เดินขึ้นสถานีอีกด้านก็ได้มึง ออกมาเลี้ยวขวาเลยสถานีไปมีอีกทางนึงคนน้อย
ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์ มาซัก 4-5 โมงกำลังดี ถ้าบ้านไม่ไกลมาหลังหกโมงก็ได้
Last posted
Total of 1000 posts
เดินขึ้นสถานีอีกด้านก็ได้มึง ออกมาเลี้ยวขวาเลยสถานีไปมีอีกทางนึงคนน้อย
ถ้าวันเสาร์-อาทิตย์ มาซัก 4-5 โมงกำลังดี ถ้าบ้านไม่ไกลมาหลังหกโมงก็ได้
ขอบ่นหน่อย ฮึ งานครั้งนี้รักพิมพ์ก็มีโปรซื้อพันห้า เเลกปลอกหมอนได้เหมือนเดิมสินะ ตอนรอบเเรกกูเห็นเพื่อนที่ได้ทำงานในนั้นมันถ่ายรูปปลอกหมอนเรื่องนับสิบมาอวดก็อิจฉา เเต่ปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยกูก็ไม่หลงกลการตลาดล่ะวะ เหอๆ ลายก็ไม่ได้พิเศษอะไร เเค่รูปหน้าปกเล่มหนึ่ง (รอบนี้ปกเล่มสอง) สู้กูไปหาของเเท้จากญี่ปุ่นหรือเอาเงินนั่นไปเลือกลายมาทำเองยังดีซะกว่า เรื่องคุณภาพผ้ากูขอไม่พูดเพราะดูไม่เป็น เเต่เพื่อนคนนี้นี่ก็เเม่งเอาเเต่ถ่ายของโปรที่ได้ฟรี ได้คอสเพื่อขายของที่บูธ บลาๆอยู่นั่นล่ะ ยิ่งช่วงงานหนังสือนี่อวดใหญ่เชียว หมั่นไส้ชิบ...
กูรู้สึกว่าเหมือนยิ่งโตก็ยิ่งมองสนพ.ในด้านธุรกิจมากขึ้นว่ะ เเบบสมัยเด็ก อุ๊ย เค้าเเถมนี่ มีโปรนั่น ชั้นต้องได้ ชั้นต้องซื้อ ทุ่มเท่าไหร่ก็ยอม เดินในงานหนังสืออย่างตื่นตาตื่นใจมาก มาตอนนี้มองด้วยหางตา หึ เเค่นี้หลอกดูดตังค์ชั้นไม่ได้หรอกไรงี้ว่ะ เดินในงานทีมีเเต่สมเพชพวกเห่อหมอยที่โดนหลอกด้วยโปรโมชั่น 5555
>>149 กูเข้าใจนะว่าเพื่อนมึงน่าหมั่นไส้เป็นกูกูก็หมั่น แต่สรุปจากที่พิมพ์มาคือมึงก็แค่อิจฉาด้วยน่ะแหละจบ
แต่แถมปลอกหมอนนี่กูเฉยมาก คือกูเป็นพวกประเภทเฉยเมยกับของที่เอามาไม่ได้ใช้ประโยชน์มาก
ถ้าสมมติ(สมมตินะ) ออกโปรมาแบบแถมพวงกุญแจ แถมกระเป๋าไรงี้กูว่าค่อยน่าตื่นตาตื่นใจหน่อย
อย่างน้อยๆมันยังพอเอาไปใช้อะไรได้บ้าง ปลอกหมอนนี่ใช้กันจริงดิ 55555
เปลี่ยนเรื่องๆ ว่าเเต่สรุปรักพิมพ์ก็กลืนน้ำลายตัวเองว่าจะไม่เอาบางเล่มไปขายในงานสินะ กูจำได้ว่าเห็นในเพจบอกอยู่ พอไปงานละงง วางอยู่บนชั้นซะงั้นน่ะ
กูสะเทือนใจ แม่ทัพกูหมดแล้ว ซื้อไม่ทัน.........
ไม่รู้ทำไม เดี๋ยวนี้กูรู้สึกไปงานหนังสือเเล้วไม่สนุกเหมือนตอนเด็กเลยว่ะ เมื่อก่อนตั้งหน้าตั้งตารอคอยมาก เดี๋ยวนี้รีบเดิน รีบซื้อ เเล้วก็กลับ จบ
คนมันเยอะ ขากลับก็แน่น เหนื่อยชิบหาย นักเขียนออกหนังสือนั่นนี่ก็ไม่ค่อยน่าสนใจ
พูดถึงงานหนังสือ กรุยังรู้สึกผิดแปลกๆวะ คือปีที่แล้วกรุซื้อนิยายเรื่องหนึ่ง แล้วคนเขียนมาแจกลายเซ็นต์ เขาเลยทักว่าจะเซ็นต์มั้ย (มีย้ำด้วยจะเซ็นต์ไหม คนแต่งอยู่นะ) แต่กรุบอกว่าไม่เอา เพราะตอนนั้นกรุเหนื่อยมากจากการเดินไปที่อื่นก่อน คนแม่งรุมเบียดหน้าแผงกัน อยากกลับบ้านใจจะขาดเพราะเป็นบูธสุดท้ายล่ะ แถมกรุไม่ชอบอะไรมาเขียนขีดในหนังสือ พอกรุเล่าให้เพื่อนว่าเจอแบบนี้ๆ เพื่อนกรุก็แซวแหละว่ากรุใจร้าย เล่นเอากรุเฟลเลย
แต่อีกเรื่องหลังจากเหตุการณ์นั้นแหละ พอออกมากรุก็เจอคุณป้าอวยหนังสือลูกชายตัวเองแล้วถามว่าซื้อเรื่องนี้ยัง มีแจกลายเซนต์นะ กรุเลยได้แค่ยิ้มอ่อน ด้วยเหตุผลข้างบน แต่ในใจกรุกลับชอบคุณป้านะ น่ารักดี 555555555
เป็นกูกูก็ไม่เอานะ ไม่ชอบให้มีอะไรมาขีดเขียนในหนังสือเหมือนกัน อีกอย่างคนเซ็นแม่งก็เซ็นไปงั้นๆ เหมือนเครื่องจักร มันก็ไม่ได้สนใจอะไรเราซักหน่อย
เออ กูสงสัยว่ะ เขียนยังไงให้พอดีวะ ประมาณว่าตัวละครนึงเป็นหมอ ควรจะเขียนยังไงไม่ให้ดูมันว่างงาน วันๆไม่ทำอะไรเลย หรือถ้าเขียนละเอียดมากไปก็กลัวจะกลายเป็นหนังสือเรียนซะก่อน 555
>>166 ทุกครั้งที่มีคนมาหาหรือกล่าวถึงให้บรรยายว่าเขาทำงานอะไรอยู่
ขณะที่ผมกำลังตรวจคนไข้อยู่ พี่Aที่เป็นพยาบาลประจำวอร์ดเดินมาบอกว่ามีตำรวจมาขอพบ ผมได้ยินดังนั้นจึงบอกกับคนไข้ว่า"อาการไม่น่าเป็นห่วงนะครับ แค่เป็น****** เดี๋ยวหมอให้ยาไปทานแล้วพักผ่อนมากๆ นะครับ" จากนั้นจึงให้พยาบาลพาตำรวจไปที่ห้องพักด้านข้าง
ในระหว่างนั้นตำรวจที่รออยู่ได้สอบถามพยาบาลว่าคุณหมอทำงานวันไหนบ้าง ถนัดทางด้านไหน พยาบาลBเลยเล่าว่าคุณหมอมีเวรทุกวันนี้ถึงวันนี้ ตั้งแต่เวลานี้ถึงเวลานี้ ถนัดอะไรๆ และล่าสุดก็พึ่งผ่าตัดโน่นนี่นั่นไปก็ได้
สรุปง่ายๆ คือให้ฉากกับบทพูดอ้อมๆ บอกว่าเขาเป็นยังไง จะบอกตรงๆ ว่าหมอขยันทำงานหรือเก่งยังไงก็ได้ แต่มึงต้องเพิ่มฉากที่หมอทำงานหรือทำอะไรเก่งๆ เข้าไปเป็นพักๆ โดยไม่บอกตรงๆ ด้วย เพื่อให้คนอ่านรับรู้ว่าเป็นแบบนี้จริงๆ ถ้าอยากให้หมอดูเหมือนทำงาน ก็ให้ฉากส่วนใหญ่ที่พบหมออยู่ที่รพ.ก็พอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าทำงานโดยไม่ต้องบอกว่าทำงาน
ขอบใจพวกมึง มีอะไรก็เพิ่มได้นะ
โม่งมี่ว่าแม่ทัพออนท็อปหมดอ่ะ เขาไม่มีเติมเหรอวะ มันมีทั้งบ็อกทั้งแยกเล่มไม่ใช่ ?
>>171 เขาพิมพ์เป็นล็อตให้วางขายทันงานมั่ง พิมพ์แรกก็ 2000-3000 ชุด
เพราะช่วงงานหนังสือ คิวโรงพิมพ์แน่นสุดๆ มีไม่รู้กี่สิบเรื่องรอพิมพ์ให้ทันอยู่เหมือนกัน
พอดี...กูเห็นเรื่องกลาโหมยอดรัก ก็แบบนี้จองในเว็บเด็กดีไปซะ 1000 กว่าเล่ม มีมาขายในงานไม่กี่ร้อยเล่ม
รอพิมพ์ล็อตใหม่หลังงานกันอีก
นิ้วกลมทำไมคนด่าว่านิ้วกลวงอะ ไปห้องนินทาแล้วเขาบอกให้มาถามในนี้
จากผลสำรวจเค้าว่าคนอ่านนิยาย 80% เป็นผู้หญิง...กูเชื่อแล้ว
พอดีกูตามนิยายแฟนตาซีที่เขียนลงเว็บเด็กดีเพิ่งพิมพ์ออกมาได้เล่มที่ 1 (กับสนพใหม่) ที่เปิดตัวขายในงานหนังสือนี้
คนเขียนมาแนวเด็กผู้ชายที่ได้ไปเกิดใหม่ คนเขียนมีแท็กฮาเรมไว้
แต่โดนคอมเมนต์ตลอดจากคนอ่าน(ผู้หญิง)ว่าห้ามฮาเรม สุดท้ายต้องยอมเอาแท็กฮาเรมออก
555+ พลังกดดันสุดยอด
>>175 กูรู้เลยมึงว่าเรื่องอะไร กูก็ตามอยู่ 555 กูเป็นผู้หญิงนะ แต่สำหรับกูจะฮาเร็มอะไรก็ตามใจนักแต่งนั่นแหละดีสุดว่ะ ถึงเอาแท็กออกยังไงมันก็ไม่ได้เปลี่ยนเนื้อเรื่องกับพล็อตอยู่แล้ว แถมเรื่องนี้แม่งปูมาแต่ต้นเรื่องว่า พระเอกดี้ด๊าเหลือเกินที่รู้ว่าโลกนี้มีภรรเมียได้หลายคน ... กูว่า แม่งเปิดมาขนาดนั้น สุดท้ายยังไงก็ไม่พ้นฮาเร็มอยู่ดีละวะ
>>179 คนแต่งตอนแรก กูว่าคงไม่คาดคิดว่าจะมีคนอ่านมากจนเรื่องได้ตีพิมพ์ในเวลาไม่นาน
เนื้อเรื่องคงต่างจากตอนแรกที่ตั้งใจแต่ง กูอ่านมาตั้งแต่แฟนคลับมีไม่ถึง 100 คน จนตอนนี้ 5000กว่าๆ
แถมช่วงหลังลงตอนใหม่ช้าลงเรื่อยๆต่างจากช่วงแรก ส่วนเนื้อเรื่องล่าสุดยังเห็นตัวเอกไม่สนใครสักคนเลยวะ 555
ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกตอ่านไม่รู้เรื่องว่ะ ภาษาบรรยายเวิ้อเว้อมาก Fate diary ยังสนุกกว่า
อยากได้นิยายที่ลึกลับ เย้ายวนกามารมณ์หน่อยๆ แต่ไม่มีฉากเย็ดโจ่งแจ้งเป็นกิจลักษณะ อารมณ์หนังสือมันแบบ เหมือนมึงเห็นสีแดงหยดลงไปในน้ำแล้วมันแผ่ขยายออกไปเป็นเส้นๆ มันสวย มันลึกลับ มันเคลื่อนไหว มันตัดกับสีของพื้นหลังหรือน้ำ เหมือนได้เห็นปลากัด ให้ฟีลประมาณนั้นอะ กูเคยอ่านแม่เบี้ยนะ แต่มันยังไม่เย้ายวนพอยังไงไม่รุ แถมเมขลากับพระเอกมันน่าตบชิบหาย
>>181 อ่านจบยังอ่ะ ถ้าจบแล้วกูอยากได้รีวิว 55555555555
คืออ่านรีวิวที่นักเขียนด้วยกันเองรีวิวก็บอกว่าดีงาม ไพเราะ เนื้อหาลึกซึ้ง(แม้แต่ภาษาที่พวกแม่งใช้รีวิวกันยังเวิ่นเลย)
กูอยากได้รีวิวจากคนธรรมดามาก ว่าแบบเออเนื้อหาก็ดีแหละ แต่ บลาๆๆๆอะไรก็ว่าไป
อยากได้จากมุมมองคนธรรมดา มากกว่าจากนักเขียน โดยเฉพาะจากพวกที่ได้เข้าชิงซีไรต์ด้วยกันแม่งออกมาอวย
เพราะซีไรต์แม่งไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นนิยายดีเลย
แต่นิยายไทยกูจะมองจากซีไรต์ไว้ก่อนเหมือนกันนะว่ามันคงมีอะไรดีๆบ้าง แต่ไม่ใช่ว่าได้มาแล้วดีทุกเล่มอ่ะนะ
ซีไรต์นี่นิยายอ่านยากเหรอวะ
มีโม่งคนไหนอ่านโคโคโระ ของโซเซกิมั่ง มาคุยกับกูหน่อย
>>188 กูเพิ่งอ่านจบ กูอดคิดไม่ได้ว่ะว่าไอ้วาตาชิกับเซนเซย์แม่งดูโฮโมกันชะมัด (อย่าเพิ่งไล่กูไปห้องฟุ) แต่บทสุดท้ายนี่แม่งยาวเหยียดแต่ก็ละเอียดโคตรๆ กูเข้าใจเลยทำไมเซนเซย์โคตรจะคอนฟลิค กูอดคิดไม่ได้เหมือนกันว่าถ้าวาตาขิไม่รู้จักเซนเซย์หรือวาตาชิยังอยู่โตเกียวอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้
เมียญี่ปุ่นเป็นได้ 3 อย่าง 1)ถังแยม 2)แม่บ้าน 3)คนเลี้ยงลูก มากกว่านี้คือนอกรีด ก่อนแต่งเป็นอะไรไม่สำคัญ ต่อหน้าผัวเป็นได้แค่นี้พอ สมัยนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ทัศนคตินี้ก็ยังไม่หายไปไหนนะ
สาวญี่ปุ่นที่ทำงานเก่งๆ แต่พอแต่งงานก็ต้องลาออกไปเลี้ยงลูกใช่มะ
มีหนังสือซีรีย์ไหนบรรยายอาหารได้ชวนหิวเหมือนasoiaf(Game of Throne)ของลุงจอร์จ มาร์ตินบ้างไหม อ่านทีไรหิวสัส
“The beer was brown, the bread black, the stew a creamy white. She served it in a trencher hollowed out of a stale loaf. It was thick with leeks, carrots, barley, and turnips white and yellow, along with clams and chunks of cod and crabmeat, swimming in a stock of heavy cream and butter. It was the sort of stew that warmed a man right down to his bones, just the thing for a wet, cold night...”
>>185-186 สำหรับกูนะ
อ่านง่าย - ประชาธิปไตยบนเส้นขนาน เจ้าหงิญ ความสุขของกะทิ เราหลงลืมอะไรบางอย่าง ไม่มีหญิงสาวในบทกวี อมตะ ซอยเดียวกัน
ตลิ่งสูงซุงหนักนี่ภาษาธรรมดามากจนกูงงว่าได้ซีไรต์ได้ไงวะ ทั้งเรื่องไม่มีเหี้ยอะไรเลยนอกจากคนกับช้าง แม่เบี้ย(คู่ชิงในปีนั้น)สนุกกว่าบทบรรยายดีกว่า สงสัยปีนั้นกรรมการเน้นความเรียบง่ายมั้ง
ส่วนซีไรต์ที่กูอ่านไม่รู้เรื่องบรรยายงงๆแถมเวิ้นเว้อก็ คนแคระ กับไส้เดือน
มีใครอ่านปรุงรักมัดใจกับเเม่ทัพอยู่บนยัง 2เรื่องนี้โอเคที่จะเก็บไหมวะ กูไปยืนอ่านปกหลังแล้วถูกจริตแต่กลัวซื้อมาแล้วผิดหวังวะ
รางวัลพวกนี้ส่วนนึงที่เค้าให้คงเพราะความแปลกใหม่หรือความกล้าด้วย เพราะถ้าให้อะไรแต่ง่ายๆเดิมๆ วงการมันจะไม่พัฒนาและย่ำอยู่กับที่
กะทิมันเหมือนลูกคนรวยว่างจัดเลยไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยลองมีความทุกข์เล่นๆไปงั้นล่ะ หาดราม่าให้ชีวิต
กูเห็นด้วยว่าคนแคระอ่านไม่รู้เรื่อง ไม่รู้กูเด็กไปหรือเรื่องแม่งเขียนไม่รู้เรื่อง
กูพยายามหาบทความอธิบายก็ยังงงๆ 5555555555
ไม่พีคอ่ะ หวังไว้เยอะ ส่วนไส้เดือนนี่คงไม่อ่านและ
ส่วนกะทินี่ เอาจริงๆอาจารย์กูเคยบอกด้วยซ้ำว่าไม่เห็นสมควรได้ซีไรต์เลย ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีแต่ไม่เห็นว่าควรจะได้รางวัล กูนี่ขำหนักมาก
กะทิแม่งเป็นตัวแทนของคนชนชั้นกลางดัดจริต ที่บอกว่าชุมชนห่างไกลเมืองสงบเงียบมีความสุข
โลกสวย ดอกไม้บ้าน ผีเสื้อบิน เคลือบน้ำตาลอย่างที่ว่า แต่เอาเข้าจริงคือพวกแม่งแต่ละคนไม่ได้จนเลย
ตา(ป่ะวะ)เป็นข้าราชการชั้นสูง แม่กะทิก็รวยมีคอนโดในเมือง กะทิจริงๆก็ลูกคนรวย สรุปคือแม่งหาดราม่าให้ชีวิตจริงๆ
>>199 เรื่องความแปลกใหม่กูเห็นด้วยนะ แต่ในความเห็นกูไส้เดือนแม่งไม่น่าใช่ความแปลกใหม่อ่ะ นิยายหรืองานเขียนที่ดีมันควรจะดึงดูดคนอ่านได้ตั้งแต่บทแรกๆ แต่กูอ่านไส้เดือนไป3-4บทแล้วปวดหัวกับภาษามาก จนไม่อยากจะอ่านต่อ(ถึงช่วงหลังของเรื่องอาจจะมีเนื้อหาที่แฝงใจความสำคัญไว้ แต่ถ้าบทแรกๆไม่ชวนอ่านสำหรับกูก็ถือว่านี่ไม่ใช่นิยายที่ดี) แถมมันขัดกับหลักภาษาที่กูเคยเรียนด้วยว่างานเขียนที่ดีไม่ควรใช้คำฟุ่มเฟือยโดยไม่จำเป็น ส่วนซีไรต์ที่กูคิดว่ามีไอเดียแปลกใหม่กูยกให้ "เวลา" ของชาติ กอบจิตติ อันนั้นคือเขียนเหมือนคนอ่านเป็นผู้กำกับละครทีวีภาษาก็เข้าใจไม่อยากด้วย
แต่ไส้เดือนคือแม่งเวิ้นตั้งแต่คำนำสนพ. "นวนิยายที่ที่เต็มไปด้วยศัพท์แสงสัญลักษณ์ในทุกฉากตอนฉาบซ่อนในเรื่องรักสามเส้าแสนธรรมดา ปรุงด้วยเสน่ห์รายละเอียดของความร่วมสมัยผ่านบุคลิก รสนิยม และการดำเนินชีวิตของตัวละครเรื่องนี้..........."
บทแรก เด็กหญิงในตู้ปลา
--แดดจัดจ้านใต้ฟ้าครึ้มอึมครึมตอนเพื่อนคนหนึ่งมาหาแม่ที่บ้านและน้ำตาเริ่มต้นการเดินทาง เอิ่ม หล่อนเริ่ม ก่อนจะต่อด้วยเสียงเบาๆเกือบกระซิบ คนเค้าพูดกัน...ว่าแล้วก็พยักหน้า ครูไปที่นั้นทุกเย็น หล่อนมีฟันหน้าซี่ใหญ่ยื่นออกมากับดวงตากลมโตคอยกลอกซ้ายขวาตลอดเวลาซึ่งทำให้แลดูเหมือนหนูกำลังตกใจ เป็นนางรำเห็นบอก ละก็สอนรำอยู่ที่โรงเรียนนั้นแหละ แม่มองเห็นท่อนแขนอ่อนโอนวาดไปมาในอากาศช้าๆ แน่ใจหรือว่าใช่ครูทศ/ ไอ้ทิมน้องชายฉันมันก็เคยเห็น มันจำไม่ผิดหรอก เพื่อนมันคนแถวนั้นบอกเค้าแอบไปมาหาสู่กันอย่างนี้ครึางค่อนปีละ แขนโอนอ่อนนั่นยังวาดไหวไปมาในหัวแม่ ของแบบนี้ ปล่อยเอาไว้นานมันจะไม่ดีน่า
>>205 กูไม่ชอบแนวคิดที่ว่าอะไรต้องสนุกตั้งแต่ตอนแรกๆ นะ แต่กูเข้าใจว่ามันต้องสร้างImpactให้คนอยากอ่านด้วย และคนส่วนมากก็ไม่อยากรอจนถึงกลางๆ เรื่องค่อยสนุกด้วย แต่สำหรับกูคืออ่านได้เรื่อยๆ ถ้าไม่มีจุดยี้ให้ไม่อยากอ่าน
อย่างนิยายออนไลน์เด็กดี ถ้าเปิดเรื่องมาดวงดี เจอบัค หรือได้ของIMBAมาตั้งแต่ต้นเกมส์ก็ปิด ได้ฮาเร็มไม่สมเหตุสมผลก็ปิด บางเรื่องถ้ารู้สึกว่าก็อปเรื่องอะไรมาก็ปิด ยกเว้นจะฉีกจากเรื่องเดิมออกมาได้จริงๆ กูถึงอ่านได้หลายแนว แต่ที่ชอบจริงๆ มีน้อยมาก เพราะอ่านถึงกลางทางก็ปิดไปเยอะ
เดินงานหนังสือด้วยความหว้าเหว่ ไม่สนใจสิ่งใด ง่วงด้วย ไม่รู้จะอ่านอะไร
เดินผ่านซ้ำมาเกือบทุกหมวดละ ใครอยู่ในงานหนังสือแล้วรู้สึกเหมือนกูบ้าง
เมื่อก่อนกูก็อยู่ได้ทั้งวัน แต่เดียวนี้ลิสต์ไว้ก่อนจะซื้ออะไรแล้วตรงไปบูธนั้นทันทีไม่มีแวะ ซื้อเสร็จอาจจะเดินเป็นพิธีแล้วออกมาหาอะไรกิน ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็เสร็จ
มีใครอ่านดวงใจเทวพรหมจบยังวะ เป็นไง
จุฑาเทพกูขำตอนที่มันขับรถจากธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ไปวังหน้า...พี่คะ เดินเอาก็ได้ค่ะ หรือมันไม่สมศักดิ์ศรีหม่อมคะ ต้องนั่งรถตลอด มึงเลี้ยวขวาออกประตูธรรมศาสตร์ เดินไปไม่ถึงห้าสิบเมตร วังหน้าก็อยู่ตรงนั้นล่ะค่ะ อันนี้เป็นความทรงจำกูเองตอนไปเปิดอ่านฟรีในร้าน
เออ ต้องเลี้ยวซ้ายสิวะ โทษๆ
ชุดสี่เขาลำเนาไพรกูเคยเปิดอ่านผ่านๆในร้านหนังสือ รู้สึกฉากเย็ดจะเยอะพอควร ของณารานี่ไม่รู้เล่มไหน แต่นายคนที่นางเอกเก็บมารักษามันย่องขึ้นไปปล้ำนางเอกถึงที่เลยว่ะ กูแบบ wtf มากกกกกกก
สรุปสยามได้ตงกงไปแล้ววว
เดินเลี้ยวขวา50เมตรก็ลงแม่น้ำเจ้าพระยาไปเลยมึง
จุฑาเทพเคยดูแค่คนที่มันใส่แว่นเป็นหมออะ เนื้อเรื่องน้ำเน่าชิบหาย
เเต่คงไม่ดังล่ะมั้ง เมื่อกี้กูลองไปหาข้อมูลเห็นบอกเป็นสนพ.เล็กๆว่ะ
http://www.alwayspublishing.com/
>>230 เออกูว่าราคานี่แหละประเด็นที่ทำให้ไม่อยากซื้อเก็บ กูว่างานมันดีนะ ถึงพล็อตจะไม่แหวกแนวสำหรับคนที่อ่านหนังสือมาเยอะแต่ภาษาก็โอเค แต่ตั้งราคาเกือบ200กูว่าแพงไปว่ะ เดาว่าแพงค่ารูปเล่มกับรูปประกอบบทด้วย แต่ละบทก็ดูสั้นๆ 2หน้าA4 ซื้อเป็นอีบุ๊คน่าจะคุ้มกว่า
>>231 นักเขียนคนหนึ่ง(ชาติ กอบจิตติ มั้งถ้ากูจำไม่ผิด)บอกว่างานเขียนที่ดีมันต้องวัดกันที่ระยะทางด้วย คือจะสื่อประมาณว่านักเขียนที่ดีต้องผลิตงานออกมาสม่ำเสมอ คนที่ดองงานที่เป็นนักเขียนที่ยังฝีมือไม่ถึงขั้น ช่วงที่ไอเดียมาเค้าอาจจะผลิตงานเขียนที่ดีออกมาได้แต่ไม่สามารถจบงานนั้นได้เพราะมุขตันซะก่อน ประมาณนี้มั้ง
อยากบ่น ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงชอบใช้คำว่าหรอกันจังวะ ทั้งในนิยาย ในโด ในฟิค เเม้เเต่ซับอนิเม คือถ้าเล่นๆกับเพื่อนกูไม่ว่าเเต่มาเขียนหรือทำอะไรที่เป็นทางการ เผยเเพร่ในวงกว้างขึ้นมาหน่อย มึงก็ควรใช้ให้ถูกไม่ใช่เหรอวะ นี่ดีนะยังไม่พัฒนาเป็นหลอ เเต่ก็ไม่เเน่...
ต้องกับไปดูการสอนภาษาไทยสมัยนี้ด้วย
สมัยเก่ายังมีสอนการผันวรรณยุกต์
สมัยนี้ให้จำรูปแบบเหมือนต่างประเทศที่เค้าไม่มีวรรณยุกต์กัน
เด็กมันจะใช้ภาษาไทยถูกกันได้ยังไง
งงกับคนออกนโยบายการศึกษา
กูขอปรึกษาหน่อย กูส่งนิยายไปพิจารณาแล้วไม่ผ่าน สนพ.เม้นมาว่ากูนำเสนอได้ไม่ดี เนื้อเรื่องเป็นเส้นตรง คือกูไม่ค่อยเข้าใจว่าการนำเสนอที่ดีมันคือยังไง ยกตัวอย่างนิยายสักเล่มให้กูไปหาอ่านเองก็ได้ แนวแฟนน่ะ
>>242 กุเข้าใจว่าเล่าเรื่องเป็นเส้นตรงของมึงนี่คงแบบ A->B->C->D หรือไม่ก็เดาทางง่ายเกินไป มึงลองสลับวิธีการเล่าเหตุการณ์ก็ได้ เช่นแทนที่มึงจะบอกว่าเด็กเดินทางไปหาย่าแล้วเจอหมาป่า มึงอาจจะเปิดฉากมาด้วยหมาป่ากำลังจะงาบเด็ก แล้วค่อยเล่าย้อนว่าเด็กแม่งมาเจอหมาป่าได้ยังไง อะไรทำนองนี้ กูเห็นเค้าใช้กันบ่อยเหมือนกัน เทคนิคเอาผลลัพธ์ขึ้นก่อนเหตุ มันทำให้ดูน่าติดตามดี หรือถ้ามันมีปัญหาตรงที่เดาทางได้ง่าย มึงก็ต้องลองหักมุมซิกแซกดูบ้าง สู้ๆ นะเพื่อนโม่ง กูก็เพิ่งผ่านพิจารณามาไม่นาน
>>242 นิยายมันต้องมีจุดพีทเป็นบ้างจังหวะอย่าง
ตะลุยขึ้นไปฆ่าบอสจนตัวเองเจ๋งสุด
ไม่ก็ตัวเอกเก่งสุดๆ แต่ถูกรุมกระทืบจนต้องหนีตาย
ไม่งั้นก็ต้องแบบหักเหตุการณ์ไม่ให้คนอ่านเดาทางได้ แต่ก็มีเหตุผลในตัวมัน
อย่างล่าสุดที่กูอ่านแล้วว่าพอได้ สนุกดีก็เรื่องเซน
เช่นไปเจอมังกรนึกว่าจะตีกันตาย สุดท้ายปล่อยแล้วมาเป็นเพื่อนกัน แถมฮาตรงตั้งวงร้องเพลงกับมังกร กูลั่นตรงร้องเพลงบัวลอย
หรือไปบุกเมืองศัตรูนึกว่าจะเรียกมังกรมาถล่มเมือง พวกก็เอาหนูมาทำลายเสบียงเมืองแทน
ร้องเพลงได้แบบไจแอนก็สวมรอยทำตัวเป็นภูตไปอะไรทำนองนี่
อ่านไปได้เรื่อยๆ เดาทางยากเล็กน้อย มีลุ้นในทุกตอนว่าตัวเอกมันจะไปทำอะไร
คล้ายตามอารมณ์คนเขียนด้วยวะ...แบบนั้นคือเดาทางไม่ออกนะว่าทุกตอนคนเขียนจะพาไปแบบไหน
>>239 >>240 อื้อ ตามที่ >>241 เวลาผันต้องออกเสียงว่ะ พอคล่องแล้วเสียงมันจะดังขึ้นในใจเอง (...) ซึ่งทุกวันนี้กูคันไม้คันมืออย่างด่าไอ้พวกที่ใช้ผิดมาก บางทีกูเห็นคนเป็นอาจารย์ (โอเค ไม่ใช่อาจารย์ภาษาไทย) พิมพ์ภาษาแบบ น๊ะค๊ะ นู๋ มั่ยเข้าจัย ซึ่งไม่ได้พิมพ์หลุดมาแบบฮาๆ แต่พิมพ์ผิดแม่งทั้งประโยคทั้งๆ ที่ประโยคนั้นเป็นประโยคคำถามที่คุยกับคนไม่รู้จัก กูที่กลอกตาเลย
>>243 กูส่งสถาน่ะ นิยายกูยาว สนพ.อื่นก็เห็นเล่มบางๆ หมด
>>244 >>245 ขอบใจที่แนะ แต่นอกจากนี้มันมีเทคนิคอะไรอีกไหม
>>248 จะว่าพล็อตโหลก็น่าจะได้วะ คือกูแต่งแนวผจญภัยตามหาของแล้วก็เดินทางไปเมืองต่างๆ แต่ละเมืองก็มีอีเว้นเจอพวกพ้องเจอศัตรูอะไรแบบนั้น อย่างที่ >>244 บอกกูเล่าแบบ A->B->C->D แล้วคือกูเล่าแบบบุคคลที่ 1 ด้วย กูเลยคิดไม่ออกเลยว่าจะเล่าให้มันมี การนำเสนอที่ดี ได้ยังไง จะเล่าแบบสลับฉากสลับช่วงเวลา ถ้าเป็นบุคคลที่ 1 นี่จะงงไหมวะ เพราะกูก็ไม่ค่อยเจอบุคคลที่ 1 เล่างี้
>>249 อันนี้กูคิดเองนะ สถานี่เห็นบอกว่าตอนนี้รับแนวอื่นที่ไม่ใช่ออนไลน์แล้วนี่นะ โดยเฉพาะพวกพลอตแปลกๆ แต่ก็คงต้องยึดแนวตลาดอย่างต่างโลกอยู่ดี ถ้าให้ผ่าน กูว่าต้องแหวกแนวจริงๆอะ ที่อ่านๆของมึง แนวเดินทางหาของตามเมืองมันก็โหลจริงนั่นแหละแถมเรื่องตรงเป็นเอบีซีอีก น่าจะผ่านยากอยู่เหมือนกัน
>>249 กุเห็นด้วยตามที่ >>250 ว่า
เคยมีน้องมันกะจะเขียนแนวๆเดินทางมาถามกุ แล้วกุยิงคำถามกลับไป
หลักๆมึงต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า "มันเดินทางกันไปทำไม ทำไมถึงต้องเดินทาง"
ถ้ามึงยังตอบโจทย์นี้ไม่เคลียร์ยันจะไม่มีทางสนุกได้เลยว่ะ
เหมือนอย่างใน skyrim มึงเดินโท่งๆไม่มีบ้านอยู่แล้วมึงจะเอาของที่โด้มาไปเก็บไว้ที่ไหน
ไม่รู้มึงเข้าใจกุป่าว
ยกตัวอย่างแนวเดินทางเท่าที่นึกออก
ญี่ปุ่น: ออกแนวมีจุดมุ่งหมายหลัก แล้วมีจุดหมายรองไรว่าไป ออกแนวเรื่อยๆปลายเปิด ค่อยๆเพิ่มเติมรายละเอียด รอตอนจบจนเหงือกแห้ง
หมาป่าเครื่องเทศ<<อาชีพค้าขายอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ส่งนางเอกกลับบ้าน
การเดินทางของคิโนะ<<ยังไม่ได้อ่านบอกไม่ได้
ยมทูตสีขาว <<ไม่ได้เดินทาง ออกเป็นเล่าเป็นเคสๆไปมากกว่า ให้ดูเป็นตัวอย่างว่าทำไมเล่าเรื่องเรื่อยๆถึงออกเป็นสิบเล่ม
วันอาทิตย์ที่ไม่มีพระเจ้า<<อยากกู้โลกเดินทางหาคำตอบ (ไม่มีบ้านให้กลับกลายๆด้วยแหละ)
ฝรั่ง: ออกแนวแสงสีระเบิดเจิดจรัดจัดเต็ม ไม่มีเรื่อยๆเอื่อยๆกินลมชมวิว ได้อ่านตอนจบแน่
the lord of the ring <<หนีหัวซุกหัวซุน แล้วค่อยเดินทางไปทำลายแหวน
เพอซี่แจ็คสัน<<ปราบเทพที่หวังครองโลก ภาคแรกเน้นเป็นเคสๆไป ภาค2เป็นเล่าแบ่งเป็นแต่ละคน
อาทิมิส ฟลาวอาทิมิส ฟราวส์<<ปราบแฟรี่ที่หวังครองโลก แต่ละเล่มเป็นเคสๆไป
แนวผจญภัยไปทำเควสมีเยอะแยะมึง หนังสือที่มึงพูดผจญภัยแบบไหนล่ะ เรื่อยๆเอื่อยๆแบบญี่ปุ่น หรือหนังผู้ร้ายฮอลลีวูดแบบฝรั่ง
เห็นประเด็นห้องฟุอันนี้น่าสนใจดี คำว่า"นักเขียนแท้ๆ"ของพวกมึงมีความหมายว่ายังไงกันวะ
เหรอ แล้วอย่างกูที่ออกนิยายมาไม่กี่เล่ม ไม่เยอะเท่าคนที่ยกตัวอย่างกันมา และกูโคตรรักและเต็มที่กับนิยายแต่ละเรื่องของกู แต่กูมีอาชีพหลักอย่างอื่นที่มีรายได้มากกว่าการเป็นนักเขียนอย่างเดียวหลายเท่า เพราะกูชอบใช้เงิน (และกูหาเงินได้ด้วย) ชอบใช้ชีวิตหลายๆมุม แบบนี้กูเป็นนักเขียนไม่แท้เหรอวะ
กูน้อยใจนิดๆนะเนี่ย
กูว่าหัวข้อคุยกันในห้องฟุน่าสนใจดีเลยมาดูห้องนี้ด้วย กูอ่านที่คนนึงตอบในห้องฟุแล้วเจ็บปวด นักเขียนแท้คือวันๆกูต้องจมกับการเขียนหนังสือ เขียนไปจนกว่าจะตาย ไม่ต้องคิดเรื่องอื่นเหรอวะ
เออ กูเคยเห็นมู้พันทิปถามว่าถ้าไม่สนเรื่องเงิน อยากทำอาชีพอะไร เเล้วมีคนตอบว่านักเขียนนิยาย ทีนี้ก็มีคนมาต่อว่านักเขียนนิยายเดี๋ยวนี้ได้เงินเยอะจะตาย แถมได้ฟินอีกต่างหาก อะไรทำนองนี้ คนอื่นๆเลยตอบต่ออีกว่าถ้าไม่ดังยังไงก็ไม่ฟินหรอกน่ามั่งล่ะ ต้องเขียนแต่แนวเอาใจตลาดถึงจะดังบ้างล่ะ มันทำให้กูรู้สึกว่าสมัยนี้คนมองว่าอาชีพนี้มันสบาย ได้เงินง่ายขนาดนั้นเลยเหรอวะ
ผลิตงานคุณภาพไม่เบียว ภาษาสวยแต่ขายไม่ออก
กับผลิตงานกากๆบรรยายอีโม พระเอกเบียว แต่การตลาดดีมีแฟนอวยพิมพ์มายังไงก็มีคนซื้อ
เป็นกูกูเลือกอย่างหลังว่ะ ถึงคนอื่นจะมองว่าเป็นขยะวรรณกรรมเป็นเครื่องผลิตนิยายกากๆ แต่ถ้างานมันขายได้มีแฟนคลับกูก็ว่านั้นเป็นนักเขียนเหมือนกันแหละ
ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกลของตลาด
ว่าด้วยนิยามแบบนี้จะมีนักเขียนจริงๆซักกี่คนกัน เฮสเสก็ไม่ใช่นักเขียนแท้ๆ เขาชอบวาดรูปพอๆกับเขียนหนังสือ
ถึงจะเขียนหนังสือดีกว่ามากก็ตาม และมีรายได้จากหนังสือจนไม่ต้องทำอย่างอื่น ช่วงหนึงไปสมัครเป็นทหารอาสาด้วยซ้ำ
เอาตาม>>>/801/2077/267/ เฮสเสคงนับเป็นนักเขียนเก๊ๆคนหนึ่งเท่านั้นวะ
แต่กูว่ามันคงไม่รู้มั้งว่าป้มทมยันตีช่วงหนึ่งบ้าการเมืองมาก และเคยเป็นผอ.ขสมก.ด้วยซ้ำ
พวกมึงคิดว่าดอกปอบรักงานของตัวเองทุ่มเทกับงานเขียนของมันมั้ยวะ(ฮา)
นิยามแต่ละอาชีพมันก็คล้ายๆ กันว่ะ มึงก็ลองดูดาราสิ งานหลักแสดงละคร งานรองออกอีเว้น์เล่นโฆษณา นักเขียนในนิยามกูก็พวกเขียนหนังสือจนจบเรื่องไม่ทิ้งกลางคัน ถ้าขายได้ก็เลื่อนขั้นเป็นนักประพันธ์ หมั่นออกงานโฆษณาผลงานเพื่อการตลาด //ทุกอย่างที่ได้เงินย่อมมีการตลาดมาเกี่ยวเสมอ ต่อให้มึงเริ่มต้นด้วยใจรักไร้เงินทุนก็เถอะ
สำหรับกู นักเขียนแท้คงเป็นคนที่ตั้งใจจะเขียนว่ะ คือไม่ได้เกี่ยวกับอาชีพ รายได้หรือแนวการเขียน แต่ขอแค่เป็นคนที่ตั้งใจเต็มที่และพยายามทำให้จินตนาการของตัวเองสำเร็จออกมาด้วยความทุ่มเท ใส่จิตวิญญาณและความรู้สึกลงไปในตัวักษรได้(และกูต้องรู้สึกด้วย) เท่านั้นก็เป็นนักเขียนแท้แล้ว(ของกูนะ)
>>267 คุณร เรือ กูเคยอ่านของเขาเรื่องจะขอรับผิดทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว เป็นเรื่องสั้นรวมๆกัน มีทั้งส่วนที่กูชอบและไม่ชอบปนๆกันไป ภาษาบางตอนสวย ใช้คำได้ดี เป็นการเขียนแบบที่กูชอบ แต่บางตอนภาษาประดิษฐ์เกิน ซ้อนคำจนเหนื่อย เนื้อเรื่องต้องการให้คิดตาม แต่กับบางตอน บางจังหวะก็เหมือนยัดลงมาเลย
สรุปคือ ถ้ากูมีโอกาสได้อ่านนิยายเขา กูก็คงอ่านอีกว่ะ เผื่อจะได้ดูว่าเขาจะเขียนด้วยภาษาแบบที่กูชอบมาอีกรึเปล่า
เจ้าตัวโผล่เองในโม่งห้องนู้นเลย 55555
กูนึกอะไรจะพิมพ์บอกเขาไม่ออกเลย ปกติกูก็ไม่นิยมนักเขียนที่ชอบโผล่มาชี้แจงในโม่งเท่าไหร่ด้วย ตั้งแต่คุณแกะหรือคุณศอว์โผล่มาแล้ว
>>269 มึงหมายถึงแต่ละตอนในเล่มเหรอ เล่มนั้นมันรวมคนเข้ารอบเรื่องสั้นไม่ใช่เหรอ ของเขามีแค่เรื่องจะขอรับผิดเรื่องเดียวนี่? เป็นธรรมเนียมว่าจะเอาชื่อเรื่องคนชนะมาตั้งชื่อหนังสือรวมเรื่องสั้นอยู่แล้ว
แม่ง... ร เรือ ลอยมาถึงนี้เลย 555555 มหาสมุทช่างกว้างใหญ่นัก
หนังสือผีของโซฟาบางเล่มก็กากจนน่าใจหายว่าแม่งพิมพ์ออกมาได้ไง...
