Fanboi Channel

สมาคมโม่งนักดนตรี แชร์เทคนิคประสบการณ์

Last posted

Total of 402 posts

273 Nameless Fanboi Posted ID:4f5KeuQ10P

>>270 โรงเรียนมัธยมก็สอน กูจำได้เพราะกูไม่ชอบเรียนดนตรี ชาร์ป แฟลต อะไรพวกนี้แหละ 5555 กูไม่มีหัวทางดนตรีเลยไม่เข้าใจ แต่เพื่อนๆกูเข้าใจกันนะ

274 Nameless Fanboi Posted ID:6FRzG1QY0a

ทฤษฎีเหมือนเรียนแกรมม่าภาษาอ่ะ ถ้ามึงไม่ปูพื้นฐานดีๆ มึงก็ไม่มีวันต่อยอดไปได้ดีหรอก ทฤษฎีการไล่เสกลไล่เสียง คอร์ดทรานซิสชั่นมันก็คณิตดีๆนี่แหละ มันจะมีแพทเทิร์นของมัน ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เก็จเอง

275 Nameless Fanboi Posted ID:6FRzG1QY0a

>>271 อ่ออ่านๆมาพอรู้ว่ามึงเถียงไรกันมา มันก็เบสิคจริงๆแหละอันนี้แต่ช่วยอธิบายแบบง่ายๆได้อยู่ มึงยังงงยังไงหล่ะเรื่องโน๊ต ลองพิมพ์ที่ตัวเองเข้าใจมาดูก่อนเผื่อมีโม่งช่วยมาตอบ (กูสอนกากเพราะกูไม่ได้เรียนสายนี้มาเคยเรียนเป็นสกิลติดตัวเฉยๆ)
แต่คือเรื่องการไล่โน๊ตทั้ง12ตัวแนะนําให้ดูรูปคีย์เปียโนนะ กูเรียนเปียโนมาแล้วมันเลยเข้าใจง่ายหน่อยเพราะเห็นภาพชัดเจน
https://i.stack.imgur.com/Rwa6l.png
-คีย์ขาวคือโน๊ตปกติแต่ละคีย์ขาวมันระยะเสียงห่างกัน1เสียง ส่วนไอคีย์ดําคือเสียงมันห่างจากคีย์ขาวมาครึ่งเสียง
-แต่กรณียกเว้น มึงเห็นมั้ยว่าในคีย์เปียโนมันมีคีย์ดําที่มี2คีย์สลับกับ3คีย์ นั่นเพราะว่าโน๊ตตัวที่3กับ4มันห่างกันครึ่งเสียง และตัวที่6กับ7ก็ห่างกันครึ่งเสียง (หมายเหตุโน๊ตนี้ก็มาจากเสกลC major เพราะคีย์เปียโนมันbased on scaleนี้ แบบคือถ้ามึงเล่นคีย์ขาวมันก็จะไล่ โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด หรือ C D E F G A B Cไปเลย) เอ่อดังนั้นมึงดูที่คีย์เปียโนอ่ะตัวมี(E)และฟา(F)มันจะติดกันไม่มีคีย์ดํามาแทรก และตัวที(B)กับโด(C)ก็เช่นกันไม่มีคีย์ดําแทรก
-ทีนี้โน๊ตที่ไม่ใช่3-4 6-7 มันห่าง1เสียงชะ มันก็จะมีโน๊ตแทรกมาครึ่งเสียงได้ และสามารถเรียกชาร์ฟได้ แฟลตได้ (คือจะอธิบายว่ามันเป็นตัวเดียวกัน //จริงๆแล้วมันก็มีหลักด้วยว่าทําไมตัวนี้เรียกว่าซีชาร์ฟ ไม่เรียกว่าดีแฟลต แต่มันลึกไปอีก(คือเป็นเรื่องการไล่เสกลต่างๆ)คือเอาเบื้องต้นก่อนนะมึง ไม่งั้นยาว) ดังนั้นมันก็จะแบบ ตัวC เพิ่มครึ่งเสียงจะเป็น ตัวCชาร์ฟ-Dแฟลต มันคือตัวเดียวกัน แล้วเพิ่มอีกครึ่งเสียงก็คือ ตัวDต่อ
-ถามว่าทําไมการไล่ตัวโน๊ตแบบดนตรีตะวันตกมันกวนตรีนให้ตัวที่3-4 6-7เป็นครึ่งเสียง มันมาจากคนคิดเสกลคนแรกของโลกครัช ไอ๊ปิทากอรัสที่กูต้องมานั่งเรียนซาย คอส แทนเนี่ยแหละ มันพยายามจะหาระยะห่างเสียง เลยมาได้โน๊ตทั้ง15ตัวนั่นเอง
ปรามานเนร้พื้นฐานว่าไอโน๊ต12ตัวมีชาร์แฟลตยังไง อธิบายแบบไอคิว70 กูใช้คําสับสนหน่อยไม่ได้เรียนมานาน
ส่วนจารย์แดงสอนไปถึงไหนวะ ขกดู55

276 Nameless Fanboi Posted ID:6FRzG1QY0a

ถ้ามึงอยากเข้าใจทฤษฎีดนตรีพื้นฐานจริงจัง กูแนะนําเล่มนี้ แบบกูอ่านเรียนด้วยตนเองได้อยู่อ่ะ อธิบายดี มีแบบวึกหัด
ของอาจารย์ณัชชา พันธุ์เจริญ ไอเล่มทฤษฎีดนตรีสีชมพูๆอ่ะ
แม่งทําแบบฝึกสนุกดีเหมือนทําข้อสอบแกรมม่าภาษาอังกฤษ555 2วิชาโปรดกู

277 Nameless Fanboi Posted ID:6FRzG1QY0a

>>275 ควยโน๊ตมี12ตัวนะ 15มาจากไหนวะ อันนี้โน๊ตสากล ส่วนโน๊ตไทยมี7ตัวเสียงมันก็เหลื่อมนะอย่างเสียงฟากับทีมันจะเพี้ยนๆ หนักสุดคือพวกโน๊ตอาหรับแม่งเสียงแปลกๆดี

278 Nameless Fanboi Posted ID:vzsgdn+/IW

>>275 ทำไมโน๊ตสากลถึงต้องมีครึ่งเสียงมันเกิดจากการที่ฝรั่งมันคิดค้นเพื่อหา Just Intonation โดยพยามทำให้เสียงที่ได้มันมีย่านความถี่ Harmonic Series ที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบและหลีกเลี่ยงพวกความถี่ Overtone ที่มันไม่อยู่ใน Harmonic Series ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิด Dissonant ทำให้เวลาสเกลแบบตะวันตกมันฟังแล้วสมูทลื่นหูไม่แปร่งๆแบบพวกสเกลแบบพวกฝั่งเอเชียยังไงล่ะ

279 Nameless Fanboi Posted ID:nsJY5ir0yx

อยากถามท่านอาจารย์ที่ลงเพลง ให้เด็กมันดู.mp4 จังว่า......ทำงานกับวงpaper planeรึเปล่า เพราะเห็นผลงานcoverเก่าๆมีแนวทำนองดนตรีคล้ายๆกันเลย.....แล้วทั้งเสียงทั้งอะไรนี่ก็แบบว่าไปในทางนั้นด้วย

280 Nameless Fanboi Posted ID:pN88+Pt1l1

>>279 ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับ Paper Planes เลยนะบอกไว้ก่อน แล้วก็อีกอย่างที่อยากชี้แจงอีกข้อนึงก็คือซาวด์ดนตรีลักษณะแนวดนตรีแบบนี้เขาเรียกว่า Post-Hardcore จ้ะ จะมาบอกว่ากูก้อป Paper Planes อันนี้ตลกว่ะ เพราะ Post-Hardcore มันมีมีมาเป็น 10 กว่าปีแล้วโด่งดังมากในหมู่วงการเมทัลอันเดอร์กราวในช่วงยุค 2010s ตอนนั้น Paper Planes ยังเป็นวุ้นฮายยังทำเพลงไม่เป็นเลยด้วยซ้ำแค่ในภายหลัง Paper Planes นั้นเอาแนวนี้นี้มาเล่นในกระแสเมนสตรีมเมืองไทยแค่เพียงกูทำแนว Post-Hardcore เหมือนกันไม่ได้หมายความว่ากูจะก้อป Paper Planes นะจำเอาไว้ เอางี้นะมึงลองไปฟังวง Sleeping With Sirens,A Skylit Drive,Hand Like Houses,Pierce The Veil,Young Guns,Broadway,Secrets,Of Mice & Men อะไรพวกนี้ดูในช่วงอัลบั้มแรกๆ ย้ำนะในช่วงอัลบั้มแรกๆเท่านั้นที่ออกช่วงยุคปลายๆ 2000s ถึงต้น 2010s เผื่อมึงจะได้เปิดโลกรู้จักคำว่า Post-Hardcore มากขึ้นจะได้ไม่หาว่ากูก้อป Paper Planes อีก

281 Nameless Fanboi Posted ID:rr3hV02Yxc

>>280 กูไม่ได้บอกว่ามึงก้อปเว้ยท่านอาจารย์ กูแค่สงสัยเฉยๆ เพราะเห็นบางผลงานมันฟังๆแล้วทำนองมันมีกลิ่นอายมาจากทีมผลิตใกล้ๆกัน .....

282 Nameless Fanboi Posted ID:pN88+Pt1l1

>>281 ในด้านงาน Music Production ทั้งหมด Paper Planes คนที่รับหน้าที่นี้คือฮายนักร้องนำทำทั้งหมดคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบตั้งแต่แต่งเพลงยัน
Post-Production ไม่มีทีมงานหรือคนอื่นมาเพิ่มเติม ดังนั้นไม่มีใครหรอกทีมงานด้าน Music Production อะไรที่มึงบอกอ่ะเพราะแม่งใช้คอมเครื่องเดียวทำทุกอย่างอยู่คนเดียว ส่วนที่มึงบอกทำนองมันมีกลิ่นอายมึงไปฟังวงพวกนั้นที่กูลิสต์ไปให้หมดนะแล้วมึงจะรู้ว่ากูไม่ได้รับอิทธิพลจาก Paper Planes แต่เป็น Paper Planes ต่างหากที่รับอิทธิพลจากวงพวกนั้น รวมถึงกูด้วยที่รับอิทธิพลมาจากวงพวกนั้นเหมือนๆกัน

283 Nameless Fanboi Posted ID:RGrXjE/c0G

กูสังเกตุมาสักพักละ คนที่ร้องเพลงเสียงก้องกังวาลได้ ต่อให้เสียงจะทุ้ม แหบ หรือแหลมยังไง ชาย หญิงยังไงก็ได้ ส่วนมากนี่แม่งโครงหน้าออกไปทางหน้าไม่เรียวทั้งนั้นเลยนะ พวกv shapeได้แต่ร้องแบบR&B นุ่มๆ ยิ่งหน้ากลม ครูอ้วนยังบอกเลยว่ายิ่งทำให้ส่งพลังเสียงก้องได้ แสดงว่าคนหน้าเรียวมาร้องเพลงอาจจะเสียงเปรียบกว่าในเรื่องของการทำให้เสียงกังวาลไหม? เห็นคนร้องเพลงร๊อคในไทยนี่เจอแต่หน้าไปทางกลมๆทั้งนั้นเลย แบบเสก , แด็ก , บังโต นี่เวลาร้องคือเห็นถึงความก้องเวลาขึ้นเสียงสูงมาก หรือจริงๆแล้วแค่คนโครงหน้าไปทางเหลี่ยมๆกับกลมๆเวลาร้องเพลงจะทำอะไรๆง่ายกว่าแล้วทำเป็นเร็วกว่า? หรือไม่เกี่ยวกันเลย? ขึ้นกับพรแสวงล้วนๆ?

