>>286 กูอาจจะยกตัวอย่างผิดไป งั้นเอาเป็นดาราไทยสมัยก่อนก็ได้ ห้ามประกาศเลยว่ามีแฟนเดี๋ยวความนิยมตก แปลว่าถ้าคุณจะเซ็นสัญญาเป็นดาราก็ต้องสำนึกว่าไม่ควรมีแฟนหรือมีก็ต้องปิดให้มิด ไม่ได้ต่างกันกับไอดอลเลย อยากทำงานแสดงหรืออยากมีชื่อเสียงแต่ต้องมาทนปิดบังเรื่องความรักไปด้วย ตอนนั้นมันก็คงดูเมคเซนส์ที่คุณต้องเสียสละ แต่ทุกวันนี้เป็นไง แฟนๆเปิดใจให้ก็คือจบ ดาราวันรุ่นมีแฟนกันเพียบ ไม่มีใครคิดอะไรแล้วก็รักเหมือนเดิม รักที่นิสัยตัวตน รักที่ผลงานเหมือนเดิม ดาราคนไหนมีความรักแล้วทำตัวเหี้ยๆแฟนๆก็เลิกชอบ คนไหนมีความรักแต่ยังทำตัวดีคนก็ยังรักเหมือนเดิม ความคิดแบบอยากมีชื่อเสียงในวงการต้องห้ามมีความรักมันเลยโบราณไปแล้วในคห.กูนะ เพราะไทยเรามันผ่านจุดที่คนให้การยอมรับการมีความรักของศิลปินไปนานแล้ว
กูเข้าใจนั่นแหละว่าโอตะคิดไง แต่กูรู้สึกว่าถ้าชอบที่ตัวตนจริงๆเรื่องเขาจะมีความรักหรือไม่มีก็ไม่เห็นเกี่ยว เขามีแฟนตัวจริงไม่ได้หมายความว่าจะรักแฟนๆที่สนับสนุนเขาน้อยลง กูเลยไม่เห็นด้วยกับจารีตนี้ แต่ก็ได้แค่ไม่เห็นด้วยนั่นแหละ จะไปทำอะไรได้