เพลงของ John Cage ต้องเล่นอย่างไร พวก 4′33″ Water walk
Last posted
Total of 402 posts
เพลงของ John Cage ต้องเล่นอย่างไร พวก 4′33″ Water walk
จารย์แดงแกเก่งจริงป่าววะ หรือแอ็คไปงั้น แล้วเดี๋ยวนี้แค่เพี้ยนตามภาษาคนแก่ แพร่บๆ
มีคนบอกว่าริปซีดีออกมาเป็นไฟล์ WAV เสียงดีกว่า FLAC จริงหรือครับ.? เพราะอะไร ในเมื่อ FLAC ก็เป็นไฟล์ Lossless?
----------
คำตอบคือ "จริง" ส่วนเหตุผลที่ริปซีดีออกมาเป็นไฟล์ WAV แล้วให้เสียงดีกว่า FLAC เป็นเพราะว่า เมื่อเลือกไฟล์ WAV ในการริปเพลงจากแผ่นซีดี ตัวโปรแกรมริปแผ่นจะทำการก๊อปปี้สัญญาณเพลงที่อยู่ในแผ่นซีดีออกมา "ทั้งหมด" โดยไม่มีการตัดทอนส่วนใดทิ้ง สัญญาณที่ริปออกมาจากแผ่นซีดีจะเป็นสัญญาณ PCM 16/44.1 ที่มีจำนวนบิตข้อมูลเสียงครบถ้วนตามที่ถูกบันทึกอยู่บนแผ่น และถูกแพ็คเข้าไปในแพ็คเกจของ WAV ทั้งหมดนั้น และสัญญาณเสียงเหล่านั้นจะถูกส่งผ่านไปบนคอมพิวเตอร์ด้วยอัตราความเร็วอยู่ที่ 1411kbps ตรงตามมาตรฐานของซีดี
.
ส่วนการริปเพลงจากแผ่นซีดีแล้วเลือกเอ๊าต์พุตจากโปรแกรมริปแผ่นให้ออกมาเป็นไฟล์ FLAC นั้น แม้ว่าตัวฟอร์แม็ตจะระบุชื่อว่าเป็นไฟล์แบบ Lossless (FLAC = Free Lossless Audio Coding) คือไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้นในขั้นตอนเข้ารหัส (endcode), ขั้นตอนส่งผ่าน (transfer) ไปจนถึงขั้นตอนที่แตกไฟล์ (decode) FLAC ออกมาเป็นสัญญาณ PCM ซึ่งทีมผู้ให้กำเนิดฟอร์แม็ต FLAC ยืนยันไว้แบบนั้น
.
ทว่า หลังจากมีการทดลองริปเพลงจากซีดีแผ่นเดียวกันออกมาเป็นไฟล์ WAV และไฟล์ FLAC แล้วนำไฟล์เพลงทั้งสองรูปแบบนั้นมาฟังเปรียบเทียบกันผ่านชุดเครื่องเสียงชุดเดียวกัน ผลออกมาว่า เสียงไม่เหมือนกัน ซึ่งผลจากการทดลองฟังหลายๆ เพลงได้ข้อสรุปออกมาว่า ไฟล์ WAV ให้คุณภาพเสียงออกมา "ดีกว่า" ไฟล์ FLAC
.
เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น.?
.
จริงๆ แล้ว การเข้ารหัสสัญญาณเสียงด้วยไฟล์ FLAC ก็มีการ "ตัด" ข้อมูลเสียงบางส่วนทิ้งไปในขั้นตอนการเข้ารหัส เพียงแต่ว่า ข้อมูลเสียงที่ตัดทิ้งไปนั้นคือส่วนที่เป็นแค่องค์ประกอบย่อยมากๆ ที่เรียกว่า Less Significant Bit = LSB ของเสียง อย่างเช่น ปลายๆ เสียงฮาร์มอนิกที่เบามากๆ ซึ่งไม่ใช่ส่วนสำคัญ (Most Significant Bit = MSB) ที่เป็นข้อมูลเสียงที่ได้ยินชัดๆ ผู้ให้กำเนิดไฟล์ FLAC ใช้มาตรฐานการวัดผลที่อิงอยู่กับ human perception โดยทั่วไปที่ไม่สามารถรับรู้ถึงรายละเอียดลึกๆ ที่ตัดทิ้งไป คนทั่วไปจึงฟังความแตกต่างของเสียงที่ได้จากการเล่นไฟล์ทั้งสองประเภทไม่ออก แต่ถ้าผู้ฟังมีเวลามากพอในการนั่งฟังเพื่อจับความแตกต่างผ่านชุดเครื่องเสียงที่มีคุณภาพสูง จะสามารถรับรู้ได้.. /
#ยิ่งเครื่องเสียงดีบวกกับเซ็ตอัพดียิ่งฟังออกง่าย
>>368 มั่ว
เทสง่ายๆ แปลงไฟล์ .wav เป็น .FLAC แล้วแปลงกลับ มาhash เทียบกัน ได้ค่าเท่ากันเป๊ะ แสดงว่าได้บิทเหมือนกันทุกบิท
วิธีเทสง่ายๆทำได้ด้วยตัวเอง และมีคนทำหลายคนแล้ว อย่าบอกนะว่าบิทเท่ากันแล้วเสียงไม่เท่ากัน?