284 Nameless Fanboi Posted ID:VaJs6QF/fS

>>283 เสียงแบบนั้นหลักๆมันเป็น Chest Tone มากกว่าซึ่งมันคือการร้องเพลงออกมาจากส่วนท้องและลำตัวซึ่งให้เสียงที่มีพลีงแข็งแรง แล้วบางคนที่แบบเสียงก้องกังวานพลังๆแหลมๆสูงๆมันก็เป็น Mix Tone ระหว่าง Chest กับ Head ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ Advance ขึ้นไปอีก ซึ่งไอ้เทคนิคนี้กูก็เคยร้องเอาไว้ในเพลงที่กูเคยเอามาลงตอนท่อนใกล้จะจบอ่ะแบบนั้นแหละ แต่ของกูไม่ได้เก่งเท่าเขา

285 Nameless Fanboi Posted ID:1bOxhY5DCN

>>284 ร้องยังไงวะร้องออกมาจากส่วนท้องและลำตัว ในเมื่อกล่องเสียงก็อยู่ข้างบนๆ

286 Nameless Fanboi Posted ID:3zavRx5yD1

>>285 มึงควรไปศึกษาหาข้อมูลนะ หรือไม่ก็ไปดูคอร์สที่เขาสอนร้องเพลง จะได้เข้าใจว่าพวกนี้มันคืออะไร

287 Nameless Fanboi Posted ID:0K6OJl61kW

ไอ้สัส ปี 2 ว่าจะต่อเอกซาว์ด
ไม่ทันไรปี 1 กูติด F วิชา TEC007 แล้วว่ะ ท้อเลย

288 Nameless Fanboi Posted ID:3pR2BRLyfL

>>287 ถ้าเป็นสายโปรดักชั่นไม่จำเป็นต้องเก่ง tech ขนาดนั้นหรอกเน้นแค่มีรสนิยมดีก็อย่างกูจบมาทำงานจริงเรื่อง tech นี้แทบจะไม่ได้ใช้งาน มีแค่ไว้โชว์ขิงกันในวงการมีไว้ก่อดราม่าหาเรื่องแซะคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นแหละแม่งไร้สาระชิบหาย

289 Nameless Fanboi Posted ID:0K6OJl61kW

>>288 รสนิยมดีมีวิธีฝึกไหมเฮีย ต้องไปไล่ฟังพวกแจ๊สหรือฟังเพลงพวกยุคคลาสสิกแบบนั้นหรือป่าว

290 Nameless Fanboi Posted ID:OsAMN0W.xd

>>289 มันไม่ได้เป็นการฝึกหรอกหลักๆมันมาจาการเสพมากกว่า ซึ่งไม่จำเป็นต้องแจ๊สหรือคลาสสิคหรอกมันจพแนวดนตรีไหนก็ได้ที่เราชอบเราถนัด เสพจนกว่าจะเข้าใจถึงแก่นอย่างถ่องแท้ รู้ Culture และเข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับแนวนั้นๆจนเกิดการตกผลึกแล้วมันจะรู้ว่าเพลงพวกนี้ควรจะมีซาวด์เป็นยังไงเลือกใช้อุปกรณ์ยี่ห้อไหนถึงจะได้โทนออกมาแบบนี้ ซาวด์เอนสายโปรดักชั่นที่เก่งมักจะมีรสนิยมฟังเพลงที่ถูกต้องและชัดเจนในแนวทางนั้นๆจึงสามารถทำซาวด์แนวเพลงนั้นๆได้ออกมาดีกว่าพวกซาวด์เอนดาษดื่นทั่วๆไปที่เหมือนเป็ดยกตัวอย่างสมัยก่อนแนว Nu-Metal เอาคนแจ๊สมาอัดส่งคนป็อปมิกซ์แล้วให้คนลูกทุ่งหมอลำไปมาสเตอร์แบบนี้ซาวด์มันจะไปดีได้อย่างไรกัน

291 Nameless Fanboi Posted ID:qM71M3n5La

Epiphone Les Paul studio ไม่LT มีปัญหาเฟรตติดมั้ยวะ พอดีไปเจอมือสองราคายั่วใจแต่รู้สึกหลังๆEpiphoneงานเฟรตห่วยลงเยอะ

292 Nameless Fanboi Posted ID:sxeb18MUu8

>>291 Epiphone งานมันก็ไม่ได้ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วกูว่ามึงไป Schecter คุณภาพดีกว่าเยอะแต่แนะนำล๊อตเก่านะล๊อตใหม่ในปัจจุบันงานกากลงเยอะปิ๊กอัพก็ไม่ดี กูแนะนำล๊อตในช่วงยุค 2000s หรือ 2010s โดยเฉพาะล๊อต 2010s รุ่นที่ราคาเทียบเท่ากับ Epiphone รุ่นที่มึงบอกหมื่นกลางๆแม่งได้ EMG หรือ Semour Duncan เลยไม่มียี่ห้อไหนบนโลกในตอนนั้นจะกล้าทำถึงขนาดนี้งานดีเสียงดีคุ้มสัสๆ มือสองได้ราคาดีๆกว่าพวกแบรนด์หลักเป็นเท่าตัวเลย แค่คนมันไปติดภาพจำว่า Schecter มันเฉพาะสายชาวร็อคเล่นไม่กว้างแม่งไม่เป็นความจริงเลยความเชื่อผิดๆทั้งนั้นอย่างรุ่น 9 สาย ปิ๊กอัพ EMG แม่งยังเอามาสับคอร์ดเพลงป๊อปได้เสียงไม่ได้แข็งอะไรเลย อย่างกูรับทำเพลงเพลงทุกแนวเพลงไอดงไอดอลหวานๆแบ๊วกูก็เอา Schecter ที่เขาว่าโหดนี่แหละอัดทั้งนั้นเสียงที่ได้มันก็ไม่ได้แบบว่าเฉพาะทางแบบที่เขาว่ากันเลยเห็นก็ปกติเหมือนกีต้าร์แบรนด์หลักไม่ได้ต่างกันเลย Epiphone ราคามือสองถูกมากก็จริงแต่เทียบกับปัญหาที่มึงต้องเจอในระหว่างการใช้งานรวมถึงค่า Maintenance ในอนาคตไม่คุ้มกันหรอกย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีตอนสมัยกูยัง Noob ในเรื่องนี้กูก็เกือบตกหลุมเหมือนกันดีได้เพื่อนที่เป็นเซียนกีต้าร์มาเบรคไว้ก่อนแล้วก็แนะนำ Schecter C1 Classic มา งานดีงานเนี๊ยบสัสได้ปิ๊กอัพ Semour เสียงนี้คือน้องๆ Gibson เลยเพราะรุ่นนี้มันทำเสปคเลียนแบบ Gibson นี่แหละคือเป็นบอดี้เป็นมฮอกกานี หนาๆหนักๆเลย คอเมเปิ้ลกับวอนัทต่อคอเป็น Neck Thru ราคามือหนึ่งได้แม่งถูกกว่า Epiphone รุ่นที่กูเคยเล็งเอาไว้ตอนนั้นเป็นเท่าตัวเลยก็ว่าได้แต่คุณภาพที่ได้นี้มันเกินราคาสัสๆ

293 Nameless Fanboi Posted ID:/TMshlM59z

ดีนะมาอ่านตอนท้ายเลยรู้ว่าเค้าคุยเรื่องกีต้าร์กัน 55555 กูแอบชอคที่มีดเชฟแล่ปลามาล้านๆตัว, กระทะทอด ผัดของแม่ค้าที่ว่าใช้งานหากินได้นานนับสามสิบปีแล้ว กีต้าร์นี่ใช้งานได้นานขนาดนี้อีกเหรอวะ เหยดเข้

294 Nameless Fanboi Posted ID:YhxMjAkQv7

>>293 มึงไม่รู้เหรอกีต้าร์บางตัวอยู่มานาน 40-50 ปีเขาเอามาขากันราคาพุ่งเป็นแสนๆบางตัวที่หายากสัสๆเป็นล้านก็มี ของงี้มันยิ่งอยู่นานยิ่งมีมูลค่าตราบใดที่ยังมีคนให้ค่า ยิ่งผ่านไปนานไม้ในตัวกีต้าร์มันก็เริ่มแห้งให้เสียงที่ดีอันนี้เป็นความเชื่อของพวกเล่นกีต้าร์นะไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน

295 Nameless Fanboi Posted ID:/TMshlM59z

>>294 อ๋อ แพงเพราะโครงกีต้าร์บวกกับความเก่าของอายุเนื้อไม้ด้วยสินะ .... ไอกูก็สงสัยนะว่าแพงตรงไหนอีก สายกีตาร์นี่ดีดๆไปก็พังได้ ก็เลยงงไง

296 Nameless Fanboi Posted ID:YhxMjAkQv7

>>295 มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกวัสดุบางอย่างที่เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากยุคนี้เช่นพวกแผงวงจรหรือคาปาซิเตอร์หรือไม่ปิ๊กอัพที่ซึ่งในยุคปัจจุบันไม่มีผลิตแล้วหรือไม่ชิ้นส่วนเหล่านั้นมันอาจจะเกิดความเก่าเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาแล้วมันทำให้เกิดเสียงฮาโมนิกอะไรบางอย่างที่ทำให้มันมีโทนเสียงบางอย่างที่มันมีมนต์ขลังที่หาไม่ได้จากของใหม่ๆเป็นต้น

297 Nameless Fanboi Posted ID:CD07C.xIO6

schecter bass omen 5 ดีไหมว่ะชาวโม่ง ได้มือสองมา 3500 เล่น เมทัลเห็นเป็น schecter เลยชื้อเลย เป็นเบสตัวแรกเลยไม่รู้ว่ามันดีขนาดไหน

298 Nameless Fanboi Posted ID:wq+B7uVFi.

>>297 เบสนี้ไม่รู้ว่ะแต่ถ้ากีต้าร์นี้มันไม่ได้ดีเด่อะไรหรอก ถ้าเล่น Schecter มันต้องซีรี่ย์ Damien ขึ้นไปว่ะอย่าง Damien Platinum นี้ดีสัสๆปิ๊กอัพ EMG 81 85 แท้ๆแต่เสียงคลีนไม่แข็งเลย จริงมีอีกแบรนด์นึงที่ชน Schecter เรื่องเสปคกับราคาคุ้มค่าเลยคือ Solar

299 Nameless Fanboi Posted ID:hjrFLYmG4X

>>298 พูดถึงปิ๊กอัพแล้วถ้าเกิดเราเอาบอดี้ธรรมดาเล่นได้มาใส่ปิ๊กอัพดีๆ เสียงมันจะเทียบรุ่นดีๆไหมว่ะเฮีย

300 Nameless Fanboi Posted ID:RIdOzg3Dxi

>>299 มันก็มีโอกาสที่มันจะออกมาดีนะเพราะปิ๊กอัพสมัยนี้มันดีไซน์มาเพื่อให้เน้นเสียงปิ๊กอัพทากกว่าเนื้อไม้ แต่มันก็มีโอกาสที่มันจะออกมาไม่ดีได้เหมือนกันเพราะเสียงกีต้าร์มันไม่มีองค์ประกอบแค่เนื้อไม้กับปิ๊กอัพแค่นั้น แต่มันยังมีเรื่องของโครงสร้างการดีไซน์ต่างๆทั้งหมดของกีต้าร์ตัวนั้นๆซึ่งมันก็มีโอกาสทุกสิ่งทุกอย่างที่กีต้าร์ตัวนั้นมันเป็นอยู่พอมารวมกับปิ๊กอัพใหม่แล้วมันจะเกิดความไม่แมชกันของเสียงก็เป็นไปได้ ดังนั้นทุกการโมกีต้าร์มันก็คือความเสี่ยงนั่นแหละถ้ามันดีขึ้นก็โเคแต่ถ้ามันแย่ลงมันก็อาจจะต้องไปเปลี่ยนปิ๊กอัพไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะแมชกันแค่นั้นแหละ

