพอใจของเขา ในขณะที่เขาครองรักกันแต่แล้วก็มีใครก็ไม่รู้ไปตัดสินตีความตัดสินว่าเขาต้องเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ตามความคิดของตนเพียงแค่เพราะชุดคอสตูม ดราม่าปัญญาอ่อนไร้ความคิดและตรรกะเหตุผลแบบนี้กุไม่อ่านให้มันเปลืองที่ในสมองหรอก
แล้วเรื่องเพลงอ่ะพอดีเขาทำเพลง สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆออกมาด้วยนัยยะด้วยการอุปมาอุปไม เขาไม่ได้มาเล่าวรรณคดีมึงให้ฟัง แล้วเนื้อแท้จริงๆเขาต้องการสื่ออะไรมึงยังไม่รู้ซ้ำเลย เพราะมึงมัวแต่โฟกัสความเป็นวรรณคดีที่แท้ทรูไง มึงถึงไม่เข้าใจความเป็นศิลปะของการเล่าเรื่องว่าแท้จริงเขาต้องการสื่ออะไร พวกสายทรูยึดติดแบบพวกมึงอ่ะกุไม่เห็นว่าแม่งจะเจริญก้าวหน้าไปไหนเลย เห็นก็ย่ำอยู่กับที่อยู่กับสิ่งที่คิดว่าทรูต่อไปนั่นแหละ อยู่แต่ในกะลาใบเดิมๆ แพ้ภัยตัวเองอยู่อย่างนั้นแหละ ในขณะคนที่เขารู้จักคิดประยุกต์ เขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว มึงจะชอบอย่างนั้นมันก็เรื่องมึงเถอะ แต่อยากฝากสำนวนไทยไว้ซักหนึ่งสำนวน “อย่าละเลงขนมเบื้องด้วยปาก”