FLAC มันคือการบีบอัดแบบไร้การสูญเสีย คล้ายการzipไฟล์อื่นๆ นั่นแหละคือตอนคลายออกมาก็ได้เท่าเดิมเสมอ ถ้าไฟล์ไม่เสียหาย
https://www.diymobileaudio.com/threads/wav-and-lossless-flac-m4a-md5-hash-comparisons.83056/
เครื่องเสียงดี? คนทำเพลงใช้ studio monitor speaker ทั้งนั้น โดยเฉพาะยี่ห้อแบบ genelec ที่นักฟังเพลงไม่นิยม ฟังเพลงเพราะๆไม่เท่ากับฟังเพลงที่เที่ยงตรง
>>368 โคตรมั่ว FLAC ไม่ได้ใช้ LSB ในการ Compression ข้อมูลไม่เกี่ยวกับเรื่อง Harmonic ห่าเหวอะไรทั้งนั้นมันเป็นแค่การย่อ Code ที่ซ้ำๆกันให้สั้นลงแค่นั้นแล้วพอเอามา Playback ค่อยมา Decode ตัวที่ย่อให้ออกมาเหมือนเดิมเป๊ะๆ ทดสอบได้โดยการเอา WAV กับ FLAC ที่มาจาก Source เดียวกันไปทำการกลับ Phase เพื่อที่มห้เสียงที่เหมือนกันเกิดการหักล้างกันเอง แล้วผลออกมาก็คือเงียบสนิท ดังนั้นก็แปลว่ามันเหมือนกัน 100% ไม่ใช่ว่าเอะอ่ะก็เอาไปใส่เครื่องเสียงแล้วทดสอบด้วยการฟังโดยที่ไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์อะไรมาแ้างอิงเลย แม่งโคตรปัญญาอ่อน แบบนี้กูท้าให้มึงมา Blind Test เอาเพลงมาสัก 10 คละกันทั้ง WAV ทั้ง FLAC แล้วให้มึงขี้ว่าอันไหนคือ FLAC เชื่อสิมึงตายห่ากันทุกตัว แม่งอุปทานกันไปเองทั้งนั้น เพราะมันไม่มีใครในโลกนี้แยกได้หรอกขนาดคนทำ Music Production หรือ Sound Engineer ก็ยังแยกไม่ได้หรือจะบอกว่ามึงเก่งกว่าคนทำเพลง คนทำซาวด์งี้เหรอวะ 555555
คราวก่อนก็สายแลนเทพ มาวันนี้เจอไฟล์เทพ
ยกสายลอยจากพื้น.. มันส่งผลกับเสียงจริงมั้ย.?
-----
ต้องยอมรับว่า หลายๆ เรื่องในวงการเครื่องเสียงมันหมิ่นเหม่กับการถูกมองว่าไร้สาระ คนที่ไม่เชื่อ (จริงๆ แล้ว เกือบทั้งหมดคือคนที่ไม่ได้เล่นเครื่องเสียง) มักจะมองว่าเป็นเรื่องมโน คิดไปเอง
.