301 Nameless Fanboi Posted ID:hjrFLYmG4X

>>300 ถ้างั้นชื้อใหม่ไปเลยดีกว่าไหมอะเฮียไม่งั้นเอามาไม่ดีมีหวังเปลี่ยนกันหลายหมื่นแน่

302 Nameless Fanboi Posted ID:6GhJ..evz9

เรียนกีตาร์ด้วยตัวเองแล้วเหนื่อยจัง สกิลไม่ขยับไปไหนสักที เพื่อนโม่งพอจะมีคำแนะนำอะไรบ้างไหม

303 Nameless Fanboi Posted ID:x9BAeb9WCI

มีใครเรียนเปียโนบ้าง

304 Nameless Fanboi Posted ID:GCT.kRSCwa

>>302 เรียนกับ อ.แดงไปเลย กระตุกจิตกระชากใจแน่ๆ

305 Nameless Fanboi Posted ID:0aPcfECgkT

ฝากผลงานด้วยครับ นักดนตรีท่านไหนมีจุดประสงค์ทำเพลงทำ Demo แล้วเสียงไม่ได้คุณภาพ Bundle นี้อาจช่วยท่านได้ครับผมทำขึ้นมาแจกฟรีลองไปโหลดมาเล่นดูได้ครับ

https://www.youtube.com/watch?v=9Ze_9Jl68jQ

306 Nameless Fanboi Posted ID:HTm7/JxV.o

>>305 มึงรับทำเพลง introะวกเว็บบล๊อกเกอร์ , ยูทูปเบอร์หรือพวกแม่ค้าออนไลน์ไหมวะ? ในวงการนี้คิดค่าจ้างค่างานยังไงวะสงสัยมาก

307 Nameless Fanboi Posted ID:/gR3n8+7g+

>>306 ถ้าอะไรพวกนั้นน่าจะจัดอยู่ในประเภทงาน Jingle ซึ่งเขาคิดเป็นจำนวนเวลาเช่นหลักนาทีหรือวินาทีราคาขึ้นอยู่กับความยากง่ายของบรีฟแต่งานนี้แน่นอนว่ามันแพงกว่าทำเพลงปกติอยู่แล้วเพราะมันต้องทำให้สอดคล้องกับภาพหรือวิดีโอซึ่งเป็นงานที่ยากกว่าการทำเพลงปกติพราะถ้างานทำเพลงคุณภาพระดับมาตรฐานตั้งแต่แรกจนจบงานเริ่มต้นที่ 10000 แต่ถ้าเป็นงานอย่างที่มึงบอกมันก็จะเพิ่มไปมากกว่านั้นอีก แต่อันนี้กูก็ไม่กล้าฟังธงเท่าไหร่นะว่าจริงหรือไม่เพราะกูก็ไปฟังเขามาอีกที กูไม่ได้เคยรู้จักหรือเคยทำงานประเภทที่มึงว่านี้เลย

ส่วนอย่างของกูจะเรียกว่ารับทำมั้ยก็คงไม่เต็มปากเท่าไหร่ เพราะถ้าเป็นงานทำเพลงทำดนตรีกูจะรับแค่แนวร็อคกับเมทัลอย่างเดียวเพราะแนวอื่นกูไม่ได้เชี่ยวชาญมากนักกลัวทำออกมาแล้วมันไม่ดีไม่ได้มาตรฐานก็เลยยังไม่กล้ารับเพราะกูยังรู้จักมันไม่มากพอเท่ากับแนวร็อคหรือเมทัลที่กูเติบโตกับมันมาร่วม 10-20 ปี แต่ถ้าเป็นงานประเภท Post-Production เช่นงาน Audio ต่างๆ Edit เสียง Clean Track ลบ Noise ในเสียง หรือจะในเชิง Musical เช่น Tune เสียงร้อง Mixing และ Mastering อันนี้กูรับหมดทุกประเภทเพราะกูทำสายนี้เป็นหลัก

308 Nameless Fanboi Posted ID:SE8.4N0fGl

>>307 มันยากมากขนาดไหนวะ? ที่กูหมายถึงคือพวกเพลงintro ไม่กี่วิของพวกstreamerออนไลน์ที่ไม่ซ้ำแบบกับเพลงลิขสิทธิ์ฟรีตามอินเตอร์เน็ตอ่ะ แบบเป็นเพลงประกอบintroเปิดตัวไรงี้ ถ้าเอาให้ชัดๆกว่านี้ก็แบบเพลงเปิดตัวของข่าวสามมิติ,ข่าวไทยรัฐnewshow,เรื่องเล่าเช้านี้ อะไรทำนองนี้นะ ราคาค่าจ้างพอๆกับจ้างทนายไปว่าความในศาลเลยเหรอวะ?

309 Nameless Fanboi Posted ID:H5iGIICvfT

>>308 ถ้าคิดว่ามันง่ายมึงก็ลองไปทำเองสิ ทำได้มั้ยก็ไม่ ในมุมของคนไม่เคยทำมึงอาจะคิดว่าทำเพลงไม่กี่วิมันง่ายแต่ถ้าลองมองมุมของคนสร้างงานศิลปะเขาใช้เงินทุนค่าอุปกรณ์ค่าเล่าเรียนหมดไปก็หลายแสนแถมใช้เวลาฝึกฝนมาแทบจะทั้งชีวิตเพื่อมาทำไม่กี่วิให้มึงเนี่ย

ถามว่ายากขนาดไหนถ้าแบบของกู กูฝึกดนตรีมาเป็นเวลา 20 ปีเรียนระดับอุดมศึกษาสาขาดนตรีอีก 2 ใบ เรียนในอนุปริญญาสาขา Audio Engineer อีกใบ และใช้เวลาฝึกฝนประสบการณ์ทางด้านสาย Music Production อีกหลายปี และอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ใช้ทำงานถึงมันจะดูกิ๊กก๊อกเมื่อมองด้วยตาแล้วเทียบกับของที่มีสตูดิโอใหญ่แต่ทุกชิ้นทุกอันที่กูใช้ก็แบรนด์ระดับเดียวกันกับที่ใช้ในสตูดิโอใหญ่ซึ่งราคาของแต่ละชิ้นก็พอจะดาวน์รถได้เป็นคัน

เท่าที่กูบอกมามึงคิดว่ามันยากระดับไหนล่ะกว่าทำงานให้ออกมาได้ระดับมาตรฐาน แต่ถ้ามึงคืดว่าแพงไปงั้นกูเสนอทางเลือกให้มึงลองไปหาพวกเด็กหัดทำบีทตามกลุ่มแจกบีทราคาหลักร้อยที่มันนิยมความมักง่ายเอา Loop เพลงสำเร็จรูปมาแปะๆกันมันก็ทำออกมาเป็นเพลงได้เหมือนแต่กูไม่รับประกันคุณภาพนะ เสียงผิดคีย์ จังหวะไม่ตรง เบสบวม แหลมแสบหู เสียงบางไม่แน่นก็ตามมีตามเกิดตามสภาพราคาเนอะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:vXG8acYnWW

ถามหน่อย Schecter Hellraiser C-1 เหมาะเอามาทำแนว J ROCK ไหม
อยากได้ซาว์ดกีตาร์แบบประมาณนี้อะ https://youtu.be/SdEI1AZhF0U

311 Nameless Fanboi Posted ID:yKJttayYuo

>>310 ได้หมดเหลือเฟือเลยเพราะ Hellraiser มันสร้างมาเพื่อเสียงแบบนี้แหละมันเป็นรุ่นมาตรฐานที่ Schecter ไม่เคยเลิกผลิตไม่เคยแม้แต่จะเปลี่ยนจะเปลี่ยนเสปคเลยตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีนี้

312 Nameless Fanboi Posted ID:6uuqw2phJ+

มีโม่งเล่นเบสปะวะ กูถามหน่อยว่าเล่นยังไงถึงจะสนุกวะ
คือกูฟอร์มวงเมทัลเล่นขำๆกับเพื่อนหลังเลิกงาน แล้วเสือกมีแต่คนเล่นกีต้า ทีนี้เลยพลั้งปากไปว่าเดี๋ยวย้ายไปเล่นเบสแทนให้
พอไปดูไลน์เบส แม่งดูน่าเบื่ออะ แหน่วๆๆไม่กี่โน้ต แค่เห็นก็ซึมแล้ว

313 Nameless Fanboi Posted ID:caqBa9VskI

>>312 ต้องยอมรับนะว่าในแนวเมทัลเครื่องดนตรีเบสไม่ได้มีบทบาทโดดเด่นอะไรถ้าเทียบกับพวก Funk หรือ Fusion อย่างมากมันก็แค่เล่นตามริฟกีต้าร์เพื่อทำให้เพลงมันมีย่าน Low ในส่วนของ Root หลักซึ่งถ้ามึงอย่างจะเล่นเบสให้มีบทบาทมากกว่านี้ก็คงต้องเปลี่ยนไปเล่นพวกเมทัลแบบ Progressive ซึ่งในฐานะวงเล่นเอาสนุกมันจะไหวกันหรือเปล่าเพราะมันเป็นแนวดนตรีที่จริงจังแหละอาศัยสกิลการเล่นดนตรีขั้นสูง หรือทางออกที่ดีกว่านั้นก็พวก Funk Metal อย่าง Rage Against The Machine หรือพวก Nu-Metal แบบ Korn หรือ Mudvayne ซึ่งเพลงขงวงพวกนี้เบสนั้นค่อนข้างมีบทบาทที่โดดเด่นเลย แต่ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะยอมกันมั้ยแค่นั้นแหละ

314 Nameless Fanboi Posted ID:2mJqvnR0zq

>>313 กะเล่นแค่พวกคลาสสิกร็อค/เมทัล acdc metallica gnr อะไรเทือกๆนั้นอะ สกิลมีแค่นั้นด้วย 555
เออ แต่นูเมทัลก็น่าสนใจ เดี๋ยวไปลองศึกษาดู แตผีงกิ้วครับ

315 Nameless Fanboi Posted ID:S.voDRoL+c

epiphone les paul เอามาเล่นดรอบสายคุ้มไหมว่ะ

316 Nameless Fanboi Posted ID:KCb5yTafWV

>>315 มันก็ใช้ได้แหละแต่ถ้าจะให้ตรงๆแนวก็ไปพวก Jackson,Schecter,Ibanez

317 Nameless Fanboi Posted ID:T4iGluF2bW

>>305 เชี่ยซาว์ดตัวอย่างโครตเท่ ฟังแล้วนึกถึง BMTH ตอนออกอัลบั้ม There Is A Hell Believe Me เลยว่ะ

318 Nameless Fanboi Posted ID:kBf0gJyuVF

>>317 มันจะไม่ใช่ได้ยังไงก็พ่อกูเองแหละ 55555 ยังไงมึงก็ลองโหลดไปกดเล่นได้นะถ้ามึงอัดกีต้าร์แล้วดีดสำเนียงแบบนี้ได้เพลงของมึงก็จะออกซาวด์แบบในคลิปเป๊ะๆเลย

