- จะว่าไปก็เป็นเวลานานหลายปีแล้วเหมือนกันที่ น้องอุ้ม ณัชชา กฤษฎาสิมะ อดีตสมาชิกรุ่นที่สองของวง BNK48 ประกาศจบการศึกษาออกจากวงเพื่อไปเดินในเส้นทางใหม่ที่น้องรักและมีความสุขในการใช้ชีวิตที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด แต่คุณผู้อ่านทุกท่านรู้สึกแบบเดียวกับผมไหมว่า ทุกวันนี้เรายังรู้สึกว่า น้องเป็นไอดอลที่คอยสร้างความสุขให้แก่พวกเราเหมือนตอนที่น้องยังใช้นามสกุล 48 GROUP อย่างไม่เปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้น ผมคงไม่ปล่อยให้เรื่องราวในรอบปีที่ผ่านมาของน้องอุ้มผ่านไปเฉยๆ ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่เหมาะที่ควรสักเท่าไร คงต้องมีการจดบันทึกและนำเรื่องราวดีๆ ของน้องมาเล่าสู่กันฟังบ้าง เพราะถ้าผมไม่ทำ ถึงเวลาที่น้องกลับมาเมืองไทย ผมจะมีหน้าไปบอกน้องได้อย่างไรว่า ผมชื่นชอบน้องทั้งทีมีช่องทางที่พอประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้รักและเอ็นดูน้องได้อยู่
ไอดอลแห่งการศึกษา
- ถ้าใครที่ติดตามน้องอุ้มมาตั้งแต่เข้าวงใาใหม่ๆ น่าจะทราบดีว่า น้องอุ้มเป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อการศึกษามาก จะบอกว่า น้องเป็นเด็กเนิร์ดก็ไม่น่าจะใช่ ต้องบอกว่า น้องรักและเอาใจใส่ต่อการเรียนน่าจะดีกว่า และมีความฝันอยู่ในหัวว่า อยากเรียนอะไร อยากไปในเส้นทางไหนต่อที่ชัดเจน น้องจึงยอมสละชีวิตไอดอลแบบ 48 GROUP ที่น้องผูกพันมาตั้งแต่ก่อนเข้าวงมามุ่งหน้าสู่เส้นทางสายการศึกษาอย่างจริงจัง และน้องก็ไม่ได้ทำแบบครึ่งๆ กลางๆ น้องตั้งใจกับเส้นทางใหม่ที่น้องเลือกเดินมากจนสามารถเรียนจบในระดับปริญญาตรีได้สมใจ แต่เหมือนกับว่า น้องรู้สึกมันยังไม่พอ น้องจึงอยากที่จะศึกษาในระดับปริญญาโทต่อ และน้องไม่ใช่แค่บอกว่า “ฉันอยากเรียนต่อโท…” แค่ให้คนอื่นฟังแล้วมันดูเท่ดีแล้วก็จบๆ กันไป แต่น้องสามารถสอบเข้าเรียนต่อได้จริงๆ ที่สำคัญคือ เรียนในระดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอังกฤษด้วย นี่แหละผมถึงบอกว่า ถึงแม้ภายนอกนั้นน้องจะดูนุ่มนิ่ม แต่จิตใจน้องช่างตรงข้ามกับฉายาน้องเสียจริงๆ น้องสาวของผมคนนี้แข็งแกร่งมาก
CHOUXCHU SCHOOL