ยิ่งงานภาคินัยหลังๆนี่กูเบือนหน้าหนีเลย
มีใครเคยอ่าน misery ของลุงสตีเฟ่น คิงบ้างมั้ยวะ กูดูหนังจบเมื่อกี้เลยอยากหาหนังสือมาอ่าน ป้าแอนนาแม่งโหดชิบหาย ลักพาตัวนักเขียนนิยายแล้วบังคับให้เขียนเรื่องที่ตัวเองต้องการอ่านเท่านั้น
แวะกลับมาสรุป
ห้องฟุปิดประเด็นว่าคนที่ออกมาอวยๆ ร เรือ ว่าเป็นนักเขียนของแท้ สรุปเป็นคนรู้จักของเจ้าตัวเอง...โม่งฟุรายงาน
เพื่อนพาจนแท้ๆ
เมื่อก่อนกูชอบภาคินัยนะ แต่หลังๆ มานี่เหี้ยอะไรไม่รู้ เหมือนอ่านนิยายรักน้ำเน่าที่มีผีเป็นตัวประกอบ
>>279 กูก็ว่าแปลกๆนะ อวยเว่อร์จนน่าหมั้นไส้ กูแอบคิดไปว่าเจ้าตัวมาอวยตัวเองรึเปล่าวะ แต่ช่างมัน เพื่อนก็เพื่อน
>>276 >>280 งานของภาคินัยกูเคยซื้อสมัยเรียนมหาลัย เรื่องลิฟซ่อนศพ กูอ่านแล้วสนุกดีแต่คิดว่าแพงไปหน่อย ตอนนั้นเล่มละเกือบๆ300(ราคาเท่านิยายแปลเลยมึง) จะซื้อเก็บก็เสียดายเงินเพราะนิยายมันสนุกก็จริงแต่อ่านรอบเดียวก็หมดสนุกแล้ว โชคดีที่ร้านหนังสือแถวหน้า ม.มีนิยายของโซฟาให้เช่าเยอะ กูเลยเช่ามาอ่านแทน อ่านไป3-4เล่มก็เบื่อแล้วว่ะ เริ่มจับทางได้ ตัวละครหลักของเรื่องไปทำเรื่องเหี้ยๆไว้ในอดีตจนโดนผีตามมาล้างแค้น ตัวละครตายกันค่อนเรื่อง มีหักมุมช่วงท้ายเล่ม ที่กูไม่ชอบคือบางทีผีแม่งฆ่าแบบไม่มีเหตุผลพออ่ะ ประมาณว่าทำผิดแค่เรื่องเล็กๆพี่แกยังตามฆ่า พอเช่าอ่านจนหมดกูเลยเลิกติดตาม แต่ยอมรับนะว่าตอนนั้นอ่านงานของภาคินัยแล้วสนุกจริง
>>282 กูขัดใจว่าทำไมคนมาช่วยต้องตายทุกทีเลยแว้ ฉากเอาค้อนทุบขานี่กูดูแล้วถึงกับร้องว่า อย่าาาาาาาาาาาา ในหนังสือป้าแกหลอนยังไงวะ อยากรู้
ปล.วันนี้ไปเดินงานหนังสือเพื่อหาเล่มนี้ เจอแค่ the shining ของอัมรินทร์พิมพ์ใหม่เลยสอยมา กูหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะแปล misery ออกมาใหม่ด้วย
เขาว่าเรื่องเดอะริงเล่มละพันกว่าก็ใช้กระดาษขาวถูกๆ เหมือนกัน จริงรึเปล่าวะ
https://m.facebook.com/cartoonbuntorn/photos/a.1499824806935282.1073741829.1498240523760377/1621453068105788/?type=3&source=48&refid=17&_ft_=top_level_post_id.1621453068105788:tl_objid.1621453068105788&__tn__=E
ที่ไม่ใช่กระดาษถนอมสายตานี่คือลดต้นทุนค่านิยายแปลหรือว่าอะไร?
เพื่อนโม่ง กูเคยอ่านหนังสือเล่มนึงในห้องสมุดเเล้วจำชื่อไม่ได้
คือเนื้อเรื่องประมาณว่าเด็กวัยรุ่นปัจจุบันไปเจอคนเเก่จรจัดเเล้วฝึกวรยุทธ เป็นนิยายเเปล มีใครจำได้ช่วยบอกชื่อที
กังฟู กระทู้ก่อนๆ เคยมีคนพูดถึงอยู่ ตอนจบบั่นทอนปัญญายิ่งกว่าสลอทอีก
>>290 กังฟู จอมยุทธ์หลุดโลก ใช่ว่ะ ขอบใจมาก
พูดถึงตอนจบ พอกูอ่านถึงตรงที่เป็นplot twist ที่เฉลยว่าปู่เเกโดนหนอนเหี้ยนั่นให้คิดไปเองว่าตัวเองเป็นจอมยุทธหลงยุค(ซึ่งไอ้หนอนนี่กับไอ้ฝรั่งเจ้าของหนอนเเม่งโคตรมโนไม่มีมูลเลยควย)กูร้องเลยว่าไอ้เหี้ย ไม่ได้ร้องเเบบทึ่งด้วยนะ เเม่งใส่มาทำเหี้ยอะไร ให้ปู่เเกเป็นจอมยุทธหลงยุคตามเดิมก็ดีเเล้ว ห่า จะพล็อตทวิสทำควยไร
เเต่นอกจากตอนจบก็สนุกดีนะ โดยรวม ผ่านไปป่านนี้เเล้วกูยังนึกถึงนี่ไม่ธรรมดา
ตอนจบที่ไม่ธรรมดาจะทำให้คนจดจำ หนังThe mist ถ้าจบHappy endป่านนี้คงกลายเป็นหนังที่ไม่มีใครพูดถึง
เมะSchool day ถ้าไม่จบแบบเรือสวยแปปเดียวคนก็ลืม
กูอ่านเรื่องย่อขันทีสาวเล่ม9แล้วขยะแขยงมากวะ อีนางเอกเคยทิ้งองค์ชายใหญ่ไปหาผัวใหม่จนองค์ชายใหญ่ความจำเสื่อม
ไม่กลับมาเจอกันยังพอว่าเพราะอยู่ต่างแดน แต่พอมาเจอดันทำเป็นไม่รู้จักแล้วไปเย็ดกับองค์ชายรองแทน
มาเล่มนี้จะยืมทหารเลยต้องทำให้ความจำฟื้นคืนเพื่อช่วยผัวที่โดนจับไว้ อ่านแค่เรื่องย่อกูก็รับไม่ได้แล้ววะ
อีเหี้ยนี่แม่งเลวสัดๆแต่เขียนให้ดูดีทำเป็นเห็นใจรักแท้กับผู้ชายทุกคน แต่ที่จริงคือใช้ประโยชน์จากผู้ชายทุกคนเพื่อตัวเองทั้วนั้น
แต่ก็ยังดีกว่าอีหมอข้ามมิติที่โม่งเคยเอามาลง อันนั้นปล่อยให้พ่อนางร้ายตายทั้งๆที่ช่วยได้เพราะเคยโดนนางร้ายตบหน้า
กูกะจะซื้อเล่ม9ที่งานหนังสือนะ แต่พอเว้นนานๆแล้วกลับมาดูอีกที อีนางเอกนี่โคตรน่ารังเกียจเลย กูเคยชอบเข้าไปได้ไงวะ
มึงกูขอ ky โพสต์มู้นี้ถูกป่ะวะ พอดีแม่งเกี่ยวกับสนพ.ห้องสมุด
คือห้องสมุดอ่ะมันวางแผนจะทำปฏิทินจากภาพของนักวาดนักเขียนกลุ่มนึง ทำแบบลับๆแค่ไม่กี่ชุดรวมเงินกันไปทำ(คุณป.แกบอกว่า ไม่ได้ทำขาย
แค่รวมเงินกันไปทำไม่ได้กำไรอะไรเลย)แต่ปรากฏว่าทางเจ้าของภาพอ่ะออกมาพูดชัดเลยว่าไทยละเมิดลิขสิทธิ์เอาภาพเขาไปทำปฏิทิน อย่าซื้อ
ถ้าจะเอาให้มาสั่งกับเขา เพราะเขาก็ทำขายเองอยู่แล้ว อีคุณ ป. แกก็ยืนยันว่าแบบ โอยไม่ได้ขาย แค่รวมเงินกันไปปรินท์แต่
ถ้าทางนั้นไม่สบายใจก็ไม่ทำละกัน กูอ่านละบั่บ โคตรหน้าด้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
คือภาพเขามีลิขสิทธิ์มั้ย มึงไม่ได้ไปซื้อลิขสิทธิ์ภาพเขามาทำ ตามกฎหมายปกติมันก็ห้ามทำซ้ำเผยแพร่อยู่แล้วนะ
พูดอะไรเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรที่ข้องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ซะงั้น ถ้ากูเป็นเจ้าของภาพกูก็ไม่สบายใจนะ โมโหเลยแหละ
แทนที่กูทำขายคนอยากได้จะมาซื้อกู ก็เอาภาพไปปรินท์กันเองที่มันถูกกว่า(แต่ก็ต้นทุนสูงตามที่ยายป.บ่นว่าทำไปก็ไม่ได้อะไรเลย)
แล้วเงินก็ไม่เข้ากระเป๋ากู ทั้งๆที่กูปรินท์ภาพเฉยๆขายด้วยซ้ำไม่ใช่แค่ปฏิทิน อีนี่มันรู้เรื่องกับเขามั้ยนี่
ภามของพูนิก้านี่สนุกมั้ยวะ เรื่องย่อน่าสนใจ แต่กุกลัวมันจะเบียวแบบการินอีก
>>302 อวยสิมึงจะเหลือเหรอ 5555555ตอนนี้พอดีนางจะเปลี่ยนไปเอาภาพงานจีนของตัวเองมาทำแทน ก็อวยว่าอันนี้ก็ได้ยังไงก็สวย
ไม่แน่ใจว่าทำได้ไหม แต่ปกติจะเอาภาพมาทำอะไรมันต้องทำเรื่องใหม่มั้ย ว่าแบบจะซื้อลิขสิทธิ์มาเพื่อทำอะไรแล้วจะซื้อภาพไหนบ้าง
ไม่ใช่คิดว่าซื้อลิขสิทธิ์หนังสือมาแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ มีคนยกตัวอย่างนานมีทำของสะสมแฮรี่ว่าทำไมทำได้
ก็อันนั้นเขาดำเนินเรื่องทำตามกฎหมายลิขสิทธิ์นะไม่ใช่จู่ๆมาย่องทำลับหลังแล้วอ้างว่าไม่ได้ขาย ทำจำนวนจำกัดไม่ได้กำไรแค่รวมทุนกันทำ
อีลูกหาบนี่ก็เข้าใจอะไรผิดๆกันจริง แล้วยังมีหน้าไปด่าคนแจ้งเรื่องไปทางนัดวาดอีกนะ ว่าเข้าใจห้องสมุดผิด ไปแจ้งให้ข้อมูลผิดๆ
เอาจริงๆ อย่างที่บอกว่าภาพเขาอ่ะแบบปรินท์ออกมาเขายังขายเลย แล้วนี่พี่แกล่อเอาไปทำปฏิทินเลียนแบบต้นฉบับแข่งไม่ผิดก็บ้าและ
ITWป้ะ กูไม่ได้อยู่กลุ่มนั้น แต่เหมือนเห็นคนโปรโมทอยู่ลางๆ
>>307 เรื่องนั้นแหละ พอดีกูอยากเลี่ยงๆ นี่ชั้นหนังสือปกติ
>>308 ขอต่ออีกนิดคงรอบสุดท้ายและ ไปประเด็นอื่นบ้าง ไม่ใช่แค่ตัวลูกหาบ อีศาสดามันก็เข้าใจอะไรผิดๆ
ตอนแรกมันบ่นแค่โอยเขาไม่พอใจเขาเข้าใจผิดว่าเราทำขาย ตอนหลังมันมาบ่นว่ามันซื้อ ลข.(ซึ่งมึงซื้อมาแค่ ลข. มาทำหนังสือ)
ทำไมทำ material อื่นๆไม่ได้? คือตามสัญญาทางนักวาดอนุญาตให้มัน Publish the works
ซึ่งมันหมายถึงมึงมีสิทธิ์ตีพิมพ์ทำซ้ำ(เพราะมึงไปไม่ได้ไปซื้อมาพิมพ์ขายเล่มเดียว)หนังสือตามที่มึงไปซื้อมามึงมีสิทธิคนเดียวเลย
ใครทำแข่งนี่ไปฟ้องได้เพราะมันได้สิทธิแต่เพียงผู้เดียว
คือมันไม่ได้รวมถึง goods อื่นๆแต่อย่างใด มันนอกสัญญาที่คุยกันว่าจะทำหนังสือหรือมันเข้าใจว่า publish นี่จะพิมพ์อะไรก็ได้พิมพ์ปฏิทินเลยได้
แต่ทำฟิกเกอร์ไม่ได้ พวงกุญแจไม่ได้แบบนี้เหรอ ตลกสัส 55555555 นี่ขนาดมันบอกว่าปรึกษาทนายละนะว่าทำได้
กูไม่ได้ปรึกษากูยังเข้าใจเลยว่าสัญญามันหมายถึงอะไร เอาเป็นว่ากูจบประเด็นแค่นี้ละกัน
จริงๆมีคนแง้มๆพูดดีๆบอกนะ ว่าดูแล้วมันก็ละเมิดสัญญาหรือเปล่า นางก็เมินค่ะ สงสัยต่อไปว่าซื้อ ลข. มาแล้วทำไมทำไม่ได้
มั่นใจว่าทำได้ ไปโทษเจ้าของต้นฉบับด้วย จบเห่เอวัง
ก็ยังเห็นนางเดินต่อนะโปรเจ็กปฎิทินอะ หรือเขาจะมโนตามป้าหลิน ที่แกทำแจกป่าท้อวะ
>>309 เขาให้ลิขสิทธิ์แค่ตีพิมพ์หนังสือกับจัดจำหน่าย แต่ไม่ได้ให้ลิขสิทธิ์ของขายอื่นๆ อยากได้ก็ต้องซื้ออีกไม่ใช่เหรอ จะทำ goods ขายมันก็นอกเหนือสัญญาแล้ว คุณป.นี่ก็ดูมีการศึกษาสูงนี่หว่า ทำไมแค่นี้ก็ไม่เข้าใจวะ กูไม่รู้เรื่องป้าหลินทำแจกทำขาย แต่คุณป.ทำแบบนี้มันไม่ถูกต้อง
กูยังเสียวๆอยู่ว่านักเขียนกลุ่มนี้เคร่งเรื่อลิขสิทธิ์ด้วยดิ
ถ้าทำจริงๆ อยากให้โดนฟ้องจังๆ ซักที รู้ว่านักวาดอยู่ไกลมันฟ้องยาก
แต่นะ เขาเคยบินมาไทยคุยเรื่องลิขสิทธิ์มึงยังกล้าทำกับเขาแบบนี้ กูแม่งอยากให้โดนเป็นกรณีตัวอย่างจริงๆ ว่ะ
แล้วเรื่องที่โดน Report นี่เรื่องเดียวกันป่าววะ หรือคนละเรื่องกัน?
หสม ถ้าไปแย้งต่อหน้ามึงก็จะโดนรุมตบจนเลือดกลบจากเหล่าสาวก แต่ถ้าไปแย้งหลังไมค์มึงก็จะโดน
เขาเอามาประจานแบบอ้อมโลกอีกที
กูไม่เคยอ่านนิยายของห้องสมุด แต่ทำไมสนพ.นี้ถึงมีแฟนอวยเยอะจังวะ
สัญญาลิขสิทธิ์มันคงอ่านเข้าใจยากกว่าตัวมังงะ เลยเข้าใจผิดๆมั้ง
มังงะยังแปลผิดเลย สัญญาสำคัญแบบนี้คงไม่รอด
แถมยังอุตส่าเอาส่วนของสัญญามาไฮไลท์โชว์ว่าทนายบอกว่าทำได้อีก
แหม่ เสียดายไม่ได้แคปไว้ หาสเตตัสนั้นไม่เจอแล้ว
แถมติ่งนางส่วนใหญ่ก็ฉลาดๆทั้งนั้น(ประชด) หลอกง่ายโคตร
ศาสดาจูงไปทางไหนก็ไป อวยๆๆๆ ไร้สติยั้งคิด ได้ติ่งแบบนี้ดีจะตาย
ทำงานออกมาห่วยแค่ไหนก็มีคนอวย ใครเข้าไปติไปแย้งก็รุมแหกให้
สบายๆ รวยๆ เกร๋ๆ
KY หน่อย ความลับที่หักมุมนี่ภาษาอังกฤษมันเขียนว่าไงวะ กูไปเจอคนไทยเขียนชื่อตอนในนิยายว่า Secret at Twist มันถูกรึเปล่า ทำไมกูรู้สึกแปลกๆ /จะว่าไปในเด็กดีนี่นิยายที่เขียนชื่อตอนเป็นภาษาอังกฤษก็หลายเรื่องนะ ถ้าไม่อ่านคำโปรยกูจะนึกว่าไม่ใช่คนไทยเขียน แถมเขียนชื่อยาวกว่าไทยอีก
>>321 มันต้องใช้ twisted secret ความลับที่บิดเบี้ยว/หักมุม
แต่กูว่าอ่านแล้วงงความลับที่หักมุม? คือเผยออกมาแล้วหักมุมเนื้อเรื่องงี้เหรอ แบบ plot twist งี้เหรอ?
secret at twist กูขำ แปลตรงตัวเลยนี่หว่า ที่จริงกูว่าเวลาตั้งชื่อตอนชื่อเรื่องมึงช่วยเลือกสักอย่างได้มะ
บางคนตั้งชื่อเรื่องเหมือนกัน ชื่ออังกฤษ I love you ชื่อไทย ผมรักคุณ มึงจะตั้งสองชื่อทำหอกอะไร
ไม่ก็ตั้งชื่อที่ไม่สื่อเนื้อเรื่องห่าไรเลยก็มี
>>322 ไม่ว่ะ ก็แค่ตัวเอกคือทายาทของตัวร้ายที่หายสาบสูญ อ่านแล้วมันเนื้อเรื่องมันก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย ลาสบอสตัวเดิมนี่แหละ แวบแรกกูอ่านยังสตั้นเลย มึงเขียนตรงตัวไปนะ
ไม่รู้นะว่ามันเริ่มมาจากไหน ไอ้ที่ต้องตั้งชื่อตอนเป็นภาษาอังกฤษเหมือนชื่อเรื่อง แต่ชื่อเรื่องสองชื่อซ้อนนี่กูเห็นว่ามันเริ่มมาจากแจ่มใสว่ะ เมื่อก่อนนี่ชื่อไทยชื่ออังกฤษความหมายเดียวกัน แต่เดี๋ยวนี้เริ่มต่างกันหน่อยละ
จะว่าไปกูเห็นหลายเรื่องในเด็กดี มึงจะแปลงเป็นอังกฤษตรงตัวไปหน่อยมั้ยวะ แบบอ่านดูก็รู้ว่าให้อากู๋ช่วยอะ ทั้งชื่อเรื่อง ชื่อตอนหรือแม้แต่บทบรรยาย บทสนทนาอะ แต่ก็นะ หลายคนยังเป็นเด็กกากอิ้งนี่นะ
บางอันถ้ามึงกากภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษหรือประดิษฐิ์คำใหม่ก็ได้
เห็นแล้วหมดความอยากอ่านไปเลยทั้งที่เรื่องก็สนุกพออ่านได้นะ
Kyกูอยากระบาย ใครมันเป็นคนคิดรูปเล้ม เล่มเล็กของสถาพร ไอ้แค่เล็กเล็กที่เน้นสูงมากกว่ากว้างก็ว่าลำบากแล้ว แต่มันยังมีปกหน้าอะไรไม่รู้ที่เอามาปิดสัน เวลาอ่านแม่งถือลำบากชิบหาย อ้อแล้วปกตรงส่วนทากาวด้านหลังก็ไม่แข็งแรงอีกของกูหลุดไปทีแล้ว
ในที่สุดกูก็อ่านผู้เสกทรายจบ เล่มเเรกช่วงเเรกถึงกลางเอือยมาก กูอ่านแล้วพับทิ้งไว้หลายปีแล้วค่อยหยิบมาอ่านต่อ แต่เล่ม2-3นี่อ่านเพลินสนุกเลย กูรักท่านอัยย์ กูออกตัวก่อนนะกูเป็นติ่งลวิตว์ แต่เมื่อคืนเข้าเฟสนางมา กูเห็นมีคนบ่นว่านิยายลวิตว์เครียด กูนี่สตั๊นไปนิดๆ ถึงมันจะมีบีบคั้นเป็นช่วงๆ แต่กูว่านิยายลวิตว์เป็นนิยายโลกสวยนะ อย่างผู้เสกทรายที่กูพึ่งอ่านจบ มีแต่คนบ่นกดดันเครียด กูว่าอีเรื่องนี้โครตโลกสวยเลย
>>329 ไอ้ชื่อเรื่องกับชื่อตอนกูไม่เท่าไหร่นะ ถึงกูจะไม่ค่อยโอเคกับชื่อตอนภาษาอังกฤษเหมือนกัน
บางทีมันดูกระแดะ ส่วนชื่อเรื่องนี่บางเรื่องกูแอบชอบอังกฤษมันสื่อได้มากกว่า
แต่กูไม่โอเคกับคนเขียนที่ชอบผสมภาษาอังกฤษ แบบมาเป็นบทสนทนาภาษาอังกฤษในเรื่องอะไรแบบนี้
กูเคยเจอกรณีนึง มีคนไปคอมเมนต์ประมาณแบบ เออ อ่านอังกฤษไม่ค่อยออก ถ้าจะเขียนอังกฤษ
อยากให้วงเล็บแปลให้หน่อย คนเขียนนางของขึ้นแล้วด่าคนอ่านว่าไม่มีความพยายามเมื่อไหร่จะเก่ง พจานุกรมก็มีทำไมไม่เปิด
เอ้าอีห่านี่ ดูถูกคนอ่านอีก แต่ละคนถนัดไม่เหมือนกันนะ แล้วจริงๆการเขียนภาษาต่างประเทศลงไปรัวๆแบบนี้
ถือว่าเสียมารยาทกับคนอ่านและกระแดะอย่างถึงที่สุดด้วย ยกเว้นใส่มาประโยคนึงให้คนพอรู้ว่าแบบ โอเคพวกมึงเริ่มโจ้ภาษาต่างดาวกัน
แต่มันก็มีวิธีเขียนที่ทำให้คนอ่านรู้ว่าพวกแม่งพูดภาษาอื่นโดยไม่ต้องใส่ภาษาต่างประเทศมาด้วยนะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นสรุปคือ กูว่าถ้าจะใส่เอาแค่นิดๆพอเหมาะสมตามสถานการณ์ ไม่ใช่แบบตัวละครพระเอกเก่งเทพ
จะโชว์ความเก่งพระเอก(และคนเขียน)ก็พิมพ์ภาษาอังกฤษรัวๆในนิยาย อันนี้กูเกลียดค่ะ บางทีพิมพ์ผิดอีก หอก
ถ้าเฉพาะเรื่องตั้งชื่อ กูเห็นตอนนี้มีเซน จอมเวทอหังการ
ที่ตั้งแบบไม่แคร์ใครดี
ทั้งนักบอล ทั้งนักร้อง ทั้งชื่อเมืองที่ยกลีกต่างประเทศมาทั้งหมด บาร์ซา มาดริด เลสเตอร์ ยูเว มิลาน
555+กูจำง่ายดี อย่าง มารฟ้ามาราโดร่าใช้วิชาหัตถ์พระเจ้า ซัดตัวเอกตกหุบเขานี่ทำเอากูฮาไปหลายวัน
มึงงงงงงง กูขอบ่นหน่อย กูเบื่อพวกแม่งที่แปะไว้ว่า "วิจารณ์ได้นะคะ" แล้วพอวิจารณ์บอกความรู้สึดไปตรงๆแม่งหาเหตุผลร้อยแปดมาดีเฟนต์ได้ทุกกรณีวะ คิดอีกทีกูคงเป็นพวกอ่านเก็บรายละเอียดไม่พอสินะ แม่ง กูจะไม่วิจารณ์แม่งอะไรและ เสียจึย
>>330 เรื่องเครียดกว่าของลวิตร์ยังมีอีกเยอะนะนะ กูเห็นด้วยว่านิยายเขาโครตโลกสวยเลย ถึงจะขัดแย้งกัน แต่สุดท้ายทุกคนก็จะร่วมมือร่วมใจกำจัดเป้าหมายออกไป ทุกอย่างจะคลี่คลายไปในทางที่ดี มีความสุข งานเขาจะไม่ค่อยมีพวกดราม่าแรงมากหรือความมืดดำของมนุษย์ ถ้าจะมีก็มีนิดหน่อย แต่จะออกมาแนวๆมีสิ่งที่ต้องการ สิ่งที่ต้องปกป้อง เลยจำเป็นต้องร้ายมากกว่า
อ่านความเห้นที่บอกว่าเจ้าของงานผิดนี่กูอึนเลย
พวกมึงมีวิธีบังคับตัวเองให้เขียนให้จบมั้ยวะ คือเวลากูจะลองเขียนอะไรซักอย่าง กูจะต้องเขียนประโยคนึงหรือพารากราฟนึงแล้วนั่งแก้มันทั้งวันเลยว่ะ รู้สึกมันไม่ดีพอไงไม่รู้ กว่าจะเสร็จทีก็หมดไฟเขียนต่อไม่ออกแล้วว่ะ เคยไปหาวิธีเขียนของฝรั่งมาก็เห็นบอกเขียนๆลงไปเถอะ เดี๋ยวแก้ทีหลังก็ได้ ปล่อยไอเดียออกมาก่อน งานขยะก็ช่าง งานบ้าๆบอๆก็ได้ บลาๆ ก็ว่าจะลองพยายามดูว่ะ แบบเขียนเรื่อยๆให้มันไหลไป อย่าเพิ่งไปขัดมันอะ
>>343 กูเคยถามนักเขียนที่ได้มีผลงานตีพิมพ์แล้ว
เขาว่าเขียนลงไปก่อนจนจบตอนนั่นๆ อ่านแล้วได้ใจความหรือความสนุกน่าสนใจก็พอแล้ว
เรื่องสำนวนนักอ่านส่วนใหญ่ต้องการแบบสั้นกระชับอ่านแล้วไม่ต้องแปลไทยเป็นไทยอีก
สนุกและง่ายๆเข้าใจเป็นพอ
เขาบอกว่างานเขาเน้นไปทางนั่นเพราะไม่ได้ต้องการส่งประกวดเรียงความอะไรสักหน่อย
คนอ่านคิดยังไงต่างหากที่สำคัญจริงๆ
ให้ดีๆก็ลงให้คนอ่านได้วิจารณ์ด้วย...คนเขียนก็ต้องรับฟังบ้าง
แต่เฉพาะวิธีเขียนหรือบรรยายนะ ส่วนเนื้อเรื่องและพล็อตที่วางไว้ต้องตั้งใจว่าเป็นเราคิดเท่านั่นพอ
แถมเขาบอกอีกว่า...เรื่องไหนเขียนไปได้สัก 30%แล้วกระแสคนอ่านยังไม่มาเลยสักนิด
ก็ให้ทิ้งเรื่องนั้นไปได้เลย...ไปเริ่มเขียนโครงเรื่องใหม่ๆได้แล้วอย่ามามั่วเสียเวลา
เพราะถ้าแก้แล้วแก้อีกจนผ่านพิจารณาจริง.....เขาว่ากระแสตอบรับในการขายเรื่องแบบนี้จะไม่ดีเลย โอกาสยากขึ้นในการส่งผลงานให้ สนพ.เดิมพิจารณาอีก
เรื่องชื่ออิ้งเนี่ยกูเคยเจอชื่อตัวละครว่ะ เอาอาชีพ+ความสามารถมาตั้งเป็นชื่อตรงๆ เลย อย่างแม่ทัพ=เวพอน (อาวุธ) หมอสมุนไพร=พาสลี่ย์ (ผักชี)
>>343-347 ปัญหาเดียวกับกูเลย เวลาอ่านนิยายเด็กดีแล้วกูชอบคิดตามอ่ะว่า สำนวนมันไม่ดีถ้ากูเขียนเองกูจะเรียบเรียงสำนวนได้ดีกว่านี้แน่ แต่สุดท้ายกูก็ไม่เคยเขียนอะไรจบซักเรื่อง งานเขียวยาวๆที่สุดของกูเกิดตอนเล่นคอมมูแล้วแต่งฟิคโคเนื้อเรื่องกับผู้เล่นอื่น
บางทีกูก็นับถือว่าดอกปอป สแตมเบอรรี่น่ะ ถึงคุณภาพงานไม่ได้เลิสเลออะไร แต่พวกเค้าก็มีความอุตสาหะในการเขียนให้จบ ตอนนี้กูก็จะลองพยายามเขียนอะไรออกมาให้จบซักเรื่องดูบ้าง
วันนี้งานวันสุดท้าย พวกมึงล้มละลายกันรึยัง
กูยังไม่ได้ไปเลย หมุนเงินไม่ทัน แงงงงงงงงงงงงง
>>350 เกินงบมาหน่อยตอนแรกกะว่าจะสอยนิยายสองเล่มร้อยของHappy banana แต่เดินผ่านบูทสนพแถวS10กว่าๆ เอานิยายมาลดราคา50%เป็นนิยายแปลที่ดังพอสมควร (child44,Artemis fowl,นิยายแปลจากญี่ปุ่น,4แผ่นดิน) บางเล่มก็ได้รางวัลจากต่างประเทศกูเลยคิดว่าแทนที่จะเน้นปริมาณมาเน้นคุณภาพดีกว่าบูทที่กูซื้อเล่มละไม่เกิน100(เพราะลด50%) รู้สึกว่าคุ้มดี
>>355 กูเดาว่าน่าจะเป็นนิยายค้างสต๊อกของร้านว่ะ เพราะหน้าบูทมันจับฉ่ายมาก มีแค่โซนนิยายแปลญี่ปุ่นที่ดูเป็นกลุ่มเป้นก้อนหน่อย คือส่วนมากเป็นนิยายแปลแนวสยองขวัญของเนชั่น (โลโก้NBหัวกะโหลกอ่ะ) ส่วนนิยายแปลเล่มอื่นๆกูเห็นหน้าแผงมีอย่างละเล่มสองเล่ม อาร์ทิมิส ฟาวล์ที่กูหยิบมาก็น่าจะเล่มสุดท้ายของบูทพอดี
อ่อ จริงๆกูเคยเปิดอ่านผ่านๆที่ห้องสมุดมหาลัย กูว่านายน้อยแม่งเบียวนะ 555 อายุ12แต่เทพชิบหาย กูเห็นมีประเด็นเรื่องปกอันล่าสุดเลยซื้อมาลองอ่านดู เล่มละ100ถ้าไม่ชอบก็ไม่เสียดายเงินมาก เท่าที่อ่านกูก็รู้สึกว่าสนุกดีแต่ไม่ฟินอะไรมาก สงสัยกูแก่เกินกว่าจะมาอ่านวรรณกรรมเยาวชนด้วยมั้ง
ฟาวส์นี่อ่านตอนเด็กสนุกนะ แต่ยิ่งโตยิ่งอ่านไม่สนุก
วรรณกรรมเยาวชนสมัยก่อนหลายเรื่องก็งี้เหมือนกัน
เพราะงั้นมั้งแฮรี่มันเลยยูนีค เพราะโตตามคนอ่าน
แถมเล่มแรกๆ ที่เหมือนจะเด็กมันก็มีแง่มุมที่อ่านตอนเด็กคิดไม่ถึด้วย เอามาอ่านตอนนี้ก็ยังสนุก
แฮรี่กูอยากกินอาหารในเล่มของมันชิบหาย น่ากินโครตๆ
Ky กูขอถามเรื่องราคาหนังสือหน่อย การตั้งราคาหนังสือนี่เขากำหนดจากอะไร กูเห็นนิยายแนวเดียวกันจำนวนหน้าต่างกัน (อันนี้เข้าพอเข้าใจ) แต่ราคาต่างกันแปลกๆ อย่างเช่นเรื่อง A มี 350 หน้า ราคา 290 เรื่อง B มี 280 หน้า ราคา 320 บาท ทำไมเรื่องที่จำนวนหน้าน้อยกว่าราคาถึงแพงกว่า
>>359 หลักๆดูชื่อนักเขียนเทียบกันและกระแสของเรื่องนั่นๆ ประกอบ
ถ้า สนพ. ประเมินว่ามีแฟนคลับของนักเขียนมากอยู่แล้ว ก็สามารถตั้งราคาได้ดีได้
เช่นนักเขียนที่มีผลงานติดตลาดหลายเรื่อง กับ นักเขียนหน้าใหม่ที่เพิ่งตีพิมพ์
และอีกอย่างคือปัจจัยคือต้นทุนกระดาษ ถ้าสนพ.ใหญ่ๆ เขาจะซื้อสต๊อกไว้จำนวนมากแบบข้ามปีกันเสมอ
แต่ สนพ.เล็กๆต้องใช้เกณฑ์ราคาในตอนปัจจุบัน
ซึ่งปกติราคากระดาษจะมีการขึ้นทุกปี ปีล่ะ 8-10% ครับ
นี่เป็นนโยบายของ บริษัทรายใหญ่ที่สุดในประเทศของเราที่ผลิตกระดาษออกมาขาย (SCG)
มีวิธีเขียนให้นางเอกหรือตัวเอกเก่งๆแบบไม่จับยัดมั้ยวะ กูเขียนนิยายเกมออนไลน์อยู่เรื่องนึง ไม่ได้ดีเด่อะไรนักหรอก แต่เอามาอ่านเองก็พบว่านางเอกแม่งแมรี่ซูชิบหาย ทำยังไงถึงจะไม่ให้ฉลาดล้ำโลกจนดูน่าหมั่นไส้มั่งวะ
>>362 หาทีมให้มัน เเล้วเเบ่งไปไว้ก่อนเลยว่าใครเก่งด้านไหน พอถึงเวลาอวดฉลาดก็ให้เเต่ละตัวอวดตอนหัวข้อที่ตัวเองเก่งมาถึง เฉลี่ยๆกัน อย่าให้ไปกองอยู่ที่ตัวเอกอย่างเดียว
พูดถึงตัวละครซูเเล้ว ทำไมกูรู้สึกว่าเฮอร์ไมโอนี่จากHRไม่ซูวะ ทั้งๆที่80%ของเรื่องถ้าไม่มีเจ๊เเกสองหน่อหัวเเดงหัวสายฟ้าตายห่าไปเรียบร้อยเเล้ว เเถมรู้ทุกเรื่องอีก เเต่ไม่น่าหมั่นไส้ เเปลก
