สรุปมุมมองเป็นข้อๆกับเหตุการณ์เมื่อวานในมุมเราละกัน แบบใช้เหตุผล ละคุยแยกเป็นข้อๆ อาจจะไม่ถูกใจทุกคนไปซะทุกข้อหรอก
-ทำไมกินแอลในห้าง
:ในห้างตามร้านอาหารก็ขาย ละบูธงานเองก็ขาย การซื้อการดื่มไม่ใช่เรื่องผิด ประเด็นเรื่องนี้ควรอยู่ที่ลิมิตของตัวบุคคล และรู้ตัวเองเสมอ แค่พอสนุก
ซึ่งโอเคใช่ มันไม่ดื่มเลยไม่ได้เหรอ ก็ต้องตอบว่าได้ แต่ถามว่าต้องบังคับและห้ามทุกคนไม่ใช่ดื่มไปเลยไหม ในเชิงการบังคับใช้มันทำไม่ได้ สตาฟงาน/วงไม่มีทางพอ ทุกอย่างมีค่าใช้จ่าย ละคนที่ดื่มแต่พอดี ดื่มละไม่เมา จัดการตัวเองได้มันก็มี แต่จัดการตัวเองไม่ได้ก็ควรเพลาๆลงบ้าง
-ทำไมต้องโดนตัว/ใกล้ชิดไอดอล
: มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนมีความอยากในตัว คือไม่ได้สื่อเชิงคุมคามนะ เอาแค่ว่าอยากมีโมเม้นหวายๆน่ารักฟีลแฟนก็มี แต่ทุกอย่างมีขอบเขตของมัน และสิ่งสำคัญของประเด็นนี้ที่ทุกคนก็พูดตรงกันคือการ‘ขออนุญาต’ ซึ่งแม่งไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ก็ไม่ทำ เก่งมาก
คือขอแล้วถ้าน้องปฏิเสธละจบไม่งอแงก็ดี ขอละไม่ให้ละตัดพ้อหรือบ่นใส่น้องมันก็กลายเป็นความแคลงใจแหละ ว่าสรุปแล้วที่มาหากันตลอดคือชื่นชม ซัพพอร์ตหรือหวังอะไร พอเป็นคำถามในใจ >> ไม่สบายใจ >> ไม่อยากใกล้ชิด >> ยิ่งงอแง เห็นอาการแบบนี้มาตลอดชีวิตคุเลย เก็นอาการงอนไว้งอนแฟนตอนมีเถอะ
ใดๆ ไอดอลคือคนแปลกหน้าที่รู้จักและซัพพอร์ตกันผ่านผลงานเพลง perf. หน้าตา ฯลฯ คือมันปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าหน้าตา/สเปคมีส่วนในการเลือกโอชิ แต่แบบจ่ายเงิน300ไปเชกิมึงจ่ายค่าเวลาพูดคุยและโพลารอย1ใบอ่ะ ไม่ใช่การเข้าไปแตะตัวไอดอลบุฟเฟ่ ถ้าไม่เข้าใจเรื่องนี้อาจจะต้องอุดหนุนธุรกิจอื่นแทน
พอเราเป็นคนแปลกหน้ากันที่เจอกันทุกอาทิตย์ สิ่งที่ต้องเตือนตัวเองคือมันมีเส้นบางๆ(กุว่าไม่บางหรอก แต่ส่วนใหญ่ก็หลอกตัวเองว่าตัวเองข้ามไปได้) ว่าฟีลแฟนกันทุกวีคแบบนี้มันมีโอกาสสานต่อป่ะวะ หรือยังไง เค้าน่ารักขนาดนี้ ตรงใจ ลองลุ้นหน่อยดีไหม ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนคิดแบบนี้ แต่มีไหม มี