319 Nameless Fanboi Posted ID:Jub3kQK5fN

>>311 ขอถามเพิ่มหน่อย Shecter Hellraiser C-1 กับ Schecter Platinum C-1 ตัวไหนมันดีกว่ากันว่ะ ดูๆแล้วมันไม่ต่างกันเลย

320 Nameless Fanboi Posted ID:cQN.vNyrCE

>>319 ถ้าเอาแค่เรื่องเสปค Hellraiser สเปคดีกว่า Platinum แต่ถ้าจะเอาเรื่องเสียงกับเรื่องการใช้งานอันนี้มันก็แล้วแต่คนว่ะบางคนชอบเสียงรุ่นเล็กมากกว่ารุ่นสูงก็มี สรุปง่ายๆคือมันต้องไปลองด้วยตัวเองว่ะว่าอันไหนมันตอบโจทย์เรามากกว่ากัน

321 Nameless Fanboi Posted ID:8.SZoSRjBi

https://youtu.be/LhRtKPx75Z8

การทำเพลงละต้องมีเพลงเดโมนี่คือสมัยนี้ก็ยังมีใช่ไหมวะ? ที่กูตกใจคือเพลงนี้คิดค้นมาสมัย30ปีก่อน(ละ30ปีก่อนไม่ได้มีพวกpluginให้แต่งเยอะ ตัดต่อเสียงผ่านคอมกูว่าก็ไม่น่าง่ายๆด้วย สมัยนั่นคอมแม่งราคาแพงกว่าทีวีกับมือถือหลายขุม) กูสงสัยเลยอ่ะ คนที่พูดแล้วทำเสียงปีศาจระหว่างเพลงบรรเลงเค้าทำกันยังไงวะ? หาไมค์ หาคนแยกมาแล้วพูดต่างหากเหรอ? อีกอันที่อยากรู้นะ ตัวอัดเสียงสมัยก่อนเนี่ย มันอัดแบบสเตอริโอ อัดทั้งกลอง อัดทั้งเบส ไม่ได้ใช่ไหม? แล้วก็อัดแยกไม่ได้ด้วยรึเปล่า? ทำไมเพลงมันดูละelementบางตัวเหมือนเวลาเล่นโซโล่แล้วคนเล่นเล่นสุดนะแต่ความคมชัดเสียงไม่ขนาดนั้นวะ? แล้วที่สงสัยอย่างสุดท้ายคือ เวลาเข้าห้องมาอัดเพลง สมาชิกทุกคนต้องมาครบวง อัดแยกไม่ได้แบบสมัยนี้ถูกต้องไหม? ถ้าใครพลาดก็เริ่มใหม่เลยกูเข้าใจถูกไหม?

322 Nameless Fanboi Posted ID:X9n85r.+rp

การอัดเสียงด้วยคอมมันมีมตั้งแต่ยุค 90 นั่นแหละแต่ป่านนั้นที่ไทยคงยังไม่มีอะไรแบบนี้คงจะเป็นระบบอนาลอคอยู่นี่แหละอัดใส่ Tape Reel ซึ่งมันไม่จำเป็นอัดรวมหรอกเพราะการอัดแยกมันมีมาตั้งแต่ยุค 80 แล้วโดยการอัดนั้นมีทั้งการอัดแบบ Mono และ Stereo ขึ้นอยู่กับชนิดของเสียงซึ่่งส่วนมากจะอัดเป็น Mono ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นแบบนั้นไม่มีใครอัดทุกสิ่งทุกอย่างเป็น Stereo หรอกเพราะอัดเป็น Mono สุดท้ายเอามารวมกันแล้ว Pan มันก็เป็น Stereo อยู่แล้ว ส่วนปลั๊กอินสมัยก่อนมันก็คืออุปกรณ์ Hardware เพราะปลั๊กอินมันก็คือการจำลองมาจากอุปกรณ์ Hardware นี่แหละ อย่างเพลงที่ว่าพวกกลองก็ไม่ได้อัดจริงแต่ใช้ Drum Machine ซึ่งว่ากันง่ายๆมันก็เหมือนกับปลั๊กอินกลองสมัยนี้นี่แหละ ซึ่งความชัดความ Clarity ของซาวด์สมัยก่อนมันสู้สมัยนี้ไม่ได้หรอกเพราะอุปกรณ์ทุกอย่างมันเป็น Hardware มันมีข้อจำกัดของมันอย่างบอร์ด Mixer มี EQ แค่ 4 Band มี Compressor ให้ตัวนึงวึ่งถ้าเป็นรุ่นถูกๆยิ่งมีมาให้น้อยกว่านี้อีก แต่กลับกันตรงกันข้ามในสมัยนี้ทุกอย่างมันเป็น Software มันจะทำอะไรก็ได้จะปรับ EQ ซัก 100 Band ก็ได้ใส่ทุกสิ่งทุกอย่างทำได้เหมือนกับอยู่ในสตูดิโอระดับโลกที่ของครบ

323 Nameless Fanboi Posted ID:XU3xuLdXGo

เดือนนี้จะลาออกจากการเป็นหมอมาเล่นดนตรีเต็มตัว จะได้หลุดพ้นจากชีวิตที่มีแต่ความเครียดซะที

324 Nameless Fanboi Posted ID:SNGVK+7PGN

>>322 ทำได้เหรอวะ? อัดทุกอย่างแบบMono แล้วค่อยเอามารวมกันแบบไม่ใช่เปิดไฟล์เสียงนั่นนี่มาแปะผ่านคอมแบบสมัยนี้? แล้วมันใช้เครื่องมือไรครับจารย์ 30ปีก่อนกูค่อนข้างมั่นใจว่าเมืองไทยยังติดกันแต่จอทีวี และเพจเจอร์โง่ๆที่คอยรับส่งข้อความ

325 Nameless Fanboi Posted ID:D5kGwkyHpF

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Stereo คืออะไร Mono คืออะไร Mono ก็คือเสียงที่อยู่แค่ตรงกลางส่วน Stereo มันก็คือเสียงสองข้างซ้ายกับขวาที่ไม่เหมือนกันคอนเสปมันก็ง่ายๆเลยมันก็คือการเอาเสียง Mono ที่มันไม่เหมือนกันมาทำการ Localize ทำการ Pan ให้มันออกซ้ายออกขวาก็แค่นั้นแหละซึ่งในการอัดเสียงมันก็มีแบบทั้งอัดแบบ Mono ก็คือไมค์ตัวเดียวแทรคเดียว แล้วก็แบบ Stereo ก็คืออัดสองไมค์พร้อมกันสองแทรคแล้วเอาไป Pan ซ้ายกับขวาซึ่งก็อย่างที่บอกเลยว่าแท้จริงมันก็คือ Mono สองแทร็คที่ไม่เหมือนกันแล้วเอาไป Pan ซ้ายขวาแค่นั้นเองไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ดังนั้นมันไม่เกี่ยวเลยว่าต้องใช้คอมทำ เพราะระบบเสียง Stereo มันมีมานานกว่าครึ่งศตวรรษโน่นแล้วสมัยก่อนไม่มีคอมเขาก็ใช้ระบบ Analog ล้วนคืออัดเข้า Tape Reel จากนั้นก็เอามากด Playback แล้วใช้บอร์ด Mixer และอุปกรณ์ Outboard Gear ต่างๆในการผสมเสียงจัดการเสียง ส่วนเวลาอัดแยกก็ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่อัดทับซ้อนลงไปที่เทปนั่นแหละจะอัดทับกันเป็นร้อยครั้งก็ไม่มีใครว่าหรอก เพียงแต่ในเชิงการ Edit เสียงการ Quantization มันไม่ได้ละเอียดระดับ Millisecond หรือ Microsecond แบบในคอมพิวเตอร์เหมือนสมัยนี้ดังนั้นเขาถึงบอกไงว่าศิลปินหรือนักดนตรีมือปืนห้องอัดต้องซ้อมกันหนักมากๆเพราะจะต้องเล่นให้ผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะมันพลาดแค่นิดเดียวมันก็ต้องอัดใหม่ทั้งยวง สิ้นเปลืองเวลาแถมสิ้นเปลืองงบอีกเพราะ Tape Reel ม้วนนึงแม่งโคตรแพง ในขณะที่เดี๋ยวนี้มันสะดวกสบายขึ้นเยอะอัดพลาดแค่นิดดียวมันก็อัดเจาะซ่อมทีละจุดได้ ขนาดอัดทีละโน้ตเอาไปตัดแปะกันจะเป็นคอร์ดทำทีละคอร์ดทีละพยางค์จนกลายเป็นเพลงก็ยังทำได้ เพราะเดี๋ยวนี้คนทำเพลงกันจนเกร่อเพราะอุปกรณ์ถูกลงราคาจับต้องได้เอาทั้งสตูดิโอยัดลงคอมเครื่องเดียว แถมความรู้ How to ต่างๆมันก็หาง่ายพวกแม่งออกมาขายคอร์สสอนกันเกลื่อนเน็ต แถมไม่พอมันยังมีพวก Software โกงๆที่มันมี่แค่ปุ่มเดียวหมุนปุ๊ปเสียงแม่งดีเลย มีหนักกว่านี้อีกคือทำเป็นเสียงไลนืเครื่องดนตรีเป็น Loop สำเร็จรูปมาให้เลยก็มี ดังนั้นเดี๋ยวนี้ไม่ต้องคนมีความรู้ไม่ต้องคนเรียนด้านนี้มาเดี๋ยวนี้ก็ทำเพลงได้ ซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอกที่เดี๋ยวนี้มันจะมีพวกมือสมัครเล่นอยากจะมาเติมเต็มความฝันตัวเองซึ่งถ้าว่ากันตามตรงว่าการ Performance หรือความรู้สกิลก็ไม่ได้ดีพอที่จะใช้ในการทำเพลงได้จริงหรอก แต่มันอาศัยพวกทางลัดตัวช่วยพวกนี้แหละโกงกันจนตลาดเศรษฐกิจวงการแทบจะพินาศเพราะตัดราคากันดิ่งลงเหวไปเรื่อยๆนี่แหละ จนมีอยู่ช่วงนึงที่พวกทำบีทกันเกร่อๆเรียกได้ว่าช่วงนั้นคือยุควงการทำเพลงถึงจุดตกต่ำขนานแท้เพราะเพลงในชาร์ตช่วงนั้นมันมีแต่พวกเพลง Sound Production ห่วยๆชุ่ยๆเต็มไปหมดเลยแล้วพอมันยิ่งดังคนมันก็ยิ่งแห่กันมาทำตาม แต่ไม่ได้ศึกษาอะไรให้มันดีเลยสักแต่ทำอย่างเดียวแล้วก็แข่งกันตัดราคาจนเป็นดราม่ากันอยุ่พักนึงเลย

326 Nameless Fanboi Posted ID:D6TrIIG92l

>>325 ประโยคท้ายดูท่าจารย์คงไม่โอเคกับผลงานบางชิ้นที่เสือกดังขึ้นมาได้แต่แม่งทั้งเสียงร้องกับทำนองเพลงนี่ปรับมาจนเหมือนไม่มีมนุษย์คนไหนร้องสดจริงๆได้แบบนั้นแน่ๆเลยหว่ะ เข้าใจเลยว่าทำไมพวกค่ายเพลงที่แตกไลน์มาจากแกรมมี่คือยังคงอะไรที่มันมาจากยุคอานาลอกได้บ้าง(แล้วมีคนที่แยกอะไรแบบนี้ออกเลยยังเหนียวแน่นกับแกรมมี่555) ส่วนที่จารย์บอกว่าตัดราคาจนตลาดเพลงบัดซบนี่ใช่สมัยอดีตค่ายเพลงย่อยๆของฝั่งค่ายใหญ่ลาดพร้าวมันเคยปล่อยเพลงเจาะกลุ่มวัยรุ่นจนเพลงดังแต่คนแต่งแม่งโกงฝีมือด้วยอุปกรณ์ไรงี้ป่ะวะ?