>>363 มันอยู่ที่แบ่งจุดดีจุดเด่นป่าว กูว่าที่เฮอร์ไมโอนี่ดูไม่ซูเพราะปูเรื่องกับนิสัยนางมาว่าเป็นคนขยัน ชอบอ่านพวกนี้อยู่แล้ว แถมเป็นผู้หญิงรอบคอบ พออยู่รวมกับกลุ่มชายสองหน่อที่ชอบไปลุยดาบหน้าเลยเป็นสมองในกลุ่มไป แต่ถ้าจะจับเฮอร์ไมโอนี่ไปวางตำแหน่งของแฮร์รี่ กูว่านางก็น่าไม่ไหว เพราะงี้เลยไม่รู้สึกว่านางซูมั้ง คือรู้เกือบทุกเรื่อง แต่ไม่ใช่จะทำได้ทุกเรื่อง
>>363 กูจำได้ว่าเคยมีฉากที่เฮอร์ไมโอนี่เคยยอมรับเองว่านางไม่ได้เพอร์เฟคต์ นางรู้แค่ในหนังสือแต่ไม่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำแบบแฮร์รี่
กูคิดว่าเฮอร์ไมโอนี่เก่งก็จริง แต่เก่งแบบไม่มีใครชอบนางเท่าไหร่จนมาเจอสองคนนั้นน่ะที่พอจะเป็นเพื่อนนางได้ ถ้าไม่มีสองคนนั้นนางอาจจะเป็นคนเก่งไปงั้นๆแต่ไม่มีใครสนใจ ไม่มีตัวตนก็ได้
เรื่องตัวเอกหญิงซูๆ นี่กูนึกถึงเซวีน่าขึ้นมาทันทีเลยมึง 55555555
กูว่าเฮอร์มี่เป็นมันสมองให้สองคนได้ แต่ยังไงก็ต้องเคลื่อนด้วยกำลังของสองหน่อนั่นแหละ ยังไม่รวมถึงคนอื่นด้วย
กูว่าน้องเฮอร์เก่ง ฉลาด หลายครั้งก็ตัดสินใจดีมาก แต่ยังไงก็ต้องมีซัพพอร์ตจากเพื่อนว่ะ ไม่งั้นสิบเฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่รอด อีกอย่างเจเคแกปูพื้นฐานมาว่าเฮอร์ไมโอนี่ชอบอ่านหนังสือ ขยันหาความรู้ การที่จะรู้เรื่องนั่นนี่ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ น้องเขาไม่ได้เก่งอยู่คนเดียวจนคนอื่นง่อยเปลี้ยเสียขากันหมด รอนกับแฮร์รี่ก็ช่วยได้เหมือนกันในบางเรื่อง พวกวิชาการ ตำรา หนังสือคาถาต่างๆเฮอร์ก็ช่วยไป เรื่องหมากรุกหรือความรู้ในโลกเวทย์มนต์รอนก็ช่วย เรื่องผจญภัยเอาตัวรอดก็ยกให้แฮร์รี่(ซึ่งอีนี่ก็ทำอะไรโง่ๆหลายหนจนอยากกระโดดถีบ) นี่ล่ะมั้งที่ทำให้ไม่ซู
>>371-372 มองในแง่การเติบโตก็ของตัวละครก็สมจริงดี แต่เขียนน่าเบื่อ เป็นเล่มที่กูอ่านไม่จบ แฮรี่กูอ่านถึงเล่ม4แล้วหยุดว่ะ เล่ม5น่าเบื่อ เล่ม6หยิบมาอ่านผ่านๆ พอถึงเล่ม7กูเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหมดวัยที่จะมาอ่านวรรณกรรมเยาวชนแล้วด้วย(ไม่ได้เป็นแฟนบอยมาตั้งแต่แรกด้วยแหละ) อ่านแค่สปอย
กูว่าตั้งแต่เล่ม 5 เป็นต้นไปมันก็แทบจะไม่ใช่วรรณกรรมเยาวชนแล้วนะ ฆ่ากันตายเหี้ยน ประเด็นเหยียดเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ไรงี้อีก
กูไม่เคยอ่านแฮรี่ตอนที่วัยกูให้อยู่เลยว่ะมึง กูเพิ่งมาหยิบอ่านเล่มแรกเล่มสองเมื่อเร็วๆนี้เอง 5555 ถ้าถามว่าสนุกมั้ย ก็อ่านได้เรื่อยๆอะมึง แต่กูว่าแม่งเลยวัยกูชิบหาย อ่านแล้วมีฟีลบางอย่างที่บอกไม่ถูก กูน่าจะอ่านตอนที่กูยังใสๆอยู่ orz
อ่านเล่มแรก กูนึกว่าดัมเบิลดอร์จะได้กับมักกอนนากัลไรงี้ แบบว่าปิ๊งกันมาตั้งแต่หนุ่มสาวแล้วไม่มีโอกาสได้ครองคู่ ที่ไหนได้ โดนเฉลยว่าเป็นเกย์ไปซะชิบ ตอนอ่านกูรู้สึกตงิดๆกับคำพูดสเนปที่บอกคุณอยู่กับเขาสองต่อสองเกือบทั้งคืน คุณทำอะไรเขาล่ะ แปลว่าสเนปก็รู้เหรอว่าดัมเบิลดอร์เป็นเกย์ เลยห่วงว่าแฮร์รี่จะโดนทำอะไรแปลกๆ
เรื่องดัมเบิลดอร์โดนสงสัยว่าเป็นเกย์ จริงๆ ในหนังสือมันก็มีพูดถึงนะ ในบทความ นสพ ของริต้าตอนต้นเล่มเจ็ดอะ ที่ตั้งข้อสงสัยว่าปู่กับแฮรี่แอบไปทำอะไรกันในห้องสองต่อสองหลายคืน มันต้องมีซัมติงแน่ๆ กุอ่านฉากนั้นแล้วตกใจนิดนึง เพราะวรรณกรรมเยาวชนปกติไม่น่ากล้าพูดอะไรแบบนี้ (แต่ตอนเขียนเล่มนั้น เจเคคงไม่สนใจเด็กอะไรแล้วมั้ง) แต่อ่านตรงนั้นแล้วชอบนะ เจเคคงอารมณ์แบบ เออ พวกมึงจิ้นกันนักใช่มั้ย กุใส่ลงไปซะเลย 555
กุว่าจุดพีคสุดของแฮรี่คือเล่มสี่นะ เล่มนั้นตอนอ่านกุรู้สึกว่ามันอลังการ แฟนตาซีมาก รวมจุดเด่นของเล่มเก่าๆ มาไว้ด้วยกันหมด เล่มต่อๆ มามีแต่ดราม่าเชี่ยไรไม่รู้ มาสนุกอีกทีตอนครึ่งหลังเล่มเจ็ด ที่เอาตัวละครเก่าๆ ทั้งหมดกลับมายิงเวทย์ตะลุมบอนกัน เออแม่งให้ฟีลแฟนตาซีแบบเล่มแรกๆ ดี
จริงๆ ตอนอ่านเล่มห้า สิ่งเดียวในเล่มนั้นที่กุชอบคืออัมบริดจ์ว่ะ รู้สึกบันเทิงมากเวลาอิป้านี่โผล่มาสร้าความฉิบหายในเรื่อง ตอนอ่านสมัยเด็กๆ รู้สึกว่าอิป้านี่เป็นตัวร้ายที่เวอร์ชิบหาย พอโตมาถึงได้รู้ว่าผู้ใหญ่ในโลกแห่งความจริงหลายคนก็ร้ายพอๆ กับป้านี่แหละ
พีคสุดของกูคือ 3-4 อ่านหลายรอบจนเยินไปหมด อ่านกีทีก็สนุก
พอ 5-7 กูเฉยมากกกกกก ยิ่งเล่มสุดท้ายบอกเลยกูอ่านจบแล้วผิดหวังมาก
แต่พอเป็นหนังกูกลับชอบภาคท้ายๆมากกว่าว่ะ
เออ เห็นด้วยว่าพอเป็นหนังคนแสดงแล้ว เนื้อเรื่องดาร์คๆ แบบภาคหลังมันดูสนุกกว่า
(หรือเพราะกุโตแล้ว พอดูหนังโทนเด็กง้องๆ แง้งๆ แบบภาคแรกๆ มันเลยรู้สึกหยึยๆ)
เนื้อเรื่องหลังๆมันดาร์กเพราะมีคนตายต่อหน้าและความรุนแรงในเรื่องอะดิ มันแฝงมาตั้งแต่เล่ม 2 แล้วเช่นเรื่องการเหยียดเผ่าพันธุ์ที่เรียกน้องเฮอร์ว่าเลือดสีโคลน หรือทำกับเอลฟ์แบบสัตว์เดรัจฉานไรงี้ เล่ม3ก็ดาร์กเพราะพูดถึงการทรยศหักหลัง รู้สึกว่าลูปินนี่จะเป็นตัวแทนของคนที่ติดเชื้อเอดส์หรือป่วยเป็นโรคร้ายแรงด้วยมั้ง ใครรู้ก็รังเกียจไม่อยากเข้าใกล้ แล้วก็ตั้งแต่เล่ม 4 เป็นต้นไปที่ปลอมตัวมาฮอกวอตส์แล้วฆ่าพ่อตัวเองด้วยความยินดีเพราะรับใช้โวลเดอมอร์ เอาคนมาทรมานรีดข้อมูลจนเสียสติ พูดถึงความตายและวิธีการตายบ่อย หลังๆนี่ก็ตายกันเป็นเบือเหมือนกัน
ในหนังภาค7 ฉากมักกอนยิงเวทย์ใส่สเนปกูชอบมาก ได้อารมณ์การ์ตูนโชเน็นมากๆตรงที่มักกอนเข้ามาบังแฮรี่ให้ อารมณ์ประมาณว่าหลบไปหนูให้รุ่นใหญ่จัดการเอง
กูชอบฉาก Always เป็นครั้งที่สองที่กูเสียน้ำตาให้หนังสือ
>>382 ตอนนั้นที่กูอ่านยังใสๆอยู่ ตรงข่าวริต้าที่ว่าไปทำอะไรกันกูเลยยังนึกไม่ทัน ตอนนี้เก็ตละ 555
สเนปแม่งเป็นพล็อตทวิสที่ใหญ่โคตรๆ จากหกเล่มเเรกมีคนเกลียดพี่เเกทั้งบาง พอความจริงเผยกลับลำกันชาบูอูร่ากันทั้งนั้น
ระหว่างเซเวอรัส สเนปกับจอร์ราห์ มอร์มอน ใครโดนfriendzonedหนักกว่ากันวะ
ว่าเเต่มันจะมีละครเวทีบรอดเวย์เเฮร์รี่ พอตเตอร์ใช่ป่ะ รู้สึกจะชื่อ HP and the cursed child เป็นเรื่องของเเฮร์รี่กับลูก
ทำไมไม่เขียนเป็นหนังสือวะะะะะ กูอยากอ่านนนน
เฮ้ยย สเนปกะริต้ามีพูดงี้ด้วยเรอะ ไม่ทันนึกเลย กูคงอ่านข้ามแบบไม่คิดอะไร
อ่านเล่มแรกจบกูก็ทีมสเนปละ ยิ่งอ่านๆมาเหมือนตอนเด็กๆจะโดนพวกพ่อแฮรี่bullied เลยยิ่งเห็นใจสเนปเต็มที่
ตอนเล่ม6 เลยเดาทางป้าเจเคได้ว่าคงมีแผน ยังไงป๋าเนปกูก็มีบทหล่อแน่นอน /แค่ลุ้นว่าฮีจะรอดหรือเปล่าเท่านั้น
>>382 สเนปโดนเฟรนโซนยังไม่พอ สุดท้ายลิลี่ดันไปแต่งกะพ่อแฮรี่ซึ่งคอยแกล้งสเนปอีก เจ็บว่ะ
จอร์ราห์กูว่าแก่ไม่เจียม สมน้ำหน้า อันนี้ตัดสินจากคนเล่นในซีรีส์นะ
ทอมริดตอนหนุ่มหล่อบาดใจกูมาก
>>392 ดัมเบิลดอร์กับกรินเดวัลถ้าอ่านแล้วไม่คิดอะไรจะไม่รู้เว้ย เพราะมันก็ความสัมพันธ์แบบเด็กติดเพื่อน เห่อเพื่อน คุยแต่เรื่องที่สนใจกันล้วนๆเหมือนโอตาคุคุยกัน ไม่ได้วกมาเรื่องชู้สาวนัดเย็ด แต่มันมีบอกว่าดัมเบิลดอร์หายไปอยู่กับแฮร์รี่สองต่อสองทั้งคืน มันมีซัมติงอะไรกันหรือออออ
ตอนนี้กูอ่านนิยายลดราคาที่ซื้อมาจากงานหนังสือจบไป 5 เล่ม รู้สึกว่า หนังสือที่ดีแต่การตลาดไม่ดีสุดท้ายก็ขายไม่ออกต้องเอามาขายลดราคาในงาน รู้สึกสงสารนักเขียนสงสารนักแปลว่ะ
อีกประเด็นคือเรื่องราคา พอได้ซื้อหนังสือราคาถูกแล้วนึกถึงนโยบายลดภาษีหนังสือสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่สุดท้ายไม่ได้ทำ(ออกมาเป็นเงื่อนไขลดหย่อนภาษีนิดหน่อนที่แทบไม่มีผลอะไรกับชนชั้นกลางลงมา) หนังสือหลายเล่มดูปกแล้วน่าอ่านมาก แต่เห็นราคาบางทีก็ซื้อไม่ลง ถ้าราคาหนังสือบ้านเราถูกกว่านี้ได้สิทธิลดหย่อนจากรัฐบาล บางทีอุตสาหกรรมการพิมพ์น่าจะโตกว่านี้และคนไทยจะซื้อหนังสืออ่านมากกว่าที่เป็นอยู่ กูก็ได้แต่ฝัน
ถ้าเขียนนิยายแล้วมีพล็อตเฉพาะตอนต้นๆ ตอนจบมีไว้คร่าวๆ ตรงกลางกลวงโบ๋ว แต่มั่นใจว่าตัวละครแจ่มเจิดสุดๆ ทำยังไงถึงจะประคองเขียนไปให้ได้จนจบวะ
กูเพิ่งอ่านแม่ทัพอยู่บนจบ เนือยชิบหาย ทำไมกูรู้สึกเฉยๆวะ ทั้งที่ตอนกูอ่านตัวอย่างกูบ้ามากนะ โคตรอยากได้ พอได้มาอ่านจริงดันอ่านแบบอืดๆ
กูว่าสงสัยพล็อต เหตุการณ์ การดำเนินเรื่องจะตามขนบไปหน่อย น่าเบื่อ กูชอบแค่มุกตลกที่พอจะมีแทรกๆมาบ้าง จบสวยๆ ไม่มีดราม่า ไม่มีลุ้น ....เซ็งชิบ
เอาเหอะ กูเก็บตังค์รอว่าด้วยอาชีพนางสนมต่อแล้วกัน
อีกอย่างกูไม่หวังลุ้นว่ามันจะดราม่ามากขนาดหนักและคิดว่าจบสวยแน่นอน เพราะมันเป็นของแจ่มใส.....
เฮ้ย เรื่องใหม่อีนกฮูก แม่งดองแล้วว่ะ กูไปเจอในเฟสว่าขอแถลงการณ์หยุดอัพ มันบอก บอกเหตุผลไม่ได้จริงๆว่าเป็นเพราะอะไร แต่กูเดาว่า สนพ เมจิคน่าจะไม่เอานิยายเรื่องนั้นมันแล้ว เพราะก่อนหน้าไอ้เรื่องกริมตัวสุดท้ายของมัน จะ มีคำว่า สนพ megic นำหน้าชื่อเรื่องด้วย แต่ตอนนี้ไอ้คำนำหน้าแม่งหายไปแล้ว เดาว่ามันคงเฟลแล้วเลิกอัพ
>>406 ตั้งแต่เล่มแรกที่ช่วยแฮร์รี่ แต่โดนเข้าใจผิดว่าเป็นคนสาปแฮร์รี่ แล้วก็พยายามขอเป็นกรรมการตัดสินเพราะกลัวว่าควีเรลจะทำร้ายแฮร์รี่อีก กูร้องในใจ โถ พ่อคนดี จากนั้นกูก็ไม่เชื่อว่าเขาเป็นตัวร้าย พออลัน ริคแมนมาแสดงกูก็กรี๊ดเขา กูรักเขามาตั้งแต่ sense &sensibilityแล้ว
เวทมนต์ในแฮรี่นี่มีการเสื่อมพลังตามอายุคนใช้รึเปล่าวะ อ่านภาค5ฉากดับเบิลดอร์สู้กับโวลเดอมอแล้วกูสงสัยว่ะ ตั้งแต่เปิดเรื่องมาพ่อมดแม่มดในเรื่องพูดแบบเดียวกันว่าดับเบิลดอร์เป็นคนเดียวที่จอมมารกลัว กูตีความว่า จอมมารกลัว = พลังเวทย์สูงกว่าจอมมาร แต่ในเล่ม5ฉากสู้กันแต่ฆ่าจอมมารไม่ได้ หรือจะเป็นเพราะเลิกช่วงพีคมาแล้ววะ
>>411 น่าจะนะ เพราะตอนพวกพู้เสพความตายนินทาดัมเบิลดอร์ก็มีพูดไว้บ่อยๆว่าเเก่เเละอ่อนเเรงไปมากเเล้ว
เเต่ตอนที่สู้กันที่กระทรวงเวทย์มนต์นี่ในหนังทำให้ดัมเบิลดอร์ดูอ่อนๆ เเต่ในหนังสือนี่ตอนที่ดวลกันดัมเบิลดอร์คุมเกมไว้ตลอดเลย จนกระทั่งโวลเดอร์มอร์หนีไปนั่นล่ะ
The Only One He Ever Feared จริงๆ
>>411 น่าจะเพราะรู้ความลับของโวลเดอมอร์มากกว่าว่ะ เช่นเรื่องฮอร์ครักซ์ที่เป็นความลับสุดยอดของโวลดี้ ผู้เสพความตายอื่นๆไม่เคยรู้ อีกอย่างดัมเบิลดอร์เป็นคนฉลาดมาก ต้องรู้ว่าริดเดิ้ลมันวางแผนจะทำอะไรอยู่แล้วดักทางทำลายแผน เห็นในเรื่องก็ทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อยับยั้งโวลดี้ทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่ เช่นส่งแฮร์รี่ไปเรียนสกัดใจกับสเนป ซึ่งอีนี่ก็ทำไม่สำเร็จ แต่โวลดี้มันเลิกล้วงความลับแฮร์รี่ไปแล้วก็เลยรอดตัวไป หรือใช้งานแฮร์รี่ตามหาฮอร์ครักซ์โดยไม่บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงซักอย่าง แบบที่สเนปบอกว่าหลอกใช้เขาเหมือนหมูที่ถูกส่งไปขึ้นลานเชือด อ่านมาถึงตรงนี้ ดัมเบิลดอร์เองก็เลือดเย็นและน่ากลัวมากนะมึง
อ๋องไก่สนุกวะ ชอบๆ
ดัมเบิลดอร์ไม่ใช่คนเย็นชาหรอกแต่เป็นคนเก่งที่หาคนเข้าใจยาก
พอกรินเดวัลที่เก่งเท่าๆกันเข้ามา ก็เกิดเป็นความรักสินะ
รักข้างเดียวใช่มะ
>>411 โวลกลัวปู่ดัม หลักๆ เพราะความฉลาดรู้ทันของปู่มากกว่า สังเกตจากเล่ม 7 ตอนที่รู้ว่าฮอครักซ์ถูกทำลาย สิ่งแรกที่โวลคิดคือนี่ต้องเป็นแผนปู่ดัมแน่ๆ ทั้งที่ปู่ก็ตายไปนานแล้ว (คือโวลไม่ให้ค่าแฮรี่เลย มองว่าแฮรี่เป็นแค่เบี้ยตัวนึงของปู่ดัมมากกว่า)
ปู่ดัมเป็นคนเย็นชามั้ย? อันนี้กุว่าในใจปู่แกก็รักแฮรี่เหมือนลูกหลานนะ แต่ถ้าไม่ยอมสละก็ไม่มีทางชนะว่ะ
ฉากที่แฮรี่คุยกับปู่ในห้องขาวแมททริกซ์ตอนท้าย ก็เหมือนจะสื่อว่าแฮรี่รู้ว่าตัวเองเป็นเบี้ยของปู่นะ แต่ก็เข้าใจว่ามันจำเป็น แล้วก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไรในตอนจบ
กูเจอเรื่องนี้โดยบังเอิญ งงว่ะ บ้านตั้งกลางโรงเรียนได้ไงวะ เห็นนางเอกเรียนโรงเรียนไฮโซ หรือบ้านรวยเหรอวะ
https://www.se-ed.com/product/-K-Final-รุ่นพี่คะ-รักนะ-แค่อยากบอก.aspx?no=9786160616268
แสตมเบอรี่การันตีคุณภาพว่ามันต้องมีไรประหลาดๆ
กูกำลังนึกอยู่ว่ามันจะเป็นไง ไอ้การมีบ้านกลางโรงเรียนเนี่ย แล้วไอ้พระเอกก็มาเล่นบาสที่สนามของโรงเรียนข้างบ้านบ่อยๆอีก เอาเข้าไป 555
บางทีกูก็คิดว่านักเขียนแจ่มใสคงหมดไอเดียตั้งชื่อจริงๆ เลยมีชื่อแปลกๆเหี้ยๆขึ้นมามากมาย....ว่าแต่บ้านตั้งกลางรร......
กูขอโทษ ตอนอ่านว่ามีผช.มาเล่นบาสที่สนามบาสข้างบ้าน กูเผลอนึกว่าน้องฟินฟินเป็นลูกคนงานเลยได้อาศัยที่โรงเรียน...
ลองมาชำแหละพล็อตแจ่มใสที่สามัญสำนึกหลุดโลกกันเถอะมึง กูขอเปิดด้วยพล็อตที่นางเอกเผาบ้านเรียกพระเอกที่เป็นนักดับเพลิง...
ก็สนามบาสมันอยู่ตรงนั้นจะให้ทำไงวะ บ้านมึงแหละผิดที่ผิดทางอีสัส 55555555
พลอตดูกลวงมาก เขียนเป็นเรื่องสั้น 12 หน้าจบกูว่ายังยาก นี่หนาหลักร้อย
กูว่านักเขียนแม่งเก่งนะที่แถได้ขนาดนั้นจากพล็อตที่สามารถสรุปจบได้ใน 1 บรรทัด
แสตมเบอรี่นี่พูดตรงๆก็น่าอิจฉานะ เขียนเหี้ยอะไรมากก็ขายได้มีแฟนคลับอวย ถึงกับมีโม่งคนหนึ่งบอกว่าเป็นนักเขียนที่แท้จริงเหมือนกันเพราะขายมันขายได้จนสามารถทำเป็นอาชีพหลักได้ อ่ออีฮิเดโกะกับดอกปอบอีกคน ไม่รู้ว่างานฉบับหลังๆพัฒนาขึ้นมั้ย พอดีกูไม่ได้ตามอ่าน
เหมือนไอ้พลอตพวกนี้มันก็มีแต่หน้าเดิมๆแต่งป่ะวะ แบบเป็นนักเขียนหลัก อยู่มาตั้งแต่ยุคแรกแล้วนี่ เขียนอะไรก็ได้มั้งนะ
กูถึงกับไปค้นเลยว่าจูบแล้วตัวขาวนี่ใครแต่ง สแตมเบอรี่เจ้าเก่านั่นเอง
https://goo.gl/u8lD1n
>>436 แสตมเบอรี่ทั้งคู่เลยมึง...
กูเคยเสนอแล้ว นางเอกเป็นสาวไทยได้เป็น ผจก วงเกาหลี ไปมีตแอนด์กรี๊ดแฟนคลับอิจฉาเลยผลักนางตกเหวไปเจอฝูงหมาป่าแล้วพระเอกโดดไปช่วย จากนั้นมีโดนพรัเอกแกล้งโยนลงทะเลเจอฉลาม พระเอกตกใจลงไปช่วย ปิดท้ายมีทะเลาะหนีกลับไทยโดนรถชนหน้าสนามบินความจำเสื่อม พีคสัส คัลท์กว่านี้มีอีกมั้ย
ผลงานเจ๊แตมแม่งหลุดโลกเกือบ 90% เลยว่ะ แต่เรื่องชื่อพิลึกๆ นี่ต้องยกให้เจ้าปลาน้อย
อ่านเรื่องย่อแล้วมันหลุดโลกจนกูอยากชม อยากชมจริงๆนะแบบมันหลุดเกินสามัญสำนึกปกติคนจะคิดได้แล้ว แต่มึงยังคิดได้แถมเอามาแต่งได้ด้วย แบบในหัวมึงเวลาแต่งไม่มีเสียงค้านเลยเหรอวะอะไรแบบนี้
ปล.ถึงอยากชมแต่กูไม่อ่านหรอกนะ
ม่าย กูทำไม่ได้ กูเเต่งโดยไม่มีสามัญสำนึกยังงั้นไม่ได้อะ จะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย 5555
แจ่มใสหมวดวัยรุ่น นิยายดีที่สุดในความคิดกูคือรักดั่งเทพนิยายว่ะ ถึงจะมีจุดไม่สมเหตุสมผลไปมั่ง แต่รวมๆแล้วดีกว่าเรื่องอื่นมาก
>>434 เรื่องนางเอกสามคนไปขโมยรถเจ้าชายเกาหลีทั้งสามคนละกัน ไอ้นี่น่ะขยะวรรณกรรมของแท้เลย ตีพิมพ์ได้ออกมาเสียดายต้นไม้ที่จะเอามาทำกระดาษโครตๆ
ช่วง1เดือนที่ผ่านมากูอ่านนิยายสยองขวัญจบไป8เล่ม เป็นนิยายไทย7เล่ม แม่งทั้ง7เล่มผีแม่งมาแพตเทิร์นเดียวกันเลยว่ะ โผล่ออกมาเป็นตัวๆเจอกับพระเอกนางเอง มีความอาฆาตที่อยากเอาคืน ไล่ฆ่าตัวละครในเรื่อง บลาๆๆๆๆ
พอมาอ่านห้องเรียนที่ไม่เปิดรับ(คนเขียนเดียวกับแมวสามสียอดนักสืบ) ผีออกมาเป็นตัวๆเหมือนกันแต่มีประเด็นน่าสนใจดีออกแนวดราม่าSurreal กูรู้สึกว่าอ่านแค่เล่มเดียวแต่ลึกซึ้งมากกว่านิยายผีของนักเขียนไทยเยอะเลย
KY หน่อย กูจะแต่งเรื่องสั้นที่มีหมาเป็นตัวเอก แล้วหมามันต้องนึกเจ้านายตัวเองยังไงวะถึงจะสมเป็นหมา ระหว่าง "เจ้านายเป็นคนดี" กับ "นัทเป็นคนดี"
>>447 แพทเทิร์นผีไทยมันก็มาจากหนังไทยมั้ง ในร้อยเรื่องแม่งมีแหวกแนวออกมาไม่กี่เรื่อง หนังผีเช่นพวกชัตเตอร์ แฝด ผีสามบาท วิญญาณอาฆาตบลา บลา ก็ต้องออกมาหลอกคน มาฆ่าคนกันทั้งนั้น หนังผีดีๆกูชอบเรื่องเด็กหอ ไม่ได้ออกมาหลอก แต่อยากมีเพื่อน รวมไปกับเรื่องลึกลับในโรงเรียนอีก ก็เป็นหนังที่กลมกล่อมดี
>>449 อ่านเรื่องมอมสิวะ ใช้หมาเป็นตัวดำเนินเรื่อง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดกับเจ้านาย
>>449 เจ้านายมากกว่ามั้งมึง กูว่ามึงลองดูฮาจิมั้ย ดูหนังเกี่ยวกับหมาๆเยอะๆ แล้วกูว่ามึงก็จะเข้าใจเอง
เออมึง มึงเป็นกันมะ เวลาเขียนแล้วเหมือนจะจมไปกับเรื่องที่เขียนมากเกินไป คือเวลากูเขียนเรื่องแต่ละทีนี่กูจะติดวิถีการใช้ชีวิต วิธีการคิดแบบตัวละครในเรื่องมาเลยว่ะ อย่างถ้าเป็นเขาจะทำแบบนี้ จะต้องมีความคิดแบบนี้ คิดซ้ำไปซ้ำมาในหัวจนเผลอโดนตัวละครมันกลืนตัวเองตอนนั้นไปเลย..บางทีก็รู้สึกว่าน่ากลัวแปลกๆ..เอาเป็นว่าพวกมึงเคยกันมั้ย
>>448 กูอ่านจบไปครึ่งเล่ม(มี4ตอนอ่านจบไป2) เท่าที่จับใจความได้คือคนเขียนจะใช้สัญลักษณ์อะไรซักอย่างประจำตอน
อย่างตอนแรกเป็นประตู ตัวเอกเป็นครูแต่ทำตัวไม่สมกับเป็นครูมีการซ้อมบทกับนักเรียนเพื่อให้ผ่านการประเมิน ตอนจบเปิดประตูออกไปนอกห้องไม่ได้เพราะนักเรียนในห้องไม่ยอมรับว่าเป็นครูแล้ว แถมไปมีชู้เลยเปิดประตูเข้าไปในบ้านที่กำลังไฟไหม้ไม่ได้เพราะูกสาวไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นพ่อ
เรื่องที่สองสัญลักษณ์คือแฟลชกล้อง มิกิเป็นลูกนักการเมือง พ่อตายจากอุบัติเหตุ แต่มาปรากฎตัวถ้าตาของมิกิโดนแสงแฟลช ตอนใกล้ๆจบเรื่องมิกิตาย ทุกคนมองเห็นมิกิแต่แม่มิกิมองไม่เห็น เพราะไม่มีความเป็นแม่(มีชู้กับเลขาพ่อ ไม่สนใจว่าลูกตัวเองถูกข่มขืน) แม่มิกิวิ่งไปหาแสงไฟหน้ารถเพราะอยากเห็นมิกิและสามีตัวเอง ตอนจบเรื่องจะสื่อว่าแม่มิกิโดนรถชน
กูอ่านแล้วไม่รู้สึกว่าหลอนอะไรเท่าไรถ้าเอาไปเทียบกับพวกเดอะริงหรือจูออน แต่ก็รู้สึกว่ามันมีอะไรให้ขบคิดมากกว่านิยายผีไทยที่ผีโผล่ออกมาเป็นตัวๆ มีความแค้น มีความหลัง ไล่ฆ่าคน ไล่ทวงความแค้นอะไรเทือกนี้
>>454 ยามิชิไบมันเน้นหลอนแบบญี่ปุ่นๆอ่ะมึง ไม่ไล่ฆ่าไม่เน้น Jump scare แต่หลอนที่บรรยากาศกับความน่ากลัวในการออกแบบผี
แต่ห้องเรียนที่ไม่ยอมเปิดรับไม่หลอนเลย จริงๆนะสำหรับกูไม่นับว่านิยายเรื่องนี้เป็นแนวสยองขวัญด้วยซ้ำ ออกแนวปรัชญามากกว่าเน้นความหลอนอ่ะมึง
คนเขียนตั้งประเด็นสองตอนแรกประมาณว่า "ถ้าคุณทำตัวไม่เหมาะสมจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีคนไม่ยอมรับรับในตัวคุณคุณก็จะมองไม่เห็นวิญญาณของพวกเค้า" (สองตอนหลังกูไม่ได้อ่าน กูอ่านจบแล้วอาจจะมีรีววิวอีกทีถ้ากูว่าง)
ตอนแรกพระเอกฝันถึงเรื่องเก่าว่าไปไม้สกีไปพาดประตูห้องโรงแรมเพราะลืมคีย์การ์ดแล้วเข้าห้องไม่ได้ = ประตูไม่เปิดรับ
พระเอกไปหาชู้ แต่เปิดประตูห้องไม่ได้ ชู้ต้องมาเปิดให้ และมารู้ความจริงทีหลังว่าชู้มีแฟนใหม่ = เปิดประตูไม่ได้เพราะชู้ไม่รักแล้ว
ตอนกลางเรื่องพระเอกไปขอในนักเรียนช่วยซ้อมบทผักชีโรยหน้า เพราะจะมีคณะกรรมการมาตรวจเยี่ยม
พอถึงวันจริงพระเอกเปิดประตูไม่ได้ = นักเรียนในห้องไม่ยอมรับว่าพระเอกเป็นครู
ตอนจบพระเอกไปช่วยลูกสาว บ้านไฟไหม้ แต่เปิดประตูเข้าไปไม่ได้ = ลูกสาวพระเอกไม่ยอมรับว่าพระเอกเป็นพ่อ เพราะรู้เรื่องว่าพ่อมีชู้
เรื่องที่สองเน้นเรื่องแสง พ่อมีชู้เหมือนกัน แต่ชู้กับลูกสาวชื่อมิกิมองเห็นพระเอกได้ตอนที่ตาเจอแสงแฟลช ชู้ทำงานเป็นนางแบบ
แม่มิกิมีความทะเยอทะยานทางการเมืองสูงมาก หวังตำแหน่งทางการเมือง คบชู้กับเลขาของผัวตัวเอง และไม่สนใจลูกสาวเลย
ขนาดว่าลูกสาวโดนชู้ตัวเองพยายามข่มขืนยังไม่สนใจ จนลูกสาวฆ่าตัวตายเพื่อจะไปหาพ่อ
ตอนจบในงานศพลูกสาว ตัวละครทุกคนในเรื่องสามารถเห็นวิญญาณมิกิกับพ่อ แต่คนเป็นแม่ไม่เห็น = สื่อว่าเพราะไม่มีความเป็นแม่และไม่มีความเป็นภรรยาที่ดีเลยมองไม่เห็นลูกสาวกับสามี นางวิ่งไปหาแสงสว่าง สุดท้ายโดนสิบล้อทับ
"คุณผู้หญิง......."
