>>170 เรื่องความรักมันเอามานั่งกะปริมาณมากน้อยเป็นพื้นที่ในใจ 5 เปอร์ 10 เปอร์ พุ่งไป 50 ไป 100 มันเป็นไปไม่ได้หรอก อย่างที่กูพูดไปแล้ว ว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่ไม่จำกัด มันไม่มีหรอกที่ ให้มึง 100 แล้วไม่เหลือให้คนอื่นแล้ว หมดแล้ว
ความรักที่เรามีให้แต่ละคนเองมันก็ไม่ได้เหมือนกันไปซะหมด เอาจริงๆ ความรักที่เรามีให้คนคนเดียวกันแต่คนละช่วงเวลายังไม่เหมือนกันเลย แรกเริ่มอาจชอบในรูปลักษณ์ น้ำเสียง รู้สึกกระตุ้นอารมณ์ที่เพศ หรือชอบในลักษณะเด่นบางอย่าง แต่ต่อมาอาจเปลี่ยนไปเป็นความผูกพันธ์ ชอบนิสัยหรือวิถีชีวิต บลาๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า ความรู้สึกที่เรามีต่อคนคนนึงมันก็ส่งผลต่อความรู้สึกที่เรามีต่อคนอื่นด้วย
แต่กูก็ยังย่ำแบบเดิมนะ ถ้าคบชู้สานสัมพันธ์กันลับหลังถึงจะถือว่า "นอกใจ" ส่วนถ้าแค่รู้สึกรักชอบพอคนอื่นเฉยๆ ประเดี๋ยวประด๋าวแต่ไม่ได้คิดจะไปคบชู้ อันนี้กูยังไม่ถือว่านอกใจ แต่ถ้าเกิดคิดอยากคบคนนั้นเป็นชู้ลับหลังแฟนอันนี้ "คิดที่จะนอกใจ"
ส่วนไอ้เคสเจอรักแรกพบเลยขอเลิกกับแฟนเก่ากูก็มองว่าไม่ถือว่านอกใจ แต่ถามว่าผิดไหมก็ผิด ที่ทำให้แฟนเก่าต้องเสียเวลาเสียความรู้สึก
ส่วนชีวประวัติมึงที่เจอแต่แฟนเก่าไปมีคนใหม่ซ้ำๆ จนมาเจอผัวดีผัวประเสริฐในปัจจุบันนี่บอกยากเพราะมึงระบุออกมาได้แค่การกระทำที่มึงเห็นตรงหน้ามึงไม่อาจบอกถึงความคิดของพวกเขาได้ แล้วก็ไม่อยากขัดหรอกนะ แต่สุดท้ายสิ่งที่มึงยืนยันได้คือ การกระทำของผัวมึงเท่านั้น ไม่สามารถยืนยันความคิดของผัวมึงได้อยู่ดี (ยังไงก็ตามในความคิดกูก็ถือว่าผัวมึงซื่อสัตย์อะนะ)
กับเอาจริงๆ คำว่า "ชู้สาว" นิยามของมันคือ รักๆ ใคร่ๆ หรือ เชิงกามารมณ์ ถ้าเอาตามนิยามนี้แค่มึงรู้สึกเงี่ยนกับใคร/สิ่งไหน มันก็คือรู้สึกเชิงชู้สาวกับคนนั้น/สิ่งนั้นแล้วนะ = ทั้งมึงและผัวไม่เคยรู้สึกเงี่ยนต่อใคร/สิ่งไหนอีกเลยนอกจากคู่ตัวเองมาตลอด 13 ปี (นอกจากนิยามเชิงชู้สาวของมึงจะเฉพาะเจาะจงกว่านี้อะนะ)