327 Nameless Fanboi Posted ID:Qs9zVxN+VD

>>326 มันไม่สมัยไหนหรอกก็สองสามปีก่อนนี้แหละสมัยพวกกดบีทร้องออโต้จูนเกร่อๆนี่แหละ พวกนี้มันไม่ใช่ค่ายอะไรหรอกพวกใต้ดินมันทำกันเองนี่แหละแล้วมันเสือกดังเพราะกระแสมันแรง แต่เพราะเพลงของพวกนี้มันทำง่าย เพราะไม่ต้องศึกษาอะไรขนาดโปรแกรมแม่งก็ยังแคร๊กทั้งดุ้นช่วงนั้นมันก็เลยมีแต่งานชุ่ยๆมีแต่พวกมักง่ายเพราะมันไม่เคยต้องพยายามไม่เคยต้องลงทุนลงแรงอะไรได้มาแบบง่ายๆมันเลยไม่เห็นคุณค่าจนแข่งกันตัดราคาจนเดือดร้อนคนที่เขาทำอาชีพนี้อย่างจริงจังนี่แหละ อีกอย่างนะกูไม่ได้อวยยุคอนาลอคอะไรขนาดนั้นหรอก กูว่ายุคนี้นี่แหละดีที่สุดแล้วเพราะสกิลมึงถึงความรู้มึงถึงมึงสามารถทำ Sound Production ระดับ Worldclass ได้โดยที่จบงานอยู่ห้องนอนในขณะที่สมัยก่อนแม่งต้องต้องใช้อุปกรณ์ใช้สถานที่งบหลักล้าน แล้วอีกอย่างกูก็ไม่คิดจะอวยพวกค่ายใหญ่ๆที่เคยผูกขาดตลาดด้วย เพราะพวกนี้แหละมันคือตัวการที่ทำให้วงการเพลงบ้านเราอยู่แต่ในกะลาไม่ก้าวไปไหนสักที ดูเดี๋ยวนี้สิคนทำมันฝีมือสู้เด็กรุ่นใหม่ได้ซะที่ไหน โลกเขาไปถึงไหนแล้วตัวแม่งยังมาทำทรงเหยียดคนใช้โปรแกรมกลองโปรแกรมแอมป์กีต้าร์อยู่เลย เพราะตัวแม่งต่อให้อัดกลองจริงผ่านอุปกรณ์เป็นแสนยังไงมันก็เสียงสู้เด็กรุ่นใหม่ที่ใช้โปรแกรมกลองแต่มีความเข้าใจในเพลงมากกว่าอยู่ดี มึงต้องปรับความคิดซะใหม่นะว่าการใช้อนาลอคราคาหลักแสนหลักล้านก็ไม่ได้แปลว่าจะงานดีเสมอไป เพราะหลักๆมันอยู่ที่คนทำต่อให้จะใช้ของดีแต่ถ้าคนทำมันไม่เข้าใจในดนตรีมีเทสที่ห่วยแตก ยังไงซาวด์ที่ได้มันก็ห่วยแตก ง่ายๆเลยก็ไปดูไอ้ซาวด์เอนร้านเหล้าที่โพสแซะนักร้องกลางคืนที่เปิดดูเนื้อเพลงในไอแพดที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้ดูสิ ไอ้นี่ใช้ System หลักล้านนะ แต่ซาวด์ออกมาก็นึกว่าฟังรถแห่ เพราะเทสมันห่วยแตกไงซาวด์ที่ได้มันก็เลยห่วยแตกไม่สมกับราคาอุปกรณ์ที่ใช้เลย

328 Nameless Fanboi Posted ID:mU2/LlgsqE

ไม่รู้จะถามมู้ไหน ลองมามู้นี้เผื่อใครมีความรู้ อยากรุ้ว่าไอ้ที่ตีกลองไปฟังเพลงไป แบบไม่เคยฟังเพลงมาก่อน นี่เขามีศัพท์เฉพาะมั้ยวะ กุอยากหาฟังเยอะ ๆ น่ะ แล้วแบบนี้มันต้องใช้เทคนิคไรวะ กุไม่มีค.รู้เรื่องดนตรีเลยว้าวมาก แบบ เราไม่เคยได้ยินแล้วจะรู้ได้ไงว่าต่อไปต้องตีแบบไหน แค่เดาเอาเหรอ หรือเพลงปกติมันมีแพทเทิร์นอยู่แล้ว ใคร ๆ ก็ทำได้หรือว่าต้องเป็นเซียนเทพ ๆ เลย

ตย.แบบนี้ ๆ https://youtu.be/Y6Lw9lYM-pk

329 Nameless Fanboi Posted ID:OMYFJxDSX7

>>328 ใช่มันก็คือการเดาเอานี่แหละ มันไม่ต้องเทพต้องเซียนอะไรหรอกถ้ามึงเป็นคนเล่นดนตรี เล่นไปจนมีสกิลมีประสบการณ์บวกกับการฟังเพลงเยอะระดับนึงมึงก็สามารถทำแบบนี้ได้เหมือนกัน มันไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น

330 Nameless Fanboi Posted ID:KdrKmJcu+z

https://www.allabout.in.th/special-review-3-accessories-part-3/?fbclid=IwAR0S8t5DJTBwsZEiKgqqc28uRYTwMG-Hi5c-0bNS1PEdkOnru_HrzBWDtK0

331 Nameless Fanboi Posted ID:tblxK+RUOq

>>330 อันนี้ไม่ใช่ว่ามโนหรอกมันก็ถูกที่ไฟฟ้าส่งผลต่อเสียงเพราะสัญญาณเสียงในระบบอนาลอคมันก็คือไฟฟ้าจากนั้นค่อยแปลงออกลำโพงเป็นความดันอากาศแล้วเดินทางเข้าหูเรา ซึ่งต้นทางถ้าไฟฟ้ามันไม่ดีมันก็ส่งผลทำให้สัญญาณมันไม่ดีตามไปด้วย แต่แค่ปลั๊กพ่วงโง่ๆมันต้องราคาขนาดนี้มั้ยในขณะที่ราคาขนาดนี้สามารถซื้อ Furman รุ่นดีๆได้เลยซ้ำไปแถมยังใช้งานประสิทธิภาพได้ดีเป็นมาตรฐาน Professional Audio ทั่วโลกใช้กันโดยที่ไม่ต้องน้ำลายโม้เหม็นโฆษณาอะไรมากมายเหมือนบริษัทเครื่องเสียงระดับ Consumer พวกนี้เลยฝากไว้ให้คิดก็แล้วกันว่าอันไหนของจริง อันไหนแค่คำลวง Marketing

332 Nameless Fanboi Posted ID:KdrKmJcu+z

>>331 แล้วอันนี้อะ

https://www.allabout.in.th/special-review-3-accessories-part-1/

333 Nameless Fanboi Posted ID:tblxK+RUOq

>>332 อันนี้ยิ่งโคตรไร้สาระแค่แท่นวางอินทิเกรดแอมป์มันจะมามีผลอะไรต่อเสียง ถ้าแท่นวางลำโพงกว่าว่าไปอย่างเพราะมันส่งผลทางด้านอคูสติกโดยตรง แต่อันนี้เอามาวางแอมป์ซึ่งข้างในมันยังเป็นภาคอิเลคโทรนิกส์ซึ่งมันอยู่ข้างในมันยังไม่ได้ถูกแปลงเป็นภาคอคูสติกเลยด้วยซ้ำไปแถมหลักฐานทางวิทยาศาสตร์อะไรก็ไม่มีมาพิสูจน์นั่งเทียนเขียนเอาเองว่าส่งผลต่อเสียงอย่างนั้นอย่างนี้แบบนี้ใครกก็พูดได้ความน่าเชื่อถือแม่งเข้าขั้นติดลบเลย คือถ้ามันกันของพังกันแอมป์พังเพราะน้ำหนักมันเยอะอันนี้ว่าไปอย่าง แต่ส่งผลต่อเสียงแล้วก็ราคาขนาดนี้แบบนี้มันแหกตากันเห็นๆ ไอ้วงการพวกนี้ยิ่งเข้าไปสัมผัสคลุกคลีแม่งยิ่งมีแต่พวกงมงายไสยศาสตร์สายมูทางด้านเสียงอ่ะ

334 Nameless Fanboi Posted ID:Au9+KWpKS.

ในงานสาย STUDIO เวลาอัดกีตาร์อันไหนจะมีคุณภาพมากกว่ากันระหว่าง interface vs DI Box
หรือว่าควรใช้ทั่งคู่เลย

335 Nameless Fanboi Posted ID:+RE1AWtFd/

>>334 AI สิ di มึงเอาไมค์จ่อก็ได้ ปรับดี ๆ ได้ทั้งคาร์แรคเตอร์ไมค์ ตู้ room สาระพัด
https://youtu.be/HAqIZnQ63Ao

336 Nameless Fanboi Posted ID:BMpg0LLLem

>>334 ไอ้ที่ยกตัวอย่างมาเนี่ยมันเป็นการต่อตรงทั้งคู่เลยต่างกันแค่อีกอย่างหนึ่งใช้ DI Box ถามว่าอันไหนดีกว่ากันก็ต้องอันที่ใช้ DI Box อยู่แล้วแต่ถ้ากรณีแบบ Home Studio ที่ทำๆกันที่ System มันไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมีแค่ Audio Interface กับคอมถามว่ามันจำเป็นถึงขนาดนั้นมั้ยก็ไม่เพราะถ้าบ้านมึงมีระบบกราวด์ที่ดี กีต้าร์หรือเบสมีการตรวจเช็ควงจรตลอด หรืออาจจะใช้ปิคอัพแบบดีๆพวกสัญญาณ Noise Floor มันก็มีน้อยอยู่แล้วใช้ Gate ตัดออกนิดเดียวก็หายเว้นแต่จะใช้ Single Coil แต่ถ้าเป็นห้องอัดจริงๆที่มี System ที่ซับซ้อนอันนี้ถือว่ายังจำเป็นเพราะยิ่งผ่านอุปกรณ์เยอะ Noise Floor มันก็ยิ่งสูงขึ้น