"แสงสว่างใช่ไหม ถ้ามองแสงจ้าๆฉันจะมองเห็นเธอสองคนงั้นซินะ"
อาสุมิหันกลับไปหาบรรดาช่างภาพที่ยืนเรียงรายอยู่ "เปิดแฟลชซิ!! เร็ว เปิดแฟลชใส่ฉันซิ"
ทว่าเหล่าช่างภาพต่างล้มลุกคลุกคลานพากันหนี
"รอเดี๋ยวซิ อย่านะ"
อาสุมิวิ่งไล่ตาม บรรดาช่างภาพหนีกลับไปที่รถของตัวเอง อาสุมิวิ่งตามพวกเขาออกไปที่ถนน มันเป็นคำคืนอันมืดมิด มีรถบรรทุกเปิดไฟหน้าแล่นมา
"แสงไฟ"
อาสุมิเอ่ย "ส่องฉันซิ"
จากด้านหน้า ตาสองตาแล่นใกล้เข้ามา
อาสุมิกางแขนทั้งสองข้างออกและยืนอยู่หน้าตาสองตานั้นราวกับว่าหล่อนกำลังเมาแสงไฟอันเจิดจ้านั้น
ทีนี้ฉันก็จะมองเห็น มองเห็นเธอทั้งสองคน
อาสุมิมัวแต่ยืนยินดีปรีดาจนทำให้ไม่ได้ยินเสียงแตรที่ดังกึกก้อง ทั้งเสียงหวีดร้องของล้อที่ครูดกับผิวถนน
ไม่กี่วินาทีนั้นเอง อาสุมิจะมองเห็นร่างของสามีและบุตรสาวภายในโลกขอแสงไฟสีขาวปลอดที่แผ่กระจายไปทั่วม่านตาหรือไม่นั้น กลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้ไปตลอดกาล
อยากอ่าน battle royale มากเลยว่ะมึง อยากอ่านนนนน
จะนัดเยสกันแล้วๆๆๆๆๆๆ
>>454 จูออนนี่พล็อตแนวผีแค้นเลยไล่ฆ่าแม่งทั้งหมด กูอ่านจูออนครั้งแรกตอนยังเรียนมหาลัย กูรู้สึกว่าภาษาที่ใช้บรรยาย ตัวละคร การเดินเรื่อง มันทำให้นิยายเล่มนี้ดูน่ากลัว ผ่านไปสี่ห้าปีกูมาอ่านนิยายผีไทยที่พล็อตเดียวกับจูออน ผีมีความแค้นแล้วไล่ฆ่าแต่กูว่ากูอ่านไม่สนุกว่ะ
ทั้ตัวละคร บทบรรยาย ฉาก คือมาแบบเดียวกันอ่ะ ตัวโกง(หรือตัวเอก)ไปทำเรื่องเหี้ยๆไว้ ผีแค้น ผีมาฆ่า คนที่โดนหลอกตกใจวิ่งหนีไปให้รถชน วิ่งหนีจนตกตึก ผีสิงร่างแล้วบังคับให้ฆ่าตัวตาย มีอยู่เรื่องหนึ่งผีแม่งจับมือตัวโกงบังคับให้ลั่นไกยิงหัวตัวเอง แถมมีเตะมือให้ปืนหล่นด้วยนะ
กูไม่รู้ว่าอุปทานไปเองรึเปล่าว่าจูออน(และนิยายผีญี่ปุ่น)มันอ่านสนุกกว่า อ่านแล้วได้บรรยากาศของความน่ากลัวมากกว่า บางทีกูคิดว่านักเขียนนิยายผีไทยน่าจะลองเขียนโดยใช้ญี่ปุ่นเป็นฉากแล้วใช้นามปากกาภาษาญี่ปุ่นดูนะ ถึงจะฉีกแนวเดิมๆไม่ได้ แต่อาจจะได้หลอกคนอ่านให้อุปทานไปเองว่านิยายมันน่ากลัวกว่าเดิมก็ได้(มั้ง)
>>465 นั่นน่ะสิ จูออนก็แนวผีแค้นไล่ฆ่านะ แต่ดูน่ากลัวกว่าของไทยไงไม่รู้ว่ะ ดูมาสเตอร์ไมด์จอมวางแผนมาก แบบมึงเข้ามารบกวนกูในบ้าน กูก็จะแพร่ความแค้นให้มึง มึงจงแค้นต่อๆไปแล้วไปฆ่าคนซะไรงี้ เหมือนมันเป็นเชื้อโรคร้ายแรงที่รักษาไม่ได้ ควบคุมไม่ได้อะ เราไม่รู้ว่าเขาจะแค้นเรามั้ย เราเคยไปทำอะไรไม่ถูกใจให้รึเปล่า เทียบกับผีไทย ก็นะ อย่างที่มึงบอกนั่นแหละ กูโกรธ กูสิง กูไล่ กูฆ่า จบ
นิยายผีไทยกูชอบของ เหม เวชกร บทบรรยายไม่ค่อยน่ากลัวนะ แต่หลอนตรงภาพประกอบ กูว่าคลาสิคดี
นิยายผีญี่ปุ่นกูชอบเดอะริง แต่ไม่รู้จะนับเป็นนิยายผีดีรึเปล่า เพราะเล่มหลังๆหักมุมไปคนแนวเลย
ถึงจะใบ้ไว้ในเล่มแรกนิดหน่อยแต่ตอนอ่านเล่มสองแล้วเงิบเหมือนกัน คนเขียนแม่งจินตนาการบรรเจิดสัสๆ เล่มแรกก็ว่าสร้างความแปลกใหม่ให้นิยายผีได้แล้วนะ แต่พอเจอเล่มสองเล่มสามนี่แม่ง เทพ เทพ เทพ!! คิดได้ไงวะ
>>468 ไม่ได้อ่านนานแล้วนะ สปอยจากความจำเก่าๆ ผิดตรงไหนโม่งที่เคยอ่านช่วยแก้ให้ด้วย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เดอะริงเล่มแรกเป็นนิยายผี ซาดาโกะเป็นเด็กที่มีพลังจิต มีภาวะกระเทยแท้ ถูกข่มขืนฆ่าทิ้งในบ่อน้ำ ด้วยความแค้นเลยใช้พลังจิตไปแผ่กระจายความแค้น แถวนั้นมีร้านวีดีโอพอดี ใครเช่าวีดีโอที่มีความแค้นของซาดาโกะอยู่จะตายภายใน7วัน พระเอกมาแก้คำสาปโดยการขุดกระดูกซาดาโกะจากบ่อ
แต่ผิดคาด วิธีแก้คำสาปคือส่งต่อวีดีโอ(ส่งต่อความแค้น)
ภาคสอง สไปรัล ไอ้สัส แม่งหักมุมกลายเป็นนิยายSci fi มีตัวละครหญิงดูวีดีโอแล้วท้อง(ไม่แน่ใจนะรอโม่งอื่นมายืนยัน) ออกลูกมาเป็นซาดาโกะ
ภาคสาม แม่งจากนิยายผีกลายเป็น The Matrix ตอนจบภาคหนึ่งเพื่อนพระเอกตาย แต่จริงๆมันไม่ได้ตาย โลกของภาคหนึ่งเป็นแค่โลกจำลอง(อธิบายไงดีวะ เหมือนโลกเสมือนในหนังThe Matrixน่ะ) เพื่อนพระเอกแม่งอัจฉิระย ไขปริศนาได้แล้วโทรศัพท์หาคนอีกโลก(วิธีคล้ายๆMatrixตอนนีโอกลับโลกจริง) ที่่ตายน่ะไม่ได้ตายแค่ออกจากมิติของโลกภาคหนึ่งไปสู่มิติโลกภาคสาม
พอดีเลย มีใครอ่านเรื่อง เอส บ้างมั้ยอ่ะ พอได้อารมณ์แบบซีรี่ยส์ริงเรื่องเก่าๆ ได้ป่ะ
อ่านแม่ทัพอยู่บนจบแล้วนะมึง กูสงสารน้องซีอิน ฮือๆๆๆๆๆ
>>473 https://www.facebook.com/Talent1Publishing/photos/pb.452108148146447.-2207520000.1446967620./860289307328327/?type=3&src=https://scontent.fbkk1-1.fna.fbcdn.net/hphotos-xfa1/v/t1.0-9/10610585_860289307328327_8855572813354482268_n.jpg?oh=941973047b0ae64fd3ce20b13a33dd19&oe=56F7C068&size=533,759&fbid=860289307328327
https://m.facebook.com/horrorclub.net/posts/10152828069968993
เหี้ย ยิ่งอ่านยิ่งงง 55
เดอะริงเล่มแรกเป็นนิยายผีที่โคตรหลอน แต่ภาคต่อๆมาแม่งทำลายความหลอนและพังเละเทะประมาณว่าอ่านจบแล้วนึกว่า
"ไอ้เหี้ยเล่มแรกมึงหลอกให้กูหลอนซะได้"
จูออนนี่กูอยากได้นิยายเก็บไว้ชิบหาย เสียดายไม่ได้ซื้อ เคยเช่ามาอ่านรู้สึกว่ามันสนุกมาก
แบทเทิ้ลรอยัลกูมีนิยายด้วยล่ะ อิอิอิ นฝแม่งนิยายการเมืองสัดๆ
>>476 แต่พออ่านจบกูกลับรู้สึกว่า ห่า คนเขียนแม่งล้ำลึกชิบหาย กูชอบเล่มแรก และก็ชอบบทเฉลยนะ ถือว่าเป็นนิยายที่หักมุมแบบที่กูคาดไม่ถึง เล่นหลากหลายอารมณ์มาก
>>477 จูออนกูมีอยากจะขายต่อมึงจริงๆ กูอ่านรอบเดียวแล้วพอเลย อืม ว่าไงดีวะ เอาจริงๆ ทั้งฉบับนิยายหรือหนังกูว่าผีมันไร้เหตุผลไปนิด แต่เล่มนิยายมันยังมีหลักเหตุผลมากกว่าหนังอ่ะนะ อย่างน้อยก็รู้ว่าทำไมผัวมันถึงฆ่ามัน เหตุผลมันพอได้ คือนางแม่งก็โรคจิตไม่น้อย
กูอ่านจูออนเล่มแรก อีคายาโกะขนาดมันยังไม่ตาย มันยังหลอน ไปนอนแอบใต้เตียงครูคนที่แอบชอบ เอาเสียงเขามาจิ้นช่วยตัวเอง บรรยายว่าอยากเย็ดครู บลา บลา บลา ผัวอีนี่อ่านแล้วจะฟิวส์ขาดก็ไม่แปลกว่ะ
พอพวกมึงพูดถึงเดอะริงค์แล้วอยากไปขุดมาอ่านใหม่เลยว่ะ เดี๋ยวหาเวลาอ่านดีกว่า
>>479 เหี้ยคิโม่ยขนาดนี้เชียว กูจำอ่านว่าเคยอ่านจูออนสมัยเรียน สงสัยมันคงนานจนกูลืมความโม่ยของนาง 555
ตอนไล่ฆ่าคนอื่นนี่ไม่ต่างจากนิยายสยองขวัญของไทยนะแต่บรรยายได้หลอนกว่าและมีที่มาที่ไปมากกว่า "แค้นเลยไล่ฆ่า"
งานเล่มแรกๆของภาคินัยกูว่าทำได้ดีอ่านสนุกแต่ยังห่างจากวรรณกรรมแปลของญี่ปุ่นอยู่ดี
กูเคยอ่านข้อมูลในวิกิ จำได้เลาๆว่าอีเด็กโทชิโอะมันกลับชาติมาเกิดว่ะ ประมาณโทชิโอะชาติที่แล้วฆ่าครอบครัวหรืออะไรซักอย่างนี่แหละ แล้วกลับมาเกิดเป็นลูกคายาโกะอีกที ผัวมันเป็นหมันใช่มะ เจอบันทึกอยากเย็ดครูเข้าไปอีก ห่าลงเลย 555
กูขอตอบอีกนิด เคยไปอ่านบทความมา เคยมีคนพูดถึงว่าคายาโกะจริงๆ แล้วเป็นซิมโบลของความแค้นว่ะ ยิ่งมีคนตายมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งเหี้ยนขึ้นเรื่อย
ในหนังโรงภาคแรก เหมือนนางเอกมันคล้ายๆคายาโกะ แต่นางเอกเลือกที่จะไม่แค้น อีคายาโกะก็เลยให้นางเอกมาเป็นตัวเองซะแล้วก็โดนผัวฆ่าไรงี้มั้ง
>>483 ไม่เคยดูภาคหนังทีวีเลยว่ะ จำได้ที่อ่านก็ตามนั้นแหละ ภาคหนังใหญ่ก็มีป่ะวะ จูออน2 ที่ย้อนความว่าผัวมันไปคว้านท้องเมียครูแล้วโทรไปบอก สรุปก็ตายเองด้วย อ่านนิยายแล้วกูโคตรสงสารครูกับเมียครู ห่า ไม่ได้ทำผิดอะไรเล๊ย แค่ครูโดนอิสาวโรคจิตมาชอบ+ผัวอิสาวก็ดันโรคจิตที่เมียดันมาชอบครูเลยแค้นจัดฆ่าเมียกับลูกครู ในนิยายบรรยายได้โคตรน่าสงสาร ที่ว่าผ่าท้องควักเด็กออกมาเป็นๆ
>>482 ถ้าอ่านจากนิยายมันก็ลูกผัวมันไม่ใช่เหรอวะ? แต่ผัวมันเห็นบันทึกความโรคจิตของเมียที่เขียนบรรยายว่าชอบครูมากๆ เลยนึกว่าโทชิโอะเป็นลูกชู้ หรือกูจำผิดวะ อ่านเป็น 10 ปีแล้ว ลืมหมดละ
>>485 ผัวมันเชื้ออ่อนเว้ย คือมีลูกได้แต่ยาก แต่ไปเจอบันทึกอีคายาโกะ+คำพูดหมอ ก็เลยทึกทักไปว่าโทชิโอะเป็นลูกชู้ เลยฆ่าเมียเอาไปหมกที่ห้องใต้หลังคา แล้วก็เอาเทปกาวผนึกตู้ที่ลูกมันซ่อนอยู่ให้ขาดอากาศหายใจ แล้วก็บุกไปหาชู้(ที่คิดไปเอง) แต่เจอภรรยาของคุณครูตั้งท้องอยู่บ้าน ก็เลยคว้านท้องเอาเด็กออกมา โทรไปหาครูบอกว่ายินดีด้วย คุณได้ลูกสาว ครูช็อคไปเลย พออีคายาโกะตายโหงไปแล้วก็แค้น เอามีดมาแทงผัว ผลปรากฎคือมีรอยนิ้วมือของคายาโกะที่ตายไปแล้วติดอยู่บนมีด จากนั้นบ้านก็ต้องสาปไปเรื่อย สงสารครูกับคนที่มาอยู่ต่อว่ะ ควรเผาบ้านอีดอกนี่แล้วก็ทำลายวิญญาณมันให้ตายห่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งครอบครัวมันเลย
ไปเจอมาในพันทิป เรียบเรียงไทม์ไลน์ตามนี้ มีเปรียบเทียบกับหนังด้วย
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/A2578452/A2578452.html
พูดถึงนิยายสยองขวัญ กูว่าคินดะอิจิฆาตกรแต่ละตอนก็แอบโหดนะมึง
เออ ลืมบอกไปว่าไอ้ครูที่คายาโกะหลงรัก เป็นครูประจำชั้นของโทชิโอะลูกชายมัน โทชิโอะขาดเรียนไปหลายวัน ครูเลยมาเยี่ยม แล้วก็ตายห่าอยู่หน้าบ้านเลยจ้า ซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง บางทีกูก็สงสัยนะ ว่าไอ้คนที่ตายห่าไปเพราะอีนี่มันก็เยอะนะ ทำไมไม่รุมกระทืบครอบครัวอีคายาโกะวะ ได้หลายตีนเลยนะนั่น
>>490 ถ้าในนิยายกูจำได้ว่า ไอครูเนี่ยเป็นรุ่นพี่ที่คายาโกะปลื้มหรือเพื่อนรุ่นเดียวกันนี่แหละ จำไม่ได้ เมียครูก็สาวสวยของรุ่นถ้าจำไม่ผิด เพราะที่คายาโกะตามไปแฮ่กๆ ใต้เตียงฟังเสียงตอนเค้ามีไรกันน่าจะสมัยคายาโกะมหาลัยป่ะวะ ลืม แล้วจบมารุ่นพี่ก็ดันมาเป็นครูโทชิโอะอีกที ถ่านไฟเก่าอิเจ๊เลยคุเพ้อมโนต่อ อิผัวเลยหึงโหดมโนว่าครูคือชู่เพราะมันดันเสือกมีลูกยาก ยิ่งคุยยิ่งรู้สึกเหี้ยโรคจิตทั้งผัวทั้งเมียจริงๆ 5555
ส่วนเผาบ้านกูว่าแม่งก็ไม่หายป่ะวะ จำได้ที่มันมีภาคไหนวะ จูออนฝรั่งสร้างป่ะ ที่แม่งตามข้ามโลกไปถึงเมกาเลย คายาโกะแม่งนั่งเครื่องบินเป็นด้วยกูอึ้ง ก๊ากกกกกก
กูอยากรู้ จะจัดการอีครอบครัวเหี้ยนี่ได้ไงวะ กูไม่รู้จะเลือกลูกว่าเหี้ยดีมั้ยแต่ตอนเป็นผีหลอนชิบเลย 555
พูดถึงนิยายผีแล้วกูมีเรื่องมาแฉว่ะเกี่ยวกับ สนพ ขี้ลอก
เรื่องมีอยู่ว่าเดือนที่แล้วกูไปเจอนิยายผีลดราคา ราคาปก185 แต่เอามาขายต่อในกะบะ20บาท เป็นนิยายผีที่มีฉากเป็นประเทศเกาหลี
พล็อตแนวเดิมเหมือนผีไทย แต่การเดินเรื่องดีกว่านิยายผีไทยเยอะ ตัวละครมีมิติมากกว่า และมีปริศนาออกแนวสืบสวนสอบสวนในช่วงท้ายๆ
น่าเสียดายตอนจบที่ตัวเอกพากันตายห่า ตามสูตรวิญญาณไม่ไปผุดไปเกิดแล้วต้องหาคนมาแทนตัวเอง
แต่โดยรวมกูชอบมากรู้สึกว่าเป็นนิยายสยองขวัญของไทยที่เขียนได้ดีมากเล่มหนึ่ง
ตรงคำนำนักเขียนเค้าบอกว่าเคยพิมพ์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว และมีนักอ่านหลายคนเรียกร้องให้พิมพ์ใหม่ พี่แกเลยพิมพ์
มาวันนี้กูเอาชื่อนิยายไปGOOGLE โป๊ะแตกเลยมึง ไอ้สัส แม่งก็อปนิยายสำนักพิมพ์อื่นมาขาย เหี้ยจริงๆ กูก็หลงดีใจว่าได้อ่านงานเขียนของนักเขียนไทยที่เก่งๆ หลงดีใจไปว่านักเขียนไทยถึงจะพล็อตเดิมแต่ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ที่ไหนได้แม่งลอกมาจากนิยายเกาหลีนี่หว่า
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=fireflower&date=24-09-2007&group=3&gblog=7
อันนี้ฉบับปี 2550
สถานีผีสิง นวนิยายแนวสยองขวัญเกาหลีเล่มนี้เป็นของนักเขียนชื่อว่า CHA SEUNG WON แปลเป็นภาษาไทยโดย อรายา ประดิษสกุล
อันนี้เล่มที่กูซื้อมา
http://www.gypsygroup.net/index.php?lay=show&ac=cat_show_pro_detail&pid=872962
แม่งแพงกว่าและไม่ให้เครดิตนักแปล แถมในเล่มไม่มีบอกเลยว่าต้นฉบับเป็นนิยายเกาหลี
เห็นพวกมึงคุยเรื่องเดอะริงทำเอากูนึกถึงแปดสามีเลย //เดอะริงกูเคยดูแต่หนังภาคแรกก็นึกว่าเป็นหนังผี ภาคหลังๆ กูอ่านสปอย
กูเกลียดเรื่องที่ตอนจบเฉลยว่าไอ้ที่ผ่านๆมามันโลกเสมือนนะ(ยกเว้นเป็นแนวไซไฟแต่แรก ไม่ได้หลอกด้วยเรื่องผีหรือแฟนตาซี) คือมันดูเหมือนไร้ความรับผิดชอบชอบกล เหมือนกับบอกว่าไอ้ที่ผ่านมานะไร้ค่า ไม่ต้องไปสนใจก็ได้ ไอ้นี้มันโลกเสมือน ไม่รู้กูคิดมากไปเองมั้ย
https://www.mebmarket.com/mobile/?action=BookDetails&book_id=13239
ตกลงมันยังไงกันแน่วะ
ยิปซีเหรอ มันมีคดีเก่าที่ไปลอกเนื้อหาจากเน็ตมาแปะอยู่ ที่ผ่านมากูเลยไม่เคยซื้อหนังสือของสนพ.นี้เลย ถึงหนังสือประวัติศาสตร์หลายๆ เล่มจะน่าสนใจมากก็เถอะ
http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2012/03/K11849655/K11849655.html
ใจเย็นๆพวกมึง
กูไปเก็บข้อมูลมาหมดแระ
คืองี้..เดิมทีเวอร์ชั่นแรกที่พิมพ์ปี 2550 น่ะ มันไม่ใช่ของเกาหลี แต่เป็นคนไทยเขียน โดยโกหกว่าเป็นเรื่องแปล จะได้ขายดี
ชื่อเรื่องภาษาเกาหลี 여고괴담 เอามาจากเรื่อง Whispering Corridors หนังเกาหลีที่ดังระดับนึง มีพากย์ไทยด้วย กูเคยดู (เรื่องย่อมึงเสิร์ชกูเกิลกันเองละกัน)
ส่วนชื่อผู้เขียน CHA SEUNG WON ก็เป็นชื่อดาราเกาหลีคนนึง
สรุปว่า เวอร์ชั่นแรกตอแหลทั้งเพ ชื่อเรื่องปลอม ชื่อนักเขียนปลอม และชื่อนักแปลก็อาจจะปลอมด้วย
ไอ้เวอร์ชั่นใหม่ใช้นามปากกาไทยนี่แหละของจริง
เดี๋ยวนะ..
มึงจะบอกว่า โกหกครั้งแรก ก็มาขายครั้ง 2 หลอกนักอ่านแบบอินเซปชั่นเลยนะ
เหี้ย Inception!!ชิบหาย
อิเหี้ย ซับซ้อนสัดๆ
สรุปตามความเข้าใจของกูนะ เรื่องนี้คนไทยเขียนแต่ย้อมแมวว่าเป็นนิยายแปล แล้วพอได้ตีพิมพ์ครั้งที่สองก็เผยซื่อๆ เลยว่าเป็นนิยายคนไทยแต่ง
ถ้าเป็นอย่างงี้จริง ทำไมมันถึงไม่เฉลยตั้งแต่แรกหรือย้อมแมวทั้งสองครั้งเลยวะ
>>503 >>507 ตอนอ่านสไปรัลนี่เริ่มไซไฟขึ้นมาหน่อยๆ แต่ยังไม่หลุดจากความหลอนของภาคแรก แต่ลูปนี่หลุดออกมาเป็นไซไฟเลย ถามว่าชอบมั้ย กูก็ชอบนะชอบความคิดของนักเขียนที่แบบกล้าเขียนให้หักมุมขนาดนี้ น่าจะเป็นคนแรกๆของโลกวรรณกรรมเลยล่ะที่เขียนนิยายผีแล้วหักมุมเป็นไซไฟ แต่ก็ยอมรับว่าพออ่านเล่มสามแล้วความหลอนของเดอะริงเล่มแรงกลายเป็นไม่หลอนไปเลย(เพราะมองว่ามันเป็นแค่เรื่องในโลกเสมือน)
>>510 ชื่อเรื่องกับชื่อนักเขียนน่าจะปลอมอย่างที่มึงบอก เพราะซ้ำกับดาราและชื่อซีรีย์ แถมไม่ปรากฎหลักฐานต้นฉบับในภาษาเกาหลีด้วย แต่เล่มนี้กูเคยอ่านนะ น่าเสียดายที่สร้างเรื่องลวงโลกเพื่อกระตุ้นยอดขาย ถ้าคนแต่งเป็นคนไทยจริงกูยกให้เหนือกว่างานของภาคินัยอีกนะมึง ตัวละครมันมีมิติมากกว่า กลางๆเรื่องออกไปทางสืบสวนด้วยซ้ำว่าเพื่อนนางเอกใช่ฆาตกรรึเปล่า เสียดายที่ตอนจบกลายเป็นพล็อตหนังผีตามสูตรผีหาคนมาตายแทน
เหมือนนิยายโรแมนซ์หลายๆเรื่องที่ต้องบอกว่าฝรั่งเขียนแล้วตัวเองเอามาแปลป่ะวะ ไม่งั้นไม่มีคนอ่าน
>>518 ตัวอย่างนิยายโรมานซ์ที่คนไทยเขียน แต่บอกว่าฝรั่งเขียนแล้วตัวเองเอามาแปล พอฟีดแบ็กดีค่อยเปิดเผยตัว
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=jackfruit-k&month=07-2012&date=10&group=13&gblog=49
หนังสือประวัติศาสตร์ของสำนักพิมพ์ญิบซี กูมีอยู่สองสามเล่ม ตอนแรกซื้อเพราะเค้าเอามาขายลดราคาที่ ม.กู
กูชอบนะ เขียนได้ดีและรูปเล่มน่าจับ แต่อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆว่ะ
คือเนื้อหาเขียนดีมากแต่ไม่มีอ้างอิงไม่มีบรรณานุกรม ซึ่งผิดวิสัยหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มากๆ
ชื่อคนเขียน วีระชัย โชคมุกดา ก็ไม่คุ้น ไม่อ้างตำแหน่งทางวิชาการ ไม่บอกว่าเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาลัยที่ไหนด้วย
บางบรรทัดก็เว้นวรรคแบบสะดุดเหมือนไปก็อปบทความในเน็ตมาแล้วเรียงไม่ดี
พอเอาชื่อมาค้นในเน็ต นั้นไง มีประวัติลอกงานคนอื่นมาจริงๆด้วย หลังจากนี้ สนพ นี้ ไม่ได้กินเงินกูล่ะ บาย
>>524 เนื้อหาเรียบเรียงดีนะ จริงๆแค่ให้เครดิต ใส่อ้างอิง ใส่บรรณานุกรมว่าเอาแหล่งมาจากไหน กูก็ไม่ติดใจอะไรและ พร้อมจ่ายเพื่ออ่านหนังสือประวัติศาสตร์ดีๆ่านเข้าใจง่าย ที่รับไม่ได้คือการไม่ให้เครดิต ไม่ใส่อ้างอิงเหี้ยอะไรเลย ทำเนียนเหมือนตัวเองเขียนทั้งเล่ม
แบบนี้เนื้อหาดีแค่ไหนก็ซื้อไม่ลงว่ะ
เพื่อนโม่งคิดว่า ถ้ามีการแปล the elements ของ euclid แล้วเอามาตีพิมพ์ขายจะมีคนซื้อเยอะไหมครับ
แค่เรื่องนิยายที่ขายกันเห็นในกระทู้นินทาเด็กนี้วันนี้
https://fanboi.ch/netwatch/1806/recent/
ยังคุยกันเรื่องลงให้จบก่อนขายอยู่เลย........ธุรกิจหนังสือน่าจะลำบากอยู่นะ
ขนาดแนวแฟนตาซีเรื่องที่มีคนอ่านประจำ 5000 กว่าคน วันนี้ยังเมาหมัดเลย 555+
พอดีกำลังคิดเรื่องแปลตำราวิชาการสมัยก่อน เช่น Elements of Geometry ของ Legendre, Principia ของ Newton
เห็นแบบนี้ ไม่ทำละ orz
>>>/netwatch/1806/426 ยอดขายของแจ่มใสสำนักพิมพ์เดียว ก็เกือบๆหนึ่งล้านเล่มต่อปี พิมพ์ขายกันเดือนละแสนเล่ม(อันนี้ยอดที่ขายด้วยนะไม่รวมของเก่าที่ขายไม่ออก) ธุรกิจหนังสือมันใหญ่กว่าธุรกิจการวาดอีกนะกูว่า แค่คนซื้อมาอ่านกันเงียบๆไม่ค่อยออกมารีวิว ผิดกับพวกเว็บคอมมิคหรือธุรกิจสายการวาดที่นักวาดออกมาทำเพจมีแฟนคลับมาคุย
>>532 ที่ไม่ออกมารีวิว..กูว่าเนื้อหานิยายของแจ่มใสมันยังไม่โดดเด่นมากพอว่ะ คือชุดความรู้สึกดีๆมันก็มีดีนะ แต่ยังไม่โดนใจ คนจะรีวิวเรื่องนึงได้ มันต้องมีอะไรกระแทกใจอยู่นะมึง แบบ..อยากรีวิวนิยายเยิ้บงี้ หนูโดนใจความหื่นของนางเอกมากค่ะที่ไล่ปล้ำพระเอก แปลกดี ไม่เคยเห็นมาก่อน โดนใจมั่กๆ แต่เรื่องของแจ่ม...กูว่ามันยังเรื่อยๆมาเรียงๆอยู่อะ ยังไม่มีอะไรมาทำให้พีคพอที่จะจับเรื่องนี้มาวิจารณ์ได้
หุย แต่กูอยากอ่านหนังสือวิชาการดีๆ แปลดีๆ เรียบเรียงดีๆนะ เพราะกูไม่แข็งอังกิดยิ่งพอเนื้อหายากๆนี่อ่านไม่ได้เลย แต่แม่งมันไม่ค่อยมีหนังสือที่ว่าเลยน่ะสิ อย่างเรื่องของอิยิปโบราณ ความหมายของเฮียโรกริฟฟิกแต่ละตัว ตำราก็เสือกเป็นภาษาฝรั่งเศษอีก แถมเก่าจัดจนหายสาบสูญไปแล้วมั้ง เสียดายเหี้ยๆ ความรู้พวกนี้หายไปดื้อๆเลย กูก็ไม่รู้จะไปค้นหาอ่านยังไง อย่าว่าแต่แปลไทย แปลอิ้งก็ยังไม่มี
อยากอ่านหนังสือของนิโคไล มาเคียเวลลี่ด้วยที่ว่าเป็นหนังสือต้องห้ามอ่ะ ชื่อเรื่องว่าเดอะปริ้นมั้ง จำไม่ได้ว่ะ เหมือนจะไม่มีแปลไทย เฮ้อ
อยากเก่งอังกฤษ แต่ไอ้นั่นไอ้นี่ตีกันในหัวกูยุ่งไปหมดเลยว่ะ tenseนั่นนี่ verb.ต่างๆนานา ทำให้กูงุนงง พอมีหนังสือที่อ่านง่ายๆแล้วเข้าใจภาษาอังกฤษบ้างมั้ย เพื่อนกูแนะให้ไปอ่านหนังสือพิมพ์ แต่กูไม่เข้าใจเลยว่ะ
>>542 แผนกขายตำราภาษาอังกฤษ จะมีเล่มบางๆ ของ Oxford,Mcmillian,Penguin แต่พวกนี้จะอังกฤษล้วน
ถ้าเอาแบบมีแปลก็ของซีเอ็ด ง่ายสุดก็ระดับ 1 มันจะมีบอกไว้ที่หน้าปก ลองหาดูนะ https://goo.gl/NN6lI9
พูดเรื่องภาษาอังกฤษ แล้วสงสัยอย่างนึง นึกไม่ออกว่าเริ่ม "เชี่ยวชาญ" ได้ตอนไหนและเพราะอะไร ที่พอนึกออกคือ เคยหาหนังสือพวกเล่มบางๆ ของออกฟอร์ดมาอ่าน
แต่ตอนนี้นี่ ออกแนวภาษาอังกฤษมันชินแล้ว คือ นึกประโยคออกคุยได้ทันที ไม่ต้องเรียบเรียงความคิดเป็นภาษาไทยก่อนเลย
เพราะฉะนั้นก็แนะนำหนังสือเล่มบางๆ ของออกฟอร์ด เพราะอ่านง่าย ไม่ต้องเปิดดิก ทำให้ไม่เบื่อ
กูนินทาสำนักพิมพ์ Freefrom หน่อย หลังปกกับคำนำ สนพ แม่งไม่ตรงกับเนื้อเรื่อง
คือกูซื้อหนังสือลดราคาของสำนักพิมพ์นี้ในงานหนังสือ
ชั่วชีวิตพลเมืองชั้นสอง (Life & Times of Michael K) เห็นว่าคนเขียนได้โนเบลสาขาวรรณกรรมเลยอยากลองอ่าน
แต่ประเด็นคือ บทบรรยายที่อยู่ตรงปกหลังแม่งไม่ตรงกับเนื้อเรื่องในเล่ม
บอกเล่าผ่านชีวิตของไมเคิล เฅ ชาวพื้นเมืองผู้พิการปากแหว่งตั้งแต่เกิด เฅเป็นคนระดับล่างสุดของสังคมที่ดูต้อยต่ำ โง่เขลา แต่ก็มีความฝันบริสุทธิ์สวยงาม เขาประกอบรถเข็นอย่างง่าย ๆ พาแม่ซึ่งกำลังป่วยหนักลี้ภัยสงครามในเมืองใหญ่กลับไปยังเมืองเล็ก ๆ ในชนบทที่สงบเงียบ ตั้งใจจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย โชคร้ายแม่สิ้นใจกลางทาง
คือกูอ่านแล้วแม่ไมเคิลไม่ได้สิ้นใจระหว่างทางว่ะ แต่ตายที่โรงพยาบาล จะว่า "กลางทาง" หมายถึง "ระหว่างเดินทาง" ก็ไม่น่าใช่เพราะแม่ไมเคิลเริ่มป่วยตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเลย พออาการหนักขึ้นไมเคิลต้องเอาแม่ไปส่ง รพ. แล้วอาการทรุดจนตายในที่สุด
ถ้าอ่านเจอจากรีวิวในเน็ตก็ม่ติดใจอะไรหรอก บางคนแม่งอ่านผ่านๆแล้วอาจจะมารีวิว แต่นี่แม่งอยู่ในคำนำสำนักพิมพ์กับปกหลังเลยมึง กูสงสัยว่า บก. ปล่อยผ่านมาได้ไงวะ
กูพยายามอ่านเรื่องสมัญญาแห่งดอกกุหลาบมาเป็นเวลานานมาก แม่งแทบจะเป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์คาหัวนอนแล้ว แต่อ่านไม่เกินสามหน้ากูหลับตลอดเลยว่ะ ทำยังไงถึงจะอ่านให้สนุกได้วะ
The Prince แปลไทยเชิงอรรถละเอียดมากกกกกกกกกนะมึง ถ้าอยากอ่านไปหาซื้อซะเถอะ ดีงามสมควรเก็บ
The Prince ใครเขียน
บอร์ดหายล่มเหรอออออ ขอดีใจมือไม้สั่นแป๊บ
ทำไมสนพ.1168 ถึงรับสมัครบก. บ่อยจังวะ บก.เก่าเขาลาออกหรืองานมันเยอะเกินไป สนพ.อื่นไม่เห็นเปิดรับถี่ขนาดนี้เลย
กูกลับไปอ่านแฮรี่อีกครั้งแล้วรู้สึกว่าสิ่งที่ดีงามที่สุดในเรื่องนี้คือคำบรรยายจิกกัดและถากถางในเรื่องวะ มันเป็นอะไรที่บันเทิงมาก ในนิยายแปลที่กูเคยอ่านมา เรื่องนี้แฝงมุกตลกมากที่สุดแล้ว ยิ่งตอนตลค.เล่นมุก ถากถาง หรือบรรยายความรู้สึกในใจผ่านสีหน้าท่าทางตามคำบรรยาย อีกจุดที่กูชอบมากคือคำบรรยายเรื่องสีสันที่ใช้สิ่งต่างๆ มาเทียบได้เห็นภาพดี ถึงตอนกูอ่านครั้งแรกจะนึกสีม่วงดอกไลแลคไม่ออกก็เถอะ
>>463 กูอ่านจบแล้ว อยากได้ทักมาที่ https://twitter.com/HJC_TE
และเนื่องจากตอนนี้กูมีหนังสือที่อ่านจบแล้วเยอะจนอยากโละออก กูเลยเอารายชื่อหนังสือที่กูอ่านจบมาเสนอ
ใครสนใจเรื่องไหนให้ลงชื่อจองไว้ และเสนอชื่อหนังสือที่จะแลก อัตราส่วน1ต่อ1 จะหนังสือของดร.ปอป สแตมเบอรรี่ ฮิเดโกะ หรือนิยายวายเยิ้บตูดกูรับแลกหมด(อยากเปิดโลกใหม่ๆด้วย ฮา)
http://justpaste.it/oxq9
ปีใหม่มาจัดกิจกรรมแจกหนังสือกันมั้ยมึง ลงชื่อจองกันไว้
กูจัดห้องใหม่ มีหนังสืออยากแจกเยอะเหมือนกัน แต่ขี้เกียจส่งไปรษณีย์ว่ะ
กูมีนิยายอยากโล๊ะทิ้งเยอะมากโดยเฉพาะแจ่มใสกับโซฟา อยากจะให้ฟรีจริงๆแล้วก็นิยายพวกซื้อมาปนๆกันอีกเป็นกอง กูขี้เกียจเก็บละ แต่ก็เหมือนมึงอะแม่งเสียค่าส่งอีก
ผมมีหนังสือของนิ้วกลมและอะบุคหลายเล่ม ขายเล่มละ 20 บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง
รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช่จ่ายบริจาคให้มูลนิธิคนตาบอด ใครสนใจบอกครับ
เดี๋ยววันนี้กลับบ้านไปกูจะมาโละบ้าง มีใครเอาคาเงโร่วมั้ย กูส่งให้ฟรี
กูเหนื่อยกับ 1168 มาก ถ้าไม่ติดว่านักเขียนที่กูติ่งมากยังออกงานกับสนพ.นี้อยู่กูเลิกตามแล้ว แถมงานของเขาก็ดรอปลงเรื่อยๆ พวกนักเขียนประจำก็ออกแต่ละเรื่องมา /ถอนหายใจแล้วกลอกตาเป็นเลขแปดไทย
โม่งติ่งFinchคนเดิม
ช่วงนี้กูรู้สึกอ่านนิยายเรื่องไหนก็ไม่อินไม่สนุกเลยวะ บางเรื่องอ่านไป2-3บทกูก็ไม่อ่านต่อแล้ว เห้ออออออออออออออ หรือว่าช่วงนี้ต้องห่างกันสักพักกับนิยายวะ
>>585 นึกว่ากูหน่ายอยู่คนเดียว... เอาจริงๆ กูนี่เข้าขั้นอคติละ
กูเกลียดสุดตอนเขาเอาพวกของตามตลาดมาขายปั่นราคาแล้วพยายามโยงให้มันเกี่ยวกับนิยายเนี่ยแหละ สัด เรียกพรีเมี่ยมยังกระดากปาก สงสารเด็กหน้ามืดตามัว
เบื่อการเอาเฉพาะเรื่องดังมาหากินซ้ำๆ ซ้ำๆ
ทำงานไม่เป็นระบบ ไม่โปรฯ เป็นโรคเลื่อน แต่อาจเพราะที่นี่เขาพยายามสร้างภาพลักษณ์บ้านๆ เป็นกันเองก็ได้ นำเสนอเรื่องบก.จัง แต่คือกูอคติไง ไม่ได้อยากรู้เฟ้ย
ไม่ชอบการทำงานเขา ไม่ชอบการเอาเปรียบของสนพ. กิจกรรมประกวดทีไรกูข้องใจในความไม่ลงทุนของผลตอบแทนตลอด
ผลตอบแทนนักเขียนใหม่กูก็ข้องใจ ความดีงามเดียวของที่นี่คือพี่ฟิ้นยังคงเกาะค่ายอย่างเหนียวแน่น
1168
ไม่รู้สินะ แต่เห็นปกแล้วเน้น Y หรือเปล่า
กู >>585 นะ จริงๆ กูเคยสรุปไว้ในมู้ก่อนๆ แล้วล่ะเรื่องแนวนิยายของแต่ละคน เนื่องจากกูขี้เกียจตามของคนอื่นนอกจากไอดอลกู (รวมไปถึงขี้เกียจตามเพจสำนักพิมพ์ด้วย) เลยอาจมีการผิดพลาดได้
สรุปสั้นๆ
1.คนเขียนคนไหนจับแนวไหนก็จะเล่นแต่แนวเดิมๆ เปลี่ยนแค่ธีมเรื่องจนกูรู้สึกว่ามันเอาพระเอกมาโมสีตาสีผมและพลังใหม่ป่าววะ
2.ยัดเยียดวายจนเอียน ไม่วายนะค๊า จิ้นขำๆ เนอะ แหมมม เอาพระเอกกับพระรองจูบปากเเล้วเข้าห้องหอเลยมั้ยคะคุณ
3.ฝีมือยังไม่ถึงขั้น คือดีถ้าเทียบในเว็บเด็กดี แต่พอเทียบกับนักเขียนหลายคนจากสำนักพิมพ์อื่นแล้วยังไม่โอเค
4.พระเอกซูมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก(ก.สี่ร้อยล้านตัว) กูไม่ได้รังเกียจสเกลพลังระเบิดภูเขาเผากระท่อมนะ แต่มันไม่ใช่ว่ะ มันเหมือนต่อให้โลกจะแตกในอีกสามวิข้างหน้า ทุกคนสิ้นหวังแล้ว ไม่ว่ายอดนักรบหรือบร๊ะเจ้าที่ไหนก็ช่วยไม่ได้ เพียงพระเอกกระดิกนิ้วก็ช่วยโลกได้ (อันนี้กูหมั่นไส้มาก คนอื่นกูไม่รู้แต่นักเขียนประจำคนนึงชอบเขียนแบบนี้)
5.พล็อตเรื่องยังกลวงๆ มันไม่จูงใจให้กูลุ้นเอาใจช่วยตามว่าพระเอกแอนด์เดอะแก๊งจะรอดมั้ย ถ้าเทียบกับเอนเธอร์ (ในฐานะว๊ายวายเซม) เอนเธอร์นั่นถึงจะโซเกย์ แต่หลายๆ เรื่องมันยังมีเนื้อหาให้กูเอาใจช่วย ดูง่ายๆ ถึงจะรังสีม่วงจะกระจายเต็มเรื่องเหมือนกัน แต่นิยายของเอนเธอร์มีแฟนคลับเยอะกว่า อันนี้หมายถึงก่อนตีพิมพ์ ไม่ได้เอาชื่อเสียงสนพ.มาช่วยนะ
6.กูไม่ชอบ
ยาวไปละ จบเหอะ /ถ้าข้อมูลกูไม่ตรงแย้งได้ กูไม่ได้อัพเดทนานละ >>590 ใช่ นั่นคือสาเหตุเดียวที่1168ยังได้เงินจากกู
>>595 ขอบคุณที่ให้ความกระจ่าง
แสดงว่า สนพ. แต่ละที่คงมีแนวทางของตัวเอง
ปล.ไม่เคยอ่านของ สนพ. นี่เหมือนกัน คือหยิบปกแล้วเดาว่ามันมาทางนี่แน่ๆ เลยวางไว้ที่เดิมเหมือนกัน
แต่กูรู้อย่างหนึ่ง การตัดสินใจซื้อของกลุ่มแนวเฉพาะทางนี่ ส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อง่ายมากๆ
พอดีกูสังเกตจากเว็บ ebook พอนิตรสารแนวเก้งกวางมีมาขายที แม่งขึ้นอันดับท็อปในการขายไปหลายวันมากๆ
>>595 ถูกใจกูมากความคิดมึง พล็อตกลวงตัวละครรีไซเคิลเหมือนพวกแจ่มใส แต่แจ่มใสมันยังมีดีกว่าว่ะ ถึงพล็อตจะซ้ำแต่ตัวละครมันยังแตกต่าง บอกว่าไม่วายแต่แม่งโคตรยัดเยียดตั้งแต่หน้าปก เอนเธอร์กูว่าเอียนแล้วพอเจอ 1168 กลายเป็นมีระดับมากกว่าขึ้นมาเลย เนื้อหาวัยทีนใสๆ แต่ขอประทานโทษ กูอ่านแล้วเหมือนจะใสนอกแต่ขุ่นใน ขายของเกรดบีที่โมเป็นพรีเมี่ยม
เห็นพวกมึงคุยกันแล้วชักหวั่นๆเรื่องสมัครบก.ว่ะ แต่ทำไงได้ มันอยู่ใกล้บ้านกูสุดแล้ว แต่จริงๆก็ไม่หวังหรอกนะ หึๆ
https://www.facebook.com/fay.faylicity/posts/767397643388916
เห็นของสามัญชนนานละ เพิ่งเห็นผีเสื้อ โอย...