สุดท้ายก็ไม่ต่างจากเรื่องดื่ม คือจัดการความคิดตัวเองให้ได้ อยู่กับโลกความจริงให้เป็นไม่ล้ำเส้นกัน หรือตั้งใจจีบจริง ชอบจริง สิ่งที่ต้องคิดคือถ้าเค้าจะเลือกคุณเป็นแฟน อย่างแรกเลยที่ทำให้มีโอกาสคือเป็น“ความสบายใจ”ให้เค้าให้ได้ก่อน เป็นไม่ได้ก็อย่าหวัง เพ้อเจ้อ
-ฟีดแบคเรื่องนี้ที่เห็นละขัดใจ
:โอเค คนผิดมันก็ผิด ไม่ได้บอกว่าห้ามด่า กูเองก็ด่าคนลงทวิตบ่อย ไม่ห้ามคนอื่นทำเรื่องที่ตัวเองก็ทำอยู่แล้ว แต่อยากให้อยู่ในความพอดี อย่าอินมาก อย่าเลยเถิด เข้าใจว่าไม่ชอบ พฤติกรรมนั้นๆมันแย่ และทำให้ไม่สบายใจจริง
1)ไล่ไปตา
อันนี้ปัญญาอ่อน ไม่มีใครตัดสินชีวิตใครจากเรื่องๆเดียวได้ ไม่มีใครดีไปซะหมด เหี้ยไป100% ละก็ไม่มีใครบอกว่าใครควรตายได้ มันทุเรศ ไม่ได้ทำให้ตัวคนด่าดูเป็นคนดีเลย ตั้งสติก่อน ด่าเค้าไม่คิดถึงใจคนอื่นก็อย่าทำตัวแบบนั้นเลย แต่ไม่ได้ห้ามด่า
2) ด่าเหมารวม
ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับคำว่า‘ชายแท้’ คือแม่งเป็นคำด่ายุคนี้ไปละ ที่เหมือนเป็นคำแทนพฤติกรรมชนิดนึง ที่ผู้ชายเหี้ยๆมักทำกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีคนอ่านละไม่สบายใจ จะด่าก็ด่าเป็นรายบุคคล เช่น “คนที่ทำ…ร้องไห้เมื่อวานแม่ง…” ก็จบแล้ว ไม่ยากเนอะ
3) โทษเพื่อนโทษสังคมรอบตัว
คือถ้าเป็นเพื่อนกูน้องกูทำตัวเหี้ยๆกูไม่มาด่ามันกลางทวิตให้ทุกคนรับรู้ไหมอ่ะ นั่นก็ประจานเพื่อนตัวเองไป เพื่อนรอบตัวอาจจะเตือนแล้ว ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวไม่ได้รู้อะไรก็อย่าพาดพิงเถอะ คนที่โดนอ่านละโมโหเปล่าๆ แค่คอนเตือนก็เหนื่อยละ โดนด่าอีก
4) โยงคนนู้นพาดพิงคนนี้มั่วดราม่า
วันนี้ดราม่าเรื่องนี้ก็ด่าเป็นเรื่องๆเนอะ มันงง 5555555 มันจะร้อยวันพันเหตุการณ์เกินไป นึกว่าเมื่อวานมันมีหลายประเด็น แต่ใดๆเท่าที่เห็น หลังบ้านและรอบตัวของต้นเหตุก็เทคแอคชั่นได้ค่อนข้างโอเคแล้ว เท่าที่เห็นตอนอยู่หน้างานเมื่อวานนี้
5) ไม่ได้อยู่ ไม่ได้รู้ ขอนัวก่อน
บางคนนี่ด่าฉ่ำเหมือนอยู่กลางเลน กลางเหตุการณื แต่เมื่อวานไม่ได้มา อันนี้ก็ขัดใจแค่ว่าบางทีรับสานส์มาหลายต่อ ขาดนิดผิดหน่อยใส่ไข่สุมไฟบ้าง ไปๆมาๆเรื่องมันใหญ่กว่าเดิม ละมันก็จะไม่จบไปเรื่อยๆอยู่แบบนี้แหละ แค่นี้แหละ ไม่ได้จะเจาะจงด่าใครเลย
https://twitter.com/Cloud_castle27/status/1759600592085987352