337 Nameless Fanboi Posted ID:BMpg0LLLem

>>335 เอาจริงๆนะในยุคนี้จะ Real Amp หรือ Amp Sim ในยุคนี้มันไม่ได้จะมีอะไรดีหรือด้อยไปกว่ากันแล้วมันอยู่ที่ความเหมาะสมอยู่ที่สถานการณ์มากกว่า อัดแอมป์จริงก็ไม่ได้แปลว่าจะได้ซาวด์ที่ดีกว่าเสมอไปถ้าขาดความรู้ประสบการณ์ หรืออุปกรณ์สถานที่ไม่พร้อมหรือแม้แต่มันไม่แมชกับโทนโดยรวมของเพลงสุดท้ายก็เจ๊ง ดังนั้นมันต้องมองที่ความเหมาะสมมากกว่ามองที่ค่านิยมเป็นหลัก เพราะการอัดแบบ Amp Sim ยิ่งกับยุคสมัยนี้มันไม่ได้กากเลยเพราะฝรั่งโดยเฉพาะแนวร็อคๆเขาก็หันมาใช้การอัดแบบนี้กันหมดแล้วแม้แต่วงระดับโลกก็ยังทำอย่างวง AC/DC อัลบั้ม Black Ice ปี 2008 รู้มั้ยว่าทั้งอัลบั้มนั้นใช้ Amplitube 3 อัดทั้งอัลบั้มเลยนี่ขนาดว่าในยุคสิบกว่าปีก่อนที่เทคโนโลยี Amp Sim ยังไม่พัฒนาก้าวกระโดดแบบยุคนี้นะแล้วซาวด์ที่ได้มันห่วยมั้ยล่ะก็ไม่เลยเพราะไอ้ซาวด์กีต้าร์ที่เขาเรียกว่า Wall of Sound เนี่ยหลักๆมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้แอมป์จริงจ่อไมค์เหมือนกับในคำโฆษณาในคลิปนั้นหรอก แต่หลักๆมันเกิดจากการ Sound Selection การทำ Source ของเพลงโดยรวมให้มันมันมีโทนที่แมชกันทำให้ย่านความถี่ของแต่ละชิ้นเครื่องดนตรีมันไม่ซ้อนทับตีกันเองทำให้แต่และเครื่องมีพื้นที่ของมันในเพลงแล้วพอบวกกับการเอาไป Process เอาไปมิกซ์เอาไปมาสเตอร์ผลที้ได้คือซาวด์ที่เคลียร์สะอาดและแน่นใหญ่ไม่เพียงแต่กีต้าร์แต่ทั้งเพลงเลย แต่อย่างในคลิปนั้นมันก็เป็นแค่ห้องอัดเป็นงานเซอร์วิสอย่างหนึ่งเขาก็แค่ตอบสนองในสิ่งที่ลูกค้านั้นอยากได้ แต่ความเป็นจริงแล้วถ้าเป็นงาน Music Production จริงๆแล้วล่ะก็เอนจิเนียร์หรือโปรดิวเซอร์เก่งๆส่วนมากเขาจะไม่ตามใจลูกค้ามากเกินไปเพราะเขาเชื่อในหูและความรู้ประสบการณ์ตัวเองมากกว่าเชื่อในหูลูกค้าซึ่งก็ร้อยพ่อพันแม่ไม่ได้มีมาตรฐานอะไรมากำหนดว่าใครจะเก่งหรือไม่เก่ง เพราะต่อให้จะเล่นเก่งมันไม่ได้แปลว่าจะเก่งในเรื่องการทำเพลงเสมอไป เพราะถึงมันจะเป็นดนตรีเหมือนกันแต่มันก็ศาสตร์คนละแขนง

338 Nameless Fanboi Posted ID:w29IPIwTty

ขาย Mix Ready Template (Studio One) แนว Modern Rock แค่เปิดมาปรับ Tempo ใหม่ แล้วเอาเสียงเดิมออกอัดทับเขียนกลองเขียนเบสในแทรคเดิมทับไปได้เลยไปโดยที่ไม่ต้องปรับมิกซ์หรือมาสเตอร์เพิ่ม แค่ปรับบาลานซ์นิดหน่อยพอ
สามารถฟังเพลงตัว Demo ที่ใช้ Template นี้ได้และรายชื่อ Plug-In ทั้งหมดที่ใช้ใน Template ตามลิ้งค์ในคลิป สนใจไปเม้นใต้คลิปนะเด๋วส่งคอนแทคให้
https://www.youtube.com/watch?v=DprTa3rFBZg

339 Nameless Fanboi Posted ID:FYYntw5CYL

>>338 ลิงค์ล่างเข้าไปแล้วมันบอก ต้องมีสิทธิ์เข้าถึง อะจารย์

340 Nameless Fanboi Posted ID:w29IPIwTty

>>339 ไปเปิดให้แล้ว

341 Nameless Fanboi Posted ID6:kQFTYOP.B2

อยากรู้อย่างนึง SVOT exerciseมันคือไรวะ? อ่านละยังงงๆ ดูคลิปก็ไม่เข้าใจ เป็นการวอร์มเสียงหรืออะไร

342 Nameless Fanboi Posted ID:lZzl+3amM0

>>312 ถ้าไม่อยากให้เบื่อต้องลองใส่ลูกเล่นอะไรลงไปบ้างว่ะ แบบเล่นรูดสาย ข้ามสายไล่นโน๊ตบ้าง
ไม่งั้นช่วงแรกๆกูก็เบื่อเหมือนมึงนี่แหละ แต่กูก็ไปเบื่อเพื่อนร่วมวงที่ชอบติว่าเล่นให้เหมือนแผ่นแทนเหมือนพวกอยู่แต่ในกรอบ

343 Nameless Fanboi Posted ID:iXWYSmHXDN

>>342 มันต้องทำใจว่ะแนวเมทัลเบสมันเป็นลูกเมียน้อยอยู่แล้วเพราะขนาดกูทำเพลงเมทัลกูยังใช้โปรแกรมเขียนเบสใส่ไปแบบโง่ๆไม่มีห่าอะไรเลยแล้วสุดท้ายเสียงมันก็จะไปกลืนเป็นเนื้อเดียวกับเพลงจนแม่งฟังไม่ออก 5555 มีไม่กี่วิธีแหละที่จะเล่นเบสแนวเมทัลให้ไม่น่าเบื่ออย่างแรกก็คือตามที่กูบอกว่าเป็นไปเล่นแนว Funk Metal,Nu-Metal คือเบสมีบทเด่นแน่นอน หรือไม่ก็เปลี่ยนไปเล่นแนว Thrash Metal หรือสาย Melodic Metalcore รับรองมึงได้เล่นโน๊ตเยอะๆสมใจแน่นอนเพราะมันต้องริฟยูนิซั่นกับกีต้าร์

344 Nameless Fanboi Posted ID:d1Hv+3gUh4

>>343 กูไล่สเกลหมอลำใส่เพลงเมมัล เพื่อนมันไล่กูออกจากวงเลยว่ะ กูผิดอะไรวะกูต้องการความหลากหลาย

345 Nameless Fanboi Posted ID:Czw4WiUsQn

>>344 กูว่าแบบนี้มึงเล่นไม่ดูกาละเทศะมากกว่า เขาซ้อมจริงจังอยู่ๆมึงไปติดเล่นไม่ดูบริบททำโชว์ล่มบ่อยๆเข้าเป็นกูกูก็ไล่ออกจากวงนะ

346 Nameless Fanboi Posted ID:qUVjt4BtTc

ขอความเห็นหน่อยครับพี่ ๆ

https://youtu.be/7uW7du8rCFE

347 Nameless Fanboi Posted ID:TRLBRppd8Z

>>346 ไร้หลักการไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อะไรเลยมาอ้างอิงเลย ยิ่งดูหัวสมองยิ่งมีแต่ขี้

349 Nameless Fanboi Posted ID:Ej.Cml5OOM

>>348 ถ้าไม่ได้แดกหญ้าเป็นอาหารก็รบกวนดูชื่อที่หัวกระทู๊ด้วยอีติ่งอีควาย

350 Nameless Fanboi Posted ID:D7r+t/HKTx

>>349 มึงก็ไปงับเหยื่อมันเนอะ

352 Nameless Fanboi Posted ID:4J583A15l2

https://www.youtube.com/watch?v=nOnXAs0VFvU

กูมีคำถามมาตั้งมากมายจนในที่สุดก็ลืมไปแล้วและมานึกได้ว่าเกมส์ในตำนานแบบRA2-3ก็เคยทำผลงานเพลงที่กูว่าดีไม่น้อยในแง่ของความร๊อคนะ กูชอบเพลงGinder 2 มากกว่าอันแรกหว่ะ ด้วยความที่น่าจะใช้พวกกีตาร์ไฟฟ้ากับเสียงดนตรีออเคสตร้าเข้าผสมวงมากกว่าแบบGrinder 1 มั้งเลยดูมีมิติหน่อยๆ ทีนี้คำถามคือ สมมติว่าเอาไปเล่นสด .... ถ้าสร้างเสียงออเคสตร้าที่ใช้ในคลิปเพลงนี่โดยใช้ตัวคีย์บอร์ดมันทำได้ไหมวะ? หรือว่าไ่ได้เพราะเสียงบางอันทำได้ไหมถึงไหม? อาจจะไม่ต้องมีเสียงร้องคอรัสแบบในคลิปประกอบ ไม่ต้องมีเสียงพวกโทรเลขแบบในเพลงประกอบจังหวะก็ได้ เอาเข้าจริงมันสามารถบรรเลงออกมาให้ดีกว่านี้ได้ไหม? หรือแค่เครื่องดนตรีสากลเบสิกๆแบบกลอง กีต้าร์ เบส เพียวๆนี่ก็ได้แล้ว? อีกคำถามนึงคือ เพลงนี้อ่ะ สมมติเด็ก ม.ปลายเอาไปเล่น สำหรับมือใหม่ด้านกีต้าร์ .....ถือว่ายากไหมวะ 55555

353 Nameless Fanboi Posted ID:xFNVQbL3as

โดนแบนอะ

354 Nameless Fanboi Posted ID:xFNVQbL3as

>>352 สำหรับมือใหม่น่าจะอยากตรงอุดสายเล่นไม่ทันนี่แหละ

355 Nameless Fanboi Posted ID:r31eZWhw95

ถามผู้รู้หน่อย ถ้าจะ EQ เสียงกีตาร์แตก แบบเมทัล ควร low cut ประมาณที่ย่านไหนอ่อ ควร 80hz หรือ 150hz

356 Nameless Fanboi Posted ID:r31eZWhw95

ต่อจาก 355
ยกตัวอย่าง เพลง Into the Great beyond ของ Crystal Lake
https://www.youtube.com/watch?v=8SvkeVDu3vs

Breakdown มันดูแน่นมากเสียงกีตาร์นี่ ชั่งๆๆ เลย

357 Nameless Fanboi Posted ID:7Ij3NVToSa

กูอยากเก่งไวโอลินแต่แถวบ้านไม่มีโรงเรียนสอนเลย มีสอนแต่พวกกลอง กีต้าร์งี้ แถมถ้าจะเรียนต้องเข้าไปในเมืองอีก กูสามารถฝึกเองแล้วดูพวกสอนในยูทูปได้ไหมหว่ะ

358 Nameless Fanboi Posted ID:55iHVkMpcQ

>>357
1. มึงอาจวางนิ้วผิด
2. บทเรียนในเนท ต้องอ่านโน้ตให้คล่องก่อน มันไม่ได้ง่ายเหมือนกีต้าร์ที่มีแทปให้

359 Nameless Fanboi Posted ID6:ibyMaT65V6

>>355 HPF ที่ 100 Hz แล้วระหว่าง 150 - 300 Hz ก็เอา Dynamic EQ มากดไว้ซักประมาน -5 -6 dB เพราะตอนอุดสายย่าน Low มันจะหึ่งขึ้นมา แล้วก็ LPF ที่ 12 KHz จากนั้นก็ใช้ Bell Curve ค่า Q แคบๆไป Cut ตรงที่แถวๆ 4 KHz กับ 3 KHz ออกซัก -5 -6 dB ถ้า EQ ที่มึงใช้มันมีโหมด Auto Gain ก็ให้ใช้ด้วยเพราะมันจะเห็นผลเป็นอย่างมากระหว่าง A/B Test มันจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง

360 Nameless Fanboi Posted ID:QlM0DHqNCx

การเล่นกีต้าร์แบบเคาะตบสายเป็นจังหวะมันมีกี่รูปแบบวะ กูกำลังฝึกแต่ไม่เข้าใจสักนิด มีคลิปไหนพอเป็นแนวทางให้ฝึกมั้ย

