"การพรีเซ้นว่าตนยากจน ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป"
ภาพนี้คนไทยหลายคนซาบซึ้ง เป็นภาพนางงามไทยกราบเท้าแม่ ข้างกองขยะ ขอบคุณที่เลี้ยงเธอจนโตทั้งๆที่ยากจน อยู่สลัม
แต่เมื่อภาพนี้ออกไปสู่สายตาชาวโลก รู้ไหมว่า พวกแฟนนางงามชาติอื่นๆเอาภาพนี้มาล้อคนไทยบ่อยมาก ล้อเรื่องความยากจน "ดูสิ ขนาดนางงามยังยากจน อยู่สลัม ที่ที่กราบแม่ก็ยังเป็นข้างกองขยะ คนไทยทุกคนก็คงยากจน อยู่กินกับกองขยะ"
คนไทยเสียชื่อหมด เพราะนางงามคือตัวแทนของคนไทย คนต่างชาติเค้าไม่อินเรื่องดราม่าความกตัญญู หรือ ดราม่าความยากจนหรอก
ซึ่งบางคนอาจเถียงว่า "ช่างเขาสิ เราซาบซึ้งของเราก็พอ ทำไมต้องไปแคร์คนอื่น" ไม่ได้สิ เราต้องแคร์สิ เพราะมันคือเรื่องของภาพลักษณ์ ถ้าเรานำเสนอภาพที่ดีๆ ภาพที่ดูแพงๆให้คนอื่นเห็น คนก็จะอยากมาร่วมงาน ร่วมทำธุรกิจกับเรา ใครจะอยากลงทุนทำธุรกิจ ทำงานกับคนที่ดูไม่ดี จริงไหม
ทำไมฉันถึงพูดเรื่องนี้
สาเหตุที่ฉันนึกถึงภาพนี้ขึ้นมา เพราะว่า วันก่อนโน้น ฉันได้คุยกับผู้กำกับหนังชื่อดังท่านหนึ่งในสมาคมผู้กำกับ เค้าบอกว่า ผู้กำกับหนังไทยควรเลิกพรีเซ้นว่า "ฉันยากจน"
เพราะนอกจากทำให้ดูไม่ดีแล้ว ยังทำให้คนไม่อยากจ้าง เพราะคนจ้างจะคิดว่า "เอ้ะ ทำไมผู้กำกับคนนี้ยากจนล่ะ เพราะไม่มีคนจ้างใช่ไหม แสดงว่าเค้าต้องห่วยมากแน่ๆ ถึงไม่มีงานทำ" เลยยิ่งไม่มีคนจ้างเข้าไปอีก
ซึ่งก็จริง เพราะการของานกำกับ ไม่ใช่การขอทาน การพรีเซ้นว่าตัวเองจน ไม่ได้ช่วยให้คนอยากให้งาน ถ้าฉันเป็นนายทุน ระหว่างผู้กำกับที่ลุคดูรวยๆ เดินมาเท่ๆ กับผู้กำกับที่ลุคดูจน ซอมซ่อ แทบก้มกราบเพื่อของาน ฉันก็คงให้งานผู้กำกับคนแรกว่ะ
นี่ไม่ใช่ยุคที่จะใช้ความยากจนเรียกคะแนนสงสาร นี่เป็นยุคที่คนจะถามเราว่า "เธอจะทำอะไรให้ฉันได้บ้าง ไม่ใช่ฉันจะช่วยเหลืออะไรเธอได้บ้าง"