เมื่อเจงกีสข่านสวรรคตในเดือน สิงหาคม ค.ศ.1227 โอกาได โอรสองค์ที่สามซึ่งถูกวางตัว เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ ได้ขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการ ในปี ค.ศ.1229 เนื่องจากต้องไว้ทุกข์และทำพิธีเลือกผู้สืบทอดตามประเพณี
ภารกิจแรกที่จอมข่านโอกาไดทรงทำ คือการกวาดล้างศัตรูเก่าอย่างอาณาจักรควาเรซ โดยหลังเจงกีสข่านสวรรคต จาลาลอัดดิน สุลต่านองค์ใหม่ของควาเรซก็ได้รวบรวมกองทัพและสร้างฐานที่มั่นในเปอร์เซียเพื่อเตรียมการชิงดินแดนที่เสียให้กับมองโกลกลับคืน
โอกาไดส่งกองทัพไปจัดการกับจาลาลอัดดิน ทว่าทัพมองโกลกลับพ่ายแพ้ต่อทัพควาเรซในการรบที่ดามิกันซึ่งอยู่ทางเหนือของเปอร์เซีย จอมข่านจึงส่งทัพบุกไปอีกครั้งและสามารถเอาชนะกองทัพควาเรซได้ที่อิสฟาฮาน แต่ก็ยังจัดการกับจาลาลอัดดินไม่ได้
ในปี ค.ศ.1230 จอมข่านโอกาไดทรงมีบัญชาให้แม่ทัพ คอร์มากัน ซึ่งเป็นขุนพลฝีมือฉกาจ ที่เคยติดตามเจอเปและสุโบไตบุกรัสเซีย นำทหารห้าหมื่นจากบุคคาราในเอเชียกลางเข้ากวาดล้างพวกควาเรซ
คอร์มากันนำทัพบุกเข้าเปอร์เซียและกวาดล้างกองกำลังของควาเรซจนสิ้นซาก ก่อนนำทัพไล่ล่า จาลาลอัดดิน ที่หนีไป ดิยาบาเคียร์ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ต่อมา ในวันที่15 สิงหาคม ค.ศ.1231 จาลาลอัดดินก็ถูกสังหารที่นั่นและถือเป็นการปิดฉากอาณาจักรควาเรซโดยสิ้นเชิง จากนั้นคอร์มากันจึงนำทัพบุก ไปตีจอร์เจียและอาร์เมเนียพร้อมกับยึดครองดินแดนทั้งสองได้
ในปีเดียวกับที่กองทัพมองโกลจากบุคคาราบุกดินแดนที่เหลือของควาเรซนั้น จอมข่านโอกาไดก็ได้เปิดศึกกับอาณาจักรจิน โดยอ้างสาเหตุว่ากองทหารหนี่เจินได้โจมตีขบวนทูตของมองโกล
จอมข่านส่งทัพใหญ่เข้าโจมตีอาณาจักรจิน ทว่าแม่ทัพใหญ่ หวันเหยียนเฮ่อต๋าของต้าจิน ได้รวบรวมกำลังพลสองแสนเข้าขับไล่ทัพมองโกลจนล่าถอยกลับมา
เมื่อการโจมตีครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จ โอกาไดจึงวางแผนเดินทัพผ่านเข้าเขตแดนซ่งใต้เพื่อโจมตีอาณาจักรจินจากด้านหลัง พระองค์ส่งทูตไปติดต่อกับราชสำนักซ่งใต้ ทว่าข้าหลวงซ่งใต้ได้สังหารทูตมองโกลด้วยความเข้าใจผิด ทำให้แผนร่วมมือต้องล้มเหลว
อย่างไรก็ตาม จอมข่านก็ยังดำเนินการตามแผนเดิมต่อไป โดยจะส่งกองทัพเข้าตีอาณาจักรจินพร้อมกันสามทาง คืิอ ทางเหนือ ทางตะวันออก และทางใต้ โดยมีบัญชาให้พระอนุชา นามว่า โตลุย ผู้เป็นโอรสองค์ที่สี่ของเจงกีสข่าน นำทหารม้าสามหมื่นเคลื่อนทัพเข้าเขตแดนซ่งใต้ ในปี ค.ศ.1231เพื่ออ้อมไปตีแนวหลังของต้าจินจากทางด้านใต้