รายนามกระทู้เก่า
วันศุกร์ที่หนึ่ง https://fanboi.ch/lounge/68/
วันศุกร์ที่สอง https://fanboi.ch/lounge/216/
วันศุกร์ที่สาม https://fanboi.ch/lounge/286/
วันศุกร์ที่สี่ https://fanboi.ch/lounge/408/
Last posted
Total of 894 posts
รายนามกระทู้เก่า
วันศุกร์ที่หนึ่ง https://fanboi.ch/lounge/68/
วันศุกร์ที่สอง https://fanboi.ch/lounge/216/
วันศุกร์ที่สาม https://fanboi.ch/lounge/286/
วันศุกร์ที่สี่ https://fanboi.ch/lounge/408/
แดกกล้วยมา4เดือนสนุกไหมนาย เราเพิ่งแดกได้ครึ่งเดือน
เป็นแนวใหม่เหรอวะ แดกกล้วยเนี่ย
แดกแทนข้าวเที่ยง ลดรายจ่ายและไดเอท
อิ่มเหรอวะมึง
มาม่ายังดีสะกว่า
กล้วยดีกว่ามาม่านะ แดกมาม่านี่ผลแย่ๆมันมาทีหลังนะเว้ย กล้วยยังช่วยขับถ่าย
กล้วยทั้งอิ่มอยู่ท้องทั้งได้สารอาหารทั้งถูก
สุดยอดผลไม้คนยาก
ช่วงนี้กูซื้อกล้วยหอมกลับบ้านอาทิตย์ละหวีเลยแหละ เอาไว้แดกอิ่มเร็วๆตอนเย็นกลับบ้านเพื่อรักษาเวลาเล่นเกมไว้ T<>T ตื่นเช้ามานี่สบายอยู่นะอิอิ
สำหรับกูมื้อเย็นถ้าจะให้ได้สารอาหารครบราคาถูกคงเป็นสุกี้ทะเลตามร้านอาหารตามสั่งว่ะใส่ผักเยอะๆ จานละไม่เกิน 40
ไอ้เหี้ยพิมผิด ทะเล 45 T T
การย้ายงานบ่อยๆนี่ทำให้โปรไฟล์ดูแย่มากป่าววะ ถ้าจะย้ายควรจะทำงานไปนานเท่าไหร่แล้วค่อยย้ายดี
ตอนนี้กูอยู่มาได้ปีครึ่งแล้วรู้สึกเบื่อมากกับทั้งคนทั้งงาน อะไรที่เคยดูดีตอนเข้ามาแรกๆก็กลายเป็นว่ากูมองผิดไปเองเกือบทุกอย่าง
กูอยากจะไปเต็มทนแล้ว แต่ยังกลัวอยู่+ติดห่วงอะไรหลายอย่างเลยยังไม่กล้าเท่าไหร่
ก่อนจะออกก็ออกแบบดีๆล่ะ
บางที่มีโทรไปถามที่ทำงานเก่าด้วยว่าคนนี้เป็นยังไง ออกทำไม ตรงตามที่คนสมัครพูดไหม
\วันศุกร์แล้วโว้ย/
\เงินออกด้วยเว้ย/
ไอ้สัส กูตกภาค ก. อีกล่ะ
ทำไหมแม่งให้สอบซ่อมภาษาอังกฤษได้แค่อย่างเดียววะแม่ง
เสียใจว้อยยยยยย ( ; _ ; )
คิดสิว่าโชคดี ที่ตกไอ้ที่แก้ไขได้
กูตกความรู้ทั่วไป-ภาษาไทยอะ แม่งไม่มีให้สอบซ่อมว่ะ ( ; w ; )
อังกฤษนี่เคี้ยวหมูเลยเหอะ นั่งทำ 15 นาทีก็เสร็จ
กูไปสอบโทอิคยังจะดูยากกว่าอีก
กูตกรอบก่อนไฟนอล เจอเด็กผมขาวๆถือสเก็ตบอร์ด ซวยสัด
กูตกรอบสอบไฟนอล เจอเด็กผมเหลืองหัวชี้ๆ ถือดาบใหญ่ใส่มาเทเรียขี่นกสีเหลืองมาสอบ ซวยสัด
กูตกตั้งแต่รอบแรกเลยว่ะ เผลอไปกินน้ำส้มของลุงที่ไหนไม่รู้ ขี้แตกวิ่งไม่ไหว
มีใครรู้แนวข้อสอบปีหน้าบ้างวะ? คือกูทำอาหารไม่เป็นไง ถ้าต้องมาทำอาหารให้อีฮันเตอร์เลิศรสแดกอีก ซวยชิบหาย
กูว่ากูจะไปสอบปีหน้า ต้องเตรียมตัวไงวะ ที่ไหนมีติวเตอร์เน็นดีๆ บ้าง
แต่ไม่เอาอ.อุ๊ นะดูท่าจะไม่เวิร์ก สอนเน็นผ่านวีดีโอเนี่ย
นี่กูยังหาสนามสอบไม่เจอเลยสัด
กูได้ไปแข่งแย่งคลอธเปกาซัสกับไอ้เด็กญี่ปุ่นหัวชี้ๆ ว่ะ ผอมกระหร่องแบบนี้เสร็จกูแน่
เหี้ยแม่งมีคนตื้อกูทำ amway หน้าตบกะบาลชิบหาย
นิ่งๆไปมันก็ไปหาคนอื่นต่อเอง
โดนเหมือนกัน ตื๊อฉิบหาย
