ว่าแล้วต้องมาลงโม่ง อธิบายให้อ่าน ยาวๆนี่แหละ 555
1. ไม่มีการพูดถึงค่าตัว ไม่ว่าจะทางงานเสนอ หรือเราขอ ตั้งแต่ชวนครั้งแรก พอใกล้วันงานแล้วก็เลยถามเรื่องค่าใช้จ่ายเกสว่ามีอะไรบ้าง พูดถึงแค่ ค่ารถ ค่าข้าว ไม่มีค่าตัว เลยมีการพูดคุยกัน เราถึงอธิบายเสริม ว่าการเชิญเกสมาน่ะ ควรมีนะ ราคาเรทเราปกติเท่านี้นะ ถ้าค่าตัวต่างหากเกสเอาของไปขายเองนะ ถ้าพิมพ์ของให้ หักกำไรเป็นค่าเหนื่อยนะ ส่วนนึงหักให้งานนะ ...เราเสนอหนทางที่จะสร้างรายได้จากตรงนี้ได้บ้าง ไม่ใช่ ให้เราไปฟรีๆ จะหักกำไรจากการลงทุนร่วมกันก็ได้ เพราะตอนไปงานที่ต่างประเทศ เขามีวิธีจัดการที่เข้าท่า ทำได้ดี เราเลยเอามาเสนอ
มันเป็นแค่การพูดคุยเท่านั้น ทางเราไม่ได้บังคับให้จ่าย ไม่จ่ายไม่ไป ไม่ใช่แบบนั้น
2. สุดท้ายทางงานบอกว่าไม่สามารถช่วยลงทุนของขายได้จริงๆ เปลี่ยนค่าเหนื่อยเป็นของที่ระลึกจากงานได้มั้ย แล้วเราก็โอเค ปรึกษาเกสต์คนอื่น สุดท้ายเราก็ทำตามพี่ๆเค้า คือไม่เอาค่าตัวก็ได้ ไปสนุกพอ แต่เหมือนมีสตาฟบางส่วนไม่รู้ สุดท้ายก็เหมือนสตาฟเข้าใจผิดกันเองว่ามีแค่เราคนเดียวที่เอาค่าตัว จึงอยากตัดงบตรงนี้ (มีสตาฟอีกคนข้อความมาคุยว่าจะให้เราเป็นเซอร์แทน เพราะงานไม่มีงบเกสแล้ว) อย่างที่พูดไป
แต่ที่เราโกรธคือการตอบคำถามกับสตาฟคนใหม่ที่มาคุยให้เราเป็นเซอร์แทน โดยที่เราได้คำตอบมาแบบไม่ชัดเจน
เราอยากรู้ว่าถอดเกสใครบ้าง จะลดจำนวนเกสลงเนี่ย เหลือกี่คน หรือไม่มีเลย? คำตอบคือ มีเกสค่ะ แต่ไม่แน่นอน ต้องคุยอีกที(เราก็งงว่า ตัดงบเกสนี่อาจจะเหลือคนเดียวมั้ง แต่ทำไมมาถอดเราที่ชวนคนแรกออกล่ะ ก็เฉยๆไป) เราก็เลยโอเคให้เขาไปคุยกันก่อน สุดท้ายเราไม่ได้คำตอบนะ รอทั้งวันเลย ...
แต่ค่ำวันต่อมาคือโพสภาพให้ทายเกสเลย โดยไม่สรุปให้เราเข้าใจ ไม่อธิบายว่าทำไมต้องเหลือเกส 3 คน
โดยโพสแรกดันโพสภาพที่มีเราไปด้วย มันหน้าชามากจริงๆนะ ที่โพสต่อมาเกสเหลือครบยกเว้นเรา
ความรับผิดชอบต่อการยกเลิกคำเชิญ ด้วย 1 sp มันไม่คุ้มกับการที่เราลงทุนไปหรอก เรามองว่าเป็นการปัดความรับผิดชอบมากกว่า
ถ้ายังต้องไปนั่งมองเกสคนอื่นอยู่ ตรงนี้ต้องใจเขาใจเรานะ จู่ๆโดนยกเลิกใกล้งาน เราจะเสียหน้าแค่ไหน งานในไทยแท้ๆเนี่ย มันควรคุยได้ มันควรคุยกันง่ายด้วยซ้ำไป
3. ตอนนี้ เข้าใจกันแล้ว เป็นเกสเหมือนเดิม แต่คงต้องคุยกับสตาฟอีกหลังงาน ให้เข้าใจกันจริงๆ ด้วยตัวสตาฟเองเด็กกว่าและไม่กล้าที่จะพูดกับเราเท่าไหร่ ยังคงต้องแนะนำและพูดคุยกันไป
ไม่มีอะไรร้ายแรงหรือลึกไปกว่านี้แล้วล่ะ เพราะเราก็อธิบายในส่วนของเราไปแล้ว ส่วนทางงานนั้นเราเองก็ไม่ได้ถาม ปล่อยให้สตาฟเคลียร์กันเอง ให้รู้เรื่อง แล้วมาบอกเรา..
แล้วหลังจากนั้นไม่นาน สตาฟก็มาบอกว่า ยังอยากเชิญให้เป็นเกสเหมือนเดิมและกล่าวขอโทษแล้ว
ที่เราอธิบายเรื่องความคิดลบๆ นั่นคือมันการพูดถึงความคิดวูบนึงเท่านั้น เราอธิบายมู้ดของเราเป็นขั้นๆไป พิมพ์ทิ้งในเม้นให้ตัวเองใจเย็น
ไม่คาใจอะไรแล้วในตัวบุคคล
นี้เป็นครั้งแรกที่มาพิมพ์ลงโม่งเลย ขอให้เข้าใจเราด้วยนะ