เรื่องเล็กๆ ของน้องๆ BNK48 & CGM48 ที่อยากเล่า ตอนที่ 1705 : เติบโตมาอย่างดีเลยนะ น้องซินดี้ SINDY BNK48
- ในงานจับมือที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณที่จำกัดจำเขี่ยของผม ทำให้ผมมีโอกาสเข้าไปจับมือพูดคุยกับน้องๆ เมมเบอร์ที่ผมตั้งใจเข้าไปหาได้เพียงคนละรอบเท่านั้น แต่มีน้องอยู่คนหนึ่งที่ผมมีโอกาสเข้าไปคุยด้วยถึงสอบรอบทั้งรอบจับมือปกติ และ ช่วงที่เข้าไปรับเครื่องดื่มจากมือน้องที่ CAFE สัญจร ใช่ ตามภาพประกอบบทความนั่นแหละก็คือ น้องซินดี้ กฤตชญา อุดมบุญดี สมาชิกรุ่นที่สี่ของวง BNK48 ที่เป็นหนึ่งในโอชิของผมนั่นเอง และการได้พูดคุยกันในครั้งนี้ก็ทำให้ผมกลับมาคิดว่า ผมเริ่มชอบน้องซินดี้จนต้องยกตำแหน่งโอชิให้แก่น้องเพราะเหตุใดกันนะ
ไอดอลรุ่นเด็กที่น่ารักสดใส
- จนถึงวันนี้ ผมก็ยังกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำแบบไม่อายใครว่า เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เข้ามาเป็นส่วนประกอบในการที่ผมจะเลือกเด็กสาวสักคนให้มาเป็นหนึ่งในโอชิของผมซึ่งแน่นอนว่า ด้วยหน้าตาหมวยๆ ตัวเล็ก ผิวขาว บุคลิกน่ารักของน้องซินดี้นั้นตอบโจทย์ข้างต้นของผมได้เป็นอย่างดี แต่ผมก็ไม่ได้รักใครง่ายๆ อย่างที่นายคิด โอเค รูปร่างหน้าตามันก็ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมเห็นแล้วรู้สึกสดใสไปตลอดทั้งวัน แต่นิสัยของน้องที่เป็นคนซึนๆ กล้าพูด กล้าคุย กล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ แต่ก็ยังคงความให้เกียรติผู้อื่น เคารพรุ่นพี่ สิ่งนี้แหละที่น้องทำให้ผมเอ็นดูน้องมาก และอยากที่จะติดตามน้องต่อไปเรื่อยๆ จากนี้จนสุดเส้นทาง
ไอดอลที่เริ่มเติบโต
- กาลเวลาผ่านไปเรื่อยๆ พร้อมกับน้องซินดี้ที่เริ่มเติบโตเป็นสาวขึ้นเช่นกัน จากเด็กตัวน้อยที่ร้องเต้นสุดแรงที่มีทุกครั้งที่ได้โอกาสขึ้นแสดงบนเวทีในวันนั้น ก็กลายเป็นหญิงสาววัยรุ่นที่พยายามพัฒนาตัวเองให้เป็นไอดอลที่ครบเครื่องครบรสเข้าไปทุกที ถามว่า ผมกล้าพูดได้อย่างไรว่า น้องใกล้เคียงที่จะเป็นไอดอลที่สมบูรณ์แบบแล้ว คำตอบง่ายๆ ก็วัดจากผลงานที่น้องทำให้พวกเราได้เห็นกันในเชิงประจักษ์นี่แหละ เอาง่ายๆ ถ้าน้องไม่เจ๋งจริง น้องไม่มีทางติด SENBATSU เพลง BORDERLESS ที่มีที่นั่งเพียงแค่ 12 ที่แน่ๆ เพราะถ้าว่ากันตรงๆ น้องก็ไม่ได้มีความนิยมจากบรรดาแฟนคลับหมู่มากที่ Official ชอบนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการให้โอกาสเมมเบอร์ในวงให้ได้ทำอะไรสักอย่างมาเสมอ นั่นหมายความว่า น้องต้องใช้ฝีมือมาเป็นท่าไม้ตายในการต่อสู้เพียงอย่างเดียว และน้องก็พัฒนาตัวเองจนสามารถคว้าโอกาสที่ตัวเองอยากได้มาเนิ่นนานมาครอบครองได้สำเร็จ และเมื่อน้องได้โอกาสมาแล้ว น้องก็แสดงผลงานในงานใหญ่หลายงานให้เห็นแล้วว่า น้องคู่ควรกับตำแหน่งนี้จริงๆ หรือ ถ้าใครยังดื้อหาว่า น้องไม่เจ๋งพอ ก็ลองไปดูผลงานเพลง HASHIRE PENGUIN ที่น้องมารับช่วงเดินต่อในตำแหน่งเซ็นเตอร์ต่อจากคุณไข่ในเธียเตอร์ได้อย่างเนียนกริ๊บแบบไร้รอยต่อ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะเพราะว่า คุณไข่ได้สร้างมาตรฐานของเพลงนี้เอาไว้สูงเหลือเกิน แต่รุ่นน้องเพนกวินที่น่ารักและแข็งแรงตัวนี้ก็สามารถปีนขึ้นไปถึงมาตรฐานนั้นจนได้ และถ้าใครมาถามว่า น้องซินดี้เติบโตพอหรือยัง เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมั้ยตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเดิน ผมคงมีให้เพียงคำตอบเดียว แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว
ไอดอลที่ใส่ใจ
- ตั้งแต่ผมไปงานจับมือของวงมาตั้งแต่ครั้งแรกจนมาถึงปัจจุบัน สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดก็คือ การที่น้องเมมเบอร์จำผมได้ หรือ ติดตามผบงานผมอยู่แบบที่ผมไม่ต้องไปยัดเยียดบังคับน้องว่า ต้องจำชื่อผมให้ได้ หรือ ไปถามน้องว่า ได้อ่านบทความ หรือ ดูคลิปของผมแล้วหรือยัง คือ เรื่องดูหรือไม่ดู จำได้หรือไม่ได้ ปล่อยให้เป็นเรื่องของน้องดีกว่า และถ้าอยู่ๆ น้องพูดขึ้นมาเอง ผมก็รู้สึกฟินอย่างบอกไม่ถูก อย่างงานจับมือในครั้งนี้ น้องซินดี้ก็ทักผมตั้งแต่เริ่มว่า “หนูไม่ได้เจอพี่นานเลย…” เท่านั้นไม่พอ ตอนที่ผมสารภาพบาปกับน้องที่ไม่ได้ใส่เสื้อที่สกรีนชื่อน้องเข้าไปหาน้องเพราะลืมหยิบมาจากบ้าน น้องก็ยังจำได้ในช่วงที่ไปรับน้ำจากน้องที่ CAFE อีก ผมก็เลยสัมผัสได้ว่า น้องใส่ใจรายละเอียดบรรดาแฟนคลับของน้องมากจริงๆ ใส่ใจมากจนผมรู้สึกว่า ผมใส่ใจน้องน้อยไปหรือเปล่า และรู้สึกว่า หลังจากนี้ผมต้องใส่ใจน้องให้เท่ากับที่น้องใส่ใจผมเช่นกัน
- สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกกับน้องซินดี้ว่า พี่ใส่เสื้อที่สกรีนชื่อหนูลงรูปใน INSTAGRAM และ คลิปในช่อง YouTube ของพี่แล้วนะ หนูตามไปดูได้เลย และพี่สัญญาว่า งานหน้าพี่จะไม่พลาด พี่จะใส่เสื้อตัวนี้ไปให้หนูเห็นสดๆ ต่อหน้าหนูแน่นอน
เป็นกำลังใจให้หนูเสมอนะ น้องซินดี้