361 Nameless Fanboi Posted ID:rpbV4es85x

>>360 อาจารย์แดง

362 Nameless Fanboi Posted ID:j8UG1KlC.d

เทคนิคดีนะ

https://youtube.com/shorts/aY7ginn87Wg?feature=share

363 Nameless Fanboi Posted ID6:gLCQj1s0Jg

แนะนำกีตาร์ไฟฟ้า hh งบห้าหมื่นบวกได้นิดหน่อย ขอแบรนด์ดีแต่ไม่โหล (ที่ไม่ใช่ godin เพราะมีแล้ว) หน่อยสิเพื่อนโม่ง

364 Nameless Fanboi Posted ID:mdM7R3.Sj0

>>363 John page โอเคนะ
Charvel ส่วนตัวว่าแพงไป
Caparison ก็ดีนะ
Fender น่าซื้อเฉพาะลิมิเต็ด
Gibson เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีตัวน่าเก็บ
Shecter ก็โอนะ
Ibanez แพงไปหน่อย
G and L ดีมากแนะนำแต่ราคาปีใหม่เพิ่มเยอะ
PRS มือสองน่าสน มือใหม่ของแพงเหมือน GL
MusicMan มือสองปีเก่า
Suhr, Tom Anderson, Vigier จับแล้วเฉย ๆ
จีนไฮเอน ซื้อแบรนเมกาดีกว่า
แบรนไทย ถ้ามั่นใจในตัวเองก็จัดเลย แต่ขายต่อแล้วจบเห่

365 Nameless Fanboi Posted ID:gWFRIN/cbU

เพลงของ John Cage ต้องเล่นอย่างไร พวก 4′33″ Water walk

366 Nameless Fanboi Posted ID:xiM.J+JcF1

จารย์แดงแกเก่งจริงป่าววะ หรือแอ็คไปงั้น แล้วเดี๋ยวนี้แค่เพี้ยนตามภาษาคนแก่ แพร่บๆ

367 Nameless Fanboi Posted ID:l8t28ZNEUw

>>366 กูชอบดมหีเพราะหีมันหอมดี

368 Nameless Fanboi Posted ID:7bFlo2ZEZd

มีคนบอกว่าริปซีดีออกมาเป็นไฟล์ WAV เสียงดีกว่า FLAC จริงหรือครับ.? เพราะอะไร ในเมื่อ FLAC ก็เป็นไฟล์ Lossless?
----------
คำตอบคือ "จริง" ส่วนเหตุผลที่ริปซีดีออกมาเป็นไฟล์ WAV แล้วให้เสียงดีกว่า FLAC เป็นเพราะว่า เมื่อเลือกไฟล์ WAV ในการริปเพลงจากแผ่นซีดี ตัวโปรแกรมริปแผ่นจะทำการก๊อปปี้สัญญาณเพลงที่อยู่ในแผ่นซีดีออกมา "ทั้งหมด" โดยไม่มีการตัดทอนส่วนใดทิ้ง สัญญาณที่ริปออกมาจากแผ่นซีดีจะเป็นสัญญาณ PCM 16/44.1 ที่มีจำนวนบิตข้อมูลเสียงครบถ้วนตามที่ถูกบันทึกอยู่บนแผ่น และถูกแพ็คเข้าไปในแพ็คเกจของ WAV ทั้งหมดนั้น และสัญญาณเสียงเหล่านั้นจะถูกส่งผ่านไปบนคอมพิวเตอร์ด้วยอัตราความเร็วอยู่ที่ 1411kbps ตรงตามมาตรฐานของซีดี
.
ส่วนการริปเพลงจากแผ่นซีดีแล้วเลือกเอ๊าต์พุตจากโปรแกรมริปแผ่นให้ออกมาเป็นไฟล์ FLAC นั้น แม้ว่าตัวฟอร์แม็ตจะระบุชื่อว่าเป็นไฟล์แบบ Lossless (FLAC = Free Lossless Audio Coding) คือไม่มีความสูญเสียเกิดขึ้นในขั้นตอนเข้ารหัส (endcode), ขั้นตอนส่งผ่าน (transfer) ไปจนถึงขั้นตอนที่แตกไฟล์ (decode) FLAC ออกมาเป็นสัญญาณ PCM ซึ่งทีมผู้ให้กำเนิดฟอร์แม็ต FLAC ยืนยันไว้แบบนั้น
.
ทว่า หลังจากมีการทดลองริปเพลงจากซีดีแผ่นเดียวกันออกมาเป็นไฟล์ WAV และไฟล์ FLAC แล้วนำไฟล์เพลงทั้งสองรูปแบบนั้นมาฟังเปรียบเทียบกันผ่านชุดเครื่องเสียงชุดเดียวกัน ผลออกมาว่า เสียงไม่เหมือนกัน ซึ่งผลจากการทดลองฟังหลายๆ เพลงได้ข้อสรุปออกมาว่า ไฟล์ WAV ให้คุณภาพเสียงออกมา "ดีกว่า" ไฟล์ FLAC
.
เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น.?
.
จริงๆ แล้ว การเข้ารหัสสัญญาณเสียงด้วยไฟล์ FLAC ก็มีการ "ตัด" ข้อมูลเสียงบางส่วนทิ้งไปในขั้นตอนการเข้ารหัส เพียงแต่ว่า ข้อมูลเสียงที่ตัดทิ้งไปนั้นคือส่วนที่เป็นแค่องค์ประกอบย่อยมากๆ ที่เรียกว่า Less Significant Bit = LSB ของเสียง อย่างเช่น ปลายๆ เสียงฮาร์มอนิกที่เบามากๆ ซึ่งไม่ใช่ส่วนสำคัญ (Most Significant Bit = MSB) ที่เป็นข้อมูลเสียงที่ได้ยินชัดๆ ผู้ให้กำเนิดไฟล์ FLAC ใช้มาตรฐานการวัดผลที่อิงอยู่กับ human perception โดยทั่วไปที่ไม่สามารถรับรู้ถึงรายละเอียดลึกๆ ที่ตัดทิ้งไป คนทั่วไปจึงฟังความแตกต่างของเสียงที่ได้จากการเล่นไฟล์ทั้งสองประเภทไม่ออก แต่ถ้าผู้ฟังมีเวลามากพอในการนั่งฟังเพื่อจับความแตกต่างผ่านชุดเครื่องเสียงที่มีคุณภาพสูง จะสามารถรับรู้ได้.. /
#ยิ่งเครื่องเสียงดีบวกกับเซ็ตอัพดียิ่งฟังออกง่าย

369 Nameless Fanboi Posted ID:nMtyGTjKy/

>>368 มั่ว
เทสง่ายๆ แปลงไฟล์ .wav เป็น .FLAC แล้วแปลงกลับ มาhash เทียบกัน ได้ค่าเท่ากันเป๊ะ แสดงว่าได้บิทเหมือนกันทุกบิท
วิธีเทสง่ายๆทำได้ด้วยตัวเอง และมีคนทำหลายคนแล้ว อย่าบอกนะว่าบิทเท่ากันแล้วเสียงไม่เท่ากัน?

FLAC มันคือการบีบอัดแบบไร้การสูญเสีย คล้ายการzipไฟล์อื่นๆ นั่นแหละคือตอนคลายออกมาก็ได้เท่าเดิมเสมอ ถ้าไฟล์ไม่เสียหาย

https://www.diymobileaudio.com/threads/wav-and-lossless-flac-m4a-md5-hash-comparisons.83056/

เครื่องเสียงดี? คนทำเพลงใช้ studio monitor speaker ทั้งนั้น โดยเฉพาะยี่ห้อแบบ genelec ที่นักฟังเพลงไม่นิยม ฟังเพลงเพราะๆไม่เท่ากับฟังเพลงที่เที่ยงตรง

370 Nameless Fanboi Posted ID6:NHJH2MT/Lr

>>368 โคตรมั่ว FLAC ไม่ได้ใช้ LSB ในการ Compression ข้อมูลไม่เกี่ยวกับเรื่อง Harmonic ห่าเหวอะไรทั้งนั้นมันเป็นแค่การย่อ Code ที่ซ้ำๆกันให้สั้นลงแค่นั้นแล้วพอเอามา Playback ค่อยมา Decode ตัวที่ย่อให้ออกมาเหมือนเดิมเป๊ะๆ ทดสอบได้โดยการเอา WAV กับ FLAC ที่มาจาก Source เดียวกันไปทำการกลับ Phase เพื่อที่มห้เสียงที่เหมือนกันเกิดการหักล้างกันเอง แล้วผลออกมาก็คือเงียบสนิท ดังนั้นก็แปลว่ามันเหมือนกัน 100% ไม่ใช่ว่าเอะอ่ะก็เอาไปใส่เครื่องเสียงแล้วทดสอบด้วยการฟังโดยที่ไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์อะไรมาแ้างอิงเลย แม่งโคตรปัญญาอ่อน แบบนี้กูท้าให้มึงมา Blind Test เอาเพลงมาสัก 10 คละกันทั้ง WAV ทั้ง FLAC แล้วให้มึงขี้ว่าอันไหนคือ FLAC เชื่อสิมึงตายห่ากันทุกตัว แม่งอุปทานกันไปเองทั้งนั้น เพราะมันไม่มีใครในโลกนี้แยกได้หรอกขนาดคนทำ Music Production หรือ Sound Engineer ก็ยังแยกไม่ได้หรือจะบอกว่ามึงเก่งกว่าคนทำเพลง คนทำซาวด์งี้เหรอวะ 555555

371 Nameless Fanboi Posted ID:erahQiyP/f

คราวก่อนก็สายแลนเทพ มาวันนี้เจอไฟล์เทพ

373 Nameless Fanboi Posted ID:GFaXZIAI5H

ยกสายลอยจากพื้น.. มันส่งผลกับเสียงจริงมั้ย.?
-----
ต้องยอมรับว่า หลายๆ เรื่องในวงการเครื่องเสียงมันหมิ่นเหม่กับการถูกมองว่าไร้สาระ คนที่ไม่เชื่อ (จริงๆ แล้ว เกือบทั้งหมดคือคนที่ไม่ได้เล่นเครื่องเสียง) มักจะมองว่าเป็นเรื่องมโน คิดไปเอง
.
แต่ก็ต้องยอมรับอีกล่ะว่า หลายๆ เรื่องที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันก็เคยเป็นเรื่องที่ถูกมองว่า "ไม่น่าจะมีผล" มาก่อน ซึ่งหากเราถอยออกมามองด้วยใจที่เป็นธรรม จะพบว่า ปรากฏการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ตราบใดที่คำว่า "พัฒนา" ยังทำหน้าที่ของมัน การค้นพบอะไรใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก อะไรที่เราไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ในอดีต จนถึงปัจจุบันมันก็เป็นไปแล้วมากมาย ไม่เว้นหลายๆ เรื่องที่เราพบเจอกันอยู่ในวงการเครื่องเสียง
.
ในบางครั้งผมก็พบว่า การยกสายไฟเอซี, สายสัญญาณ รวมถึงสายเชื่อมต่อสัญญาณรูปแบบต่างๆ ไม่ให้แตะพื้นและไม่ให้แตะต้องกันเอง มันส่งผลกับเสียงมากจนรู้สึกได้ทันที แต่ก็มีบางครั้งที่ผมพบว่า การทำเช่นนั้นมันส่งผลต่อเสียงน้อยมากจนสังเกตยาก.. เป็นไปได้มั้ยว่า การยกสายต่างๆ ให้ลอยจากพื้นอาจจะไปสอดคล้องกับ "ปัจจัย" บางอย่างที่เกิดขึ้นในซิสเต็มด้วย คือถ้ามีปัจจัยเหล่านั้นอยู่ในซิสเต็มแล้วเรายกสายลอยจากพื้นมันจะเสริมกันให้เกิดผลกับเสียงมากจนฟังออกถึงความแตกต่างได้ง่าย..?? แต่ถ้าไม่มีปัจจัยนั้นเกิดขึ้นในซิสเต็ม หรือมีอยู่น้อย เมื่อเรายกสายลอยจากพื้นก็อาจจะไม่มีผลกระทบกับเสียงมาก.?
.
ความสนุกของการเล่นเครื่องเสียงก็คือการค้นหาและทดลองทำอะไรกับซิสเต็มของเราเองนี่แหละ ลองแล้วฟัง เก็บสังเกตผลของมันเอาไว้ บางอย่างอาจจะส่งผลเยอะ ในขณะที่บางอย่างอาจจะส่งผลน้อย แต่สิ่งที่ได้แน่ๆ คือประสบการณ์ในการฟังแบบ "แยกแยะ" (critical listening) ที่ประสาทหูของเราจะถูกฝึกฝนให้มีความละเอียดมากขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว จากฟังไม่ออก วันหนึ่งคุณจะฟังออก แม้ว่าความแตกต่างจะน้อยแค่ไหนก็ตาม ...
#การฟังให้ออกบังคับกันไม่ได้ต้องใช้เวลาฟังไปเรื่อยๆ
#การหาอุปกรณ์เสริมมาลองเล่นเป็นวิธีฝึกฝนการฟังได้ดี

