>>552 ใช่กูอาย
แต่กูกวน คนอย่างมึงด้วย
กรณิศชื่นชอบการร้องเพลง จึงให้บิดามารดาพาไปเรียนร้องเพลง โดยใฝ่ฝันจะเป็นนักแสดง นักแต่งเพลง นักร้อง และศิลปินเกิร์ลกรุปที่เต้นและแร็ป[10]
เมื่ออายุ 7 ปี กรณิศจึงได้เริ่มงานในวงการบันเทิง[1] ผลงานการแสดงแรก คือ ละครโทรทัศน์เรื่อง ยมบาลเจ้าขา เมื่อ พ.ศ. 2556[1]
กรณิศยังเข้าประกวดร้องเพลงในรายการต่าง ๆ โดยเริ่มจากรายการ เดอะเทรนเนอร์ ปั้นฝันสนั่นเวที ปี 5 ใน พ.ศ. 2556[2] ซึ่งกรณิศแสดงความสามารถด้วยการร้องเพลงสามเพลงพร้อมเปลี่ยนชุดบนเวทีและเต้น[2] ต่อมาใน พ.ศ. 2557 กรณิศเข้าร่วมรายการ เดอะวอยซ์ คิดส์ ไทยแลนด์ ฤดูกาลที่ 2 และผ่านเข้ารอบห้าคนสุดท้าย ทำให้กรณิศเป็นที่รู้จักมากขึ้นและมีผลงานอื่น ๆ ติดตามมา[3] จากนั้นใน พ.ศ. 2560 กรณิศเข้าร่วมรายการ เด็กร้องก้องโลก โดยร้องเพลง "ความในใจ" ของสุเทพ วงศ์กำแหง[2]
ใน พ.ศ. 2561 กรณิศได้รับเชิญให้กล่าวในการประชุมเท็ดที่กรุงเทพมหานคร โดยกรณิศแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทที่เด็กต้องการเป็นในปัจจุบันและอนาคต และร้องเพลง "นางนวล" ของธงไชย แมคอินไตย์ ซึ่งพรรณนาถึงความฝันของนกนางนวลที่อยากบินไปยังขอบฟ้า เพื่อสื่อความเชื่อของกรณิศที่ว่า แม้เป็นเด็ก ก็สามารถเป็นนางเอกได้[11]
ภายหลัง กรณิศได้เข้าร่วมคัดเลือกเป็นศิลปินของวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ที่ประเทศเกาหลีใต้[12] ก่อนเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ โฟร์อีฟเกิร์ลกรุปสตาร์ ซึ่งออกอากาศทางเวิร์คพอยท์ทีวี ประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2563 เพื่อแสวงหาสมาชิกของเกิร์ลกรุปไทยที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่นามว่าโฟร์อีฟ[12] ในการแข่งขันดังกล่าว กรณิศได้รับเลือกเป็นผู้มีความสามารถโดดเด่นที่สุด และได้รับหมวกสำหรับผู้แข่งขันที่ทรงคุณค่ายิ่ง (เอ็มวีพี)[3] กรณิศจึงได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสมาชิกเจ็ดคนของโฟร์อีฟ โดยเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของโฟร์อีฟ[3]
ใน พ.ศ. 2563 กรณิศยังได้รับบทบาท "ใกล้รุ่ง" หญิงสาวนักแสดงลิเกแห่งเมืองนครสวรรค์ในละครโทรทัศน์เรื่อง วาสนารัก[13][14] การแสดงดังกล่าวทำให้สมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยมอบรางวัลหงส์อวอร์ด (โล่สุวรรณหงส์) สาขานักแสดงดาวรุ่งหญิงยอดเยี่ยม แก่กรณิศ[4]