เดี๋ยวนี้เวลาเจอกูบอกให้คนชวนออกค่าสมัครให้ว่ะ บอกคุณก็ได้ผมเป็น downline ด้วยไง พอผมทำได้กำไรเมื่อไรจะคืน
เห้ยเพื่อนโม่ง มีเรื่องจะปรึกษาหวะ ตำแหน่งหัวหน้าแผนก IT ใน รพ.ขนาดกลางแห่งหนึ่ง มีคนในแผนกยุ 3-4 คน นี่จะดีปล่าววะ แล้วมันจะมีโอกาศโตอีกปล่าว
ปล.ตอนนี้กูเป็นโปรแกรมเมอร์ยุใน บ ใหญ่แห่งหนึ่ง พวกมึงว่ากูสมควรย้ายไหมวะ
กูมองว่าไม่
ไม่ อยู่ที่เดิมดีกว่า
ยกเว้นว่าโรงบาลใกล้บ้านมึงที่ต่างจังหวัดอะไรแบบนี้
ทำไมวะเพื่อนโม่ง
เอ่อลืมบอกไป บ ใหญ่ที่ว่านี้คือมันไม่มีโอกาศโตอีกแล้ว เหมือนมีดีแค่ชื่อมันอะ แต่กูกลัวไปทำ รพ แล้วงานมันไม่ค่อยตรงสายแล้วไปนั่งไปวันๆ เดี๋ยวโง่ลง ยังไงก็ขอบใจสำหรับคำตอบนะ
กูเดาว่าบริษัทมึงน่าจะทำงานตรงกับสิ่งที่ทำได้ แต่มันเริ่มตันแล้ว มึงเลยเริ่มมองหาอย่างอื่น
ถ้ามึงบอกว่าบริษัทตอนนี้มึงตันแล้วมึงจะลองโรงพยาบาลก็ได้ แต่กูมองว่าแผนกที่ไม่ตรงกับงานหลักของบริษัท
ยังไงก็ลูกเมียน้อย เป็นชนชั้นสอง อาจจะมีข้อดีตรงสวัสดิการโรงพยาบาลดี เงินดี งานน้อย
ซึ่งถ้ามึงชอบอะไรแบบนั้นมากกว่าการไปเจองานหนักงานยาก บางทีไปโรงพยาบาลก็อาจจะเหมาะกับมึงมากกว่า
กู 39 นะ กูเป็นปกม.นะ กูยังมี passion และอยากทำงานที่มันมี challenge อยู่ (กูยังอายุน้อยด้วยแหละ)
เพราะงั้น เป็นกู ถ้าบ.เดิมตัน กูก็ย้ายบ.แค่นั้น
ขอบใจมากเพื่อนโม่ง กูค้นพบทางสว่างแล้ว
พอเปลี่ยนเวรแล้วเวลานอนปั่นป่วนจังเฮ้ยยยยย ชีวิตชิบหายหมดแล้ว
แม่ครับผมขอโทษ สัญญาว่าจะไม่รับเวรดึกอีกแล้ว
ทำงานเป็นกะแม่งเสียสุขภาพจริงๆ กุว่ามันก็สบายนะ แต่ระยะยาวโอกาสสุขภาพไม่ดีเยอะ นอนไม่เป็นเวลา
กุทำประมาณ 5 ปี พอย้ายไปเข้าออฟฟิสไทม์ รู้สึกได้เลย
สมัย ม.ปลาย ตูนอนเป็นเวลา มีนอนช่งวตี2แบบนับครั้งได้ ตอนนั้นชอบดูบิ๊กซีนีม่าตอนดึกๆ พอเข้ามหาลัยเวลานอนก็เริ่มเละเทะ ปี1ยังไม่เป็นไรมาก พอเข้าปี2เริ่มนอนดึกติดๆกัน พอปี3ก็เริ่มนอนไม่เป็นเวลาและ พอปี4 ปี5(กูเปอร์) แม่งกลายเป็นมนุษย์ค้างคาว นอนทั้งวันแล้วตื่นตอนกลางคืน ชั่วโมงเรียนตอนเช้ามันไม่มีไง ไปเรียนก็ตอนบ่าย แถมมีคอมพ์มีเน็ตแรงๆให้เล่น ดึกๆกูเลยไม่หลับไม่นอน พอมาทำงานปีแรกก็มีปัญหา นอนน้อยทั้งคืนแล้วต้องมานอนต่อตอนเย็น บางวันก็หลับในที่ทำงาน ยังดีว่ากูทำงานเกี่ยวกับเด็กเลยมีเวลาพักในที่ทำงานได้ นี่กูเพิ่งมานอนเป็นเวลาเมื่อตอนเดือนที่แล้วเองเนี่ย
แต่คิดอยู่นะว่าอยากทำงานโรงแรม กูเคยทำพาร์ทไทม์เป็นเด็กเสริฟเลยรู้ว่าอาหารของคนทำงานโรงแรมคือของเหลือจากบุพเฟ่ แต่ถึงจะใช้คำว่าของเหลือแม่งก็อร่อยอยู่ดีวะ 5555 มีของดีๆให้กินทุกวันแม่งดีกว่ามนุษย์เงินเดือนอีกวะถ้ามองมุมนี้
อยู่ดีๆไปเที่ยวของบริษัทกูจากเดิมที่บอกว่าจะไปพักกันเฉยๆ อยู่ดีๆมาบอกว่าต้องจับเล่นละครกับแต่งตัวแฟนซีไปงาน
แถมแต่งตัวไม่ดีหรือไม่แต่งไปแม่งก็จะให้เต้นลงโทษ เห็นกูเป็นเด็กปี 1 เข้ารับน้องหรือไงวะเนี่ย?
แล้วตอนนี้งานกองท่วมหัวเหลือเวลาอีกแค่ 2 อาทิตย์ก่อนจะไปเที่ยว คิดว่าคนอื่นว่างมากอยากสนุกกับกิจกรรมป่วยๆพวกนี้นักหรือไงวะ
เหี้ยจริงๆ
ก็ทำไปให้มันจบๆ แต่งตัวนี่ไม่ต้องหรูมาก โดนเต้นลงโทษขึ้นมาก็เต้นไปให้มันผ่านๆไป ไม่ต้องแสดงสีหน้าไม่พอใจ เดี๋ยวจะพวกรุ่นพี่หรือหัวหน้างานหมั้นไส้ข้อหาไม่ให้ความร่วมมือ จากประสบการณ์ของกูนะ เวลาอยู่ที่ทำงานทำตัวให้เงียบที่สุด มีคุยก็คุยเท่าที่จำเป็นพอ เงียบๆติ๋มๆดูไม่มีพิษภัย ใครสั่งอะไรมาก็ใช่ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่านแล้วจะสบายเชื่อกู
พรุ่งนี้กูมีธุระต้องใช้แอร์พอร์ตลิงค์ เห็นรูปคนค้างบนสถานีแล้วเสียวเลย
กูทำงานโรงงานแสนไกล แต่นั่งรถบริษัทมา กูว่าชีวิตยังดีกว่าพวกทำงานในเมืองว่ะ ตื่นเช้าแต่หลับในรถได้ รถติดสายก็ไม่ต้องห่วง
กูมีสัมภาษณ์งานบ่ายนี้ เมื่อวานไปส่องในเว็บมา รับตำแหน่งเดียว แต่แห่กันสมัครไปแล้วเกือบสามร้อย
โลกนี้แม่งเชี่ยโหดร้าย............
นักบินเหรอวะ
>>58 ไม่ได้โลก...ประเทศไทยว่ะ
พักนี้พวกวิศวะจะร้องหน่อย เพราะเกิดปัญหามาตั้งแต่น้ำท่วม+การเมืองยาวๆมา แล้วค่าแรงก็ขึ้นเป็น 300 มันต้องลดคนงาน แล้วลงเครื่องใหม่มาแทนที่คนงาน พอพวกต่างประเทศจะลงเครื่อง เค้าเห็นค่าแรงก็ไปหาลาว พม่า อินโด แทนหมดละ
วิศวะนี่ผลิตออกมายาวๆตั้งแต่หลาย10ปีก่อน จนมาถึงตอนนี้มันเลยล้น แนะนำให้หาลู่ทางอื่นเผื่อไว้เลย
>>60 อันที่จริงต้องพูดว่าทุกสายงานที่ไม่ใช่สายแพทย์ว่ะ วิศวะนี่ก็จบเยอะเหมือนกัน ถ้าไม่เก่งจริง มีเกรดสวยๆจากมหาลัยก็หางานอยาก ส่วนคณะที่ไม่ใช่สายวิทยาศาสตร์ นี่จบกันเพียบ ทั้งรัฐศาสตร์ นิติ ศิลปศาสตร์บัณฑิตเกลื่อนเมือง เวลาหางานก็แห่กันสมัครเข้าไป เปิดแค่ 2-3ตำแหน่งแห่มาสมัครกันเป็นพัน งานราชการยิ่งโหดหนักเข้าไปใหญ่ เปิดไม่กี่ร้อยตำแหน่ง พวกผ่านภาค ก. แห่มาสมัครเป็นหมื่น ส่วนบัญชี เศรษฐศาสตร์ การเงิน การตลาด ถ้าเกรดไม่สวยหรือไม่ได้จบมอดังก็ลำบากว่ะ ได้ยินมาว่า BIG4 บัญชี รับแต่จุฬา ธรรมศาสตร์ เกษตร
>> 61 มึงพูดซะกูบรรลุเลยว่าสามร้อยกูยังจิ๊บๆ
วันนี้คุยกับพี่คนสัมภาษณ์ก็พูดกับเค้าไปตรงๆ เมื่อคืนเห็นจำนวนคนสมัครผมแม่งเจี๊ยวฝ่อเลยนะ
พี่เค้าบอกส่วนมากที่สมัครมาไม่ค่อยถึงรีควายเม้นเค้ากัน สกรีนมาสัมภาษณ์จริงๆไม่เยอะหรอก
พูดจากรุ้มกริ่มให้ความหวังแบบนี้ผมก็แย่สิครัช
>>62 กูเคยผ่านประสบการณ์ตรงนั้นมาแล้วไง สมัยเพิ่งเรียนจบเปิดเน็ตหาหน่วยงานสอบ ยังไม่ผ่าน กพ. ก็หาตำแหน่งพนักงานราชการสอบเอา กระทรวงดังๆในกรุงเทพ เปิดตำแหน่งมา 2-3 ตำแหน่ง พวกแม่งแห่กันมาครึ่งพัน พอกูไปหาตำแหน่งงานในจังหวัดบ้านนอกก็มีมาสอบเกือบร้อย(รับตำแหน่งเดียว) วันจริงมาสอบ40กว่าเหลือสัมภาษณ์ 11 คน วันนั้นกูไปสัมภาษณ์ตัวคนเดียว คนอื่นแม่งแห่มาทั้งครอบครัว กูรู้สึกสมเพชและเห็นใจในเวลาเดียวกัน สมเพชที่จบ ป.ตรีแล้วแต่เวลาสัมภาษณ์งานต้องให้พ่อแม่ตามมาคอยให้กำลังใจ แต่ในอีกมุมก็สำนึกได้ว่า ป.ตรีของกูมันเป้นแค่ของเกลื่อนเมืองที่ใครๆก็มี แค่งานตำแหน่งเดียวพวกแม่งทำยังกะเป็นโอกาสทองในชีวิต ...........อืมแต่มันก็โอกาสทองจริงๆนั้นแหละ ถ้าได้งานทำก็สัญญาระยะยาว 3-4ปี สบายไปพักใหญ่ ส่วนกูผ่านสัมภาษณ์แต่ไม่ได้ถูกเรียก ทุกวันนี้ทำงานอยู่จังหวัดชานเมือง
>>63 ไอ้ฟีลโอกาสทองนั่นกูเข้าใจนะ
ทุกคนคงมีกันทั้งนั้นแหละไอ้งานที่ว่า โหกราบละของานนี้ขอกูเหอะ แบบอยากได้เหี้ยๆ แถมก็คาดหวังเหี้ยๆ
กูผ่านตรงนั้นมาละ สัมภาษณ์อันแรกของกูเอง เป็นบริษัทยิ่งใหญ่สุดอลัง
แต่คนสัมภาษณ์แม่งแทบจะฝังกูลงดินแล้วเอารองเท้าเซฟตี้กระทืบซ้ำรัวๆ
แม่งพูดมาแต่ละอย่างทำให้กูรู้สึกโง่แล้วโง่อีก โง่มากที่บังอาจมาสมัครงานบริษัทมึง ใจสลายเหี้ยๆอ่ะแม่งตอนนั้น
กูเริ่มดราม่าละกูขอโทษ ฮือ
อ่านแล้วกูรู้สึกผิดที่อยากเปลี่ยนงานเลยว่ะ คือตอนนี้กูรู้สึกแย่แบบเหี้ยๆกับงานที่ทำอยู่
แล้วก็ว่าจะออกเร็วๆนี้เพราะกูรู้สึกว่างานใหม่หาไม่น่ายาก สงสัยกูต้องคิดใหม่ให้เยอะๆหน่อย - -
>>66 มึงก็ไปสัมภาษณ์ที่ใหม่ก่อน บอกกับที่เก่าว่าญาติเสีย หรือพ่อแม่ป่วยต้องลากิจไปดูแล ถ้าผ่านสัมภาษณ์ที่ใหม่เรียกตัวก็ค่อยลาออก ส่วนเรื่องงานใหม่หาไม่ยากมันขึ้นอยู่กับโปรไฟล์มึงว่าเทพแค่ไหน งานในไทยมันหายากแต่ไม่ใช่กับคนเก่งที่บริษัทไหนก็อยากได้ตัว ถ้าคิดว่าตัวเองมีดีพอก็ออกมาหาที่ใหม่เลยเพื่อนโม่ง แต่ถ้าไม่มั่นใจก็ใช้ที่ทำงานเก่าเก็บEXPไปก่อน
>>64 ไอ้เหี้ย ขอกอดทีสัส เพิ่งผ่านอารมณ์นี้มาสดๆร้อนๆ ไอ้คนสัมภาษณ์มันทำให้กูรู้สึกว่ากูไม่เจียมกะลาหัวมากที่ไปสมัครบ.มัน แต่กูก็โง่จริงล่ะที่ใฝ่ฝันอยากเข้า ถ้ากูฉลาดคงไม่หลงใฝ่ฝันถึงบ.เหี้ยๆแบบนี้ เซ็งสัส บริษัทมันก็ใช่จะใหญ่โตอะไรนะ แต่ปฏิบัติกับกูได้เหี้ยสัสเกิดมาสัมภาษณ์งานมากี่ที่ไม่เคยพบเคยเจอ
>>69 ที่เหี้ยกว่าคือหลังสัมภาษณ์ บริษัทลูกของแม่งโทรมาหากู
สมัครมาตำแหน่งนี้ๆ กำลังจะเปิดสัมภาษณ์ไม่ทราบสะดวกวันไหนบลาบลา คุยไปคุยมาแม่งเหมือนเพิ่งรู้ว่ากูจบใหม่ไม่มีประสบการณ์ไง
แม่งเข้าโหมด เดี๋ยวติดต่อกลับไปนะคะ ทันที
อีเหี้ยยยยยยย กูโมโห แบบฟอร์มบ้าบอที่มึงให้กูกรอกกับเรซูเม่กูนี่มึงได้อ่านก่อนโทรมาบ้างป่ะวะ
กูบายตลอดกาลกับบริษัทนี้และบรรดาเครือ
มันเป็นงานของ HR เดี๋ยวกูมาต่อตอนค่ำๆ
