>>276 มึงลองอ่านบทสัมภาษณ์ของปู่แกนะ
What my friends and I have been trying to do since the 1970's is to try and quiet things down a little bit; don't just bombard them with noise and distraction. And to follow the path of children's emotions and feelings as we make a film. If you stay true to joy and astonishment and empathy you don't have to have violence and you don't have to have action. They'll follow you. This is our principle."
- Miyazaki Hayao
แสดงความคิดที่ต่ำตมมาก แก่แล้วแก่เลยไม่คิดจะพัฒนาอะไร ในยุคนี้กูแปลกใจจริงๆที่มีคนทำอนิเมชั่นออกมาพูดว่าฉากแอคชั่นไม่จำเป็น
ไปดูรายได้แล้วมึงจะไม่แปลกใจเลยที่คางูยะขาดทุนไปเกือบครึ่ง มันเกิดเพราะเอาไอ้ขี้แพ้ยุคสงครามโลกมาทำหนังอนิเมชั่นขายเด็กแต่เสือกทำออกมาอย่างน่าเบื่อ ลองเทียบกับแชมป์ออสก้าร์ปีนั้นคางูยะสู้Big Hero 6 ไม่ได้เลยซักเรื่อง ดูเอาสนุกก็น่าเบื่อสู้BH6ไม่ได้ ดูเอาสาระคางูยะก็ไม่ได้มีสาระอะไรมากมายแค่เอานิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นมาเล่า สาระBH6 ความพยายาม ไม่สิ้นหวัง มิตรภาพ เหนือกว่าคางูยะเยอะ
เอาไปเทียบกับโฟลเซ่นเนื้อหาของโฟลเซ่นก็ดีกว่า แค่ฉากสุดท้ายที่ทีมงานแหกขนบดิสนี่ย์ที่ต้องจบด้วยเจ้าชายก็กินขาดคางูยะทั้งเรื่องแล้ว
คางูยะมีเหี้ยอะไรให้หาสาระได้บ้าง นอกจากภาพสวย วาดมือ แล้วสาระตรงอื่นสู้โฟลเซ่นได้มั้ย ประเด็นพ่อแม่โลภเอาคางูยะเข้าวังแค่เนี่ย?? ประเด็นเพศชายเป็นใหญ่เสนอผ่านจักรดิพรรดิขี้เงี่ยนแค่เนี้ย???
อยู่ในยุคปัจจุบันแต่เอาความคิดเก่าๆดักดานมาใช้ในการทำงานผลคือขายได้แค่สาวกในกะลาแคบๆ แทนที่จะสร้างแฟนคลับได้ทั่วโลกเหมือนดิสนี่ย์