หนังเรื่อง Homestay กับความ(ไม่)เข้าใจโรคซึมเศร้า
จริง ๆ อยากเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่ดูวันแรกละ แต่ตอนนั้นดูเร็วก็เลยยังไม่อยากเขียนถึง ตอนนี้น่าจะดูกันครบละก็เลยขอเขียนถึงหน่อย
มีสปอยล์ ดังนั้นใครยังไม่เคยดูข้ามไปเลย
...
...
...
...
...
...
...
หนังเรื่องนี้ถือว่าปูทางเรื่องโรคซึมเศร้าจนถึงขั้นฆ่าตัวตายมาดีเลยนะ ถึงขนาดที่ทำเอาน้ำตาซึมเพราะความเข้าใจในความรู้สีกตัวละครเลย ก็ตัวละครถึงกับอยากตายอีกรอบภายในไม่กี่สิบวันเลยทีเดียว
แต่นาทีที่รู้สึกว่าทุกอย่างพังครืนคือตอนที่หนังเฉลยว่า "คนที่ทำให้มินฆ่าตัวตายคือตัวมินเอง" มันเป็นอะไรที่รู้สึกแบบ หมดกัน หนังทั้งเรื่องที่ดูมา ปูมาแทบตายว่าชีวิตมินบัดซบแค่ไหน ดันมาสรุปแบบนี้
ในมุมของหนังหรือนิยาย การสรุปแบบนี้ก็คงสนุกและสะใจคนดูดี แต่ในแง่ชีวิตจริง มันเป็นการสรุปดื้อ ๆ ที่ดูตื้นเขินและน่าเศร้ามาก
ถึงมันจะจริงครึ่งหนึ่งเพราะคนที่ลงมือทำก็คือตัวมินเอง โทษคนอื่นคงไม่ได้ แต่มันมีมุมอื่นที่ควรสื่อออกมาให้ดีได้ อย่างเช่น การที่มินส่งสัญญาณออกมาเยอะมาก ทุกคนรู้ว่าเป็นโรคซึมเศร้า แต่ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดจะช่วยเหลือ
เข้าใจว่าหนังฉีกความจริงออกไปตรงที่เอาคนที่ตายแล้วกลับมาแล้วล้างความจำ ให้ลองใช้ชีวิตเดียวกันแต่ในมุมมองของคนอื่นดู พยายามให้เห็นว่าถ้าลองมองจากคนอื่นจะเป็นยังไง แต่หนังก็สรุปแล้วว่าชีวิตมินมันแย่จริง ๆ ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย =__=
มินฆ่าตัวตายเพราะมินเองใช่ แต่หนังสื่อออกมาว่า ถ้ามีโอกาสอีกครั้ง มินก็จะฆ่าตัวตายอีก (ถึงตอนจบจะไม่ใช่แบบนั้น แต่หนังก็ไม่มีจุดหักสำคัญอะไร จุดหักที่มีก็เป็นเรื่องกลวง ๆ ทั้งนั้น สรุปคืออยู่ดี ๆ ก้คิดได้ก็แค่นั้น)
ถ้าคำตอบของคำถามที่ว่า "ใครทำให้มินฆ่าตัวตาย" ออกมาเป็นอะไรที่สวยงามกว่านี้ หนังคงจะสมบูรณ์แบบกว่านี้พอสมควร ซึ่งเอาจริง ๆ ตอนนี้ก็ยังนึกไม่ออกนะว่าจะตอบอะไรให้หนังมันดูดีได้ การโทษคนอื่นก็ไม่ใช่คำตอบที่ดีเช่นกัน ซึ่งก็อาจจะทำให้มันผิดตั้งแต่การตั้งคำถามแล้วก็ได้
หนังมีข้อคิดดี ๆ หลายอย่าง แต่อย่าตัดสินคนเป็นโรคซึมเศร้าจากหนังเรื่องนี้ เพราะในโลกจริง หนังเรื่องนี้ถือว่าสอบตกเลยหละ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง