ขอบใจที่เตือน ที่มึงพูดมา เป็นประโยนช์กับกูมากกว่าพวกที่พิมพ์ 2 3 บรรทัด อวดเท่ห์ไปยังงั้น
- กูคิดว่ากูทำงานกับพ่อแม่ กูได้วันละเท่าไหร่ กูก็ไม่มีปัญหา เพราะอะไรๆ ก็ฟรี กูชี้ประเด็นไปที่ "กูไม่ได้อยู่แบมือขอเงินพ่อแม่ไปวันๆ แต่กูก็อยากมีรายรับสูงขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง เพราะกูอยากทำยอดเงินเก็บให้สูงขึ้น อนาคตของกิจการครอบครัวกู มันง่อนแง่นตามอารมณ์พวกเค้า กุเลยไม่สนใจ อยากหางานทำนอกบ้านให้รู้แล้วรู้รอด"
- เรื่องเงินเดือน กูชี้ประเด็นไปที่ "ที่นี่เงินเดือนน้อยนะ แถมยังโดนหักเงินเดือนโดยกลไกลที่แสนจุกจิกอีกด้วย" และ "ที่นี่รับแทงหวย เครดิตก็ใช้วิธีหักเงินเดือน แต่กูขอโทษที่พูดเรื่องนี้ กูพิมพ์เละเทะไปหน่อย" "ส่วนเรื่องที่ว่าเรียนทำเหี้ยอะไร งานที่กูทำมันไม่เอาวุฒิด้วยซ้ำ กูเขียนไปใน 451 แล้ว"
- มึงคิดว่ามีกินสุทธิไม่กี่สิบบาท มึงอยากให้กูเก็บ หรือกิน กูอยากเก็บ แต่สุดท้ายกูก็กิน "อันนี้กูผิดเองที่ใจไม่แข็งพอ"
- บ้านกู พอเวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน บ้านกูนี่ลุกเป็นไฟหลายวัน กูอยากเอาเงินไปหาความสุขบ้างไม่ได้เรอะ เงินเก็บกูส่วนใหญ่ มันคือเงินชดเชยจากที่ที่กูออกมาจากที่เก่า ใน กทม
- กูยอมรับเลยว่ากูไม่มีความกะตือรือร้นที่จะหาเงิน กูไปตลาดนัด เจอคนที่กูเคยเรียนมัธยมแล้วออกไปก่อน เห็นมันทำมาหากิน นับเงินฟ่อนเลย กูเปรียบเทียบตัวเองทีไร กูก็ให้คำตอบกับตัวเองว่า "กุมันพลาดจากจุดนั้น (จุดสมมติ) มานานหลายปีแล้ว เค้าได้ดีก็ควรชื่นชม ส่วนกู ก็ปล่อยให้มันดรอปลงไปจนตายห่าไปเลย" กูมันไม่ดีเอง กูมันเก็บตัวอยู่ในบ้านนาน กูคงต้องพยายามทำอะไรบางอย่าง "ส่วนเรื่องชีวิตกูชิบหายตอนเรียน กูเสือกมามีชีวิตคู่ตอนที่เรียน โอกาสในชีวิตของกูเสียไปหมด" ถ้าพูดกันตามตรง ตอนที่กูเห็นมู้นี้ ตามประสาคนมีงานทำ ก็อยากคุยเล่นบ้าง แต่พอกูกำลังดับ กุก็รู้สึกว่า "คงเป็นประโยชน์กว่ากูปล่อยให้ความคิดของกูวนอยู่ในกะลา โดนถากถางบ้างก็ไม่เสียหาย"
- อือ ถ้ากูไม่เจอพวกพูดจาล้อเลียนความไม่ปกติทางสมองของกู กูคงไม่มีปัญหาในการสื่อสาร ตอนแรกมันก็ให้เกีรติกูนะ เพราะไม่คิดว่ากูมันน่าล้อเลียน แต่พอกูออกอาการ มันก็เล่นกุแล้ว
- กูผมร่วงทางกรรมพันธุ์ อันนี้กูกินยามาหลายปีแล้ว กูยังตัดใจยอมหัวล้านไม่ได้
คือที่มึงพูดมา กูไม่ได้ต่อต้านอะไรเลย เพราะมันเป็นประโยชน์กับกู กูควรขอบใจมากกว่า