>>423 มึงฟังก่อนนะ กุว่ามึงดูอะไรผิดไป ตอนนี้มึงเห็นแค่ตัวเลขมันมากกว่ามึงเลยคิดว่าสิ่งนั้นต้องสำคัญมากกว่า ซึ่งนั่นไม่ใช่คำตอบ คือกุบอกแล้วว่าให้มองภาพรวม คือมึงก็เห็นว่าเขา แบ่งทุกอย่างเป็น 20 เท่ากันหมด ซึ่งมันก็ใช่ตามที่กุบอกทุกอย่างมันสำคัญหมด แต่ในแต่ละหัวข้อเขาก็จะแบ่งเป็นข้อปลีกย่อยอีก อะไรก็ว่าไป แล้วแบ่งเลขให้มันหาร 20 ได้ลงตัว แต่มันไม่ได้หมายความว่าเลขน้อยมันจะแปลว่าสิ่งนั้นจะสำคัญน้อยกว่าตัวที่หารได้เลขมากกว่าในหมวดหมู่อื่น มันคือบัญญัตยางค์อ่ะรู้จักมั้ย เทียบเอาสิใช้ common sense อ่ะง่ายๆ คืออย่างไอ้เรื่องเสียงร้องอ่ะมึงเห็นมั้ย คือที่ 4 อย่างนั้นมันคือเรื่องเดียวกันไงเข้าใจมั้ย คือกุรู้ว่ามึงคือสายร้องต้องการอยากให้ร้องเด่นๆ แต่มึงเข้าใจมั้ยว่างานมันจะออกมาดีไม่ดีตัวแปรมันไม่ได้มีแค่มึงเป็นส่วนใหญ่ไง แต่ละคนมันก็มีบทบาทหน้าที่สำคัญเหมือนกัน ไม่ว่าจะเบื้องหน้าเบื้องหลัง
แล้วเรื่องคะแนนภาพรวมอ่ะ กุว่ามันเป็นเกณฑ์ที่รัดกุมนะเพราะเขาเผื่อตรงนี้ไว้ไม่ได้มองอะไรแค่มุมมองเดียว แล้วมึงรู้มั้ยว่าทำไมมันถึงมี แล้วมีไว้ทำไม มันคือตัวที่บ่งบอกไงล่ะว่า production ของทีมมึงนั้นไปรอดหรือประสบความสำเร็จหรือไม่เมื่ออยุ่ในสายตาคนทั่วไป เห็นได้จากที่เขาเอากรรมการจากทุกฝ่ายมาตัดสินร่วมกัน พูดง่ายๆคืองานมึงจะขายได้หรือไม่ ไปรอดหรือไม่นั่นแหละ อย่างที่กุบอกนั่นแหละ เรื่องฝ่ายต่างๆถ้ามันมีปัญหา เขาก็ไปตัดสินกันในฝ่ายๆต่างกันไป ซึ่งสำหรับการทำงานราวมกันมันไม่มีอะไรเพอร์เฟคอยู่แล้ว ต่อให้เป็นงานระดับมืออาชีพก็ตาม มันมีปัญหาตลอดแหละ แต่จะมากน้อยยังไงก็อีกเรื่อง ซึ่งไอ้คะแนนภาพรวมนี่แหละมันคือสิ่งที่เอาไว้บ่งบอกว่าทีมมึงสามารถจัดการในส่วนตรงนี้ให้มันไปตลอดรอดฝั่งจนภาพรวมออกมาดี หรือจัดการไม่ได้ก็ส่งผลต่อทำให้ภาพรวมมันแย่ มันคือคะแนนในฐานะผู้ชมคนทั่วไปไง คืออย่างที่กุบอกว่าคนส่วนใหญ่เขามองภาพรวม เขาจะมารู้มั้ยว่าระหว่างการทำงานพวกจะดราม่าตบตีกันตายแต่ถ้าภาพรวมมันออกมาดีก็จบ หรือว่าใครจะมาสนว่ามึงจะใช้ไมค์ตัวละสองแสนอัดร้องออกมาเสียงโคตรดีเหี้ยๆ แต่พอมองภาพรวมแล้วไม่ดีก็จบ