- เผลอแป๊บเดียว น้องๆ รุ่นที่หนึ่งของวง BNK48 ส่วนหนึ่งก็หมดสัญญาฉบับแรกที่เซ็นไว้กับบริษัทมาครบหนึ่งปีนิดๆ แล้วสินะ เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเสียเหลือเกิน แต่คุณผู้อ่านรู้สึกแบบเดียวกับผมไหมว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา มีน้องคนหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า น้องไม่ได้หายจากรั้วสีม่วงของวงไปไหนเลย น้องยังแวะเวียนกลับมาหาน้องๆ เมมเบอร์และเหล่าแฟนคลับที่ยังติดตามวงอยู่เสมอ พร้อมฝากผลงานให้พวกเราได้จดจำเธอแบบลืมไม่ลงไว้มากมายเพียงแค่น้องไม่ได้ใช้นามสกุล BNK48 เหมือนแต่ก่อนเท่านั้น ใช่แล้ว ผมกำลังกล่าวถึงน้องที่ทุกคนนึกถึงกันนั่นแหละ น้องปูเป้ จิรดาภา อินทจักร อดีตสมาชิกรุ่นที่หนึ่งของวง BNK48 สาวเชียงรายผู้ยิ่งใหญ่ในหัวใจพวกเราทุกคน
CIRCLE JAM เธอคือ ของจริง
- ผมยังจำวันที่น้องปูเป้ประกาศจบการศึกษาออกจากวงได้เป็นอย่างดี วันนั้นเป็นวันเปิดซิงเกิ้ล JIWARU DAYS ซิงเกิ้ลอำลาของน้องๆ รุ่นที่หนึ่งของวง BNK48 และน้องปูเป้ก็ตัดสินใจประกาศเรื่องสำคัญแบบรวบรัดตัดตอน คือ ประกาศเสร็จก็เต้นเพลงต่อไปต่อเลยจนผมอดคิดไม่ได้ว่า น้องประกาศจบการศึกษาออกจากวงจริงๆ แล้วหรือ มันดูค้างๆ คาๆ เหมือนต้องมีภาคสองต่อยังไงก็ไม่รู้ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะหลังจากนั้นไม่นานนัก น้องปูเป้ก็ได้รับความไว้วางใจจาก official ให้เป็นผู้ควบคุมกำกับคอนเสิร์ต CIRCLE JAM คอนเสิร์ตระดับเบิ้มๆ ที่รวมรวมเมมเบอร์ของ 48 GROUP หลากหลายเชื้อชาติเอาไว้มากมาย นั่นแสดงว่า ผู้ใหญ่ในบริษัทต้องเห็นความสามารถของน้องปูเป้อยู่พอสมควรว่า น้องต้องทำได้ และน้องก็ทำออกมาได้ดีมากจริงๆ แฟนคลับที่ได้ชมคอนเสิร์ตก็มีความสุขกับทุกการแสดง เมมเบอร์ทั้งชาวไทยชาวต่างประเทศก็ต่างยกย่องว่า ปูเป้คือ ของจริง จนบางทีผมก็แอบคิดเข้าข้างตัวเองแบบไม่ได้ถามความสมัครใจของน้องเลยว่า อยากให้น้องได้ทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ของวงจัง
JANKEN ความผูกพันต่อรุ่นน้อง
- ถ้าใครเคยชมงาน JANKEN ของ 48 GROUP THAILAND ตั้งแต่ครั้งแรก จะเห็นได้ว่า น้องจาก พี่กันต์ กันตถาวร จะทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการหลักของงานแล้ว อีกหนึ่งสีสันของงานนี้ น้องๆ เมมเบอร์ที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาคอยให้ข้อมูลเกี่ยวกับเมมเบอร์ที่เข้าแข่งขันกันอย่างสนุกสนาน แต่ในงานครั้งที่สองนั้นได้เปลี่ยนรูปแบบไปเนื่องจากสาเหตุอันใดก็ไม่แน่ใจ น้องๆ ที่ร่วมแข่งขันไม่ต้องมาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วแต่เปลี่ยนเป็นการหาใครสักคนสองคนจากภายนอกที่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเมมเบอร์ในวงดีที่สุดมาทำหน้าที่ตรงนี้แทน แน่นอนว่า น้องปูเป้คือ หนึ่งในนั้นที่ได้รับการเชื้อเชิญ และน้องก็ไม่ปฏิเสธเช่นเคย ถามว่า น้องทำหน้าที่ได้ดีเพียงใด ก็ต้องบอกว่า ดีมากถึงมากที่สุด น้องทำงานร่วมกับ น้องน้ำหนึ่ง เพื่อนของน้องเข้ากันเป็นปีเป็นขลุ่ย เท่านั้นไม่พอ น้องยังสร้างความครื้นเครงให้แก่แฟนคลับที่เข้ามานั่นชมงานได้อย่างดีเยี่ยม และที่ผมว้าวมากที่สุด คือ การที่น้องทำการบ้านอย่างละเอียดมาก่อนเริ่มงาน นั่นทำให้น้องสามารถบอกถึงข้อมูลของเมมเบอร์แต่ละคนได้อย่างครบถ้วน อย่างน้องรุ่นสี่ กับ รุ่นสองของ CGM48 ที่ห่างกันมาก น้องก็สามารถพูดคุยแซวน้องๆ ได้อย่างเป็นกันเองในแบบพอดีไม่มากเกินและไม่น้อยไป นั่นแสดงให้เห็นเลยว่า น้องให้เกียรติน้องๆ ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันจริงๆ นี่คือ สิ่งที่คนที่จะเป็นผู้นำคนได้นั้นต้องเอาน้องเป็นต้นแบบและนำไปปฏิบัติตาม
วันที่หัวใจยังใกล้กัน
- ผมกล้าบอกกับคุณผู้อ่านแบบตรงๆ ไม่มีกั๊กเลยว่า มีอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ผมแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่า น้องปูเป้จะก้าวขึ้นมาเป็นชิไฮนินของวง BNK48 คนต่อไปเพราะว่า น้องมีคุณสมบัติครบถ้วนมาก ทั้งความสามารถ ความรู้เกี่ยวกับ 48 GROUP รวมถึงความเป็นผู้นำคนที่น้องทำได้ดีเยี่ยมมาตลอด แต่พอเวลาผ่านไปหนึ่งปีเศษ ผมได้เห็นชีวิต ณ ปัจจุบันของน้องที่น้องสามารถมีอิสระทำอะไรได้ตามใจที่ตัวเองฝัน ไม่ต้องอยู่ในกฎระเบียบเป๊ะๆ และไม่ต้องแบบรับความกดดันต่างๆ มากมายเหมือนตอนที่เป็นรองกัปตัน TEAM NV ผมก็เปลี่ยนความคิดทันทีว่า ให้น้องได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแบบที่น้องเลือกนั้นแหละดีแล้ว เพราะจะว่าไป ถึงแม้ตอนนี้น้องจะไม่มีนามสกุล 48 GROUP ต่อท้ายชื่อเล่นของน้องเหมือนแต่ก่อน แต้น้องก็ไม่ได้หายไปไหน และยังคงสร้างความสุขให้แก่ผู้คนได้ดีเช่นเคย
- สุดท้ายนี้ พี่อยากจะบอกกับน้องปูเป้ว่า ขอบคุณกับทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูทำเพื่อสร้างความสุขให้แก่แฟนคลับมาตลอดนะ ตอนนี้ถึงเวลาที่หนูจะได้พักผ่อนแล้ว นอนให้เต็มที่เลย แล้วแวะเวียนกลับเจอกันบ่อยๆ นะ คิดถึงหนูมาก อย่าลืมล่ะว่า หัวใจของแฟนคลับกับหัวใจของหนูยังใกล้กันเสมอ
เป็นกำลังใจให้หนูเสมอนะ คุณปู๊ป
มีใครอ่านแล้วรู้สึกว่ามันเลี่ยนหรือพยายามปั้นภาษาให้เวินเว่อร์ เหมือนนิ้วกลมบ้างวะ กูไปสังเกตเวลาพี่แกไลฟ์คนดู 2-5คน เองมั้ง