จริงปะวะ พวกมึงเล่าให้กูฟังหน่อย
กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าผีเสื้อแม่งมีปัญหาขนาดนี้ คือที่กูเห็นๆไม่มีปัญหาไง
คนที่เกี่ยวข้องแล้วพอจะใกล้ตัวกูนิดนึงงงงงงงงก็ไม่มีปัญหากับสนพ.แต่อย่างใด
สงสัยคงขึ้นอยู่กับว่าเป็น 'ใคร' แล้วสนพ.มั่นใจมั้ยว่าอยากจะมีปัญหาด้วย
ทำเอากูมองสนพนี้เปลี่ยนไปเลย เปลือกๆนี่ดูดีจริงๆ
ขัดแปปเพื่อนโม่งแนะนำนิยายจีนที แนวๆโรแมนติคอะ สนพ.ไรก็ได้ ขอเด็ดๆ ช่วงนี้เบื่อเลยหันมาอ่านนิยายจีนติดใจซะงั้น
ถามหาหนังสือหน่อย
คือหลายปีก่อนกูเรียนพิเศษอิงแล้วมีครูคนหนึ่งเอานิยายอิงมาให้อ่าน(ซีรอกแค่ตอนเดียว ซึ่งกูอ่านได้ไม่จบด้วยเพราะตอนนั้นห่วยอิงมาก) เกี่ยวกับคู่พี่น้อง(พี่ชายน้องสาวมั่ง)ที่ย้ายไปบ้าน และดูมีห้องลับอะไรสักอย่าง รู้สึกเรื่องจะมีชื่อ(ไม่แน่ใจเป็นเรื่องหรือตอน)ประมาณ forbidden อะไรสักอย่าง น่าจะเป็นแนววรรณกรรมเยาวชน
ข้อมูลมันน้อยเหี้ยๆจนกูไม่รู้ว่าจะเจอมั้ยเลย กูไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าถ้าเจอชื่อแล้วกูจะจำได้ ; _ ; แต่คือพอมาตอนนี้แล้วกูคิดถึงและอยากอ่านมาก
ใครเคยอ่านมาเฟียที่รักบ้างวะ ได้ข่าวว่าก็อปการ์ตูนมาไม่ใช่เหรอ แล้วนักเขียนมันเอามารีปริ้นพิมพ์เองอีก ไม่ละอายใจบ้างเหรอวะ
>>610 เคยมีตั้งกระทู้โวยไปแล้ว แต่สนพ.ก็เมินเฉย
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2007/09/A5867548/A5867548.html
>>602
Dreams of Jianghu, ชานชาน >> รักเรื่อยๆ ยุคปัจจุบัน ยังไม่มีแปลไทยเป็นเล่ม แต่มีแปลอังกฤษในเว็บ มีอีกเรื่องของคนแต่งคนเดียวกัน แต่กูยังไม่ได้อ่าน
กมลมังกร >> คนไทยแต่ง นางเอกน่ารักดี เรื่องเรื่อยๆ
ที่ดังๆ มีแปลไทย แล้วกูเคยอ่าน ก็
ตระกูลเพชร >> แนวย้อนอดีต อ่านได้เรื่อยๆ กูชอบเรื่องแรก (จั๋วฉิง+ท่านโหลว) ไม่ชอบเรื่องสอง (กู้อวิ๋น+ซู่หลิง) เฉยๆ เรื่องสาม (ชิงเฟิง+ฮ่องเต้)
ปฐพีไร้พ่าย >> แนวเทพเซียน อ่านได้เรื่อยๆ ก็สนุกดี มีต่อสู้แฟนตาซี แต่ไม่ชอบที่มีฉากล่อแหลมนิดๆ ที่กูไม่คิดว่าจะมีเอง โดยรวมก็ดี
ตำนานรักเหนือภพ >> แนวเทพเซียน กูชอบเพราะมันแฟนตาซี แต่มันแทบจะไม่โรแมนติคว่ะ มีแต่ดราม่า
ที่เหลือที่ดังๆ คนเขาชอบอ่านกัน เท่าที่กูรู้จัก (แต่กูยังไม่ได้อ่านนะ)
สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ แล้วก็ลิขิตเหนือเขนย >> หลินโหม่วแปล ราคาแพงอยู่ มีข่าวเรื่อง Plagiarism แต่เท่าที่กูอ่านที่ลงในเว็บ+เรื่องย่อและสปอยล์ ก็น่าจะสนุกมั้ง... แนวเทพเซียน
ฝันคืนสู่ต้าชิง ลํานําทะเลทราย แม่ทัพอยู่บน เพียงแรกภพ ปรุงรักมัดหัวใจ จอมนางคู่บัลลังก์ จันทราในเรือนเร้น...นึกไม่ออกละ
แต่ถ้าเป็นโรแมนติค กูเดาว่าคงไม่อยากดราม่า ก็คงแนะนำปฐพีไร้พ่ายนั่นแหละ แต่สำหรับกูก็ไม่ได้เด็ดขนาดสุดยอดแบบนั้น (เท่าที่กูเคยอ่าน ก็ไม่มีเรื่องที่กูบอกว่าเด็ดสุดๆ ได้ว่ะ ส่วนใหญ่อ่านได้เรื่อยๆ สำหรับกู)
>>618 ไอ้ข้อนี้กูเห็นชาวบ้านเขาด่ากันมาเยอะแล้ว แต่คนเขียนไม่แคร์ เรื่องภาษา เรื่องพล็อต กูว่าห่วยและกากกว่าแสตมป์เบอรี่กับหัวสมองตีบตันอีก
>>602 กูจำชื่อเรื่องไม่ได้ ของแจ่มใส นางเอกออกแนวซึนนิดๆ+คุณหนูเอาแต่ใจเพราะถูกเลี้ยงมาแบบเจ้าหญิง แต่ไม่น่ารำคาญ พระเอกปราบนางเอกซะอยู่หมัด กูจำได้ว่านางเอกชื่อหลงอู๋ซวง พระเอกเป็นมือปราบของทางการ ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ลืมแล้ว นางเอกเปิดโรงเตี๊ยมขายอาหาร ชอบกินของอร่อยๆ ชอบไปปล้นวัตถุดิบจากคลังหลวง จนฮ่องเต้พี่ชายนางเอก ส่งพระเอกมาปราบ เรื่องนี้ตลกดีเวลาที่เห็นพระเอกขัดขานางเอก
เห็นแจ่มใสจะออกว่าด้วยอาชีพนางสนม มีใครเคยอ่านมั่งมั้ยวะ
>>624 กูวววววว //วิ่งสี่คูณร้อยสวมหัวม้าเข้ามา
กูชอบนะ ตามติ่งอยู่ตั้งแต่ลงเด็กดีใหม่ๆ
เนื้อเรื่องจะเป็นนางเอกยุคปัจจุบันย้อนเวลาไปเข้าร่างนางสนมคนนึงของฮ่องเต้(พระเอก ในเรื่องเรียกหวงตี้)
เดิมเจ้าของร่างไม่เป็นที่โปรดปราณ นางเอกไปเข้าร่างก็ใช้เล่ห์ใช้ลูกเล่นที่เรียนรู้จากยุคนี้ไปเอาตัวรอดจนเป็นที่รักได้
กูว่าจุดเด่นมันอยู่ที่ความเสแสร้งแกล้งเล่นละครของนางเอก ในใจนี่ทั้งแซะ แดกดันพระเอกยับ มีตลกเป็นพักๆ ไม่เครียด
กูชอบตรงนางเอกนิสัยเป็นผู้เป็นคน ไม่เบียว สมเหตุสมผล เก่งบนพื้นฐานสามัญชนอ่ะ
อีกอย่างคือนางโตพอที่จะไม่พร่ำเพ้อไปกับความรัก หรือทำอะไรโง่ๆ แลดูมีสติ
แต่สำหรับคนชอบความโรแมนติกอาจไม่ชอบเรื่องนี้ เพราะจนจบเรื่อง นางก็ไม่รักพระเอกว่ะ...
ข้อเสีย อิเหี้ยยยยย ตัวละครเยอะชิบหาย! กูดูตารางไปอ่านไปบางทียังงงๆ นางสนมวังหลังเป็นโขยงมีชื่อแซ่ชื่อตำหนักแล้วยังชื่อตำแหน่ง แปปๆเลื่อนยศเปลี่ยนชื่ออีกแล้ว กับอีกอย่างคือพวกนางพูดอะไรมีลับลมคมในให้ตีความ บางทีแม่งเปรียบเทียบกับความหมายดอกไม้ใบหญ้า กูนี่ไม่เก็ทเลย
ถึงงั้นกูก็เชียร์ กูชอบนางเอกมาก♥
อ่ะเข้ามาเจอแฉผีเสื้อ... มิน่าได้กลิ่นตุ่ยๆ
ทุกวันนี้กูเห็นพวกสายหนังสือที่ตามไปกดไลค์ให้ลุงมกุฎของผีเสื้อแล้วอนาถใจชิบหาย พวกที่กระแดะใช้ ฅ เสร่อๆ ตามที่ไปเรียนมาจากคอร์สบรรณาธิการของลุงก็เหมือนกัน
กูไม่ชินชื่อแม่ทัพอยู่บนวะ ซย่าอวี้จิ่น แน่ใจนะว่าไม่ได้ชื่อไซย่าอวี้จิ่น แซ่ไม่คุ้นเลย
ลุงผีเสื้อแกชอบสอนอีโก้แปลกๆกะขายฝันให้เด็กว่ะ
ซย่า ออกเสียงแบบบ้านๆก็ เซี่ย
ส่วนอวี้จิ่น กูว่าชื่อเดียวกับชื่อเดิมของนางเอกลำนำทะเลทรายว่ะ
Ky กูแต่งนิยายที่มีธีมหลักเกี่ยวกับพิธีกรรม กูอยากเพิ่มลูกเล่นให้หน้านิยายกู(แต่งลงเน็ต) เลยคิดจะใช้ตัวคั่นฉากเป็นอีโมวงเวท อย่างเช่น 🔯🔯🔯🔯🔯 ถ้าเขียนแบบนี้มันจะรกตาไหม (บทหนึ่งมีให้คั่น 3-4 ฉาก) ถ้ารกไปกูควรใช้เส้นประ (-) คั่นเลยรึเปล่า
กูว่ามันเฟ้อเกิน ถ้าอยากใช้จริงๆ เอาเป็นขึ้นต้นลงท้ายก็พอ
เอาใช้แทน""ก็ได้มั้ง แบบ🔯วิงการ์เดียม เลวิโอซ่า🔯
>>635 ไม่ๆ ตอนท่องคาถากูจะใช้วงเล็บแทน ที่กูจะใช้อีโมคั่นก็ประมาณนี้
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อพี่สาวเดินจากไป ท่าทางพรุ่งนี้จะมีเรื่องร้ายๆ รอผมที่โรงเรียนซะแล้วสิ
🔯🔯🔯🔯🔯
ใต้ร่มไม้ใหญ่หลังโรงเรียน ชิงช้าที่ไม่ใครเล่นมาสิบปีไหวเอนส่งเสียงโยกเยกส่งเสียงเสียดหู ทั้งที่ไม่มีใครเล่นและไร้แรงลมมาผลักดัน
ทำนองนี้อะมึง ถ้ามันเฟ้อไปอย่างที่ >>634 ว่า กูก็จะใช้กับชื่อบทแทนก็ได้ อย่าง 🔯บทที่ 1 ความลับ🔯
ลองหาเริ่อง กฏบัตรขจัดสาวน้อยเวทยฺมนต์ มาอ่านดูสิ ใช้สัญลักษณ์~⭐️ เยอะมาก อ่านแล้วปวดหัว กูเลยไม่ขอแนะนำ
ถ้าไม่บ่อยเกินก็ไม่มีปัญหานะ แฮรี่ก็ใช้รูปสายฟ้าเวลาตัดฉากใหญ่เหมือนกัน
คาถาทำตัวเอียงก็ได้นะ
กูพึ่งรู้แฮะว่าอีโมแบบนี้เปิดในมือถือกับจอคอมมันไม่เหมือนกัน
บนนิยายที่กูเพิ่งซื้อมาหน่อย ชื่อเรื่อง Pulse ปลุกชีพสยอง กูเห็นว่ามันลดราคาจากเล่มละสองร้อยห้าสิบเหลือแค่หกสิบเลยซื้อมา
เพราะเห็นเป็นนิยายแปล แถมกระดาษถนอมสายตาด้วย แค่หกสิบไม่สนุกก็ไม่เสียดายตังค์เท่าไร
แต่อ่านแล้วหงุดหงิดกับตัวเล่มว่ะ พิมพ์ผิดเยอะมาก พิมพ์เกินบ้าง พิมพ์ตกบ้าง บางหน้ากูเจอทีเดียวสามจุด อ่านไม่ถึงครึ่งเล่มกูแน่ใจว่าเจอจุดพิมพ์ผิดไปแล้วไม่ต่ำกว่าห้าสิบจุด ถ้าอ่านจนจบเล่มน่าจะเกินร้อย เปิดหน้าแรกก็ไม่เจอตำแหน่งพิสูจน์อักษร แต่ตัวบก.กับนักแปลมันก็ไม่น่าสะเพร่าขนาดนี้นะ
การแปลในเล่มขัดๆแต่ให้อภัยได้เพราะกูก็ไม่เก่งอังกฤษขนาดมีปัญหาไปอ่านต้นฉบับได้เอง แต่บางจุดก็แปลได้น่าเกลียด
อินเตอร์คอมครางหึ่ง ก็อดดาร์ดหยิบกระบอกขึ้นมาพูด
"ใช่??"
"เพียงต้องการเตือนท่านเท่านั้น ครับท่าน ท่านต้องมาที่ส่วนทดลองภายในยี่สิบนาทีนี้ รถรออยู่พร้อมแล้วครับ"
ไอ้เหี้ย แม่งแปลตรงตัวจาก Yes มาเป็น "ใช่" เนี่ยนะ คือการใช้ Yes แทนการขานรับมันไม่มีในหลักสูตรภาษาอังกฤษชั้นมัธยมเหรอ กูจำได้ว่าเคยีครูสอนกูเรื่องนี้ตั้งแต่ประถมปลายเลยนะโว้ย
ภาษาในเล่มออกจะเก่าๆหน่อย มีการใช้กันแทนฉันบางจุด คำสบภแบบเก่าๆ สัดกะหมา ริยำ อะไรพวกนี้ พอไปปค้นรายละเอียดต้นฉบับปรากฎว่าเป็นนิยายที่เขียนตั้งแต่ปี 90 สรุปว่าสำนักพิมพ์เอานิยายเก่าที่ค่าลิขสิทธิ์ไม่แพง(ตามที่กูเข้าใจ)มาให้นักแปลที่ไม่ค่อยมืออาชีพ บก.ตรวจงานไม่ละเอียด แล้วกะขายแพงๆ(ราคาเต็ม 250) ถ้ากูซื้อมาเต็มราคาคงเสียดายเงิน แต่นี่ซื้อมาในราคาโละล้างสต๊อกเลยถือว่าอ่านเล่นเพลินๆได้ แถมเนื้อกระดาษกับรูปเล่มก็ทำได้ดี
กูขอบ่นแบบ ky แล้วประเด็นเก่าสัสคืออีเรื่องป่าท้ออ่ะแม่งก็มีประเด็นตั้งนานและว่าลอกและคนเขียนก็บอกว่าลอก
(แต่ภาคเหนือเขนยนี่ไม่แน่ใจ ส่วนภาคในอนาคตก็แต่งเองแหละ เพราะเรื่องที่ป่าท้อไปลอกมันเรื่องเดียวและมีประเด็นแค่ภาคแรกนี่แหละ)
พอดีไปเจอคนขุดประเด็นแล้วมีคนมาคอมเมนต์ประมาณว่าแบบ อ่านแค่สนุกไม่สนุกก็พอไม่เห็นต้องไปแอนตี้คนเขียน
กูนี่แทบล้มโต๊ะ ถ้ามึงเป็นคนแต่งนิยายเองมึงจะไม่พูดแบบนี้อีหอก
ยกเว้นมึงเป็นนักเขียนที่ไปลอกเรื่องชาวบ้านมาแปลงแล้วตีพิมพ์ขายอ่ะนะ หาแดกกับความคิดคนอื่นเหมือนกัน 55555555555
Calendar Castle สนุกไหมวะ กูเล็งมาตั้งนานไม่กล้าซื้อ ตอนนี้เห็นสถาลดเยอะพอดี
ทำไมงานมุราคามิของสนพ.กำมะหยี่มันแพงกว่าของมติชนเกือบเท่าตัวเลยวะ เพราะกำมะหยี่ สนพ.เล็กกว่าเหรอ
(กำมะหยี่ 400 กว่า / มติชน 280)
พวกมึง แพ็คหนังสือของสถาพรรอบนี้มีอะไรน่าซื้อบ้างปะวะ//จะหาอะไรมาอ่านเล่นอยู่พอดี
กูว่ากรุ๊ปนั้นของแรงมึง ติ่งอวยไม่ลืมหูลืมตา
สถาพรประกาศผลปกบารามอสรีเมคแล้วว่ะ ไม่มีใครชนะการประกวด แสดงว่าจะไม่มีการตีพิมพ์ใหม่สินะ หรือถ้าจะพิมพ์ใหม่คงจ้างนักเขียนเอง
>>657 กูว่าเพราะคนไม่ค่อยส่งมากกว่าวะ อ่านจากเงื่อนไขคือโครตเยอะ ทั้งปก ทั้งจิบิ บ็อกเซต พินอัพ แถมส่งก็ใช่ว่าจะชนะ เสียเวลาฟรีอีก
>>660 ขึ้นอยู่กับฝีมือนักวาดและรายละเอียดภาพ แต่เท่าที่เคยได้ยินคือภาพหนึ่งขั้นต่ำก็ 3000-4000 เฉพาะปก ถ้ามีพินอัพ ขาวดำ หรืออะไรก็คูณเข้าไป (ถ้าฝีมือเมพอย่าง enfer ก็จะอีกราคาไปเลย) แต่บอกตรงๆ วาดเซตบารามอสห้าเล่มแล้วได้ห้าหมื่น กูว่าไม่คุ้มอย่างแรง
พระเอกแม่ทัพอยู่บน ชื่อ 夏玉瑾
夏 ออกเสียงแบบพินอิน (ละติน) คือ xià
ออกเสียงแบบเวดไจลส์ (โรมัน) คือ Hsia
ถึงแม้คนแปลจะใช้ ซย่า แต่กูอ่านในใจว่า เซี่ย ว่ะ ง่ายดี
ที่กูแปลกใจคือในนั้นก็มีคนแซ่เซี่ย แล้วทำใมพระเอกถึงเป็นซย่าได้วะ การแปลงานควรมีมาตราฐานคำเดียวกันควรแปลให้เหมือนกันทั้งเล่ม ยกเว้นที่คนแต่งระบุไว้เอง อันนี้กูว่าไม่ไหววะ
>>655-656 กูเพลียติ่งในนั้นมากกกก ล่าสุดเห็นเม้นนึงแล้วกูเพลียใจจนอยากจะกุมขมับ เม้นแนวๆว่าอย่าให้ถึงขนาดคุณหลินไม่ขายสามชาติต่อเลย เพราะหนังสือมันสนุก อหหหห มันสนุกจนมึงไม่ต้องสนใจความถูกผิดว่าที่จริงคนเขียนแม่งไปก็อปคนอื่นมาเลยเหรอ กูนี่นั่งอึ้งเลย ควยออลจริงๆ
คือถ้าแม่งอ่านในกระทู้ดีๆก็จะเห็นว่ายังไงคุณหลอนของนางก็พิมพ์ต่อปะวะ อ่านหนังสือครบทุกบรรทัดไหมเนี่ย
โม่ง เรื่องไหนของหสม.สนุกสุดวะ
อยากรู้ว่าเซ็ตนิวบลัดสถาพรเป็นไง เห็นลดราคา
แล้วเมอร์เมดนี่ยังเขียนไม่จบใช่ไหม
>>669 มึงจะเอาเรื่องอะไรของห้องสมุดล่ะ? นิยายแปลหรือเรื่องที่มิรินแต่ง
ส่วนตัวกูขอยกเรื่องห่วยที่สุดที่เคยอ่านมาละกัน แปลจีน : มธุรส มิริน : รักเอย อ่านยังไงก็ไม่สนุก โดยเฉพาะมธุรส
>>676 เออ กูก็ว่าแม่งน่าอ้วก อะไรจะอวยได้ขนาดนี้ ถ้าถามว่าป่าท้อสนุกมั้ย กูขอตอบว่าสนุกอยู่ โอเคเลย แต่มันไม่ถึงกับต้องมาอวยเว่อร์ขนาดนี้
พระเอกเรื่องแม่ทัพอยู่บนแปลเป็นซย่าแล้วมันควรอ่านไง ซ่า หรือ ซะย่า 5555 lol
夏=เซี่ย พระเอกพยัคฆราชของสยามก็แซ่เซี่ยใช้ตัวเดียวกันนี้ละ ราชวงศ์เซี่ยของจีนก็ใช้ตัวนี้ เกิดมากูไม่เคยเจอคนอ่านว่าซย่าเลย
อาจแปลมาจากพินอินมั้ง มันเลยเขียนว่าซย่า เพราะคำว่าเซี่ยเขียนเป็นพินอินก็ Xiá จีนกลางก็ Xia เหมือนญี่ปุ่นแปลไทยจากโรมันจิ Yamato=ยามาโตะ แต่มีบางคนเรียกยะมะโตะ
มันมีนักแปลอยู่พวกนึง ใช้วิธีให้คนรู้ภาษาอ่านออกเสียงให้ฟังแล้วสะกดเป็นภาษาไทยเอาเอง นางอาจจะเป็นพวกแบบนั้นก็ได้...
พ่อง! มึงลืมความวิบัติของสามก๊กพระคลังหนไปแล้วเรอะ!
กูเจอละ https://imgur.com/o1N2HQA ในเรื่องมีใต้เท้าเซี่ย แต่มีพระเอกแซ่ซย่า
ซี+(อี+อา) คือ เซีย xiā เสีย xiá เสี่ย xiǎ เซี่ย xià
เวลาออกเสียงต้องอ้าปากกว้างกว่า
ซี + เอีย คือ เซีย xiē เสีย xié เสี่ย xiě เซี่ย xiè
...กูเข้ามาผิดหวังกับว่าด้วยอาชีพนางสนมของแจ่มใสหน่อย กูชอบแบบแปลอันเดิม ถึงจะดูเมาๆเป็นบางตอน แต่มันก็สนุกกว่าอันใหม่ที่แจ่มใสลงว่ะ TT อ้าก อ่านแล้วอึดอัดหัวใจ555555 ทำเอาลังเลเลยว่าจะซื้อปกแข็งดีหรือเปล่า
งานแปลจีนของสยามดีเพราะบก.เก่งด้วย ประสบการณ์ด้านนี้เยอะ สำนวนค่อนข้างนิ่งแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดจากประสบการณ์คือการพลิกแพลงให้เข้ากับคนอ่าน บก.แจ่มใสใช่ว่าไม่เก่ง แต่ขาดประสบการณ์และความรู้ภาษาจีนแค่นั้นละ
กูมาจากห้องBL เปิดประเด็นถามโม่งห้องหนังสืออยากให้ช่วยวิเคราะห์ความเหมือนของนิยายเรื่องนี้กับบันทึกจอมโจรฯ ที นี่ลิงค์ กูเล่นมือถือไม่สะดวกย่อ ขอโทษด้วย
ส่วนประเด็นนี้ รายละเอียดมีในกระทู้หนังสือห้องBL
ขอเพิ่มเติมข้อมูลให้ด้วยว่า นักเขียนคนนี้เคยออกแฟนฟิคนิยายเรื่องบันทึกจอมโจรมาก่อน และเขียนด้วยสำนวนเดียวกัน (ตีพิมพ์แล้วด้วย)
นางสนมกูแม่งผิดหวังงงงง กูไม่น่าหวังไว้สูงเลยว่ะ ตอนแรกกูล่ะดีใจที่แจ่มแม่งเอาคนแปลคนเก่ามาแปล
แต่ถ้ามึงจะสั่งให้เขาปรับนู่นนี่นั่นตามความพอใจ(และแทนที่ปรับแล้วจะดีขึ้นนะมึงงง แต่ทำไมกูอ่านแล้วมันแย่ลงวะ)
งี้มึงจะให้เขาแปลทำไมวะ
>>690 แปลใหม่มันรู้สึกอึดอัดว่ะ (ถึงโทนเรื่องจะไม่ได้ใสอะไรมากมายก็เถอะ) ถ้าให้ชมแจ่มใสคือแปลได้สวยขึ้น แต่อ่านแล้วมันเฟคๆ อย่างอันเก่าที่คุณนิดแกแปล ก็ทับศัพท์ไปเลยไง เรื่องนี้มันเน้นตำแหน่งนางสนม มันต้องจำเยอะ ยิ่งมาแปลใช้ศัพท์ยาวๆยิ่งงงกันเข้าไปใหญ่
อีกอย่างคือยศจีนบางอันก็แปลเป็นตำแหน่งได้อยู่แล้ว กุ้ยเฟย กุ้ยผิน พวกนี้คือขั้นพระสนม จะเติมคำว่าสนม พระอัครชายาซูกุ้ยเฟย พระราชชายาโหรวเฟย พระสนมเอกเยียนกุ้ยผิน กูอ่านแล้วเหมือนใช้คำซ้ำยังไงไม่รู้ ยิ่งเวลาอ่านเจอตำแหน่งพระอัครมเหสีนี่กูต้องมานั่งคิดละ...คนไหนวะ กว่าจะอ้อว่าหมายถึงฮองเฮา(ที่คุณนิดแกใช้คำว่า หวงโฮ่ว)ก็แดกเวลาไปหนึ่งนาที สงสัยกูจะจำชื่อยาวๆเกิน2พยางค์ไม่ได้ ในความคิดคือยศจีนมันจำง่ายกว่าน่ะ เทียบตารางก็ได้
ปล. สารภาพว่ากูสตั้นคำว่า ตำหนักฟ้าทรงธรรมไปสามวินาที ไม่มีอะไรมากหรอก แต่สมองนึกภาพพรรคคุณธรรมในหนังกำลังภายใน 555555555
ปล.อีกนิด กูล่ะประทับใจที่คุณนิดแปลอันเก่า ตรงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างฮองเฮาเรียกตัวเองว่า เปิ่นกง แต่ดันเปลี่ยนเป็นข้าซะงั้น
กับที่ฮ่องเต้เรียกตัวเองว่า เจิ้น คือสรรพนามนี้มันมีข้อบังคับ อย่างเจิ้น(เรา)นี่ฮ่องเต้ใช้ได้คนเดียว เวลาอ่านมันเลยได้อารมณ์อีกแบบ ไม่รู้แจ่มใสจะเปลี่ยนเป็น ข้า หรือเปล่า กูคงเฟลไปอีกสามส่วน
>>698 พระอัครมเหสีนี่กูอ่านแล้วมัยรู้สึกลิเกยังไงไม่รู้ เหมือนมันไม่เข้าพวก เหมือนกูไม่ได้อ่านนิยายจีนแต่อ่าน
นิยายไทยจักรๆวงศ์ๆสมัยก่อน ถ้าแทนไปเป็นหวงโฮ่วหรือไม่ก็ฮองเฮาไปเลยกูคงไม่มึนๆอึนๆขนาดนี้
ที่สำคัญกูสนับสนุนคุณนิด(คนแปล)เพราะกูชินและชอบสำนวนเขา พอแจ่มใสซื้อลิขสิทธิ์ไปตีพิมพ์กูก็คาดหวังว่า
จะได้อ่านภาษาแปลจริงๆของเขาที่ลงในเวอร์ชั่นเก่า เออ แจ่มอาจจะช่วยปรับแก้ตรงนู้นตรงนี้ให้ดีขึ้นกูก็ไม่เป็นไร
เผื่อใจไว้อยู่ว่ายังไงมันก็คงไม่เหมือนเดิมเด๊ะๆกูก็หวังว่าทางแจ่มจะส่งเสริมให้ดียิ่งขึ้น แต่พอของจริงแจ่มแม่งมาปรับ
(แถมปรับชื่อตำแหน่งซึ่งเป็นจุดสำคัญของเรื่อง)เป็นแบบนี้กูก็ไม่ผิดคาดที่จะเสียใจ เหมือนแม่งมาให้ความหวังกู
>>702 น่าจะใช่ แม่ทัพอยู่บนก็แปลอัครชายาอันไท่เฟย แต่ดันไม่แปลชั้นบรรดาศักดิ์เป็นพระหรือพระยาแบบสยาม แล้วกูไม่ชอบการแปลชื่อเฉพาะด้วย อย่างชื่อตำหนักหรือสถานที่ ให้ดีที่สุดคือให้แปลวงเล็บเอา
>>687 https://www.youtube.com/watch?v=_kfCl-Oh0vU กูฟังแล้วเหมือนคำว่าซีย่ามากกว่าอีก แต่รวบเสียงแล้วคงเป็นเซี่ยะ
เออมึงเห็นคนแปลสนมออกมาอธิบายแล้วปะ พวกมึงว่าไง
>>708 กูก็เข้าใจผู้แปลเขานะ แต่บอกตมตรงว่ากูก็เสียความรู้สึกนิดๆเหมือนกัน ที่กูชอบและตามอ่านอาชีพนางสนมก็เพราะ
ว่ากูติดใจและชอบสำนวนการแปลภาษาของเขา ถึงเขาจะพร่ำบอกว่าสำนวนตัวเองมันอ่อนหัดไก่กาอาราเร่แค่ไหนแต่เพราะสำนวน
แบบนั้นมันถึงทำให้กูติดตามเขามาจนบัดนี้ไง พอเขาบอกทำนองว่าแจ่มใสช่วยปรับนู่นนี่นั่นจนทำให้สำนวนที่เคยไก่กาของเขาพัฒนา(?)
