เรื่องเล็กๆ ของน้องๆ BNK48 & CGM48 ที่อยากเล่า ตอนที่ 1704 : สิ่งดีๆ ที่ได้จากการประกาศจบการศึกษา น้องพะแพง PAPANG SUPHATCHAYA
- ถึงเวลานี้ คุณผู้อ่านทุกท่านก็น่าจะทราบกันดีแล้วว่า น้องพะแพง ศุภัชญา คำเงิน อดีตสมาชิกรุ่นที่สองของวง CGM48 ที่เป็นหนึ่งในโอชิของผมตลอดไปได้สิ้นสุดหน้าที่ของการเป็นไอดอลของ 48 GROUP ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลาเกือบสองปีที่น้องเข้ามาใช้นามสกุล CGM48 ต่อท้ายชื่อเล่นของน้อง แน่นอนว่า น้องได้รับสิ่งดีๆ จากวงมากมายไม่ว่าจะเป็น ได้ทำตามความฝันที่ตัวเองอยากเป็นไอดอลจนสำเร็จ ได้เจอคนดีมากมายที่เข้ามาในชีวิตทั้ง คณะครู เมมเบอร์ หรือ เหล่าแฟนคลับที่รักและเอ็นดูน้องเสมอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในช่วงเวลาที่น้องใช้ชีวิตอยู่ในวงก็มีบางสิ่งที่ไม่ค่อยเป็นใจต่อน้องสักเท่าไรนัก และบางทีการประกาศจบการศึกษาออกจากวงทาก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีต่อน้องที่สุดก็เป็นได้
ได้ให้เวลากับการเรียนอย่างเต็มที่
- ถ้าใครเคยผ่านชีวิตในช่วงอายุที่เท่ากับน้องพะแพงในปัจจุบันก็คงเข้าใจดีว่า น้องต้องเผชิญกับอะไร ใช่แล้ว ชีวิตเด็กมัธยมปลายที่ต้องทุ่มเทกับการเรียนอย่างเต็มที่เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในคณะที่ตัวเองต้องการให้ได้ซึ่งบางทีอาจเป็นการชี้วัดไปถึงอนาคตได้เลยว่า ชีวิตจะดีหรือจะแย่เพียงใด ทุกคนจำได้ไหมว่า ชีวิตของเราในช่วงเวลานั้นเราทำอะไรกันอยู่ ถ้าจำไม่ได้ ผมบอกให้ก็ได้ว่า ตอนนั้นเราแทบจะตัดทุกอย่างออกไปจากชีวิต วันๆ มุ่งแต่อ่านหนังสือเพื่อสอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยต่อให้ได้เพียงอย่างเดียว ชีวิตของน้องพะแพงก็อยากทำเช่นนั้นแหละ แต่พอน้องเป็นไอดอล น้องก็ต้องแบ่งเวลาในการอ่านหนังสือมาทำงานให้เต็มที่ควบคู่กันไปซึ่งบางมีก็ไม่รู้ว่า น้องกับบริษัทที่น้องสังกัดอยู่นั้นใครเต็มที่มากกว่ากัน แต่ตอนนี้น้องออกจากวงแล้ว นั่นหมายความว่า น้องจะได้ให้เวลากับการเรียนอย่างเต็มที่ และน้องจะเลือกเส้นทางดีๆ ให้แก่ตัวเองในอนาคตได้จากการเรียนในวันปัจจุบันของน้องนี่แหละ
รักษาตัว