มึงอย่านะ กูรู้ว่า HR ส่วนมากแม่งฟาย เพราะกูก็ตบตีกะพวกมันมาบ่อยๆ หลังๆ กูเลยมาเป็นเองแม่งเลย กูไม่เคยทำเหี้ยๆ กับผู้สมัครเพราะนายของกูสอนว่าหากผู้สมัครผ่านสัมภาษณ์ก็เป็นบริษัทเดียวกับเรา แต่ถ้าไม่ผ่านสัมภาษณ์ ก็ยังเป็นลูกค้า (potential) ของเรา อย่าไปทำอะไรให้เขาก่นด่าได้นะเว้ย
นานๆทีจะเจอ HR ความคิดหล่อๆแบบมึงนะ
คือจากที่ได้ยินมานะ งานHR คือกรองคน บางทีตำแหน่งขาด 2-3 คน มีคนกรอกใบสมัครเป็นร้อยพวกแม่งก็เรียกมาสัมภาษณ์เยอะๆเข้าไว้ก่อน ที่ผ่านจริงๆก็ตามตำแหน่งว่าง ที่เหลือก็ถูกเก็บเป็นสต๊อกของแผนก
จากประสบการณ์ส่วนตัวของกูเอง เคยมี HR ของ CP เรียกสัมภาษณ์ ตั้งแต่ช่วงก่อนสอบปลายภาค ตอนรับสายครั้งแรกกูโคตรดีใจเลย แต่วันจริงก็ไม่ได้ไปสัมภาษณ์เพราะกูมีนัดสาว แล้วบอกพี่เค้าไปว่าวันนั้นมีธุระด่วนขอเป็นวันหลังละกัน หลังจากกูเรียนจบแล้วก็รู้สึกเสียดายนะว่าวันนั้นน่าจะตัดสินใจไปสัมภาษณ์กับ CP แต่กูคิดว่าก็ไม่ต่างอะไรมากเท่าไร เพราะเด็กปี 5 เกรด 2 กว่าๆ ติดF มา4ตัวแบบกูโปรไฟล์มันก็ไม่ได้สวยขนาดว่าจะมีบริษัทดังอยากได้ตัว กูเลยรู้ ณ บัดนั้นว่างาน HR อยากหนึ่งคือเรียกคนมาสัมภาษณ์เก็บเข้าสต๊อก
นี่กู >>70 นะ เรื่องเก็บสต๊อกกูเข้าใจนะ อันนี้กูไม่โกรธ
ไม่ติดต่อมา ไม่รับเด็กใหม่ไม่มีประสบกาณ์ กูเข้าใจ
ที่เคืองคือคนที่โทรมาหากู เค้าตั้งใจจะสัมภาษณ์ของตำแหน่งที่กูสมัครไปโดยเฉพาะ บอกตารางเวลาสัมภาษณ์ของทางนั้นมาเรียบร้อยละ แต่เสือกไม่ดูโปรไฟล์กูก่อนโทรมาไง
อย่างงี้มี HR ไว้ทำเหี้ยไรวะ ไม่ใช้เครื่องโทรอัตโนมัติ ใครกรอกเบอร์ไว้ก็แม่งโทรกวาดแม่งให้หมด
เข้าไปก็เจอแต่สังคมบิ๊กเนมนะ
ปวดหัวจะตายห่า นอนไม่พอ เข้านอนเกือบตีสอง ตื่นหกโมงเพื่อจะไม่มาทำงานสาย ตอนนี้ปวดตาจะตายห่าแล้ว ง่วงก็ง่วง แต่ตอนบ่ายพี่ก็จะลากเข้าไปประชุมกับลูกค้าด้วย
เข้าใจว่าพี่หวังดีอยากจะให้ได้ exp เยอะๆ แต่พี่ครับบบบ ผมเป็นแค่เด็กพาร์ทไทม์นะะะะะะ ถ้าร่างกายปกติก็จะดีใจอยู่หรอก แต่ตอนนี้แม่งจะได้เข้าไปขายขี้หน้าหลับให้ลูกค้าเห็นอะดิ
ทำให้จิตใจเข้มแข็งทนดราม่าได้วะ วันนี้กูไปมีเรื่องกับแม่บ้าน เถียงกันอยู่ซักพักกูต้องยอมขอโทษจบเรื่องเอง
ไม่งั้นบ่อน้ำตาแตกแน่ ตอนขอโทษนี่น้ำตาปริ่มๆแล้วนะเนี่ย จนตอนนี้ยังเอามาคิดอยู่เลย
>>81 สำหรับกูถ้ากูไม่ได้ทำไรผิดจะดราม่าหนักแค่ไหนก็ทำไรกูไม่ได้ว่ะ แต่ถ้ากูผิดกูจะขอโทษทันทีไม่มีต่อปากต่อคำโดนด่าก็จะน้อมรับ
ทำใจให้สบายอย่าเก็บไปคิดมันก็เหมือนมึงกำถ่านร้อนๆ แล้วไปขว้างใส่คนอื่นมึงก็คือหนึ่งคนที่โดนแผดเผาไปด้วย
You will not be punished for your anger but you will be punished by your anger
-Buddha
ไม่รู้จะคุยกระทู้ไหนดี
กูโดน add friend request จากใครก็ไม่รู้
หาสายความสัมพันธ์ไม่เจอ แถมเป็นเฟซเปิดใหม่อีก
ปกติเพื่อนโม่งจะทำยังไงกันมั่ง