ขึ้น......มันเลยทำให้กูเสียใจ เพราะกูไม่เห็นว่ามันจะพัฒนาตรงไหน อ่านที่แจ่มเอามาลงแล้วตอนแรกกูแทบไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าเขา
เป็นคนแปล สำนวนแม่งทื่อมาก ถ้าแบบเก่าเรียกว่าอ่อนหัดแล้วแบบใหม่นี่กูไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรดี ขาดความลงตัว ไม่เฉพาะชื่อยศสนม
แล้วล่ะ แต่สำนวนแบบจิกกัดของเขาก็หายไปด้วย มันเหมือนไม่ใช่สำนวนภาษาแบบที่กูเคยชอบแล้ว นี่มันนิยายบล็อกเดียวกับแจ่มใส
ชัดๆ ที่ไม่ว่าจะเล่มๆเรื่องไหนภาษาแม่งก็คล้ายๆกันหมด ขนาดชื่อตำหนักยังแปลไทยเลย ก็มันไม่เข้าจะให้มาบอกว่าชอบอย่างนี้กูไม่หลอก
ตัวเองหรอวะ แม่งกูเสียผิดหวังชิบหายไม่น่าหวังสูงเลยตัวกู ส่วนคนแปลกูก็คงจะตามอ่านเรื่องอื่นที่เขาแปลลงต่อเรื่อยๆ ส่วนเรื่องนางสนม
ถึงในเพจกูจะบอกว่าจะซื้อก็เหอะ แต่ขอคิดดูอีกที
กูชอบสำนวนจิกกัดของคุณนิดนะ อย่างที่แซะหวงช่างว่าพร้อมทั้งซอฟต์แวร์ฮาร์ดแวร์ ตอนแรกอาจจะงง(แปลว่าไรวะ) แต่เราก็ได้เห็นมุกแนวฝั่งจีน เห็นสไตล์การแปล เห็นนิสัยนางเอกว่าชอบแซะยังไง ตอนนี้มันอืดๆเหนื่อยๆ แต่ยังไงเขาก็ต้องดูฐานคนอื่นอยู่ดี...
อา สรุปแล้วกูเสียใจพอสมควร รอมาตั้งนาน ตอนแรกกะจะสอยปกแข็งด้วยซ้ำ ตอนนี้ขอคิดดูอีกหลายๆสิบที55555 ถ้าจะสอยก็เพราะชอบคุณนิด งานแปลแรกของเขาด้วย (กูแม่งจะเรียกคุณนิดว่าเจิ้นหลายรอบละ คำว่าเจิ้นแม่งได้อารมณ์กว่าจริงๆ แจ่มใสอย่าตัดเจิ้นของกูออกกกก...)
ว่าไป... เป็นครั้งแรกเลยที่กูชอบงานดิบมากกว่างานแก้5555555
สามัญชนไอ้ บก มันดูกวนตีนๆนะ
พี่แจ่มแกมีมาตรฐานในการใช้คำมาแปลมันก็ดีอยู่ แต่ปจบ.นี้นิยายแปลจีนมันบูมในหมู่ชาวไทยแล้วอ่ะ คืออย่างน้อยมึงไม่เคยอ่านก็ต้องเคยดูซีรี่ย์จีนผ่านตามาบ้างป่ะ อย่างเปาบุ้นจิ้นงี้ แล้วยังสนพ.อื่นๆที่จับนิยายแปลจีนกันจนเกลื่อนตลาด เขาก็ใช้ทับศัพท์กันเยอะแยะคนอ่านก็เข้าใจป่าววะ กูว่าพี่แจ่มมีมาตรฐานมันก็ดี แต่ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยด้วยไหมว่ามันไปถึงไหนแล้ว คนเข้าใจภาษามากขึ้นแค่ไหน
กูว่าแจ่มเปลี่ยนมาตรฐานมาทับศัพท์บ้างก็ได้ ไอ้พระอัครชายานี่ไม่เท่าไหร่ แต่จักรพรรดินี่...ใช้คำว่า 'ฮ่องเต้' คนอ่านก็ไม่ไปเปิดกูเกิ้ลถามหรอกว่าคือใครป่ะ แหม่
/แอบเมาท์เรื่องคุณนิด กูไปอ่านที่เขาอธิบายในเพจมาละ กูว่าเขาให้ความสำคัญกับการ 'เป็นหนังสือ' มากไปเปล่าวะ คือเข้าใจว่างานแปลชิ้นแรกแล้วก็จะเป็นหนังสือเล่มแรก แต่พอกูไปอ่านตัวอย่างที่แจ่มเอามาลงนี่ ตัดเรื่องคำศัพท์ไทยๆไปนะเอาแต่สำนวน กูว่าเขาเกร็งว่ะสัมผัสได้เลย ยิ่งอ่านที่เขามาอธิบายว่าพยายามแค่ไหนกูยิ่งรู้สึกชัดว่ะ แก้จนความผ่อนคลายจิกกัดมันกลายเป็นความธรรมดาดาษดื่น กูเห็นมาหลายรายละ นักเขียนหลายคนตอนลงเน็ตก็มีเอกลักษณ์ดี แต่พอจะตีพิมพ์เอาเรื่องตัวเองไปรีไรท์จนเสน่ห์ที่เคยมีแม่งกลายเป็นธรรมดาไป
กูเข้าใจแล้วก็เห็นใจคุณนิดนะ ชอบเขาตามงานเขาด้วย แต่กูอยากให้เขามั่นใจมากกว่านี้ว่ะ ใครก็ได้เอาไปบอกเขาทีกูเป็นโม่งในเงามืด ตามเงียบๆส่องอย่างเดียว
กูว่าแจ่มใสแม่งก็ยัดเยียดแนวทางการแปลของตัวเองให้เขามากไปรึเปล่ามึง กูอ่านแล้วก็คิดว่ามันไม่ใช่ว่ะ
ถึงเขาจะออกมาชี้แจงให้แจ่มใส ว่าแจ่มใส 'แค่' ให้ใส่ตำแหน่งนำหน้าชื่อ กับ แปลศัพท์จีนเป็นไทยทั้งหมด ก็เถอะ แน่ใจว่า "แค่" เพราะ "แค่" เท่านี้กูสัมผัสได้เลยว่า เขาแปลแบบเกร็งๆ เหมือนอย่าง >>714 บอกว่ะ อ่านแล้วกูว่ามันจืดชืดแล้วก็ไม่น่าติดตามเหมือนของเก่า
ส่วนใหญ่ก็บอกว่าของเก่าดีกว่า เรื่องที่เขาออกมาอธิบาย กูอ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ เหมือนที่เราชอบๆกัน เขาออกมาบอกว่ามันยังไม่ดีพอ มีทักษะไม่พอ ตอนนี้ได้ไปขัดเกลากับทางแจ่มแล้วมีประสิทธิภาพขึ้น แจ่มเขาเชี่ยวชาญ แจ่มเขามืออาชีพ แจ่มเป็นมือโปร ย้ำๆ วนๆ ยังไงก็บอกไม่ถูก เหมือนว่าแจ่มอาจแนะนำแนวทางไป เจ้าตัวเขาก็เชื่อแบบเชื่อมากๆ
ไม่รู้ดิ คือแจ่มจะยัดเยียดให้เปลี่ยนมาเป็นสำนวนแบบแจ่มเองเลยได้เหรอ ถ้าเจ้าตัวเขาไม่เห็นชอบกับโจทย์ที่แจ่มให้ ดูเจ้าตัวก็ดีใจที่พัฒนาขึ้น(?)อ่ะนะ
ตอนนี้คิดว่าถึงจะชอบแบบเก่าก็คงไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว อยู่ที่ว่าจะตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อตามอัธยาศัย
กูก็ตามเขามาตั้งแต่ยังไม่มีวี่แววตีพิมพ์ มาพิมพ์อะไรแบบนี้ก็รู้สึกแปลกๆว่ะ เหมือนจะด่าเขา แต่กูไม่ได้จะด่านะเฮ้ย
บก.แบบนี้จะว่าดีก็ดีจะว่าแย่ก็แย่นะ ข้อดีคืองานจะมีมาตราฐานไกล้เคียงกันไม่ขาดไม่เกิด แต่ข้อเสียคือขาดความเป็นเอกลักษณ์ของคนแปลกับคนแต่งไป ยิ่งนิยายจีนยิ่งลำบาก มาตราฐานวงการนี้สูงกว่าอังกฤษหรือญี่ปุ่นมากนัก เพราะคนอ่านเคยชินกับความเป็นจีนมากกว่า ข้อผิดพลาดเลยเห็นได้ง่าย
กูคิดว่าสไตล์แจ่มใสคือการฆ่าเอกลักษณ์ของนักแปล ซึ่่งไม่ได้บอกว่ามันดีหรือไม่ดีนะ ถ้าดูหนังสือแปลญี่ปุ่นในเครือ Bliss & Talent ก็จะเป็นสไตล์เดียวกัน คือไม่ว่าใครแปลก็จะออกมาเป็นสำนวนเดียวกันหมดคือสำนวนบ.ก. ในแง่หนึ่งมันก็คงจำเป็นเพราะซีรี่ส์ยาวๆ ใช้นักแปลหลายคน ถ้ามีหลายสำนวนมันคงประดักประเดิดใช่เล่น แต่ก็น่าจะเป็นที่อึดอัดสำหรับนักแปลที่อยากสร้างชื่อหรือมีเอกลักษณ์ส่วนตัวสูงๆ เหมือนกัน เจ๊หลินเลยมาทำค่ายของตัวเองดีกว่า คิดว่านะ
พวกมึงว่านิยายจีนค่ายไหนแปลดีสุดวะ
จริง ๆ กูซูฮกป้าหลินนะ แต่พิจารณาองค์ประกอบโดยรวม (รวมทั้งราคา) แล้ว กูชอบแจ่มที่สุดว่ะ
รองลงมาก็สยาม ป้าหลิน
ส่วนหสม. เอาบ๊วยไปกิน
กูว่าเจิ้นของพวกมึงเนี่ยให้ความรู้สึกเหมือนโอนี่จังของฝั่งญี่ปุ่นว่ะ อันนั้นเถียงกันมาจะสิบปีแล้วก็ไม่ได้ข้อสรุป
เรื่องคำทับศัพท์มันเถียงกันไม่จบหรอก ต่างฝ่ายต่างมีมุมมองของตัวเอง ฝั่งลูกค้าที่เข้าใจวัฒนธรรมของต้นฉบับผลงานดีก็อยากให้ทัพศัพท์หรือเลือกคำแปลที่ใกล้เคียงที่สุด แต่ถ้าทำแบบนั้นก็อาจทำให้เสียโอกาสได้ลูกค้าใหม่ คนที่ไม่คุ้นพอเจอทับศัพท์รัวๆบางคนจากที่สนใจเปลี่ยนใจไม่ซื้อเลยก็มีนะ คือไม่ว่าทางสำนักพิมพ์จะเลือกแบบไหนก็มีคนไม่พอใจอยู่ดี
ข้อสรุปของกูคือ อยากแปลอะไรก็แปลไป ถ้าเจอแปลไทยกูก็ auto translate ให้มันทับศัพท์ในหัวเอง จบ
>>719 มึงคงอ่านแต่นิยายรักสินะ กูพอเดาได้หลายๆ อย่าง
ดีสุดยังไงกูก็ว่าสยาม ยิ่งกำลังภายในยิ่งเด็ด อีกคนที่กูชอบคือคุณเบียร์ที่แปลหลังคาโลกกับบันทึก
รองมาก็มติชน กุนซือทะลุมิติแปลได้ดีทีเดียว เชิงอรรถอะไรครบ ข้อเสียคือเรื่องนี้ไม่สนุกแค่นั้นละ พี่ตี๋ก็ไม่เลว แต่กูไม่ชอบแนวสืบสวนเลยงั้นๆ นอกนั้นก็ไม่เลว กูซื้อหนังสือเกี่ยวกับจีนของมติชนบ่อยเลยมั่นใจสำนวนแปลกับบก.อยู่
รองมาอีกก็ป้าหลินตอนแปลพิภพพญามังกรกับBoss จินตนาการพิศดาร เรื่องหลังกูชอบมาก แปลโดยไม่ใช้เชิงอรรถมากไป มีการใช้ชื่อจีนแล้ววงเล็บความหมายต่อท้ายอย่างที่กูชอบ ตลค.นึงแปลได้เด็ดมากคือ"เหี้ยไม่มีใครเกิน" เป็นครั้งแรกที่กูเห็นคำว่าเหี้ยในหนังสือแบบนี้ด้วย แต่ตราบาปป้าหลินคงไม่มีอะไรเกินราชาแห่งราชันย์หรอก อันนั้นแปลไทยทุกอย่างจนน่ารำคาญ ป้าแกคงรู้ตัวเลยเขียนในช่วงคนแปลว่ารู้สึกว่าแปลไม่ดี เลยขอเอาBossมาแปลแก้ตัว
ของกล้วยก็ไม่เลว ตอนแปลขันทีกับ8สามีก็พอได้ แปลสำนวนคนแต่งเป็นเอกลักษณ์ดี ถึงข้อเสียจะเหมือนเรื่องกุนซือคือไม่สนุกก็เถอะ นอกนั้นก็ไม่ร้ายแรงอะไร
แจ่มใสกูอ่านเรื่องแรกคือแม่ทัพอยู่บน สำนวนแข็งมากจนน่ารำคาญ กูอ่านของน.นพรัตน์จนชินแล้วอ่านไม่ลื่นเลยเวลายกสุภาษิตมา ส่งถ่านกลางหิมะ สามคนลือกลายเป็นเสือ ข้อนี้ก็ว่าไม่ได้ สมัยน.อ่านของว.ณะเมืองลุงก็บอกว่าสำนวน ไม่ตายไม่รู้สำนึก ไม่สละสลวยเลยประเป็น ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจนเป็นสำนวนติดปากไป ความลื่นของสำนวนตรงนี้หักลบไปพอควร บทสนทนาเข้าใจว่าเป็นมาตั้งแต่ภาษาต้นฉบับที่ค่อนข้างสมัยใหม่เลยมองผ่านได้ แต่ยังไงกูก็ติดใจแซ่ซย่าอยู่ดีวะ
>>720 เข้ามายกมือเรื่องทับศัพท์ คนรู้จักเราอ่านงานแปลของป้าหลินไม่ได้เลย พวกเปิ่นกง หนูปี้ หนูนา จะหวงโฮ่ว หวงช่างอะไรแล้วแต่ เค้าบอกว่าน่ารำคาญ
นิยายจีนจำชื่อลำบากยังต้องมานั่งจำชื่อพวกนี้อีก กูว่าแจ่มเลือกเดินทางสายกลางว่ะ เอานักอ่านทั่วไปไว้ก่อน แต่ส่วนตัวกูรับได้ว่ะ แปลให้ออกมาอ่านรู้เรื่องก็พอ
ถ้าเรื่องมันสนุกมันก็สนุกเองนั่นแหละ
>>721 เข้าใจผิดแล้วมึง นิยายจีนเรื่องแรกที่กูอ่านสำนวนจำลอง พิศนาคะ ถัดมาคือ ว ณ เมืองลุง น.นพรัตน์
กูสายกำลังภายในมาตั้งแต่ม.ต้น เพิ่งมาเริ่มอ่านแนวรักเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง
กูว่า น. แปลดี แต่มีเอกลักษณ์ชัดเจนเกินไปจนแปลได้แนวเดียว ถ้ามาแปลแนวปัจจุบันหรือเกมออนไลน์ก็คงไม่ไหวป่ะ
ขณะที่คุณเบียร์สำนวนทันสมัยดี อ่านง่าย กูเฉยๆ ไม่ชมไม่ติอะไร
แต่เห็นบนๆ คุยกันแนวนิยายรักไง กูก็เลยถามเกี่ยวกับนิยายรัก
กูชอบแจ่มใสเพราะแปลเรียบร้อยดี อาจจืดไปหน่อยถ้าเทียบกับสำนวนเก๋าๆ ของสยาม
กูเพิ่งอ่านแม่ทัพอยู่บนจบ ก็ชอบนะ แล้วแต่คนมั้ง
ส่วนของป้าหลินจะอ่านยากนิดนึงสำหรับมือใหม่ แต่ถ้าชินกับทับศัพท์แล้วก็คล่องขึ้น
>>723 สยามแทบไม่จับนิยายรักเลยนิ น.แกเลือกงานด้วย ถ้ากอเหล่าซินแสไม่ขอให้แปลพี่เสือแกไม่อยากแปลหรอก สำนวนแกก็เปลี่ยนไม่ได้เพราะคนอ่านไม่ยอม ชื่อเสียงโด่งดังไปก็มีปัญหาของชื่อเสียง และแกคงไม่อยากเปลี่ยนแนวของตัวเองแล้วละ
แม่ทัพอยู่บนไม่ใช่ไม่สนุกนะ กูอ่านแล้วก็สนุกเฮฮาดี แต่สำนวนจืดไป ขัดๆ เป็นบางจุด อ่านแล้วรู้เลยว่าทำใมคนถึงชอบกัน กูเห็นหน้าจวนจีฮุนลอยมาแต่ไกลเลย น่าทำเป็นซีรี่ย์ยัยแม่ทัพตัวร้าย กับท่านอ๋องเจ้าสำราญมาก
กูขอ KY นิด ฟังจากที่พวกมึงพูดกัน กูเลยได้ไปนั่งอ่านอาชีพนางสนมในเด็กดีเลยว่ะ อ่านไปได้สิบกว่าตอนล่ะ กูชอบมากนะเนี่ย รู้สึกว่านางเอกเรื่อยๆ มาเรียงๆ ดีแต่เอาตัวรอดแบบนี้ยังอ่านสนุกกว่าพวกผลาญ พวกเพชรของหสม.เป็นกอง ถ้าเป็นแบบนี้กูกลั้นใจเก็บแบบเป็นเล่มก็ได้วะ
กูเข้าใจที่แจ่มใสพยายาม(หนักมาก)แปลให้เป็นไทยนะ อย่างเพื่อนกูอ่านยศ อ่านตำแหน่งจีนไม่ได้เลย นางขี้เกียจจำ แต่กูคือโตมากับหนัง/นิยายจีนไง เลยชินไปแล้ว มีท่านจั่นเจาเป็นรักแรก55555 พอมาเจอคำซ้ำแล้วอยากจะเขวี้ยงของ จำยศไทยไม่ได้โว้ย เดี๋ยวมเหสี เดี๋ยวชายา ยาวไปไหนเนี้ย ทำตารางเทียบให้กูเลยนะสัส
บ่นอีกนิด ว่าด้วยฯนี่ตอนแรกในเพจมีสองกรุ๊ปเว้ย คือพวกติดสำนวนคุณนิดแล้วรับไม่ได้กับคนที่ชอบแล้วจะซื้ออ่ะนะ กูไม่ว่าอะไรหรอก รสนิยมใครรสนิยมมัน กูไม่ชอบ กูก็บ่น แต่ดันมีพวกแบบ ทำไมต้องว่าแจ่ม เขาก็ทำออกมาได้ดีแล้ว ดูดีขึ้นจากเดิมมากๆ สวยงามและเป็นวรรณกรรม พวกคุณไม่มีมารยาท .. เดี๋ยวนะ มึงจะชอบก็ชอบไป แต่กูไม่ชอบ กูต้องหุบปาก นั่งกุมไข่แล้วเลียขาแจ่มว่าเลิศค่ะ ดีงามที่สุดค่ะพี่งั้นเหรอวะ
แต่กูจะตอบกลับก็ไม่ได้ รุ่นพี่ว่ะ55555 เลยต้องแวะมาบ่นในโม่ง เพราะนางไม่เล่นโม่ง ......
จำได้ว่ามีในนี้เคยอ่าน ลิขิตเหนือเขนยไว้ กูได้อ่านเล่ม1-2 แล้วค้าง ช่วยสปอลยกูหน่อย
พวกมึงกูถามจริง แจ่มใสเคยโดนดราม่ากรณีมาก่อนมั้ยวะ แล้วถ้ามีหนังสือรอบนั้นมั้นแก้มั้ยอ่ะมึง
กูว่าแจ่มใสไม่แก้หรอกว่ะ สนพ ใหญ่ไงมึง ถึงไม่ต้องง้อพวกที่อ่านจากเว็บมาก่อนก็ยังขายได้ มันไม่ฟังเสียงนักอ่านอย่างเราหรอก แต่กูคนนึงล่ะ ถ้าไม่แก้ให้ดีเท่าเก่า กูก็ไม่ซื้อมันละ ตอนแรกว่าจะสั่งปกแข็งแท้ๆ เสียความรู้สึกมากว่ะ คหสต
อันใหม่ที่แจ่มเอาลงนางเอกใช้คำแทนตัวว่า 'เธอ' ถึงว่าทำไมกูไม่ค่อยชินเท่าไหร่
เรื่องชื่อยศตำแหน่งอะไรนั่นกูเริ่มจะปลงละ แต่กูมาแปลกๆสำนวนแทนดูเหมือนฉบับใหม่จะเปลี่ยน
ไปเยอะพอสมควร โดยเฉพาะตอนที่นางเอกเจอพระเอกครั้งแรกที่สวนดอกท้อ อันเก่ากูรู้สึกนาง
จิกกัดมากกว่านี้นะ กูไม่น่าติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่เวอร์เก่าเลยมันเลยทำให้กูยึดติดอันนั้นไปแล้ว
พอมาเจออันใหม่ที่มันไม่โอเค(สำหรับกู) มันเลยปรับตัวไม่ได้ ถ้าสมมติกูไม่เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อน
แล้วไปเจออันใหม่ของแจ่มใสเลยก็คงรู้สึกสนุกกว่านี้
อันนี้ของเวอร์แจ่มใสตอนที่ 2 http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1408854&chapter=2
อันนี้เวอร์ชั่นแรกที่เจิ้นแปล ตอนที่ 2 http://my.dek-d.com/nitt-hyacinth/writer/viewlongc.php?id=1240968&chapter=2
กูว่าอันของแจ่มมันก็คงจะดีสำหรับคนที่อ่านนิยายจีนแรกๆจะได้ไม่สับสนมั้ง หรือไม่บางคนก็อาจจะชอบแบบนี้ก็ได้
แต่ที่มันมีกระแสก็เพราะส่วนมากคนอ่านเรื่องนี้เคยอ่านที่ลงในเน็ตมาก่อนซะมาก และชอบภาษาของเจิ้นพอได้ตีพิมพ์
ก็ดี๊ด๊าดีใจกัน รอกันนานจนแจ่มใสโชว์ปกเรียกกระแสแล้วหย่อนตัวอย่างมาให้มันก็ตู้มเลย งานนี้
กูกำลังคิดว่าถ้าสมมุติมีตำแหน่งสนมที่ต่ำมากๆขึ้นมา มันไม่กลายเป็นเจ้าจอมมานดาแบบไทยไปเลยเรอะ
รู้สึกว่าไทเฮาเขาจะใช้คำว่าพระพันปีนะ
พอพูดถึงพระพันปีแล้วกูดันนึกถึงของเกาหลีแทน ทำไมวะ.....
>>741 คำว่า สาร ต้องใช้ว่า สาร ถูกแล้วนี่มึง http://www.royin.go.th/?knowledges=สาสน์-สาส์น-และ-สาร
>>740 พระพันปี กูก็นึถึงเกาหลีว่ะ... สรุปคือจะเอาทั้งจีนไทยเกาหลีว่างั้น ?
แล้วคนด่าเยอะมากมหาศาลบานตะไท หน้าเพจแจ่มใสเสือกยังเงียบเป็นเป่าสาก มีแต่อัพเดทข่าวเรื่องอื่นๆ ไม่มาตอบว่า ตกลงจะแก้หรือไม่แก้ ซะด้วย
แต่คนด่าขนาดนี้ กอง บก. คงเสียหน้ากันล่ะว่ะ เลยทำเป็นนิ่งสยบความเคลื่อนไหว แต่ในใจคงยิ่งกว่าไฟสุม 5555
แล้วกูไปอ่านที่คนแปลขึ้นในเพจแล้วยิ่งขำ คนแปลได้เรียนรู้อะไรเยอะมากกว่าเดิม ? กูว่านะ กอง บก. ควรจะไปเรียนการแปลกับคนแปลด้วยมากกว่าว่ะ เรื่อง ว่าด้วยการเลือกใช้คำยังไงให้สนุก แม่ง แค่บทแรกกูก็ไม่อยากอ่านต่อแล้ว 5555
กูว่าพระพันปีก็ไม่เลว
ลองอ่าน คห.ที่ 7 กระทู้นี้ดู http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2011/11/K11316129/K11316129.html
แต่ตำแหน่งมเหสี ชายา สนมอะไรนั่นกูชอบแบบจีนมากกว่าอยู่ดี
เรื่องเคน นักสืบพลังจิตอะไรสักอย่างของ kula นี่สนุกมั้ย เห็นโปรลดราคาอยู่ กูกำลังอยากอ่านแนวๆ ตัวเอกเป็นนักสืบหรือคนมีพลังพิเศษมาสืบคดี แต่งานของคนนี้อีกเรื่องชื่อโยคีน้อยหรือราวๆ นี้ล่ะไม่สนุกเลย เสียดายตังค์+เวลาอ่าน ใครเคยอ่านเรื่องเคนรบกวนชี้แนะกูที
มึงกุถามหน่อยนะ ใครเคยสั่งหนังสือมาทางไปร แล้ว ปรากฏว่ามุมหนังสือมันยุบ หรือโดนกระแทกแรงๆ ไรเงี้ยบ้าง คือกูสงสัยว่าถ้าได้แบบนั้นมา มันเป็นความผิดใคร
ระหว่างไปร กับ ต้นทางที่ห่อพัศดุ ที่รู้ว่า มันต้องมีการกระแทกแต่ห่อเหมือนห่อมางั้นๆ
(ห่อที่กุว่าคือ ห่อพลาสติกกันกระแทก2ชั้น แต่มันเปผป็นบ็อกเซ็ตนะ) กับ พนักงานไปร ที่มาส่ง
แล้วกรณีที่เสียหายแบบ หนังสือยุบไรงี้ แจ้งขอเปลี่ยนไปได้มั้ยวะ?
>>751 บ๊อกเซตยังยุบ อีเหี้ยไปรโหดสัส ส่วนใหญ่ไปรไม่รับเรื่องนี้ ถ้ายื่นไปก็เงียบไม่ก็ปัดความรับผิดชอบ(แต่สำหรับกูเป็นความผิดไปรวะ)
ต้องรองถามทางที่ส่งดู ว่ารับเปลี่ยนให้ได้ไหม?
ซึ่งถ้ารับเปลี่ยน มึงต้องเสียค่าส่งเองส่งกลับไปให้เขาแล้วเขาจะส่งใหม่มาให้ (บาง สนพ นานนะ)
ถ้าไปรษณีย์รับผิดชอบเขาจะตีราคาความเสียหายเท่ากับของที่เสีย ไม่เกิน1000- 2000 จ่ายเป็นเงินอะ แต่ถ้าของ ไม่แตก ไม่เละขนาดใช้ไม่ได้มันจ่ายยากมาก (แค่ยุบมันไม่จ่ายหรอก )
>>751 ห่อพลาสติกกันกระแทก2ชั้น ถือว่าดีมากพอแล้วว่ะ ไปรผิด 80% อีก 20% คือมึงผิด ถ้ารู้ตัวว่าตัวเองต้องการของสภาพ 100% เลือกสั่งให้ส่งทางไปรถือว่ามึงพลาดตั้งแต่แรกแล้ว แล้วไม่ต้องแจ้งเรื่องไปทางสำนักพิมพ์เลย ต่อให้เค้ารับ ส่งมาใหม่ก็มีความเสี่ยงจะเน่าเหมือนเดิม
ทู้นี้คุยเรื่องนิยายในเน็ตได้มั้ย ใครมีนิยายในเน็ตเรื่องไหนสนุกๆแนะนำบ้าง
tirkx ล่มไปที ไม่มีนิยายอะไรจะอ่านเลย
ในเด็กดีก็เยอะเกิน ไม่รู้เรื่องไหนหนุกบ้าง
แนวไหนก็ได้ แบบแปล หรือคนไทยแต่งก็ได้
(ขอยกเว้นแค่พวกนิยายอีโมค่อน แจ่มใสวัยรุ่น หรือฮาเร็มอะ)
>>756 เรื่องอะไร
นิยายในเน็ตตอนนี้ไม่ค่อยมีไรอ่านวะ กูไม่รังเกียจเกมส์ออนไลน์ หรือต่างโลกนะ แต่อ่านไปหงุดหงิดไป ไม่รู้จะเรียกว่าคลิเช่หรือพาโรดี้หรือลอกดี
บางเรื่องเขียนสนุกหน่อยก็มีแฟคเตอร์ที่กูไม่ชอบเต็มไปหมด อย่างสกิลโกงซูๆ เขียนอวยพระเอกแบบโง่ๆ ฮาเร็มติดควยแบบง่าวๆ ถ้านิดหน่อยพอได้ แต่รวมแล้วไม่อยากอ่านวะ
นิยายแปลในเด็กดีก็กากเกิน ภาษาอังกฤษคนแปลห่วยกว่าแรงงานโรฮิงยายังกล้ามาแปล กูอ่านจรกภาษาอังกฤษเองยังสนุกกว่าอีก
>>757 อันนี้ว่ะ http://writer.dek-d.com/PlerngRF/story/view.php?id=1399812 กูไม่รู้ว่าแปลกากรึเปล่า แต่ก็อ่านเพลินดี บางเรื่องก็ขนลุกจริงๆแบบไอ้ 191 บางเรื่องก็อ่านแล้วอื้มเฉยๆ
เปิดประเด็นแป้บ แพนเจียจบแล้วนะ ปาหมอนชิบหาย คนเขียนแม่งมุกตันแน่ๆ
พูดเเล้วนึกขึ้นได้ ไอ้เรื่องศาตราวุทจักรวาลออนไลน์ก็จบแล้วนี่หว่า มันจบโอเคมั้ยวะ หรือพระเอกมีความเกรียนอะไรทิ้งท้ายอีกมั้ย 555 แล้วมึงว่าคนเขียนจะมีงานอีกมั้ยหรือดังเรื่องเดียวแล้วดับเลย อิๆ
เออ กูอยากรู้ว่าไอ้ที่ทำกันต่อๆมา มันเรียกว่าลอกหรือคลิเช่ เช่นโลจิคนิยายตบจูบในละครไทย พระเอกต้องหล่อเวอร์ รวยเจอร์ นางเอกต้องเสียตัวให้พระเอก เมื่อก่อนอาจจะเป็นกระท่อมปลายนา ฝนตกพรำๆ ตอนนี้อาจจะเมาแล้วเย็ดกัน หรือพระเอกซื้อตัวนางเอกมาจากพ่อแม่ที่ติดหนี้แล้วเอามาเย็ดไรงี้ ใครๆก็เขียนได้ไปทั่วแบบนี้ มันควรจะเรียกว่าลอกหรือคลิเช่กันแน่วะ
พูดถึงนิยายออนไลน์ กูรอ Evolution online อยู่ พวกมึงมีใครรู้จักเรื่องนี้มะ ยุคเดียวกะ Pride กะ Monster soul อ่ะ เกิดทีหลังหน่อย
คือกูรอเรื่องนี้อยู่นานละ รอหลายปีละ แต่คนเขียนที่เหมือนจะไปเปิดร้าน (รึแต่งงาน?) ก็เงียบไปกะสายลม กูเสียดายว่ะ พวกมึงมาโหยหวนเป็นเพื่อนกูหน่อย
>>764 กูเคยชอบเรื่องนี้ช่วงแรกๆนะ จนถึงราชามังกรมานี่ละกูถึงเลิกตาม อันนี้ที่กูเคยวิจารณ์ไว้ >>>/subculture/1467/164/
ประติมากรแสงจันทร์ ของเกาหลีอะ ใครอ่านปะ แรกๆสนุกดี หลังๆเลิกอ่านไปละ
ตัวเอกเก่งเวอร์ ลักษณะนิสัยตัวละครที่ไม่พัฒนาไรเลยจนน่ารำคาญ ถ้ามันจริงจังกะชีวิตจริงแบบในเกม ป่านนี้คงรวยไปนานละ -*-
>>768 กูชอบนิยายเกมส์ออนไลน์ของเกาหลีที่มันเป็นLinage base ไม่เหมือนของไทยที่เป็นราชาแห่งราชันย์ base ระดับพลังเลยไม่เฟ้อ พราะเอกจะว่าเก่งก็เก่ง แต่ไม่ใช่ไร้เทียมทาน1vs100 ตอนหลังโดนรุมก็แพ้เหมือนกัน ยังอยู่ในระดับเกมส์ออนไลน์อยู่
แต่นิสัยมันไม่ค่อยพัฒนาจริงๆนั่นละ พูดให้ถูกคือมันยืดไป 40กว่าเล่มยังไม่จบเลย พัฒนาการแต่ละอย่างก็ช้ามากถึงมากที่สุด ที่ดูพัฒนาที่สุดคือโซยุนที่เปิดใจรักพระเอกในที่สุด นอกนั้นแทบไม่มีอะไรเลย
>>768 >>769 กูชอบนางเอกเรื่องนี้มากกกก ซอยูนเป็นนางเอกนิยายแนวนี้ไม่กี่คนที่กูเอ็นดูไม่หมั่นไส้ พัฒนาการเรื่องนี้กูชอบตรงควบคู่กับโลกความจริงไปด้วย แถมฮาแบบเต็ม max นี่แหละ หลังๆพระเอกมันจะเริ่มรู้สึกดีๆกับซอยูนอยู่นะเว้ย เริ่มมองว่าทำไมอยู่ด้วยแล้วถึงต้องอยากแกะสลักภาพเธอไว้ มันโรแมนติกมากกกกกมึง ถึงจะโดนความงกกับนิสัยแปลกๆของพระเอกพาเขวไปหลายรอบก็เถอะ (กูเอือม = =' แล้วมันมีฮาตรงคนแปลทั้งไทยทั้ง eng ก็เอือมด้วยนี่แหละ 555)
กูอ่านฉบับแปลอังกฤษไปไกลแล้ว บอกเลยว่ากูไม่ผิดหวังเลยว่ะ หลังๆยิ่งสนุกนะมึง ไม่มีดรอปเลยเรื่องนี้ สำหรับกู
>>751
เออ มึง กุเอง 751 นะ งั้นกุขอเปลี่ยนคำถาม ถ้าของที่ได้มา บ็อกเซ็ตยุบ แต่หีบห่อกุไร้รอยใดๆ ทุกประการ และห่อด้วยกันกระแทก 2 ชั้น
อันนี้ ใครผิดวะ /ลูบหน้า
กุไม่ได้กวนนะ แต่กุสับสนนิดๆ คือ ของได้มา กล่องปกติมาก ห่อกันกระแทก 2 ชั้น หนามาก แต่บ็อกเซ็ต มุม ยุบ หนัสือยุบเช่นกันที่มุม
ตอนแรกกุก็คิดว่าไปร แต่ ถ้าเป็นไปร กล่องมันน่าจะยุบด้วยปะวะ ... คือคงไม่แลกคืน แต่กุแจ้งทางสนพ สนพบอกความผิด ไปร
กุขอไม่เอยชื่อ สนพ กับ เอารูปกล่องมาลงนะ
คือ กุแค่สับสนชีวิตน่ะ กุคิดเอาเองว่าสนพ เอาของิสียมาให้กุแล้วโทษไปร ...... แต่กุก็กลัวคิดมากไป
กูเคยไปห้องสมุดเล็กๆของสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เห็นมันมีการ์ตูนนิยายอ่านเล่นเลยหยิบออกมา ทันใดนั้น กูก็เห็นการ์ตูนซ่อนอยู่ข้างหลังอีก ด้วยความที่ไม่มีอะไรอ่านเลยหยิบออกมา... การ์ตูนวาย.... เรทด้วยสัส สมัยเก่ามากมากกกกก กูนี่มองด้วยสายตาเลื่อนลอย แล้วก็นั่งอ่าน(ฮา)
ที่ห้องสมุดฟุกำลังถกประเด็นคลิเช่หรือลอกของ ri-ne ที่ออกสาปล่าสวรรค์กับเอนเตอร์โคตรมันส์เลย เผื่อใครสนใจไปอ่านดูนะ
จะว่าไป กูจำได้ว่าสมัยนิยายเด็กไทยเขียนเพิ่งบูม หลายเรื่องเลียนแบบบารามอสกันใหญ่ แต่ก็ยังได้ตีพิมพ์ เเล้วก็จะมีคนมาพูดราวๆนี้เหมือนกัน เฮ้อ... ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยสินะ
ว่าไปนิยายขึ้นหิ้งไทยหลายเรื่องก็ลอกชาวบ้านมานินะแบบพวกของคึกฤทธิ์
เรื่องลอกวรรณกรรมแม่งก็เป็นสันดานของคนไทยมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วแหละ
ตอนที่รู้ว่าเพชรพระอุมาลอกสมบัติพระศุลีกูโคตรเสียความรู้สึก
ถ้ามึงจะว่าลอกนิยายคือต้องลอกมาเป็นย่อหน้าต้องเหมือนถึงขั้นบรรทัดต่อบรรทัดถึงจะบอกว่าลอก
ถ้ามึงจะบอกว่าเขาลอกคาแรกเตอร์ตัวละคร มันต้องชัดระดับมากกว่านี้ ไม่งั้นก็เรียกแค่ว่าได้แรงบันดาลใจ เหมือนคิรัวส์ HxH กับ คิล ในบารามอส (กูรู้เลยว่าคนเขียนแอบก๊อปคาแรกเตอร์แต่คิลมันอายุมากกว่า มันผมสีดำ จะว่าลอกก็ไม่ได้ เรียกได้แค่เป็นแรงบันดาลใจ)
>>785 กูเป็นโม่งที่ใส่ประโยคที่มึงยกมา มีอะไรมึงถึงยกจากห้องนั้นมาห้องนี้วะ ได้ข่าวว่าเถียงกันอยู่ห้องนั้น
มึงเป็นอะไรมากป่ะเนี่ย กูแค่อยากขวางพวกมึงว่าจะว่าจะยุใครไปไฟว์กับเจ้าของเรื่อง มึงควรรวบรวมหลักฐานให้มากกว่านี้ก่อน เพราะกูดูหลักฐานที่มึงยกมาแล้ว มันยังไม่ชัด ยังดูเลื่อนลอย กูเจตนาดีนะมึง แต่แค่กูขวางมึงก็หาเรื่องกู กูผิด?