- การที่น้องอุ้มสามารถสอบเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้นั้นผมมองว่า น้องเจ๋งมากแล้วมาก แต่สิ่งที่เหนือไปกว่านั้น คือ น้องไม่ได้อยู่เฉยๆ นั่งอ่านหนังสือเรียนไปวันๆ เพื่อสอบให้ได้เกรดเอในแต่ละวิชาเพียงอย่างเดียว แต่น้องยังอยากที่จะเผื่อแผ่ทัศนคติที่ดีในการรักเรียนของน้องไปยังผู้อื่นอีกด้วย น้องเริ่มจากจุดเล็กๆ ด้วยการรับสอนหนังสือเด็กที่นู่น รวมถึงเปิดสอนแบบออนไลน์อีกต่างหาก นี่มัน WONDER WOMAN ชัดๆ เท่านั้นไม่พอ น้องยังรู้สึกว่า อยากให้เรื่องราวของการศึกษามันถูกนำเสนอในแบบที่จริงจังไปกว่านั้น แต่ต้องย่อยง่ายสำหรับคนวัยเดียวกับน้องหรือคนวัยอื่นเพื่อทำให้ผู้คนรู้สึกรักในการศึกษามากขึ้น น้องจึงเปิดช่อง CHOUXCHU SCHOOL ใน INSTAGRAM ขึ้นมาเพื่อทำเนื้อหาเกี่ยวกับการศึกษาให้ผู้คนเข้ามาฟังกัน ผมคงไม่ใส่รายละเอียดแบบลงลึกนะเพราะว่า เคยเขียนไปแล้ว แต่ถ้าใครอยากทราบว่า ช่องของน้องเจ๋งแค่ไหนเพียงใด ลองรับชมย้อนหลังกันได้ตอนที่ น้องจ๋า อดีตสมาชิกวงเดียวกับน้องมาเป็นแขกรับเชิญกันดูนะ ผมว่า นี่คือ live แห่งปี 2566 เลยล่ะ ได้ความรู้มากจริงๆ
นุ่มนิ่มต่อใจเสมอ
- ผมยังจำประโยคหนึ่งที่น้องพูดไว้ตอนประกาศจบการศึกษาออกจากวงได้เป็นอย่างดี ประโยคที่ว่า “อุ้มจะไม่ทิ้งแฟนคลับไปไหน…” มันยังคงดังก้องอยู่ในหัวผมเสมอ และผมเชื่อว่า น้องอุ้มก็ยังคงจดจำสิ่งที่น้องพูดไว้ได้อย่างดีเช่นกัน ทุกคนลองนึกภาพตามกันดูนะ ก่อนไปเรียนต่อเมืองนอก น้องต้องวุ่นวายกับการเตรียมตัวจัดของแน่ๆ แต่น้องก็ยังแบ่งเวลาจัดกิจกรรมพบปะแฟนคลับได้อย่างอบอุ่นหัวใจไม่พอ เท่านั้นไม่พอ น้องยังแวะไปหาเพื่อนรักร่วมยูนิตแม่ชีอย่างน้องนิวได้อีก ภาพคู่ในวันนั้นดีต่อใจผมมากเลยนะ และพอน้องไปอยู่เมืองนอกแล้ว น้องก็ยังคงมา live พูดคุยกับแฟนคลับมาเล่าสู่กันฟังเรื่องราวชีวิตน้องให้ได้ชื่นใจกัน จนผมอดคิดเล่นๆ ไม่ได้ว่า น้อง live บ่อยกว่าตอนที่อยู่ในวงอีกมั้ง นอกจากนั้นแล้ว น้องยังจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อแฟนคลับอีก เช่น คลิปวันคริสต์มาสเอย การ์ดอวยพรปีใหม่เอย ถึงแม้ว่า จะเป็นเสียเงินเพื่ออให้ได้สิ่งเหล่านี้มา แต่น้องก็ทำทุกอย่างเต็ม จริงใจ เพื่อให้แฟนคลับคุ้มค่ากับการอัดหนุนค่าขนมน้องมากที่สุด ได้ดูอุ้มเต้น OOMJIKKII แค่นี้ผมก็ฟินมากแล้ว รอบหน้าพี่ตีตั๋วรอดูหนูเต้น RUMOR แล้วนะ ^^
- สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกน้องอุ้มว่า สิ่งที่หนูทำมาตลอดตั้งแต่พี่รู้จักกับหนูมา พี่ว่า หนูเก่งมากแล้วนะ เด็กวัยเดียวกับหนูหลายคนยังทำอะไรได้ไม่เท่าหนูเลย และหนูคือ หนึ่งในบุคคลที่ทำให้พี่มีความสุขมากจริงๆ
เป็นกำลังใจให้หนูเสมอนะ คุณนุ่มนิ่ม