แต่ก็ต้องยอมรับอีกล่ะว่า หลายๆ เรื่องที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันก็เคยเป็นเรื่องที่ถูกมองว่า "ไม่น่าจะมีผล" มาก่อน ซึ่งหากเราถอยออกมามองด้วยใจที่เป็นธรรม จะพบว่า ปรากฏการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ตราบใดที่คำว่า "พัฒนา" ยังทำหน้าที่ของมัน การค้นพบอะไรใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก อะไรที่เราไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ในอดีต จนถึงปัจจุบันมันก็เป็นไปแล้วมากมาย ไม่เว้นหลายๆ เรื่องที่เราพบเจอกันอยู่ในวงการเครื่องเสียง
.
ในบางครั้งผมก็พบว่า การยกสายไฟเอซี, สายสัญญาณ รวมถึงสายเชื่อมต่อสัญญาณรูปแบบต่างๆ ไม่ให้แตะพื้นและไม่ให้แตะต้องกันเอง มันส่งผลกับเสียงมากจนรู้สึกได้ทันที แต่ก็มีบางครั้งที่ผมพบว่า การทำเช่นนั้นมันส่งผลต่อเสียงน้อยมากจนสังเกตยาก.. เป็นไปได้มั้ยว่า การยกสายต่างๆ ให้ลอยจากพื้นอาจจะไปสอดคล้องกับ "ปัจจัย" บางอย่างที่เกิดขึ้นในซิสเต็มด้วย คือถ้ามีปัจจัยเหล่านั้นอยู่ในซิสเต็มแล้วเรายกสายลอยจากพื้นมันจะเสริมกันให้เกิดผลกับเสียงมากจนฟังออกถึงความแตกต่างได้ง่าย..?? แต่ถ้าไม่มีปัจจัยนั้นเกิดขึ้นในซิสเต็ม หรือมีอยู่น้อย เมื่อเรายกสายลอยจากพื้นก็อาจจะไม่มีผลกระทบกับเสียงมาก.?
.
ความสนุกของการเล่นเครื่องเสียงก็คือการค้นหาและทดลองทำอะไรกับซิสเต็มของเราเองนี่แหละ ลองแล้วฟัง เก็บสังเกตผลของมันเอาไว้ บางอย่างอาจจะส่งผลเยอะ ในขณะที่บางอย่างอาจจะส่งผลน้อย แต่สิ่งที่ได้แน่ๆ คือประสบการณ์ในการฟังแบบ "แยกแยะ" (critical listening) ที่ประสาทหูของเราจะถูกฝึกฝนให้มีความละเอียดมากขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว จากฟังไม่ออก วันหนึ่งคุณจะฟังออก แม้ว่าความแตกต่างจะน้อยแค่ไหนก็ตาม ...
#การฟังให้ออกบังคับกันไม่ได้ต้องใช้เวลาฟังไปเรื่อยๆ
#การหาอุปกรณ์เสริมมาลองเล่นเป็นวิธีฝึกฝนการฟังได้ดี
ไมค์ clean audio ca289 ดีมั๊ยวะ
ทีแรกกุจะซื้อ se v7 มาร้องเพลง(เล่นๆ) แต่เพื่อนที่เป็นนักร้องบอกให้ลอง clean audio
อยากร้องเพลงดังๆแต่กลัวเพื่อนบ้านได้ยิน ควรทําห้องเก็บเสียงยังไงดีโม่ง
ตอนนี้กูกำลังหัด Pentatonic กับกีตาร์อยู่ กูอยากรู้ว่าถ้าเกิดต้องการดีดโน๊ตที่อยู่ใต้นิ้วทำยังไงวะ
ตัวอย่าง
เล่น สายหก เฟรท 3 ไป 6
จากนั้นไป สายห้า เฟรท 3 ไป เฟรท 3 ของสายสี่หรือของสายอื่น ๆ ก็ได้
ถ้ากูยกนิ้วชี้ออกมันจะกลายเป็น pull off อะ หรือกูต้อง mute สายตอนยกนิ้วชี้วะ
ตอนนี้เรียนอยู่ ม.กรุง ปี 3 สายซาว์ด ละอยากฝึกงานในสตูที่ไปออกสายเมทัลหรือใกล้เคียงอะ ชาวโม่งมีแนะนำบ้างป่ะ