>>785 นิสัย&สกิลคล้ายๆ ทายาทนักฆ่า ต่างแค่อายุที่ห่างไม่กี่ปีกับสีผม(lol) แต่ที่สำคัญสำหรับกูคือ"ชื่อ"
อย่างน้อยคือกูขอแค่ชื่ออ่ะ ถ้าชื่อไม่เหมือนกูอาจจะมองผ่านๆ ว่าเป็นแรงบัลดาลใจก็ได้ นี้ถึงขั้นที่ชื่อเหมือน(คิรัวร์ มีชื่อเล่นที่พี่ชายเรียกว่า"คิล")
คือแค่ชื่อยังจะเอาของhxhมาใช้ แบบไม่คิดจะตั้งใหม่ แล้วมึงเรียกว่าเป็นแรงบันดาลใจ กูก็ไม่มีอะไรจะพูดกับมึงต่อล่ะ เสียเวลา
>>788 อ้าว ก็แล้วทำไมมึงไม่ไปเถียงกันห้องโน้นต่อ เถียงกันเสร็จไปสิบชาติ เสือกมาต่อประเด็นยกมาที่ห้องใหม่ มึงต้องการอะไร ? เอาชนะ ? เพื่อ ?
ดีแล้วมึง สะบัดอีกรอบขอให้ไปจริงๆ มึงสะบัดใส่กูมารอบนึงที่ห้องนั้นแล้ว เสือกมาเฝ้าในห้องใหม่ต่อ คนที่ไม่เลิกราคือมึงนี่แหละ
>>789 อีสัสนี้ ว่าจะไม่ตอบแล้วนะ มึงอย่ามาเบียงประเด็น กูไม่ได้เข้าห้องสาววาย กูไม่ใช่ฟุ กูอยู่แต่ห้องนี้ เห็นคนยกประเด็นมากูก็ว่าตามนั้น ยังไม่ได้ไปอ่านห่าอะไรที่ห้อง801เลย
โห๊ยย นี้ยิ่งคิดว่ามึงนี้จะอะไรกับกรณีนี้นักว่ะ นี้มานั่งมาดีเฟนต์ให้ถึงห้องนี้ จำเลยตัวจริงจากห้องนั้นมาเองป่าวเนี้ย แล้วเอาไง "คิล"นี้ลอกมั้ย หรือยังจะว่าเป็นแรงบันดาลใจอยู่อีก
>>782 ถามว่า"พูดเหมือนบารามอสนี้ไม่ได้ลอกอะไรมาเลยเนอะ" แล้วกูเห็นมึงใน>>>/801/2130/123/ พูดเรื่องนี้เลยเอามาตอบ และกูขอบอกเลยว่ามึงพูดได้เหี้ยมาก วันหลังกูไปลอกใครมาแค่เปลี่ยนนิดหน่อยก็ถือว่าไม่ลอกแล้วเหรอวะ งั้นมึงคิดไงกับภาพข้างล่างนี้ละ นี่คือกันดั้มเกาหลีและชาร์ ออง บุค(กูตั้งชื่อเอง) สีเสื้อไม่เหนือก็เป็นแรงบันดาลใจแล้วสินะ
แม่งคาบเกี่ยวกันหมด แรงบันดาลใจกับลอกเนี่ย
สรุปให้นะ
ในห้องสาววาย มีคนสงสัยงานเขียนต้องสงสัยว่าลอกเรื่อง บันทึกจอมโจรแห่งสุสานมา
แต่จุดที่ยกมาว่าลอกมันฟันธงอะไรไม่ได้ว่าลอก ไม่ชัดเจนเท่าไหร่
ทีนี้พวกนางนั้นอยากมห้เกิดดราม่ามากจนยุให้มีคนไปถาม ซึ่งก็เข้าทางเพราะคนถามมันก็อยากให้เกิดดราม่าจนตัวสั่นเช่นกัน โดยได้ถามไปแล้ว คนเขียนออกมาแถลงแล้ว
แต่จู่ๆก็มีโม่งคนนึง(กูเอง) ออกมาบอกว่า มึงไม่ควรไปถามหรือยุให้คนอื่นไปถามเพราะหลักฐานพวกมึงยังง่อยอยู่
แล้วมึงจะก้อปมาในนี้ มึงช่วยก้อปมาให้หมด มึงก้อปมาแค่บางส่วนคือ ? นี่ความทั้งหมด
[123 Nameless Fanboi Posted Nov 21, 2015 at 14:10:20 ID:iitR36Nsd
กูจะบอกให้นะน้องโม เท่าที่กูอ่านดู ไอ้พวกโม่งที่ยุมึงไปโพสเนี่ย
มันอยากหาเรื่องให้ดูเล่นสนุกๆมากกว่าว่ะ รอดูมึงเงิบ ไม่ก็อีฝั่งคนเขียนชิบหาย โดยที่มันไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย รอดูมวยไปสนุกๆ กูหวังดีกับมึงนะเนี่ยถึงมาบอก
การที่มึงจะว่าใครลอกไม่ลอก มึงต้องจับให้มั่นคั้นให้ตาย หาข้อมูลมาแฉให้เห็นชัดๆ เพราะเท่าที่กูอ่าน มันก็ไม่ได้คล้ายอะไรขนาดนั้นว่ะ เพราะสำนวนก็สำนวนของคนเขียนเอง
ถ้ามึงจะด่าเรื่องลอกพล๊อต กูอ่านแล้ว มันก็ไม่เหมือนซะทีเดียวพล็อตคนละแนวเลย
ถ้ามึงจะว่าลอกนิยายคือต้องลอกมาเป็นย่อหน้าต้องเหมือนถึงขั้นบรรทัดต่อบรรทัดถึงจะบอกว่าลอก
ถ้ามึงจะบอกว่าเขาลอกคาแรกเตอร์ตัวละคร มันต้องชัดระดับมากกว่านี้ ไม่งั้นก็เรียกแค่ว่าได้แรงบันดาลใจ เหมือนคิรัวส์ HxH กับ คิล ในบารามอส (กูรู้เลยว่าคนเขียนแอบก๊อปคาแรกเตอร์แต่คิลมันอายุมากกว่า มันผมสีดำ จะว่าลอกก็ไม่ได้ เรียกได้แค่เป็นแรงบันดาลใจ) กรณีนี้ เกษียรสมุทรกับกิเลน มันคนละตัวรึเปล่ามึง? รอยสักเสี่ยวเกอพาดมาข้างหน้าด้วยใช่มั้ย ? ถ้าจะบอกว่าลอก กูว่ามันต้องมากกว่านี้ อันนี้กูจะไม่พูดมากละกัน พิจารณาเอาเอง
บางทีการที่ออกตัวตัดสินอะไรไปก่อนก็ไม่ดีนะมึง ต้องดูหลายๆอย่าง พิจารณามากๆหน่อย
แล้วการที่มึงออกมาเย้วๆเป็นหัวหอกเนี่ย มึงได้อะไรวะ ได้ความสะใจ? เรียกร้องความเป็นธรรม?(ให้ใคร?) มึงมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขามั้ย? มึงต้องคิดดีๆ ก่อนตกเป็นเครื่องมือโม่งช่างยุบางคนที่รอดูเรื่องสนุกเฉยๆ หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้ว่ะ
กูเตือนด้วยความหวังดี โม่งที่สิงอยู่แถวนี้ ]
>>794 แล้วกูบอกแล้วว่า "กูรู้เลยว่า คนเขียนแอบก๊อปคาแรกเตอร์ แต่คิลมันอายุมากกว่า มันผมสีดำ จะเรียกว่าลอกก็ไม่ได้" มันเรียกว่าลอกไม่ได้จริงๆว่ะ เพราะพื้นเพตัวละครต่างกัน
นี่มันนิยายนะโว้ยยย แค่มึงบรรยายให้พื้นเพตัวบะครต่างกันหน่อย เนื้อเรื่องต่างกันหน่อย คนด่ามึงตรงๆไม่ได้แล้ว. รู้อยู่ว่าเอามาจากไหน แต่มันเป็นคนละตัวกันแน่นอน
แต่ถ้าเป็นภาพวาดมึงเจอแน่ว่ะ ดราฟ กอป เห็นๆ เส้นต่อเส้น
ที่กูจะบอกคือแบบนี้โอมะ
เพื่อนโม่ง พอกุอ่านเรื่องแม่ทัพอยู่บน ข้าอยู่ล่างจบละรู้สึกพอไปอ่านเรื่องอื่นแลดูพล็อตมันเดิมๆไปเลยชอบพระ-นางในเรื่องดี ใครมีแนวๆนี้แนะนำอีกไหม
ใน>>785 กูก็ชี้ต้นทางให้แล้วนะ >>782 มันพูดถึงบารามาอสกูก็เอาที่มึงพูดถึงบารามอสมาแปะ จะบอกว่ากูไม่เอามาลงเต็มๆ ไม่ได้นะ และต่อให่เอามาให้ครบประเด็นมันก็ไม่เกินที่กูตัดมาแปะอยู่ดี ที่เหลือคือ
กูจะบอกให้นะน้องโม เท่าที่กูอ่านดู ไอ้พวกโม่งที่ยุมึงไปโพสเนี่ย
มันอยากหาเรื่องให้ดูเล่นสนุกๆมากกว่าว่ะ รอดูมึงเงิบ ไม่ก็อีฝั่งคนเขียนชิบหาย โดยที่มันไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย รอดูมวยไปสนุกๆ กูหวังดีกับมึงนะเนี่ยถึงมาบอก
ก็ไม่เกี่ยวกับบารามอส
กรณีนี้ เกษียรสมุทรกับกิเลน มันคนละตัวรึเปล่ามึง? รอยสักเสี่ยวเกอพาดมาข้างหน้าด้วยใช่มั้ย ? ถ้าจะบอกว่าลอก กูว่ามันต้องมากกว่านี้ อันนี้กูจะไม่พูดมากละกัน พิจารณาเอาเอง
บางทีการที่ออกตัวตัดสินอะไรไปก่อนก็ไม่ดีนะมึง ต้องดูหลายๆอย่าง พิจารณามากๆหน่อย
แล้วการที่มึงออกมาเย้วๆเป็นหัวหอกเนี่ย มึงได้อะไรวะ ได้ความสะใจ? เรียกร้องความเป็นธรรม?(ให้ใคร?) มึงมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเขามั้ย? มึงต้องคิดดีๆ ก่อนตกเป็นเครื่องมือโม่งช่างยุบางคนที่รอดูเรื่องสนุกเฉยๆ หรือมีส่วนได้ส่วนเสียในเรื่องนี้ว่ะ
กูเตือนด้วยความหวังดี โม่งที่สิงอยู่แถวนี้
ก็ไม่เกี่ยวกับบารามอสอีกนั่นละ เพราะมันเป็นเรื่องของน้องโมกับเษียรสมุทร ต่อให้ตัดไปความหมายที่กูตัดมาแปะก็ไม่เปลี่ยนอยู่ดี มึงสงบสติแล้วตรองดูเถอะ เหวี่ยงแบบนี้เดี๋ยวคนเข้าใจว่ามึงคือริเนะหรอก
>>797 อืม... กูมาจากห้องฟุนะ ถามจริงมึงเป็นไรมากป่ะเนี่ย? ทู้นั้นกูบอกให้มึงใจเย็นแบบขำๆนะ แต่ดูเหตุการณ์ตอนนี้ไม่ใช่แล้วว่ะ มึงอาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนักเขียนคนนั้นจริงแต่ถามหน่อย ทำไมมึงไม่ไปย้อนอ่านข้อความตั้งแต่600-1,000 ก่อนจะมาสรุปว่าคนในนั้นอยากดราม่าจนตัวสั่น? กูว่าตอนนี้ที่มึงโกรธ เพราะมึงเอาเรือไปขวางน้ำเชี่ยวแล้วโดนด่า แถมมีคนยกข้อความมึงมาด่าซ้ำอีก ตอนนี้เลยตีโพยตีพายเหมารวมไปแล้วว่าพวกกุจ้องจะก่อดราม่า ทั้งๆที่น้องโมนักพลีชีพมันก็เป็นแค่นักอ่านคนนึง คือมึง โดนด่านิดเดียวจะเป็นไร ที่นี่โม่งนะมึงโดนด่ามึงเจ็บใจแต่ไม่มีใครรู้จักมึง ไปพิจารณาสาเหตุดีๆหน่อย มึงยิ่งดิ้นยิ่งชี้แจงเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนจะเข้าใจเปล่าๆว่ามึงเกี่ยวข้องกับนักเขียนและกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่เพื่อเปลี่ยนประเด็น ยอมรับเหอะว่ามึงไม่ได้อ่านที่พวกโม่งห้องฟุคนอื่นมันชี้แจงทีละข้อ
ว่านักเขียนมันก็อปยังไง แล้วแถว่าเป็นคลิเช่ยังไง
ส่วน >>794 คนที่ออกตัวเองว่าก็อปข้อความมึงมามันก็เป็นโม่งที่ตามไปอ่านในกระทู้นั้นแล้วยกข้อความมึงมาแซะ(ซึ่งมันก็มีเหตุผล)มันไม่ใช่คนในห้องฟุด้วยซ้ำ
แต่ถ้ามึงมีความคิดที่ว่าการลอกคือการก็อปแปะโต้งๆบอกเลยว่ามันทำร้ายนักเขียนที่ลงทุนหาข้อมูลเองมาก กว่าจะเขียนออกมันมาจากประสบการณ์ที่สั่งสมก่อนหยิบมาใช้ ไม่ใช่อ่านของคนอื่นมาแล้วปรับแก้แค่พล็อตหลัก ในทางงานศิลป์วิธีนี้ถือว่าเป็นการดราฟอย่างนึง ดราฟแค่ข้อมือหรือลูกตา ดราฟก็คือดราฟ
ก็มันเหมือนพวกมึงยัดเยียดให้คนอื่นผิด กูไม่เห็นมันจะเหมือนจะคล้ายอะไรที่พวกมึงว่ามาเลย บางทีก็มโน ล่าแม่มดไปนะมึง
แล้วไม่รู้ทำไม กูรู้สึกว่าพวกมึงอยากให้เรื่องนี้มันดั้งดังประหนึ่งพวกมึงเจอไข่ทองคำ
มึงเป็นศัตรูในความจริงกับอีกนักเขียนรึเปล่าวะ ?
กูถามเพื่อนกูที่อ่านแม่งไม่มีใครคิดว่าเหมือน ไม่มีใครคิดว่าเขาลอกเหี้ยไรมาเลย
แต่เอาเถอะ มึงด่าเรื่องลอกไม่ได้มึงก็ด่าเรื่องอื่นต่ออยู่ดี
นิยายเขาแต่งสนุกดี พล็อตแม่งคนละโยชน์กับเรื่องที่มึงว่าเขาลอกมา แต่เสือกมีพวกจับผิดชาวบ้านว่างงานไปวันๆนี่แหละที่ติ ไม่รู้เพราะอิจฉาหรือเพราะเหตุอันใด
ทำไมพวกมึงไม่ทะเลาะกันในกระทู้ตัวเอง มันนอกเรื่องไกลแล้ว
กูว่ามันจงใจมาด่ากราดให้พวกกูตอบ ประเด็นที่ก็อปจะได้ตกๆไป โทษทีว่ะ ไม่น่าฟีดโทรลเลย
>>803 กูว่าที่ถามกันก็ทำด้วยความสุภาพนะมึง ไม่ได้ล่าแม่มดหาที่อยู่บ้านไปดักยิงอะไรอย่างนั้น ถ้าคนถามถามตรงคนตอบตอบได้ฉะฉานกูก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นผลร้ายอะไรกับเค้านะ การที่แฟนคลับออกโรงปกป้อง(กูไม่ได้หมายถึงมึงนะ)จนกลายเป็นจู่โจมคนถามต่างหากที่ทำร้ายนักเขียนเพราะมันทำให้ยิ่งดูน่าคลางแคลงใจไปใหญ่ มึงคิดว่าไม่เหมือนก็มีคนคิดเหมือนมึง ส่วนคนที่คิดว่าเหมือนก็มีคนที่เห็นด้วยเหมือนกันแหละ ต่างฝ่ายก็มั่นใจในวิจารณญาณของตัวเอง พูดกันด้วยเหตุผลเถอะ อย่าพึ่งหาว่าใครอิจฉาใครเลย
มากูลากกลับมาประเด็นเข้าห้องนี้ได้ให้ มีใครแนะนำนิยายแปลภาษาอังกฤษภาษาสวยๆให้กูได้ป่าวว?
เอาแนวยุคปัจจุบันนะ ที่ไม่ใช่วรรณกรรมคลาสสิคอ่ะ คือบางเรื่องกูอ่านแล้วปวดหัว
อย่างแบบกูอ่านแกสต์บี้ของโตมรแปลแล้วจะเป็นลม ไม่ใช่เป็นลมเพราะอะไรนะ เป็นลมสำนวนการแปล
ทำไมต้องทำให้มันเว่อวังแบบไม่จำเป็นขนาดน้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
กูเลยอยากรู้ว่ามีใครมีเรื่องไหนจะแนะนำไหมกูจะไปตามอ่าน
กูรู้สึกอยากให้มีระบบยืม e-book ถูก lc
ระบบแบบ dex-ch จ่ายเงินเท่านี้ได้อ่านหนังสือเท่านี้ในเวลานี้ บางอย่างกูแค่อยากลองอ่านแต่ไม่อยากเก็บ กับรับไม่ได้ที่จะจ่ายเต็มจำนวนกับบางเรื่องที่แค่อยากลองเฉยๆ
แนวร่วมสมัยภาษาสวยๆนึกไม่ออกว่ะ ไม่ค่อยแน่ใจว่าภาษาสวยที่มึงต้องการคือแบบไหนด้วย
แต่กูชอบพวกนิยายแนวชิคลิทที่แปลไทยนะ อาจไม่ใช่แนวทางภาษาสวย แต่การใช้คำจี๊ดจ๊าดดี
เคยอ่าน sense and sensibility ก็โอเคนะ ภาษาสวยดี
>>816 ขอโทษนะกูไม่เคีลยร์ คือเอาใหม่
ขอแปลอังกฤษที่เพื่องโม่งคิดว่า 'คนนี้แปลดี' แล้วกัน การเลือกใช้คำดี อะไรประมาณนี้
ไม่นพดล ไม่ปราบดา แนวไหนก็ได้ เคลียร์ขึ้นมั้ยง่ะ?
ตอนนี้เล็ง Never where ของ นีล เกแมน ฉบับแปลไทย มีใครเคยอ่านมั้ย?
>>817 มันคาลสสิคอ่ะเพื่อนโม่ง มันสวยคนละแบบกับภาษาสมัยใหม่ แต่ขอบใจมากๆนะ
ย้อนหน่อย
>>770 มึงอาจสนใจ มีทีมแปลเจ้าใหม่จะมาแปลLMSต่อแล้วนะ เห็นว่าจะแปลถึงเล่ม46เลย
http://arkmachinetranslations.com/2015/11/18/news-new-series/
>>822 บทจรเคยซื้องานของมาเกซมาอ่าน แปลเหี้ยสัสๆเลยครับ ประมาณว่าแปลเสร็จแล้วส่งต้นฉบับเลย
ไม่มีเกลาสำนวนอะไรทั้งนั้น ทั้งเล่มเต็มไปด้วยคำว่า แล้วก็ และก็ แล้วก็ และก็ แล้วก็ อยู่ในย่อหน้าเดียวกันเต็มไปหมด
เพราะไอ้เหี้ยเล่มนี้แหละ กูเลิกอ่านหนังสือแปลไปเลย ไปฝึกอ่านต้นฉบับหรือแปลอังกฤษ
ตอนนี้สบายอยากอ่านอะไรก็ไปซื้อคิโนะ ไม่ต้องรองานแปลที่ไม่รู้ว่าจะคาดหวังได้หรือเปล่า
>>807 โตมรกูว่าพอๆกับนพดลแหละ เคยอ่านมุราคามิที่แกแปล
เขียนหนังสือดี แต่อย่ามาเป็นนักแปลเลย
แจ่มออกมาประกาศแล้วนะว่าไม่แก้สำนวนว่าด้วยอาชีพนางสนม
จะพิมพ์แบบที่ลงตัวอย่างให้อ่านกันนั่นแหละ หุหุ
>>826 ก็คิดไว้ละต้องเป็นแบบนี้ แจ่มใสโดนแบบนี้คราวหน้าหวังว่าจะเอาไปปรับปรุงบ้างนะ
ส่วนตัวอย่างที่เอามาลงเห็นเขาว่าจะลงอาทิตย์ละ 3 ตอนไปเรื่อยๆกูก็ว่าจะลองพยายามอ่านดู
ถ้าอ่านไปแล้วทำให้กูมีความคิดประมาณ 'เออมันก็ไม่ได้แย่กว่าที่คิด อ่านได้อยู่' กูก็ซื้อ หรือไม่
ก็ลองให้วางขายสักพักแล้วรอรีวิวเอา กูไม่อะไรมากอยู่ละ 5555
http://www.dek-d.com/writer/39065/
บังเอิญเห็นอันนี้ ไม่มีอะไร เเค่เเบบว่าฮาบางคห. อย่างคหที่บอกการินเนี่ยนะอาถรรพ์เเต่ละเล่มมีเหตุผล เสริมความรู้ด้านการสังเกตการกระทำของตัวละคร 555 เล่มเเรกอาจจะใช่เเต่กูว่าหลังๆมันจะจูนิเบียวกันมากกว่าม้าง เเถมยังมีภาคินัยอีก เหอๆ
>>830 เบียวไม่เบียวนี่กูไม่รู้ แต่กูไม่ชอบการินเพราะในนิยายแม่งลงไม้ลงมือใส่นางเอก กูรับพระเอกที่ลงไม้ลงมือกับผู้หญิงไม่ได้
และกูไม่ชอบลัลตรงที่นางดูเอาแต่โอดครวญโชคชะตาตัวเอง ดูเป็นนางเอกที่เอาแต่เปิดสกิลนางเอก แล้วก็รำคาญความใสซื่อของชีมาก อย่างในมังงะที่ไปงานแต่งแล้วพระเอกกระซิบว่าคู่บ่าวสาวป่องกันถึงต้องมาจัดงานแต่ง กูไม่เข้าใจว่าทำไมต้องหน้าแดง
เรื่องนางสนมนี่กูสงสัยอย่าง ถ้าคนรู้ภาษาจีนมาอ่านจะรู้สึกแปลกๆกับพวกเจิ้น,เปิ่นกงรึเปล่า
กูไม่รู้ภาษาจีนเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่นึกสภาพถ้ากูอ่านนิยายแปลญี่ปุ่นแล้วเจอคนแทนตัวเองว่า อาตาชิ เซชฉะ อะไรประมาณนี้มันคงตลกๆว่ะ เรื่องแก้บุรุษสรรพนามนี่กูว่าแก้ไปดีกว่านะถ้าจะตีพิมพ์เป็นหนังสืออะ ส่วนเรื่องสำนวนอื่นๆโนคอมเมนต์
>>835 มึงพูดแบบนี้หนังสือป้าหลินในมือกูสั่น 9 ริกเตอร์ 5555555555555555555555555555555
กูค่อนข้างเห็นด้วยเรื่องสรรพนามว่ะ ถ้าแปลไทยแล้วก็หาที่ใช้คำได้เหมาะสมดีกว่าทับศัพท์
เอาจริงๆอะไรที่มันแปลได้มันควรแปลให้หมดนี่คือหลักการทำหนังสือแปล ยกเว้นมีกรณีไหนที่อยากติดเป็นพิเศษ
หรือจำเป็นต้องทับอะไรยังไงต้องดูความเหมาะสมอีกที ไม่ใช่ติดแม่งทุกอย่างแล้วใส่ดอกจันเอาไว้ หอยหลอดมาก
แต่ตำแหน่งนี่กูว่าพอแปลแล้วยืดเยื้อนะ สรุปคือสำหรับกูแล้วแม่งสุดๆกันทั้งสองฝ่าย
อีกฝ่ายนึงก็บอกจะแปลออกมาให้หมดแม้ตรงที่ไม่จำเป็น อีกฝ่ายก็อยากจะให้ทับศัพท์ไว้ให้หมด ไม่มีตรงกลางเลยจริงๆ
สำนวนที่แก้แล้วกูว่าบางอย่างก็ดีขึ้นนะ บางอย่างก็แปลกๆ แล้วแต่คนจะมองแล้วกัน
ขอบ่นในฐานะคนเคยติ่งเรื่องการิน
ทำไมกูรู้สึกว่ามันเริ่มออกนอกทะเลวะ แรกๆ มันก็ดีอยู่หรอก หลังๆ มันชักจะยืดเยื้อไปเรื่อยๆ ลัลก็ใสซื่อเว่อร์จนเกินคำว่าโลกสวย เป็น M ให้การินทำร้ายได้ตลอด เจอเรื่องแย่ๆ มาเยอะน่าจะแกร่งขึ้นบ้าง แต่ก็ใสซื่อหัวอ่อนเหมือนเดิม ส่วนการินแม่ง S เสมอต้นเสมอปลาย บุคลิกน่าจะเป็นตัวร้ายมากกว่าพระเอก ถึงจะมีอดีตร้ายๆ ที่ทำให้มีนิสัยแบบนี้ก็เถอะ แต่มันก็น่าจะมีพัฒนาการในทางที่ดีบ้างสิวะ ในเมื่ออดีตก็เริ่มคลายได้ลัลเป็นตัวระบาย ไม่รู้กูคิดไปเองหรือเปล่า เหมือนสนพ.จะยืดเรื่องให้ขายต่อได้นานๆ ไม่ก็นักเขียนออกทะเลกลับฝั่งไม่ได้
ปล.หรือว่าจะเขียนแข่งกับโคนันวะ สืบสวนมาสิบกว่าปียังจัดการองค์กรชุดดำไม่ได้สักที
เรื่องสรรพนาม ไม่ค่อยแคร์ไรเท่าไหร่ (แต่ถ้าเป็นเจิ้น หนูปี้ มันฟังดูมุ้งมิ้งแปลกๆดีนะแก)
แต่ไอ้ตำแหน่งชั้นยศเนี่ยดิที่รับไม่ได้
มันไม่ควรจะมาเทียบชั้นยศกะของไทยปะ
สมมติเป็นหนังสืออังกฤษ แล้วแปลบรรดาศักดิ์สมมติชั้น "ดยุคอาเธอร์" เป็น "หม่อมเจ้าอาเธอร์" หรือ "เอิร์ลชิเอล" เป็น "พระยาชิเอล" ไรงี้มันก็ไม่ใช่ไง วัฒนธรรมแต่ละประเทศมันต่างกัน จะเอามาเทียบกันได้ยังไงวะ
นิยายแปลที่สำนวนกูว่าแจ๋วมาก "ฟัดจี้ น้องเล็กยังร้ายอยู่ "
ขอหนูเข้ามาพนมมือใส่แจ่มใสทีว่ะคุณ ขอบคุณมากที่ช่วยให้หนูไม่ต้องเปลืองค่าขนมไปอีกพัน กราบลาและสวัสดีค่ะ หนูรู้ว่าพี่ไม่สนใจหรอก หายไปแค่ไม่กี่คนเอง หนูเข้าใจว่าเป็นธุรกิจนะพี่ หนูจะรอเช่าเป็นเล่มก็พอ เปลืองที่เก็บ
>>835 หนูก็ไม่รู้จีนนะ เรียนมาสามปีได้แค่หนีฮ่าว แต่หนูว่ามันคนละกรณีป่ะวะ อย่างพวกคำญี่ปุ่นมันยังมีระดับการใช้ภาษาที่แปลเป็นไทยได้ ฉัน ผม แต่ว่าเจิ้น เปิ่นกง มันแปลเป็นไทยตรงไม่ได้ป่าววะคุณ มันดูมั่นหน้า ดูหยิ่ง พอทุกคนใช้ ข้าๆๆๆๆ ก็เลยเหมือนกันหมด ยศศักดิ์เสมอกันทั้งแผ่นดิน หนูว่ามันยังไม่ปังว่ะ ทุกคนดูราคาไม่แพง หาซื้อได้ตามมินิมาร์ททั่วไป
แต่ก็นั่นแหละ หนูคงบ่นเป็นเรื่องสุดท้าย ขอบคุณที่ทิ้งหนูไว้กลางทางก่อนเสียดายเงินมากกว่านี้ หมดเวลาแล้ว หนูคงต้องไป บอกลากับหมวดมากกว่ารักแล้วไปอ่านเอนเธอร์อย่างเดียว ตอนนี้หนูชอบนิยายใหม่ของ yu wo ที่เป็นวันสิ้นโลกว่ะ แต่ว่าคงสนุกแค่เล่มต้นๆตามสไตล์อี้หว่อ จากนั้นก็ค่อยๆตัดจบอย่างสวยงามแล้วเขียนเรื่องต่อไปต่อ อ่าาาาห์ ถึงอย่างนั้นหนูก็ยังซื้ออยู่ดี
เรื่องบรรดาศักดิ์กูเห็นด้วยว่าคงภาษาดั้งเดิมไว้น่าจะดีกว่า คนแปลเองก็ไม่ต้องมาปวดหัวเทียบกับไทยด้วย
แต่อย่างที่ >>841 บอกว่าเจิ้นเปิ่นกงแปลไทยไม่ได้นี่กูว่ากูไม่เห็นด้วยว่ะ มันขึ้นอยู่กับว่าแปลมาแล้วจะถูกใจคนอ่านหรือไม่ถูกใจมากกว่า
ภาษาญี่ปุ่นมีบุรุษสรรพนามเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกนะมึง หลายๆคำมันแปลไทยแล้ว nuance ทางภาษาหายไปเลย เกลี้ยงเลย แต่มันไม่เคยมีใครเลือกที่จะคงไว้ เพราะคงไว้แล้วคนรู้ภาษามาอ่านมันตลกไง
อย่างคำว่าเจิ้นนี่กูไม่รู้ว่ามันคือคำว่า 朕 ที่จักรพรรดิญี่ปุ่นใช้รึเปล่า แต่คำนี้ถ้าแปลไทย คนไทยก็แปลว่า ข้าพเจ้า/เรา กันทั้งนั้นอะ
แต่เคสภาษาจีนกูไม่รู้จริงๆว่าคนรู้จีนมาอ่านจะตลกมั้ย
>>841 ภาษาญี่ปุ่นจริงๆก็มีระดับนะ เรื่องนึงที่กูจำได้แม่นคือเรื่องนางาโต้ ขุนโจรฯของบูรพัฒน์ แปลภาษาญี่ปุ่นคำนึงว่า"ข้าบาท" แล้วใส่เชิงอรรถว่าเป็นคำเรียกของขุนนางต่อองค์จักรพรรดิ ถ้าเก่งจริงมันหาทางแปลให้เข้ากับบริบทได้อยู่แล้ว อันนี้กูไม่โทษนักแปลหรือบก. แค่อยากบอกว่ามันมีทางทำให้ภาษามันเข้ากันได้อยู่ ถึงจะไม่ง่ายก็เถอะ อันนี้ควรดูพิภพพญามังกรเป็นตัวอย่าง อันนั้นก็ทำได้ดี ถึงจะน่ารำคาญเป็นบางช่วงก็เถอะ
คำเรียกบางทีมันเป็นภาษาประดิษฐ์หรือภาษาลิเก ไม่มีใช้จริงหรอก อย่างในพิภพพญามังกรมีคำแทนตัวว่า"ตัวข้าผู้เป้นราชามาร" ไม่มีคนสติดีที่ไหนในโลกพูดคำนี้ออกมาหรอก ภาษาลิเกประดิษฐ์เองทั้งนั้น คำกราบบังคมทูลหมื่นปีหมื่นหมื่นปีก็มีเป็นแค่คำยกย่องแทนตัว ไม่เคยมีการกราบทูลในท้องพระโรงจริงๆ
ถามเป็นข้อมูลหน่อย ได้รึเปล่า
มันมีโรคอะไรที่ประเภทอยู่ๆวันหนึ่งอาการกำเริบขึ้นมาก็ตายแหงก แต่ตามปกติก็ใช้ชีวิตอยู่ได้มั้ย อาจแบบร่างกายอ่อนแอก็ได้ แต่ใช้ชีวิตทำงานทำการได้ แล้วเป็นโรคประเภทที่วัยรุ่นหรือวัยทำงานก็เป็นได้
คือกูอยากได้โรคมาแต่งแต่ไม่อยากเอาโรคพื้นฐานประเภทลูคิเมียอะไรเทือกนั้นมาใส่ แต่ก็ไม่รู้จะหาโรคที่ตรงอาการที่อยากได้จากไหนดี
ลองโรคไหลตายดู คนอีสานเป็นกันเยอะ เชื่อว่าเกอดจากยีนแต่ยังหาสาเหตุไม่ได้ หลับเฉยๆ แล้วตายเลย
*เกิด พิมพ์ในมือถือมันติดกัน
เอาจริงๆนะ ว่าด้วยอาชีพนางสนม กูว่าสำนวนอ่านรู้เรื่องกว่าเดิม ของเดิมหลายจุดดูอึนๆ
แต่แปลตำแหน่งซ้ำซ้อนตลกจริง ส่วนนี้อยากให้ทับศัพท์
คำแทนตัวอันนี้แล้วแต่รสนิยม ซึ่งกูชอบทับศัพท์ แต่ไม่ทับก็โอเค เสียอรรถรสนิดหน่อยแต่พอกล้อมแกล้มได้
กูรออ่านตอนที่นางสนมตั้งแต่ชั้นกุ้ยเฟยลงไปโผล่กันพรึ่บพรั่บ ดูซิว่ารู้เรื่องมั้ย ถ้าแม่งมาแบบ "นางสนม+ชื่อตำแหน่งจีน+ชื่อเจ้าตัว" กูถือว่าพอได้ แต่ถ้ามา "ชื่อตำแหน่งไทย+ชื่อตำแหน่งจีน+ชื่อเจ้าตัว" แจ่มใสคงไม่ได้เงินกูแล้วล่ะ
กูเห็นอิหนูข้างบนพูดถึงนิยายอวี้หว่อ มาเม้ากับกูทียยย
กูจะไม่พูดถึงความเหี้ยในการจบเรื่องของอวี้หว่อหรอกนะ ส่วนนี้คือรู้กัน
แต่เนื้อหาตอนต้นคือพีคคค กูชอบ มึงอ่านอวสานโลกเล่ม 2 ยังงงงง กูไม่กล้าสปอยด์มึง แต่ราชาน้ำแข็งโคตรดีงามอ่ะ ฮรืออออ
จะทับศัพท์ ไม่ทับศัพท์ กูก็ซื้อว่าด้วยอาชีพนางสนมอยู่ดีว่ะ
ขอบคุณพวกมึงมาก
ขอถามเรื่องโรคเอาไปแต่งบ้าง กูเคยดูโคนันตอนเดอะมูฟวี่ที่ตัวร้ายมันเป็นโรครสสัมผัสที่ลิ้นบกพร่องอ่ะ รับรสไม่ได้
ทีนี้กูจะให้ตัวในนิยายกูเป้นโรคนั้นแต่กูหารายละเอียดไม่เจอเลย โรคนี้มีจริงๆรึเปล่าวะ หรือใครมีชื่อโรคนี้เป็นภาษาอังกฤษให้หน่อยจะขอบคุณมาก
>>848 หนูมาแล้วค่ะ เล่มสองหนูยังไม่ได้ซื้อเลยคุณ พื้นที่หนูกันดารมาก หนังสือไม่เข้าต้องรออีกเกือบเดือน 555555ว่าจะสั่งทางเว็บละ เปิดตัวใหม่เหรอ โอ้ย คาร์เรื่องนี้หนูว่าดี เพราะหนูเป็นบราค่อน แต่หนุ่มๆไม่น่าอ่านเรื่องนี้ ดูฟุๆ555555
