>>399 อันนี้กูขอจริงจังในฐานะคนที่เคยทำงานในบริษัทญี่ปุ่นแล้วกลับมาไทยนะ การที่มึงเรียนภาษาญี่ปุ่นนั้นดีแล้ว มันคือใบเบิกทางไปหาประเทศที่ไม่กดค่าแรงมึงแบบไทย แต่การเลือกอาชีพที่จะไปทำงานที่นั่นได้ มึงควรเลือกวิชาที่คนญี่ปุ่นไม่ทำงานและขาดแคลน เช่น ผู้ดูแลผู้สูงอายุ ชาวไทยไปสร้างชื่อเสียง(ที่ดี) เป็นรุ่นพี่พวกมึงไปแล้ว ถ้ามึงมีใจรักคนแก่ (แบบลูกหลาน) ได้ มึงก็ลองดูนะ มีสอนอยู่ รายได้ดีและงานไม่ขาด ถ้ามึงเก่งจริง
การเขียนเรียงความเป็นวิธีการเรียนเรื่องการเขียนที่ดีที่สุดแล้ว การที่มึงเขียนเรียงความให้คนญี่ปุ่นอ่านรู้เรื่องได้ คือ เป้าหมายของมึง ที่เค้าบอกว่า วาคาราไนๆๆๆ มันไม่ใช่ว่าเค้าไม่รู้ว่าผิดตรงไหน แต่ที่มึงเขียนอาจจะผิดหมดเลยก็ได้ หรืออาจารย์อาจจะให้มึงพยายามเขียนเรียงความแบบใช้ภาษาสุภาพเป็นทางการ เพราะเค้าไม่ใช่เพื่อนมึง
ปกติเวลาเรียนเขียนเรียงความสมมติจารย์ให้โจทย์ไรมา ก็จะลักไก่ด้วยการไปหาบทความที่เนื้อหาใกล้เคียงกันตามสำนักข่าวญี่ปุ่น แล้วมาแก้คำ keyword ให้ตรงตามโจทย์ ทั้งทุ่นเวลา และมีประสิทธิภาพ แถมถ้าผิดนิดๆหน่อยๆ มันง่ายสำหรับอาจารย์ที่จะชี้ว่ามึงผิดตรงไหน
(แน่นอนว่า จารย์รู้ว่ากูก็อปมาแปลง แต่เค้าชมว่าวิธีกูฉลาดแล้ว เค้าต้องการให้นักเรียนเก่ง วิธีธรรมมะไม่จำเป็น) เหล่าทัตสึโนโกะ สอนญี่ปุ่นอีโค่ มันก็แต่งเรียงความยาวสัสหมา ปาSC แดง ให้อีโค่อ่านกันรัวๆ แล้วสอนญี่ปุ่นกันตรงนั่นแหละ จากเดบิวใหม่ๆมาเป็นแบบทุกวันนี้
ส่วนเรื่องวาดรูปถ้ามึงใจรักจะวาดแล้วมึงชอบจริงๆ มึงควรได้ภาษาหลายๆภาษาเพราะมีผลต่อตลาดลูกค้ามึง ยิ่งมึงเก่ง ติดต่อคนเองได้ ตัดรายจ่ายคนกลางไปได้โข
หวังว่าคงมีประโยชน์นะ