ล่าสุดแม่งมีดร่าม่ารับสมัครงานของ audio engineer แม่งมีคนสมัครไม่ติดเลยไปโพสด่าว่าโดนแย่งงาน
>>387 วิถี Loser แบบนี้แหละ บ้านรวยมีตังทำห้องอัดเอง มีแต่ของแต่ไม่มีสมอง เป็นพวกเด็กทำบีท แต่พอเจอโจทย์ที่มันเป็น Source เครื่องจริง เจอปัญหาจริงๆแล้วแก้ไม่ได้เพราะชั่วโมงบินต่ำ เก่งแต่ใช้ Samp ใช้ Loop เคยชินแต่ใช้อะไรโกงๆ แบบนี้ใครเขาจะเอา แล้วเสือกมาตีโพยตีพาย แม่งกระจอกชิบหาย เห่อม๋อย กาก แถมไม่พอไปโพสเชิงข่มขู่เขาอีก วงการนี้มันแคบนะ อายุแม่งก็พึ่งจะเรียนจบมหาลัยมาปีเดียวเอง ไม่ทันได้เกิดก็เสือกคุมกำเนิดตัวเองซะงั้น กุล่ะสมเพชแม่งชิบหาย
ถามหน่อยสำหรับ คนอัดกีตาร์ผ่าน interface ควรมีเครื่องกรองไฟไหม
กูเห็นมาเยอะนะ แบบ ไม่ได้ทำอะไรแล้วคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนรุ่นก่อน จนบางทีกูก็สงสัยนะว่าแบบไอ้คนโง่นี่มันไม่รู้ว่าตัวเองโง่เลยหรอวะ
>>392 เก่งกว่าคนรุ่นก่อนอันนี้ถูก แต่ไม่ใช่ทุกคน เอาจริงกุว่าถือเป็นส่วนน้อยนะในบรรดาพวก Gen Z รุ่นหลังๆ แต่คนไหนที่มันเก่งก็คือเก่งจริงๆแบบก้าวกระโดดแซงคนรุ่นก่อนไปเลย อันนี้ยอมรับ แต่พวกที่เหลือนอกนั้นคือเก่งแต่ปากมีความมั่นหน้าสูง คิดว่าตัวเองเก่ง แต่พอให้ทำจริงแม่งหมูสนามจริง อย่างประสบการณ์ของกูในสายอัดเสียงทำเพลงเคยเจอคนนึงเป็นพวกเด็กทำบีท แม่งมั่นหน้าชิบหายแต่พอเจอ Operate ห้องอัดอัดเครื่องจริงสุดท้ายแม่งทำห่าไรไม่เป็นเลย กระจอกชิบหาย แล้วบอกเก่งกว่ารุ่นกุ ถุยยยย คนเก่งจริงเขาไม่มาบอกหรอกว่าเก่งกว่าอย่างโน้นอย่างนี้ เขาให้ผลงานมันพิสูจน์
เป็นดีเจเปิดเพลงตามplaylist แบบมีcontrol
กับ อัดเพลงต่างกันมากไหมวะ
>>395 ต่างกันมากๆ คนละเรื่อง DJ มันคือการเปิดเพลง เอาท่อนเพลงมายำรวมกันเป็น Remix มันคือการเอาสิ่งที่มีอยู่แล้ว แค่เอามาตัดแปะรวมกันจนกลายเป็นงานใหม่ แต่อัดเพลงทำเพลง มันคือการทำทุกอย่างใหม่ตั้งแต่ 0 จากแค่กระดาษกับปากกาแท่งนึง สู่เพลงเพลงนึงที่ออกมาสมบูรณ์ มึงก็คิดเอาแล้วกันว่ามันต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้างกว่าที่มันจะไปถึง Final
polyrhythm สำคัญมากไหมถ้าจะฝึกทำเพลง
กูแชร์ทริคสำหรับคนหัดเล่นกีตาร์แล้วกัน มือใหม่หลายคนกูเห็นพลาดเยอะมาก หลักๆ เลยก่อนอื่น มึงต้องใช้มือเล่น ใช้มือซ้ายจับคอร์ด มือขวาเกาขึ้นๆ ลงๆ
ถ้ากูจะแชร์ทริคการมิกซ์เพลงกันพวกมึงจะสนใจกันป่าววะ
เพลงนี้ใช้กลองของไรใครฟังออกบ้างอะ ชอบมากโครตโป๊ะเลย
https://www.youtube.com/watch?v=yAXOsFNDg9Y&list=RDyAXOsFNDg9Y&start_radio=1
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.