แอบส่องก่อน ไม่รับ
ไม่รับ กูเป็นประเภทไม่รับคนไม่รู้จัก ต่อให้มีสายสัมพันธ์แบบเป็นเพื่อนของเพื่อน แต่พิจารณาดูแล้วไม่อยากคบด้วยก็ไม่แอด
>>86 มันมีอย่างนึงคือเคยเรียนที่เดียวกับกู
แต่ก็นึกไม่ออกว่ากูไปรู้จักคนสวยแบบนั้นตอนไหน
ลองกดดู friend list ไปเรื่อยๆ แล้วก็ยังหา mutual friend ไม่ค่อยจะเจอ
อย่างน้อย กูก็แอดเพื่อนมหาลัยไปตั้งเยอะแล้ว
อยากจะลองรับดูว่ามาไม้ไหน
ในไทม์ไลน์ที่ public ก็ไม่เห็นจะขายสินค้าอะไร
แต่อีกใจก็ไม่อยากจะต่อความยาวอะไร ขี้เกียจแหละ ว่าง่ายๆ
พอทำงานแล้วไม่อยากเข้าสังคมเยอะ รู้สึกแม่งเรื่องมาก พอเลิกเข้าเฟซบุ๊คไปเลยรู้สึกดีขึ้นมาก ทุกวันนี้ที่ทำงานไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากูมีเฟซบุ๊ค
ในโลกนี้มีพวกงานแนววิเคราะห์หรือวิจัยสังคมไหมวะ พอดีช่วงนี้ศึกษาสังคมศาสตร์มากๆเข้ารู้สึกว่าตัวเองเหมาะกับงานพวกนี้มาก
จะราชการหรือเอกชน ในไทยหรือ ตปท. ก็ได้ เพราะตอนนี้กุแค่อยากรู้ว่ามีตลาดงานพวกนี้รึเปล่าก็เท่านั้นแหละ
มีนะ พวกบริษัทรับทำ research, market survey ไง
>>91 เป็นงานลักษณะไหนนะ ที่เกี่ยวกับสังคม นึกไม่ค่อยออก
แต่ถ้าเป็น Insight ที่มีต่อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ในสังคมต่างๆ พวกนี้ตลาดต้องการเยอะเลย ส่วนใหญ่จะไปอยู่สายเอเยนซี่ไว้สำหรับขายงาย อย่างเวลาจะออกโปรดักท์สินค้ามา 1 ตัว จะต้องเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ อย่างงาน research ต้องละเอียดมากเพื่อ Support งานขายโปรเจค (บางงาน 100 ล้าน 1,000 ล้าน) จึงต้องการคนเก่งและมีประสบการณ์มาก
แต่ถ้าไปสังคมสงเคราะห์ ในไทยง่อยมากเพราะหน่วยงานที่ทำเรื่องพวกนี้จริงจังมีน้อย ถ้าทำเพื่อการกุศลช่วยเหลือสังคมก็มีเยอะแยะ แต่ถ้าจะหวังเติบโตในสายงานนี้น่าจะยาก
>>94 งานแบบนั้นมันไม่ใช่ของนักวิจัยตลาดหรอกเหรอ? ถึงการวิจัยสังคมจะได้ข้อมูลที่ละเอียดรอบด้านมากกว่าก็เถอะ แต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นการหว่านแหที่กว้างเกินไป แถมยังต้องเอามาทำดัดแปลงเพื่อให้นำมาวิเคราะห์การตลาดด้วย (พอดีไม่แน่ใจว่าระเบียบขั้นตอนการวิจัยสังคมกับของการตลาดมันเหมือนกันรึเปล่าน่ะ)
โดยส่วนตัวที่ชอบและสนใจคือการวิจัยเชิงคุณภาพอย่างวัฒนธรรม การเมืองอะไรพวกนี้มากกว่าน่ะ
>>95 ก็วิจัยตลาดนั่นแหละ เพรากูไม่รู้ว่าวิจัยสังคมไปเพื่ออะไรได้อีก
วิจัยสังคม
- เพื่อธุรกิจ ขายของได้มากขึ้น
- เพื่อทางการเมือง ก็ต้องไปทำกับพรรคการเมือง
- เพื่อแก้ปัญหาสังคม ก็ต้องไปแนว NPO ไม่ก็รัฐบาล
- เพื่อทางศาสนา ไปอยู่พวกศูนย์ปฏิบัติธรรม
กูนึกออกแค่นี้ ถ้าอยากทำเพื่อก้าวหน้าเรื่องรายได้ก็ต้อง 1-2 เท่านั้น แล้วพวก 3-4 ทำเป็น Hobby แทน
