มู้เก่า >>>/subculture/18872/
Last posted
Total of 125 posts
มู้เก่า >>>/subculture/18872/
>>>/subculture/18872/994-998
เรื่องระบบใหม่ของแมวดำเท่าที่ได้คุยกับน้องนะ
ตอนนี้นั่งคุยกับลูกค้าที่โต้ะไม่ได้แล้ว
ถ้าลูกค้าอยากให้น้องมานั่งคุยด้วยต้องเปิดดริ้ง
แล้วระยะเวลาที่น้องจะนั่งคุยด้วยก็ตามราคา
ราคาเริ่มต้นประมาณ 200(เบียร์แก้วเล็ก) ได้นั่งคุยนิดหนึ่ง
อยากคุยนานๆ ก็เปิดพวกแชมเปญอะไรพวกนี้
คือเป็นการวางระบบงานให้มันชัดเจนขึ้น
เพราะเมื่อก่อนสั่งแค่ซอฟดริ้งน้องก็มานั่งคุยแล้ว
แล้วจากที่ตัวกูเคยเจอนะ แมวดำบางคนนั่งแช่โต้ะลูกค้าเป็นชั่วโมง
ทั้งที่โต้ะนั้นสั่งซอฟดริ้งธรรมดา จนกูแอบคิดว่าเหมือนน้องแอบอู้งานเลยว่ะ 555
แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน เข้าใจว่าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแมวทะเลาะกัน
ทำไมคนนี้ไม่ทำงานเอาแต่นั่งแช่โต้ะ ทำไมคนนี้ต้องวิ่งทุกโต้ะคนเดียว อะไรแบบนี้
ร้านเลยกำหนดให้ชัดเจนไปเลยว่าต่อไปนี้ นั่งได้เฉพาะโต้ะที่ลูกค้าเปิดดริ้ง
คือจะไปทางเน้นขายดริ้งแบบร้านม่วงแล้ว แต่ข้อดีกว่าร้านม่วงคือถ้างบน้อย
หรือแค่อยากแวะไปทักทายเจอหน้าแมวที่ไม่ได้เจอกันนาน
ก็สั่งของกินเล่นอะไรพวกนี้มา น้องก็แวะมายืนคุยบ้าง เป็นทางเลือก
สำหรับคนงบไม่เยอะ หรือไม่ใช่สายแอลที่จะเปิดดริ้งทุกครั้งที่เข้าร้าน
มาประเดิมครัพ
>>2 ส่วนตัวมองว่าแฟร์ดี จากปากคำตามที่หลายคนว่า
ที่เหลือสิ่งที่คนอยากได้ คือระบบหลังบ้านที่ทำออกมาแล้วแฟร์พอ งานกราฟฟิค การจัดการสินค้า ไรงี้
ปีหน้า เท่าที่ฟังมา โปรเจคใหม่อย่างที่มีคนพูดถึงอย่างไอดอลก็จะมีด้วย แต่รายละเอียด น้องไม่ได้ลงลึกอะไรเท่าไหร่ เข้าใจว่ายังไม่ถึงเวลาลงดีเทล
การเป็นเมดซอกหลืบมันชั้นต่ำ เลยจะอัพเป็นไอดอลไง
มีร้านไหนใส่กางเกงโยคะบ้าง
ควายเป็นเหี้ยไรกับเรื่องล้างแก้วนักหนา แม่มึงจะตายหรอ งั้นก็ตายเลย
เลิกอวยแมวดำอีควาย ข้างในด่ากันชิบหายหมดแล้ว มีแต่ในโม่งอวยร้าน อยากให้แมวดำดีเหมือนที่โม่งอวย สงสารแคส
ลองถามตัวเองดูยังว่า ทำไมถึงว่างล้างแก้ว จ้องจะจับผิดนินทาคนอื่นไปวันๆ แต่คนอื่นเขามีหน้าที่อื่นๆทำ พิจารณาตัวเองดูก่อนจะไปนินทาคนอื่นเขาอะ เสร่ออยากจะจับผิด แต่ตอนเขาล้างแก้ว เ สื อ ก ไม่เห็น ตาหรือ ห ี
สังคมขยะ แคสแม่งนินทากันเอง ด่ากันลับหลัง หยิกหลังกันให้ควัก ทำเหี้ยไรผิด ผิดใจกันนิดหน่อยก็เอาไปด่าเอาไปนินทา ต่อหน้าทำดีลับหลังอีกอย่าง อย่าง่าแต่ระบบร้านเหี้ยเลย แคสก็เหี้ย
ตีกันเลยๆ
ทะเลาะกันเพราะล้างแก้ว??
