เรื่องเล็กๆ ของน้องๆ BNK48 & CGM48 ที่อยากเล่า ตอนที่ 1746 : เรื่องราวดีๆ ของว่าที่ศิลปินชื่อดังท่านหนึ่ง
- ใน LIVE พิเศษของวง BNK48 & CGM48 ที่มาทำโปรเจ็คพิเศษร่วมกับศิลปินชื่อดังระดับประเทศหลายท่านเพื่อนำเงินบริจาคช่วยอุทกภัยน้ำท่วมภาคเหนือเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีน้องอยู่คนหนึ่งที่ผมรู้สึกว่า โดดเด่นเฉิดฉายในงานนี้มากจริงๆ และผมสัมผัสได้เลยว่า ในอนาคตอันใกล้นี้เด็กคนนี้ต้องเปล่งประกายมากในฐานะศิลปินชื่อดังท่านหนึ่งของประเทศนี้อย่างแน่นอน ใช่แล้ว คงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก น้องซัทจัง สวิชญา ขจรรุ่งศิลป์ สมาชิกรุ่นที่หนึ่งของวง BNK48 พี่โตของวงในแง่ประสบการณ์ในการเป็นไอดอลผู้เปิดจักรวาล 48 GROUP ให้แก่ผมนั่นเอง
ทำเพื่อสังคม
- ในยุคที่คำว่า ศิลปิน ถูกใช้เรียกแทนใครสักคนที่มีผลงานเพลงออกสู่สาธารณชนได้ง่ายเสียเหลือเกิน แต่ผมว่า การที่คนๆ หนึ่งจะถูกเรียกว่า ศิลปินนักร้อง ได้อย่างเต็มปากเต็มคำได้นั้นมันต้องมีอะไรมากกว่านั้นซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ การเสียสละความสุขส่วนตัวออกมาทำเพื่อคนอื่นในยามที่สังคมต้องการอย่างที่เราเห็นใน LIVE พิเศษที่เหล่าศิลปินหลายท่านมารวมตัวกันร้องเพลงเพื่อหาเงินบริจาคช่วยน้ำท่วมครั้งนี่แหละ มาได้ด้วยใจ ไม่ได้เงินเข้าตัวเองสักบาท แต่ก็ยินดีทำ ซึ่งก็อย่างที่เห็นกันนั่นแหละว่า น้องก็ยินดีสละเวลาพักผ่อนของตัวเองมาช่วยงานนี้อย่างเต็มที่เช่นกันซึ่งถ้าว่ากันตรงๆ ตัวน้องเองก็ชอบช่วยเหลือผู้อื่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่างานนี้จะมีสิ่งล่อตาล่อใจน้องกับการได้ร้องเพลงร่วมกับศิลปินชื่อดังที่ตัวเองชื่นชอบมาตั้งแต่ตัวเล็กตัวน้อยก็ตาม แต่ผมก็เชื่อว่า ถ้างานนี้ไม่มีศิลปินนักร้องคนไหนมาร่วมกิจกรรมสักคน น้องก็คงเป็นตัวตั้งตัวตีมาร่วมกิจกรรมนี้ตั้งแต่ต้นจนจบงานอยู่ดี
ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่
- ถึงแม้ว่า โปรเจ็ค LIVE ช่วยน้ำท่วมในครั้งนี้จะเป็นงานฟรีที่ไม่มีเงินตอบแทนก็ตาม แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้ในตัวของน้องซัทจังก็คือ น้องทำหน้าที่ร้องเพลงที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่เต็มร้อยเหมือนงานที่ได้เงินตอบแทนไม่มีผิดเพี้ยน สิ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ น้องร้องเพลงคลอในช่วงที่พี่ๆ ศิลปินร้องอยู่ตลอด เพลงไหนน้องร้องได้อย่าง รักเปิดเผย ของวงละอองฟอง น้องก็ร้องเต็มเสียงพร้อมเต้นตามแบบจัดหนักจัดเต็มสุดชีวิต หรือเพลงไหนที่น้องไม่คุ้นเคย น้องก็ค้นหาเนื้อร้องในโทรศัพท์มือถือของน้องแล้วร้องตามได้ทันที ผมว่า บางทีคนที่เป็นศิลปินต่างจากคนธรรมดาทั่วไปก็ตรงที่ความทุ่มเทในการทำอะไรสักอย่างแบบสุดแรงที่มีเหมือนที่น้องซัทจังทำให้ดูนี่แหละ
ให้เกียรติผู้ร่วมงาน
- คนเราต่อให้เก่งมากมายแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าไม่ให้เกียรติคนอื่นทุกอย่างก็จบ อาชีพศิลปินนักร้องก็อยู่ในกฏนี้แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกันซึ่งผมว่า น้องซัทจังเข้าประโยคนี้อย่างถ่องแท้มาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่า น้องครูพักลักจำนิสัยนี้มาจาก ครูเอ๊ะ ครูแมน ศิลปินวงละอองฟองที่น้องชื่นชอบและใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะครูกับลูกศิษย์มาเกือบแปดปีเต็ม น้องจึงได้นิสัยการให้เกียรติผู้อื่นมาจากครูแบบเต็มร้อย และพร้อมที่จะทำตามแบบอัตโนมัติในทุกสถานการณ์อย่างทันท่วงทีเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ในงานนี้ที่ครูเอ๊ะในฐานะผู้ดำเนินรายการก็จะคอยส่งให้ศิลปินท่านอื่นฝากงานตัวเองกันแบบจุกๆ จนลืมว่า ตัวเองก็เป็นศิลปินเหมือนกัน น้องซัทจังก็รีบบอกครูทันทีว่า อย่าลืมฝากผลงานของวงครูด้วย ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งนี้ไม่มีอยู่ในสคริปต์ของงานอย่างแน่นอน แต่น้องซัทจังเห็นว่า ครูก็ต้องได้รับเกียรติไม่แพ้ศิลปินท่านอื่นเช่นกัน น้องก็รีบพูดแทรกขึ้นมาทันที เพราะฉะนั้น เวลาจะทำอะไรก็ตาม อย่าลืมคนที่ร่วมงานกันไว้ข้างทาง ยิ่งคนที่มีพระคุณ คนที่สร้างโอกาสสร้างพื้นที่ให้เราได้ทำตามความฝัน คนเหล่านี้ควรได้รับเกียรติมากที่สุด และผมว่า น้องซัทจังจะได้รับเกียรตินี้จากคนรอบข้างในฐานะรุ่นหนึ่งที่เป็นพี่โตของวงตลอดไปเช่นกัน
- สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกน้องซัทจังว่า หนูพร้อมมากกับการเป็นศิลปินนักร้องชื่อดังแล้วล่ะ และพี่สัญญาว่า จะติดตามผลงานของหนู และให้เกียรติหนูให้อยู่บนยิดปิรามิดตลอดไปแน่นอน
เป็นกำลังใจให้หนูเสมอนะ น้องซัทจัง