แต่ทั้งนี้สายงานนี้ยากมากเพราะไม่ใช่แค่เข้าใจสังคมแต่ยังต้องสามารถวางกลยุทธ์และ Execute ให้เกิดออกมาอย่างเป็นนามธรรมได้ด้วย
ง่วงสัด ฝนตกแล้ว
ฝนไม่ตกกุก้ง่วง กุละอยากกลับไปเรียนอนุบาลจะวิชานอนกลางวัน
http://pantip.com/topic/32606376 << เด็กตอนนี้เรียนหนักชิิบหาย ชักสงสารแล้วซิ
เรื่องของเด็ก กูหลุดพ้นละ ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
ทำไมกูต้องทนเรียนคณะที่ไม่ชอบ เพื่อจบไปเป็นเซรารี่แมนที่กูเกลียดด้วยวะ
ประเทศนี้แม่งเหี้ยชิบหาย
มึงโบ้ยประเทศได้ไงวะ โดนบังคับมึงควรโบ้ยแม่มึงนะ
แล้วเป็นเชี่ยอะไรมึงถึงจะชอบล่ะ
>>99 ประเทศไทยก็งี้แหละ ดัดจริตต้องทำเป็นสอนอะไรล้ำ(แต่ผิดหมด) แล้วก็ม่เคยโทษตัวเองกันหรอกนะ อีพวกคุณครูนี่ ดีแต่ขู่ให้เด็กทำตามคำสั่ง อย่าเถียง ทรงผมเหรอ กิจกรรมที่สนใจเหรอ เครื่องแบบเหรอ เวลาว่างเหรอ พวกครูจัดไว้ให้หมดล้ว พวกมึงเป็นเด็กไม่ต้องคิดหรอก
สุดท้าย โตมาก็เป็นไอ้โง่ไอ้ควายแบบที่เห็นทุกวันนี้ มาสอนเด็กยุคต่อไปให้เป็นไอ้โง้ไอ้ควายต่อไป
ไอ้พวกกาก ชีวิตล้มเหลวแม่งก็โทษอย่างอื่นหมดแหละ โทษประเทศ โทษสังคม
กูเรียนกากๆ ขี้เกียจเรียน ยังมีปัญญาทำงานได้เงินเดือนเกือบแสน
แน่จริองมึงก็ออกไปทำเองอย่างมาร์คซัคเคอร์เบิร์กไปเลย สัส
ยังไม่ได้ทำงานอ่ะ ไม่อยากทำ
มีใครสักคนกล่าวไว้ ถ้าเมิงไม่ค้นหาเป้าหมายตัวเองแล้วลงมือทำ เมิงก็จะโดนคนอื่นจ้างไปทำเป้าหมายเขาจนวันตาย
กูคือ(หนึ่งใน)โม่งที่เคยมาบ่นเรื่องไปเที่ยวของแผนกนะ ไปๆมาๆกูโดนจับให้มาอยู่กลุ่มนึงที่กูไม่ค่อยสนิทแล้วแม่งก็จะโชว์เต้นกับร้องเพลงกัน
ซึ่งกูก็ไม่ถนัดแล้วก็ไม่ได้เห็นด้วยกับกิจกรรมนี้ตั้งแต่แรกแล้ว พวกแม่งก็เปลี่ยนใจไปๆมาๆแบบว่าอยากแข่งกับกลุ่มอื่น
กูก็รำคาญเลยบอกไปเลยว่ากูไม่ถนัดเต้นกับร้องเพลง กูไปช่วยทำฉากหลังกับคุมไฟตอนพวกแม่งเต้นกันพอนะ
พวกมันก็อึ้งๆไป กูก็ยังงงนะว่านี่คือยอมรับแล้วรึยัง แต่กูก็ทำเบลอไปละ เสร็จแล้วพวกแม่งก็ดันเสือกนัดซ้อมวันที่กูไม่ว่างต่ออีก
พวกแม่งก็ทำเป็นกระแนะกระแหนว่ากูไม่ให้ความร่วมมือ แต่คิดว่ากูคงทำเบลอยาวๆละ กูถือว่าไม่ใช่เรื่องงานแม่งไม่มีสิทธิมาบังคับกู
ยังแอบเสียวอยู่นะว่าจะโดนแบนลับหลังรึเปล่า ถึงกูใกล้จะออกอยู่แล้วแต่ก็เสียดายเพราะอย่างน้อยก็ยังอยากจะจากกันด้วยดีมากกว่านี้
ไม่ได้เข้ามาทักทายโม่งซาลาลี่นานแหละ ครั้งล่าสุดคือมาถามเรื่องเรียนโท ตอนนี้เรียนได้จะจบเทอมหนึ่งแหละ แม่งเหนื่อยดีว่ะพวกนาย ทั้งทำงานทั้งเรียนไปด้วย กุอยากจะโดดบ้างอะไรบ้างแต่ถ้ากุโดดเนื้อหาแม่งก็พลาดอีก ส่วนงานถ้ากุหยุดงานมันก็จะไปกองในวันถัดไปอีก ตอนนี้กุอยากหยุดนอนยาวๆซัก1-2วันมากว่ะ ไม่รู้จะทำยังไงดี ต้องรอวันหยุดราชการถึงได้หยุดนอน ใจกุตอนนี้นะ อยากพัก อยากนอน อยากเล่นเกม อยากไปดูหนังโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