- ผมว่า ถ้าใครศึกษาเรื่องราวของน้องพะแพงมาดีพอก็คงรับรู้ว่า น้องเคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนถึงขั้นกระดูกสะโพกร้าวจนใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไปยังลำบาก แต่หลังจากนั้น น้องยังต้องซ้อมเต้นในฐานะไอดอลมาได้นานสองนานโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ ผมว่า น้องอดทนและเจ๋งมากเลยนะ แต่ก็อย่างว่า เมื่อถึงเวลาน้องก็ต้องยอมรับความจริงว่า สภาพร่างกายของน้องไปต่อทางด้านนี้ต่อไปไม่ไหวจริงๆ ทำให้น้องต้องตัดสินใจประกาศจบการศึกษาออกจากวงอย่างที่พวกเรารับทราบกัน ซึ่งผมว่ามองว่า เป็นเรื่องที่ดีที่น้องตัดสินใจแบบนี้เพราะน้องจะได้พักร่างกายเพื่อไปรักษาตัวเองอย่างจริงจัง น้องเพิ่งอายุ 17 ยังต้องใช้ร่างกายไปทำในสิ่งที่น้องอยากทำอีกเยอะ รู้แหละว่า น้องเจ็บปวดที่ไม่ได้ทำหน้าที่ไอดอลที่น้องรักอีกต่อไปแล้ว แต่ร่างกายของน้องยังทำสิ่งดีๆ ได้อีกเยอะแยะมากมาย น้องรำสวย แสดงเก่ง เป็นดรัมเมเยอร์ก็ได้ ถ้าน้องไปรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดี ผมมั่นใจว่า น้องจะเฉิดฉายในสิ่งที่น้องอยากทำได้แน่นอน ไม่แน่นะ บางทีในอนาคตอันใกล้ น้องอาจเป็นนักแสดงสาวท่านหนึ่งเหมือน พี่จีจี้ ไอดอลของน้องก็เป็นได้
ไม่ต้องถูกทำร้ายจิตใจอีกต่อไป
- ถึงแม้ว่า อาชีพไอดอลจะเป็นอาชีพที่คอยสร้างความสุข สร้างเสียงหัวเราะ สร้างรอยยิ้มให้แก่ผู้คนมากมาย แต่ในทางกลับกันน้องๆ ที่อยู่ในอาชีพนี้กลับถูกทำร้ายจิตใจจากใครก็ไม่รู้เป็นจำนวนมากเช่นกัน และน้องพะแพงคือหนึ่งในเหยื่อที่ถูกกระทำจากคนชั่วร้ายพวกนี้ ผมเคยดู LIVE ของน้องครั้งหนึ่งที่น้องถูกคนเข้ามาพิมพ์ข้อความหาว่า น้องทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตทั้งที่น้องอายุแค่ 17 จะให้น้องโตอะไรนักหนา หรือ การที่น้องขอพักงานงานแต่ละครั้งด้วยเหตุผลการป่วยและการศึกษา ก็มีคนไม่เชื่อน้องหาว่า น้องโกหก ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า คนพวกนีเติบโตมาในสภาพแวดล้อมมาแบบใด ได้รับการอบรมสั่งสอนมาแบบไหน ถึงได้คอยหาเรื่ิองเด็กดีๆ แบบน้องอยู่ตลอด เพราะฉะนั้น ผมมองว่า การประกาศศึกษาออกจากวงของน้องส่วนหนึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อน้องเพราะอย่างน้อยก็ทำให้น้องไม่ต้องไปเจอคนเวรๆ แบบนี้อีกต่อไป หรือ ถ้าคนพวกนี้จะตามไปหาเรื่องน้องต่อ ผมก็มั่นใจว่า ครอบครัวของน้องคบไม่อยู่เฉยๆ ให้คนเหล่านี้มาทำลูกสาวเขาอยู่ฝ่ายเดียวอย่างแน่นอน
- สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกกับน้องพะแพงว่า ในวันแรกที่หนูประกาศจบการศึกษาพี่หงอยไปหลายวันเลยนะ ใจหายมาก แต่ตอนนี้พี่ทำใจได้แล้ว และสัญญาว่า พี่จะไม่มีวันทิ้งหนูไปไหนอย่างแน่นอน จะคอยติดตามผลงานของหนูไปเรื่อยๆ และที่สำคัญที่สุด พี่จะยิ้มเยอะๆ ตามที่หนูบอกไว้ จะไม่ร้องไห้ ไม่ซึมเศร้าแน่นอน
เป็นกำลังใจให้หนูเสมอนะ น้องพะแพง ยิ้มเยอะๆ