374 Nameless Fanboi Posted ID6:C5+TOJwZcu

>>36 กุไปลองทั้งหมดที่มึงแนะนำ ลองจนมึนไปหมดว่าสัมผัสตัวไหนเป็นยังไงบ้าง สุดท้ายไปจบที่ g&l skyhawk เพราะชอบสีม่วง 5555

375 Nameless Fanboi Posted ID:bcjUp+/xU8

>>374 ยินดีด้วย เลือกได้ดี เสียงดี งานดี แบรนด์ดัง หน้าตาเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร

376 Nameless Fanboi Posted ID6:UlBnKjDqp1

ไมค์ clean audio ca289 ดีมั๊ยวะ
ทีแรกกุจะซื้อ se v7 มาร้องเพลง(เล่นๆ) แต่เพื่อนที่เป็นนักร้องบอกให้ลอง clean audio

377 Nameless Fanboi Posted ID:s7Sv5CBYju

>>376 shure sm57

378 Nameless Fanboi Posted ID:AF71Z+KWMQ

>>377 มึงจะอัดกีต้าร์เหรอ 555

379 Nameless Fanboi Posted ID:jDNP7fT1xt

>>373 สายไรวะ สายแจ๊คเหรอ กูตั้งสายโดยใช้แค่หูได้ก็รู้สึกเทพแล้ว ไอพวกนี้แม่งแอกวานซ์ไปอี๊ก ต่อไปรงฟังได้ถึงความแตกต่างระดับคลื่นความถี่โซนาร์แล้วหว่ะ

380 Nameless Fanboi Posted ID:kusHZVNeyK

อยากร้องเพลงดังๆแต่กลัวเพื่อนบ้านได้ยิน ควรทําห้องเก็บเสียงยังไงดีโม่ง

381 Nameless Fanboi Posted ID6:qC7ei8+BBW

ตอนนี้กูกำลังหัด Pentatonic กับกีตาร์อยู่ กูอยากรู้ว่าถ้าเกิดต้องการดีดโน๊ตที่อยู่ใต้นิ้วทำยังไงวะ
ตัวอย่าง
เล่น สายหก เฟรท 3 ไป 6
จากนั้นไป สายห้า เฟรท 3 ไป เฟรท 3 ของสายสี่หรือของสายอื่น ๆ ก็ได้

ถ้ากูยกนิ้วชี้ออกมันจะกลายเป็น pull off อะ หรือกูต้อง mute สายตอนยกนิ้วชี้วะ

382 Nameless Fanboi Posted ID:atB.7yFuxq

มักง่ายชิบหาย
https://www.facebook.com/100064423432623/posts/pfbid02dKmnekhdqgLCGvoQgafH5QZXFQSqeM1tBFmLBtYrb12BB9p2AquYkvEiEhnZL8Ecl/?app=fbl

383 Nameless Fanboi Posted ID6:ED88uV.56r

>>382 นี่มึงปั่นหรือมึงโง่จริงวะไม่จะกีต้าร์รีลิคเหรอ

384 Nameless Fanboi Posted ID:GZYsCXpn1Z

>>383 ของเก่ามีสามสี อันนี้เหลือสีเดียว เอากระดาษทรายถู arm rest นับว่ารีลิคแล้ว? road worn series ก็ทำ

385 Nameless Fanboi Posted ID6:/MhI6cbsYU

ตอนนี้เรียนอยู่ ม.กรุง ปี 3 สายซาว์ด ละอยากฝึกงานในสตูที่ไปออกสายเมทัลหรือใกล้เคียงอะ ชาวโม่งมีแนะนำบ้างป่ะ

386 Nameless Fanboi Posted ID6:/MhI6cbsYU

>>380 เอาผ้ามาไว้ในห้องเยอะๆ อุดช่องว่างแถวประตูก็ช่วยอยู่นะ

387 Nameless Fanboi Posted ID6:.j+hgyFG96

ล่าสุดแม่งมีดร่าม่ารับสมัครงานของ audio engineer แม่งมีคนสมัครไม่ติดเลยไปโพสด่าว่าโดนแย่งงาน

388 Nameless Fanboi Posted ID6:ymB+BXYgsF

>>387 วิถี Loser แบบนี้แหละ บ้านรวยมีตังทำห้องอัดเอง มีแต่ของแต่ไม่มีสมอง เป็นพวกเด็กทำบีท แต่พอเจอโจทย์ที่มันเป็น Source เครื่องจริง เจอปัญหาจริงๆแล้วแก้ไม่ได้เพราะชั่วโมงบินต่ำ เก่งแต่ใช้ Samp ใช้ Loop เคยชินแต่ใช้อะไรโกงๆ แบบนี้ใครเขาจะเอา แล้วเสือกมาตีโพยตีพาย แม่งกระจอกชิบหาย เห่อม๋อย กาก แถมไม่พอไปโพสเชิงข่มขู่เขาอีก วงการนี้มันแคบนะ อายุแม่งก็พึ่งจะเรียนจบมหาลัยมาปีเดียวเอง ไม่ทันได้เกิดก็เสือกคุมกำเนิดตัวเองซะงั้น กุล่ะสมเพชแม่งชิบหาย

389 Nameless Fanboi Posted ID6:rX9/I+vF2A

>>388 ฮาจริง แม่งไปด่าคนที่ติดว่าแก่อีก แย่งงานคนรุ่นใหม่ โครตรั่ว

390 Nameless Fanboi Posted ID6:rX9/I+vF2A

ถามหน่อยสำหรับ คนอัดกีตาร์ผ่าน interface ควรมีเครื่องกรองไฟไหม

391 Nameless Fanboi Posted ID6:wbLILNgsXZ

>>390 ถ้าไฟบ้านไม่ได้กากเกินจนอัดแล้วจี่ มันก็ไม่จำเป็นอะ ก็อัดตรงไปเลย กุทำมาเป็นสิบๆเพลงแล้ว ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร

392 Nameless Fanboi Posted ID6:Ma7JSshAEP

กูเห็นมาเยอะนะ แบบ ไม่ได้ทำอะไรแล้วคิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนรุ่นก่อน จนบางทีกูก็สงสัยนะว่าแบบไอ้คนโง่นี่มันไม่รู้ว่าตัวเองโง่เลยหรอวะ

393 Nameless Fanboi Posted ID6:S9.QA5/qAr

>>392 เรียนจบเก่งคิดว่าเก่ง
สุดในคลาส หลงตัวเอง ออกทำงานจริงกลายเป็นไอ้โง่

394 Nameless Fanboi Posted ID6:RQjG/VygKp

>>392 เก่งกว่าคนรุ่นก่อนอันนี้ถูก แต่ไม่ใช่ทุกคน เอาจริงกุว่าถือเป็นส่วนน้อยนะในบรรดาพวก Gen Z รุ่นหลังๆ แต่คนไหนที่มันเก่งก็คือเก่งจริงๆแบบก้าวกระโดดแซงคนรุ่นก่อนไปเลย อันนี้ยอมรับ แต่พวกที่เหลือนอกนั้นคือเก่งแต่ปากมีความมั่นหน้าสูง คิดว่าตัวเองเก่ง แต่พอให้ทำจริงแม่งหมูสนามจริง อย่างประสบการณ์ของกูในสายอัดเสียงทำเพลงเคยเจอคนนึงเป็นพวกเด็กทำบีท แม่งมั่นหน้าชิบหายแต่พอเจอ Operate ห้องอัดอัดเครื่องจริงสุดท้ายแม่งทำห่าไรไม่เป็นเลย กระจอกชิบหาย แล้วบอกเก่งกว่ารุ่นกุ ถุยยยย คนเก่งจริงเขาไม่มาบอกหรอกว่าเก่งกว่าอย่างโน้นอย่างนี้ เขาให้ผลงานมันพิสูจน์

395 Nameless Fanboi Posted ID6:kL5o92AVTr

เป็นดีเจเปิดเพลงตามplaylist แบบมีcontrol
กับ อัดเพลงต่างกันมากไหมวะ

396 Nameless Fanboi Posted ID6:/cUulISAE1

>>395 ต่างกันมากๆ คนละเรื่อง DJ มันคือการเปิดเพลง เอาท่อนเพลงมายำรวมกันเป็น Remix มันคือการเอาสิ่งที่มีอยู่แล้ว แค่เอามาตัดแปะรวมกันจนกลายเป็นงานใหม่ แต่อัดเพลงทำเพลง มันคือการทำทุกอย่างใหม่ตั้งแต่ 0 จากแค่กระดาษกับปากกาแท่งนึง สู่เพลงเพลงนึงที่ออกมาสมบูรณ์ มึงก็คิดเอาแล้วกันว่ามันต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้างกว่าที่มันจะไปถึง Final

397 Nameless Fanboi Posted ID6:s/asAqI3ad

polyrhythm สำคัญมากไหมถ้าจะฝึกทำเพลง

398 Nameless Fanboi Posted ID6:K1VRWf.d49

>>396 กุอยากให้เพลงไอดอลที่กุชอบแมสวะ กุว่ามันต้องการremix เพลงปกติสมัยนี้ภ้าไม่remixแมสยาก แต่เพลงที่ดีควรเป็นเพลงเวอชั่นไม่แมสเนี่ยละ มีแค่เสียงร้อง กับinstuement

399 Nameless Fanboi Posted ID6:5/d9fZHyjL

กูแชร์ทริคสำหรับคนหัดเล่นกีตาร์แล้วกัน มือใหม่หลายคนกูเห็นพลาดเยอะมาก หลักๆ เลยก่อนอื่น มึงต้องใช้มือเล่น ใช้มือซ้ายจับคอร์ด มือขวาเกาขึ้นๆ ลงๆ

400 Nameless Fanboi Posted ID6:13z5I25spn

ถ้ากูจะแชร์ทริคการมิกซ์เพลงกันพวกมึงจะสนใจกันป่าววะ

401 Nameless Fanboi Posted ID6:lVGf8g7zyN

>>400 สนๆๆๆ

402 Nameless Fanboi Posted ID6:suoWBr9H2g

เพลงนี้ใช้กลองของไรใครฟังออกบ้างอะ ชอบมากโครตโป๊ะเลย
https://www.youtube.com/watch?v=yAXOsFNDg9Y&list=RDyAXOsFNDg9Y&start_radio=1

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.