>>259 "ยันเดเระ"คือรักมากจนไม่อยากให้คนอื่นรอบๆคนที่รักเข้ามายุ่มย่าม ห้ามทุกคนเข้าใกล้ อาจนำไปสู่การทำร้ายหรือฆ่าคนรอบข้างคนที่รักได้ หรือหนักเข้าก็อาจทำร้ายตัวคนที่รักด้วย ยันเดเระไม่ได้ชื่นชอบการละเมิดร่างกายคนอื่น แต่ถ้าต้องทำก็จะทำ มันเป็นการทำลายทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้สมหวังในรัก ชอบที่ตัวเองควบคุมสถานการณ์ให้คนรักอยู่ในมือตัวเองคนเดียวได้
ส่วน "กุโระ" นั้นไม่จำเป็นต้องมีความรักมาเกี่ยวข้องก็ได้ เป็นแค่ลักษณะของความต้องการที่จะทำร้ายร่างกายคนอื่นในระดับที่รุนแรงกว่าSM คือSMแค่เจ็บ เป็นแผล มีการทรมานจิตใจร่วมด้วย แต่กุโระจะเล่นถึงพิการหรือตาย สมมติว่าถ้ามีฆาตกรคนนึงจับสาวมาข่มขืนแล้วฉีกทึ้งเนื้อจนเละไปด้วย ฆาตกรอาจจะไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้น แต่แค่การได้ละเมิดร่างกายของอื่นถึงขนาดนั้นมันทำให้เขาสาสมใจที่สุดแล้วเท่านั้นเอง แต่แนวกุโระที่มีความรักปนอยู่ด้วยก็มีเหมือนกัน กูมองว่ากุโระแบบมีความรักอยู่ด้วยมันคือการพยายามทำให้อีกฝ่ายยอมรับ แต่ตัวคนทำไม่สามารถทนรับคำตัดสินจากอีกฝ่ายได้ เลยละเมิดร่างกายของคนที่ชอบอย่างรุนแรงเพื่อให้รู้สึกว่าอีกฝ่ายยอมให้เขาทำขนาดนี้เลยนะ มันเลยทำให้รู้สึกว่าได้ครอบครองอีกฝ่ายโดยแท้จริง เพราะไม่เคยมีใครคนอื่นมาทำกับร่างกายของคนที่ตัวเองรักถึงขนาดนี้มาก่อน เหมือนอีกฝ่ายยอมรับเขากลายๆ ขัดขืนไม่ได้ ไม่มีคำปฏิเสธแน่ๆ อย่างเคสฆาตกรที่ยกมามันก็เป็นเหมือนการแสวงหาการยอมรับเหมือนกัน แต่เป็นในรูปแบบของการถูกยอมรับว่าตัวเขามีอำนาจเหนือกว่าอะไรแบบนี้ (อันนี้กูตีความเองนะ)