มาบ่นแค่นี้แหละ เหอๆ
>>108 กูว่ามึงโดนลับหลังเละแน่ๆ มึงไม่ผิดหรอกแต่เลือกวิธีการที่ได้ไม่ถูก ยังไงมึงต้องเข้าใจว่าสังคมออฟฟิสมันเป็นยังไง มึงไปทำตัวแตกแยกต่อให้มึงไม่ผิดแต่ก็ไม่ส่งผลดีมึงในหลายๆด้านแน่ๆ มีอีก 108 ที่จะปฏิเสธหรือเลี่ยงที่จะเต้นแทนการจะไปยินกรานว่าจะไม่เต้นท่าเดียว ฉะนั้นต่อให้ตอนนี้มึงก็จะ Register ว่ามึงเป็นประเภทงานหรืออะไรที่ไม่ชอบก็จะหาทางหนี ไม่อยากทำ
กลับกันถ้ามึงสามารถเสนอไอเดียที่สามารถช่วยทั้งทีมได้เช่น เล่นเกมวัดดวงแทน หรืออาจเป็นคนทำเบื้องหลัง ไล่นัดคนนั้น Organize ให้ มึงก็จะดูให้ความร่วมมือ แถมยังแสดงออกได้ถึงภาวะผุ้นำได้อีกด้วย
เรื่องจริงของคนไทยที่ไม่ค่อยแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องอื่นๆ ฉะนั้นถ้าเราเป็นที่พึ่งในเรื่องอื่นๆได้ ในเรื่องงานก็จะเป็นที่ได้รับการไว้วางใจจากคนรอบข้างได้เช่นกัน
กูเหนื่อยสลบบบบบบบเมื่อเช้าตื่นตีสี่
>>112 กูไม่ทันนึกถึงเรื่องจะมีคนมองว่ากูเป็นพวกเกี่ยงงานจริงๆแฮะ แต่สงสัยจะไม่ทันแล้วล่ะ
พูดถึงตัวกิจกรรมของกลุ่มตอนแรกก็โหวตกันแล้วว่าจะเกมหรือการแสดงน่ะ
แต่สุดท้ายโหวตแพ้ไปหน่อยนึงโดยที่กูยังแอบรู้สึกว่าคนคุมการประชุมมันจงใจเชียร์ของตัวเองจนน่าเกลียด แถมให้โหวตตอนทุกคนมึนๆเพื่อจะได้ชนะด้วย
ตอนนี้พวกงานเบื้องหลังอะไรที่ช่วยได้กูก็พยายามช่วยๆไป ไม่รู้พวกนั้นจะโอเคกันมั้ย
แต่ไอ้กิจกรรมนี้ทำกูเฟลพอควรเลยนะ เพราะกูอยู่บริษัทฝรั่งแล้วยังอุตส่าห์นึกว่าจะหนีกิจกรรมแนวๆนี้ได้แล้วซะอีก
ยังดีที่กูโดนต้องไปทำกิจกรรมแนวเดียวกันของอีกกลุ่มควบด้วย แต่อีกกลุ่มทำเล่มเกมแทนซึ่งกูช่วยงานเบื้องหลังได้เต็มๆแล้วความร่วมมือกับบรรยากาศกลุ่มก็โอเคมากด้วย
กูเบื่อซีเนียร์คนนึงที่ทำงานมาก
โคตรขี้เสือก(โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว) เรื่องงานนี่ตัวเองทำผิดไม่เป็นไร แต่ของคนอื่นนี่ต้องรีบเข้าไปด่า
ตัวเองอู้งานเอาแต่คุยเรื่องไร้สาระเป็นชั่วโมง แต่น้องคนอื่นแค่หยิบมือถือขึ้นมาก็ปรี่เข้าไปด่าแล้ว
ขนาดคุยเรื่องสัพเพเหระก็จะยึดความคิดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ค้านแทบทุกความเห็นของทุกคนที่ตัวเองมีอคติ แต่ถ้าชอบใครถูกใจใครนี่โคตรอวย
น่าหงุดหงิดชิบหายคนแบบนี้
อยากลาออก
รอที่ใหม่อยู่
Topic has been locked by moderator.
No more posts could be made at this time.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.