อ้อออออออออ ตารางแมวรอบใหม่ไม่มาเพราะไม่ยอมกะเดียวกับคนไม่ล้างสินะ
BNK48 ก็มีขายน้ำ ยืนคุย เลือกเมมได้ แถมถูกกว่าอีกด้วย 100 กว่าบาท ได้ยืนคุย 2-3นาที
แถมมีแผ่นรองแก้ว , แม่เหล็กหน้าเมมให้สะสมอีก
พวกเมิงมีสินค้าหน้าเมมบ้างไหม
ดูท่า ผญ ชอบอะไรแบบนี้เหลือเกิน
เริ่มมาโดนกลั่นแกล้ง วางแผนแก้แค้น นินทากันสนุก
แก้แค้นกันไป แก้แค้นกันมา เอาเรื่องไฟในมาเล่า
กุถึงไม่ชอบ ผญ ที่ทำดีกับกูเลย เพราะเหมือนมันมีเป้าหมายอยู่
กุชอบ ผญที่จริงใจ ไม่มีลับลมคมในมากกว่า
การทำงานร่วมกันมันก็ต้องมีบ้างแหละ ไม่เข้าใจผญว่ะ ทำไมของแบบนี้ไม่พูดกันต่อหน้าวะ เอามานินทาลับหลังอยู่ได้ เหมือนเด็กไม่รู้จักโต
จิตเวชคุยกับตัวเองไม่ต้องแปลกใจนะ เค้าเอือมมันกันทั้งนั้น
*เปรี้ยว
สรุปคือโม่งมีไว้ด่ากันแบบไม่ให้รู้ว่าใครเป็นใคร แต่ก็รู้กันอยู่ดีใช่ไหมครับ
เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่แปลกดีนะ แต่สังคมอยู่ได้ด้วยการนินทานี่แหล่ะครับ
- ประธานบริษัทกางเกงโยคะ
ครับประธาน
>>21 100 บาท คุยได้ 2 นาที
ถ้าคุยทั้งชั่วโมงก็ 3000 ราคาเอาเรื่องอยู่นะ
แต่พวกคาเฟ่สายนั่งดริ้งอย่าง แมวดำ ม่วง หรือลาดพร้าว
ราคามันไม่แรงขนาดนั้น ถ้าอยากนั่งคุยกับน้องก็แค่เปิดโซจู ค้อกเทล
หรือถ้ากระเป๋าหนัก สายเปย์ ก็เปิดแชมเปญ ราคาเริ่มต้น 1000นิดๆ
ได้นั่งคุยกับน้องทั้งชั่วโมงเลย
จาก ChatGPT
กรณีที่ "ผัวเมด" (หรือสามีของพนักงานเมด) มาสวมรอยเป็น "นายท่าน" (ลูกค้าหรือบุคคลที่มามีปฏิสัมพันธ์กับพนักงานในร้านเมดคาเฟ่) ในร้านเมดคาเฟ่ เป็นเรื่องที่อาจเกิดจากหลายสาเหตุ และสามารถก่อให้เกิดผลที่ตามมาได้หลายด้าน ทั้งในเชิงลบและในแง่ที่ต้องพิจารณาจากมุมมองสังคม และด้านธุรกิจ
สาเหตุที่อาจทำให้ผัวเมดมาสวมรอยเป็นนายท่าน:
1. ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบทบาทและความสัมพันธ์
-อาจเป็นความเข้าใจผิดหรือการแสดงออกที่ไม่ตรงไปตรงมาของสามีที่ต้องการแสดงตัวในฐานะลูกค้าธรรมดา เพื่อให้ดูเหมือนปกติ หรือเพื่อทดสอบการทำงานของภรรยาตัวเองในร้านเมดคาเฟ่
-บางครั้งอาจเป็นการทำเพื่อ สร้างภาพลักษณ์ หรือ แสดงให้เห็นถึงการควบคุม ในสถานการณ์ที่มีความเป็นสาธารณะ เช่น การทำให้ดูเหมือนว่าพนักงานในร้านคาเฟ่กำลังทำงานบริการให้กับลูกค้า เช่นเดียวกับคนอื่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกสงสัยเกี่ยวกับสถานะของภรรยา
2. ปัญหาความไม่เข้าใจหรือความระแวง
-สามีอาจรู้สึกไม่พอใจหรือตึงเครียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในที่ทำงานของภรรยา โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าภรรยาต้องแสดงบทบาทน่ารักหรือมีการติดต่อกับลูกค้าในลักษณะที่ใกล้ชิด
-การมาสวมรอยเป็นนายท่านอาจเกิดจากความไม่พอใจในสิ่งที่เขามองว่าไม่เหมาะสม เช่น ความกลัวว่าอาจเกิดการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการระหว่างภรรยาและลูกค้า หรือกลัวว่าภรรยาจะได้รับความสนใจจากคนอื่น
3. ความต้องการแสดงอำนาจหรือการควบคุม
-การสวมรอยเป็นนายท่านอาจสะท้อนถึงความต้องการที่จะ ควบคุมสถานการณ์ หรือการแสดง อำนาจ ในการดูแลหรือควบคุมการทำงานของภรรยาในร้านเมดคาเฟ่
-บางคนอาจมองว่าการสวมรอยเป็นนายท่านนั้นสามารถช่วย ปกป้องภาพลักษณ์ของครอบครัว หรือไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบทบาทของภรรยาในสังคม หรือการสร้างความชัดเจนในสถานะความสัมพันธ์
ผลที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ผัวเมดมาสวมรอยเป็นนายท่าน:
1. ผลกระทบทางจิตใจและอารมณ์ต่อพนักงานในร้าน
-การที่สามีมาสวมรอยเป็นลูกค้าหรือ "นายท่าน" อาจทำให้เกิดความ เครียด หรือ รู้สึกไม่สบายใจ ต่อภรรยาหรือพนักงานคนอื่นๆ ในร้าน เพราะพวกเขาอาจรู้สึกว่ามีการตัดสินจากบุคคลภายนอก ซึ่งอาจสร้างความรู้สึกไม่สบายใจในการทำงาน หรือรู้สึกว่าบทบาทในที่ทำงานของพวกเขาถูกจำกัดหรือถูกคุมคาม
-หากการกระทำนี้ถูกสังเกตจากลูกค้าหรือบุคคลภายนอก อาจทำให้เกิดการ ขาดความมั่นใจ และ ความรู้สึกไม่ปลอดภัย ของพนักงานคนอื่นๆ ในร้าน รวมถึงทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดในสภาพแวดล้อมการทำงาน
2. ปัญหาความไม่เป็นมืออาชีพและความสับสนในการบริการ
-การที่ผัวเมดมาสวมรอยเป็นนายท่านอาจทำให้เกิด ความสับสน หรือ การเข้าใจผิด ในการให้บริการจากลูกค้าคนอื่นๆ เพราะลูกค้าหรือผู้ที่มาที่ร้านอาจไม่ได้รับการบริการในลักษณะที่เป็นมืออาชีพ
-พนักงานคนอื่นๆ อาจรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำงานได้อย่างอิสระ เพราะรู้สึกว่าเขา (สามี) อาจจะดูแลหรือควบคุมพนักงานในร้านในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ
3. การเกิดความเข้าใจผิดในแง่ของความสัมพันธ์
-หากการกระทำนี้ถูกเปิดเผยหรือถูกสังเกตจากลูกค้าหรือบุคคลภายนอก อาจทำให้เกิด ความเข้าใจผิด หรือ การตีความผิด เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานในร้าน
-ลูกค้าหรือบุคคลภายนอกอาจไม่เข้าใจว่า "นายท่าน" ที่ปรากฏตัวในร้านจริงๆ แล้วเป็นสามีของพนักงาน เมื่อนั้นอาจเกิดความคิดผิดๆ เกี่ยวกับบทบาทของพนักงานในร้านเมดคาเฟ่
4. ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของร้าน
-การกระทำที่ไม่เหมาะสมของบุคคลที่เกี่ยวข้องในร้านเมดคาเฟ่สามารถ ทำลายภาพลักษณ์ ของร้านได้ โดยเฉพาะถ้าหากการกระทำนั้นทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดำเนินการของร้าน
-หากลูกค้าสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมืออาชีพหรือเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในร้าน อาจส่งผลให้ลูกค้าคนอื่นๆ รู้สึกไม่สบายใจและไม่กลับมาใช้บริการร้านนั้นอีก
5. ผลกระทบทางกฎหมายหรือการละเมิดขอบเขต
-หากการกระทำนี้ทำให้เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของพนักงาน หรือทำให้เกิดการคุกคามในรูปแบบใดๆ ก็อาจนำไปสู่ ข้อพิพาททางกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือการกระทำที่ไม่เหมาะสมในสถานที่ทำงาน
-การสวมรอยอาจทำให้เกิดปัญหาด้านความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในที่ทำงาน ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าหรือพนักงานรู้สึกว่าไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่
สรุป
การที่ ผัวเมดมาสวมรอยเป็นนายท่าน ในร้านเมดคาเฟ่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความไม่มั่นใจในความสัมพันธ์, การแสดงอำนาจ, หรือความต้องการปกป้องภาพลักษณ์ของครอบครัว แต่การกระทำเช่นนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการกระทบต่อสุขภาพจิตของพนักงาน, การสร้างความสับสนในการบริการ, การเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์, และการทำลายภาพลักษณ์ของร้านเมดคาเฟ่
การมีการควบคุมที่ดีในสถานที่ทำงาน และการรักษาความมืออาชีพของพนักงานทุกคน รวมถึงการเคารพสิทธิของบุคคลในที่ทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยหลีกเลี่ยงผลกระทบเหล่านี้.