ส่วนเรื่องศัพท์แทนตัวเองของญี่ปุ่นนี่หนูก็ไม่รู้จริงๆว่ะ หนูรู้จักแค่วาตาชิกับโบคุ ขอโทษด้วย มีอย่างอื่นเยอะอีกสินะ เจิ้นนี่แปลเป็นเราก็โอเค หนูแค่อยากให้มันมีอะไรต่างจากคนทั่วไป ไม่ใช่ข้าๆๆอย่างเดียว
>>856 ถ้าไม่ได้กลิ่น แล้วพาลรับรสไม่ได้ไปด้วย: Anosmia http://www.webmd.com/smoking-cessation/tc/anosmia-topic-overview
แต่ถ้าเกี่ยวกับรับรสอย่างเดียว มี ageusia (รับรสไม่ได้เลย), hypogeusia (รับรสไม่ค่อยได้), hypergeusia (รับรสได้มากเกินไป)
reference: http://www.nidcd.nih.gov/health/smelltaste/pages/taste.aspx, http://archneur.jamanetwork.com/article.aspx?articleid=784121
เวลาหาข้อมูลเรื่องโรค ใช้ WebMD ก็ง่ายดี มี syptom checker ให้กดหาโรคตามจุดต่างๆ บนร่างกายด้วย
http://symptoms.webmd.com/default.htm#introView
กูอยากเขียนนิยายสืบสวนแนวๆคดีฆาตกรรมจิตวิปริตคล้ายๆ Criminal mind ว่ะ แต่กูไม่มีที่ปรึกษาหรือมีคนรู้จักที่เป็นหมอหรือผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เลย จะนั่งเทียนเองก็คงไม่ดี มันจะมีซักทางมั้ยวะที่จะเข้าไปคุยกับหมอแล้วบอกว่าสนใจในเรื่องนี้ๆๆๆๆ อยากปรึกษาเอามาเขียนนิยายอะ
>>860 มันมีหนังสือให้ข้อมุลสำหรับนักเขียนใน Amazon ขายนะ กูเคยซื้อเกี่ยวกับโรคแนวๆจิตเภทมาเล่มนึง
จะบอกว่าพวกฝรั่งหนังสืออ้างอิง How to แม่งเยอะสัสๆ มึงลองไปคุยดูได้ ดูแล้วจะอยากได้เล่มนั้นเล่มนี้เต็มไปหมด
พวกหนังสือแนวไกด์สำหรับเขียนนิยายสืบสวนอะไรก็มีลองหาซื้อมาอ่านดูได้
ไม่รู้กูตอบคำถามมึงป่าววะ 5555555555555
>>862 ถ้าแนวจิตวิทยามันก็ยากตรงศัพท์ว่ะ เพราะบางอย่างมันเป็นศํพท์ที่ไม่คุ้นแต่มันดีมากจริงๆนะ ค่อยๆอ่าน ค่อยๆเก็บรายละเอียดนี่พอไหว
แต่ถ้าพวก How to เขียนนิยายทั้งหลายศัพท์ไม่ยากนะมึง
แต่จริงๆ หาเคสที่สนใจ แล้วหาข้อมุลเป็นภาษาไทยเอาก็โอเคนะแบบที่ 863 ว่า แต่ไม่ต้องเฉพาะเคสไทยอ่ะ เอาหลายๆเคสเลยที่หาเป็นภาษาไทยได้กูก็ว่าโอเคนา
กูเห็นคนบ่นในมู้เด็กดวก แล้วเกิดสงสัย นิยาโซฟาพัฒนาอะไรมั่งยังหรือวนเวียนกับพล็อตผีตามฆ่าเหมือนเดิม โดยเฉพาะของภาคินัยอะ
>>865 กูไม่ได้อ่านมานานละมึง ตอนที่กูอ่านแรกๆสนุกจริงนะเว่ย พออ่านซักหลายๆเล่มจะรู้สึกว่ากูอ่านเหรี้ยอะไรอยู่วะเนี่ย ผีวันๆแม่งเอาแต่ไล่ฆ่า ขายฉากguro ซักพักแม่งยังกะนิยายน้ำเน่า แต่ส่วนใหญ่ที่กูเห็นก็มีแบบ ผีๆพล็อตส้นตีนอะมึง เดี่ยวนี้มีพัฒนาเอาเนื้อเรื่องที่อิดอกภาคินัยแต่งมาวาดเป็นคอมมิคด้วย (กูไม่เคยอ่านซักเล่ม ไม่มีนักวาดที่กูชอบ) มีใครอ่านเจออะไรดีๆ พอถูไถได้มั่งมั้ยวะ จากสำนักพิมพ์นี้
ภาคินัยนี่ถ้าเอาไอ้ส่วนที่เขาก็อปตอนเก่ามาวางแล้วใส่เพิ่มทีละสองบรรทัด หนังสือแม่งจะบางกว่าเดิมเหี้ยๆ ไม่ใช้แบบ 'แล้วเขาก็คิดไปถึงตอนที่เขาลงมือ..' ไรงี้เลยนะ แม่งก็อบมาทั้งหน้า ไอ้ห่า 555
สำหรับกู ภาคินัยนี่อารมณ์ประมาณแตมเบอร์รี่ของโซฟา 555 ไม่ใช่เรื่องฝีมือการเขียนนะ แต่เป็นเรื่องนักเขียนหลักประจำสนพ.น่ะ แบบเขียนห่าอะไรก็มีคนตามคนอวยไรงี้
>>865 โม่งบนๆคุยกันไปแล้ว >>447-467 สรุปคือนิยายผีไทยเหมือนหนังผีไทย พล็อตเดิมๆซ้ำๆ ตัวเอกของเรื่อง(อาจหักมุมทีหลังว่าเป็นตัวโกง) ไปทำเรื่องเหี้ยๆไว้ แล้วคนตายกลายเป็นผีก็มีความแค้นเลยมาไล่ฆ่าคนในเรื่องแก้แค้น บางทีก็ฆ่าแบบไม่มีน้ำหนักพอ บางคนแค่เกี่ยวข้องกับการตายนิดหน่อยก็โดนฆ่าไปด้วย เทียบกับนิยายผีของญี่ปุ่นแล้ว ผีญี่ปุ่นมีมิติกว่าเยอะ บรรยากาศน่ากลัวกว่า ผีไม่โผล่ออกมาตุ้งแช่ให้คนตกใจแต่ลักษณะการเลาเรื่องการเดินเรื่องมันชวนให้น่ากลัว
งานของภาคินัยแรกๆกูสนุกนะ แต่อ่านแค่ 4-5ก็จับทางได้แล้ว หลังๆกูไม่ได้ตามงานของเค้าแล้วว่าเป็นยังไง
แต่ประเด็นนิยายแปลของ Enter ก็ทำให้นิยายขงสำนักพิมพ์โซฟาดูน่าสงสารจริงๆว่ะ 555 คือเอานิยายแปลของเกาหลีญี่ปุ่นราคา 150-160 มาวางข้างๆ นิยายผีของโซฟาเล่มล่ะเกือบ200 เป็นกูกูก็เลือกนิยายแปลมาอ่านมากกว่านิยายไทย
>>870 น่าจะเป็นประเด็นเรื่องขนาดทุนน่ะ เพราะEnterเป็น สนพ.เครือแจ่มใส ซึ่งทุนหนา มีโม่งมาตอบในกระทู้เด็กดีว่าพิมพ์เรื่องหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3000เล่ม เลยตั้งราคาขายได้ถูก(รวมค่าลิขสิทธิ์และค่าแปลแล้ว) แต่โซฟากูเข้าใจว่าเป็น สนพ.เล็กมั้ง ตีพิมพ์ได้น้อยกว่าเลยต้องขายแพงๆเอากำไรต่อเล่มให้ได้เยอะๆ
1168 เปิดสมัครบก.อีกแล้วว่ะ เท่าที่กูติ่งสนพ.นี้มาสองปีเห็นเปิดทุกเกือบสิ้นปีเลยว่ะ มันเป็นนโยบายอะไรรึเปล่าวะ //คือกูอยากลองส่งต้นฉบับให้ แต่เห็นเปิดรับบก.ถี่ไปก็ชักเสียวๆ
กูย้อนกลับไปอ่านๆ เห็นมีคนพูดถึงเรื่องห้องเรียนที่ไม่ยอมเปิดรับ เรื่องนี้กูชอบนะมึง ของสำนักพิมพ์ NB horror(เนชั่น) เค้าจะชอบมาโล๊ะขายตาม B2S ถ้าพวกมึงโชคดีก็จะได้หนังสือดีๆเล่มละห้าสิบบาท สำนักพิมพ์นี้เจ๊งรึยังวะ กูซื้อมาลดราคาทั้งนั้น กูซื้อเรื่องบาปนางฟ้ามาก็ 50บาท (แต่ GOTH กับ Zoo ของสำนักพิมนี้หายากแล้วหละมึง ค่อนข้างเก่า กูอยากได้แต่หาไม่เจอเลย )
>>874 เออกูก็ชอบเรื่องนี้ ตอนแรกแปลกใจว่าทำไมไม่แปะโลโก้ NB horror (ที่เป็นรูปหัวกะโหลก) พออ่านไปเรื่อยๆกูคิดว่ามันไม่เชิงเป็นแนวสยองขวัญว่ะ ออกแนวดราม่าแฝงสัญลักษณ์มากกว่า สองตอนแรกสื่อออกมาได้ดีนะ มีประเด็นให้ขบคิด ตอนสามแม่งกลายเป็นเรื่องสั้นไซไฟ(ตอนอ่านถึงไคลแม็กซ์กูเหวอพักหนึ่งเลย555) ตอนสี่เฉยๆ ไม่น่ากลัวและไม่สยองเท่าไร สรุปแล้วเทียบกับนิยายผีไทยของโซฟาแล้วทำได้ดีกว่าเยอะ
นิยายผีไทยที่กูเคยอ่านนอกจากของโซฟาแล้วก็มีของ สนพ.พิมพ์คำ อ่านมาสองเล่ม เรื่องร่างนางรำ กับเงื่อนวิปลาส
เขียนได้ดีกว่าโซฟาหน่อย ตรงที่ไม่เอะอะก็แค้นแล้วไล่ฆ่าอย่างเดียว เงื่อนวิปลาสนี่ออกไปทางสืบสวนด้วย มีคนตายสองคนผูดปมของตัวละครได้น่าสนใจดี
วันนี้เฟสหนูเด้งเพจนิยายขึ้นมา หนูสงสัยมากเลยคุณ คือมันเป็นหน้าปกนิยายที่กำลังเปิดพรี ประเด็นที่หนูสะดุดตาคือหน้าปกใช้ดาราเกาหลีขึ้นว่ะ งงว่ามันทำได้เหรอ ตอนแรกหนูนึกว่าเป็นฟิค แต่พอลองอ่านทั้งคำโปรย ทั้งเนื้อเรื่อง(อ่านไปได้แค่ตอนเดียว หนูอ่านแล้วนึกว่าแจ่มใส T _ T อีโมชั่นจัดเต็ม เนื้อหาไม่ต้องพูดถึง) มันเป็นออริจินอลนี่หว่า หนูเลยกังขามากๆค่ะ หรือหนูเข้าใจผิดไปเอง แต่ว่าหนูดูแล้วก็ไม่ใช่สนพ.บนดินนะ ตกลงมันทำได้หรือไม่ได้น่ะ
1168 รับบก. เรื่อย เขาจะเอาชื่อมาเก็บเป็นสต็อค ดูผลงานก่อนค่อยติดต่อกลับ ไม่ได้รับยาก แต่ดูพอร์ต ก่อนโยนงานให้ตูม เงินน้อย ประสบการณ์เยอะมั้ย ไม่รู้ แต่เท่าที่ดู เขาดึงนักวาดไว้เพื่อทำปกเยอะอยู่ ปกสวย แต่เนื้อนหากับการทำงานบกนั้น เป็นปริศนา บก. ไม่ผ่านโปรสามเดือนน่าจะบ่อย
นพดล เวชสวัสดิ์ นี่มีปัญหาอะไรมั่งวะ การแปลของเค้าหลุดไปจากต้นฉบับจริงเยอะมั้ย
holy shit นึกออกใกล้เคียงสุดคือ "เย็ดเข้"
นึกแบบสุภาพไม่ออก
มึง กูงง เพื่อนกูบอก1168มีนิยายแปลจีนด้วย แต่กูจำได้ว่าไม่มีนี่หว่า มีแต่คนไทยเขียนไม่ใช่เหรอวะ
ขอขัดหน่อยมึง อยากอ่านนิยายเบาๆ จบดี แนวๆ ลวิตร์หรือ hayashi kisara อะไรเทือกนั้น มีเรื่องไหนแนะนำไหม
ky ทำไมนิยายที่คนแต่งเป็นผู้หญิง 90% ทำไมต้องเขียนให้พระเอกเย็นชา ดุเถื่อนซึน ด้วยวะ เปิดอ่านสิบเรื่องกูเจอพระเอกลุคนี้ 9 เรื่อง จะรักหรือแฟนตาซีก็พอๆ กัน บุคลิกร่าเริงอ่อนโยนนี่ส่วนมากเป็นได้แค่พระรอง หรือผู้หญิงส่วนมากชอบผู้ชายเย็นชาวะ /ในชีวิตจริงกูมีเพื่อนสาวที่ได้แฟนเป็นผู้ชายเย็นชาไง แล้วชอบมาบ่นให้กูฟังว่าไม่มีความโรแมนติก แต่นางชอบอ่านนิยายแนวพระเอกเย็นชา อืม...
>>899 ผู้ชายเย็นชาในนิยายมันน่ากรี๊ดดีนะมึง ดูเท่ คูล เข้าถึงยาก ไรเงี้ย
แต่ในนิยายกับชีวิตจริงมันต่างกันแหละ เวลากูอ่านนิยายกูก็กรี๊ดผู้ชายเย็นชา แต่ถ้าจะมีแฟนจริงๆกูขอผู้ชายฮาๆน่ารักๆดีกว่าว่ะ คบคนเย็นชากูทำตัวไม่ถูก คงอยู่ด้วยลำบาก
กูว่ามันคล้ายๆกับผู้ชายชอบสาวซึนอะ ในการ์ตูนสาวซึนมันน่ารัก โมเอะ แต่ผู้หญิงซึนๆในชีวิตจริงนี่มันคบลำบากอยู่นะ
>>899 ก็มันดูลึกลับ น่าค้นหา คูลๆ เข้าถึงยากไรงี้ ถ้าพิชิตใจได้ก็คงฟินสุดๆ คล้ายๆว่าได้ชัยชนะมา อีกอย่างในนิยายมันจะบรรยายความรู้สึกพระเอกด้วยไง ทำให้เรารู้ว่าไอ้นี่มันหล่อจุงเบย มันเท่มากๆ มันรักนางเอกที่สุด แต่ชีวิตจริงมันไม่มีคำพูดแสดงออกแบบนิยายอะดิ เราจะไปรู้ได้ไงว่าไอ้นี่มันคิดอะไรอยู่ มันจะทำอะไร มันรำคาญกูป่ะเนี่ย ไม่เข้าใจมันเลย ทำไมไม่พูดออกมา เย็นชาเป็นสากกะเบือก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ ประมาณนี้
จุดเริ่มต้นมันมาจากไหนวะ บารามอส?? นิยายเกาหลี?? ที่พระเอกจะต้องขรึมๆ เย็นชาเนี่ย
>>899 มันดูน่าค้นหา
กูขอระบายกับ ว่าด้วยอาชีพนางสนม แจ่มใสอัพถึงตอนที่ 6 แล้ว กูพยายามทำใจที่จะอ่านไป แต่กูอ่านไปน้ำตาตกในไป .... กูผิดหวังมากว่ะมึง กูรอเรื่องนี้มานานมาก แต่แจ่มใสทำไมทำแบบนี้กับกูได้ T T แล้วกูตามไปอ่านแถลงบอกทางเพจบอกว่า ทำไปถึงขั้นที่แก้ไขไม่ได้แล้ว คือกูช้ำมากกก ขั้นแก้ไม่ได้คือพิมพ์แล้วหรือไงวะ กูเสียใจมากอ่ะมึง T T
สวัสดีโม่งที่บ่นแจ่มใสว่าแปลชุดใหม่ห่วยแตกแต่ก็ยังดันทุรังอ่าน เราจะตายไปด้วยกันนะ
กูหมดหวังกับแจ่มไปละ5555 ติดลบอีกต่างหาก พูดตรงๆเลยว่ากูรอเช่าอ่านตอนจบเอา นี่ก็แวะไปอ่านเวอร์ชั่นแจ่มในเว็บให้สมองตื้อเล่นเป็นระยะ เพิ่มยอดวิวให้เล่นๆแต่ไม่ซื้อเล่ม ... เจี่ยเจีย เม่ยเมยกูหายไปละ เป็นพี่หญิงกับน้องหวั่นอี๋แทน ในสมองนี่พากย์เสียงช่องเจ็ดตอนเช้าเวลาอ่าน แม่พิกุลทองของพี่....
เหี้ยสุดที่นั่งอ่าน กูตกใจ"ตำหนักยอดขวัญ"ไปประมาณสามพันวินาที ถึงกับต้องเลื่อนอ่านอีกทีว่ามันคือตำหนักของฮองเฮา สัส กูนึกว่าอ่านนิยายหน้าปกรุ่นแม่ยังสาวๆ
สรุป อ่านแล้วเพลีย รู้สึกอ่อนแอ เหนื่อยกับการแปลไทยให้เป็นไทย แต่ยังรักแจ่มใสเสมอ ดอก
แถม มีชื่อเรือนชิดจันทร์(ของเยียนกุ้ยผิน ฉบับเดิมใช้คำว่าหลินเย่ซวน)ด้วย ก็ชอบที่รู้คำแปลนะ แต่กูรู้สึกเหมือนอ่านขวัญเรือน เฟิงจิ่นกูกลายเป็นคุณหลวงไปแร่ะ
พระเอกเย็นชามันก็มีมาตั้งแต่ชาติที่แล้วไม่ใช่เหรอวะ ละครหลังข่าวเงี้ย นิยายคลาสสิกเงี้ย อังศุมาลินแสนซึนกับโกโบริเย็นชาเงี้ย
Pride and Prejudice เงี้ย กูไม่ค่อยอ่านนิยายคลาสสิกฝรั่ง แต่คือคาแรคเตอร์พื้นๆแบบนี้มันก็มีมานานมากแล้วอะนะ
มันคาแรคเตอร์เดเวล็อปเม้นง่ายมั้งมึง
>>913 โกโบริเย็นชาตรงไหน ออกจะลูกหมาตามอังศุมาลินต้อยๆ มีรักแรกพบที่ท่าน้ำก็เพียรไปหาเขาที่บ้าน จีบจนเอาชนะใจแม่ยายได้ เมียไม่อยากให้เข้าใกล้ก็ไม่เข้า แต่มองตาละห้อย อังศุมาลินต่างหากที่เย็นชา ปากร้าย ซึน ชอบทำร้ายจิตใจพ่อดอกมะลิให้ชอกช้ำอยู่เรื่อย มึงอ่านนิยายเรื่องเดียวกับกูป่ะเนี่ย
>>914 เออ จริงว่ะ Mr.Darcy นี่ชายในฝันของผู้หญิงยุคนั้น (จนถึงยุคนี้อย่างบริดเจ็ต โจนส์) เลย
นิยายรัก(ทั้งสมัยก่อนและปัจจุบัน)ก็ชอบใช้พระเอกเป็นแบบนี้ หล่อ รวย ดูภายนอกเย็นชา เจอกันตอนแรกความประทับใจติดลบ ปากหนัก แอบช่วยนางเอกอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่เคยให้นางเอกรู้ ไรเงี้ย
กูชักเริ่มรำคาญพวกบ่นว่าด้วยเรื่องอาชีพนางสนมแล้วละ มึงบ่นกันไม่จบสักทีเนอะ
กูขอสาปแช่งคนที่แนะนำ i am the ex-demon king ให้กู
เงินกูจะหมดแล้วแต่บอร์ดแม่งน่าซื้อมาก น่ารักเหี้ยด้วย กูชอบกระดานทอยแบบนี้ด้วยยย เหี้ยมาก ขอสาปแช่ง
เฮ้ย เพื่อนโม่งๆ สถาฯแม่งเกิดอะไรขึ้นวะ กูเห็นเพจ SC เหมือนจะบอกว่างานใหม่เขาจะส่งที่อื่น มีใครรู้อะไรบ้างวะ งานใหม่ๆเขาแข่จนสถาไม่เอาหรอวะ
งานใหม่ๆเขาแย่จนสถาไม่เอาหรอวะ
"ลุ้นกับสำนักพิมพ์ที่ขึ้นชื่อว่าผ่านยากระดับที่สุดของไทย" สนพ.อะไรวะ? แล้วที่ยากคือมาตรฐานคุณภาพเขาสูงดีเลิศหรือว่าอะไร
ว่าไปพวกมึงรู้ข้อมูลแบบนี้กันมาจากไหนวะ
http://smellofbooks.com/ กูเพิ่งรู้ว่ามันมีขายด้วย
>>953 กูชอบความนุ่มกับความสบายตาของกระดาษถนอมสายตานะ ไม่ใช่แค่กลิ่นอย่างเดียว ตอนนี้Kiddle ที่ใช้ E ink ทำให้อ่านได้สยายกว่าจอทั่วไปแต่ยังสู้รูปเล่มไม่ได้อยู่ดี
เออ ไหนๆก็พูดถึงเรื่องกระดาษแล้ว กูบ่นนานมีหน่อย ไอ้ห่าซื้อนิยายแปลมาเล่มหนึ่งเกือบ200 แต่คุณภาพกระดาษกากชิบหาย มีการบอกว่าเป็นกระดาษถนอมสายตาแต่เท่าที่ดูๆ เหมือนกระดาษรีไซเคิลว่ะ สีออกเทาๆ บางและเบา หมึกก็ไม่ชัด(เมื่อเทียบกับการพิมพ์ลงกระดาษเหลืองของค่ายอื่น) เทียบกับนิยายค่ายอื่นที่ตอนนี้ใช้กระดาษถนอมสายตาอย่างดีแล้วกูรู้สึกว่านานมีแม่งเล่นง่ายประหยัดต้นทุน สงสัยคงคิดว่าพิมพ์ๆลงกระดาษอะไรแม่งก็อ่านได้เหมือนกันหมด แฮรี่ภาค7 ฉบับพิมพ์ใหม่ในงานหนังสือยังใช้กระดาษขาวแถมสีไม่เท่ากัน มีดวงมึงจางๆด้วยนะมึง
เห็นโม่งด้านบนพูดเรื่องสรรพนามบุรุษของญี่ปุ่น กุเพิ่งไปเปิดนิยายณาราเรื่องรอยฝันฯ มา เห็นแทนโอะโต้ซัง โอะก้าซัง โอะนี่จัง กุอยากรู้ว่ามันต้องแทนแบบนั้นมั้ยวะ แทนพ่อแทนแม่ไม่ได้เรอะ หรือแม่งแทนแล้วจะดูไทยไป?
จะครบ 1000 rep
มีแต่สวะมาคุยกัน มู้นี้ช่างตกต่ำจริงๆ
กุว่า มู้นี้ ให้ข้อมูลกูไปปรับปรุงเยอะนะ 555555555555555555555555555555555555555555
>>962 เขียนวาตาชิทั้งเล่มมันก็เปลืองหมึกสิมึง เผลอๆ คนอ่านจะนึกว่าเป็นชื่อตัวละครด้วย ที่บ้างคำยังเขียนเป็น โอนี่จัง(พี่ชาย) โอเน่จัง(พี่สาว) คงเพราะมันเข้าอารมณ์กว่าคำไทยมั้ง เหมือนแดดดี้(พ่อ) หม่าม้า(แม่)
ปล.แล้วพวกโอนี่จังโอนี่จังถ้าแปลให้ตรงกว่านี้ก็ พี่ชายขา/พี่สาวขา(หรือจ๋าก็ได้) ถ้าเป็นโอก้าซังก็คุณแม่(โอก้า=แม่ ซัง=คุณ)
เห็นหน้านิยายบางเรื่องในเด็กดีเขียนบอกว่าจะรีไรท์เนื้อหาไม่ให้ขัดกับกฎหมายผู้เยาว์อายุไม่เกิน 18 ปี มันเป็นกฎหมายเกี่ยวกับอะไรวะนั่น
เผื่อใครสนใจ Kick starter ของนักเขียน http://afterword.co/about-project/
>>967 อือหือ เป็นโครงการดีงามที่กูได้แต่ดูอยู่เงียบๆ เพราะกูแต่งแฟนตาซีเฮฮาไร้สาระ ใครแต่งแนววิชาการหรือหนังสือเด็ก ธุรกิจปรัชญา มึงมีแหล่งระดมทุนแล้วนะเว้ยเฮ้ย /เจียดเงินเดือนไปช่วยซักเรื่องหนึ่ง
>>968 หลายเรื่องว่ะ เท่าที่กูเข้าไปดูก็ส่วนมากตัวละครอายุ 16-17 ก็แต่งงานแล้ว (ประเพณีสมัยก่อน สมัยนี้ทำไม่ได้แล้ว) ไม่ก็อย่างที่ >>966 ว่า ถูกพระเอกเยิบเก็บเข้าฮาเร็ม ส่วนมากเป็นพวกนิยายฮาเร็ม
>>969 มีที่นี่อีกแห่ง เห็นว่าระดมทุนแปลโมบี้ ดิ้ก กับโลลิต้า http://readery.co/
โลลิต้าฉบับพิมพ์ใหม่ เป็นไงบ้างวะ กูยังไม่ได้ซื้อเลย
เรื่องระดมทุนทำหนังสือ กูสงสัยมากว่าทำไมมันเพิ่งมี ทั้งที่มันควรจะมีมานานมากแล้วตั้งแต่10ปีก่อน มีคอมพิวเตอร์เอื้ออาทร ราคาคอมเริ่มถูกลงจนเข้าถึงครัวเรือนในไทยมากขึ้น อินเตอร์เน็ตก็เริ่มเปลี่ยนจาก 56k เป็น ADSL แต่กูก็ไม่เห็นสำนักพิมพ์ไหนจะใช้อินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์เลย มีแค่เด็กดีที่เดียวมั้งที่พอจะเข้าข่ายระดมทุน คือเปิดโอกาสให้นักเขียนไปปล่อยงานบนเว็บ พอยอดวิวสูง บก.ก็หยิบไปตีพิมพ์ แต่เท่าที่ดูก็มีแค่ Magic สถาพร พิมพ์คำ Banana แจ่มใส ที่ลงทุนด้านนี้
แต่สำนักพิมพ์ใหญ่ๆที่มีหนังสือพิมพ์ของตัวเองอย่าง มติชน โพสบุค สยาม เนชั่น กลับไม่มีการระดมทุน หนังสือเล่มหนึ่งถ้าวางในร้านก็โดนหักไปเกือบครึ่งหนึ่งของราคาปก SE-EDนี่กินไป40% แถมเคยมีข่าวว่าขอเพิ่ม 1%ถ้าหนังสือได้วางในชั้นด้วยมั้ง แทนที่จะใช้พื้นที่ในหนังสือพิมพ์ตัวเองให้เป็นประโยชน์เปิดโอกาสให้นักเขียนหน้าใหม่เสนองานมา ปล่อยเรื่องย่อลงให้อ่าน รอกระแสตอบรับจากคนอ่าน แล้วจัดตีพิมพ์ขายเอง ส่งขายทางไปรษณีย์ไม่ต้องส่งเข้าร้านให้ร้านมันหักเปอร์เซ็น แต่แม่งไม่ทำ กูไม่เข้าใจว่าพวกร้านSE-ED นายอินทร์ มันมีเงื่อนไขอะไรรึเปล่าทำให้การระดมทุนสร้างหนังสือไม่เกิดเท่าที่ควร
เรื่องระดมทุนเคยคุยกับเพื่อนว่าระบบการเงินออนไลน์ที่ไทยไมาได้ดีเท่าไหร่ คนมีบัตรเครติดน้อย ระบบเพย์พาลไม่แพร่หลาย สมมติระดมทุนไม่สำเร็จแล้วต้องคืนเวินงี้ ทางที่ทำได้คือนั่งทำรายการทีละบัญชีๆ ฯลฯ
กูพึ่งไป net เจอกระทู้นี้
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2007/03/A5199093/A5199093.html
เออ คือความเห็นที่ 26 ที่ยกตัวอย่างประโยคมา...นี้มันแปลมาหมดเลยแต่เปลี่ยนชื่อเฉยๆนี้หว่า เฮ้ย คือกูไม่ได้อ่านทั้งคิงโซโลมอนทั้งเพชรพระอุมา แต่คืออ่านในกระทู้แล้วได้มีเล่าพล็อตคร่าวๆ...เออ เหมือนเกินไปนะ เกินไปจริงๆนะ แต่ในนั้นก็ดันบอกว่าเฮ้ย นี้คือไม่ได้ลอก ทำกูสงสัยมาตรฐานการลอกตัวเองเลย สรุปแล้วอะไรคือการลอกอะไรคือไม่ลอกวะ
>>974 ตอบเรื่องลอก กูว่าลอกชัวร์ และไม่ใช่เรื่องแปลก นวนิยายมันมีต้นแบบมาจากทางตะวันตก บทประพันธ์ดั่งเดิมของไทยมีแค่ร้อยกรอง ไม่มีร้อยแก้ว(ที่ใกล้เคียงคือนิทานพื้นบ้าน) จนสมัยร.5 ท่านส่งคนไปเรียนต่อเมืองนอก แล้วก็ได้รับอิทธิพลบทประพันธ์ต่างประเทศ นิยายเรื่องแรกของไทยที่ชื่อความพยาบาทก็เป็นเรื่องแปล แต่ไม่มีการให้เครดิตต้นฉบับ ทำนองว่าการแปลออกมาในยุคนั้นก็ไม่ต่างจากการแต่งเรื่องขึ้นมาใหม่
ทีนี้พันทิปมันติ่งเพชรพระอุมา เหมือนติ่งทุกๆวงการที่จะหลับหูหลับตาปกป้องศิลปิน โดนประเด็นหลักที่หยิบมาต้านคือจำนวนเล่ม เพราะ King Solomonมีเล่มเดียว แต่เพชรพระอุมามีเกือบ 20เล่ม แต่สำหรับกูลอกก็คือลอกว่ะ พนมเทียนแกเก่งจริงที่แต่งเพิ่มออกมาเกือบๆ 50 เล่ม อันนี้ยอมรับฝีมือแก แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงว่าเล่มแรกก็ก็อปมาจากนิยายฝรั่ง
พูดงี้แล้วนิยายไทยเก่าๆมันมีเรื่องไหนที่ไม่ลอกบ้างว่ะ คือกูอ่านไปอ่านมาเห็นบอกว่าเนี้ยดูสิมีอีกตั้งหลายเรื่อง
เรื่องที่รัชกาลที่หกแปลมาจากเชคสเปียร์ก็เขียนไว้ตั้งแต่สมัยนั้นว่าแปลมาจ้ะ สรุป กูว่า ถ้ามีกะใจอยากจะบอกจริง ไม่คิดฮุบของชาวบ้านมาเป็นของตัวจริง ก็คงบอก ถ้าไม่ ก็ไม่นั่นแหละ
กูว่าจะเช่าเพชรพรอุมามาอ่าน...เดี๋ยวดีกว่าวะ รู้สึกแปลกๆ ว่าแต่มันมีแต่ฉากเย็ดหรอวะ
กูอยากอ่านหนังสือที่เป็นบันทึกจริงของพรานสมัยก่อน ไม่รู้จะหาที่ไหน ใครรู้แหล่งบอกกูด้วย มันเป็นหนังสือเก่าอ่ะ อย่าง Man-Eaters of Kumaon
ทำไมดอกปอปมันดังวะ ทั้งที่งานมันก็อปแฮรี่ ก็อปไฟนอล8 แถมข้อมูลก็หาง่ายทำไมไม่มีดราม่าก็อปงานแถมแฟนอวยก็ซื้องานมันเรื่อยๆอีก
ก็ขายเด็กอย่างที่ >>991 ว่าล่ะมั้ง นึกถึงสมัยเรียนมัธยมแล้วอาจารย์เชิญมาเป็นวิทยากร เกณฑ์นักเรียนเข้าไปฟัง แล้วให้สรุปเป็นใบงานว่าได้ประโยชน์อะไรจากการฟังบ้าง (แม่ง..เป็นเรื่องยากสำหรับกูจริงๆ..)
มีเล่นเกมส์ให้เด็กเข้ากลุ่มแกนนำหนังสืออะไรของมันก็จำไม่ได้แล้ว
ฝอยจบดอกปอปมีโต๊ะมาตั้งขายหนังสือเป็นล่ำเป็นสัน เพื่อนนักเรียนกูเฮโลกันไปซื้อแถวยาวเหยียดเบย
>>992 พูดถึงเชิญเป็นวิทยากร จำได้สมัยมัธยมมีรุ่นน้องกูคนนึงแต่งนิยานเล่นเเล้วเสือกได้ตีพิมพ์ พอมีเชิญนักเขียน(ใครกูก็จำไม่ได้ละ) แม่งมันได้ขึ้นไปเสวนาบนเวทีร่วมกับเค้าด้วย แถมทั้งชั้นของมัน ตอนนั้นน่าจะมอสามได้เข้าร่วมหมด ชั้นมออื่นไม่ได้เข้า กูล่ะเบ้ปาก นิยายก็ลอกๆตามสมัยนิยมแท้ๆ ภาษาก็งั้นๆ อาศัยการได้พิมพ์ล้วนๆ
วันนี้กูเอาชื่อนิยายที่กูซื้อมาไป Google กะว่าจะหารีวิวอ่าน แต่แม่งแจ๊กพอต เจอนิยายเกือบเต็มเล่ม ไม่รู้ว่าหลุดมาได้ไง แม่งเหมือนไฟล์หลุดมาจากสำนักพิมพ์เลยว่ะ คือมาทั้งหน้าปกและตัวเล่ม ยังดีที่มีการตัดเนื้อหาออกบ้าง ไม่งั้นกูเสียดายตังค์
>>990 สมัยเด็กพี่กูซื้อไวท์โรดมา กูอ่านตอนนั้นก็รู้สึกว่าสนุกดีนะ (แต่กูไม่เคยเล่นFF เลยไม่รู้สึกถึงความเหมือน) แต่พอขึ้นภาคสองเท่านั้นแหละกูอ่านแล้ววางจนจำแต่ละเล่มในภาคสองไม่ได้เลย ส่วนภาคสาม... เรียงอยู่ในตู้แต่กูยังไม่เคยหยิบออกมาเลยว่ะ พี่แม่งยิ่งกว่ากู ภาคสองอ่านไม่จบแต่บอกให้กูไปแบกภาคสามมาจากงานหนังสือแล้วแม่งก็ไม่อ่านเหมือนกัน
เรื่อง doll อะไรนั่นพี่กูก็ไม่เข็ด ให้กูไปซื้ออีก กูเลยบายบอกอยากได้ไปซื้อเองเหอะ
บ่นมานาน สรุปกูก็ไม่รู้ว่ะว่าทำไมดัง กูชอบแค่ภาคแรก
ปิดกระทู้ ไปต่อกันที่ https://fanboi.ch/subculture/2142/l5/ หิ้งหนังสือแห่งบอร์ดโม่ง อาถรรพ์หิ้งที่ 13
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.