เมื่อถึงปี ค.ศ.1241 จอมข่านโอกาไดเสด็จสวรรคต ทัพมองโกลจึงถอนกำลังกลับ หลังสงครามสงบ ข้าหลวงเสฉวนได้สร้างป้อมปราการที่เตี้ยวอี้เฉิงเพื่อใช้ป้องกันที่ราบเฉิงตูจากการรุกรานของมองโกล ซึ่งด้วยป้อมนี้เอง ที่ทำให้กองทัพซ่งป้องกันเสฉวนได้นานร่วมสิบปี
ในขณะเดียวกับ ราชสำนักซ่งใต้ก็เสริมความแข็งแกร่งให้กับปราการที่เซียงหยางรวมถึงเมืองฟานเฉิงซึ่งอยู่อีกฟากของแม่น้ำฮั่นสุ่ย ให้เป็นป้อมปราการคู่ ซึ่งหากเมืองหนึ่งถูกโจมตี อีกเมืองก็สามารถไปช่วยได้ทันที ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้มองโกลใช้กองเรือล่องแม่น้ำฮั่นสุ่ยเข้าสู่ที่ราบลุ่มน้ำฉางเจียง อันเป็นที่ตั้งของนครหลินอัน
ปี ค.ศ.1242 หลังจอมข่านโอกาไดสวรรคต พระนางโตเรจิน ชายาเอกของพระองค์พยายามกุมอำนาจโดยขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการและผลักดันให้ กูยุค โอรสของนางกับจอมข่านโอกาได ขึ้นครองราชย์
พระนางโตเรจิินได้ส่งทูตมาเจรจาสงบศึกกับซ่งใต้ แต่ซ่งใต้จับทูตมองโกลคุมขังไว้ สงครามจึงดำเนินต่อไป โดยมองโกลได้ส่งทัพบุกเสฉวน ทว่าความแข็งแกร่งของแนวป้องกัน รวมทั้งกองทัพที่มีจำนวนพลมากมายของซ่งใต้(อาณาจักรซ่งใต้มีพลเมืองราว 60 ล้านคน) ทำให้มองโกลไม่อาจชนะได้ แต่เนื่องด้วยตอนนั้น แม่ทัพที่ฝีมือเข้มแข็งอย่าง เมิ่งกงและตู้กัวได้เสียชีวิตไปเเล้ว จึงทำให้ฝ่ายซ่งต้องสูญเสียไม่น้อยในการต้านศึกมองโกล
ปีต่อมา อาณาจักรซ่งใต้จึงได้ขอเจรจาสงบศึก ขณะเดียวกัน ฝ่ายมองโกลก็กำลังวุ่นวายกับการชิงตำแหน่งจอมข่าน ทั้งสองฝ่ายจึงได้ทำข้อตกลงสงบศึกกัน