กรณีที่ พนักงานร้านเมดคาเฟ่ บอกกับลูกค้าว่า "ไม่มีแฟน" ทั้งที่จริงๆ แล้วมี ผัว (สามี) อยู่แล้ว อาจเกิดจากแรงจูงใจหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับ สภาพแวดล้อมการทำงาน และ ค่านิยมในอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งส่งผลกระทบได้ทั้งในแง่ของธุรกิจ (นายจ้าง) และลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการร้านเมดคาเฟ่
แรงจูงใจที่อาจทำให้พนักงานบอกกับลูกค้าว่า "ไม่มีแฟน" ทั้งที่มีผัวอยู่แล้ว:
1. การสร้างภาพลักษณ์ที่ตรงกับค่านิยมของร้าน
-ร้านเมดคาเฟ่มักเน้นการสร้างบรรยากาศที่ "น่ารัก" และ "เอาใจใส่" ลูกค้าเพื่อดึงดูดผู้ที่ต้องการประสบการณ์ที่เหมือนกับการได้รับการบริการในแบบ "แฟน" หรือ "นายท่าน" ซึ่งบางครั้งพนักงานอาจรู้สึกว่า การบอกว่าไม่มีแฟน จะทำให้ลูกค้ารู้สึกมีความใกล้ชิดมากขึ้น และสามารถเชื่อมต่อกับพนักงานได้มากกว่า
-นอกจากนี้ การที่พนักงานบอกว่าไม่มีแฟนอาจเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองเป็น "คนพิเศษ" หรือได้รับความสนใจจากพนักงานมากขึ้น โดยที่พนักงานไม่จำเป็นต้องเปิดเผยสถานะความสัมพันธ์ที่แท้จริง
2. ความกลัวหรือกังวลเกี่ยวกับการถูกตัดสินจากลูกค้า
-ในบางกรณี พนักงานอาจรู้สึกว่าการบอกว่ามีสามีหรือแฟนอาจทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกสนใจหรือไม่ค่อยได้รับความนิยมจากลูกค้า โดยเฉพาะในกรณีที่ลูกค้าบางคนอาจมองว่า การมีแฟน หรือ การมีสามี อาจทำให้พนักงานดูไม่ "น่ารัก" หรือ ไม่สามารถให้ความสนใจในลักษณะที่เป็นส่วนตัว กับลูกค้าได้
-บางครั้งพนักงานอาจรู้สึกว่าลูกค้าบางคนอาจไม่ต้องการพูดคุยหรือสนใจในตัวพนักงานที่มีความสัมพันธ์แล้ว
3. ความกดดันจากวัฒนธรรมในร้านเมดคาเฟ่
-ร้านเมดคาเฟ่มีวัฒนธรรมการให้บริการที่เน้น ความน่ารักและน่าดึงดูด ซึ่งบางครั้งอาจสร้างความกดดันให้กับพนักงานในแง่ของการรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องพูดคุยกับลูกค้า
-พนักงานบางคนอาจรู้สึกว่าหากเปิดเผยว่ามีแฟนหรือสามี จะทำให้ความสนใจจากลูกค้าลดลง หรือทำให้ภาพลักษณ์ของตัวเองในฐานะพนักงานร้านเมดคาเฟ่เปลี่ยนไป
4. การปกปิดความสัมพันธ์ที่แท้จริงเพื่อป้องกันปัญหาส่วนตัว
-ในบางกรณี พนักงานอาจเลือกที่จะไม่เปิดเผยสถานะความสัมพันธ์กับสามีหรือแฟนเพราะ ความกังวลส่วนตัว เช่น อาจมีความเชื่อมโยงกับปัญหาครอบครัว หรือไม่ต้องการให้สถานะความสัมพันธ์ของตนเองมีผลกระทบต่อการทำงานในร้าน
-บางคนอาจรู้สึกไม่สะดวกใจที่จะเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวในที่ทำงาน และเลือกที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัว
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.